เชิญมาแชร์ ประสบการณ์ วัตถุมงคล หลวงปู่คำบุ และ ครูบาอาจารย์ สายอีสานค่ะ ค่ะ

สวัสดีค่ะ มีท่านสมาชิกสอบถามเข้ามาเรื่องวิธีการบูชาวัตถุมงคลของหลวงปู่เขียน ลินได้ไปสอบถามและก๊อปใบวิธีการมาให้ลองปฏิบัติกันดูนะคะ ขอให้บารมีหลวงปู่เขียนและครูบาอาจารย์ทุกๆพระองค์คุ้มครองทุกๆท่านค่ะ

 

สวัสดีค่ะ เมื่อวันที่ 30/10/58 ลินได้ไปร่วมพิธีปลุกเสก กริ่งสายรกพระพุทธเจ้าและเหรียญนั่งพานหลวงปู่ธรรมลุน ณ. สำนักสงฆ์ภูไห และได้รับเมตตาครอบครูกับ พ่อแก่เพชรดำ แห่งเมืองสุพรรณบุรี ท่านได้มอบขุนแผนมาให้ 1 องค์ ไปกราบครูบาทันใจ ท่านก็ได้มอบลูกแก้วมาให้ 1 ลูก และได้เข้าไปกราบท่านพระมหาสุรศักดิ์ วัดประดู่ ให้ท่านเมตตาจารเหรียญให้ ท่านยังเมตตามอบชานหมากมาให้ 1 คำ ดีใจมากๆสุดยอดประสบการณ์ดีๆค่ะ

 

สวัสดีค่ะ ขอนำภาพงานพิธีถวายกฐินวันนี้ 15/11/58 ที่ วัดหนองโนมาให้ชมกันค่ะ สรุปยอดกฐินของวันนี้อย่างไม่เป็นทางการ = 1,010,750 บาท ( หนึ่งล้านหนึ่งหมื่นเจ็ดร้อยห้าสิบบาท) วันนี้ลินและพี่ๆได้ไปต้งโรงทานแจกขนมมาค่ะ ขอนำบุญนี้มาฝากทุกๆท่านด้วยค่ะ ขอร่วมอนุโมทนาบุญกับทุกๆท่านด้วยนะคะ ขอให้เฮงๆรวยทุกๆท่านค่ะ (ปลายกฐินเลขสวยพรุ่งรวยๆกันนะคะ)

 

หลวงปู่บุญ วัดบ้านหมากมี่ จ.อุบล ท่านอายุ.96 ปี แต่ท่านยัง ทำงานแบบไม่คิดเรื่องอายุที่ใกล้จะ 100ปี ตัดไม้,กวาดลานวัด,ทำปะคำโทน,ซ่อมแซมเครื่องมือต่างๆภายในวัด
ท่าน San Sam Udom Dach เคยถามปู่ว่า..ปู่ไม่เหนื่อยหรอครับ
...ปู่ตอบว่าเหนื่อยแต่ก็ทน...ทำให้เป็นตัวอย่างทำเพื่อส่วนรวม....เราแก่แล้ว
ทำประโยนช์ให้มากๆ...
...ถามปู่ว่าทำตระกร้าทำไม?
...ปู่ตอบ..ทำตระกร้าเอาไว้เก็บใบตอง แล้วเอามาทำเป็นหลังค่า...(ฝาแทบตอง)มุงในงานบุญ..คนมาร่วมงานจึงจะไม่ร้อนเหมือนอยู่ในเต้นท์.
...แล้วครกไม้ที่หลวงปู่ท่านซ่อมมัน....เพราะปู่ใช้ตำข้าวให้แมวกับหมาที่ประชาชนนำมาปล่อยจน..จนครกเเตกออกเป็น 2 ซีก .
หลวงปู่ท่านใจดี,เมตตาและจริยวัตรงดงามมากๆค่ะ ท่านใดได้มาอุบลฯ ก็แวะไปกราบพระอริยะสงฆ์ของเมืองอุบลอีกรูปหนึ่งได้นะคะ

 

สุดยอดเครื่องราง ต้อนรับปีใหม่ 2559 สืบสานตำราสำเร็จลุน แห่งนครจำปาสัก เขี้ยวเสือสะกดมหาพุธาคม สร้าง +เสก ช่วยศิษย์ แก้และกันสิ่งไม่ดีเสริมบารมีแด่ผู้บูชาติดตัวให้มีแต่ความเจริญรุ่งเรือง ร่ำรวย.

หลวงปู่เร็ว ฉันทโก วัดหนองโน ต.สำโรง อ. ตาลสุม จ.อุบลฯ ศิษย์ผู้สืบสานตำรามหาอาคมขลัง ของหลวงปู่ญาท่าสวน ฉันทโร วัดนาอุดม จ. อุบลฯ ท่านได้รับการถ่ายทอดสรรพวิชาไว้จนหมดสิ้น ท่านได้ปฏิบัติภาวนาสมาธิจนบังเกิดความแก่กล้า เป็นที่เคารพกราบไหว้บูชาของชาวบ้านในจังหวัดอุบลฯ และทั่วไปอย่างกว้างข้าง
หลวงปู่เร็ว ท่านเปี่ยมด้วย เมตตาธรรม ผู้ใดเดินทางมากราบไหว้ ท่านก็จะมีเมตตาให้กับทุกๆคน บางคนได้ลาภใหญ่หลวง บางคนการงานดีขึ้น การค้าขายเจริญรุ่งเรื่อง มีความร่มเย็นเป็นสุข ทั้งแคล้วคลาดอันตรายไม่ว่าจะเดินทางด้วยทางรถ ทางเรือ หรือแม้นแต่ทางอากาศ ลูกศิษย์ของท่านมีทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ แวะเวียนเดินทางมากราบไหว้ท่านอยู่เสมอ
ท่ามกลางเมืองใหญ่ของอุบลฯ หลวงปู่เร็วท่านเป็นหนึ่งในสุดยอดเกจิอาจารย์ ของเมืองอุบลฯ ในเวลานี้ สืบต่อจากพระอาจารย์ของท่าน หลวงปู่ญาท่านสวน อดีตพระอาจารย์ผู้มากด้วยบุญบารมียิ่ง ศิษย์ผู้เจริญรอยตามครูบาอาจารย์ น้ำมนต์ ของขลัง ทั้งพระเครื่องและวัตถุมงคล ของท่านมากด้วยประสบการณ์ ดีเด่นดัง ผู้ใดมีไว้ติดตัวจะบังเกิดผล ทั้งป้องกันภัย เป็นเมตตามหานิยม คนชื่นชม ติดต่อการค้าขายดี ทั้งทางโชคลาภดียิ่งนัก.
เขี้ยวเสือสะกดมหาพุธาคม หลวงปู่เร็วท่านได้นำเอาชนวนมวลสารต่างๆ ที่เหลือจากการจัดสร้าง พระกริ่งโปร่งฟ้ามหาเศรษฐี ซึ่งถือว่าชนวนรุ่นนี้ดีที่สุด เข้มขลังสุด เพราะได้นำเอาแผ่นยันต์จาดพระเกจิอาจารย์ชื่อดัง และเหรียญคณาจารย์ต่างๆอีกมากมายมาหล่อหลอมรวมกันเป็นหนึ่ง
หลวงปู่เร็ว ท่านได้อธิฐานจิต ปลุกเสกเอาไว้ให้หลายรอบหลายวาระด้วยกัน เพราะท่านรู้ว่าปีหน้า 2559 ศิษย์ทุกคนจะต้องประสบกับปัญหาเศรษฐกิจที่ฝืดเคือง บางคนดวงชง บางคนดวงตก จึงได้จัดสร้างเขี้ยวเสือสะกดมหาพุทธาคม ขึ้นมาเพื่อแก้และกันในครั้งนี้ โดยได้นำเอายันต์ครูของหลวงปู่ญาท่านสวน มาไว้ที่ตัวเสือและเขี้ยวเสือ วางเอาไว้อย่างลงตัง จึงทำให้เขี้ยวเสือสะกดมหาพุทธาคม ที่จัดสร้างในครั้งนี้ ดีทั้งนอก ดีทั้งใน ซึ่งยันต์ต่างๆได้ถอดความดังนี้

ยันต์แก้วสารพัดนึก " นะมะอะอุ" หรือยันต์ดวงแก้ว ยันต์นี้มีอทธิคุณเข้มขลังทั้งทางด้านคงกระพันชาตรี แคล้วคลาดอันตราย เป็นเมตตามหานิยมพร้อมสรรพทั้งทางบังเกิดโชคลาภทั้งปวง ค้าขายติดต่องานดียิ่ง

ยันต์ธาตุทั้ง 4 "ยันต์นะ" นี้ครูบาอาจารย์เจ้าทั้งหลายต้องใช้ภาวนาในการหนุนธาตุและเป็นหัวใจสำคัญ ยิ่งในการลงเครื่องรางของขลัง ปลุกเสกพระเครื่อง " นะ " คือธาตุดิน " มะ " คือธาตุน้ำ " พะ " คือธาตุลม " ทะ " คือธาตุไฟ ดินน้ำลมไฟ มีอุปเทห์ใช้หนุนธาตุให้บังเกิดความศักดิ์สิทธิ์ยิ่ง และมีอานุภาพในตัวทั้งทางป้องกันภูติผีปีศาจร้าสทั้งหลาย เป็นเมตตามหานิยมทั้งคนและเทวดา ทั้งยังเสกด้วยคาถากาสลัก " จะพะกะสะ" สายสำเร็จลุน ท่านจะใช้หนุนธาตุด้วยมนต์คาถากาสลักด้วยยิ่งเพิ่มอิทธิคุณยิ่ง

ยันต์ครู นะทรงเครื่อง หรือ นะหัวใจธรรม หลวงปู่ญาท่านสวน ใช้ทำของขลังทุกครั้งท่านต้องใช้ยันต์นะนี้ทุกครั้ง ยันต์นะนี้มีอิทธิคุณครบครัน แคล้วคลาดเด่นยิ่ง ทั้งจังงัง ศัตรูจำหน้าไม่ได้รอดพ้นภัย ดลใจให้คนคิดร้ายพ่ายแพ้ภัยไปในที่สุด ให้ท่องคาถาภาวนาว่า" พะมะจะคะ" นะพญาเสือโคร่ง นะตัวนี้มีอิทธิคุณทางมหาอำนาจมีตะบะแรงกล้า ภาวนาแล้วใช้มือเขียนยันต์นะตัวนี้ลงเสกเป่าแล้วตบที่หน้าผากด้วย ไปไหนคนเห็นเกร็งกลัวบารมีอำนาจไม่กล้าทำอันตราย ให้คิดยำเกรงกลัวต่อเรา รอดพันภัยแม้นแต่สัตว์ที่ดุร้าย เมื่อเห็นและเข้าใกล้ยังหลีกหนีห่างไปไกล อีกทั้งยังเป็นคงกระพันชาตรีด้วย

นะพรหมส่องโลก มีอิทธิคุณเด่นทางด้านมหาอุตม์ ปิดภัยร้ายทั้งหลายไม่ให้กล่ำกลายมาใกล้ กันอันตรายทั้งหลายทั้งปวง กันคุณไสย์ ไล่สิ่งอัปมงคล เป็นเกราะแก้วกำบังกาย นะพรหมส่องโลกตัวนี้ดีเด่นยิ่งนัก ภาวนาคาถาพุทธคุณลงกระหม่อมหรือภาวนาแล้วตบหน้าผากสุดยอดยิ่งนัก

หลวงปู่เร็วท่านใช้ยันต์ทั้งหมดนำมาลงในเขี้ยวเสือสะกดมหาพุทธาคม ถือว่าสุดยอดแห่งเครื่องรางของขลัง ดีเด่นทั้งทางป้องกันอันตราย แคล้วคลาดกันภัย เป็นเมตตาต่อคนทั้งหลายให้เมตตาสงสาร ติดต่อการงานการค้าขายดียิ่งนัก ทั้งทางมหาลาภหาเงินคล่องดียิ่ง ไปไหนปลอดภัยเป็นทั้งมหาอำนาจในสรรพคุณ มีไว้ติดตัวดียิ่ง แม้นแต่เม็ดกริ่งที่บรรจุเอาไว้ด้านใน ยังได้หล่อจากชนวนพระกริ่งโปร่งฟ้ามหาเศรษฐีทุกตัว จึงมีความเข้มขลังความศักดิ์สิทธิ์ ทั้งภายนอกและภายใน ส่งผลให้บังเกิอิทธิคุณสูงยิ่ง
เขี้ยวเสือสะกดมหาพุทธาคม หลวงปู่เร็วที่จัดสร้างในครั้งนี้สามารถพกติดตัวไปได้ทุกที่ ดีทุกแห่ง ไม่มีคำว่าเสื่อม กลับร้ายกลายเป็นดี มีแต่ความเจริญรุ่งเรืองตลอดปีและตลอดไป .
ท่านใดอยากจะได้ครอบครอง ต้องสั่งจองตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไปถึงวันที่ 5 มกราคม 2559 เท่านั้น หลวงปู่เร็ว ท่านจะอธิฐานจิตปลุกเสกเดี่ยวอีกครั้ง เป็นวาระสุดท้ายก่อนเปิดให้ศิษย์ได้บูชาในวันที่ 9 มกราคม 2559 หลังเสร็จพิธีให้รับและบูชาวัตถุมงคลที่สั่งจองได้ทันที.

 

รูปอัศจรรย์....งานพิธีเพลิงพระศพสมเด็จพระสังฆราช....น้อมกราบส่งเสด็จสู่พระนิพานเจ้าค่ะ

 

เมื่อคืนนี้ตอนสี่ทุ่มขับหลับในชนเสาไฟฟ้าขาดครึ่งทึ่คอสะพานโดมกิ่งสว่างวีระวงค์ อุบล รถพังยับแต่คนขับปลอดภัยไม่เป็นไรเลย คนขับเชื่อว่าปฏิหารย์ จากเหรียญเจริญพร หลวงปู่ธรรมลุน ฐิตธมโม ช่วยเขาไว้ค่ะ (ขอบคุณบทความและรูปภาพ จะ คุณ สนและ คุณ กอล์ฟ)

 

สิริมงคลเริ่มต้นได้ที่ บ้าน....เมื่อศรัทธาเต็ม กายพร้อม ใจพร้อม ปัฏิบัติบูชาไม่ใช่เรื่องยาก....สวดมนต์ข้ามปีที่บ้านค่ะ..ขออำนาจสิ่ง ศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายในสากลโลก จงดลบรรดาลให้ตัวข้าพเจ้า คุณบิดามารดา สามีภรรยา บุตรชายหญิง คุณครูบาอาจารย์ ญาติสนิทมิตรสหายและผู้อันเป็นที่เคารพรักของข้าพเจ้า ลูกค้าทุกๆท่าน จงมีความสุขความเจริญยิ่งๆขึ้นไป ทั้งทางโลกและทางธรรม...อีกทั้งเจ้ากรรมนายเวรได้อโหสิกรรมและได้ไปเกิดในภพ ภูมิที่สูงยิ่งๆขึ้นไปค่ะ...สุขสันต์วันปีใหม่ 2559 ค่ะ

 

ประสพการณ์จริง!!พระกริ่งสายรกพุทธเจ้า รุ่นรวยอมตะ หลวงปู่ญาท่านอ่อง เทพเจ้าแห่งลำน้ำมูล
ADmin no.13 ขออนุญาติลูกพี่ต้นและแอดมินทุกท่านครับ
แชร์ประสบการณ์ พระกริ่งสายรก เนื้อนวะก้นเงิน ของน้องช็อป
วันที่ 30 ธ.ค.58
สภาพรถหลังจากชนท้ายรถเก๋ง พุ่งลงข้างทาง กระโดดน้ำข้ามคลองไป
ยางแตก เพลาล้อหัก ส่วนตัวน้องปลอดภัยดีตกใจนิดหน่อย ซึ่งตำรวจบอกว่า ตรงนี้ตายประจำ
(บทความจากเฟส คุณ Ittipat Visitsak )

 

อัตตะชีวประวัติ
ศิษย์บูรพาจารย์ ๕ เสือตาลสุม
พระครูโสภณพัฒนานุกูล (ญาท่านแก้ว รวิวัณโณ)
วัดโนนงาม บ้านปากห้วย ตำบลตาลสุม อำเภอตาลสุม จังหวัดอุบลราชธานี
ญาท่านแก้ว รวิวัณโณ เดิมชื่อนายหนูยี่ ใสงาม ชื่อเล่นแก้ว เกิดเมื่อวันพุธ ที่ ๑๒ เดือนพฤษภาคม ๒๔๘๖ (ขึ้น ๙ ค่ำ เดือน ๖ ปีมะแม) เป็นบุตรคนโต ในจำนวนพี่น้อง ๘ คน ชาย ๔ คน หญิง ๔ คน บิดามารดาเป็นผู้นับถือพระรัตนตรัยฝักใฝ่ในพระพุทธศาสนา เข้าวัดทำบุญมิได้ขาดโดยเฉพาะบิดาถวายตัวเป็นลูกศิษย์ของพระครูวิบูลสมณวัตร หรือ ญาท่านบุญ ธมฺมทีโป วัดนาห้วยแคนเมื่อครั้งได้ช่วยงานสร้างศาลาการเปรียญวัดดอนพันชาด เป็นต้นมา
การศึกษาจบชั้นประถมศึกษาปีที่ ๔ จากโรงเรียนบ้านดอนพันชาด เมื่อเรียนจบก็ช่วยพ่อแม่ทำนาและลงหาปลาในแม่น้ำมูล เลี้ยงชีพในหน้าแล้ง เมื่อญาท่านบุญ เห็นเด็กชายแก้ว ใสงาม เมื่อตอนติดตามโยมพ่อไปช่วยงานวัดดอนรังกา ด้วยความเอ็นดูจึงเอ่ยปากขอจากโยมพ่อโยมแม่ให้บวช เด็กชายแก้ว ใสงาม ได้บวชเป็นสามเณรแก้ว ใสงาม ในปี ๒๕๐๑ และได้คอยติดตาม ญาท่านบุญไปที่วัดนาห้วยแคนด้วยเป็นเด็กว่านอนสอนง่ายและมีความจำดีเป็นเลิศ จึงเรียนสวดมนต์เจ็ดตำนาน สิบสองตำนาน เรียนอักษรสมัย ตัวขอม ตัวธรรมจนอ่านออกเขียนได้ และศึกษานักธรรมตรี โท เอก จบตั้งแต่เป็นสามเณร คอยติดตามรับใช้ ญาท่านบุญในการไปทำงานบูรณะวัดต่างๆอยู่หลายปี เมื่อ ญาท่านบุญย้ายไปเป็นเจ้าอาวาสวัดคำหว้า (พระครูวิบูลสมณวัตร หรือญาท่านบุญวัดนาห้วยแคน อดีตเจ้าคณะตำบลตาลสุม เป็นลูกศิษย์ของหลวงปู่พระครูวิโรจน์รัตโนบล อดีตเจ้าคณะจังหวัดอุบลราชธานี และได้เคยติดตามพระครูวิโรจน์รัตโนบลไปบูรณะพระธาตุพนมเมื่อปี พ.ศ. ๒๔๗๖ จบวิชาช่าง หลายสาขาโดยเฉพาะวิชาช่างไม้ ได้นำความรู้มานำพาชาวบ้านบูรณะวัดในเขตปกครองของท่านและไปจำพรรษาหลายวัด เช่น
๑. วัดนาห้วยแคน ต.ตาลสุม อ.พิบูลมังสาหาร(ปัจจุบัน อ.ตาลสุม) จ.อุบลราชธานี
๒. วัดบูรพาจิกลุ่ม ต.จิกเทิง อ.พิบูลมังสาหาร(ปัจจุบัน อ.ตาลสุม) จ.อุบลราชธานี
๓. วัดค้อโคน ต.จิกเทิง อ.พิบูลมังสาหาร(ปัจจุบัน อ.ตาลสุม) จ.อุบลราชธานี
๔. วัดคำหว้า ต.ตาลสุม(ปัจุบัน ต.คำหว้า) อ.พิบูลมังสาหาร(ปัจจุบัน อ.ตาลสุม) จ.อุบลราชธานี
๕. วัดเชียงแก้ว ต.จิกเทิง อ.พิบูลมังสาหาร(ปัจจุบัน อ.ตาลสุม) จ.อุบลราชธานี (วัดสุดท้ายที่ท่านจำพรรษาก่อนที่จะมรณภาพ)
เมื่อญาท่านบุญไปจำพรรษาวัดคำหว้าสามเณรแก้วจึงได้กลับมาอยู่วัดโนนงาม บ้านปากห้วย บ้านเกิดเพื่อเรียนบาลีกับพระมหาโชคชัย เปรียญธรรม ๕ ประโยค ที่กลับมาจากกรุงเทพมาตั้งสำนักเรียนบาลีที่วัดปากห้วย จนอายุ ๑๙ ปี พ.ศ.๒๕๐๖ ได้พลัดตกบันไดกุฏิทำให้ขาหักกระดูกสะโพกเคลื่อน รักษาตัวอยู่วัด ด้วยความเป็นห่วงลูกโยมพ่อโยมแม่จึงให้ลาสิกขา มารักษาตัวที่บ้าน โดยไม่ได้บอกกล่าวญาท่านบุญท่านทราบข่าวจึงเดินทางมาเยี่ยมด้วยความห่วงใยและตำหนิบิดามารดาแต่ไม่ว่าอะไรมาก เมื่อรักษาจนแผลหายสนิทดีแล้ว ครบยี่สิบปีพอดีนายแก้ว ใสงาม จึงได้บวชเป็นพระภิกษุโดยมีญาท่านบุญเป็นเจ้าภาพอุปถัมภ์ พร้อมกับพ่อแม่ เมื่อวันที่ ๒๒ มีนาคม ๒๕๐๗ ได้ ฉายาว่า “รวิวัณโณ”
มี พระครูวิบูลสมณวัตร(ญาท่านบุญ)วัดคำหว้า เป็นพระอุปัชฌาย์
พระครูสุตเขตคุณาภรณ์ (ญาท่านแพง วัดนามน) เป็นพระกรรมวาจาจารย์
พระส่วน โฆษโก เป็นพระอนุสาวนาจารย์ (ต่อมาพระส่วน โฆษโก ได้เป็นเจ้าอาวาสวัดนาห้วยแคน)
พระแก้ว รวิวัณโณ วัยหนุ่ม มักจะติดตามคณะญาท่านบุญไปบูรณะวัดต่างๆ อยู่เป็นประจำ และทุกๆปี ญาท่านบุญจะนำพาคณะศิษย์จากอุบลราชธานีเดินทางไปกราบพระธาตุพนมทุกปี ในเดือน ๓ และเปิดประตูพระธาตุพนมให้คนเข้าสักการะข้างใน จึงเป็นที่มาของคนเฒ่าคนแก่เล่าขานกันว่า ญาท่านบุญเปิดธาตุบ้าง ญาท่านบุญไม่ไปไม่ได้กราบธาตุ คือหมายเปิดประตูพระธาตุพนม เพราะญาท่านบุญเป็นผู้สืบทอดถือกุญแจดอกสำคัญอีกดอกหนึ่งเมื่อใกล้เดือนสามเพ็ง วันขึ้น ๑๕ ค่ำเดือน ๓ ท่านจะเดินทางไป อำเภอพระธาตุพนม หลังจากไหว้ธาตุเสร็จท่านมักจะพาแวะปลีกวิเวกเดินทางไปกราบนมัสการครูบาอาจารย์แถว สกลนคร นครพนม มุกดาหาร เรื่อยมา มีญาติโยมที่รู้จักในกิติศัพท์ของท่านก็จะนิมนต์ให้สงเคราะห์ เช่นการทำการขอเทวดาอารักษ์เจ้าที่ ตัดต้นไม้ใหญ่ ออกจากไร่นา ออกจากวัดที่ไม้ใหญ่อยู่ใกล้กุฏิวิหาร หรือปราบเจ้าที่ดุร้ายเป็นมิจฉาทิฐิท่านก็จะใช้ตำรายันต์ฝังดาบปราบแปดทิศ โดยมีลูกศิษย์ที่ติดตามไปเป็นลูกมือเป็นการสอนภาคปฏิบัติโดยการทำให้ดู ให้เกิดความชำนาญ ไม่ว่าจะเป็นการทำดาบจากไม้ไผ่ปลายกุดกลางกอตามตำราถือว่าเป็นไม้ที่มี “ทนสิทธิ์” ดีในตัว ลงอักขระธรรมกำกับ แล้วปักลงพื้นดินรอบบริเวณพร้อมกับสวดคาถากำหลาบให้ลดละพยศ ก่อนที่จะเทศน์โปรด แล้วแผ่เมตตาให้บุญอีกรอบ
ในปี พ.ศ. ๒๕๑๒ พระแก้ว รวิวัณโณ ได้กลับมาดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดโนนงาม บ้านปากห้วย เนื่องจากพระมหาโชคชัย ซึ่งเป็นอาจารย์ท่านได้เดินทางกลับกรุงเทพมหานคร ญาท่านบุญ ได้เรียกท่านเข้าพบและอบรมจารีตของนักปกครอง ในการครองตน ครองคน ครองใจ ในการปกครองชาวบ้านคนหมู่มาก
ในปี พ.ศ.๒๕๑๕ พระแก้ว รวิวัณโณ ได้กราบเรียนญาท่านบุญพระอุปัชฌาย์ ว่าจะสร้างโบสถ์ ขณะนั้นท่านได้มาดูแลการสร้างศาลาการเปรียญที่วัดบ้านดอนพันชาดและเดินทางไปมาระหว่างบ้านเชียงแก้วและบ้านดอนพันชาด ท่านจะแวะมาพักที่วัดบ้านปากห้วยและบ้านดอนตะลี ท่านบุญรับปากว่าจะมาช่วยดูแลการสร้างโบสถ์ ท่านกำหนดเขตให้ และอยู่วัดปากห้วยหลายวันติดญาท่านบุญให้พระแก้วอยู่กับท่านตลอด ท่านจะสอนการปกครองและให้จดเอาคาถาตามที่ท่านบอกเพิ่มเติม ให้จดเอาตำราเขียนตะกรุดกันผีผูกข้อมือเด็กน้อย และตำรายันต์ฝังดาบปราบแปดทิศ แก้ที่มีเจ้าที่ดุร้าย การวางหลักของดาบ สวดถอดถอนแก้เสนียด ปัดรังควาญ พร้อมกับถามทดสอบความจำ ห้ามลาสิกขาอยู่เป็นที่พึ่งของญาติโยม ท่านกำชับแน่วแน่เหมือนกับจะสั่งลา ก่อนญาท่านบุญจะละสังขารที่บ้านเชียงแก้ว ในปี ๒๕๑๕ นั้นเอง
เมื่อฌาปนกิจศพพระครูวิบูลสมณวัตร พระอุปัชฌาย์เรียบร้อย ในปี ๒๕๑๖จึงได้ลงมือสร้างอุโบสถ ตามแบบที่หลวงปู่ญาท่านบุญ ท่านกำหนดและออกแบบไว้ให้เพื่อเป็นการสืบสานรอยครูและแล้วเสร็จในปี ๒๕๑๘
เมื่อญาท่านบุญละสังขาร พระแก้ว รวิวัณโณ ก็มาคอยรับใช้พระครูสุตเขตคุณาภรณ์ (ญาท่านแพง โกวิโท) อดีตเจ้าคณะอำเภอตาลสุม วัดนามน ซึ่งเป็นพระกรรมวาจาจารย์ เป็นอาจารย์ที่ของท่านอีกรูป ญาท่านแพงในวัยหนุ่มมักถือปลีกวิเวกวันดีคืนดี ท่านมักจะชวนไปนั่งสมาธิตามแนวชายป่าตามที่ว่ามีผีดุๆ แถวตาลสุม ศรีเมืองใหม่ ดอนมดแดง และมักจะพาแวะกราบบุญศรี ปณฺฑิโต วัดโนนจิก ตำบลตาลสุม(ปัจจุบันตำบลนาคาย) ซึ่งเป็นลูกศิษย์ในหลวงปู่ธรรมโสดาโสม วัดเหล่าแดง และแวะกราบหลวงปู่มาย หรือหลวงปู่บุญโฮม กนฺตสีโล วัดดอนรังกา ที่เป็นลูกศิษย์พระครูวิโรจน์รัตโนบลอีกด้วย หลวงปู่มายสมัยเด็กท่านเคยมาศึกษาเล่าเรียนเป็นเด็กวัด ที่วัดบ้านปากห้วย ท่านชอบเล่าความหลังของบ้านปากห้วยสมัยท่านมาอยู่ให้ฟังให้ฟัง จึงสนิทสนมเป็นพิเศษ หลวงปู่มายนี้เองท่านถือครอบครองตำรากรุพระธาตุพนมอีกเล่มหนึ่งท่านมักจะนำมาเปิดให้ดู ถ้าชอบบทไหนท่านก็จะสอนโดยไม่หวง ปัจจุบันตำราเล่มนี้อยู่กับลูกหลานแถบอำเภอพิบูลน่าเสียดายมาก และญาท่านแพงท่านจะพาไปกราบหลวงปู่ญาท่านสวน ฉันทโร วัดสำโรง อยู่เป็นประจำและในการไปวัดสำโรงนี้เองพระแก้วได้เจอพระอนันต์ ปโยโค สหธรรมมิกคู่ใจ ศิษย์หลวงปู่ญาท่านสวน แม้จะอายุอ่อนกว่าท่านถึงสามปี นับถือเป็นพี่เป็นน้องกันตลอดมาและทั้งสองรูปนี้ดำรงตำแหน่งเจ้าคณะตำบลทั้งคู่ในการต่อมา
ญาท่านแก้วอยู่ครองตนครองวัตรด้วยความสมถะเรียบง่าย คอยสงเคราะห์ญาติโยมด้วยหลักธรรมแห่งการปกครอง ตามที่ญาท่านบุญและญาท่านแพง ผู้เป็นอาจารย์สอน ด้วยดีเสมอมา เมื่อปี ๒๕๔๒ ได้รับแต่งตั้งเป็นรองเจ้าคณะตำบลตาลสุม และดำรงตำแหน่งเจ้าคณะตำบลตาลสุม ในปี ๒๕๔๘ สืบรอยอาจารย์ สานงานก่อ ต่องานครูดูแลปกครองคณะสงฆ์ตำบลตาลสุม สืบมา
โยมอุปัฏฐากคู่บุญเมื่อศาลาการเปรียญหลังเก่าเริ่มทรุดโทรมตามการเวลา ท่านได้นำพาชาวบ้านลูกหลานจัดตั้งกองผ้าป่าและหาเจ้าภาพจึงได้เดินทางไป กทม. ด้วยอาจาริยาวัตรเรียบ ร้อย พูดน้อย งดงาม ได้พบกับคุณชาญ เล็กประเสริฐ และคุณเพ็ญศรี เล็กประเสริฐ ที่บางขุนเทียน จึงได้นำกฐินมาทอดที่วัดโนนงาม บ้านปากห้วย เมื่อมาเห็นกุฏิที่พักของญาท่านแก้ว ที่มีความเป็นอยู่ด้วยความสมถะเรียบง่ายก็ปวารณาสร้างกุฏิรับรอง ของพระที่มาติดต่องานคณะสงฆ์ถวายอีกด้วย และนำกฐินผ้าป่ามาทอดอีกหลายครั้งในปีต่อๆมา
สร้างอุโบสถหลังที่สองในวัดเดียวเนื่องจากอุโบสถหลังเดิมเกิดชำรุดเพราะปลวกกัดแทะกินเนื้อไม้หมดจึงทำให้หลังคาทรุดลงมา ญาท่านแก้วจึงปรึกษาชาวบ้านซ่อมแซม แต่เนื่องจากหลังคาเสีย หายเกือบทั้งหมดจึงมีมติที่จะรื้อ โดยให้เหตุผลว่าถ้าจะซ่อมก็ ซ่อมทั้งหมด อีกประการคือ อุโบสถหลังเดิมมีขนาดเล็ก สร้างความกลัดกลุ้มให้แก่ญาท่านแก้วเป็นอย่างมากที่พยายามเพื่อจะรักษามรดกที่รำลึกถึงญาท่านบุญ ผู้เป็นพระอุปัชฌาย์ ทราบข่าวถึงลูกศิษย์ที่ถวายปวารณาตัวไว้ในกิจการงานวัดโนนงาม และมีความตั้งใจปรารถนาเป็นทุนเดิมที่จะสร้างอุโบสถถวายอยู่พอดี เกิดความปีติยินดียิ่งจึงบอกญาท่านแก้ว โดยจะอาสารับเป็นประธานในการจัดหาทุนร่วมกับชาวบ้านปากห้วย และตระกูลแสนทวีสุข ต้นตระกูลเจ้าเมืองอุบลเก่า และคณะศรัทธาทางภาคตะวันออกพร้อมลูกหลานชาวบ้านปากห้วยที่ไปทำงานต่างถิ่น จึงได้ทำการวางศิลาฤกษ์สร้างในปี ๒๕๕๑ แล้วเสร็จ ในปี ๒๕๕๓ ใช้ระยะเวลาก่อสร้างเพียงสองปีด้วยความศรัทธา
ญาท่านแก้ว รวิวัณโณ เจ้าอาวาสวัดโนนงาม บ้านปากห้วย พระเถระผู้มีความสมถะเรียบง่าย อ่อนน้อมถ่อมตน มักสันโดษ พูดน้อย คมในฝักด้วยบารมีครูร่ำเรียนจบตำราจากพระครูวิบูลสมณวัตร ญาท่านบุญวัดนาห้วยแคน เรียนวิชาการปกครอง เรียนกรรมฐาน และวิชาสีผึ้งมหาเสน่ห์เมตตาค้าขายจาก ญาท่านแพง วัดนามน เรียนตำราธาตุ กรุพระธาตุพนมจากหลวงปู่บุญโฮม วัดดอนรังกา และหลวงปู่บุญศรี วัดโนนจิก และน้อมนำการปฏิบัติเรียบง่าย อยู่ด้วยความสมถะ แบบหลวงปู่ญาท่านสวน ฉันทโร วัดนาอุดม ปัจจุบันดำรงตำแหน่งเจ้าคณะตำบลตาลสุม ที่ราชทินนาม “พระครูโสภณพัฒนานุกูล” ญาท่านแก้ว รวิวัณโณ ปกครองคณะสงฆ์แบบบิดาปกครองบุตร ตามรอยครูบาอาจารย์สืบต่อไป.
(บทความ ท.เสก)

 

ตำนานบูรพาจารย์ ๕ เสือตาลสุม ญาท่านบุญ ธมฺมทีโป วัดคำหว้า
ประวัติพระครูวิบูลสมณวัตร (บุญ ธมฺมทีโป)
เจ้าอาวาสวัดนาห้วยแคน เจ้าคณะตำบลตาลสุม
นามและชาติภูมิ
- นามเดิม : บุญ ลีลา
- นามบิดา : นายแสงทอง ลีลา
- นามมารดา : นางอ่อนสี ลีลา
- ชาติกาล : วันอาทิตย์ ขึ้น 1 ค่ำ เดือน 9 ปีชวด ตรงกับวันที่ 6 สิงหาคม พ.ศ. 2442
- ชาติภูมิ : ณ บ้านนาห้วยแคน ตำบลตาลสุม อำเภอพิบูลมังสาหาร(ปัจจุบัน อ.ตาลสุม) จังหวัดอุบลราชธานี มีพี่น้องร่วมสายโลหิตเดียวกัน 2 คน คือ
1. นางสุชาดา มุขสมบัติ (ถึงแก่กรรมแล้ว) เป็นภรรยาของ "ขุนตาลสุม" ซึ่งเป็นกำนันคนแรกของตำบลตาลสุม
2. พระครูวิบูลสมณวัตร (บุญ ลีลา)
บรรพชา
- เมื่ออายุ 14 ปี ได้บรรพชา ณ วัดนาห้วยแคน ต.ตาลสุม อ.พิบูลมังสาหาร จ.อุบลราชธานี
- พระอธิการเพ็ง เป็นพระอุปัชฌาย์
อุปสมบท
เมื่อวันที่ 1 เมษายน พ.ศ. 2462 ได้อุปสมบท ณ พัทธสีมาวัดนาห้วยแคน ต.ตาลสุม อ.พิบูลมังสาหาร จ.อุบลราชธานี
- พระครูวิโรจน์รัตโนบล อดีตเจ้าคณะจังหวัดอุบลราชธานี วัดทุ่งศรีเมือง เป็นพระอุปัชฌาย์
- พระโฮม เจ้าอาวาสวัดดอนรังกา เป็นกรรมวาจาจารย์
สำนักวัด
เมื่ออุปสมบทแล้ว ได้จำพรรษาในอารามต่าง ๆ ดังนี้
1. วัดนาห้วยแคน ต.ตาลสุม อ.พิบูลมังสาหาร(ปัจจุบัน อ.ตาลสุม) จ.อุบลราชธานี
2. วัดเหนือกลางพิบูล ต.พิบูล อ.พิบูลมังสาหาร จ.อุบลราชธานี
3. วัดทุ่งศรีเมือง ต.ในเมือง อ.เมืองอุบล จ.อุบลราชธานี
4. วัดบูรพาจิกลุ่ม ต.จิกเทิง อ.พิบูลมังสาหาร(ปัจจุบัน อ.ตาลสุม) จ.อุบลราชธานี
5. วัดค้อโคน ต.จิกเทิง อ.พิบูลมังสาหาร(ปัจจุบัน อ.ตาลสุม) จ.อุบลราชธานี
6. วัดคำหว้า ต.ตาลสุม(ปัจุบัน ต.คำหว้า) อ.พิบูลมังสาหาร(ปัจจุบัน อ.ตาลสุม) จ.อุบลราชธานี
7. วัดเชียงแก้ว ต.จิกเทิง อ.พิบูลมังสาหาร(ปัจจุบัน อ.ตาลสุม) จ.อุบลราชธานี
การศึกษา
ได้เรียนอักขระสมัยหนังสือไทย และเรียนสวดมนต์ทำวัตร เจ็ดตำนาน สิบสองตำนาน ตลอดปาฏิโมกข์จบ ทรงจำได้แม่นยำ ฝ่ายนักธรรม สอบได้ชั้นตรี เมื่อ พ.ศ. 2464 ณ สำนักวัดสระแก้วพิบูล สอบได้ชั้นโท เมื่อ พ.ศ. 2483 ณ วัดนาห้วยแคน
การปกครอง
- เป็นเจ้าอาวาส วัดนาห้วยแคน
- เป็นพระอุปัชฌาย์ เมื่อวันที่ 5 สิงหาคม พ.ศ. 2473
- เป็นตำแหน่งเจ้าคณะตำบลตาลสุม เมื่อวันที่ 17 มิถุนายน พ.ศ.2481
การก่อสร้าง
ท่านพระครูพระครูวิบูลสมณวัตร เป็นผู้เอาใจใส่และมีฉันทะในการก่อสร้างและปฏิสังขรณ์เสนาสนะตามวัดต่าง ๆ ดังนี้
1. พ.ศ. 2471 ได้ก่อสร้างโบสถ์ วัดนาห้วยแคน ต.ตาลสุม 1 หลัง และได้เป็นผู้ดำเนินงานสร้าง โบสถ์วัดโพธิ์ศรี ต.โพธิ์ศรี ในโอกาสเดียวกันด้วย
2. พ.ศ. 2474 ได้ก่อสร้างโบสถ์ วัดบูรพา(บ้านจิกเทิง) 1 หลัง
3. พ.ศ. 2475 ได้ก่อสร้างศาลาการเปรียญ วัดนาห้วยแคน 1 หลัง
4. พ.ศ. 2476 ได้ไปช่วยซ่อมพระธาตุพนม จ.นครพนม ร่วมกับอาจารย์ คือ พระครูวิโรจน์รัตโนบล วัดทุ่งศรีเมืองอุบลฯ
5. พ.ศ. 2481 ได้ก่อสร้างโบสถ์ วัดเชียงแก้ว ต.จิกเทิง อ.พิบูลฯ
6. พ.ศ. 2483 ได้สร้างกุฏิ วัดบูรพา จิกลุ่ม 1 หลัง
7. พ.ศ. 2493 ได้สร้างกุฏิ วัดคำหว้า ต.ตาลสุม อ.พิบูลฯ
8. พ.ศ. 2494 ได้ก่อสร้างศาลาการเปรียญ วัดดอนพันชาด ต.ตาลสุม อ.พิบูลฯ
9. พ.ศ. 2499 ได้สร้างโรงเรียนประชาบาล (ร่วมกับทางราชการบ้านเมือง) บ้านคำหว้า ต.ตาลสุม 1 หลัง
อุปนิสัย
ท่านมีความขยันหมั่นเพียรมานะอดทน ซื่อสัตย์ ตรงไปตรงมา เมตตา โอบอ้อมอารี บำเพ็ญประโยชน์ต่อส่วนรวม เพียบพร้อมไปด้วยสมณสารูปน่าเลื่อมใส และมีความยินดีในการทำบุญบริจาคทานการกุศล ทำนุบำรุงศาสนา ปฏฺบัติกิจวัตร สวดมนต์ ทำวัตร มิได้ขาด ตลอดการฟังสวดปาฏิโมกข์ ท่านพอใจมากจะถือโอกาสสวดด้วยตนเองเสมอ เคารพพระวินัยอย่างเคร่งครัด ท่านรักความยุติธรรม ไม่เบียดเบียนและสร้างความเดือดร้อนให้ใคร หากสิ่งใดเป็นไปเพื่อความยุติธรรม ท่านจะต้องดำเนินการเต็มความสามารถ เพื่อดำรงไว้ซึ่งความเป็นธรรมโดยความเมตตาด้วยกายกรรม วจีกรรมและมโนธรรม เพราะความตรงไปตรงมาและสัจจะของท่านนี้เอง จึงทำให้ท่านสามารถเอาชนะจิตใจของพุทธศาสนิกชน แม้ผู้นั้นจะไม่เลื่อมใสแต่ในที่สุด เมื่อได้เห็นความตรงไปตรงมาและเคร่งครัดของท่าน ได้ละทิ้งทิฏฐิมานะหันมาเคารพนับถือท่านเป็นอันมาก
สมณศักดิ์พัดยศ
ได้เป็นพระครูวิบูลสมณวัตร เมื่อ วันที่ 5 ธันวาคม พ.ศ. 2495 ชั้นตรี และได้เลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระครูสัญญาบัตรชั้นโท เมื่อ พ.ศ. 2506
คุณสมบัติพิเศษ
เนื่องจากท่านพระครูวิบูลสมณวัตร เป็นลูกศิษย์องค์สำคัญของท่านพระครูวิโรจน์รัตโนบล(พระครูดีโลด) วัดทุ่งศรีเมือง ได้ถ่ายทอดวิชาช่างแกะสลัก วิชาก่อสร้าง และพุทธาคมทุกอย่างเป็นอย่างดี ท่านจึงดำเนินปฏิปทาตามแบบอาจารย์ คือเป็นผู้มีฉันทะในการก่อสร้างวัดวาอารามบูรณะปฏิสังขรณ์เสนาสนะเป็นอันมากไว้ในพระศาสนา สงเคราะห์ อนุเคราะห์ญาติโยม และพุทธศาสนิกชนด้วยการปลดเปลื้องความทุกข์ทางใจ แม้จะเป็นระยะทางไกลแสนไกล หากมีผู้ไปขอความช่วยเหลือและเมตตา ท่านจะไปช่วยเหลือและแก้ไขให้ทุกราย โดยเฉพาะการถอดถอนอาถรรณ์เสนียดจัญไร ถูกคุณไสย คุณผีเบียดเบียน ท่านทำได้ศักดิ์สิทธิ์ตามแบบอาจารย์ ตอนบั้นปลายชีวิตท่านได้ทำประโยชน์แก่ประเทศชาติด้วยการแจกเครื่องรางของขลัง เสื้อยันต์ ตะกรุด ผ้าประเจียด ฯลฯ แก่ตำรวจทหารที่ทำหน้าที่ป้องกันประเทศชาติเป็นจำนวนมาก ผู้ที่ได้รับแจกสิ่งของนำไปใช้ได้รับผลในทางแคล้วคลาด และคงกระพันชาตรี ทั้งในสงครามเกาหลีเวียดนามและปราบปรามการก่อความไม่สงบชายแดน นอกจากนี้ท่านยังได้อนุญาตให้จัดสร้างเหรียญรุ่นแรกและเป็นเหรียญรุ่นเดียวที่ท่านได้จัดสร้างและอธิษฐานจิตปลุกเสกด้วยตัวท่านเองซึ่งนับเป็นคุณสมบัติพิเศษของท่านประการหนึ่ง
ขอขอบพระคุณข้อมูลจาก ฅนตาลสุม มา ณ ที่นี้ครับ (บทความ ท.เสก)

 

ขอนำเรียนประวัติเกียรติคุณบูรพาจารย์ ห้าเสือตาลสุม (ญาท่านบุญศรี)
หลวงพ่อพระครูศิริบุญญาภรณ์(บุญศรี ปญฺฑิโต) ฉายาของท่าน แปลว่า "ผู้งามด้วยบุญ ผู้เป็นบัณฑิต" พรรษา ๕๙ อายุ ๗๙ ปี อดีตเจ้าอาวาสวัดบ้านโนนจิก อดีตเจ้าคณะตำบลจิกเทิง ต.จิกเทิง อ.ตาลสุม จ.อุบลราชธานี ได้ถึงแก่มรณภาพ เมื่อวันที่ ๙ เมษายน ๒๕๓๙
- บรรพชาเมื่อ วันที่ ๒๕ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๔๗๗ ณ วัดบ้านเหล่าแดง ตำบลเหล่าแดง อำเภอเมือง จังหวัดอุบลราชธานี
นามพระอุปัชฌาย์ เจ้าอธิการโสม วัดบ้านเหล่าแดง ตำบลเหล่าแดง อำเภอเมือง จังหวัดอุบลราชธานี
- อุปสมบท เมื่ออายุท่านได้ ๒๑ ปี ณ วัดท่าศิลา ตำบลเหล่าแดง อำเภอเมือง จังหวัดอุบลราชธานี โดยมี
- ญาท่านธรรมโสดา (โสม) เจ้าคณะตำบลเหล่าแดง เป็นพระพระอุปัชฌาย์
- พระอธิการปิง เจ้าอาวาสวัดบ้านหนองหิน เป็นพระกรรมวาจารย์
- พระมหาดาน เจ้าอาวาสวัดบ้านแดง เป็นพระอนุสาวนาจารย์
เมื่อวันที่ ๑๒ เดือนเมษายน พ.ศ. ๒๔๘๑ เวลา ๐๙.๑๙ โดยได้รับนามฉายาเป็นภาษามคธ ว่า ปณฺฑิโต แปลความว่า ผู้เป็นบัณฑิต
ท่านเป็นพระเกจิอาจารย์ที่มีชื่อเสียงและเป็นที่เคารพ ศรัทธาของชาวอำเภอตาลสุมอีกท่านหนึ่งครับ ซึ่งมีพระเกจิอาจารย์ของอำเภอตาลสุมที่ร่วมสมัยเดียวกันกับท่าน คือ
1. พระครูวิบูลย์สมณวัตร(หลวงปู่บุญ ธมฺมทีโป) วัดบ้านคำหว้า ต.คำหว้า อ.ตาลสุม จ.อุบลราชธานี (มรณะภาพแล้ว)
2. พระครูอาทรพัฒนคุณ (หลวงปู่ญาท่านสวน ฉนทฺโร) ต.คำหว้า อ.ตาลสุม จ.อุบลราชธานี (มรณะภาพแล้ว)
3. พระพระครูสุเขตคุณาภรณ์ (หลวงปู่แพง โกวิโท) อดีตเจ้าคณะอำเภอตาลสุมและเจ้าอาวาสวัดบ้านนามน ต.ตาลสุม อ.ตาลสุม จ.อุบลราชธานี (มรณะภาพแล้ว)
4. พระครูปิยสีลวัฒน์ (บุญโฮม กนฺตสีโล) วัดบ้านดอนรังกา ต.ตาลสุม อ.ตาลสุม จ.อุบลราชธานี (มรณะภาพแล้ว)(บทความ ท.เสก)

 

ประวัติบูรพาจารย์ห้าเสือตาลสุม หลวงปู่มาย วัดดอนรังกา
พระครูปิยะสีละวัฒน์ นามเดิมพระอธิการบุญโฮม กนฺตสีโล เจ้าอาวาสวัดบ้านดอนรังกา ตำบลตาลสุม อำเภอตาลสุม จังหวัดอุบลราชธานี
ท่านพระครูปิยะสีละวัฒน์ เกิดเมื่อวันที่ ๖ เดือนเมษายน พ.ศ.๒๔๖๔ ตรงกับวันพฤหัสบดี ขึ้น ๑๐ ค่ำ เดือน ๕ ปีจอ ที่บบ้านปากโดม ตำบลโพธิ์ไทร อำเภอพิบูลมังสาหาร จังหวัดอุบลราชธานี โยมพ่อชื่อ นายชาย ชมศรี โยมแม่ นางเฟื้อย ชมศรี มีพี่น้องร่วมมารดา ๘ คนคือ
๑. นางฮู้ ชมศรี ถึงแก่กรรมแล้ว
๒. นางบู๋ ชมศรี ถึงแก่กรรมแล้ว
๓. นางเฮ้า ชมศรี ถึงแก่กรรมแล้ว
๔. นายบุญโฮม ชมศรี (พระครูปิยะสีละวัฒน์)
๕. นายเสาร์ ชมศรี ถึงแก่กรรมแล้ว
๖. นางหนูสิน ชมศรี ยังมีชีวิตอยู่
๗. นางทองอินทร์ ชมศรี ถึงแก่กรรมแล้ว
๘. นายบุญมี ชมศรี ยังมีชีวิตอยู่
ประวัติการศึกษา
- อายุย่างเข้า ๑๐ ขวบ บิดามารดาได้ส่งเข้าเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ ๑ โรงเรียนบ้านปากโดม ตำบลโพธิ์ไทร อำเภอพิบูลมังสาหาร จังหวัดอุบลราชธานี นายบุญศรี สายอ่อน เป็นครูใหญ่
- เด็กชายบุญโฮม ชมศรี เมื่อได้เข้าโรงเรียนแล้ว เป็นผู้ที่มีความตั้งใจศึกษาเล่าเรียนเป็นอย่างดี มีความขยันหมั่นเพียร เชื่อฟังคำอบรมสั่งสอนของครูอาจารย์เป็นอย่างดีจนได้รับคำยกย่องชมเชยจากครูผู้สอนโดยสม่ำเสมอ เป็นตัวอย่างของนักเรียนในชั้นเดียวกัน
- เมื่อจบชั้นประถมศึกษาปีที่ ๔ แล้ว เพราะความยากจนของพ่อแม่จึงไม่มีโอกาสได้เรียนต่อ จึงได้ออกมาช่วยพ่อแม่ทำนา ประกอบสัมมาอาชีพอยู่ตามประสาของคนชนบท
- ครั้งต่อมาปี พ.ศ. ๒๔๘๐ พ่อแม่หวังที่จะให้ลูกได้ศึกษาเล่าเรียน ให้ได้มีวิชาความรู้ในการดำรงชีวิตมีอนาคตอันสดใส และได้ศึกษาธรรมะคำสอนในพระพุทธศาสนาจึงได้นำไปฝากไว้เป็นเด็กวัด อยู่กับหลวงปู่แก้ว ดวงดี วัดโนนงาม บ้านปากห้วย ตำบลตาลสุม อำเภอตาลสุม จังหวัดอุบลราชธานี
- ในปี พ.ศ. เดียวกันหลวงปู่แก้ว ดวงดี ได้พาไปอยู่วัดบ้านดอนตะลี และได้บรรพชาเป็นสามเณร โดยท่านพระครูวิบูลสมณวัตร เป็นพระอุปปัชฌาย์ เมื่อออกพรรษาแล้ว หลวงปู่แก้วได้นำไปฝากตัวเป็นศิษย์ของท่านพระครูวิโรจน์รัตโนบล (รอด) เจ้าคณะจังหวัดอุบลราชธานี วัดทุ่งศรีเมือง อำเภอเมือง จังหวัดอุบลราชธานี ได้ศึกษาวิชาการต่าง ๆ จากท่านพระครูวิโรจน์รัตโนบล เป็นเวลานานถึง ๕ ปี จึงได้กลับมาอยู่วัดปากโดม ตำบลโพธิ์ไทร อำเภอพิบูลมังสาหาร จังหวัดอุบลราชธานี
- วันที่ ๖ กุมภาพันธ์ ๒๔๘๗ ได้อุปสมบทเป็นพระภิกษุ ที่วัดบ้านเดื่อโดม ตำบลโพธิ์ไทร อำเภอพิบูลมังสาหาร จังหวัดอุบลราชธานี หลวงพ่อพระครูพิศาลโพธิวัตร เป็นพระอุปัชฌาย์ หลวงพ่อพระครูญาณวิสุทธิ์คุณ เป็นกรรมวา-จาจารย์ หลวงพ่อพระครูภัทรธรรมวิบูลย์ เจ้าคณะอำเภอพิบูลมังสาหาร เป็นพระอนุสาวนาจารย์ ได้ศึกษาธรรมะวินัย สวดมนต์เจ็ดตำนาน สิบสิงตำนาน และพระโอวาทปาฏิโมกข์จนจบ
พ.ศ. ๒๔๙๕ สอบได้นักธรรมชั้นตรี จากสำนักวัดสร้างแก้วใต้
พ.ศ. ๒๔๙๙ สอบได้นักธรรมชั้นโท จากสำนักเรียนวัดโพธิ์ตาก
พ.ศ. ๒๕๑๕ สอบได้นักธรรมชั้นเอก จากสำนักเรียนวัดโพธิ์ตาก
สมณศักดิ์ที่ได้รับการแต่งตั้ง
๒๕๑๒ เป็นเจ้าอาวาสวัดวัดบ้านดอนรังกา
๒๕๓๐ ได้รับแต่งตั้งเป็นรองเจ้าคณะตำบลตาลสุม
๒๕๓๒ ได้รับแต่งตั้งเป็นท่านพระครูชั้นโท (พระครูปิยะสีละวัฒน์) (บทความ ท.เสก)

 

สวัสดีค่ะ วันนี้เป็นวันครบรอบการวันมรณของ หลวงปู่คำบุ คุตตฺจิตโต วัดกุดชมภู ทางวัดจึงได้จัดงาน เททองรูปเหมือนหลวงปู่คำบุ ขนาดเท่าองค์จริงหน้าตัก 32 นิ้ว ลินและคณะพี่สาวได้ร่วมกันไปทำโรงทานแจกขนม จึงขอนำบุญนี้มาฝากเพื่อนๆพี่ๆสมาชิกทุกๆท่านด้วยค่ะ ร่วมอนุโมทนาบุญด้วยกันนะคะ

 

สวัสดีค่ะขอนำภาพแชร์มาจากเฟส คุณตราด ศิษย์หลวงปู่บัว มาให้อ่านกันค่ะ ขอบคุณค่ะ
ขอแชร์ประสบการณ์ รถเก๋งฮอนด้า ทะเบียน กษ 7583 ระยอง ชนต้นไม้สาเหตุหลับใน ที่ถนนสาย7 เลี่ยงเมืองชลบุรี เมื่อคืนวันที่3มี.ค.59 1ในผู้ประสบอุบัติเหตุคือน้องชายคุณไพรัตน์ พังคะโส ได้แขวนเหรียญเจริญพรบน88 เนื้อทองแดง หลวงปู่คำบุ เหรียญเดียว ผู้ประสบอุบัติเหตุทั้ง3ราย ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย ดูสภาพรถแล้วไม่อยากเชื่อ บารมีหลวงปู่คำบุคุ้มครองจริงๆสาธุครับ
(ขออนุญาตเจ้าของรูปภาพ)

 

สวัสดีค่ะ 14 มีนาคม 59 ครบรอบ 10 ปี มรณภาพหลวงปู่ญาท่านสวน ร่วมทำบุญไถ่ชีวิตโคกระบือ เพื่อถวายเป็นพุทธบูชา หลวงปู่ญาท่านสวน ขอบารมีหลวงปู่ญาท่านสวน คุ้มครองลูกและครอบครัว ให้มีความสุขความเจริญยิ่งๆขึ้นไปด้วยเจ้าค่ะ (ขอนำบุญมาฝากทุกๆท่านด้วยค่ะ)

 

พระครูโสภณ จันทรังสี(หลวงปู่เพ็ง) วัดโพธิ์ศรีละลาย

มรณภาพ 28 กุมภาพันธ์ 2559 สิริอายุ 93 ปี พรรษา 72 ......

 

สวัสดีค่ะ ขอเชิญร่วมพิธีเททองหล่อนำฤกษ์ แมวเจ้าสัวเฮงเรียกทรัพย์ ในวันที่ 26 มีนาคม 2559 เวลา 15.39 นาที โดยมี หลวงปู่เร็ว ฉันทโก ประธานเททองฝ่ายสงฆ์ พันเอกพูนศักดิ์ สมบูรณ์ รองผู้บัญชาการมณฑลที่ 22 ประธานฝ่ายฆราวาส พระเกจิชื่อดังนั่งปรก 4 ทิศ ประกอบด้วย หลวงปู่บุญ วัดบ้านหมากหมี่ หลวงปู่ญาท่านทอง วัดศรีชมภู หลวงปู่จันทร์ วัดกิตติราษฏร์เจริญศรี อุบลราชธานี พระอาจารย์จ่อย วัดเวฬุวัน ศรีษะเกษ .

 

คิดถึงหลวงปู่ ไม่ได้ไปกราบท่านนานแล้ว 2ครั้งหลังสุดไปถึงหลวงปู่เร็ว วัดหนองโน

แต่ไม่ได้แวะท่านเลย(หลงทางบ้านหนองโน ลัดมาบ้านนาทม)

หลวงปู่ญาท่าน(พ่อใหญ่)สวน วัดนาอุดม ตาลสุม อุบลฯ....

 

สวัสดีค่ะ เหรียญเม็ดแตงเจริญพรประสบการณ์มาแล้วค่ะ
ปฏิหาร์ยเหรียญเม็ดแตงเจริญพรร่วมบุญวันเกิดหลวงปู่บุญวัดบ้านหมากมี่อุบลฯ
ลูกค้าผมจากนนทบุรีที่ได้ร่วมทำบุญเหรียญเม็ดแตงแล้วบูชาเหรียญเจริญพร แปดรอบไปเล่าให้ฟังว่าเมื่อคืนนี้(25/3/59)ตอนห้าทุ่มเจอกุ้ยข้างถนนแถวบ้าน ได้เข้ามาหาเรืีองแล้วเกิดการต่อสู้กันคนร้ายไปชักมีดพกขึ้นมาปาดคอแต่ไม่ เข้าแค่เป็นลอยเลยถูกสวนไปสามหมัดปฎิหาร์ยมีจริงเพิ่งรับเหรียญเม็ดแตงที่ผม ส่งไปให้พอดีเลยเก็บไว้ในกระเป๋ารอดมาได้อย่างเหลือเชื่อด้วยบารมีหลวงปู่ บุญแท้ๆสาธุ.......เชื่อไม่เชื่ออย่าลบลู่หากท่านเจอกะตัวเองแล้วจะรู้ว่า สุดยอด (บทความจากเฟส คุณ กอลฟ์)