หลวงปู่พิศดู วัดเทพธารทอง และพระคณาจารย์สายต่างๆ (ข้อมูลวัตถุมงคล หน้า 1-8)....

​

แผ่นพระยันต์ ๑๐๘ ยันต์
และ
นะปถมัง ๑๔ นะ​

ตามตำหรับการสร้างพระกริ่งเมื่อแต่ครั้งโบราณสืบมา นอกจากชนวนมวลสารแล้ว ก็จะมีการจารพระยันต์ต่างๆ แต่พระยันต์ที่ขาดไม่ได้เลยนั่นก็คือ พระยันต์ ๑๐๘ และนะปถมัง ๑๔ นะ เป็นพระยันต์บังคับที่ต้องมีในพระราชพิธีการหล่อพระกริ่ง หากขาดสิ่งเหล่านี้แล้วจักไม่สมบูรณ์แบบ ​

พระยันต์ ๑๐๘ ประกอบด้วย
๑.ยันต์ปทุมจักร์
๒.ยันต์ปทุมจักร์
๓.ยันต์ปทุมจักร์
๔.ยันต์ปทุมจักร์ ​

๕.ยันต์ปทุมจักร์
๖.ยันต์ภคะวัมปติ
๗.ยันต์ภคะวัมปติ
๘.ยันต์ภคะวัมปติ
๙.ยันต์ภคะวัมปติ
๑๐.ยันต์ภคะวัมปติ
๑๑.ยันต์กันภัย
๑๒.ยันต์กันภัย
๑๓.ยันต์กันภัย
๑๔.ยันต์กันภัย
๑๕.ยันต์กันภัย
๑๖.ยันต์พระไตรสะณาคม
๑๗.ยันต์พระไตรสะณาคม
๑๘.ยันต์พระไตรสะณาคม
๑๙.ยันต์พระไตรสะณาคม
๒๐.ยันต์พระจตุราริย์สัจจ์
๒๑.ยันต์พระจตุราริย์สัจจ์
๒๒.ยันต์พระรัตนตรัย
๒๓.ยันต์จักรศิรโลกย์
๒๔.ยันต์จักรศิริโลกย์
๒๕.ยันต์จักรศิริโลกย์
๒๖.ยันต์จักรศิริโลกย์
๒๗.ยันต์จักรศิริโลกย์
๒๘.ยันต์จักรศิริโลกย์
๒๙.ยันต์จักรศิริโลกย์
๓๐.ยันต์จักรศิริโลกย์
๓๑.ยันต์จักรศิริโลกย์
๓๒.ยันต์มงกุฎพระเจ้า
๓๓.ยันต์พระบาระมี ๓๐ ทิศ
๓๔.ยันต์มหาละลวย
๓๕.ยันต์มหาละลวย
๓๖.ยันต์ปกมังพระเจ้า ๕ พระองค์
๓๗.ยันต์ปกมังพระเจ้า ๕ พระองค์
๓๘.ยันต์ปกมังพระเจ้า ๕ พระองค์
๓๙.ยันต์ปกมังพระเจ้า ๕ พระองค์
๔๐. ยันต์ปกมังพระเจ้า ๕ พระองค์
๔๑.ยันต์พระยันต์องครักษ์
๔๒.ยันต์พระยันต์องครักษ์
๔๓.ยันต์พระยันต์องครักษ์
๔๔.ยันต์พระยันต์องครักษ์
๔๕. ยันต์โสฬสมงคล
๔๖.ยันต์พระเจ้า ๒๘ พระองค์ ๑
๔๗. ยันต์พระเจ้า ๒๘ พระองค์ ๒
๔๘.ยันต์พระเจ้า ๒๘ พระองค์ ๓
๔๙.ยันต์พระเจ้า ๒๘ พระองค์ ๔
๕๐.ยันต์พระเจ้า ๒๘ พระองค์ ๕
๕๑.ยันต์พระเจ้า ๒๘ พระองค์ ๖
๕๒.ยันต์พระเจ้า ๒๘ พระองค์ ๗
๕๓.ยันต์พระเจ้า ๒๘ พระองค์ ๘
๕๔. ยันต์พระเจ้า ๒๘ พระองค์ ๙
๕๕.ยันต์พระเจ้า ๒๘ พระองค์ ๑๐
๕๖.ยันต์พระเจ้า ๒๘ พระองค์ ๑๑
๕๗.ยันต์พระเจ้า ๒๘ พระองค์ ๑๒
๕๘.ยันต์พระเจ้า ๒๘ พระองค์ ๑๓
๕๙.ยันต์พระเจ้า ๒๘ พระองค์ ๑๔
๖๐.ยันต์พระเจ้า ๒๘ พระองค์ ๑๕
๖๑.ยันต์พระเจ้า ๒๘ พระองค์ ๑๖
๖๒.ยันต์พระเจ้า ๒๘ พระองค์ ๑๗
๖๓.ยันต์พระเจ้า ๒๘ พระองค์ ๑๘
๖๔.ยันต์พระเจ้า ๒๘ พระองค์ ๑๙
๖๕.ยันต์พระเจ้า ๒๘ พระองค์ ๒๐
๖๖.ยันต์พระเจ้า ๒๘ พระองค์ ๒๑
๖๗.ยันต์พระเจ้า ๒๘ พระองค์ ๒๒
๖๘.ยันต์พระเจ้า ๒๘ พระองค์ ๒๓
๖๙.ยันต์พระเจ้า ๒๘ พระองค์ ๒๔
๗๐.ยันต์พระเจ้า ๒๘ พระองค์ ๒๕
๗๑.ยันต์พระเจ้า ๒๘ พระองค์ ๒๖
๗๒.ยันต์พระเจ้า ๒๘ พระองค์ ๒๗
๗๓.ยันต์พระเจ้า ๒๘ พระองค์ ๒๘
๗๔.ยันต์กันโจรกันภัยทั้งปวง
๗๕.ยันต์ ๗ พุทธคุณ ๑
๗๖.ยันต์ ๗ พุทธคุณ ๒
๗๗.ยันต์ ๗ พุทธคุณ ๓
๗๘.ยันต์ ๗ พุทธคุณ ๔
๗๙.ยันต์ ๗ พุทธคุณ ๕
๘๐.ยันต์ ๗ พุทธคุณ ๖
๘๑.ยันต์ ๗ พุทธคุณ ๗
๘๒.ยันต์กันอมนุษย์
๘๓.ยันต์กันอมนุษย์
๘๔.ยันต์กัมหมี
๘๕.ยันต์กันช้าง
๘๖.ยันต์กันเสนียด
๘๗.ยันต์กันเสนียด
๘๘.ยันต์ทำความชนะ
๘๙.ยันต์ทำความชนะ
๙๐.ยันต์กันธนูหน้าไม้
๙๑.ยันต์กันธนูหน้าไม้
๙๒.ยันต์กันฟืนไฟ
๙๓.ยันต์กันโจร
๙๔.ยันต์กันคุณ
๙๕. ยันต์กันทั้งปวง
๙๖.ยันต์กันหมอกควัน
๙๗.ยันต์กันหมอกควัน
๙๘.ยันต์กันหมอกควัน
๙๙.ยันต์กันหมอกควัน
๑๐๐. ยันต์กันผี
๑๐๑.ยันต์กันอุบาทว์
๑๐๒.ยันต์กันหอกดาบ
๑๐๓.ยันต์กันแรดและควาย
๑๐๔.ยันต์รวมพระยันต์
๑๐๕.ยันต์รวมพระยันต์
๑๐๖.ยันต์รวมพระยันต์
๑๐๗.ยันต์ชฎามหาพรหม
๑๐๘.ยันต์จตุโร

นะปถมัง ๑๔ นะประกอบด้วย
๑.ยันต์นะครอบจักรวาล
๒.ยันต์นะนาคบาศก์
๓.นะบังเมฆา
๔.ยันต์นะกำจัด
๕.ยันต์นะกำจาย
๖.ยันต์นะทน
๗.ยันต์นะบริชาทุกทิศ
๘.ยันต์นะบังไตรภพ
๙.ยันต์นะบังสมุทร
๑๐.ยันต์นะปิด
๑๑.ยันต์นะปิดอากาศ
๑๒.ยันต์นะล้อม
๑๓.ยันต์วะชิราวุธ
๑๔.ยันต์นะสะท้านดินไหว

นอกจากนี้ยังได้จารแผ่นพระยันต์ต่างๆอีกมากมายหลายประการมากและถวายให้องค์หลวงปู่ท่านอธิษฐานจิต อาทิ
- ยันต์ พระคาถาชินบัญชร ๒ แผ่น
- ยันต์ พุทธนิมิตร
- ยันต์ อิติปิโส
- พาหุง มหากา
- ยันต์ มงกุฏพระพุทธเจ้า
- ยันต์ ๗ ตำนาน
- ยันต์ ๑๒ ตำนาน
- ยันต์ มหาระงับ
- ยันต์ ปิโยเทวะ
- ยันต์ ยันต์คู่ชีวิต
- ยันต์ บารมี ๓๐ ทัศน์
- ยันต์ ปฐมอักขระ
- ยันต์ เกราะเพชรพระพุทธเจ้า
- ยันต์ ฆะเฏสิ
- ยันต์ ตรีนิสิงเห
- ยันต์ โสฬสมงคล
- ยันต์ กำบังรถพระอิศวร
- ยันต์ พระเสมา
- ยันต์ ทั้ง ๑๐ ทิศ
- ยันต์ ปฐมอักขระ ๓๓ ตัว และสระว่าด้วย อะ อา อิ อี อุ อู เอ โอ...
- ยันต์ นะปถมัง
- ยันต์ หัวใจต่างๆ ร้อยแปด
....ฯลฯ อีกมากมาย ๆๆ ที่ไม่ได้บันทึกเอาไว้

ซึ่งพระยันต์ทั้งหมดนี้ทางลูกศิษย์ขององค์หลวงปู่ที่มีความรู้ในด้านของอักขระเลขยันต์ต่างๆ ได้เป็นผู้จารแผ่นพระยันต์นี้ทั้งหมด ซึ่งต้องใช้ความเพียรพยายามอย่างมากกว่าจะแล้วเสร็จ โดยได้ใช้เหล็กจารขององค์หลวงปู่ที่ท่านเคยใช้มา(ซึ่งมีอยู่ทั้งหมด 3 ด้าม) ในการจารพระยันต์บังคับเหล่านี้แทน ซึ่งหากได้อัญเชิญเหล็กจารขององค์หลวงปู่มาประกอบการจารแล้ว ก็ได้เชื่อว่ามีองค์หลวงปู่คอยประสิทธิให้ในทุกคราว และเมื่อทำการจารพระยันต์ต่างๆเสร็จแล้วก็ได้แช่น้ำพระพุทธมนต์ขององค์หลวงปู่ไว้
จนกระทั่งได้พบลูกศิษย์สายตรง ในสมเด็จพระสังฆราชแพ และท่านเจ้าคุณศรี(สน) วัดสุทัศน์เทพวราราม เจ้าตำหรับพระกริ่งขลัง(ดัง)แห่งสยาม ท่านนั้นก็คือ หลวงปู่ทอง วัฑฒโน วัดเกาะบางเชือกหนัง พระอริยะเกจิอาจารย์ผู้เจนจบกระบวนการสร้างพระกริ่ง-พระชัยวัฒน์ ตรงจากสมเด็จพระสังฆราชแพ และท่านเจ้าคุณศรีฯ(สณ) อีกทั้งท่านยังเป็นบุตร(บุญธรรม)ของเสด็จในกรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ และเสด็จในกรมหลวงฯยังได้สักที่ข้อมือเอาไว้ให้เพื่อเปิดจักระเวลาลงอักขระจะได้เข้มขลังประสิทธิ (และท่านยังเป็นเพื่อนรักและศิษย์ร่วมสำนักกับท่านอาจารย์เทพ สาริกบุตรอีกด้วย) เป็นผู้กรึงยันต์ ครอบและปลุกพระยันต์ ๑๐๘ และนะปถมัง ๑๔ ดังกล่าวให้ แถมยังได้เมตตาจารพระยันต์พุทธนิมิตรให้อีกเพื่อนำมาหล่อเป็นพระกริ่ง-พระชัยวัฒน์ขององค์หลวงปู่อีกด้วย หลวงปู่ทองบอกว่า ยันต์เหล่านี้ท่านเองก็เรียนมา ถึงไม่ได้เขียนนานแล้ว แต่ก็ยังเสกยันต์ให้ได้ และท่านก็เมตตาเสกให้อย่างดีที่สุด เพื่อนำมาหล่อพระโดยเฉพาะ นอกจากนั้นแล้วพระยันต์ดังกล่าวก็ยังเข้าพิธีพุทธาภิเษก และฝากองค์หลวงปู่พิศดูอธิษฐานจิตอีกหลายรอบ ซึ่งก็ได้ทดสอบพุทธคุณดูแล้ว และได้ผลประจักรแจ้งในพุทธานุภาพอย่างถึงที่สุดทีเดียว

ยันต์ทั้งหมดนี้มีพุทธคุณครอบจักรวาล มีอานุภาพมากเช่น ป้องกันสรรพอาวุธทั้งปวง กันสรรพโรค มีคุณหาที่สุดมิได้ กันภัยต่างๆ ป้องกันอุบัติภัย อุดมมงคล แคล้วคลาดอาวุธทั้งปวง(ทั้งในอดีตและอนาคต) เสริมสร้างสิริมงคล บังเกิดทรัพย์ เสริมสร้างตบะเดชะ ชนะศัตรู เมตตามหานิยม ผู้ใดคิดร้ายจะแพ้ภัย คุ้มกันอันตรายทั้ง ๑๐ ทิศ กันโจรทั้งปวง กันอมนุษย์ เขี้ยวงา สัตว์ร้าย ชนะความ กันเสนียดจัญไร บรรเทาสรรพเคราะห์กรรมจากหนักให้กลายเป็นเบา ...ฯลฯ
ด้วยเหตุนี้จึงมีความเชื่อว่าพระกริ่งมีอานุภาพ สามารถคุ้มครองได้ครอบจักรวาล โดยเฉพาะใช้ทำน้ำพระพุทธมนต์ ใช้กัน-แก้ ในภัยต่างๆได้ทุกอย่าง ตามแต่จะอธิษฐานเอาเป็นได้ดั่งแก้วสารพัดนึก ถึงที่สุดแล้วจะช่วยให้มีความเจริญรุ่งเรื่องทั้งทางโลกและเข้าถึงธรรม...



.

 

แวะมากราบๆๆ หลวงปู่ครับ และแวะมาทักทาย ทุกท่านครับ

 

กราบนมัสการองค์หลวงปู่พิศดู ...

และ ขอโมทนาบุญกับทุกๆท่านด้วยครับ ...

ขอบคุณครับ

 

กราบนมัสการองค์หลวงปู่พิศดู
สวัสดีครับสมาชิกทุกท่าน ....

 

กราบหลวงปู่พิศดูครับ
และสวัสดีพี่ๆ ทุกท่าน

 

กราบหลวงปู่และสวัสดีทุกท่านครับ...เช้าวันอาทิตย์กับชุดเล็กๆ

 

อ้างอิง:
<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: 1px inset; BORDER-TOP: 1px inset; BORDER-LEFT: 1px inset; BORDER-BOTTOM: 1px inset">ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ bat119
เดี๋ยวไปจันท์เจ้าของกระทู้มีอะไรจะฝากหรือป่าวครับอิๆๆ
</TD></TR></TBODY></TABLE>

เอาอะไรดีล่ะครับ เงาะ ทุเรียน มังคุต ลองกองไหมครับ อิอิ :boo:

ขอบคุณเจ้าของกระทู้ที่นำรูปมาให้ชมเต็มๆครับ ส่วนผลไม้ถ้าจะให้อร่อยคงต้องบุกไปถึงสวนคุณทุเรียนทอดแล้วครับ555 แต่คงไม่ค่อยได้เจอเพราะเจ้าของกระทู้เดินทางบ่อย

 

ภาพเกศา อัฐิอังคารธาตุ และผงมวลสารพุทธคุณต่างๆ กำลังจะลงให้ตามคำเรียกร้องครับ

 

เรียนถามผู้รู้ ว่า

เคยอ่านเจอที่มีคนโพสต์ว่า หลายปีก่อน เกิดน้ำท่วมใหญ่ที่จันทบุรี และมีน้ำป่่าจากเขา จะไหลท่วมวัดเทพธารทองของลป.พิศดู แต่ปรากฎว่า น้ำป่าได้ไหลไปที่อื่น ไม่ท่วมวัดท่าน

เพราะท่านได้ สวดคาถาป้องกันภัย ว่า ทิตะทรา ทัณมัณฑะโล กะลิลาฯ
ใช่หรือไม่ ขอบคุณ คับ

 

พระเกศา อัฐิ อังคารธาตุ ของพระอริยะสงฆ์

พระเกศา อัฐิ อังคารธาตุ ทั้งหมดที่บรรจุอยู่ในพระกริ่งธมฺมจารี(เนื้อมหาสัมฤทธิ์) ทุกองค์









เกศาธาตุทั้งหมดได้นำมารวมกันไว้และตัดซอยให้ละเอียดแล้วเคล้ากัน เพื่อจะได้ทั่วถึงในพระทุกองค์ และรวมเอาไว้ในผอบนี้ทั้งหมด




อัฐิ อังคารธาตุ พระอริยะ ทั้งหมดจะรวมกันไว้ในขวดแก้วที่เห็นอยู่นี้ทั้งหมด และมีอังคารธาตุของครูบาอาจารย์บางท่านในนี้ ก็ได้แปลเป็นพระธาตุแล้วด้วย



.​

 

มวลสารสำคัญต่างๆ
​

มวลสารสำคัญต่างๆ ทั้งหมดที่บรรจุอยู่ในพระกริ่งธมฺมจารี และพระชัยวัฒน์อุดผง ทุกองค์








มวลสารทั้งหมดได้นำมารวมกันไว้และบางส่วนได้บด ร่อนให้ละเอียดมาก่อนหน้า แล้วเคล้ากัน เพื่อจะได้ทั่วถึงในพระทุกองค์ และรวมเอาไว้ในภาชนะนี้ทั้งหมด




.​

 

ใช่ครับ หลวงปู่ท่านสวดคาถา ทิตะทิรา หรือ คาถาวันโลกดับ ท่านเล่าให้ฟังว่า ตอนที่เขาคิชฌกูฏพังถล่มลงมา และตามมาด้วยกระแสน้ำป่าและท่อนซุงจำนวนมหาศาล ได้เกิดเสียงดังสนั่นหวั่นไหว ของหินจากเขาที่กลิ้งลงมากระทบกัน เวลานั้นหลวงปู่ท่านนอนสวดมนต์อยู่ที่กุฏิ โดยท่านใช้พระคาถาวันโลกดับบทนี้

คาถาวันโลกดับเป็นคาถาศักดิ์สิทธิ์มาก เป็นคาถาที่พบในศิลาจารึกอันเก่าแก่ ในวัดเชตวันวิหาร ประเทศอินเดีย ที่เขียนโดยพระอานนท์ เพื่อให้ชาวพุทธไว้ใช้สวด ยามที่โลกมีภัยสงคราม และภัยอันตรายต่างๆตามพุทธทำนาย หรือสวดบ่อยๆก็ได้ตามต้องการ หากถึงเวลาเมื่อภัยมาถึงจริงๆให้หมั่นสวดสาธยายไว้เสมอ ผู้นั้นจะอยู่เย็นเป็นสุข และอยู่รอดปลอดภัยทุกประการ

สำหรับคาถาวันโลกดับนี้ได้มาการสวดและคัดลอกออกไปในหลายที่ มีทั้งบทเต็ม และบทย่อ ซึ่งบางฉบับถ้านำมาเทียบกันดูแล้วจะพบได้ว่า มีส่วนคล้ายกันไม่เหมือนกันบ้าง ก็เป็นธรรมดาเพราะบางพื้นที่ก็อาจใช้สำเนียงไม่เหมือนกัน แต่ก็เป็นพระคาถาเดียวกันทั้งสิ้น

แต่ฉบับขององค์หลวงปู่พิศูนั้นท่านสวดว่าดังนี้
ทิตะทิรา ทันมันฑะโล กะลิลา กะละลา สะติโล จะถิโท คะหะตะเน



.

 

เยี่ยมครับเจ้าของกระทู้ลงให้ชมได้ไวมากครับ

 

เพิ่มเติมคาถาป้องกันภัย หลวงปู่พิศดู..

คาถาป้องกันภัยของหลวงปู่ นั้นจริงๆแล้วประกอบด้วยคาถามี 3 บท แต่ถ้าเราสวดต่อกันทั้ง 3 บทก็ยิ่งเพิ่มอานุภาพครับ ในอดีตเหตุการเขาคิชฌกูฏพัง หลวงปู่ท่านสวดทั้ง 3 บทครับ

คาถาป้องกันภัยหลวงปู่พิศดู ทั้ง3บท

(คาถาวันโลกดับ)
ทิตะทิรา ทันมันฑะโล กะลิลา กะละลา สะติโส จะถิโท คะหะตะเน
ใช้สวดยามที่โลกมีภัยสงคราม และภัยอันตรายต่างๆตามพุทธทำนาย หรือสวดบ่อยๆก็ได้ตามต้องการ หากถึงเวลาเมื่อภัยมาถึงจริงๆให้หมั่นสวดสาธยายไว้เสมอ ผู้นั้นจะอยู่เย็นเป็นสุข และอยู่รอดปลอดภัยทุกประการ
(ที่ชื่อว่าคาถาวันโลกดับนั้นเป็นการเปรียบเทียบ ว่าถึงขนาดโลกดับถ้าสวดคาถานี้ก็จะยังอยู่รอดปลอดภัยได้)

(คาถา หลวงพ่อโอภาสี อาศรมบางมด)
อิติสุคโต อะระหังพุทโธ นะโมพุทธายะ ปะฐะวีคงคา พระภุมมะเทวา ขะมามิหัง
คาถานี้เวลาเราไปที่ไหน ผู้ใดสวดคาถานี้แล้วเทพเทวดา พระแม่ธรณี พระแม่คงคา พระภูมิเทวดา ณ ที่นั้นๆจะดูแลรักษาเรา
อีกทั้งยังเป็นบทขอขมากรรมต่อพระแม่ธรณี พระแม่คงคา และภูมิเทวดาอารักษ์ทั้งหลายหากเราได้กระทำการอันใดที่อาจเป็นการล่วงเกินต่อท่านด้วยความรู้เท่าไม่ถึงการก็ดีอีกด้วย

(คาถาพยายมราช)
ปะโตเมตัง ปะระชีวินัง สุคโตจุติ จิตะเมตะ นิพพานัง สุคโตจุติ
คาถานี้เป็นคาถาพยายมราช ผู้ใดสวดไว้จะไม่ตายก่อนอายุไข อีกทั้งยังป้องกันสรรพอันตราย จากคุณไสย ภูตผีปีศาจ และอมนุษย์ทั้งหลายด้วย

ถ้าสวดได้ทั้ง 3 บทเลยจะเพิ่มพูนอานุภาพยิ่งนักครับ



.

 

การรู้ล่วงหน้า(เล่าประสบการณ์) ของหลวงปู่พิศดู ธมฺมจารี

ผมและครอบครัวเป็นลูกศิษย์องค์หลวงปู่ ผมและครอบครัวได้รู้จักองค์หลวงปู่ จากพระมหาอภิเชษฐ์ ประมาณปี พ.ศ.2548 ซึ่งพระมหาอภิเชษฐ์ มาเล่าให้ฟังว่าหลวงปู่เป็นพระปฏิบัติดี ปฏิบัติชอบ และมีพลังจิตน่าอัศจรรย์หลายอย่าง
พระมหาอภิเชษฐ์ ได้ให้รูปหลวงปู่กับผม เป็นรูปที่หลวงปู่่ถ่ายหน้าเจดีย์เขียว
การไปครั้งแรกของผม พาพระไปด้วย 3 รูป ฝรั่งลูกครึ่ง 1 คน ผมและครอบครัว 3 คน ก่อนไปผมได้อธิฐานจิต ขอให้พบหลวงปู่เพื่อชมบารมี
ออกจากกรุงเทพฯ เวลา 05.00 น. ไปฉันเช้าที่ข้างวัดเขาแก้ว บ้านโยมที่รู้จักกับพระอภิเชษฐ์ ฉันเช้าเสร็จก็ไปวัดหลวงปู่ เมื่อไปถึง วัดเงียบมาก รู้สึกเย็นช่ำใจ สงบไม่คิดถึงสิ่งใดๆ เหมือนกับว่าใจโดยตัดสวิท เห็นมีลูกศิษย์กวาดใบไม้ตามลานวัดอยู่หลายท่าน โดยไม่คุยกัน ขณะนั้นหลวงปู่ยังอยู่ที่ศาลาหลังใหญ่ ได้ทราบมาว่าถ้าหลวงปู่ไม่ต้องการให้ใครพบ ก็จะไม่เปิดประตูต้อนรับ ผมและคณะได้ขึ้นไป พบกับผู้หญิงท่านหนึ่งอ่านหนังสือให้หลวงปู่ฟังอยู่ตรงประตูทางเข้า ในขณะที่หลวงปู่ได้สนทนาอยู่กับญาติโยมที่เป็นหมอกับพยาบาลคณะหนึ่ง ทันใดนั้นขณะที่ผมก้าวขาผ่านประตู หลวงปู่ได้หันหน้ามามองผม ผมเกิดอาการขนลุกปิติมาก เหมือนกับท่านได้รับรู้การอธิฐานจิตของผมก่อนมาพบ ขณะที่องค์หลวงปู่นั่งสนทนากับคณะหมอและพยาบาล คนที่อ่านหนังสือประวัติหลวงปู่แหวนอยู่หน้าประตู ก็อ่านไปเรื่อยๆ
แต่เมื่อคนอ่านหนังสืออ่านผิดหรือข้ามไป องค์หลวงปู่ก็จะทักขึ้นมาทันทีว่าอ่านผิด (แสดงว่าหลวงปู่แยกจิตได้) เมื่อคณะหมอพยาบาลกราบลา คณะผมก็เข้าไปกราบ โดยพระเข้าไปก่อน เมื่อพระเข้าไปกราบ หลวงปู่พุดเสียงดังมาก ว่า "ร้อน ร้อน เราอยู่ของเราเย็นๆๆ ร้อน "เมื่อพูดจบท่านก็ีนั่งหันหลังให้กับพระที่ไปด้วย พวกผมที่ไปด้วยก็รู้สึกตกใจ ว่าทำไมหลวงปู่ถึงพูดเช่นนั้น
สักพักหนึ่งนั่งกันเงียบๆๆ ถึงรู้ว่าพระที่ไปด้วยรูปหนึ่งโดยคุณไสย จากอำเภอสังขะ จ.กาญจนบุรี โดยท่านได้ขอร้องให้หลวงปู่ช่วย ซึ่งหลวงปู่ก็อบรมว่า "ถ้าศีลไม่ด่างพร่อย ใครก็ทำอะไรไม่ได้" ช่วงที่หลวงปู่อบรมอยู่นั้น มาถามพระที่โดยคุณไสยว่ามีอาการอย่างไรบ้าง ท่านเล่าให้ฟังว่าเขาทำท่านหนักมาก ได้ไปหาพระแถวภาคอีสาน หลายรูป ก็ยังไม่หาย มีคนแนะนำว่าท่านต้องไปหาพระอรหันเท่านั้นถึงหายขาด ช่วยที่อยู่หน้าหลวงปู่ คุณไสยได้วิ่งออกจากร่างกายของท่านไปมาก โดยออกทางปลายนิัวมือ นิ้วเท้า แต่ก็ยังไม่หมด แต่ก็โล่งไปมาก สุดท้ายหลวงปู่บอกว่า ให้หาวันที่สะดวกมาพักกับท่าน ท่านจะรักษาให้ นี้ก็แสดงให้เห็นว่า บารมีหลวงปู่มากล้น รู้ทุกอย่าง มีเมตตาธรรมย่างมาก นี้ก็เป็นข้อหนึ่ง ที่ไปครั้งแรก ก็ได้พบความมหัศจรรย์หลายๆเรื่อง ก่อน กลับ หลวงปู่ได้แสดงตาทิพย์ อยู่ๆท่านได้บอกลูกศิษย์ ให้ไปตามคนกวาดขยะซึ่งอยู่แถวลำธาร ก่อนกลับให้มาพบท่านก่อน เมื่อขึ้นมาท่านก็แจกวัตถุมงคล ให้คนละชิ้น ส่วนคณะผมตอนกลับท่านก็แจก เหรียญ
หลวงปู่รอด วัดโป่งแรด ท่านว่ารอดแน่ๆ แล้วท่านก็หัวเราะ ทิปนี้ก็แชร์ประการณ์เท่านี้ก่อน งวดหน้าจะทะยอยลงให้เรื่อยๆ

 

กราบหลวงปู่พิศดู
หวัดดีเจ้าของกระทู้และสมาชิกทุกท่านครับ

 

กราบหลวงปูี่พิศดู ครับ ...........

 

กราบหลวงปู่พิศดู สวัสดีครับพี่ๆทุเรียนทอดและสมาชิกทุกท่าน ประสบการณ์ของท่านสมาชิกแต่ละท่านบ่งบอกได้ดีเลยครับว่าบารมีธรรมขององค์หลวงปู่ท่านมากล้นจริงๆ สาธุ

 

กราบหลวงปู่พิศดู สวัสดีคุณทุเรียนทอดและสมาชิกทุกท่านครับ

 

ญาณหยั่งรู้(หูทิพย์ ตาทิพย์ รู้ล่วงหน้า)หลวงปู่พิศดู ธมฺมจารี

ผมได้ไปกราบหลวงปู่ครั้งที่ สอง ได้เตรียมเครื่องสังฆทาน ซึ่งจัดซื้อเอง ซื้อของที่พระสามารถใช้ได้จริงๆ เช่น น้ำยาซักผ้า สบู่ยาสีฟัน รองเท้า ยารักษาโรค ไฟฉาย ปล๊กไฟ น้ำยา+แปรงล้างห้องน้ำ+หลอดไฟ ฯลฯ ครั้งที่ 2 ก่อนไป คิดว่าไปซื้อถ้วยชามถวายด้วย ระหว่างเดินอยู่ที่ห้างสรรพสินค้า ผมและภรรยา ได้เห็นชุดถ้วยจานชุดหนึ่ง เมื่อเข้าไปดูก็สวยดี แต่ค่อนข้างมีน้ำหนัก ผมได้พูดกับภรรยาว่า จานมันหนัก ไม่เหมาะกับองค์หลวงปู่ ท่านก็ชราภาพแล้ว แต่ภรรยาบอกสวยงามมาก ก็เลยซื้อมาถวายหลวงปู่ เมื่อมาถึงที่วัดได้พาพ่อ-แม่-พี่ๆ มาด้วยกัน 7-8 คน ครั้งนี้หลวงปู่ได้ย้ายที่อยู่มาอยู่ที่กุฏิริมลำธาร
เมื่อมาถึง ก็ได้ยกของถวายเสร็จ องค์หลวงปู่ท่าพูดขึ้นมาว่า " จานมันหนัก ไม่เหมาะสำหรับคนแก่" ผมและภรรยายมองหน้ากัน ว่าหลวงปู่ท่านรู้ตั้งแต่เราพูดกันที่ห้างที่กรุงเทพแล้ว สิ่งต่างๆ ที่เราได้กระทำท่านเห็นท่านได้ยินหมด นี้ก็แสดงว่า หลวงปู่ได้บรรลุธรรมขั้นสูงมาก(หูทิพย์ ตาทิพย์ รู้ล่วงหน้า) และอัศจรรย์ เป็นคำรบ 2 เมื่อท่านได้ทักลูกชายของผมว่า "เทพศรินทร์"รู้จักเจ้าคุณนรหรือเปล่า "ธมฺมวิตโก ธมฺมวิตโก ธมฺมวิตโก" ซึ่งท่านท่องให้ฟัง ลูกชายผมขนลุกไปทั้งตัว ว่าท่านรู้ได้อย่างไร เรียนอยู่โรงเรียนเทพศิรินทราวาส กรุงเทพฯ และวันนั้นได้แขวนล็อกเก็ตท่านเจ้าคุณนร ไว้ในเสื้อด้วย นี้ก็แสดงถึง ญาณหยั่งรู้ของหลวงปู่ได้ชัดเจนมาก ช่วงที่ได้ถวายของเสร็จท่าน ท่านได้ให้พร ได้สอนธรรมะเล็กๆ น้อย ๆ ซึ่งตรงกับใจของทุกๆ คน ท่านจะพูดไปเรื่อยๆ ก่อนกลับท่านให้ลาภ ท่านถามว่า ออกจากกรุงเทพฯ ตอนไหน ผมตอบว่า ตี 5 ครับหลวงปู่ ท่านถามว่าใช้เวลาขับรถกี่ชั่วโมง ผมตอบว่า 3 ชั่วโมง เมื่อท่านถามเสร็จ ท่านก็คุยเรื่องอื่นต่อ เมื่อกราบลาท่านกลับแล้ว ก็พูดคุยกันในรถว่า สงสัยหลวงปู่ให้ลาภ อยู่มาหลายวัน หวยงวดนั้นได้ออกเลขสองตัวล่าง 53 ปรากฏว่า ถูกกันทั่วหน้า แต่ไม่มากนัก คนละ 20 บาท 50 บาท พอหอมปากหอมคอ นี้ก็แสดงว่า องค์หลวงปู่ รู้ล่วงหน้า และมีความเมตตาต่อศิษย์ที่ไปกราบไห้วเสมอ ไปทุกครั้งเจอทุกครั้ง แล้วผมจะลงเรื่องประสบการณ์เรื่อยๆ นะครับ

ฝากสวัสดี คุณทุเรียนทอด และศิษย์หลวงปู่ทุกๆท่าน ที่ได้เล่าประสบการณ์ เกี่ยวกับองค์หลวงปู่ คิดว่าคงถึงเวลาแล้ว ที่เราลูกศิษย์ทั้งหลาย ได้เผยแผ่เกียรติคุณขององค์หลวงปู่ ไว้คู่แผ่นดินไทยในบวรพระพุทธศาสนา และประเทศไทยโชคดีที่มีพระมหากษัตริย์เป็นองค์อุปถัมภ์พระพุทธศาสนา