6-8 เมษายน 2550 ทริปถึกเล็กๆ

ธรรมปฏิบัติ เล่ม ๑๐ ก็ ก็พรหมา น่ะ


แต่ สัมปะติจฉามิ เหมือนกัน

 

พรหมา กะ พรหมมา
มีทั้งสองอย่างในหนังสือหลวงพ่อ แต่ละเล่มไม่เหมือนกัน

แต่
สัมปะจิตฉามิ บน
สัมปะติจฉามิ ล่าง

 

เครื่องมันไม่ได้ลืมใส่มาให้พี่คลิกหรอกค่ะ...คิคิคิ...มันก็อยู่ตรงตัวเลข 1 นั้นไงค่ะ..พี่คลิก...พี่ลองไปกดดูนะคะ...(พี่คลิกตาหลกอีกแล้วอ่ะ...ขำ...ขำจังเลย..)...

 

โอ้.....เห็นแล้ว ครับ พึ่งจะรู้ มันหายากจริง กะว่าจะไปต่อว่า บริษัท ที่ผลิตเสียแล้ว เกือบไป

 

ฤๅ............ทดสอบ

ใช่จริงๆด้วย ผมก็เพิ่งรู้.....

ขอบคุณ คุณ " 9 " มากๆ

 

ขอบคุณครับคุณ9 เพิ่งรู้เหมือนกันว่า ฤๅ...อยู่ตรงนี้เอง...
ที่เหลือก็เรื่องความถูกต้องของพระคาถาเพื่อทำแบบขั้นสุดท้ายครับ

จะใช้ "พรหมมา" หรือ "พรหมา"
"สัมปะติจฉามิ" หรือ สัมปะฏิจฉามิ"
ตอนนี้ติดอยู่สองตัวนี้..ขอช่วยสรุปกันด้วยครับ

รูปเทวดาประทานพร ผมร่างออกมาแล้ว..เอาประมาณนี้..ลดรายละเอียดออกไปบ้างแล้ว
จะปรึกษาช่างกัดลายหินอ่อนพรุ่งนี้ครับ..ว่าจะใช้เส้นหนากี่ มม.

 

เจ๋งดีคร๊าบ

เจ๋งดีพี่มี๊ด เพิ่งรู้เหมือนกันเพราะเครื่องที่ห้องไม่มี ๅ
เฮ้อ ไม่มีอ้างอิงได้จากที่ใหนที่เชื่อถือเลยเหรอ
แต่มันเป็นคำพ้องเสียงอะนะ เอ้า เป็นกำลังใจให้เน้อ

 

อ๊ะ...ผมก็เพิ่งรู้เหมือนกันนะเนี่ย คุณ๙ นี่ได้อานิสงค์ สามเด้ง เลยนะครับ อิ..อิ
เมื่อก่อนยังเคยสงสัยว่า ไอ้ตัวตาขอยาวๆ นี่นมีไว้ทำไมอะไรของมันนะ
ได้ฟังเสียงของคุณ๙ ที่วัดท่าขนุน แล้วเคลิ้มเลยครับ เสียงเพราะมากครับ
เสียงใสปิ๊งเหมือนสาวรุ่นเลย หุ..หุ...ถ้าไม่เกรงใจคนอื่นละก็จะคุยให้นานๆเลย
แต่ว่า เสียงมันดีเลย์ก็เลยฟังไม่ค่อยถนัดอ่ะครับ

 

อ้าวมีตัว ฤๅ นี่ด้วย หาตั้งนาน

เป็น"สัมปติจฉามิ" และ "พรหมา "ครับ

ในหนังสือ "สมบัติพ่อให้" ไม่มี สระ อะ ครับ

และ สัมปจิตฉามิ อยู่ตอนบนของคาถา (คาถาสนองกลับ)

ส่วน "สัมปติจฉามิ " อยู่ตอนล่าง (คาถาเร่งรัดผลหรืออานิสงค์ )และปิดท้ายด้วย

"เพ็งๆ พาๆ หาๆ ฤๅๆ" ครับ

จากการสืบค้นหาข้อมูลเลยได้ ไปเจอหนังสือ ชื่อ "มรดกหลวงพ่อปาน"ครับ เป็นหนังสือเล่มเล็กๆ แต่มีเนื้อหาน่าสนใจมาก ไว้จะหาคนอาสามานำลงไว้ให้อ่านครับผม

ขอโมทนาบุญของทุกท่านด้วยครับ

 

นี่ถ้าพวกพี่ ๆ ไม่ถือศีล ๕ ศีล ๘ กัน...น้องหญิงไม่เชื่อจริง ๆ นะคะเนี้ยว่าไม่รู้กัน...โอ...(พี่ ๆ จะ ๕๐ กันแล้วนะคะ...<อายุค่ะ>...อิอิ..ขอกัดนิ๊ดดด.นึงงง..ค่ะ..)....

1. คนแรกพี่คลิก
2. คนที่สองพี่เม้าท์
3. คนที่สามพี่ mead
4. คนที่สี่พี่เปิ้ล
5. คนที่ห้าพี่พรหมฯ
6. คนที่หกพี่เล็ก

โอ..สยองจังเลยค่ะ..มีอะไรที่พวกพี่ ๆ ไม่รู้และน้องหญิงรู้อีกเนี้ย...คิ๊ก คิ๊ก..(ไม่น่าเชื่อเลย)....และก็ดีใจมาก ๆ ค่ะที่ได้ทำตัวเป็นประโยชน์กับพวกพี่ ๆ ค่ะ...

 

ผมว่าคุณนาย นี่เจ๋งที่สุด..มีความสามารถหลายด้าน
นี่ก็มีเพิ่มมาอีกแล้ว...เป็นนักสืบชั้นหัวกระทิ ที่ไม่ต้องใส่ลงกระทะ...
สำนวนภาษาอ่าน ก็สุดยอด..เบิกบานบันเทิงบุญ จิงๆ
ถ้าเรียนกฎหมาย จะได้เป็นถึงผู้พิพากษา เชียวนะ..ขอบอก

ขอตัวเข้าห้องน้ำก่อนหละ

 

Ok สรุปพระคาถาตามนี้เลยนะครับ..เทวดาลงทองเสร็จแล้วจะเป็นแบบนี้
ขออนุโมทนาทุกๆท่านครับที่มาช่วยกันแนะนำออกความเห็น แผ่นป้ายต้องออกมาดีแน่นอนเพราะหลายๆท่านช่วยกัน สาธุคร๊าบ*-*

(verygood)

 

*** คาถา ให้คิด ให้เกิดปัญญา ****

*** คาถา ให้คิด ให้เกิดปัญญา ****

หาก...ท่องเฉยๆ ... ไม่รู้จักพิจารณาตนเอง
จะเป็น "พรหมา" ....ไม่มีประโยชน์อันใด เหมือนสุนัขให้พรมนุษย์

หาก....ท่องไป รู้จักคิดพิจารณา
จะเป็น "พรหมมา".... เหมือน พรหม มาให้พรมนุษย์

นะโม
นะโม... คือ "สัญญาใจ"... คือ สัญญาใจตนเอง

กล่าว... นะโม ๓ จบ
หมายถึง.... นะโม เป็นที่พึ่งของข้าพเจ้า ๓ จบ
หมายถึง.... การเตือนตนเองอยู่เสมอ ว่า....... สัญญาใจตนเอง เป็นที่พึ่งของตนเอง

พรหมมา....หรือ พรหมา
คือ... "พรหมวิหาร ๔"

เพ็ง ๆ พา ๆ หา ๆ ฤา ๆ
คือ ...การลงท้าย เตือนให้รู้จักคิดพิจารณา ตัวคาถาที่ให้ไว้

เพ็ง
เพ็ง... คือ เพ่ง....ดู เพ่ง จ้องดู
เพ็ง.... คือ เพ็ง...เต็ม เพ็ญ
เพ็ง ๆ.......หมายถึง ให้เพ่งดู พิจารณาดูคาถานี้ ทั้งหมด ...ดูจนกระทั่งเกิดปัญญา เต็ม แจ่มชัด เหมือนพระจันทร์เต็มดวง

พา ๆ หา ๆ ฤา ๆ
คือ...ให้ท่านทั้งหลาย ช่วยกัน....พากัน...ปรึกษา หารือ กัน

เพราะ ฉะนั้น
ผู้ใดที่...หมั่นท่องคาถานี้ เพียงอย่างเดียว....
ก็จะได้รับ... "พรจากหมา"... คือ พรหมา

แต่...หากผู้ใดฉลาด มีปัญญา...นำคาถานี้มาคิดพิจารณา ในเนื้อหา ของคาถา
ก็จะพบว่า....พรหมวิหาร ๔...คือ สิ่งที่ท่านฝากมาให้ปฏิบัติกัน ทำกันจริงจัง ทำให้ได้จริง

เมื่อ...นำ ....นะโม ที่กล่าวเริ่มคาถา
มานำ คือ...นำพรหมวิหาร ๔ มาปฏิบัติเป็น "สัจจะ"

- " หนุมาน ผู้นำสาร "

 

อันนี้..ขอบอกได้คำเดียวว่า...สุดยอด...ประทับใจจริง ๆ ค่ะ...อธิบายได้ละอียดลึกซึ้ง...ลึกล้ำ...เหนือคำบรรยายจริง ๆ ....เห็นภาพที่ท่านพยายามส่งสารเลยเจ้าค่ะ...ท่านหนุมาน...(ประทับใจ...ประทับใจ...ประทับใจจริง...)....หุหุ

 

รายงานความคืบหน้าการสร้างแผ่นป้ายพระคาถาฯ
ตอนนี้ติดต่อทางช่างพ่นทรายได้แล้วครับ...ช่างที่ร้านภูบดี จ.สิงห์บุรี
- แจ้งราคาค่าแรงพ่นทรายมา 2,500 บาท
- ค่าหินแกรนิต ขนาด 0.60X0.80 ม. 2,092 บาท (รวมค่าเจียรขอบแล้ว)
รวมเป็น 4,592 บาท (ยังไม่รวมค่าทอง)

ส่วนการลงทองพวกเราอาสาจะมาปิดกันเองครับประหยัดไปได้อีก 5,000.-..โดยใช้สีน้ำมันสีทองรองพื้นในร่องหินก่อนปิดทอง (ราคาที่ช่างแกะแจ้งมา ถ้าเขาปิดให้ทุกขั้นตอนคิดค่าแรง +ของ 7,500 บาท ใช้เวลา 2-3 วัน..)

หลังจากนี้จะส่งรายละเอียดต่างๆไปให้ช่างเริ่มงานแล้วครับ..
คาดว่าราวๆกลางเดือนนี้คงได้ฤกษ์ปิดทองกันได้ครับ..เตรียมตัวนะ

 

ขอขอบคุณคุณMead มากๆครับผม จะได้ระดมพลไปซุ้มบอลกันอีก มีงานรออยู่ดังนี้
-ปิดทองป้ายคาถาเงินล้าน
-สกรีนยันต์จตุคาม
-ปลูกต้นไม้

 

พี่คลิกของเราอาสาหาแผ่นทองคำมาให้ครับ..
รวมทั้งอุปกรณ์จำพวกพู่กัน..สีน้ำมันสีทองไว้รองพื้น..
ที่เหลือก็ใช้ความปราณีตและสมาธิในการทำ..
ส่วนเรื่องขาตั้ง..อาจทำเป็นโครงเหล็กง่ายๆไว้ติดตั้งแผ่นป้ายครับ..
วันนี้จะเตรียมส่งแบบให้ช่างพ่นทรายแล้ว

 

โมทนามหากุศลด้วยครับคุณ Mead ถ้าเป็นไปได้อยากให้เสร็จทันก่อนวันที่ 13 เดือน พ.ค.นี้ เพื่อที่จะได้นำไปให้สมาชิกหลายๆท่านได้ร่วมปิดทอง ที่ stodio ของคุณพุทธันดร ซอยสุขุวิท 20 เพราะว่าจะมีสมาชิกพลังจิตพิชิตภัยพิบัติ มารวมตัวกันมากเป็นพิเศษ (รวมทั้งผมด้วยอีกคนครับ อิ..อิ..)
ถ้าหลังจากนี้แล้วคงไม่มีโอกาสน่ะครับ เพราะงานจะรัดตัว จนไม่มีเวลากระดุกกระดิกไปไหน เพราะคงต้องทำงานในวันอาทิตย์ด้วยครับ