ใครศรัทธา หลวงปู่ทวด เหยียบน้ำทะเลจืด มาพูดคุยกันครับ

ถิรวุษิ · 3 เมษายน 2011

rungaran said: ↑

ถิรวุษิ said: ↑

ผมไม่รู้ว่าองค์นี้วัดไหน แต่ให้ใครดูทุกคนบอกพระแท้และเก่า แต่ไม่รู้วัด เป็นพระที่อายุเก่ามาก

องค์นี้ ผมตั้งชื่อให้เองว่า องค์บารมี
แขวนแล้วรู้สึกใจเย็นและมีสติมากๆ และมีแต่คนเมตตาครับ

[/QU
เก่าจริงๆ ครับ คุณ ถิรวุษิ
Click to expand...

ขอบคุณครับ องค์นี้ผมคาดการณ์เอาเอง(ผมขี้ตรู่เอง)ว่าจะต้องมีหลวงพ่อทิมแห่งวัดช้างไห้และครูบาอาจาร์สายใต้เก่งๆปลุกเสกอย่างแน่นอน องค์นี้มีโครงการแล้วครับเพียงรอแค่งบประมาณเท่านั้น
Click to expand...

ถิรวุษิ · 3 เมษายน 2011

คชสารหมื่นปี

องค์นี้ได้จากพี่เขยครับ พี่เขยได้มาอีกที องค์นี้ให้เจ้าลูกสาวคนเล็กตัวแสบแขวนแบบเปลือยๆ เลยสภาพจึงเป็นแบบนี้เสียดายผิวและความงามของเหรียญเหมือนกันครบ

ถิรวุษิ · 3 เมษายน 2011

สุดยอดเมืองใต้ วัดพะโค๊ะ

องค์นี้ได้จากบ้านพ่อตาครับ ไม่รู้รายละเอียดการสร้างครับ ท่านใดทราบรบกวนด้วยคร๊าบ

ถิรวุษิ · 3 เมษายน 2011

หลวงปู่ทวดเนื้อสังขวานร รุ่น80 ปี

องค์นี้ก็ได้จากบ้านพ่อตาเหมือนกันครับ ไม่รู้รายละเอียดการสร้าง ท่านใดทราบรบกวนด้วยคร๊าบ

Aimee2500 · 3 เมษายน 2011

rungaran said: ↑

ตอนนี้รู้แล้วครับ คือ พ่อท่านไกร วัดลำพะยา
แต่เอ ... ท่านประทับนั่งบนอะไรครับ.... หิน,เต่า,หรือบนหัวงูจงอาง ครับท่าน ภัทร....
Click to expand...

น่าจะเป็นเสือนะค่ะ

 [FONT=&quot]ในท่ามกลางของความเกลียวกราวของประชาชนที่กำลังสนใจถึงอุบัติการณ์ที่เกิดขึ้นในยุคปัจจุบัน
โดยเฉพาะก็คือ ความมหัศจรรย์ต่าง ๆ ที่ไม่น่าเชื่อแต่ได้ปรากฏเป็นความจริงขึ้นมาในรูปต่าง ๆ
ยุคหลังกึ่งพุทธกาลรู้สึกว่ามีอะไร ๆ แปลก ๆ ทวีมากขึ้นโดยลำดับแต่พร้อม ๆ กันนี้เหตุการณ์ที่ไม่มีใครคาดคิด
ว่าจะมีก็ได้เกิดขึ้น เรื่องนั้นก็คือการอุบัติขึ้นของหลวงปู่ทวดสมภารท่านเจ้าไกร
ซึ่งใคร ๆ ก็รู้จักในนามของอภินิหารความศักดิ์สิทธ์ ของหลวงปู่ทวดนับเป็นเวลาร้อย ๆ ปี ผ่านมาแล้ว
ก่อนที่ข่าวนี้จะเกรียวกราวขึ้น ก็เนื่องด้วยท่านอาจารย์ทิม วัดช้างไห้
หลวงปู่ทวดสมภารท่านเจ้าไกร ท่านเข้าประทับทรง พร้อมด้วยหลวงพ่อทวด วัดช้างให้
และได้บอกความประสงค์ทุก ๆ อย่างแก่บรรดาศิษยานุศิษย์ว่า หลวงปู่ทวดถึงเวลาที่จะออกมาช่วยเหลือลูกหลานในยุคนี้แล้ว
โดยหลวงปู่ต้องการจะออกมาจากวัดเดิมที่รกร้างนานปีนั้นเข้ามายังวัดใหม่ คือ วัดลำพะยา หรือวัดสิริปุณณาราม
เดี๋ยวนี้ เมื่อบรรดาประชนที่เคารพนับถือทั้งหลาย ซึ่งมีพระเดชพระคุณท่านเจ้าคุณสิริสารโศภน
หลวงพ่อวัดลำพะยาของเราเป็นประธาน ได้ทราบความประสงค์ และเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเช่นนั้น
ต่างก็มีความปลาบปลื้ม และตื่นเต้นไปตาม ๆ กัน ทั้งนี้เพราะเคยนับถือมา
และได้เห็นประจักษ์ในอิทธิปาฏิหาริย์ของปู่ทวดมาก่อนแล้ว ดังนั้นประชาชนทั่วไป
ที่ได้ทราบพฤติการณ์นี้ จึงได้ลุกฮือขึ้น เพื่อทำพิธีอาราธนา หลวงพ่อให้ออกมาคุ้มครองรักษาลูกหลานต่อไป
จึงได้กำหนดวันคำนวณหาฤกษ์ตามพิธีโหราศาสตร์ เพื่อทำการขุดค้นอัฐิธาตุ และวัตถุต่าง ๆ ในบริเวณ “เขื่อน”
ของท่านปรากฏว่าดวงฤกษ์ที่ทำการขุดอัฐิของท่านนี้ ท่านเข้าประทับทรงบอกว่าขอบใจเหลือเกิน
และท่านพร้อมที่จะออกมาตามฤกษ์ที่ให้ไว้นั้นด้วยความเต็มใจ[/FONT]
[FONT=&quot]
[/FONT]
[FONT=&quot]ปฏิปทาของหลวงพ่อไกร[/FONT]
[FONT=&quot]หลวงพ่อไกร เป็นพระภิกษุที่เคร่งครัดทางไสยศาสตร์ อย่างหาตัวจับได้ยากประพฤติธุดงค์เป็นกิจวัตรประจำ
หลวงพ่อเป็นผู้มีเมตตาต่อบุคคล และ สัตว์ทั่วไป หลวงพ่อมีงู 2 ตัวชื่อตะบองแก้วตัวหนึ่ง ตะบองทองตัวหนึ่ง
ท่านเลี้ยงไว้เป็นศิษย์ติดตัวประจำวัดของท่านจนประชาชนเรียกว่าพระยางูคู่ ชีพสมภารท่านเจ้าไกร พระยางูทั้ง 2 รักท่านมาก
เพราะ อำนาจเมตตาจิตที่ท่านบำเพ็ญเป็นประจำอาศัยเหตุที่ท่านเคร่งครัดทางไสยศาสตร์ อย่างมาก
จนทำให้เกศาบนศรีษะของท่านกลายเป็นทองแดง จะใช้โกนด้วยมีดโกนเฉย ๆ ไม่สามารถโกนได้ ถึงคราวที่จะต้องปลงผมท่านต้องอธิษฐานตามพิธีทางไสยศาสตร์เสียก่อนถึงจะโกน ได้ จึงเป็นพระภิกษุที่น่าอัศจรรย์มากในสมัยนั้น
อนึ่ง นอกจากหลวงพ่อเลี้ยงงูทั้ง 2 ไว้แล้ว ด้วยอำนาจเมตตาสัตว์ ท่านยังนำลูกเสือมาเลี้ยงไว้ 1 ตัว และนกขุนทอง 1 ตัว
สัตว์ทั้ง 3 ชนิด คือ งู เสือ นกขุนทอง ต่างก็รู้ฟังภาษาของท่านได้ดี
โดยเฉพาะนกขุนทองนั้นเป็นพิเศษก้นกุฏิของท่านทีเดียว เพราะพูดภาษาคนได้ สัตว์ทั้ง 3 ชนิดนี้ เป็นคู่บารมีของท่านโดยแท้
เพราะถ้าไม่ใช่คู่บารมีหรืออภินิหารของท่านแล้ว สัตว์ซึ่งดุร้ายถึงขนาดนั้นคงเลี้ยงไว้ไม่ได้
แต่ในวาระสุดท้ายท่านก็จบชีวิตลงตามสุภาษิตที่ว่า “หมองูตายเพราะงู” นั้นเอง
เพราะปรากฏว่าค่ำวันหนึ่งท่านกำลังเดินจงกลมอยู่ในที่แห่งหนึ่งบังเอิญเจ้างูตัวหนึ่ง ไปนอนอยู่ก่อนแล้ว
ท่านจึงไปเหยียบงูตัวนั้นโดยบังเอิญ งูซึ่งนอนอยู่มิทันจะรู้ตัว อารามที่มันตกใจ ก็กัดเอาในทันทีทันใดนั่นเอง
ท่านก็ได้ถึงมรณภาพด้วยเหตุอันนี้ส่วนว่าพระยางูทั้ง 2 นั้น
เมื่อทราบว่าบุคคลที่มันกัดนั้นคือหลวงพ่อของมันเองด้วยความเสียใจอย่างแรงเจ้างูทั้ง 2 นั้น
เมื่อทราบว่าบุคคลที่มันกัดนั้นคือหลวงพ่อของมันเองด้วยความเสียใจอย่างแรง เจ้างูทั้ง 2 ตัวนั้นก็ชวนกันเลื้อยไปลงบ่อใกล้ ๆ นั้นเอง
แล้วก็ลงไปกลั้นใจตายเสียทั้งคู่พร้อมกันทั้ง 2 ตัว เป็นที่น่าอัศจรรย์ยิ่งในครั้งนั้น
(สถานที่บริเวณบ่อที่งูเลื้อยลงไปกลั้นใจตายก็ยังร่องรอยเป็นหลักฐานมาจนบัดนี้)
หลังจากหลวงพ่อมรณภาพไปแล้ว ความศักดิ์สิทธิ์และอภินิหารต่าง ๆ ก็ยิ่งทวีมากขึ้น
บรรดาศิษย์และประชาชนในครั้งกระนั้นได้นำเอาอัฐิธาตุและวัตถุต่าง ๆ ไปเก็บไว้ในสถานที่อันสมควรคือสร้างเป็นรูป “เขื่อน”
ขึ้นดังกล่าวแล้ว สถานที่แห่งนี้ประชาชนต่างก็ หลั่งไหลไปนมัสการเคารพกราบไหว้ และบวงสรวงอยู่ตลอดเสมอมามิได้ขาด
นับเป็นเวลาหลายร้อยปี ทั้งนี้ก็เพราะอภินิหารของหลวงพ่อ ที่แสดงออกในทางให้ความคุ้มครองป้องกันภยันตรายได้นานาประการ
ทุกคนจึงยึดถือเป็นสรณะที่พึ่งในยามทุกข์และคับขันเป็นที่ไว้ใจได้ อภินิหารของเรื่องราวต่าง ๆ
ที่เป็นมาแล้วไม่ประสงค์จะนำมาเล่าให้มากนัก เพราะท่านและคนส่วนมากไม่ค่อยได้มีโอกาสรู้เห็น
กลัวว่าจะเป็นการปั้นข่าวโคมลอยขึ้นล่อลวงประชาชนไป ซึ่งอาจจะมีบางท่านที่จะเข้าใจไปในรูปนั้นเพราะขณะนี้มีนักฉวยโอกาส
ที่พยายามยกยอปอปั้นสรรเรื่องเพื่อประโยชน์แก่ตนเองนั้นมีมาก เหมือนดอกเห็ดเกือบทั่วทุกหนทุกแห่งดังนั้น
อภินิหารและความมหัศจรรย์ของหลวงพ่อไกร อยากจะนำมาเล่าเฉพาะเรื่องปัจจุบันที่ประชาชนส่วนมากได้ร่วมรู้ร่วม เห็น
อันเป็นข่าวที่จริงแท้แน่นอน ที่ทุกคนรับรองแล้วว่าเป็นความจริง [/FONT]
 <table class="MsoNormalTable" style="width:560.5pt;mso-cellspacing:0cm;mso-yfti-tbllook:1184;mso-padding-alt: 7.5pt 7.5pt 7.5pt 7.5pt" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="747"> <tbody><tr style="mso-yfti-irow:0;mso-yfti-firstrow:yes;mso-yfti-lastrow:yes"> <td style="padding:7.5pt 7.5pt 7.5pt 7.5pt"> [FONT=&quot]อภินิหารต่าง ๆ ในวันทำพิธี[/FONT]
</td> </tr> </tbody></table>
<table class="MsoNormalTable" style="width:537.4pt;mso-cellspacing:0cm;mso-yfti-tbllook:1184;mso-padding-alt: 7.5pt 7.5pt 7.5pt 7.5pt" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="717"> <tbody><tr style="mso-yfti-irow:0;mso-yfti-firstrow:yes;mso-yfti-lastrow:yes"> <td style="padding:7.5pt 7.5pt 7.5pt 7.5pt"> [FONT=&quot]เรื่องประหลาดที่เกิดขึ้นครั้งแรกก็ คือ ตอนทำพิธีเริ่มขุดค้นอัฐิธาตุของปู่ทวด ในเวลาอันใกล้รุ่งของวันนั้นพอได้ฤกษ์ของวันนั้น
ได้มีแสงประหลาดอย่างหนึ่ง พุ่งขึ้นสู่ท้องฟ้าโดยหมุนเป็นกังหันชั่วขณะหนึ่ง แล้วก็หมุนกลับลงมาสู่ตรงที่บริเวณทำพิธีนั้นเอง
แต่ประชาชนที่อยู่ในพิธีไม่ได้เห็นเหตุการณ์นี้เลย ส่วนประชาชนที่อยู่นอกบริเวณนั้น ได้เห็นแสงประหลาดโดยทั่วถึงกัน
และตลึงงันฉงนสนเท่ห์ถึงเหตุการณ์อันไม่น่าคาดคิดว่าจะมีขึ้นนี้เลย คงจะเป็นอิทธิปาฏิหาริย์ อะไรอย่างหนึ่งเป็นแน่

เรื่องที่ 2 เป็นเรื่องที่น่าอัศจรรย์ มากเช่นเดียวกันคือ ตามปกติหลวงปู่ทวดท่านชอบเสียงปืน
ใครไปบนบานอะไรก็มักจุไปยิงปืนอยู่เสมอ แต่ปืนที่นำไปยิงถวายนั้นถ้าหันปากกระบอกไปตรงเขื่อนของท่านแล้ว เป็นไม่ออกทุกราย
แต่เรื่องนี้ท่านไม่เคยเห็นก็ยังไม่แน่ใจ แต่ว่าเรื่องในวันที่เคลื่อนขบวนแห่หลวงปู่ทวด
ไปวัดลำพะยานี้แหละเป็นพยานหลักฐานได้อย่างดีเพราะว่าวันนี้ประชาชนต่างก็ไชโยโห่ร้องด้วยความดีเนื้อดีใจ
และต้อนรับขบวนแห่ด้วยการยิงปืนกันตลอดทางที่ผ่าน แต่ที่น่าอัศจรรย์ยิ่งนั้นคือ รายใดที่ยิงปืนข้ามขบวนแห่
รายนั้นเป็นยิงไม่ออกสักรายเดียว ทั้งหมดที่ยิงออกอยู่ 3 กระบอก แต่ว่าแต่ละรายปรากฏว่ากระบอกปืนแตก 2 กระบอก (เป็นปืนแก็ป)
อีกกระบอกหนึ่งเป็นปืนสั้นปรากฏว่าขาดตรงลูกโม่ พลัดตกไบ่เลย เรื่องทุกอย่างนี้ประชาชนส่วนมากได้รู้เห็นกันอย่างทั่วถึง
จึงทำให้ข่าวนี้แพร่สะพัดไปโดยเร็ว เพราะเป็นเรื่องที่ประชาชนรู้เห็นเองกันเป็นส่วนมาก

เรื่องที่ 3 หลังจากได้นำวัตถุและสิ่งต่าง ๆ กลับมายังวัดลำพะยาแล้ว พร้อมกันนี้ปรากฏว่าบรรดารากไม้ต่าง ๆ
ที่อยู่ในบริเวณพิธีนั้นหอมตลบไปหมดในบริเวณนั้น หลวงปู่ทวดเข้าประทับทรงบอกว่า รากไม้ทั้งหมดภายในรัศมี 10 วา
จากสถานที่ทำพิธีกลายเป็นหยูกยาศักดิ์สิทธิ์ทั้งนั้นใครเป็นโรคอะไรแล้วให้ ระลึกถึงท่านอธิษฐานเอาได้ตามชอบใจ
รากไม้ทุกอย่างปรากฏให้ผลรวดเร็วทันใจ มากต่อมากรายที่เดียว จะเกี่ยวด้วยโรคต่าง ๆ หรือถูกพิษสัตว์กัดต่อย
ปรากฏว่าได้ผลอย่างไม่น่าเชื่อ เรื่องนี้ขอให้ถามคนที่เคยไปรับยาจากพระเดชพระคุณ ฯ เอง ก็แล้วกันว่าได้ผลอย่างไรบ้าง
ด้วยความศักดิ์สิทธิ์ของรากไม้ยาต่าง ๆ ประชาชนจึงหลั่งไหลกันไปรับรากยามิได้ขาด และในบริเวณที่ขุดค้นหลวงปู่ทวด
ประชาชนทั้งใกล้ไกลต่างก็ทะยอยกันไปมากมายทุกวัน นับแต่วันนั้นจนถึงบัดนี้ เป็นเวลาเดือนเศษแล้ว มิเคยขาดคน
นับเป็นจำนวนร้อย ๆ ทุกวัน ทั้งนี้เพื่อไปขุดค้นหาวัตถุต่าง ๆ และรากไม้ยาพร้อมทั้งอัฐิกระเบื้อง ถ้า ถ่าน พระเครื่อง กระดูก
และวัตถุโบราณต่าง ๆ ปรากฏว่าได้ขุดค้นพบของแปลก ๆ กันหลายอย่าง จึงสันนิฐานว่าคงจะมีอะไรอีก ที่ยังขุดกันไม่พบ

นอกจากนี้มีของที่น่าคิดอีกหลายอย่างเช่น “หัวกลอย” หัวกลอยนี้ตามปกติถ้าใครกินเข้าดิบ ๆ
ก็จะเมาเบื่อและคันอย่างแรงที่เดียว แต่ทว่ากลอยกอใหญ่ที่อยู่ติดกับเขื่อนของท่านปรากฏว่ารสจืดไปหมด
ประชาชนเก็บเอาเคี้ยวกินเล่นคนละชิ้น 2 ชิ้น จนหมดไม่เหลือ เป็นเรื่องที่แปลกอีกเรื่องหนึ่ง
และเรื่องเบ็ดเตล็ดย่อยอีกมากมายที่หลวงปู่ทวดได้แสดงให้ปรากฏซึ่งสุดวิสัยที่นำมาเล่าทุกอย่างได้ในที่นี่
ที่ข้าพเจ้านำมาเขียนนี้เป็นเพียงส่วนหนึ่งเท่านั้น[/FONT]
</td> </tr> </tbody></table>
 <table class="MsoNormalTable" style="width:502.5pt;mso-cellspacing:0cm;mso-yfti-tbllook:1184;mso-padding-alt: 7.5pt 7.5pt 7.5pt 7.5pt" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="670"> <tbody><tr style="mso-yfti-irow:0;mso-yfti-firstrow:yes;mso-yfti-lastrow:yes"> <td style="padding:7.5pt 7.5pt 7.5pt 7.5pt"> [FONT=&quot]เหตุการณ์ในวันทำพิธีอาราธนา[/FONT]
</td> </tr> </tbody></table>
<table class="MsoNormalTable" style="width:560.5pt;mso-cellspacing:0cm;mso-yfti-tbllook:1184;mso-padding-alt: 7.5pt 7.5pt 7.5pt 7.5pt" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="747"> <tbody><tr style="mso-yfti-irow:0;mso-yfti-firstrow:yes;mso-yfti-lastrow:yes"> <td style="padding:7.5pt 7.5pt 7.5pt 7.5pt"> [FONT=&quot]ตอนเย็นของวันที่ 4 มิถุนายน 2505
ประชาชนต่างก็หลั่งไหลกันไปยังสถานที่ทำพิธี ในบริเวณวัดเดิมของท่านนั้นด้วยจำนวนพัน
เพื่อเฝ้าคอยดูพิธีการอัญเชิญหลวงปู่ทวดในคืนวันนี้ประชาชนเต็มแน่นขนัดไป หมดตามบริเวณนั้น ซึ่งมีประชาชนทั้งใกล้และไกล
ข่าวนี้แพร่สะพัดไปอย่างมิน่าเชื่อซึ่งเป็นความมหัศจรรย์ในเบื้องแรกที่ท่านแสดงอภินิหารได้ปรากฏของตอนค่ำวันนั้น
พิธีเริ่มต้นประมาณ 2 ทุ่มเศษ โหรตั้งศาลทำพิธีบวงสรวงเทวดา ตามพิธีของพราหมณ์ เมื่อเสร็จพิธีของโหร
พระอาจารย์ 9 รูป ซึ่งมีท่านอาจารย์ทิม และพระเดชพระคุณท่านเจ้าคุณสิริสารโสภณ เป็นประธาน เริ่มทำพิธีสวยพุทธมนต์
พอจบพิธีสวดพุทธมนต์พอดี หลวงปู่ทวดของเราเข้าประทับทรงทันที ทำเอาประชาชนที่กำลังเฝ้าคอยดูพิธีอยู่นั้น
ต่างก็ตรึงงันไปตาม ๆ กัน เมื่อท่านเข้าประทับทรงแล้วพระอาจจารย์ที่ทำพิธีก็เข้าไปสัมภาษณ์ถึงเหตุการณ์ ต่าง ๆ ดังต่อไปนี้[/FONT]
</td> </tr> </tbody></table> [FONT=&quot]ผู้ถาม [/FONT][FONT=&quot] นี่ใครกันที่เข้าประทับทรง
หลวงปู่ นี่แหละหลวงปู่ทวดสมภารท่านเจ้าไกร เรามาประทับทรง เพื่อบอกอะไรต่าง ๆ ให้
ผู้ถาม หลวงปู่ทราบแล้วใช่ไหม ว่าลูกหลานต้องการทำพิธีขุดอัฐธาตุและนำหลวงพ่อไปอยู่สถานที่ใหม่
หลวงปู่ เรารู้แล้ว
ผู้ถาม มีพิธีอะไรบ้างที่จะให้ลูกหลานทำในขณะนี้
หลวงปู่ นิมนต์พระบังสุกุลเราก่อน
ผู้ถาม แล้วทำอะไรอีกครับ
หลวงปู่ บังสุกุลเราแล้วทำพิธีสวดถอนนิมิตตรงหลุมฝั่งเราด้วย แล้วให้ลงมือขุดได้
ผู้ถาม หลวงปู่จะให้ลูกหลานขุดตรงไหนถึงจะพบอัฐิธาตุ
หลวงปู่ ให้ขุดโดยรอบบริเวณที่ตั้งพระพุทธรูปออกไป2 ดอกครึ่ง ก็จะพบกระดูกของเราพอดี
ผู้ถาม เมื่อลุกหลานนำหลวงปู่ไปอยู่ในสถานที่ใหม่แล้ว จะปั้นรูป ตัวแทนของหลวงปู่จะได้ไหม
หลวงปู่ ได้แต่ว่าพาเราไปแล้วต้องเชิญชวนพวกบริวารทั้งหมดของเรา ไปด้วย
ผู้ถาม ใครเป็นบริวารของหลวงปู่ละครับ
หลวงปู่ บริวารของเรามีมาก แต่คนสำคัญก็คือคนธรรพ์ พระยางู พระยาเสือ
ผู้ถาม ขอโทษนะครับ ชื่อจริงของหลวงปู่ว่าอย่างไร
หลวงปู่ เราชื่อ “หลวงปู่ทวดสมภารท่านเจ้าไกร”
ผู้ถาม การทำรูปหลวงปู่จะทำได้อย่างไร
หลวงปู่ ให้ทำรูปเราพร้อมพระยางู พระยาเสือด้วย วันทำรูปเรา เราจะแนะนำให้นายช่างทำเอง
ผู้ถาม หลวงปู่ถ้าทำเป็นรูปเข้าแล้ว จะมีอภินิหารไปทางไหนบ้าง
หลวงปู่ ได้ทุกอย่าง แล้วแต่อธิษฐานเอาไปใช้ ไม่ได้อย่างเดียว คือ นำเอาไปใช้ในทางร้าย
ผู้ถาม ลูกหลานทราบว่าในถ้ำวัดในนี้มีของดี ๆ จริงไหม
หลวงปู่ มีของมีค่ามากมาย แต่คนธรรพ์เฝ้ารักษาอยู่
ผู้ถาม บริเวณเขื่อน นอกจากกระดูกจะมีอะไรอีกไหม
หลวงปู่ มีของต่าง ๆ หลายอย่าง ที่ผุพังไปแล้วก็มี
ผู้ถาม หลวงปู่อยู่ที่นี้มาราวประมาณสักกี่ปีละครับ
หลวงปู่ เราอยู่มา 400 กว่าปีแล้ว
ผู้ถาม หลวงปู่มาจากไหน จึงมาอยู่วัดนี้
หลวงปู่ เราเดินธุดงค์เรื่อย ๆ มาจากเมืองสงขลาเดี๋ยวนี้
ผู้ถาม ลูกหลานทราบว่า หลวงปู่มีเส้นผมเป็นทองแดง จริงหรือครับ
หลวงปู่ ตอนนี้พอผู้ถาม ถามเช่นนั้น หลวงปู่ท่านหัวเราะกระเอิก [/FONT][FONT=&quot]กระอ๊ากดี เนื้อต้องใจพร้อมกับพยักหน้ารับว่าจริง จริงอย่างนั้น พอเสร็จจากการสัมภาษณ์แล้ว
บรรดาพระอาจารย์ก็พร้อมกันเอาเทียนชัยข้าวตอกดอกไม้ ที่อยู่ในบริเวณนั้นให้ท่านทำการปลุกเสก
เสร็จจากการปลุกเสกแล้วท่านก็ออกจากประทับทรงทันที
หลังจากนั้นเป็นเวลาใกล้รุ่ง เวลา 04.00 น. พระอาจารย์เริ่มทำพิธีขุด การขุดเป็นที่น่าอัศจรรย์ยิ่ง
พอขุดไปถึงบริเวณ 2 ศอกครึ่ง ตามที่ท่านบอก แต่ลึกลงไปประมาณ 1 เมตรกว่า ก็พบอัฐิธาตุของท่านบรรจุขวดโบราณ
และบริเวณที่ลึกลงไปก็มีเถ้าถ่านอยู่เป็นอันมาก กระดูกบรรจุอยู่ในขวดปรากฏว่าแข็งคล้ายจะกลายเป็นหินไปเลย
ถ้าท่านไปดูของจริงด้วยตาแล้วจะรู้สึกมหัศจรรย์ยิ่งในความแข็งแกร่งของกระดูก ที่ถูกฝังนานถึงปานนั้น
พอรุ่งเช้าวันใหม่ หลังจากการขุดค้นเป็นที่เสร็จเรียบร้อยแล้ว ประชาชนต่างก็หลังไหลกันมาอย่างมืดฟ้ามัวดิน
แน่นขนัดเต็มถนนลายลำพะยา พอได้เวลาพระอาจารย์ทั้งหมดที่ทำพิธี ก็พร้อมกันอัญเชิญดวงวิญญาณ
และอัฐิธาตุของหลวงปู่ขึ้นบุษบกที่เตรียมไว้คอยรับเสร็จแล้วก็เคลื่อนขบวนแห่ไปสู่วัดลำพะยา (วัดสิริปุณณาราม)
เพื่อนำท่านไปสถิตยังสถานที่แห่งใหม่ ณ วัดลำพะยานี้
[/FONT]
<table class="MsoNormalTable" style="width:560.5pt;mso-cellspacing:0cm;mso-yfti-tbllook:1184;mso-padding-alt: 7.5pt 7.5pt 7.5pt 7.5pt" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="747"> <tbody><tr style="mso-yfti-irow:0;mso-yfti-firstrow:yes;mso-yfti-lastrow:yes"> <td style="padding:7.5pt 7.5pt 7.5pt 7.5pt">
</td> </tr> </tbody></table>
<table class="MsoNormalTable" style="width:537.4pt;mso-cellspacing:0cm;mso-yfti-tbllook:1184;mso-padding-alt: 7.5pt 7.5pt 7.5pt 7.5pt" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="717"> <tbody><tr style="mso-yfti-irow:0;mso-yfti-firstrow:yes;mso-yfti-lastrow:yes"> <td style="padding:7.5pt 7.5pt 7.5pt 7.5pt">
</td> </tr> </tbody></table> [FONT=&quot]
[/FONT]

ถิรวุษิ · 3 เมษายน 2011

วันนี้พอแค่นี้ก่อนนะครับ รอพี่นวล คุณล้างใจ พี่บังรอน และก็ลูกหลานหลวงปู่ทวดทั้งหลายมากันก่อน แล้วค่อยมาให้ดูใหม่

Aimee2500 · 3 เมษายน 2011

<table class="MsoNormalTable" style="width:537.4pt;mso-cellspacing:0cm;mso-yfti-tbllook:1184;mso-padding-alt: 7.5pt 7.5pt 7.5pt 7.5pt" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="717"> <tbody><tr style="mso-yfti-irow:0;mso-yfti-firstrow:yes;mso-yfti-lastrow:yes"> <td style="padding:7.5pt 7.5pt 7.5pt 7.5pt"> [FONT=&quot]ปฏิปทาของหลวงพ่อไกร[/FONT]
</td> </tr> </tbody></table> [FONT=&quot] [/FONT]
<table class="MsoNormalTable" style="width:487.5pt;mso-cellspacing:0cm;mso-yfti-tbllook:1184;mso-padding-alt: 7.5pt 7.5pt 7.5pt 7.5pt" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="650"> <tbody><tr style="mso-yfti-irow:0;mso-yfti-firstrow:yes;mso-yfti-lastrow:yes"> <td style="padding:7.5pt 7.5pt 7.5pt 7.5pt" valign="top"> [FONT=&quot]วาระที่ 2 ซึ่งอัญเชิญดวงวิญญาณของท่านเข้าประทับทรง เพื่อต้องการจะทราบความจริงอะไรบางอย่าง
ท่านก็เข้ามาประทับทรงอีก การเข้าประทับทรงครั้งนี้ก็เป็นเรื่องแปลกประหลาดมากที่สุด
คือหลังจากถามข้อความบางอย่างแล้วท่านบอกว่าท่านไม่อยากพูดมาก กลัวไม่ดี
เพราะวาจาของท่านเป็นประกาศิตพูดแล้วท่านอ้าปากออกให้ดู ปรากฏว่าลิ้นของคนทรงซึ่งเป็นลิ้นธรรมดาอยู่เดิม
กลายเป็นลิ้นดำไป ในขณะนั้นแล้วท่านบอกว่าวาจาประกาศิตเพราะเหตุนี้เองพอท่านออกจากทรงแล้ว ลิ้นผู้นั้นก็กลับปกติตามเดิม
ตามที่ท่านเข้ามาประทับทรงครั้งหลังนี้ เมื่อลูกหลานพยายามถามหาของ ท่านก็ให้ริศนาลายแทงไว้ดังนี้

“วัดตะโขลง มีธงราชา มีแก้วสาลิกา โขลงหน้าโขลงหลัง ทัพซ้ายพายเรือ มะเดื่อโขลงตั้ง มีหินทบฝั่ง มะรังมะรา”

นอกจากนี้ท่านยังบอกว่าพระยางูท่านชื่อจริง คือ
1. พระยาโทง
2. พระยาทาส
ไม่ตรงตามที่เขาเล่าสืบ ๆ กันมา ส่วนคำว่าวัดในก็ไม่ตรงแต่เดิมที่เดียว ท่านบอกว่า ชื่อวัดตะโขลง
จึงเป็นเรื่องที่น่าคิดอยู่เหมือนกัน เท่าที่ข้าพเจ้าเขียนเล่ามาทั้งหมดนี้ คงคัดเอามาแต่เรื่องที่เป็นจริงและรู้เห็นกันทั่ว ๆ ไปเท่านั้น
ส่วนเรื่องที่รู้ ๆ กัน เป็นรายบุคคลนั้นไม่ได้ นำมาเล่าเลยเพราะหลักฐานของเราไม่มี การที่เขียนประวัติ
และอภินิหารย่อ ๆ ของหลวงปู่ทวดขึ้นนี้ ก็เพราะในวันเสาร์ที่ 7 กรกฏาคม 2505 เวลา 04.00 น. ใกล้รุ่งนี้
จะทำพิธีหล่อหลวงปู่ทวด จึงใคร่จะแนะนำให้ท่านที่สนใจในหลวงปู่ทวดจะได้รู้เรื่องราวไว้บ้างตามสมควร
ทั้งนี้เพื่อประโยชน์ของหลวงปู่ทวดและทุกท่านที่เคารพนับถือ จะได้ยึดถือเป็นสรณะหนักแน่นยิ่งขึ้นสืบไป[/FONT]
</td> </tr> </tbody></table>

ล้างใจ · 3 เมษายน 2011

จงอาง said: ↑

สวัสดี ขอรับ เพื่อนสมาชิก และลูกหลานหลวงปู่ ทุกท่าน
ใครทราบข้อมูล PM ด่วน มี รางวัล

Click to expand...

พิมพ์ใหญ่แจกกรรมการ

เดา..^^

ล้างใจ · 3 เมษายน 2011

หลวงปู่ทวด วัดเมืองยะลา.เนื้อดำ..พิมพ์ใหญ่.(ไม่จัมโบ้)

rungaran · 3 เมษายน 2011

คิดถึง คุณมี่ จัง ครับ
...คุณมี่ไม่ช่วยคุณภัทร...หาข้อมูลเชิงลึกบ้างหรือครับ
ผมขอตัวเข้านอนก่อนนะครับ บ๊ายบาย

Aimee2500 · 3 เมษายน 2011

..หลวงพ่อทวดไชยสิทธิ์ ...

<table cellpadding="4" cellspacing="0"><tbody><tr><td>[FONT=&quot]..หลวงพ่อทวดไชยสิทธิ์ ...[/FONT][FONT=&quot] [/FONT]</td></tr><tr><td align="center">
<table cellpadding="4" cellspacing="0"><tbody><tr></tr><tr><td><table bgcolor="#CCCCCC" cellpadding="2" cellspacing="1" height="180" width="180"><tbody><tr><td align="center" bgcolor="white"></td></tr></tbody></table></td><td><table bgcolor="#CCCCCC" cellpadding="2" cellspacing="1" height="180" width="180"><tbody><tr><td align="center" bgcolor="white"></td></tr></tbody></table></td><td><table bgcolor="#CCCCCC" cellpadding="2" cellspacing="1" height="180" width="180"><tbody><tr><td align="center" bgcolor="white"></td></tr></tbody></table></td></tr></tbody></table></td></tr><tr><td valign="top">วัด เกษมประทีป (เกาะสะท้อน) เป็นวัดเก่าแก่ในพื้นที่ จ.นราธิวาส ........................... ลำดับเจ้าอาวาส -หลวงพ่อทวดไชยสิทธิ์ (พ่อท่านนายเมรุ) -หลวงพ่อเสาร์ -หลวงพ่อบุญ (ผอม) -หลวงพ่อไสว (เจ้าอาวาสรูปปัจจุบัน) ............................ พระพิมพ์หลวงพ่อทวดไชยสิทธิ์ (พ่อท่านนายเมรุ) พระชุดนี้สร้างขึ้นโดยรวบรวมมวลสารตั้งแต่ก่อนปี 2500 โดยมีหลวงพ่อบุญ (ผอม) เจ้าอาวาสในขณะนั้น เป็นแม่งาน ร่วมกับชาวบ้านเกาะสะท้อน ในการจัดหาว่านยาที่มีคุณวิเศษด้านต่าง ๆ เป็นจำนวนมาก รวมทั้งดอกไม้ที่บูชา อดีตเจ้าอาวาส (หลวงพ่อทวดไชยสิทธิ์+หลวงพ่อเสาร์)และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ภายในวัด และมวลสารที่สำคัญ คือ ข้าวก้นบาตร ที่หลวงพ่อผอม ได้รวบรวมไว้ โดยการนำข้าวที่เหลือก้นบาตรในแต่ละวันมาบริกรรมคาถา แล้วนำไปตากแดดให้แห้ง เมื่อได้จำนวนมากพอแล้วก็นำมาบดรวมกันกับมวลสารอื่น ............................... (กรรมวิธีการบดมวลสารนั้น ได้ใช้การบดด้วยเรือบดขนาดใหญ่ คือจะใช้โม่หิน กลิ้งไปตามรางเรือที่เป็นไม้ เหมือนการบดยาในสมัยก่อน ปัจจุบันเรือบดที่ใช้บดมวลสารในครั้งนั้น ถูกจัดวางโชว์อยู่ในพิพิธภัณฑ์ วัดพระพุทธ อ.ตากใบ จ.นราธิวาส) ............................... เมื่อบดมวลสารได้ ก็จะนำไปทำการกดพิมพ์เป็นครั้งๆ ไป เสร็จแล้วก็จะนำไปเก็บไว้พระอุโบสถ แล้วก็ทำการปลุกเสกเดี่ยว โดยหลวงพ่อบุญ(ผอม) โดยเน้นพระคาถาอิติปิโสฯ สวดไป-กลับ (เดินหน้า-ถอยหลัง) 108 จบ (พระคาถาอิติปิโสฯถอยหลัง เป็นพระคาถาที่องค์สัมมาสัมพุทธเจ้า ได้ให้กลุ่มพระสงฆ์ที่ถูกพวกอสูรกาย มารร้ายหลอกหลอนหวังให้สติพัง สวดแล้วจะแคล้วคลาดปราศจากทุกภัยทุ้งปวง) ................................ หลวงพ่อบุญ (ผอม) จะทำเช่นนี้ไปเรื่อยๆ จนได้จำนวนพระที่ต้องการ (ในการกดพิมพ์พระแต่ละครั้ง ได้พระจำนวนน้อยมาก ซึ่งพระบางส่วนก็ได้แจกจ่ายให้ผู้ที่มาช่วยไปก่อนบ้าง ที่เหลือก็เก็บไว้ ............................... พระรุ่นนี้ใช้ระยะเวลาสร้างอยู่หลายปี ก่อนที่หลวงพ่อบุญ (ผอม) ได้ทำการจัดพิธีพุทธาภิเษกครั้งใหญ่ และแจกจ่ายให้ชาวบ้านอย่างเป็นทางการในปี พ.ศ.2507 ............................... นอกจากพิมพ์หลวงพ่อไชยสิทธิ์ แล้ว ก็ยังได้สร้างพิมพ์พระพุทธขึ้นด้วยอีกประมาณ 2 พิมพ์ สำหรับเนื้อขององค์พระนั้น เดิมทีจะเป็นเนื้อว่านไม่ได้จุ่มรัก แต่เนื้อขององค์พระมีความเปราะแตกหักง่าย ภายหลังหลวงพ่อบุญ (ผอม) ก็ได้นำพระที่เหลือมาจุ่มรัก เพื่อรักษาสภาพขององค์พระให้มีความแข็งแกร่งกว่าเดิม สำหรับพระที่ไม่จุ่มรัก คือพระที่แจกจ่ายไปก่อนหน้านั้นแต่มีจำนวนไม่มากนัก ปัจจุบันพบเห็นได้ยากมาก .............................. พระชุดนี้มีประสบการณ์ดีเยี่ยมเพราะได้อาราธนาขอบารมีของหลวงพ่อทวดไชย สิทธิ์ (พ่อท่านนายเมรุ) และ หลวงพ่อเสาร์ ถือเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ของวัด ............................... ในสมัยที่หลวงพ่อบุญ(ผอม) เป็นเจ้าอาวาสอยู่นั้น สภาพแวดล้อมวัดเต็มไปด้วยป่าทึบ และมากมายไปด้วยวิชาคุณไสยฯมนต์ดำ โดยเฉพาะวิชาคุณไสยฯมนต์ดำ ของชาวมุสลิมในพื้นที่ เป็นวิชาที่มีแรงอาฆาตสูง ชนิดที่ว่าเผลอเป็นไม่ได้ อาจจะถูกทำร้ายได้ตลอดเวลา ดังนั้น หลวงพ่อบุญ(ผอม) จึงใช้วิชาสะกดจับวิญญาณภูตผีที่ดุร้ายมาเป็นบริวาร เพื่อใช้ปกป้องดูแลรักษาอาณาบริเวณวัด คุณไสยฯมนต์ดำที่ชั่วร้ายก็ไม่สามารถทำอะไรได้ และท่านก็ยังได้กำราบผู้ที่คิดร้ายนั้นให้หยุดสร้างความเดือดร้อนให้กับผู้ อื่น เมื่อสิ้นหลวงพ่อบุญ (มรณะภาพ) วิญญาณภูตผีทั้งหลายก็ขาดผู้ดูแล อีกทั้งมักปรากฎกายให้ชาวบ้านพบเห็น จนเป็นที่หวาดกลัว ทางวัดเกรงว่าจะสร้างเดือดร้อนให้กับชาวบ้าน จึงได้รวบรวมผู้มีอาคม (พ่อหมอ) ซึ่งเป็นศิษย์สายวัดเกษมประทีบ(เกาะสะท้อน)ทั้งพระเกจิอาจารย์ และ ฆราวาส ช่วยกันทำการปลดวิญญาณภูตผีทั้งหลาย โดยการสะกดวิญญาณในหม้อดินเผาและนำไปทำพิธีปลดปล่อยวิญญาณที่ชายทะเล ณ บ้านเกาะยาว อ.ตากใบ จ.นราธิวาส ชาวบ้านมักจะเห็นดวงไฟภายในบริเวณวัด และ บริเวณกุฏิเก่าของ หลวงพ่อไชยสิทธิ์(พ่อท่านนายเมรุ) ปรากฏให้เห็นอยู่เสมอ โดยเฉพาะในวันสำคัญทางพระพุทธศาสนา และต่างก็เชื่อว่าเป็นสิ่งศักดิ์ภายในวัดที่มาช่วยปกปักษ์รักษาลูกหลาน ให้อยู่อย่างปลอดภัย ................................ พระชุดนี้มีประสบการณ์โดดเด่นทางด้านแคล้วคลาด และ เมตตามหานิยม โดยเฉพาะช่วงนี้เป็นช่วงที่เกิดเหตุการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ เจ้าหน้าที่ทหารที่ปฏิบัติงานในพื้นที่ ได้มาตั้งหน่วยงานภายในวัด ต่างก็อาราธนาพระชุดนี้ที่ได้รับแจกจากเจ้าอาวาสรูปปัจจุบัน นิมนต์มาขึ้นคอ บางคนได้ปะทะกับกลุ่มผู้ก่อการร้าย โดนสาดกระสุนใส แต่ก็ไม่มีใครได้รับบาดเจ็บเลยสักครั้ง ...............................</td></tr></tbody></table>

rungaran · 3 เมษายน 2011

ฮูเล ฮาฮา คุณมี่จังมาแล้ว ดีใจจังเลย
เฮ เสี่ยล้างใจ(ส๊วยสวย) ก็มาแล้ว...
งั้นผมไปนอนดีก่า... ฝันดีนะครับทุกๆคน
คืนนี้ผมจะฝันถึงลป.ทวด ,ลป.ท่านไกร ครับ..เพี้ยง ...ขอให้ฝันเห็นจริงๆด้วยเถิดครับ
ขอกราบหลวงปู่ทั้ง 2 ท่านครับ สาธุ
และหากผมได้เคยประมาทพลาดพลั้งไป เป็นการ ล่วงเกินหลวงปู่ทุกๆองค์ ด้วยกาย วาจา ใจ ผมขอกราบขมา และ ขอให้หลวงปู่อดโทษให้ด้วยนะครับ

ล้างใจ · 3 เมษายน 2011

rungaran said: ↑

ฮูเล ฮาฮา คุณมี่จังมาแล้ว ดีใจจังเลย
เฮ เสี่ยล้างใจ(ส๊วยสวย) ก็มาแล้ว...
งั้นผมไปนอนดีก่า... ฝันดีนะครับทุกๆคน
คืนนี้ผมจะฝันถึงลป.ทวด ,ลป.ท่านไกร ครับ..เพี้ยง ...ขอให้ฝันเห็นจริงๆด้วยเถิดครับ
ขอกราบหลวงปู่ทั้ง 2 ท่านครับ สาธุ
และหากผมได้เคยประมาทพลาดพลั้งไป เป็นการ ล่วงเกินหลวงปู่ทุกๆองค์ ด้วยกาย วาจา ใจ ผมขอกราบขมา และ ขอให้หลวงปู่อดโทษให้ด้วยนะครับ
Click to expand...

อ้าวไปซะแล้วววววว
ฝันดีฝันดีcatt25

ปะไปด้วย zzzzzzzzzz

charoen.b · 3 เมษายน 2011

ล้างใจ said: ↑

หลวงปู่ทวด วัดเมืองยะลา.เนื้อดำ..พิมพ์ใหญ่.(ไม่จัมโบ้)

Click to expand...

อ้าว...หนีไปนอนกันหมดแล้ว ผมเพิ่งจะมาเอง

เสี่ยไปเช็งเม้งกลับมาก็มีของดีสุดยอดมาให้ชม เยี่ยมมาก...

จงอาง · 3 เมษายน 2011

-------------------------------------------------------------------------
ขอขอบคุณ ทุกท่านขอรับที่กรุณาให้ข้อมูล โดยเฉพาะเจ้ากรมข้อมูล คุณAimee

ขออนุญาตปิด รายการ กระทู้ที่ถาม

King Cobra

charoen.b · 3 เมษายน 2011

องค์นี้ดูเผินๆ คล้ายพระเนื้อชินเลยครับ หนึกนุ่มเนียน สวยเจี๊ยบ

loongtow · 3 เมษายน 2011

จงอาง said: ↑

Click to expand...

องค์นี้งามมากเลยครับ(deejai)

phattharaphong · 4 เมษายน 2011

วันนี้เป็นวันเที่ยวของผมครับเริ่มตั้งแต่ รพ.โคกโพธิ์ (ไปฉีดวัคซีนพิษสุนัขบ้า) ขึ้นเขาไปวัดทรายขาว ไปกราบพ่อท่านพรหม วัดพลานุภาพ ปิดท้ายด้วย วัดศรีมหาโพธิ์

อภินิหารพระยายเขียด

อภินิหารพระยายเขียดเกิดขึ้นในเดือนเดียวกัน 3 เรื่องดังนี้

1.เมื่อวันที่ 16 มค 2550 เวลาประมาณ 17.30 น. ขณะที่นายสง่า (ขอสงวนนามสกุล )ได้ขับจยย . ไปยังถนนเส้นทาง ปัตตานี - หนองจิก เพื่อกลับบ้านพัก นั้นได้มีคนร้ายขับขี่รถจยย.เข้าประกบ และคนร้ายได้ยิงมาที่นายสง่า จำนวน 3 นัด กระสุนถูกบริเวณศรีษะ หลังและแขนซ้าย บริเวณละนัด จากการตรวจสอบพบเพียงรอยจ้ำแดงที่บริเวณศรีษะ หลังและแขน บริเวณศรีษะกระสุนได้ทะลุหมวกกันน็อค บริเวณหลังและแขนกระสุนได้ทะลุเสื้อของนายสง่าโดยไม่เกิดบาดแผล เป็นเพียงรอยจ้ำแดงเท่านั้น ซึ่งจาดการสอบถาม นายสง่า ได้บอกว่าแขวนพระยายเขียดเหรียญรูปวงรีเนื้อทองแดงกะไหล่ทอง ซึ่งปลุกเสกที่วัดนิคมสถิตย์ (บ้านยางแดง) หมู่ 4 ต.นาประดู่ อ.โคกโพธิ์ จ.ปัตตานี

2.เมื่อวันที่ 26 มค 2550 เวลา 09.40 น. เกิดเหตุระเบิดที่ ถ.นาเกลือ ปากซอยนิยมเก่า ม.8 ต.บานา อ.เมือง จ.ปัตตานี ปรากฏว่า นายมนู (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 52 ปี และป้าเจริญเจ้าของร้านกาแฟขณะยืนอยู่และนายผาด (ขอสงวนนามสกุล) (ช่างสิทธิ์) ช่างสุทิน ช่างมนัส ช่างเจริญ และช่างคล่องร่วมกันนั่งดื่มกาแฟหน้าร้านปาก ซ.นิยมเก่า ใกล้จุดเกิดเหตุประมาณ 4-5 ม. แรงระเบิดทำให้กลุ่มบุคคลดั่งกล่าวล้มลงแต่ไม่ได้รับอันตรายใด ๆ ทั้งสิ้น เพียงแค่เสื้อผ้าขาดเท่านั้น เมื่อสอบถามนายมนูและป้าเจริญ แขวนเหรียญรูปวงรีเนื้อทองแดงรมดำ ช่างสุทินแขวนเตารีดพิมพ์ใหญ่กลางเล็ก 3 รุ่น และเนื้อว่าน ช่างมนัสแขวนเตารีดพิมพ์ใหญ่ ช่างเจริญแขวนเตารีดพิมพ์กลาง และช่างคล่อง แขวนเตารีดเล็ก ปลุกเสก ณ วัดนิคมสถิตย์ เมื่อวันที่ 21 มิย.2536 ส่วนบุคคลอื่น ๆ ที่อยู่ในรัศมีของระเบิด ได้รับบาดเจ็บ 3 คน เสียชีวิต 1 คน

3.เมื่อวันที่ 25 มค. 2550 เวลาประมาณ 11.30 น. นายวิชาญ (ขอสงวนนามสกุล) อาชีพต่อเรือแผนกช่างไม้ของคานเรือศิริอุดม ถ.ปากน้ำ ม.8 ต.บานา อ.เมือง จ.ปัตตานี ขณะกำลังตัดไม้กระดานด้วยเลื่อยวงเดือน นายวิชาญ ได้เอาเท้าเหยียบไม้ไว้กันไม่ให้ไม้กระดานเคลื่อนที่ พอไม้กระดานขาด เลื่อยก็สะบัดมาที่เท้า เท้าถูกคมเลื่อย บริเวณส้นเท้าอย่างแรงเป็นที่น่ามหัศจรรย์จริงในฉับพลันเครื่องจักรหยุดทำงานในทันที โดยไม่มีใครไปปิดเครื่องแต่อย่างใด เพื่อน ๆ ก็ช่วยกันตรวจสอบ ปรากฏว่าส้นรองเท้าขาด แต่ส้นเท้าของนายวิชาญ ไม่มีบาดแผลแต่อย่างใด และสามารถทำงานต่อไปได้อย่างปกติ ในวันนั้นมี นายเดช (ขอสงวนนามสกลุ) และเพื่อนร่วมงานอยู่ด้วยต่างเห็นเหตุการณ์เป็นที่น่าอัศจรรย์ยิ่งนักเมื่อสอบถาม นายวิชาญ ทราบว่าแขวนพระยายเขียดรูปวงรีเนื้อทองแดงกะไหล่ทอง ปลุกเสก ณ วัดนิคมสถิตย์ เมื่อวันที่ 21 มิย. 2536

พระรุ่นนี้สร้างเมื่อ วันที่ 21 มิย. 2536 มีเหรียญวงรีกระไหลทองธรรมดาและลงยา (สวยจริงครับ) เหรียญหยดน้ำเนื้อทองแดงกระไหล่ทองและลงยาและรมดำ กระไหล่เงิน พิมพ์หลังเตารีดทองแดงใหญ่ กลาง เล็ก ฯ ผู้ปลุกพระยายเขียดในครั้งนี้ มี อ.นอง วัดทรายขาว อ.พล วัดนาประดู่ พ่อท่านเขียว วัดห้วยเงาะ หลวงปู่แดง วัดศรีมหาโพธิ์ พ่อท่านหย่วน วัดช้างให้ และเกจิอื่น ๆ อีกมากมาย

ข้อมูลทั้งหมดจากวัดนิคมสถิตย์ เผยแพร่เป็นวิทยาทาน ตามเดิมข้อมูลจากวัดระบุ ชื่อ นามสกุล และบ้านเลขที่ ของผู้พบอภินิหารพระยายเขียด ไว้อย่างชัดเจนครับ แต่ผมไม่ได้ขออนุญาติมาโดยตรง จึงไม่สามารถพิมพ์ลงไปได้ครับ

phattharaphong · 4 เมษายน 2011

ถิรวุษิ said: ↑

Click to expand...

เห็นแว๊บแรกทำให้นึกถึง หลวงพ่อทวด วัดแจ้ง สงขลา ปี 06 เลยครับ สวยจริง ๆ

loongtow · 4 เมษายน 2011

phattharaphong said: ↑

วันนี้เป็นวันเที่ยวของผมครับเริ่มตั้งแต่ รพ.โคกโพธิ์ (ไปฉีดวัคซีนพิษสุนัขบ้า) ขึ้นเขาไปวัดทรายขาว ไปกราบพ่อท่านพรหม วัดพลานุภาพ ปิดท้ายด้วย วัดศรีมหาโพธิ์

อภินิหารพระยายเขียด

อภินิหารพระยายเขียดเกิดขึ้นในเดือนเดียวกัน 3 เรื่องดังนี้

1.เมื่อวันที่ 16 มค 2550 เวลาประมาณ 17.30 น.ขณะที่นายสง่า (ขอสงวนนามสกุล )ได้ขับจยย .ไปยังถนนเส้นทาง ปัตตานี - หนองจิก เพื่อกลับบ้านพักนั้นได้มีคนร้ายขับขี่รถจยย.เข้าประกบ และคนร้ายได้ยิงมาที่นายสง่า จำนวน 3 นัดกระสุนถูกบริเวณศรีษะ หลังและแขนซ้าย บริเวณละนัดจากการตรวจสอบพบเพียงรอยจ้ำแดงที่บริเวณศรีษะ หลังและแขนบริเวณศรีษะกระสุนได้ทะลุหมวกกันน็อคบริเวณหลังและแขนกระสุนได้ทะลุเสื้อของนายสง่าโดยไม่เกิดบาดแผลเป็นเพียงรอยจ้ำแดงเท่านั้น ซึ่งจาดการสอบถาม นายสง่าได้บอกว่าแขวนพระยายเขียดเหรียญรูปวงรีเนื้อทองแดงกะไหล่ทองซึ่งปลุกเสกที่วัดนิคมสถิตย์ (บ้านยางแดง) หมู่ 4 ต.นาประดู่ อ.โคกโพธิ์จ.ปัตตานี

2.เมื่อวันที่ 26 มค 2550 เวลา 09.40 น. เกิดเหตุระเบิดที่ ถ.นาเกลือ ปากซอยนิยมเก่า ม.8 ต.บานา อ.เมือง จ.ปัตตานี ปรากฏว่า นายมนู (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 52 ปี และป้าเจริญเจ้าของร้านกาแฟขณะยืนอยู่และนายผาด (ขอสงวนนามสกุล) (ช่างสิทธิ์) ช่างสุทิน ช่างมนัส ช่างเจริญ และช่างคล่องร่วมกันนั่งดื่มกาแฟหน้าร้านปาก ซ.นิยมเก่า ใกล้จุดเกิดเหตุประมาณ 4-5 ม. แรงระเบิดทำให้กลุ่มบุคคลดั่งกล่าวล้มลงแต่ไม่ได้รับอันตรายใด ๆ ทั้งสิ้น เพียงแค่เสื้อผ้าขาดเท่านั้น เมื่อสอบถามนายมนูและป้าเจริญ แขวนเหรียญรูปวงรีเนื้อทองแดงรมดำ ช่างสุทินแขวนเตารีดพิมพ์ใหญ่กลางเล็ก 3 รุ่น และเนื้อว่าน ช่างมนัสแขวนเตารีดพิมพ์ใหญ่ ช่างเจริญแขวนเตารีดพิมพ์กลาง และช่างคล่อง แขวนเตารีดเล็ก ปลุกเสก ณ วัดนิคมสถิตย์ เมื่อวันที่ 21 มิย.2536 ส่วนบุคคลอื่น ๆ ที่อยู่ในรัศมีของระเบิด ได้รับบาดเจ็บ 3 คน เสียชีวิต 1 คน

3.เมื่อวันที่ 25 มค. 2550 เวลาประมาณ 11.30 น. นายวิชาญ (ขอสงวนนามสกุล) อาชีพต่อเรือแผนกช่างไม้ของคานเรือศิริอุดม ถ.ปากน้ำ ม.8 ต.บานา อ.เมือง จ.ปัตตานี ขณะกำลังตัดไม้กระดานด้วยเลื่อยวงเดือน นายวิชาญ ได้เอาเท้าเหยียบไม้ไว้กันไม่ให้ไม้กระดานเคลื่อนที่ พอไม้กระดานขาด เลื่อยก็สะบัดมาที่เท้า เท้าถูกคมเลื่อย บริเวณส้นเท้าอย่างแรงเป็นที่น่ามหัศจรรย์จริงในฉับพลันเครื่องจักรหยุดทำงานในทันที โดยไม่มีใครไปปิดเครื่องแต่อย่างใด เพื่อน ๆ ก็ช่วยกันตรวจสอบ ปรากฏว่าส้นรองเท้าขาด แต่ส้นเท้าของนายวิชาญ ไม่มีบาดแผลแต่อย่างใด และสามารถทำงานต่อไปได้อย่างปกติ ในวันนั้นมี นายเดช (ขอสงวนนามสกลุ) และเพื่อนร่วมงานอยู่ด้วยต่างเห็นเหตุการณ์เป็นที่น่าอัศจรรย์ยิ่งนักเมื่อสอบถาม นายวิชาญ ทราบว่าแขวนพระยายเขียดรูปวงรีเนื้อทองแดงกะไหล่ทอง ปลุกเสก ณ วัดนิคมสถิตย์ เมื่อวันที่ 21 มิย. 2536

พระรุ่นนี้สร้างเมื่อ วันที่ 21 มิย. 2536 มีเหรียญวงรีกระไหลทองธรรมดาและลงยา (สวยจริงครับ) เหรียญหยดน้ำเนื้อทองแดงกระไหล่ทองและลงยาและรมดำ กระไหล่เงิน พิมพ์หลังเตารีดทองแดงใหญ่ กลาง เล็ก ฯ ผู้ปลุกพระยายเขียดในครั้งนี้ มี อ.นอง วัดทรายขาว อ.พล วัดนาประดู่ พ่อท่านเขียว วัดห้วยเงาะ หลวงปู่แดง วัดศรีมหาโพธิ์ พ่อท่านหย่วน วัดช้างให้ และเกจิอื่น ๆ อีกมากมาย

ข้อมูลทั้งหมดจากวัดนิคมสถิตย์ เผยแพร่เป็นวิทยาทาน ตามเดิมข้อมูลจากวัดระบุ ชื่อ นามสกุล และบ้านเลขที่ ของผู้พบอภินิหารพระยายเขียด ไว้อย่างชัดเจนครับ แต่ผมไม่ได้ขออนุญาติมาโดยตรง จึงไม่สามารถพิมพ์ลงไปได้ครับ
Click to expand...

อื้อฮือ...ประสบการณ์น่าหวาดเสียวทั้งนั้นเลยครับ แล้วไม่มีเรื่องของรุ่นเนื้อว่านมั่งเหรอครับ

เข้าสู่ระบบหรือลงทะเบียน

ใครศรัทธา หลวงปู่ทวด เหยียบน้ำทะเลจืด มาพูดคุยกันครับ

ถิรวุษิ เป็นที่รู้จักกันดี

ถิรวุษิ เป็นที่รู้จักกันดี

ถิรวุษิ เป็นที่รู้จักกันดี

ถิรวุษิ เป็นที่รู้จักกันดี

Aimee2500 เป็นที่รู้จักกันดี

ไฟล์ที่แนบมา:

หลวงพ่อไกร วัดลำพะยา จ.ยะลา 00.jpg

หลวงพ่อไกร วัดลำพะยา จ.ยะลา 03.jpg

ถิรวุษิ เป็นที่รู้จักกันดี

Aimee2500 เป็นที่รู้จักกันดี

ล้างใจ เป็นที่รู้จักกันดี

ล้างใจ เป็นที่รู้จักกันดี

rungaran เป็นที่รู้จักกันดี

Aimee2500 เป็นที่รู้จักกันดี

rungaran เป็นที่รู้จักกันดี

ล้างใจ เป็นที่รู้จักกันดี

charoen.b เป็นที่รู้จักกันดี

จงอาง เป็นที่รู้จักกันดี

ไฟล์ที่แนบมา:

j11.jpg

charoen.b เป็นที่รู้จักกันดี

loongtow เป็นที่รู้จักกันดี

phattharaphong เป็นที่รู้จักกันดี

phattharaphong เป็นที่รู้จักกันดี

loongtow เป็นที่รู้จักกันดี

แชร์หน้านี้

แชร์หน้านี้

เข้าสู่ระบบหรือลงทะเบียน

ใครศรัทธา หลวงปู่ทวด เหยียบน้ำทะเลจืด มาพูดคุยกันครับ

ไฟล์ที่แนบมา:

หลวงพ่อไกร วัดลำพะยา จ.ยะลา 00.jpg

หลวงพ่อไกร วัดลำพะยา จ.ยะลา 03.jpg

ไฟล์ที่แนบมา:

j11.jpg

แชร์หน้านี้

การค้นหาที่มีประโยชน์

ติดต่อเรา