คลังเรื่องเด่น
-
หลวงพ่อคูณ...เผชิญเหล่าวิญญาณห่วงสมบัติที่ภูควาย
หลวงพ่อคูณ...เผชิญเหล่าวิญญาณห่วงสมบัติที่ภูควาย
ชอบอ่านเรื่องราวเวลาที่ครูบาอาจารย์ท่านออกธุดงค์ แล้วมีประสบการณ์ที่ลี้ลับมหัศจรรย์ เมื่อท่านเผชิญวิญญาณเร่ร่อน สัมภเวสี และบรรดาโอปปาติกะ ทั้งหลาย ซึ่งมีทั้งที่เป็นสัมมาทิฐิและมิจฉาทิฐิ ถ้าพวกที่เป็นสัมมาทิฐิ ก็จะพากันมาฟังเสียงสวดมนต์ มาฟังเทศน์ ฟังธรรม มาคอยใส่บาตร ฯลฯ เพื่อสะสมบุญบารมีให้ยิ่งๆขึ้นไป
ส่วนพวกที่เป็นมิจฉาทิฐิก็จะมาคอยหลอกหลอนหรือทำร้ายพระสงฆ์องค์เจ้า โดยไม่ได้เกรงกลัวบาปกรรม ว่าจะส่งผลตามมาอย่างไร ดังเช่น ที่ครูบาอาจารย์หลายองค์ท่านประสบพบเจออยู่บ่อยๆ หลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ แห่งวัดบ้านไร่ ท่านก็มีประสบการณ์เมื่อครั้งออกธุดงค์แล้วนำประสบการณ์ที่ได้พบได้เจอ มาเล่าให้ลูกศิษย์ลูกหาฟังเช่นกัน
ประสบการณ์อันมหัศจรรย์ และลี้ลับ เมื่อครั้งสมัยที่หลวงพ่อคูณ แห่งวัดบ้านไร่ ได้เดินธุดงค์รอนแรมตามลำพังไปตามสถานที่ต่างๆ ในช่วงระหว่างปี พ.ศ. ๒๔๙๒ ถึง พ.ศ. ๒๕๑๒ ทั้งในประเทศ และต่างประเทศ
ท่านได้สร้างบารมี ด้วยการไปจำพรรษาตามวัดต่างๆ ทั้งกรุงเทพฯ ภาคกลาง ภาคเหนือ ภาคตะวันออก ภาคอีสาน... -
5 ธันวาคม วันพ่อแห่งชาติ - วันชาติไทย - วันดินโลก
5 ธันวาคม
๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙
ไม่ต้องกั้น
โดยดร.สุเมธ ตันติเวชกุล
มีอยู่ครั้งหนึ่งเสด็จฯ ไปที่เซ็นทรัลวันที่มีประชุมรัฐสภาโลก วันนั้นผมจำได้ผมติดอยู่บนท้องถนนฝนตกผมก็มีวิทยุเลยได้ยินรับสั่งกับตำรวจมาเลย "วันนี้ไม่ต้องกั้นรถ"
ทรงเข้าใจความทุกข์ของราษฏรอยู่ตลอดเวลา วันนี้เป็นวันฝนตกรถติดกันอย่างมหาศาลถ้าขืนต้องไปติดขบวนอีกสร้างความ ทุกข์ให้กับประชาชน ทรงวิทยุบอกตำรวจว่า "ขบวนจะแล่นไปพร้อมกับรถของประชาชนไม่ต้องกั้นเคลื่อนที่ไปพร้อมกัน"
๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙
(ขอบคุณภาพ จากสำนักข่าวท๊อปนิวส์ )
ติดตามภาพและรายละเอียด วันนี้ในอดีต ได้จาก https://www.facebook.com/#!/infodivohm -
อานิสงส์การลอยกระทง โดยหลวงพ่อพระราชพรหมยาน
๑๗ พฤศจิกายน ๒๕๕๖ วันลอยกระทง
อานิสงส์การลอยกระทง
โดยหลวงพ่อพระราชพรหมยาน
ก่อนที่เราจะลอยกระทงก็จงตั้งใจบูชาพระรัตนตรัยก่อน
และหลังจากนั้น ก็ขอขมาโทษต่อองค์สมเด็จพระชินวรบรมศาสดา
ที่เราได้เคยปรามาสในพระรัตนตรัย ถ้าเราไม่เคยปรามาส
โทษอันใดของเราก็ไม่มี ทำจิตของเราให้ผ่องใส
และที่เคยปรามาสแล้ว ถ้าองค์สมเด็จพระจอมไตรบรมศาสดา
ทรงสงเคราะห์ยกโทษให้เราก็หมดไป กำลังใจของเราก็พึงมีแต่กุศล
เอาล่ะบรรดาท่านพุทธศาสนิกชนโดยถ้วนหน้า ถ้าจะถามว่าลอยกระทง
มีอานิสงส์อย่างไร ก็ขอกล่าวว่า
อานิสงส์การลอยกระทง ถ้ากำลังใจของท่าน ทำด้วยกำลังใจเป็นกุศล
ถ้ากำลังใจของบรรดาท่านพุทธศาสนิกชนยังอ่อนที่จะต้องเร่ร่อน
ไปในวัฏสงสาร อย่างน้อยที่สุดทุกท่านก็เกิดเป็นเทวดา
เพราะอำนาจของพุทธานุสสติ ธัมมานุสสติ สังฆานุสสติ
ถ้ากำลังใจของบรรดาท่านพุทธบริษัทมีความมั่นคง
จิตตั้งตรงเป็นฌาน ท่านก็เกิดเป็นพรหม
ถ้าบุคคลใดไม่นิยมในร่างกายของตน เห็นว่าองค์สมเด็จพระทศพล
ทรงเป็นอัจฉริยมนุษย์ มีความดีประเสริฐสุดยิ่งกว่ามนุษย์ เทวดา
และพรหม ขันธ์ ๕ ขององค์สมเด็จพระผู้มีพระภาคเจ้ายังพัง
เราก็คิดว่า... -
ทำบุญอย่างไรให้สมหวังในรัก
มีความเชื่อที่เข้าใจกันผิดๆที่เห็นกันบ่อยๆคือ การทำบุญซื้อความรัก
ประโยคนี้อาจไม่ค่อยมีใครเคยได้ยิน แต่ถ้าถามว่าใครเคยเอาเงินไปซื้อพวงมาลัย ซื้อของทำบุญ หยอดเงิน ถวายของพระเสร็จแล้ว เอามิือประนมนิ้วโป้งจรดหน้าผาก "สา.....ธุ ขอให้เจอเนื้อคู่ซะทีเถ๊อะ.... ขอให้เราสองครองคู่อยู่ด้วยกันชั่วฟ้าดินสลายที่เถ๊อะ....." อันนี้อาจฟังดูคุ้นๆขึ้นมาบ้าง
ถ้าคนเราขอคนรัก ความรักดีๆกันได้ง่ายๆยิ่งกว่าใช้บัตร easy pass ผ่านด่านทางด่วนล่ะก็คงจะดี แต่เพราะขอไปเท่าไหร่ก็ไม่ได้นี่สิ เลยน่าจะมาเอะใจว่าทำพิธีกรรมผิดวิธีไปหรือเปล่่า?
ที่ว่าการยกมือปรกๆขอนั้น แท้ที่จริงเค้าเรียกว่า "การอธิษฐาน" การอธิษฐานมันไม้ใช่อย่างการยกมือแบมือขอหรอกนะ แท้ที่จริงการอธิษฐานเค้าหมายถึงการกำหนดจิต ตั้งใจ ตั้งเป้าหมายให้ใจได้ตามนั้น
แต่จะได้ไม่ได้นี่ขึ้นอยู่กับว่าเราเดินทางถูกไหม อดทนเดินทางไปจนถึงเป้าหมายไหม
การทำบุญนั้นช่วยนำอะไรดีๆเข้ามาในชีวิตจริง ช่วยเพิ่มโอกาสให้เรามีคนรักที่ดีได้จริง และทำให้เราสามารถอยู่ร่วมกับคนที่เรารักได้จริง ช่วยดึงดูดใจสองดวงได้จริง แต่ต้องทำให้ถูก
การทำทานช่วยเรื่องความรักได้อย่างไร?... -
ธรรมผุด หรือ กิเลสผุด แล้วก็อ้างเลห์คิดเออเองว่าเป็น ธรรมผุด หลอกตัวเอง
ธรรมผุด หรือ กิเลสผุด แล้วก็อ้างเลห์คิดเออเองว่าเป็น ธรรมผุด
หลอกตัวเองเข้าใจผิดๆ
หลวงตามหาบัวเมตตาตอบปัญหา
เมื่อวันที่ ๒๕ พฤศจิกายน ๒๕๔๖ ณ วัดป่าบ้านตาด
โยม : เขาบอกคนเราทุกข์เพราะสิ่งที่ผุดขึ้นในจิตใช่ไหมครับ
หลวงตา : มันไม่ใช่เสมอไป ทุกข์เพราะสิ่งที่ผุดขึ้นในจิต ธรรมผุดขึ้นในจิตก็ได้ กิเลสผุดขึ้นในจิตก็ได้เข้าใจไหม ถ้ากิเลสผุดขึ้นในจิตแล้วสร้างทุกข์ ถ้าธรรมผุดขึ้นในจิตแล้วสร้างสุขเข้าใจไหม เพราะอย่างนั้นมันจึงไม่เสมอไป ให้ผุดเป็นธรรมแล้วเป็นสุขเข้าใจไหม
เทศน์อบรมพระสงฆ์และฆราวาส
ณ ศาลาสวนแสงธรรม กรุงเทพฯ
เมื่อค่ำวันที่ ๑๖ กรกฎาคม พุทธศักราช ๒๕๕๐
สายบุญสายกรรมมีอยู่
...พอพิจารณารวมลงมาถึงจุดนั้นก็มีความรำพึงขึ้นมาว่า ทำไมจิตดวงเดียวนี้จึงเป็นได้หลายอย่างนัก เวลามันจะคว่ำโลกธาตุนะ จิตดวงเดียวนี้ทำไมจึงเป็นได้หลายอย่างนัก เดี๋ยวว่าดี เดี๋ยวว่าชั่ว เดี๋ยวว่าสุข เดี๋ยวว่าทุกข์ แม้จะไม่มีมากมายแต่ก็เป็นเครื่องหมายให้ทราบแล้วว่าสิ่งเหล่านี้มี เศร้าหมองก็มีตามธรรมขั้นนั้น ผ่องใสก็มีในธรรมขั้นนั้น ยังไม่ใช่ขั้นหลุดพ้น รำพึงว่าดีว่าชั่วก็มีตามธรรมขั้นนี้... -
อยากให้พ่อแม่ในอดีตชาติได้รับบุญบวชด้วย
ถาม : ตามที่กล่าวถึงการบวชพระ ถือว่าเป็นอานิสงส์พิเศษ ที่พ่อและแม่สามารถได้รับทันทีโดยไม่ต้องอนุโมทนา จึงอยากจะเรียนถามเพิ่มเติมว่า อานิสงส์นี้จะเฉพาะพ่อแม่ในชาติปัจจุบันนี้เท่านั้น หรือหมายรวมถึงพ่อแม่ในอดีตชาติด้วย ?
ตอบ : ปัจจุบันอย่างเดียว อดีตชาติต้องบวชในอดีต แต่ไม่แน่ ถ้าหากท่านรู้แล้วโมทนาด้วยก็ได้เหมือนกัน แต่ถ้ารับโดยไม่ต้องโมทนาด้วยนับเฉพาะพ่อแม่ชาติปัจจุบันนี้เท่านั้น
ถาม : เนื่องจากสาเหตุพิเศษอะไรหรือครับ ?
ตอบ : ไม่มีท่านเราก็ไม่ได้บวช
ถาม : หากต้องการให้ท่านที่เป็นพ่อแม่ในอดีตชาติรับได้ด้วย ต้องบอกกล่าวให้ท่านอนุโมทนา หรืออุทิศส่วนกุศลให้ จึงจะได้อนุโมทนาใช่หรือไม่ครับ ?
ตอบ : ถูกต้อง และท่านต้องอยู่ในภูมิที่โมทนาได้ด้วย ถ้าอยู่ในภูมิที่โมทนาไม่ได้ อุทิศให้ตายก็ไปไม่ถึง
สนทนากับพระครูวิลาศกาญจนธรรม (พระอาจารย์เล็ก สุธมฺมปญฺโญ)
ณ บ้านวิริยบารมี ต้นเดือนกันยายน พุทธศักราช ๒๕๕๖
ที่มา : http://www.watthakhanun.com/webboard/showthread.php?t=3877
. -
หลักพิจารณาความเป็นมนุษย์ในตัวเอง : หลวงปู่แหวน
หลักพิจารณาความเป็นมนุษย์
หลวงปู่แหวนท่านว่า.... เรามีหลักที่จะพิจารณาตัวเองใน ๓ หลัก ๔ หลัก ถ้าหากว่าในช่วงใดเรามีกิเลสโลภโมโทสันขึ้นมา หมายถึงเรามีความโกรธจัด อยากจะฆ่าใคร ฆ่า อยากจะแกงใคร แกง
อยากจะด่าทอเสียดสีใคร ว่ากันให้ตามอำเภอใจ ในช่วงนั้นกายของเราเป็นมนุษย์ แต่ใจของเราเป็นสิ่งที่ลดต่ำลงไปกว่านั้น คือลดต่ำกว่าความเป็นมนุษย์
ถ้าโมโหไปเกิดฆ่าสัตว์ตัวใดตัวหนึ่งขึ้นมา เปอร์เซ็นต์แห่งความเป็นมนุษย์ ลดต่ำลงไปจะถึงแปดสิบเปอร์เซ็นต์ เพราะศีลห้าขาด
ขณะใดที่คุณเกิดความโลภมาก คุณไปคิดลักขโมยจี้ปล้นฉ้อโกง ทำลายศีลข้ออทินนาทาน
เปอร์เซ็นต์แห่งความเป็นมนุษย์ก็ลดลงไปยี่สิบเปอร์เซ็นต์ ความเป็นมนุษย์ก็ไม่สมบูรณ สัตว์เดรัจฉานมันก็มาชิงเกิดในช่วงนี้
เพราะจิตใจของเราอยู่ในระดับเท่า ๆ กัน ในเมื่อสิ่งใดมันมีระดับเท่า ๆ กัน มันก็เข้าขากันได้ อันนี้ในขณะนั้นก็แสดงว่า กายของเราเป็นมนุษย์ แต่ขอโทษ ใจของเรามันกลายเป็นสัตว์เดรัจฉานเสียแล้ว
แต่ว่าในขณะใดที่ใจของเรานี้มันมีศีลธรรม มีความเมตตาปรานี มีจิตใจเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่กว้างขวาง ในขณะนั้นใจของเราเป็นมนุษย์ กายของเราก็เป็นมนุษย์... -
รวบรวมบทความขั้นตอนการทำพระสมเด็จ
สมเด็จพระสังฆราชสุก (ไก่เถื่อน) นี้ ท่านเป็นพระอาจารย์ที่สมเด็จพระพุฒาจารย์โต พรหมรังสี เคารพเป็นอย่างยิ่ง และถือเอาวัตรปฏิบัติ ตลอดจนวิธีการสร้างพระขององค์พระอาจารย์องค์นี้มาสร้างสมเด็จวัดระฆัง พระสมเด็จบางขุนพรหม และพระสมเด็จเกศไชโย อันนับเป็นพระเนื้อผงที่ได้รับความศรัทธานิยมสูงสุดมาโดยตลอด ดังนั้นขั้นตอนกรรมวิธีการสร้างพระเนื้อผงในลำดับต่อๆมา จึงได้ยึดเอาขั้นตอนกรรมวิธี การจัดเตรียม การสร้าง และการปลุกเสก ตามอย่างสมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พรหมรังสี) เป็นปัจจัยหลักปฏิบัติ
การจัดเตรียมวัสดุ เป็นที่ทราบกันดีว่ามวลสารหลักในพระเนื้อผงก็คือ ผงปูนขาว ซึ่งโบราณจะใช้เปลือกหอยมาเผาไฟ แล้วบดให้ละเอียด เรียกว่า “ผงปูนเปลือกหอย” ซึ่งมีคุณสมบัติ เช่นเดียวกัน
เมื่อได้มวลสารหลัก ก็จัดเตรียมผงที่เป็นมงคลต่างๆ อาทิเช่น ว่านดอกไม้ แร่ทรายเงิน ทรายทอง วัสดุศักดิ์สิทธิ์ เป็นมงคลทั้งหลายที่เห็นสมควรนำมาเป็นส่วนผสมนำมาบดเป็นผง เป็นต้น
สิ่งที่ช่วยประสานเนื้อผง และทัพสัมภาระทั้งหลาย ให้เกาะติดเป็นเนื้อเดียวกันในสมัยโบราณจะใช้กล้วยน้ำ และน้ำมันตังอิ๊ว (กล้วยน้ำเป็นคำโบราณ = กล้วยน้ำว้า ,... -
หลวงพ่อปานเลี้ยงเปรต
ขนหัวลุก
ใบหนาด
"เด็กกรุงเก่า" เล่าเรื่องขนหัวลุกจากบารมีหลวงพ่อปาน
สมัยเด็กผมอยู่บางนมโค อ.เสนา จ.พระนครศรี อยุธยา มีพระเกจิอาจารย์ชื่อเสียงโด่งดังตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันคือ หลวงพ่อปาน วัดบางนมโคนั่นเอง
พวกผู้ใหญ่เล่าว่า หลวงพ่อปานมีบารมีแก่กล้ายิ่งนัก มีลูกศิษย์ลูกหามากมายนับไม่ถ้วน ทั้งชาวบ้านร้านช่องทั่วไปไม่ว่าใกล้ไกล ทั้งพระภิกษุอีกหลายรูป เช่น พระมหาวีระ ถาวโร หรือที่รู้จักกันแพร่หลายในนาม "หลวงพ่อฤๅษีลิงดำ" แห่งวัดป่าซุง อุทัยธานี เป็นต้น
แม้ว่าท่านจะล่วงลับดับขันธ์ไปแล้ว แต่ชื่อเสียงก็ยังเป็นที่กล่าวขวัญ มีลูกศิษย์ลูกหามากมายมาถึงทุกวันนี้
ขนาดลูกศิษย์ยังเพียงนี้ แล้วตัวพระอาจารย์เล่าจะเรืองเดชขนาดไหน?
หลวงพ่อปานเรืองวิทยาคมและเมตตาจิตสูงส่ง แผ่เมตตาให้สัตว์โลกทั่วไป ไม่ว่ามนุษย์หรือภูตผีปีศาจทั้งหลาย จนมีเรื่องเล่าขานต่างๆ นานา สืบต่อกันมาถึงบารมีของหลวงพ่อปานไม่สิ้นสุด
ขอเล่าถึงกิตติศัพท์โด่งดังของพระเกจิอาจารย์สู่กันฟังสักเรื่องสองเรื่อง เพื่อพิสูจน์ให้เห็นถึงเดชบารมีของท่านว่าเกรียงไกรเพียงใด... -
หลวงปู่ดู่สอนศิษย์เรื่อง กรรมทางวาจา
หลวงปู่ดู่สอนศิษย์
หลวงปู่ท่านมักกล่าวถึงมงคลที่สำคัญที่ท่านอยากให้ลูกศิษย์ได้
นำไปปฏิบัติ คือ มงคล 38 ประการ มงคลที่ท่านพูดถึงบ่อย ๆ
นั่นคือ สัมมาวาจาชอบ คือ พูดแต่สิ่งที่เป็นมงคล
ท่านว่าคนส่วนมากมักสร้างกรรมทางวาจา เพราะกรรมนี้สร้างได้ง่าย
แต่เขาไม่รู้หรอกว่าผลของกรรม เมื่อส่งผลจะร้ายแรงเพียงไร
คำพูดนั้นสำคัญมาก บางคนพูดไม่ดีกับผู้อื่น
จนเป็นเหตุถึงโกรธเกลียดกันชั่วชีวิตก็มี
บางรายคำพูดเพียงไม่กี่คำ ก็ทำให้ไม่พูดกันไปหลายปี
คนส่วนมากที่ขึ้นโรงขึ้นศาล หรือทะเลาะกันจนไปถึงฆ่ากันตาย
ก็เพราะคำพูดที่ไม่ดีนี่แหละ
หลวงปู่ท่านสอนอยู่เสมอว่า อย่าไปพูดไม่ดีกับใครเขา
ถ้ามีคนมาว่าหรือด่าเราแต่เราไม่ว่าหรือด่าเขาตอบมันก็จะไม่มีเรื่องกัน
แต่ถ้าแกไปด่าเขาเมื่อไรนั่นแหละเรื่องใหญ่ ท่านสอนศิษย์เสมอว่า
อย่าไปพูดทำลายความหวังของใครเขา
เพราะนั้นอาจจะเป็นความหวังเดียวที่เขามีอยู่
ถ้าแกไปพูดเข้าเมื่อไหร่กรรมใหญ่จะตกแก่ตนเอง
ท่านบอกไว้อีกว่า คนที่ชอบด่าหรือใส่ร้ายผู้อื่นรวมไป
ถึงการพูดไม่ดีต่าง ๆ กับคนอื่นนั้น กรรมจะมาเร็วมาก
เขาผู้นั้นจะเป็นคนที่มีศัตรูทั้งภายนอกและภายใน
ไม่เป็นที่รักของคนทั่วไป... -
เสียงธรรม การปรามาสพระรัตนตรัยโดยไม่ตั้งใจ
เครดิต :::
โดย ท่านจิตโต บ้านสบายใจ -
วันอาสาฬหบูชา โดย หลวงพ่อฤาษี วัดท่าซุง
วันอาสาฬหบูชา
วันขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือน ๘ เป็นวันที่พระผู้มีพระภาคเจ้าแสดงปฐมเทศนา
"ธัมมจักกัปปวัตนสูตร" โปรดพระปัญจวัคคีย์ทั้ง ๕ และท่านโกณทัญญะ
ได้บรรลุพระโสดาบันเป็นปฐมสาวก
พระธรรมเทศนา หลวงพ่อพระราชพรหมยาน
เนื่องในวันอาสาฬหบูชา
สำหรับใจความจริง ๆ ใน "ธัมมจักกัปปวัตนสูตร" ความมุ่งหมายขององค์สมเด็จพระจอมไตร
ก็หมายเอา "อริยสัจ" คือว่า อริยสัจนี้องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสก็หมายถึง
เป็นเรื่องของความจริง
คำว่า "อริยะ" นี่เขาแปลว่า บริสุทธิ์ผุดผ่อง "อริยสัจ" หมายถึง เราทรงความจริงที่เราเข้าถึง
ความบริสุทธิ์ทางใจ เรื่องของกายแต่ละคนหาความบริสุทธิ์ไม่ได้ เพราะกายมันสกปรก
ความบริสุทธิ์จริง ๆ มันต้องเป็นความบริสุทธิ์ทางใจ
ความบริสุทธิ์ทางใจ ที่องค์สมเด็จพระจอมไตรตรัสในวันนั้นว่า โดยย่อท่าน
บอกว่า "จงละตัณหา ๓ ประการ" ตัณหา แปลว่า ความอยาก
๑.สิ่งที่ยังไม่มี อยากให้มีขึ้นเรียกว่า "กามตัณหา"
กาม เขาแปลว่า ความใคร่ ตัณหา แปลว่า อยากใคร่ อยากจะได้
๒.สิ่งที่มีอยู่แล้ว อยากให้ทรงตัวอย่างนั้นไม่มีการเปลี่ยนแปลง
อย่างนั้นเรียกว่า "ภวตัณหา"
๓.สิ่งที่มันเปลี่ยนแปลงไป... -
บันทึก 7 วันสุดท้ายก่อนหลวงพ่อมรณภาพของคุณนกเอี้ยง
บันทึก 7 วันสุดท้ายก่อนหลวงพ่อมรณภาพ
ส่วนใหญ่ที่เคยอ่านมามักจะลงเรื่อง "เดือนสุดท้าย" ของหลวงพ่อ บันทึีกโดยหลวงพี่วิรัช แต่บันทึกของคุณนภดล นาควิเชตร์ (คุณนกเอี้ยง)ยังไม่เคยเห็นมีการนำมาลงเอาไว้
ตามที่ทราบมาในหนังสือประวัติหลวงพ่อฉบับที่จะพิมพ์ใหม่จะไม่มีส่วนเดือนสุดท้ายและส่วนผลงานการก่อสร้างวัด จะมีแต่ส่วนประวัติของหลวงพ่อเพียงอย่างเดียว เพราะเหตุนี้บันทึก 7 วันสุดท้ายของคุณนกเอี้ยงคงมีโอกาศน้อยที่จะถูกนำกลับมาพิมพ์ให้อ่านกันอีกครั้งนึง
ลองอ่านกันดูครับ ผมกลับมาอ่านครั้งไหน น้ำตารื้นขึ้นมาได้ทุกครั้งไปครับ
https://palungjit.org/threads/นานาเรื่องราวหลวงพ่อพระราชพรหมยาน.538477/page-574 -
สูตรทำบุญไม่เสียเงินของ หลวงปู่ดู่ พฺรหฺมปัญโญ
สูตรทำบุญไม่เสียเงินของ หลวงปู่ดู่ พฺรหฺมปัญโญ
พอตื่นเช้ามาขณะล้างหน้า หรือดื่มน้ำให้ว่า “พุทธัง สรณัง คัจฉามิ ธัมมังสรณัง คัจฉามิ สังฆังสรณัง คัจฉามิ”
ก่อนจะกินข้าว ก็ให้นึกถวายข้าวพระพุทธ (เป็นอนุสสติอย่างหนึง)
ออกจากบ้านเห็นคนอื่นเขากระทำความดี เป็นต้นว่า ใส่บาตรพระ จูงคนแก่ข้ามถนน ข่าวงานบุญต่างๆ ฯลฯ ก็ให้นึก อนุโมทนา กับเขา
ผ่านไปเห็นดอกไม้ที่ใส่กระจาดวางขายอยู่ หรือดอกบัวในสระข้างทาง ก็ให้นึกอธิฐานถวายเป็นเครื่องบูชาพระรัตนตรัย โดยว่า “พุทธัสสะ ธัมมัสสะ สังฆัสสะ ปูเชมิ” แล้วต้องไม่ลืมอุทิศบุญให้แม่ค้าขายดอกไม้ หรือรุกขเทวดาที่ดูแลสระบัวนั้นด้วย ตอนเย็นนั่งรถกลับบ้าน เห็นไฟข้างทางก็ให้นึกน้อมบูชาพระรัตนตรัยโดยว่า “โอม อัคคีไฟฟ้า พุทธบูชา ธรรมบูชา สังฆบูชา” (เป็นการบูชาระลึกถึงคุณของพระรัตนตรัย ก่อเกิดอานิสงค์แห่งบุญในดวงจิต) เวลาไปที่ไหนเห็นข่าว คนตาย คนเจ็บ คนป่วย คนที่กำลังมีความทุกข์ ก็ดี ผ่านจุดที่คนตายบ่อยๆ เห็นศาลเจ้า ศาลพระภูมิ ก็ดี ให้ระลึกถึงพระพุทธเจ้า บารมีรวมของครูบาอาจารย์ อันมีหลวงปู่ดู่เป็นที่สุด(หรือองค์พระโพธิสัตว์ที่นับถือ) แผ่บุญไป (เป็นการเจริญเมตตา... -
สูตรทำบุญไม่เสียเงินของหลวงปู่ดู่ พฺรหฺมปัญโญ
พอตื่นเช้ามาขณะล้างหน้า หรือดื่มน้ำให้ว่า “พุทธัง สรณัง คัจฉามิ ธัมมังสรณัง คัจฉามิ สังฆังสรณัง คัจฉามิ” ก่อนจะกินข้าว ก็ให้นึกถวายข้าวพระพุทธ (เป็นอนุสสติอย่างหนึง) ออกจากบ้านเห็นคนอื่นเขากระทำความดี เป็นต้นว่า ใส่บาตรพระ จูงคนแก่ข้ามถนน ข่าวงานบุญต่างๆ ฯลฯ ก็ให้นึก อนุโมทนา กับเขา
ผ่านไปเห็นดอกไม้ที่ใส่กระจาดวางขายอยู่ หรือดอกบัวในสระข้างทาง ก็ให้นึกอธิฐานถวายเป็นเครื่องบูชาพระรัตนตรัย โดยว่า “พุทธัสสะ ธัมมัสสะ สังฆัสสะ ปูเชมิ” แล้วต้องไม่ลืมอุทิศบุญให้แม่ค้าขายดอกไม้ หรือรุกขเทวดาที่ดูแลสระบัวนั้นด้วย ตอนเย็นนั่งรถกลับบ้าน เห็นไฟข้างทางก็ให้นึกน้อมบูชาพระรัตนตรัยโดยว่า “โอม อัคคีไฟฟ้า พุทธบูชา ธรรมบูชา สังฆบูชา” (เป็นการบูชาระลึกถึงคุณของพระรัตนตรัย ก่อเกิดอานิสงค์แห่งบุญในดวงจิต) เวลาไปที่ไหนเห็นข่าว คนตาย คนเจ็บ คนป่วย คนที่กำลังมีความทุกข์ ก็ดี ผ่านจุดที่คนตายบ่อยๆ เห็นศาลเจ้า ศาลพระภูมิ ก็ดี ให้ระลึกถึงพระพุทธเจ้า บารมีรวมของครูบาอาจารย์ อันมีหลวงปู่ดู่เป็นที่สุด แผ่บุญไป (เป็นการเจริญเมตตา ฝึกให้จิตมีพรหมวิหาร เป็นการบำเพ็ญบุญ)
ก่อนนอนก็นั่งสมาธิ เอนตัวนอนลง... -
วิธีสอนสมาธิให้เด็กๆ โดย หลวงพ่อเล็ก วัดท่าขนุน
ถาม : อยากให้สอนสมาธิให้เด็กๆ ค่ะ
ตอบ : ถ้าอยากฝึกสมาธิต้องมาตอนเย็นๆ ถ้าเด็กๆ อยากเก่งให้ทำสมาธิเยอะๆ หลวงตาเรียนตอนแก่ๆ ยังสอบได้ที่ ๑ ตลอด ถ้าทำสมาธิไว้นะจ๊ะ แล้วจะเรียนเก่งทุกคน
ถ้าเรานั่งพุทโธๆ เป็นแล้วก็อย่าทิ้ง พุทโธก็ได้ นะมะพะธะก็ได้ สัมมาอะระหังก็ได้ พองหนอยุบหนอก็ได้ ทำสมาธิไว้ทุกวัน วันละนิดวันละหน่อยแล้วจะเก่ง มีโอกาสต้องรีบทำนะจ๊ะ จะได้แซงเพื่อน เอาที่ ๑ มาเลย หลวงตาเรียนตั้งแต่เด็กจนแก่ ยังไม่มีใครแย่งที่ ๑ จากหลวงตาได้เลย
ใช้วิธีหายใจเข้าพุท หายใจออกโธ แล้วก็นับ ๑ พอครบ ๑๐ ก็งอนิ้วไว้หนึ่งนิ้ว แล้วก็พุทโธ ๑ พุทโธ ๒ ไปเรื่อย พอครบ ๑๐ นิ้วเมื่อไรก็ไปวิ่งเล่นได้ เราพุทโธได้ตั้ง ๑๐๐ เดี๋ยวนี้ข้าวของแพง ถ้าหาได้ไม่ถึง ๑๐๐ บาท ก็ไม่พอกิน ดังนั้นพุทโธก็เลยต้องให้ได้วันละ ๑๐๐ ครั้งด้วย (หัวเราะ)
ขอให้เรียนเก่งๆ นะจ๊ะ สมองคนพัฒนาได้ลูก สมองคนพัฒนาตามสมาธิ ถ้าสมาธิดี สมองจะดีเอง
สนทนากับพระครูวิลาศกาญจนธรรม (พระอาจารย์เล็ก สุธมฺมปญฺโญ)
เก็บตกจากบ้านวิริยบารมี ต้นเดือนมิถุนายน ๒๕๕๕
เก็บตกจากบ้านวิริยบารมี ต้นเดือนมิถุนายน ๒๕๕๕ - หน้า 2 - กระดานสนทนาวัดท่าขนุน -
๑๐ บุญ ที่ทำแล้วจะรุ่งเรืองทุกด้าน
ประการที่ 10. บุญที่เกิดจากการทำความเห็นให้ตรงสัจจะ
คือ ทำปัญญาให้ตรงสัจจะอันล้ำลึกหรือการทำปัญญาให้ตรงกับเป้าหมายสูงสุดของชีวิตปรับวิถีทาง ทำกิจการงานทุกอย่างให้ได้ประโยชน์สูงสุดสำหรับทุกฝ่าย
ประการที่ 9. บุญที่เกิดจากการอนุโมทนา
ในข้อนี้เราจะเห็นได้ว่า เมื่อใครทำความดี เราควรยินดีในความดีของเขา ทำให้จิตใจของเราสูงขึ้น ไม่อิจฉาริษยา บุญนี้จะส่งผลให้เรามีมิตรมาก มีความสัมพันธ์ที่ดี
ประการที่ 8. บุญที่เกิดจากการอุทิศบุญ
เมื่อเราทำความดีใดๆ เราก็ควรหมั่นเผื่อแผ่ความดีให้แก่คนอื่น บางความดี ความชอบในผลงานให้แก่คนอื่น บุญจะส่งผลให้เราจิตใจสะอาด อิสระและยิ่งใหญ่ขึ้น (ถ้าเรายิ่งอุทิศบุญมากแล้ว บุญนั้นก็จะสะท้อนกลับมาหาเราเป็น 2 เท่าของบุญทั้งหมด เราไม่ต้องกลัวว่าบุญของเราจะหมดไป)
ประการที่ 7. บุญที่เกิดจากการแสดงธรรม
เมื่อเรารู้ว่าใครที่ด้อยกว่าเราแล้ว เราก็ควรแนะนำ สั่งสอน ตักเตือนเขาด้วยความเมตตา ด้วยใจที่ปรารถนาดีจริงๆ เป็นการแสดงธรรม ซึ่งจะส่งผลให้เราแตกฉานและมั่งคงในความดีงาม หรือถ้าเราไม่มีความรู้เรื่องธรรมมากนัก เราก็อาจจะซื้อหรือแจกซีดีธรรมะก็ได้
ประการที่ 6.... -
กายในกาย โดยหลวงพ่อพระราชพรหมยานมหาเถระ
“ กายในกาย ”
โดย หลวงพ่อพระราชพรหมยานมหาเถระ (หลวงพ่อฤาษี วัดท่าซุง)
ใน “มหาสติปัฏฐานสูตร”
พระพุทธเจ้า ทรงตรัสถึง “กายในกาย” ไว้
สำหรับนักปฏิบัติขั้นต้น ... ก็ถือเอา อวัยวะภายใน เป็น กายในกาย
ส่วนท่านที่ได้ “จุตูปปาตญาณ” แล้ว
(จุตูปปาตญาณ คือ ญาณหยั่งรู้การจุติและอุบัติของสัตว์ทั้งหลาย)
ก็ถือเอา กายที่ซ้อนกาย อยู่นี้เป็น กายในกาย
“กายในกาย” มีได้อย่างไร ?
ขอตอบว่า เป็นกายประเภท อทิสมานกาย
คือ ดูด้วยตาเนื้อไม่เห็น
ต้องดูด้วย “ญาณ” ... จึงเห็น
ตามปกติ กายในกาย หรือ กายซ้อนกายนี้
ก็ปรากฏตัวให้เจ้าของกายรู้อยู่เสมอ ... ในเวลาหลับ
ในขณะหลับนั้น ฝันว่าไปไหน
ทำอะไรที่อื่น จากสถานที่เรานอนอยู่
ตอนนั้นเราว่าเราไป และทำอะไรต่ออะไรอยู่
ความจริงเรานอน และเมื่อไปก็ไปจริง จำเรื่องราวที่ไปทำได้
บางคราวฝันว่าหนีอะไรมา พอตื่นขึ้น ก็เหนื่อยเกือบตาย
กายนั้นแหละที่เป็น กายซ้อนกาย หรือ กายในกาย
ตามที่ท่านกล่าวไว้ใน “มหาสติปัฏฐาน”
ตามที่ นักเจโตปริยญาณ ต้องการรู้
(เจโตปริยญาณ คือ ญาณหยั่งรู้ใจผู้อื่นได้)
“กายในกาย” แบ่งออกเป็น ๕ ขั้น คือ
๑. กายอบายภูมิ
มีรูปร่างลักษณะคล้ายกับขอทาน... -
การแก้กรรมความรัก
เรื่องเนื้อคู่นั้นตามหลักความเป็นจริงทุกๆ คน
จะมีเนื้อคู่แท้เป็นของตัวเอง
แต่จะมีสักกี่คนที่จะได้เกิดมาร่วมกันเป็นเนื้อคู่แท้ และมีอีกหลายคนที่จะได้อยู่ร่วมกับคู่ครอง คู่กรรม คู่อื่นๆที่ยังไม่ใช่เนื้อคู่แท้
ต้องแจ้งให้ทราบว่า ดวงคนเราทุกคนนั้นตามหลักความจริงมีเนื้อคู่แท้กันทุกคน
แต่ใครจะได้เกิดมาอยู่ร่วมกับเนื้อคู่แท้ของตนเท่านั้นเอง ที่พิมพ์แจ้งอย่างนี้ก็เพราะกรรมแต่ละคนทำมาไม่เหมือนกัน
บางท่านทำกรรมกับคนอื่นที่ไม่ใช่คู่ของตนมามากมาหลายภพชาติ
ก็จะทำให้เกิดมาในชีวิตนี้จะไม่ได้เจอและอยู่ร่วมกับเนื้อคู่ของตน
และจะได้ใช้กรรมกับคู่กรรม คู่ครอง คู่อื่นๆที่ไม่ใช่เนื้อคู่แท้ทำให้ต้องทนทุกข์ทรมานดั่งเช่นทุกวันนี้
วิธีแก้กรรมเรื่องเนื้อคู่
1. ความซื่อสัตย์ต่อคนรัก
2. ความมั่นคงในความรัก
3. การไม่คิดและนอกใจต่อคนรัก
4. การไม่ผิดคู่ ลูก สามี หรือภรรยาใคร
5. ไม่พูด ไม่ทำให้คนที่รักกันต้องแตกแยกจากกัน (รักกันด้วยความถูกต้องด้วยความดี)
6. และสุดท้ายที่ ห้ามทำอย่างเด็ดขาด คือการเป็นพ่อสื่อ แม่สื่อให้กับใคร เพราะจะเป็นกรรม ทำให้เราต้องพลัดจากคู่ครอง คู่แท้ คู่รักของตน
ตรวจศีลข้อ3
ศีลข้อ 3... -
อาชีพที่เสี่ยงต่อการตกนรก
สมเด็จโตบอกไว้ มีหลักฐานในหนังสือของสำนักปู่สวรรค์ บางแค เพชรเกษม 65 ว่า อาชีพที่เสี่ยงต่อการตกนรกคือ ตำรวจ อัยการ ผู้พิพากษา ทนายความ
อาชีพที่เสี่ยงต่อการตกนรก ตามกฎของโลกวิญญาณ
๑.ตำรวจ
ตำรวจในโลกมนุษย์ เมื่อตายแล้ว ต้องตกนรกเจ็ดชาติ เพราะว่าตำรวจถือว่าตัวมีกฎหมายทีสมมุติอยู่ในมือ เอะอะก็จะจับ ผิดถูกค่อยว่ากันที่หลัง ให้แก้กันที่ศาล
๒.อัยการ
อัยการในโลกมนุษย์ตายแล้ว จะต้องตกนรกห้าชาติ เพราะอัยการจะไม่รับรู้เรื่องผิดถูก จะต้องเอาผู้ต้องหาเข้าคุกให้ได้ เพราะอัยการจะถือหลักว่า เอาชนะความได้มากจะเป็นผลงานของอัยการ
๓.ผู้พิพากษา
ผู้พิพากษาในโลกมนุษย์ ตายแล้วจะต้องตกนรกสามชาติ เพราะว่าฟังตามขบวนการที่วางมาให้ ไม่ได้ไปสืบให้รู้จริงด้วยตนเองอย่างถ่องแท้ เพราะฉะนั้นคนบริสุทธิ์ที่ไม่รู้กฎหมาย จึงตัองติดคุกไปมากแล้วในโลกมนุษย์
๔.ทนายความ
ทนายความในโลกมนุษย์ ตายจากโลกมนุษย์แล้ว ต้องตกนรกสองชาติ เพราะทนายความจะไม่รับรู้อะไร คิดแต่ว่าจะทำอย่างไรที่จะให้ลูกความชนะเท่านั้น โดยกฎอันนี้ทางโลกวิญญาณถือว่ามีกุศลจิต แต่บางครั้งก็ช่วยคนทำผิดจริงให้ไม่ต้องติดคุก เป็นต้น
ฉะนั้น... -
คนเรามันรักสุข เกลียดทุกข์นี่
"คนเรามันรักสุข เกลียดทุกข์นี่ หนักก็หนักอยู่ตรงนี้แหละ ไม่รับความจริง"
"คนเราเกิดมา นินทาก็ดี สรรเสริญก็ดี อย่าไปรับเอามาหมักไว้ในใจ ปล่อยผ่านไปเสีย"
"ตัดอดีด อนาคต ลงให้หมด จิตดิ่งอยู่ในปัจจุบัน รู้ในปัจจุบัน ละในปัจจุบัน ทำในปัจจุบัน แจ้งอยู่ ในปัจจุบัน"
"ไม่มีสติ ไม่มีปัญญา ไม่มีความเพียร ไม่มีความสำเร็จ"
"มองดูท้องฟ้า เห็นดวงดาวเต็มไปหมด การเกิด การตาย ไม่รู้ว่าอีกเท่าไหร่ เกิดแล้วตาย เกิดแล้ว ตาย....."
หลวงปู่แหวน สุจิณโณ
เฟสบุ๊ค กลุ่ม:พระอรหันต์ สายหลวงปู่มั่น https://www.facebook.com/groups/226951157350091
เฟสบุ๊ค เพจ : พระอรหันต์ สายหลวงปู่มั่น
https://www.facebook.com/pages/พระอรหันต์-สายหลวงปู่มั่น/238296179593402 -
อุปจารสมาธิ : หลวงพ่อฤาษีลิงดำ
ตอนที่ ๓
อุปจารสมาธิ
ท่านพุทธศาสนิกชนทั้งหลาย และท่านสหธรรมิกทั้งหลาย
เวลานี้ ท่านทั้งหลายได้พากันสมาทานแล้วซึ่งพระกรรมฐาน
สำหรับวันนี้ ก็จะขอนำอานาปานุสสติกรรมฐานมาพูดกับบรรดาท่านทั้งหลายอีก
เพราะว่าอานาปานุสสติกรรมฐานนี่ เป็นกรรมฐานที่มีความสำคัญอย่างยิ่ง
ไม่ว่าท่านทั้งหลายจะเจริญพระกรรมฐานกองใด
ถ้าหากว่าไม่ใช้อานาปานุสสติกรรมฐานเป็นบาทแล้ว
ผลแห่งการเจริญพระกรรมฐานกองนั้นจะไม่มีผลสำหรับท่าน
วันนี้ก็จะขอพูดต่อไปจากอาการของขณิกสมาธิ
เมื่อวันก่อนได้พูดไปในรูปของขณิกสมาธิ แต่ทว่าสำหรับวันนี้ จะพูดไปถึงอุปจารสมาธิ
แต่ก่อนที่จะนำเรื่องนั้นขึ้นมาพูด ก็จะขอนำเอาอุปสรรคของอานาปานุสสติกรรมฐานมาพูดเสียก่อน
คือว่าอุปสรรคของอานาปานุสสติกรรมฐานนี่มีมาก เนื่องว่าเป็นกรรมฐานที่มีความละเอียด
ฉะนั้น จะต้องต่อสู้กันหนัก ถ้าเราสามารถต่อสู้กับอานาปานุสสติกรรมฐานได้
กรรมฐานกองอื่นๆ ก็ไม่มีความสำคัญ
เราสามารถจะทำกรรมฐานอีก ๓๙ กองได้ภายในกองละ ๗ วัน เป็นอย่างช้า
อุปสรรคอันดับแรก ก็คือว่า การทรงอารมณ์ไม่ละเอียดพอ นั่นก็คือลมหยาบ
อานาปานุสสติกรรมฐานนี่อาศัยลมเป็นสำคัญ... -
ผู้พิพากษาตายแล้วไปเกิดเป็นเวมาณิกเปรต
ตายจากคนเป็นผู้พิพากษาแล้วไปเกิดเป็นเวมาณิกเปรต
โดย พระราชพรหมยาน (หลวงพ่อฤาษีลิงดำ วัดท่าซุง)
จาก หนังสือ ตายแล้วไม่สูญ...แล้วไปไหน
"..สำหรับเรื่องราวของเปรต อาตมาได้นำเอาเรื่องเปรตประเภทที่ท่านทั้งหลายไม่ได้คิดว่าเป็นเปรตมาเล่าสู่กันฟัง ในพระบาลีกล่าวว่า ในสำนักแห่งพระราชาธิบดีทรงพระนามว่า "พระเจ้าพิมพิสารบรมกษัตริย์" พระบาทท้าวเธอทรงปกครองมคธรัฐ หรือที่เรียกว่ากรุงราชคฤห์มหานคร จัดว่าเป็นกษัตริย์องค์แรกที่นับถือพระพุทธศาสนา พระองค์ทรงแต่งตั้งบุรุษผู้หนึ่งซึ่งมีปัญญามีความรู้ให้เป็น ผู้พิพากษาชำระอรรถคดี ท่านผู้นี้ในตอนต้นก็มีอุดมการณ์ดี มีความซื่อสัตย์สุจริต ทำกิจการงานด้วยความซื่อตรงไม่มีความประสงค์ในการที่จะคดโกงอะไรทั้งนั้น ต่อมาในภายหลังเมื่อมีคนมาหาบ่อยๆ เขาต้องการชนะคดีก็มากราบมาไหว้ เอาเงินเอาทองมาให้ อาศัยที่ท่านผู้พิพากษาผู้นี้เป็นคนใจอ่อนมีเมตตาในด้านความชั่ว ต่อมาจิตใจของตนก็เกิดความโลภเข้ามาครอบงำจิต ติดในทรัพย์สินเป็นสำคัญ จึงประพฤติผิดในหน้าที่ คดีใดที่ควรจะแพ้แต่ถ้าเขาให้เงินมากก็ตัดสินให้ชนะ คดีใดที่ควรจะชนะแต่ทว่าไม่ให้เงินก็ตัดสินให้แพ้ เป็นการรับสินบน... -
เพราะความทุศีล มีศีลวิบัติ สัมมาสมาธิจึงไม่มี
ทุสสีลสูตร
[๒๔] ดูกรภิกษุทั้งหลาย สัมมาสมาธิของภิกษุผู้ทุศีล มีศีลวิบัติแล้ว ย่อมเป็น
ธรรมมีอุปนิสัยขาดแล้ว เมื่อสัมมาสมาธิไม่มี ยถาภูตญาณทัสสนะ ของภิกษุผู้มีสัมมาสมาธิ
วิบัติ ย่อมเป็นธรรมมีอุปนิสัยขาดแล้ว เมื่อยถาภูตญาณทัสสนะไม่มีนิพพิทา และวิราคะ
ของภิกษุผู้มียถาภูตญาณวิบัติ ย่อมเป็นธรรมมีอุปนิสัยขาดแล้ว เมื่อนิพพิทาและวิราคะไม่มี
วิมุตติญาณทัสสนะ ของภิกษุผู้มีนิพพิทาและวิราคะวิบัติ ย่อมเป็นธรรมมีอุปนิสัยขาดแล้ว
ดูกรภิกษุทั้งหลาย ต้นไม้ที่มีกิ่งและใบวิบัติแล้ว แม้กะเทาะของต้นไม้นั้น ก็ไม่ถึงความบริบูรณ์
แม้เปลือกก็ไม่ถึงความบริบูรณ์ แม้กะพี้ก็ไม่ถึงความบริบูรณ์ แม้แก่นก็ไม่ถึงความบริบูรณ์ ฉันใด
ฉันนั้นเหมือนกันแล ภิกษุทั้งหลาย สัมมาสมาธิของภิกษุผู้ทุศีล มีศีลวิบัติแล้ว ย่อมเป็นธรรม
มีอุปนิสัยขาดแล้ว เมื่อสัมมาสมาธิไม่มี ยถาภูตญาณทัสสนะของภิกษุผู้มีสัมมาสมาธิวิบัติ ย่อม
เป็นธรรมมีอุปนิสัยขาดแล้ว เมื่อยถาภูตญาณทัสสนะไม่มี นิพพิทาและวิราคะ ของภิกษุผู้มียถา
ภูตญาณทัสนะวิบัติ ย่อมเป็นธรรมมีอุปนิสัยขาดแล้ว เมื่อนิพพิทาและวิราคะไม่มี วิมุตติ
ญาณทัสสนะ... -
การพิจารณาไตรลักษณ์.. ๔ แบบ
การพิจารณาไตรลักษณ์นี้ มีวิธีพิจารณาอยู่ ๔ แบบ
ชื่อ กลาปสัมมสนนัย อัทธาสัมมสนนัย สันตติสัมมสนนัย และ ขณะสัมมสนนัย
๑. พิจารณารูปนามโดยความเป็นอนิจจัง ทุกขัง อนัตตา โดย กลาปสัมมสนนัย นั้นเป็นการพิจารณาทั้งกลุ่มทั้งก้อน จับเอาโดยส่วนรวม เช่นถ้าพิจารณาเป็นขันธ์ ก็กำหนดให้รู้ในขันธ์ ๕ ไปจนไตรลักษณ์ปรากฏ
ถ้าพิจารณา อายตนะ ก็กำหนดรู้ใน อายตนะ ๑๒
ถ้าพิจารณา ธาตุ ก็กำหนดรู้ใน ธาตุ ๑๘
ถ้าพิจารณา ทวาร ก็กำหนดรู้ใน ทวารทั้ง ๖
หรือ พิจารณาอารมณ์ ๖ วิญญาณ ๖ ผัสสะ ๖ เวทนา ๖ สัญญา ๖ เจตนา ๖ ตัณหา ๖ วิตก ๖ วิจาร ๖ หรือ ๓๒ โกฏฐาส หรือ โลกียอินทรีย ๑๙ หรือ ธาตุทั้ง ๓ คือ กามธาตุ รูปธาตุ อรูปธาตุ หรือภพทั้ง ๙ อย่างใดอย่างหนึ่งจนไตรลักษณ์ปรากฏ
ปัญญาของพระโยคีที่เกิดขึ้นในขณะที่พิจารณาอยู่ในกลาปสัมมสนนัย นี่แหละ ชื่อว่า สัมมสนญาณ
การพิจารณาแบบนี้ เป็นวิธีที่ง่ายที่สุด
๒. พิจารณารูปนาม โดยความเป็น อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา โดย อัทธาสัมมสนนัย เป็นการกำหนดรู้รูปนามที่เกิดขึ้นในภพก่อนว่า รูปนามที่เคยเกิดในภพก่อนนั้น เดี๋ยวนี้ก็ไม่มีแล้ว ล้วนเป็นอนิจจัง ทุกขัง อนัตตา... -
แชร์เล่าเรื่องหลวงปู่มีชัย กามฉินโธประสบการณ์ในสามจังหวัดชายแดนใต้ครับ
ท่านใดที่รู้จักและมีประสบการณ์ของหลวงปู่มีชัยผู้ศักดิ์สิทธิ์เชิญท่านมาแชร์ประสบการณ์กันนะครับส่วนของผมโดยย่อนะครับ
1ท่านอธิฐานจิตไม่นอนเลยเป็นเวลา10ๆปี
2ท่านเดินเท้าไม่ติดพื้น(เหาะ)
3ดับไฟป่าด้วยน้ำแก้วเดียว
4ปลุกต้นทุเรียนที่ตายไปแล้วเป็นสิบไร่ให้งอกมาใหม่
5พระประทานที่ท่านสร้างไม่ไหลไปกับสึนามินอกนั้นเรียบเป็นหน้ากลอง
6ท่านคุยกับงูและมีพญางูมานอนเฝ้าท่าน
7ท่านเป็นเจ้าแห่งความร่ำรวยอันนี้จริงๆ
8ท่านคุยกับเทวดาได้และมักทำอะไรแล้วเทวดามาอนุโมธนา
9มีเมตตาสูงสุด
แจ้งท่านผู้อ่านทราบว่าห้ามนำข้อความหรือส่วนหนึ่งส่วนใดของประสบการณ์ของผมไปโดยมิได้
รับอนุญาตจากผมก่อนนะครับ ขอบคุณทุกท่านครับ
และสามารถติดต่อผมได้ที่เบอร์0897999351 ครับ -
สภาพของอรูปพรหม หลวงพ่อฤาษีลิงดำ
สภาพของอรูปพรหม หลวงพ่อฤาษีลิงดำ
......................................................
คงมีหลายท่านเวลาศึกษาพระพุทธประวัติของพระพุทธองค์ กล่าวถึงตอนท่านอาฬารดาบสกับท่านอุทกดาบสซึ่งเป็นท่านอาจารย์ของเจ้าชายสิทธัตถะ
ท่านอาฬารดาบสกับท่านอุทกดาบสท่านทั้งสองนี้ เมื่อท่านตายแล้ว ไปเกิดเป็นอรูปพรหม พระพุทธองค์ทรงเปล่งอุทานว่าฉิบหายเสียแล้ว คือไม่สามารถรับฟังธรรมของพระพุทธองค์ได้ ถ้าท่านทั้งสองเกิดเป็นพรหมธรรมดา ไม่เกิดเป็นอรูปพรหมก็คงไม่เป็นไร พระพุทธเจ้าของเราก็สามารถตามไปสอนได้ แต่นี่พระพุทธองค์ไม่สามารถสงเคราะห์ได้ สภาพของอรูปพรหมเป็นอย่างไร ลองอ่านจากผลงานหลวงพ่อฤาษีตอนนี้ครับ ผมนำตอนนี้มาจากหนังสือตายแล้วไปไหนท่านที่สนใจมากกว่านี้ลองหาอ่านดูเองนะครับ
...........................................................
ท่านอาฬารดาบสกับท่านอุทกดาบส ตายจากความเป็นคนไปเกิดเป็นอรูปพรหม
“..เมื่อองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงบรรลุอภิเษกสัมมาสัมโพธิญาณแล้ว พระองค์ทรงต้องการให้คนอื่นมีความสุขด้วย ทรงนึกว่าใครหนอที่จะรับพระธรรมเทศนาที่พระองค์บรรลุแล้วได้... -
วิธีทำน้ำมนต์ และ รัตนสูตร โดย หลวงพ่อฤาษี
วิธีทำน้ำมนต์ และ รัตนสูตร โดย หลวงพ่อฤาษี
วิธีทำน้ำมนต์
บันทึกเมื่อวันที่ ๑๕ กรกฏาคม ๒๕๐๖ ตรงกับ แรม ๙ ค่ำ เดือน ๘ วันนี้เจริญกรรมฐานเวลา ๘.๓๐ น. จิตจับอนาปาฯ และปราโมทย์ในพระนิพพานเป็นอารมณ์ เมื่อภาวะจิต เข้าสู่แดนพระนิพพานพบท่านโมคคัลลาน์ และท่านกัญจายนะ แล้วเข้าไปสู่หน้าห้องๆหนึ่ง มีพระบอกว่าเป็นที่ประทับขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เห็นท่านเสด็จออกรับแล้วทรงนำบาตรมาลูกหนึ่งทรงเทน้ำเก่าในบาตรออกแล้วทรงตักน้ำใหม่ทำน้ำมนต์ คิดว่าท่านจะรดน้ำมนต์ให้ แต่ความจริงกลายเป็นท่านสอนทำน้ำมนต์โปรดคน น้ำมนต์ที่ทำ ห้ามเรียกค่าจ้างรางวัล ให้สงเคราะห์ด้วยอำนาจเมตตา แม้แต่ดอกไม้ธูปเทียนก็ให้ถือว่าเป็นเรื่องไม่จำเป็น ถ้าเขามีหรือหามาง่าย ก็ให้จัดหามา ถ้ายากก็ไม่ต้อง
ให้เอาน้ำใส่บาตรแล้วเพ่งจิตลงสู่ก้นบาตร ระลึกถึงพระพุทธคุณ พระธรรมคุณ พระสังฆคุณ ในอดีตทั้งหมด แล้วสวด อิติปิโสฯลฯ ทั้งสามห้อง ขณะสวดให้เพ่งจิตลงก้นบาตรแล้วอธิษฐานว่า "ขอให้กระแสน้ำนี้จงซาบซ่านไปทั่ววรกาย กำจัดโรคาพยาธิของมนุษย์ทั้งหลายและสัตว์ให้หายโดยฉับพลัน" แล้วว่า อิติปิโสฯลฯ ต่อไปอีกหลายจบก็ได้ตามความพอใจ... -
ทำไม “ วันมาฆบูชา ” จึงเป็น “ วันแห่งความรักทางพุทธศาสนา ”
คำว่า “ มาฆบูชา ” หมายถึง การบูชาในวันเพ็ญเดือนมาฆะ “ วันมาฆบูชา ” เป็นวันสำคัญทางพุทธศาสนา เพราะในสมัยพุทธกาลเมื่อพระพุทธเจ้าตรัสรู้แล้ว ได้ ๙ เดือน ขณะที่เสด็จประทับอยู่ที่วัดเวฬุวัน ณ เมืองราชคฤห์ แคว้นมคธ พระสงฆ์สาวกที่พระพุทธองค์ได้ส่งออกไปเผยแพร่พุทธศาสนาตามเมืองต่างๆ ได้พร้อมใจกันกลับมาเฝ้าพระพุทธเจ้าโดยมิได้นัดหมายกันถึง ๑,๒๕๐ รูป ซึ่งถือว่าเป็นเหตุอัศจรรย์ยิ่ง
ความรักเป็นอำนาจอย่างหนึ่งในจิตใจมนุษย์ ที่มีอิทธิพลมากมาย และสามารถก่อให้เกิดอารมณ์อันหลากหลายที่ตรงกันข้ามกันได้อย่างไม่น่าเชื่อ ไม่ว่าจะเป็นความสุข ความทุกข์ ความยินดี ความซึมเศร้า ความเฉื่อยชาและความกระตือรืนร้น กวีบางคนบอกว่า ความรักทำให้โลกหมุน ทำให้คนชั่วกลับกลายเป็นคนดี ความรักบันดาลได้มากมาย ที่สำคัญ ความรักมิได้มีความหมายเพียงความรักระหว่างหนุ่มสาวเท่านั้น แต่ยังครอบคลุมไปถึงความรักระหว่างพ่อแม่กับลูก อาจารย์กับศิษย์ เพื่อนฝูงต่อเพื่อนฝูง รวมไปถึงความรักที่มนุษย์มีต่อมวลมนุษย์ และสิ่งต่างๆที่อยู่ร่วมโลกเดียวกันอีกด้วย
และเพราะ “ ความรัก ” มีความหมายที่กว้างขวาง ไร้ขอบเขตอันจำกัด... -
อานิสงส์การสร้างสมเด็จองค์ปฐมและการสร้างฐานพระ โดยหลวงพ่อฤาษี วัดท่าซุง
อานิสงส์การสร้างสมเด็จองค์ปฐม
โดยพระเดชพระคุณหลวงพ่อพระราชพรหมยาน
(หลวงพ่อฤาษี วัดท่าซุง)
หลวงพ่อ “ช่างมาถามเกี่ยวกับลักษณะองค์ปฐม
อาตมาบอกสร้างแบบพระพุทธรูปธรรมดา
แต่ต้องอ้วนหน่อยนะ คือมีเนื้อมากหน่อย
ไม่ใช่อ้วนพุงพลุ้ยนะ และก็เวลาลงไปสอนกรรมฐาน
เมื่อเสร็จแล้วเขาก็คุยกันเขาก็ถามปัญหา
ถามไปถามมา เขาถามถึงพระพุทธเจ้าองค์ปฐมว่า
ถ้าจะสร้างจะมีอานิสงส์ยังไง ลุงสองลุง
นายบัญชี กับลุงพุฒิ ท่านมายืนอยู่นานแล้ว
ท่านไม่มีโอกาสคุย เพราะอาตมาขึ้นไปคุยกับพระซะ
ท่านบอกว่า การสร้างองค์ปฐมนี่ ท่านเปลี่ยนบัญชีใหม่
เอาบัญชีมาให้ดู บอก นี่…บัญชีเล่มนี้
(คือว่าเป็นอีกเล่มหนึ่งจากที่ที่จดธรรมดา)
“บัญชีสีทอง” เป็นทองคำล้วนทั้งเล่มเลย
ฉันอยากได้บัญชีเอามาขาย
ท่านบอก.. ถ้าสร้างองค์ปฐมลงบัญชีเล่มนี้โดยเฉพาะ
ก็แสดงว่าคนที่จะสร้างพระพุทธเจ้าองค์ปฐมได้นี่
ต้องเป็นคนมีบุญมาก…หรือไง?
แต่ก็ไม่ได้หมายความต้องเงินมากนะ
คือว่าโดยมากเราจะนึกไม่ถึงกันใช่ไหม
เรานึกกันถึง พระกกุสันโธ พระโกนาคม พระพุทธกัสสป
แต่ยังไม่เคยนึกถึงองค์ปฐม ส่วนใหญ่ไปนึกถึง พระศรีอาริย์
ยังไม่เป็นพระพุทธเจ้า ใช่ไหม นี่องค์นี้เป็นองค์แรก...
หน้า 408 ของ 414