ภัยที่เกิดจากน้ำและการป้องกัน

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย HONGTAY, 23 พฤษภาคม 2007.

  1. golf208

    golf208 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กุมภาพันธ์ 2006
    โพสต์:
    466
    ค่าพลัง:
    +5,454
    ข้อมูลกอล์ฟนำมาจากเว็บนี้นะครับ

    http://www.dmr.go.th/news_dmr/data/0762.html

    ผมว่าแตกแน่นอนถ้าเกิดเหตุการณ์แผ่นดินไหวครั้งรุนแรงในไทย ตอนนี้ภัยต่างๆค่อยๆมาทีละนิด และในที่สุดจะมาแรงอย่างไม่ทันตั้งตัว


    <table class="mxtable" align="center" bgcolor="#ffffff" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"><tbody><tr><td colspan="3"><table class="GXborder" align="center" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"><tbody><tr bgcolor="#7d393a"><td width="16">[​IMG]</td><td class="cannotstyle" bgcolor="#7d393a"> ข่าวประจำวันจากหนังสือพิมพ์</td></tr></tbody></table></td></tr><tr><td rowspan="3" width="18"> </td><td height="120" valign="top">
    แผ่นดินวิปโยค

    ผู้เฒ่าผู้แก่มักสาปแช่งคนที่ตัดเศียรพระไปขายให้ธรณีสูบ และดูเหมือนจะเชื่ออย่างจริงจังว่า ธรณีสูบคนชั่วลงนรกได้จริง
    ในเชิงธรณีวิทยาแล้ว ธรณีสูบเป็นปรากฏการณ์ทางธรรมชาติที่เกิดความเสี่ยงภัยอันตรายต่อมนุษย์ได้น้อยมากเมื่อเทียบกับแผ่นดินไหว จันทร์จิรา พงษ์ราย รายงาน สถานการณ์ธรณีวิทยาทั่วปฐพี
    "ยายเกิดมาอายุเยอะแล้ว เพิ่งรู้จักแผ่นดินไหวจริงๆ จังๆ ก็ตอนที่มีสึนามิเมื่อปลายปี 47 กับเมื่อเดือนมกราคม ที่รู้สึกว่าแก้วน้ำ กับชามแกง มันแกว่งๆ แค่อึดใจเดียวเอง ทีแรกก็เฉยๆ พอลูกบอกว่าเป็นแผ่นดินไหว ก็ยังบอกเออมันเป็นอย่างนี้เองหรือ" แม่อุ๊ยวัย 70 บอกเล่าถึงนาทีระทึกใจกับเหตุการณ์แผ่นดินที่รัฐฉาน ประเทศพม่า เมื่อเดือนที่แล้วแรงสั่นสะเทือนสามารถรู้สึกได้ถึงตัวเมืองเชียงใหม่
    "แผ่นดินไหว เกิดขึ้นทุกวัน เหมือนลมปะทะใส่หน้า"ปลอดประสพ สุรัสวดี ผู้อำนวยการศูนย์พิบัติภัยแห่งชาติเปรียบเปรย ในช่วงหนึ่งปีที่ผ่านมา หลังเกิดแผ่นดินไหวใต้ทะเลและส่งผลให้เกิดคลื่นขนาดใหญ่ที่เรียกว่า "สึนามิ" ถล่มชายฝั่งตอนใต้ของไทย เกาะสุมาตรา ศรีลังกา และอินเดีย และเหตุการณ์แผ่นดินไหวที่เกิดขึ้นในแคว้นแคชเมียร์ ประเทศปากีสถาน ส่งผลให้คนเสียชีวิตเป็นจำนวนแสน ลมที่ปะทะใส่หน้าตลอดปีที่แล้วคงมีดีกรีของความโกรธเกรี้ยวมนุษยชาติอย่างอำมหิต
    นักธรณีวิทยาเข้าใจดีว่า แผ่นดินไหวเป็นปรากฏการณ์ปกติทางธรรมชาติที่เกิดจากการสั่นสะเทือนของพื้นดิน เนื่องมาจากการปลดปล่อยพลังงาน เพื่อลดความเครียดที่สะสมไว้ภายในโลกเพื่อปรับสมดุลของเปลือกโลกให้คงที่ และทุกวันจะมีเหตุการณ์แผ่นดินไหวเกิดขึ้นบนโลกนับ 1,000 ครั้ง แต่ก็ใช่ว่าทุกคนจะเย็นใจไปกับพวกเขาหมด
    "คนส่วนมากจะไม่รู้สึก เพราะมันสั้นและแผ่วเบาจนเกินไป เมื่อเหตุผลเป็นเช่นนี้ นั่นก็หมายความว่า 50% ของคลื่นแผ่นดินไหวอาจจะมีคนตรวจรับได้ แต่อีก 50% ที่เหลือที่เกิดในบริเวณที่ไม่มีคนอาศัย ก็จะไม่มีใครรู้สึกอะไรเลย" นักธรณีวิทยากล่าว
    สำหรับชาวจังหวัดกาญจนบุรีที่มีชีวิตอยู่หลังเขื่อนศรีนครินทร์ ทุกครั้งที่เกิดแผ่นดินไหว พวกเขามักจะได้ยินรายงานข่าวพาดพิงถึงโอกาสที่เขื่อนศรีนครินทร์ ซึ่งตั้งอยู่บนรอยเลื่อนศรีสวัสดิ์ จะเกิดความเสียหายและเกิดน้ำท่วมพื้นที่ชุมชนหลังเขื่อนที่อาศัยอยู่ 550 ครัวเรือน แม้จะชาชินกับข่าวทำนองนี้แค่ไหน แต่ความหวาดกลัวก็ไม่ได้จางหายไปจากใจพวกเขา
    รศ.ดร.ปัญญา จารุศิริ อาจารย์ประจำภาควิชาธรณีวิทยา คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวถึงงานวิจัยรอยเลื่อนแห่งนี้ว่า จากข้อมูลใหม่พบรอยเลื่อนศรีสวัสดิ์ที่อยู่ในเขตพม่า มีการเคลื่อนตัวอยู่ตลอดเวลาตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบัน
    พื้นที่ที่ถูกขนาบด้วยรอยเลื่อนดังกล่าว ซึ่งเป็นพื้นที่ อ.ไทรโยค และ อ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี ที่อยู่ติดกับชายแดนพม่า อาจได้รับอันตรายหากมีแผ่นดินไหวระดับรุนแรงขนาด 7.5 ริกเตอร์ ที่สำคัญรอยเลื่อนดังกล่าวอยู่บนแนวเขื่อนที่มีความเสี่ยงจะได้รับผลกระทบโดยตรงหากมีแผ่นดินไหวขนาดใหญ่เกิดขึ้นในอนาคต
    "มีหลักฐานชี้ชัดว่ารอยเลื่อนเจดีย์สามองค์เคยเกิดการเลื่อนตัวทั้งหมด 5 ครั้งในช่วงเวลาประมาณ 1 ล้านปีถึง 22,000 ปี สอดคล้องกับเมื่อปี 2526 ที่เคยเกิดแผ่นดินระดับ 5.9 ริกเตอร์ มาแล้ว ดังนั้นในอนาคตจึงมีความเสี่ยงที่จะเกิดค่าอุบัติซ้ำได้ ซึ่งนักวิชาการต้องการให้เกิดความตระหนัก และให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องนำข้อมูลทางวิทยาศาสตร์ไปสานต่อ และเตรียมรับมือกับสิ่งที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต เพราะไม่อยากให้ประมาท เนื่องจากภัยแผ่นดินไหวเราคาดเดาไม่ได้" ผู้เชี่ยวชาญด้านแผ่นดินไหวของไทยกล่าว
    นอกจากนี้ยังมีรอยเลื่อนมีพลังอยู่ 15 รอยเลื่อนที่ต้องเฝ้าจับตามอง ได้แก่ รอยเลื่อนแม่จัน รอยเลื่อนแม่ทา รอยเลื่อนเถิน-ลอง-แพร่ รอยเลื่อนน้ำปัด รอยเลื่อนปัว รอยเลื่อนพะเยา รอยเลื่อนแม่ฮ่องสอน รอยเลื่อนศรีสวัสดิ์ รอยเลื่อนปิง รอยเลื่อนเจดีย์สามองค์ รอยเลื่อนระนอง รอยเลื่อนคลองมะรุ่ย-คลองท่อม รอยเลื่อนโคกโพธิ์-สะบ้าย้อย-ยะลา-เบตง รอยเลื่อนเลย-เพชรบูรณ์ และรอยเลื่อนระยอง-แกลง
    ขณะที่รอยเลื่อนสำคัญอีก 4 กลุ่มในแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ได้แก่ กลุ่มรอยเลื่อนอินโด-พม่า กลุ่มรอยเลื่อนสะแกง-พานหลวง-ตองจี กลุ่มรอยเลื่อนนานปิง-เปาซาน-เชียงราย และกลุ่มรอยเลื่อนแม่น้ำแดง ซึ่งนักวิจัยกล่าวว่าจำเป็นต้องมีการศึกษาว่ารอยเลื่อนเหล่านี้มีการเคลื่อนตัวหลังเหตุการณ์ 26 ธันวาคม 2547 หรือไม่
    อย่างไรก็ดี เลิศสิน รักษาสกุลวงศ์ ผู้อำนวยการส่วนธรณีวิทยา 2 สำนักธรณีวิทยา กรมทรัพยากรธรณี มองอีกด้านว่า ประเทศไทยเคลื่อนตัวออกจากรอยตะเข็บของเปลือกโลกมานานแล้ว ความเสี่ยงจากการเป็นจุดศูนย์กลางแผ่นดินไหวจึงอยู่ในระดับต่ำ
    "แผ่นดินไหวมักเกิดมากตรงบริเวณรอยต่อระหว่างแผ่น ในขณะที่บริเวณภายในแผ่นเปลือกโลกมีแผ่นดินไหวเกิดน้อยกว่า และมักไม่รุนแรง โดยมากเกิดตามแนวของรอยเลื่อนใหญ่ๆ แต่พื้นที่ประเทศไทยตั้งอยู่ในบริเวณภายในแผ่นเปลือกโลก ไม่ใช่ตามรอยต่อของแผ่นเปลือกโลกดังเช่นประเทศญี่ปุ่นหรือประเทศฟิลิปปินส์ ซึ่งจะเกิดแผ่นดินไหวบ่อยครั้งและรุนแรง" นักธรณีวิทยา กรมทรัพยากรธรณี กล่าว
    หลังจากเกิดแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ที่เป็นชนวนของคลื่นยักษ์สึนามิเมื่อปลายปี 2547 กรมทรัพยากรธรณี ได้ร่วมกับมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ติดตามผลกระทบหลังแผ่นดินไหว ด้วยการติดตั้งเครื่องมือตรวจวัดคลื่นแผ่นดินไหวขนาดเล็ก 2 จุดบริเวณรอยเลื่อยคลองมะรุ่ย และรอยเลื่อนระนอง เพื่อจับตาดูความเคลื่อนไหว ก็สามารถวัดคลื่นได้ 0.5-1 ริกเตอร์ "แต่ยังไม่ถือว่าจะเป็นสัญญาณว่าจะเกิดการขยับตัวรุนแรงใหม่"
    อย่างไรก็ดี ปัจจุบันยังไม่มีเทคโนโลยีใดที่ช่วยให้นักวิทยาศาสตร์ทำนายเวลา สถานที่ และความรุนแรงของแผ่นดินไหวที่จะเกิดขึ้นในอนาคตได้ อย่างดีที่ทำได้ตอนนี้คือการศึกษา เรียนรู้ เพื่อให้เข้าใจถึงกระบวนการเกิดของแผ่นดินไหวที่แท้จริง เพื่อเป็นแนวทางลดความเสียหายที่เกิดขึ้นมากกว่า

    แผ่นดินวิปโยค ธรณีสูบ
    ถึงกระนั้น ผลพวงของแผ่นดินไหวขนาด 9.2 ริกเตอร์ เมื่อวันที่ 26 ธันวาคม 2547 ส่งผลให้เกิดปรากฏการณ์อีกอย่างหนึ่งที่อาจเป็นภัยต่อชาวบ้านในพื้นที่ต่างๆ ได้
    "หลังเหตุการณ์สึนามิ กรมทรัพยากรธรณี ได้ออกประกาศเตือนพื้นที่เสียงภัยที่มีโอกาสเกิดหลุมยุบใน 49 จังหวัด รวมหลายร้อยอำเภอ และถ้านับถึงเดือนกุมภาพันธ์ปีนี้มีหลุมยุบเกิดขึ้นแล้ว 82 หลุม พบมากในพื้นที่ 6 จังหวัดภาคใต้ถึง 39 ครั้งโดยเฉพาะที่จังหวัดสตูล ตรัง กระบี่ ส่วน 27 ครั้งเกิดแถบชายฝั่งอ่าวไทย ภาคเหนือ 9 ครั้ง แต่มีหลุมยุบขนาดใหญ่เกิดขึ้นที่บ้านพะเนจือ อ.แม่ระมาด จังหวัดตาก ส่วนภาคตะวันตก และภาคกลางมีรายงานเพียง 5 ครั้งและอีก 2 ครั้งพบแถวภาคอีสาน"เลิศสิน กล่าว
    สำหรับแผนที่รายจังหวัดที่กรมทรัพยากรธรณี ระบุว่าเป็นมีพื้นที่ที่มีโอกาสเกิดหลุมยุบ ทั้ง 49 แห่ง ได้แก่ กระบี่ กาญจนบุรี กำแพงเพชร ขอนแก่น จันทบุรี ฉะเชิงเทรา ชลบุรี ชัยนาท ชัยภูมิ ชุมพร เชียงราย เชียงใหม่ ตรัง ตาก นครราชสีมา นครศรีธรรมราช นครสวรรค์ นราธิวาส น่าน ประจวบคีรีขันธ์ ปราจีนบุรี ปัตตานี พะเยา พังงา พัทลุง พิษณุโลก เพชรบุรี เพชรบูรณ์ แพร่ แม่ฮ่องสอน ยะลา ระนอง ระยอง ราชบุรี ลพบุรี ลำปาง ลำพูน เลย สงขลา สตูล สระแก้ว สระบุรี สุโขทัย สุพรรณบุรี สุราษฎร์ธานี หนองบัวลำภู อุดรธานี อุตรดิตถ์ และ อุทัยธานี
    ภายหลังแผ่นดินอย่างรุนแรงเมื่อกว่าหนึ่งปีก่อน แรงสั่นสะเทือนที่เกิดขึ้นยังส่งผลกระทบต่อโครงสร้างชั้นโพรงหินปูน โดยเฉพาะในพื้นที่ภาคใต้ที่มีความเสี่ยงเป็นทุนเดิม เพราะโครงสร้างที่เป็นหินปูน ประกอบกับเมื่อเจอปริมาณน้ำมหาศาลที่ถาโถมเข้ามา ทำให้แรงดันน้ำใต้ดินเกิดการเปลี่ยนแปลง จึงไม่น่าแปลกใจหากพื้นที่ภาค ใต้โดยเฉพาะ 6 จังหวัดอันดามัน ได้แก่ พังงา กระบี่ ภูเก็ต ระนอง สตูล และตรัง จะมีสถิติสูงกว่าภาคอื่นๆ
    "หลุมยุบ" เป็นหลุมหรือแอ่งแผ่นดินที่ปากหลุมเกือบกลมที่เกิดจากน้ำละลายเอาหินเกลือ หินยิปซั่ม หรือหินปูนข้างใต้ออกไป ทำให้พื้นดินตอนบนยุบลงเป็นหลุมใหญ่ มีเส้นผ่านศูนย์กลางราว 20 เมตรถึงกว่า 200 เมตร การละลายดังกล่าวเป็นไปอย่างกว้างขวางหลุมนี้จะลึกลงๆ จนทะลุถึงทางน้ำข้างล่างเกิดเป็นปล่องขึ้นได้ หลุมยุบพวกนี้หากเกิดในพื้นที่หินปูน เรียกว่า "หลุมยุบในหินปูน"
    สาเหตุหลักของหลุมยุบเป็นเพราะโพรงหินปูนใต้ดินในระดับตื้นซึ่งจะอยู่ลึกจากผิวดินไม่เกิน 50 เมตร การเกิดลักษณะนี้จะเกิดบ่อยในพื้นที่ประสบภัยสึนามิ เพราะโครงสร้างผนังถ้ำเกิดรอยเลื่อนและรอยแตกมากมาย เมื่อแรงดันของน้ำหรืออากาศที่อยู่ข้างในโพรงหรือถ้ำใต้ดินเกิดการเปลี่ยนแปลง ก็จะทำให้เพดานแตกหักและยุบตัวลง
    ส่วนหลุมยุบ ลักษณะที่สองมักเกิดหลังฝนตกหนัก เนื่องจากตะกอนดินถูกน้ำชะพังจากฝนตกหนักทำเกิดการยุบตัวลงมา ซึ่งสามารถพบได้ทั่วประเทศ ไม่ค่อยน่าเป็นห่วงเท่ากับกรณีแรก แต่สำหรับพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ หลุมยุบส่วนใหญ่เกิดจากโพรงเกลือที่อยู่ข้างล่างถูกละลายออกไป ทำให้เกิดช่องว่างในดิน ชั้นดินที่ปิดทับไว้บางๆ จึงไม่สามารถทนอยู่ได้ จึงถล่มลงมาเกิดเป็นหลุมยุบ แล้วในขณะเดียวกันเกลือที่ถูกละลายออกไปจากที่เดิมก็จะไปสะสมตัวที่ใหม่ เกิดเป็นโดมเกลือปูดขึ้นมา
    "หลุมยุบขนาดใหญ่ที่สุดหลังจากสึนามิ เกิดที่บ้านคะเนจื้อ อำเภอแม่ระมาด จังหวัดตาก มีเส้นผ่านศูนย์กลาง 30 เมตร ลึก 30 เมตร ดินหายไปกว่า 1,000 คิว บ้านของชาวกะเหรี่ยงหายไปทั้งหลัง แม้ครั้งนั้น จะโชคดีที่ไม่มีใครเสียชีวิตเลย แต่เจ้าของบ้านดังกล่าวอยู่ในหมู่บ้านอีกต่อไป เพราะชาวบ้านเชื่อว่าเป็นตัวเสนียดที่ทำให้เกิดปรากฏการณ์ร้ายๆ ขึ้นในหมู่บ้าน แม้จะมีคำอธิบายจากปากคำของนักวิชาการด้านธรณีวิทยาแล้วก็ตาม" นักธรณีวิทยาอธิบาย
    ปัจจุบันกรมทรัพยากรธรณี ยังคงเฝ้าระวังและติดตามปรากฏการณ์หลุมยุบในทุกพื้นที่อย่างใกล้ชิด เนื่องจากโดยทั่วไป สามารถปรับสภาพพื้นที่เกิดหลุมยุบ ด้วยการนำเอาวัสดุที่หาได้ในท้องถิ่นลงไปในหลุม โดยจะเริ่มจากการถมเอาก้อนหินขนาดใหญ่ลงไปก่อน
    จากนั้นจึงถมดินและลูกรังอัดตามลงไปจนเต็มหลุม พร้อมกดทับให้แน่แน่น แต่ในขณะนั้นก็ต้องฉีดน้ำเข้าไปทุกระยะเพื่อให้ดินเข้าไปอุดช่องว่างของหินที่รองรับพื้นที่ และตามซอกมุมต่างๆ ภายในหลุม อย่างไรก็ตาม แต่ก่อนจะเปิดใช้พื้นที่ได้ตามปกติ ก็ขึ้นอยู่กับสภาพของดินในแต่ละพื้นที่ ดั้งนั้นภายหลังปรับสภาพ ก็ต้องมีการทำรั้วกึ่งถาวร พร้อมทั้งติดป้ายเตือนภัย ไม่ให้ชาวบ้านเข้าไปใกล้ จนกว่าจะมั่นใจว่าชั้นจะไม่ทรุดลงไปอีก
    "เฉพาะหลุมยุบที่บ้านคะเนจื้อ จังหวัดตาก ได้มีกันพื้นที่เป็นเขตอันตรายแล้ว เนื่องจากอยู่ใกล้เส้นทางสัญจรของชาวบ้านในพื้นที่ และพบแนวโน้มการขยายตัวของหลุมออกไปเรื่อยๆ และทางการไม่สามารถนำเอาดินและหินปริมาณมากๆ มาถมกลับให้เป็นพื้นที่เดิมได้ แต่มีการวางแนวทางร่วมกับทางจังหวัดตากว่า หลังจากปล่อยให้เวลาช่วยสมานธรรมชาติในอนาคตหลุมยุบแห่งนี้ จะสามารถพัฒนาเป็นอ่างเก็บน้ำขนาดย่อมให้กับชาวบ้านไปโดยปริยาย เหมือนกับทะเลบัน จ.สตูล ซึ่งในอดีตก็เคยเป็นหลุมยุบขนาดใหญ่มาก่อนเช่นกัน"
    สำหรับพื้นที่อื่นๆ โดยเฉพาะที่จังหวัดสตูล เลิศสิน บอกว่า ที่หมู่บ้านหัวทาง อำเภอละงู เป็นหมู่บ้านที่เกิดหลุมยุบมากที่สุด จนเรียกได้ว่าสภาพพื้นที่คล้ายกับเตาขนมครก เพราะแค่เดือนเดียวก็มีหลุมยุบขนาด 1-3 เมตร 7-8 แห่ง แต่ถึงตอนนี้ก็ยังไม่จำเป็นต้องอพยพชาวบ้านออกจากพื้นที่ แต่ก็มีโรงเรียน 2 แห่งได้แก่ โรงเรียนบ้านควน และโรงเรียนบ้านกาแนะ อ.เมือง จ.สตูล ที่พบโพรงใต้ดินขนาดใหญ่ถึง 18 เมตรอยู่ใต้อาคารเรียน ทำให้เสี่ยงอันตรายต่อเด็กนักเรียน ทางจังหวัดจึงได้จัดสร้างอาคารเรียนหลังใหม่แทน เพื่อความปลอดภัยของครูและนักเรียน
    ผู้อำนวยการส่วนธรณีวิทยา 2 บอกถึงงานเฝ้าระวังภัยจากหลุมยุบว่า กรมทรัพยากรธรณี ได้ส่งเจ้าหน้าที่เข้าไปตรวจสอบปรากฏการณ์ดังกล่าวอย่างใกล้ชิด พร้อมทั้งออกไปอบรมให้ความรู้กับชาวบ้านในพื้นที่เสี่ยงภัย โดยจะเน้นที่สตูล กระบี่ และตรัง แจกหนังสือคู่มือเฝ้าระวังปรากฏการณ์หลุมยุบ ดินถล่ม
    โดยการสร้างอาสาสมัครชาวบ้านให้มีความรู้ และรู้จักสังเกตการเปลี่ยนแปลงของผิวดิน เนื่องจากก่อนเกิดหลุมยุบจะมีสัญญาณบอกเหตุ เช่น จะมีเสียงดังคล้ายฟ้าร้องจากใต้ดิน บางแห่งก็จะมีน้ำทะลักพุ่งมากจากใต้ดิน หรือบางจุดก่อนยุบตัวพื้นดินจะมีรอยแตกร้าวอย่างผิดสังเกต เป็นทั้งวงกลมวงรี คล้ายร่างแหหรือใยแมงมุม นอกจากนี้น้ำบ่อบาดาลจะมีสีขุ่นข้น เป็นต้น
    "ในช่วงหน้าฝนที่กำลังจะมาถึงนี้ สถานการณ์ค่อนข้างน่าเป็นห่วง เพราะตะกอนน้ำจะพัดทรายใต้ดินหายไปทำให้เกิดหลุมยุบเล็กๆ ขึ้นได้ง่ายขึ้น อีกทั้งเชื่อว่าอีกไม่นานสถานการณ์จะเบาบางลงได้ เราก็พยายามสร้างอาสาสมัครในพื้นที่ เพราะหลุมยุบเป็นปรากฏการณ์ทางธรรมชาติ ถ้าคนได้รับการกระตุ้นด้วยการให้ความรู้ อย่างน้อยเขาก็จะเข้าใจ และรู้จักรักษาชีวิตตัวเองเอาไว้ได้" เลิศสิน กล่าวทิ้งท้าย
    (คอลัมน์:จุดประกาย)
    </td><td rowspan="3" width="18"> </td></tr><tr><td align="right">กรุงเทพธุรกิจ [​IMG] </td></tr><tr><td align="right">16 ก.พ. 2549 <!--192.168.1.254--> </td></tr><tr align="right" bgcolor="#7d393a"><td colspan="3">
    </td></tr></tbody></table>
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 28 พฤษภาคม 2007
  2. golf208

    golf208 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กุมภาพันธ์ 2006
    โพสต์:
    466
    ค่าพลัง:
    +5,454
    <center>เตือน กฟผ. พร้อมรับแผ่นดินไหว ตั้งหอเตือนภัยและแผนอพยพ </center>
    <!--detail--><!--images--> <!--images--><!--images--><!--images-->“สมิทธ” ชี้การเตือนเหตุคลื่นยักษ์สึนามิรวดเร็วที่สุดต้องติดทุ่นในมหาสมุทร คาดไม่เกินสิงหาคมได้ข้อสรุปจุดติดตั้งและอุปกรณ์ พร้อมเตือน กฟผ.อย่าประมาท ให้เตรียมระบบการเตือนภัยล่วงหน้า โดยตั้งหอเตือนภัยและมีแผนอพยพประชาชนใต้เขื่อน

    ศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านวิศวกรรมแผ่นดินไหวและการสั่นสะเทือนร่วมกับหน่วยปฏิบัติการวิจัยธรณีวิทยาแผ่นดินไหวและธรณีแปรสัณฐานผืนแผ่นดินเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย จัดประชุมโต๊ะกลมเรื่อง “ผลกระทบจากแผ่นดินไหวในทะเลอันดามัน” ที่คณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย วันนี้ (27 ก.ค.)โดยมีนายสมิทธ ธรรมสโรช ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นักวิชาการ และผู้เกี่ยวข้อง เข้าร่วมแลกเปลี่ยนข้อมูลที่เกี่ยวข้องด้านแผ่นดินไหวและสึนามิ รวมทั้งผลกระทบของเหตุการณ์แผ่นดินไหวครั้งใหญ่ที่ผ่านมาอาจมีต่อระบบรอยเลื่อนในประเทศไทยและความจำเป็นของการปรับปรุงกฏกระทรวงเกี่ยวกับการออกแบบอาคารต้านทานภัยจากแผ่นดินไหว

    นายสมิทธ กล่าวว่า เหตุการณ์แผ่นดินไหวเกิน 7 ริกเตอร์ เมื่อวันที่ 24 กรกฎาคม มีทั้งคำชมและคำตำหนิ ศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติที่ออกประกาศเตือนให้อพยพแต่เหตุการณ์ไม่เกิด แต่ควรจะเชื่อฟัง เพราะทุกประเทศก็เตือนแบบนี้ แต่คนไทยอาจจะไม่ชินเพราะเพิ่งมีภัยธรรมชาตินี้ขึ้นมา แต่บางประเทศที่เกิดบ่อยเตือน 10 ครั้ง เกิด 3 ครั้งก็มี แต่ควรเชื่อเพื่อจะมีโอกาสมาตำหนิอีกรอบ ทั้งนี้ ในต่างประเทศสามารถออกประกาศเตือนได้ภายใน 10-15 นาที เพราะมีเครื่องมือตรวจวัด แต่ของไทยยังไม่มีเครื่องมือตรวจวัดคลื่นในมหาสมุทรอินเดียหรือทะเลอันดามัน จึงจำเป็นต้องใช้เวลามากในการเตรียมข้อมูล อย่างไรก็ตาม ขณะนี้นายกรัฐมนตรีอนุมัติด้วยวาจาแล้วในการจัดงบประมาณซื้ออุปกรณ์ดังกล่าว คาดว่าในเดือนสิงหาคมสามารถจัดทำรายละเอียดจัดหาทุ่นและอุปกรณ์ จุดที่จะติดตั้งในการตรวจวัดคลื่นสึนามิ และในเดือนกันยายน-ตุลาคม เปิดประมูล และติดตั้งแล้วเสร็จในกลางปีหน้า

    “ในชีวิตไม่เคยประสบภาวะการเปลี่ยนแปลงพลังงานของโลกมากมายเท่านี้ ตามทฤษฎีการเกิดแผ่นดินไหวขนาดใหญ่ เท่าที่เรียนมาแผ่นดินไหวขนาดใหญ่เกิน 7 ริกเตอร์ขึ้นไปเกิดครั้งหนึ่งแล้วจะเกิดอีก 70-80 ปี เพราะต้องรวบรวมพลังงานพอเพียงที่จะผลักดันให้เปลือกโลกเคลื่อนตัวหรือทำให้ภูเขาไฟระเบิดได้ แต่ขณะนี้เท่าที่ตรวจวัดมาหลังการเกิดแผ่นดินไหวเมื่อ 26 ธันวาคม 2547 มีแผ่นดินไหวขนาดใหญ่ประมาณ 5 ริกเตอร์ วันเว้นวันเลย โลกเรากำลังเปลี่ยนแปลง เราต้องพยายามทำความเข้าใจกับการเปลี่ยนแปลงของโลก” นายสมิทธ กล่าว และว่าสำหรับกรณีของเขื่อนที่จังหวัดกาญจนบุรีนั้น กฟผ.ยืนยันถึงความแข็งแรง สร้างไว้มั่นคงแข็งแรงรองรับแผ่นดินไหวได้ถึง 7-8 ริกเตอร์ แต่แผ่นดินไหวที่อำเภอศรีสวัสดิ์ เมื่อวันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2526 เกิด 5.9 ริกเตอร์ ก็ไม่ใช่เรื่องเล็ก เพราะคนอยู่กรุงเทพฯ ยังรู้สึกได้ ขณะเดียวกันจากการพูดคุยกับผู้เชี่ยวชาญจีนบอกว่ารอยเลื่อนของประเทศไทยที่มีอยู่ 9 รอยเลื่อนสำคัญ เช่น รอยเลื่อนระนอง รอยเลื่อนคลองมะรุ่ย รอยเลื่อนศรีสวัสดิ์ ขึ้นไปถึงตอนเหนือของประเทศไทยก็เหมือนรอยร้าวในแก้วน้ำ 1 ใบ และการเกิดแผ่นดินไหวเมื่อวันที่ 26 ธันวาคม 2547 เหมือนคนทุบแก้วใบที่กำลังมีรอยร้าวอยู่ ถ้าใครนำอะไรมาทุบแก้วร้าว รอยเลื่อนบางรอยอาจจะแตกหลุดหรือขยายตัวเพิ่มมากขึ้น ดังนั้น ต้องระวัง

    “อยากให้ กฟผ.ยอมรับเสียทีว่าเขื่อนที่สร้างมาถ้ามีแผ่นดินไหวขนาดใหญ่ใกล้ ๆ อาจจะมีผลกระทบ ถ้าเกิดแผ่นดินไหวขนาดใหญ่และเขื่อนแตก เขื่อนรั่ว เขื่อนร้าว กฟผ.ต้องยอมรับว่ามนุษย์ไม่สามารถสร้างปลิ่งปลูกสร้างทนทานต่อแรงแผ่นดินไหวขนาดใหญ่ ๆ ได้ ไม่ว่าในมหาสมุทรหรือพื้นดิน ต้องยอมรับและเลิกคิดว่าเขื่อนจะทนทานพลังงานของแผ่นดินไหวได้และควรจะต้องมีระบบการเตือนภัย ถ้าเขื่อนรั่ว ร้าวแตก ล่วงหน้า ให้แก่ประชาชนที่อยู่ในพื้นที่ใต้เขื่อน ควรมีระบบอพยพ มีแผนที่การอพยพ ประชาชนที่อยู่ในหมู่บ้านใดใต้เขื่อนไปอยู่ที่ไหนจึงจะพ้นจากการทลายของเขื่อน จากน้ำที่ไหลมาจากเขื่อน ควรต้องยอมรับและปรึกษากับคณะกรรมการของเรา ซึ่งยินดีแม้กระทั่งจะตั้งหอเตือนภัยในจุดที่ต้องการให้ฟรี ๆ ผมเตือนไว้แล้วงบประมาณที่จะตั้งหอเตือนภัยให้ในจุดใต้ท้องน้ำของเขื่อน” นายสมิทธ กล่าว

    ทางด้าน ศ.ดร.ปณิธาน ลักคุณะประสิทธิ์ ศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านวิศวกรรมแผ่นดินไหวและการสั่นสะเทือน จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวว่า เห็นด้วยกับการออกประกาศเตือนประชาชนของศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวกว่า 7 ริกเตอร์ เมื่อวันที่ 24 กรกฎาคม เนื่องจากปัจจัยในการเกิดคลื่นสึนามิมีหลายอย่างต้องใช้เวลาเกือบ 2 ชั่วโมง จึงจะทราบและศูนย์เตือนภัยระดับโลกก็เตือนได้อย่างถูกต้องเพียงร้อยละ 10-20 ฉะนั้น ต้องคำนึงถึงความปลอดภัยของประชาชนไว้ก่อน แม้ว่าเหตุการณ์จะไม่เกิดขึ้นก็ตาม อย่างไรก็ตาม ผลการเคลื่อนตัวอย่างรุนแรงจากแผ่นดินไหวเมื่อวันที่ 26 ธันวาคม 2547 อาจส่งผลกระทบเพิ่มความเครียดในระบบรอยเลื่อนใกล้เคียง ดังนั้น มีความจำเป็นต้องเฝ้าติดตามรอยเลื่อนสำคัญ ๆ ใกล้กับกรุงเทพฯ และติดตั้งเครื่องตรวจวัดแผ่นดินไหวในบริเวณดังกล่าว นอกจากนี้ มีความจำเป็นต้องปรับปรุงกฎกระทรวงที่ 49 อย่างเร่งด่วนโดยให้กำหนดอาคารในกรุงเทพฯ และปริมณฑลต้องรับการออกแบบต้านทานภัยจากแผ่นดินไหว รวมทั้งรัฐต้องเร่งผลิตพัฒนาบุคลากรด้านนักวิทยาศาสตร์และวิศวกรที่เกี่ยวข้อง เช่น นักธรณีวิทยา นักสมุทรศาสตร์ นักแผ่นดินไหว วิศวกรชายฝั่ง ที่ขาดแคลนอยู่ และจัดสรรตำแหน่งให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

    ส่วน รศ.ดร.ปัญญา จารุศิริ หัวหน้าหน่วยปฏิบัติการวิจัยธรณีวิทยาแผ่นดินไหวและธรณีแปรสัณฐานผืนแผ่นดินเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวว่า ผลของการเกิดรอยเลื่อนเมื่อวันที่ 24 กรกฎาคม จากเหตุแผ่นดินไหวยังไม่ทราบแน่นอน แต่ถ้ารอยเลื่อนสะแกงในพม่าได้รับการขยับแรงมาก ๆ ผลกระทบที่มีความเป็นไปได้คือจะทำให้รอยเลื่อนเจดีย์สามองค์ได้รับผลกระทบ แต่ก็เป็นเรื่องของอนาคตที่ไม่มีใครสามารถคาดได้ว่าแผ่นดินไหวขนาดใหญ่จะเกิดขึ้นอีกเมื่อไหร่และที่ไหน ดังนั้น ต้องเตรียมพร้อม.-สำนักข่าวไทย

    ที่มา โมเดิร์นนาย<!--detail--> [​IMG] โดย : tyler_durden
    อีเมล์ : t@h
    วันที่ : 2005-07-27 21:52:37


    ข้อมูลนี้กอล์ฟนำมาจากเว็บ
    http://www.mthai.com/webboard/5/126338.html ครับ

    <table width="100%"> <tbody><tr><td align="right">
    </td></tr></tbody></table>
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 28 พฤษภาคม 2007
  3. HONGTAY

    HONGTAY ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    36,548
    กระทู้เรื่องเด่น:
    151
    ค่าพลัง:
    +147,896

    ยินดีมากครับผม จะได้รวบรวมเรื่องที่เกี่ยวกับภัยทางน้ำ ขอแนวทางการป้องกันและการพยากรณ์เรื่องภัยทางน้ำด้วยนะครับคุณกอล์ฟ
     
  4. Falkman

    Falkman พลังจิตนานาชาติ ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    19,726
    ค่าพลัง:
    +77,792
    คุณ Vanco เอาใส่ file ส่งต้นฉบับให้คุณกิ๊กด้วยนะ
     
  5. HONGTAY

    HONGTAY ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    36,548
    กระทู้เรื่องเด่น:
    151
    ค่าพลัง:
    +147,896
    <table class="mxtable" align="center" bgcolor="#ffffff" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"><tbody><tr><td height="120" valign="top">
    ประกาศกรมทรัพยากรธรณีฉบับที่ ๑๐/๒๕๕๐

    เตือนให้ประชาชนเฝ้าระวังภัยดินถล่ม และน้ำป่าไหลหลาก
    บริเวณพื้นที่ภาคใต้ของประเทศ
    นายอภิชัย ชวเจริญพันธ์ อธิบดีกรมทรัพยากรธรณี กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ขอให้ประชาชนในพื้นที่ภูเขาสูง หุบเขาและหมู่บ้านเสี่ยงภัยดินถล่ม บริเวณจังหวัดภูเก็ต พังงา กระบี่ ตรัง นครศรีธรรมราช สุราษฎร์ธานี พัทลุง สงขลา และจังหวัดใกล้เคียง ที่อาศัยอยู่ในเขตเทือกเขาภูเก็ต และเทือกเขานครศรีธรรมราช โดยเฉพาะในเขตอำเภอกาญจนดิษฐ์ บ้านนาสาร จังหวัดสุราษฎร์ธานี อำเภอพิปูน ฉวาง ลานสกา จังหวัดนครศรีธรรมราช (แผนที่แนบ) ตรวจเฝ้าระวังภัยดินถล่มและน้ำป่าไหลหลากในระยะนี้ เนื่องจากได้เกิดฝนตกหนักติดต่อกัน พร้อมทั้งให้ประชาชนเพิ่มความระมัดระวังในการเดินทาง ซึ่งอาจเกิดดินไหลมาปิดทับเส้นทาง หรือหินร่วงจากหน้าผาข้างถนน พร้อมทั้งให้อาสาสมัครเฝ้าระวังแจ้งเตือนภัยดินถล่มของกรมทรัพยากรธรณี เฝ้าระวังภัยอย่างต่อเนื่องและใกล้ชิด
    ศูนย์ปฏิบัติการธรณีพิบัติภัย<o:p></o:p>
    (๐๒-๒๐๒-๓๖๑๑)<o:p></o:p>
    ประกาศ ณ วันที่ ๔ มิถุนายน ๒๕๕๐ <o:p></o:p>
    เวลา ๑๗.๐๐ น.<o:p></o:p>
    <o:p></o:p>

    [​IMG]

    </td><td rowspan="3" width="18"> </td></tr><tr><td align="right">กรมทรัพยากรธรณี [​IMG] </td></tr><tr><td align="right">4 มิ.ย. 2550 </td></tr></tbody></table>
     
  6. HONGTAY

    HONGTAY ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    36,548
    กระทู้เรื่องเด่น:
    151
    ค่าพลัง:
    +147,896
    <table class="mxtable" align="center" bgcolor="#ffffff" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"><tbody><tr><td height="120" valign="top">
    ไอซีทีพบปัญหาหอเตือนสึนามิเพียบ

    4 มิถุนายน 2550 00:56 น.


    หอเตือนภัยสึนามิไร้ความน่าเชื่อถือ ชาวบ้านหวั่นใช้การไม่ได้จริง ทั้งขาดเจ้าหน้าที่ดูแล หลังเจอปัญหาหน่วยงานรับผิดชอบไม่แน่ชัด ด้าน รมต.ไอซีทีแนะทำกิจกรรมให้ชาวบ้านเห็นการทำงานของหอ เช่น เปิดเพลงชาติเช้า-เย็น
    ศ.ดร.สิทธิชัย โภไคยอุดม รมว.เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที) เผยภายในการประชุม เรื่อง “การป้องกันภัยธรรมชาติ และการบริหารระบบสื่อสารโทรคมนาคม บริเวณพื้นที่ชายฝั่งทะเลอันดามันและพื้นที่เสี่ยงภัย" จ.กระบี่ ว่า หอเตือนภัยที่ดำเนินการติดตั้งบริเวณพื้นที่เสี่ยงภัยสึนามินั้น ยังมีปัญหามากมาย ไม่ว่าจะเป็นการทำงานของหอเตือนภัยที่ชาวบ้านไม่เชื่อถือ หรือการดูแลรักษาหอ ที่หน่วยงานรับผิดชอบยังไม่แน่ชัด
    “ความเชื่อถือของประชาชนต่อหอเตือนภัยสึนามิมีน้อยมาก เนื่องจากไม่มีกิจกรรมที่แสดงว่า หอเตือนภัยใช้การได้จริงเมื่อเกิดแผ่นดินไหว” ศ.ดร.สิทธิชัย กล่าว
    หอเตือนภัยสึนามิ สูงประมาณ 24 เมตร มีลักษณะเป็นหอกระจายข่าว เมื่อศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติในกรุงเทพฯ ได้รับข้อมูล และทำการวิเคราะห์ข้อมูลต่างๆ พบว่า มีโอกาสสูงที่จะเกิดคลื่นสึนามิ จะส่งสัญญาณผ่านดาวเทียมมายังหอเตือนภัยโดยตรง เป็นเสียงหวอและเสียงพูดที่มีทั้งหมด 5 ภาษา คือ ไทย อังกฤษ ญี่ปุ่น เยอรมัน และจีน
    รมว.ไอซีที ได้แนะแนวทางตรวจเช็คประสิทธิภาพของหอเตือนภัยเพื่อสร้างความมั่นใจ โดยในช่วงเคารพธงชาติตอน 8 โมงเช้า และ 6 โมงเย็น ให้ศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติในกรุงเทพฯ ส่งสัญญาณจากมหานคร ในลักษณะเดียวกับการส่งสัญญาณเตือนภัย จะเป็นการช่วยให้ชาวบ้านได้รับรู้ว่า หอเตือนภัยสามารถทำงานได้ปกติ
    จากการสำรวจความคิดเห็นชาวบ้านในพื้นที่เสี่ยงต่อการทำงานของหอเตือนภัย พบว่า ชาวบ้านให้ความเชื่อถือในระดับที่ต่ำ ขณะที่อุปกรณ์ เช่น สายไฟฟ้าชำรุดเสียหาย โดยที่ไม่มีเจ้าหน้าที่มาดูแลซ่อมแซมแต่อย่างใด ส่วนหนึ่งมาจากหน้าที่รับผิดชอบดูแลที่ยังคลุมเครือ ไม่ว่าจะเป็นกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติ หรือเป็นหน้าที่ของหน่วยงานท้องถิ่นที่ ต่างฝ่ายต่างกลัวจะเป็นการทำงานซ้ำซ้อน
    “สิ่งสำคัญที่นอกเหนือจากการสร้างความเชื่อมั่นต่อหอเตือนภัยและอุปกรณ์ คือ การสร้างองค์ความรู้เกี่ยวกับสึนามิและการปฏิบัติตนเมื่อเกิดเหตุให้แก่ประชาชน ไม่ว่าจะเป็นการอบรม สัมมนา หรือฝึกซ้อม ที่ต้องร่วมมือกับส่วนราชการ ไม่ว่าจะเป็นผู้ว่าราชการจังหวัด หรือเจ้าหน้าที่ท้องถิ่น” ศ.ดร.สิทธิชัย กล่าว
    (คอลัมน์:วิทยาศาสตร์-เทคโนโลยี)
    </td><td rowspan="3" width="18"> </td></tr><tr><td align="right">คม-ชัด-ลึก [​IMG] </td></tr><tr><td align="right">5 มิ.ย. 2550</td></tr></tbody></table>
     
  7. HONGTAY

    HONGTAY ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    36,548
    กระทู้เรื่องเด่น:
    151
    ค่าพลัง:
    +147,896
    ภาพของเมืองต่างๆ หลังจาก ระดับน้ำทะเล เพิ่มขึ้นจาก ภาวะโลกร้อน

    Apr 15th, 2007 by Global Warming

    นี่คือภาพของเมืองต่างๆครับ เป็นภาพจำลองว่าถ้าหาก ระดับน้ำทะเลสูง ขึ้น ในอีก 50 ปี ซึ่งเป็นผลมาจาก ภาวะโลกร้อน และ น้ำแข็งขั้วโลก ละลาย จะทำให้เกิดน้ำท่วมขนาดไหน
    เริ่มจากแมนฮัตตัน , นิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา
    เป็นศูนย์กลางทางธุรกิจที่สำคัญของอเมริกา ไม่ว่าจะเป็นตึกระฟ้า สำนักงานใหญ่บริษัทต่างๆ หรือตลาดหลักทรัพย์ วอลล์ สตรีท
    [​IMG]
    รัฐฟลอริดา สหรัฐอเมริกา
    และภาพเมื่อ ถูกน้ำท่วม คนเป็นล้านจะต้องอพยพออก

    [​IMG]
    ต่อมาคือ ปักกิ่ง ประเทศจีน
    [​IMG]
    เซี่ยงไฮ้
    [​IMG]
    กัลกัตตา อินเดีย
    [​IMG]
    ซานฟรานซิสโก ในอเมริกา
    [​IMG]
    และเนธอร์แลนด์ ซึ่งเป็นประเทศที่พื้นที่ส่วนมากของประเทศอยู่ต่ำ (มีพื้นที่บางส่วน ต่ำกว่า ระดับน้ำทะเล ด้วยซ้ำ)
    หายไปเกือบครึ่งประเทศ
    [​IMG]
    นี่เป็นแค่ส่วนหนึ่งเท่านั้น ของพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจำนวนมากบนโลกแห่งนี้ ผู้คนนับร้อยล้านคนจะเดือดร้อนมหาศาลครับ จาก ปัญหาภาวะโลกร้อน

    http://www.whyworldhot.com/global-warming/flood-city/#more-42
     
  8. HONGTAY

    HONGTAY ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    36,548
    กระทู้เรื่องเด่น:
    151
    ค่าพลัง:
    +147,896
    <table class="mxtable" align="center" bgcolor="#ffffff" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"><tbody><tr><td height="120" valign="top">
    เตือนภัย 17 จังหวัดระวังน้ำท่วม เผย “หัวหิน-กทม.” ฝนตกถึงวันที่ 8 พ.ค.

    กรมทรัพยากรธรณีออกประกาศเตือนภัยประชาชนที่อาศัยในพื้นที่ภูเขาสูง หุบเขาในเขตพื้นที่ฝั่งตะวันตกของประเทศให้ระวังภัยจากดินถล่ม และน้ำป่าไหลหลาก เหตุเพราะผลจากพายุดีเปรสชัน ด้านกรมอุตุนิยมวิทยา เตือน 17 จังหวัดระวังน้ำท่วม “หัวหิน” และกรุงเทพฯ น่าเป็นห่วง เผยจะมีฝนตกต่อเนื่องไปจนถึงวันที่ 8 พ.ค.กรมชลประทานสั่งเฝ้าระวังปริมาณน้ำฝนที่ตกต่อเนื่องช่วงนี้ โดยเขื่อนและอ่างเก็บน้ำยังรองรับน้ำได้ มีน้ำเฉลี่ยร้อยละ 50 เท่านั้น

    นายอภิชัย ชวเจริญพันธ์
    อธิบดีกรมทรัพยากรธรณี กล่าวว่า กรมฯ ได้ออกประกาศเตือนประชาชนเฝ้าระวังภัยดินถล่มและน้ำป่าไหลหลาก บริเวณพื้นที่ด้านตะวันตกประเทศไทย โดยขอให้ประชาชนในพื้นที่ภูเขาสูง หุบเขา และหมู่บ้านเสี่ยงภัยดินถล่ม บริเวณจังหวัดแม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ ตาก กำแพงเพชร กาญจนบุรี และจังหวัดใกล้เคียง โดยเฉพาะในเขตอำเภอเมือง ปางมะผ้า ขุนยวม แม่สะเรียง สบเมย แม่ลาน้อย จังหวัดแม่ฮ่องสอน อำเภอแม่แจ่ม สะเมิง ฮอด อมก๋อย จังหวัดเชียงใหม่ อำเภอท่าสองยาง แม่ระมาด แม่สอด พบพระ อุ้มผาง จังหวัดตาก ตรวจเฝ้าระวังภัยดินถล่มและน้ำป่าไหลหลาก ในระยะนี้ เนื่องจากกรมอุตุนิยมวิทยา รายงานว่า พายุดีเปรสชันจะทำให้เกิดฝนตกหนักในพื้นที่ภาคเหนือด้านตะวันตก

    พร้อมทั้งให้ประชาชนเพิ่มความระมัดระวังในการเดินทาง ซึ่งอาจเกิดดินไหลมาปิดทับเส้นทาง หรือหินร่วงจากหน้าผาข้างถนน พร้อมทั้งให้อาสาสมัครเฝ้าระวังแจ้งเตือนภัยดินถล่มของกรมทรัพยากรธรณี เฝ้าระวังภัยอย่างใกล้ชิด

    นายทศพร นุชอนงค์ ผู้อำนวยกองธรณีวิทยาสิ่งแวดล้อม กรมทรัพยากรธรณี กล่าวว่า ยังคงให้ศูนย์ปฏิบัติธรณีพิบัติภัยในจังหวัดต่างๆ เฝ้าติดตามปริมาณฝนตกสะสมที่ลงมาในพื้นที่ โดยเฉพาะพื้นที่เสี่ยงภัยดินถล่ม ซึ่งมีอยู่ในด้านตะวันตกของประเทศที่กำลังได้รับอิทธิพลพายุดีเปรสชันขณะนี้ ส่วน จ.ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร ที่ได้รับปริมาณฝนสะสมต่อเนื่อง ก็ยังอยู่ในสถานการณ์เฝ้าระวังเป็นพิเศษ หากมีฝนตกเพิ่มเติมก็อาจเป็นอันตราย เพราะขณะนี้ดินเริ่มอิ่มตัวแล้ว รวมถึงได้เฝ้าระวังจังหวัดภาคเหนือ เช่น แม่ฮ่องสอน ตาก อุตรดิตถ์ เชียงใหม่ ที่เคยเกิดภัยดินถล่ม ทั้งนี้ ภัยดินถล่มจะขึ้นอยู่กับสภาพทางธรณีวิทยา ชั้นของดิน และความชัน โดยฝนจะเป็นตัวกระตุ้นให้เกิดการถล่ม หรือการไหลของดิน ส่วนพื้นที่ดินชุ่มน้ำแต่ยังไม่ถล่ม หากไม่มีฝนตกเพิ่มเติม น้ำในดินจะแห้งไปตามธรรมชาติ และกลับเข้าสู่ภาวะปกติใน 2-3 สัปดาห์</td><td align="right">ผู้จัดการออนไลน์ [​IMG] </td><td align="right">6 มิ.ย. 2550</td></tr></tbody></table>
     
  9. HONGTAY

    HONGTAY ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    36,548
    กระทู้เรื่องเด่น:
    151
    ค่าพลัง:
    +147,896
    “โกนู” ถล่มโอมานยับ อิหร่านเหยื่อรายต่อไป [7 มิ.ย. 50 - 04:01]


    “โกนู” พายุไซโคลนที่รุนแรงที่สุดในคาบ สมุทรอาระเบียนในรอบ 60 ปี พัดถล่มเมืองเซอร์และรา'ส์ อัล-ฮัดด์ ชายฝั่งตะวันออกของโอมานอย่างหนักหน่วงเมื่อรุ่งเช้า 6 มิ.ย. ด้วยความเร็วลมถึง 170 กม.ต่อ ชม. ทำให้เกิดคลื่นทะเลสูงนับสิบฟุต กรุงมัสกัตนครหลวงและเมืองใกล้เคียงมีฝนตกหนักจนเกิดน้ำท่วม สนามบินนานาชาติมัสกัต อาคารร้านค้าและสถานที่ราชการต้องปิด ประชาชนตามชายฝั่งอพยพนับหมื่น แต่ยังไม่มีรายงานความสูญเสีย
    คาดว่าแหล่งผลิตน้ำมันใหญ่ๆของโอมานจะรอดจากพายุลูกนี้ แต่ช่องแคบฮอร์มุซ เส้นทางขนส่งน้ำมันดิบทางเรือ 2 ใน 5 ของโลกอาจจะได้รับผลกระทบ และทำให้ราคาน้ำมันในตลาดโลกพุ่งสูงขึ้น หลังถล่มโอมาน “โกนู” ซึ่งแปลว่ากระสอบทำจากใบปาล์มในภาษามัลดีฟส์ บ่ายหน้าไปยังชายฝั�งตะวันออกเฉียงใต้ของอิหร่าน ซึ่งถ้ามันซัดถล่มแหล่งผลิตน้ำมันของอิหร่านแบบเต็มๆ ในคืน 6 มิ.ย. หรือรุ่งเช้า 7 มิ.ย. จะส่งผลกระทบรุนแรงต่อราคาน้ำมันยิ่งกว่าถล่มโอมาน เพราะอิหร่านเป็นผู้ส่งออกน้ำมันรายใหญ่ของโลก.

    http://www.thairath.co.th/news.php?section=international&content=49730
     
  10. HONGTAY

    HONGTAY ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    36,548
    กระทู้เรื่องเด่น:
    151
    ค่าพลัง:
    +147,896
    เกิดพายุและฝนรุนแรงทางตะวันออกของออสเตรเลีย
    9 มิถุนายน พ.ศ. 2550 14:40:00

    ซิดนีย์ – มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 2 คน และสูญหายไปอีก 5 คน หลังจากเกิดกระแสลมรุนแรงและฝนตกหนัก บริเวณชายฝั่งภาคตะวันออกของออสเตรเลีย

    กรุงเทพธุรกิจออนไลน์ : โฆษกตำรวจรัฐนิวเซาท์เวลส์ กล่าวว่า ได้ประกาศเตือนให้ประชาชนอยู่แต่ในบ้านพัก และหลีกเลี่ยงการเดินทางที่ไม่จำเป็น และคาดว่าสภาพอากาศเลวร้ายเช่นนี้จะยังคงต่อเนื่องไปอีกระยะหนึ่ง
    ตำรวจยังคงค้นหาผู้เคราะห์ร้าย 5 คน ที่สูญหายไป หลังจากรถยนต์ตกลงไปในแม่น้ำ เนื่องจากถนนทรุดตัวลงเมื่อวานนี้ ส่วนผู้เสียชีวิต 2 คน ตำรวจพบศพในรถยนต์ ซึ่งถูกกระแสน้ำพัด อิทธิพลของพายุและฝนครั้งนี้ ยังทำให้ต้นไม้หักโค่น น้ำท่วมในนครซิดนีย์บางจุด และมีประชาชนราว 2 แสนคน ไม่มีไฟฟ้าใช้ นอกจากนี้ ยังกระทบเที่ยวบินบางส่วนที่ท่าอากาศยานนครซิดนีย์


    http://www.bangkokbiznews.com/2007/06/09/WW19_1901_news.php?newsid=78081
     
  11. HONGTAY

    HONGTAY ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    36,548
    กระทู้เรื่องเด่น:
    151
    ค่าพลัง:
    +147,896
    ออสซี่ยังคงวิกฤติหลังกลายเป็นเมืองบาดาล <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td bgcolor="#cccccc" height="1">[​IMG]</td> </tr> </tbody></table> <table border="0" cellpadding="4" cellspacing="0"> <tbody><tr> <td class="body" align="left" valign="baseline">โดย ผู้จัดการออนไลน์</td> <td class="date" align="left" valign="baseline">11 มิถุนายน 2550 15:23 น.</td> </tr> </tbody></table> <table border="0" cellpadding="4" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td align="center" valign="middle">[​IMG]</td> </tr> </tbody></table> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td align="center" valign="middle">
    <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"> <tbody><tr> <td align="center" valign="top"> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"> <tbody><tr> <td align="right" height="1" valign="bottom" width="1">[​IMG]</td> <td align="center" background="/images/linedot_hori.gif" height="1" valign="bottom">[​IMG]</td> <td align="left" height="1" valign="bottom" width="1">[​IMG]</td> </tr> <tr> <td align="center" background="/images/linedot_vert.gif" valign="middle" width="1">[​IMG]</td> <td> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="5" width="100%"> <tbody><tr> <td align="center" valign="middle">[​IMG]</td> </tr> </tbody></table> </td> <td align="center" background="/images/linedot_vert.gif" valign="middle" width="1">[​IMG]</td> </tr> <tr> <td align="right" height="1" valign="top" width="1">[​IMG]</td> <td align="center" background="/images/linedot_hori.gif" height="1" valign="top">[​IMG]</td> <td align="left" height="1" valign="top" width="1">[​IMG]</td> </tr> </tbody></table> </td> </tr> </tbody></table>
    </td> </tr> </tbody></table> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"><tbody><tr> <td align="left" height="12" valign="bottom">[​IMG]</td> </tr> <tr> <td bgcolor="#cccccc"> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="1" width="100%"> <tbody><tr> <td align="center" bgcolor="#ffffff" valign="top"> <table cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td align="center" valign="top" width="160"> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="4" width="100%"> <tbody><tr> <td align="center" valign="top"> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td align="center" valign="top"> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td class="body" align="center" valign="baseline">คลิกที่ภาพเพื่อดูขนาดใหญ่ขึ้น</td> </tr> </tbody></table> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td align="center" valign="middle">[​IMG]</td> </tr> </tbody></table>
    <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td align="center" valign="middle">[​IMG]</td> </tr> </tbody></table>
    <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td align="center" valign="middle">[​IMG]</td> </tr> </tbody></table>
    <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td align="center" valign="middle">[​IMG]</td> </tr> </tbody></table>
    <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td align="center" height="1" valign="middle" width="165">[​IMG]</td> </tr> </tbody></table> </td> </tr> </tbody></table></td> </tr> </tbody></table></td> <td background="/images/linedot_vert3.gif" width="4">[​IMG]</td> <td align="center" valign="top"> <table border="0" cellspacing="7" width="100%"> <tbody><tr> <td align="center" valign="top"> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td class="body" align="left" valign="baseline"> เอเอฟพี – อุทกภัยยังคงสร้างความเสียหายอย่างหนักให้ออสเตรเลีย หลังถูกโจมตีด้วยพายุรุนแรงในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ถึงแม้ว่าประชาชนหลายพันคนซึ่งอพยพจากเมืองเล็ก ๆ ทางตอนเหนือของซิดนีย์ได้รับอนุญาตให้กลับบ้านได้แล้ว

    เจ้าหน้าที่หลายคนบอกว่า แม้ว่าอันตรายจากอุทกภัยที่เมืองเมตแลนด์ในหุบเขาฮันเตอร์จะลดลงแล้ว แต่กระแสน้ำยังคงไหลบ่าเข้าท่วมย่านชานเมืองนิวคาสเซิลซึ่งอยู่ถัดออกไปทางตะวันออก โดยก่อนหน้านี้พายุที่พัดอย่างรุนแรงส่งผลให้กระแสน้ำแม่น้ำฮันเตอร์เซาะตลิ่งทั้งสองด้านพังทะลาย และสร้างรอยร้าวบริเวณเขื่อนรอบใจกลางเมืองเมตแลนด์ ทำให้ต้องอพยพประชาชนราว 6,000 ชีวิตจากบ้านตั้งแต่วันอาทิตย์ (10) อย่างไรก็ตามตลอดทั้งคืน กระแสน้ำก็ยังคงค่อย ๆ สูงขึ้นในปริมาณที่กำหนดไว้ ผู้ที่อาศัยอยู่ภายในเขื่อนก็ได้รับอนุญาตให้กลับบ้านในตอนเช้าวันจันทร์แล้ว ทางด้านฝ่ายช่วยเหลือเร่งด่วนของรัฐนิวเซาท์เวลส์ นาธาน รีส์ กล่าวว่า อันตรายในเมต์แลนด์ยังไม่ยังไม่สิ้นสุด โดยเฉพาะกับผู้คนราวพันคนซึ่งอยู่ด้านนอกเขื่อน

    เมืองนิวคาสเซิลถูกโจมตีด้วยพายุซึ่งเข้าฝั่งเมื่อวันศุกร์ โดยคลื่นยักษ์ซัดเรือบรรทุกสินค้าขนาดใหญ่ขึ้นมาเกยตื้น ขณะที่ใจกลางเมืองมีสภาพคล้ายกับถูกโจมตีด้วยแผ่นดินไหว พายุที่เล่นงานออสเตรเลียในครั้งนี้ เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต 9 คน ในจำนวนนี้รวมถึง สมาชิก 5 คน ในครอบครัวเดียวกันซึ่งเสียชีวิตหลังรถถลาตกห้วยจากสภาพถนนที่พังถล่ม

    ขณะที่ทางเจ้าหน้าที่ยังคงพยายามเชื่อมกระแสไฟฟ้าของ 40,000 หลังคาเรือน ซึ่งถูกตัดเป็นเวลาถึง 4 วัน หลังถูกพายุโจมตี โฆษกหน่วยฉุกเฉินแห่งออสเตรเลียแอนโทนีโอ โอ เบรน์ กล่าวว่าความเสียหายทางถนนทำให้งานด้านการช่วยเหลือยากขึ้นไปอีก
    </td></tr></tbody></table></td></tr></tbody></table></td></tr></tbody></table></td></tr></tbody></table></td></tr></tbody></table>
     
  12. HONGTAY

    HONGTAY ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    36,548
    กระทู้เรื่องเด่น:
    151
    ค่าพลัง:
    +147,896
    ยอดเสียชีวิตเหตุพายุฝนโหมภาคใต้จีนพุ่งแตะ 66 ศพ <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td bgcolor="#cccccc" height="1">[​IMG]</td> </tr> </tbody></table> <table border="0" cellpadding="4" cellspacing="0"> <tbody><tr> <td class="body" align="left" valign="baseline">โดย ผู้จัดการออนไลน์</td> <td class="date" align="left" valign="baseline">11 มิถุนายน 2550 16:40 น.</td> </tr> </tbody></table> <table border="0" cellpadding="4" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td align="center" valign="middle">[​IMG]</td> </tr> </tbody></table> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td align="center" valign="middle">
    <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"> <tbody><tr> <td align="center" valign="top"> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"> <tbody><tr> <td align="right" height="1" valign="bottom" width="1">[​IMG]</td> <td align="center" background="/images/linedot_hori.gif" height="1" valign="bottom">[​IMG]</td> <td align="left" height="1" valign="bottom" width="1">[​IMG]</td> </tr> <tr> <td align="center" background="/images/linedot_vert.gif" valign="middle" width="1">[​IMG]</td> <td> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="5" width="100%"> <tbody><tr> <td align="center" valign="middle">[​IMG]</td> </tr> </tbody></table> </td> <td align="center" background="/images/linedot_vert.gif" valign="middle" width="1">[​IMG]</td> </tr> <tr> <td align="right" height="1" valign="top" width="1">[​IMG]</td> <td align="center" background="/images/linedot_hori.gif" height="1" valign="top">[​IMG]</td> <td align="left" height="1" valign="top" width="1">[​IMG]</td> </tr> </tbody></table> <table border="0" cellpadding="4" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td class="body" align="center" valign="baseline">ตำรวจออกตรวจสอบความเสียหาย หลังฝนกระหน่ำเมืองเซินเจิ้น ในมณฑลกว่างตงจนน้ำท่วมถนนหลายสาย</td> </tr> </tbody></table> </td> </tr> </tbody></table>
    </td> </tr> </tbody></table> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"><tbody><tr> <td align="left" height="12" valign="bottom">[​IMG]</td> </tr> <tr> <td bgcolor="#cccccc"> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="1" width="100%"> <tbody><tr> <td align="center" bgcolor="#ffffff" valign="top"> <table cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td align="center" valign="top" width="160"> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="4" width="100%"> <tbody><tr> <td align="center" valign="top"> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td align="center" valign="top"> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td class="body" align="center" valign="baseline">คลิกที่ภาพเพื่อดูขนาดใหญ่ขึ้น</td> </tr> </tbody></table> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td align="center" valign="middle">[​IMG]</td> </tr> <tr> <td align="center" valign="baseline">หนุ่มชาวเมืองหย่งโจว ในมณฑลหูหนัน ทางตอนกลางของประเทศจีน เข็นมอเตอร์ไซค์ฝ่าระดับน้ำที่ท่วมสูงถึงอก</td> </tr> </tbody></table>
    <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td align="center" height="1" valign="middle" width="165">[​IMG]</td> </tr> </tbody></table> </td> </tr> </tbody></table></td> </tr> </tbody></table></td> <td background="/images/linedot_vert3.gif" width="4">[​IMG]</td> <td align="center" valign="top"> <table border="0" cellspacing="7" width="100%"> <tbody><tr> <td align="center" valign="top"> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td class="body" align="left" valign="baseline"> ไชน่าเดลี่ - หลังจากพายุฝนกระหน่ำหลายมณฑลทางตอนใต้ของจีนติดต่อกันเป็นเวลาหลายวัน กระทรวงกิจการพลเรือนได้รายงานความเสียหายล่าสุดระบุ มีผู้เสียชีวิตทั้งสิ้น 66 ราย สูญหายอีก 12 ราย และสร้างความเดือดร้อนให้แก่ประชาชนเหยียบ 9 ล้านคน

    โฆษกกระทรวงกิจการพลเรือนเผย อุทกภัยซึ่งเกิดขึ้นจากพายุฝนกระหน่ำตกอย่างหนัก ได้สร้างความเสียหายแก่บ้านเรือน 94,000 หลังคาเรือน และทำลายบ้านเรือนจนพังราบ 48,000 หลัง ทำให้ประชาชนต้องอพยพออกจากที่อยู่ราว 591,000 คน ส่งผลกระทบต่อพื้นที่เพาะปลูก 294,800 เฮคตาร์ ในจำนวนนี้มี 53,000 เฮคตาร์ที่เสียหายยับเยิน ขณะที่รายงานผู้เสียชีวิตล่าสุดเป็น 66 ราย สูญหาย 12 ราย

    ตั้งแต่วันพุธจนถึงวันเสาร์ที่ผ่านมา ฝนได้ตกลงมาอย่างต่อเนื่อง จนก่อให้เกิดภาวะน้ำท่วมและดินถล่มในมณฑลหูหนัน กว่างตง (กวางตุ้ง) กว่างซี กุ้ยโจว เจียงซี และฝูเจี้ยน (ฮกเกี้ยน) ส่งผลกระทบต่อประชาชนมากกว่า 8.97 ล้านคน สร้างความสูญเสียทางเศรษฐกิจไม่ต่ำกว่า 2,900 ล้านหยวน (371 ล้านเหรียญสหรัฐ) ตามข้อมูลของทางกระทรวงระบุ

    ด้านสำนักงานเพื่อการบรรเทาความแห้งแล้งและควบคุมอุทกภัยแห่งชาติให้ข้อมูลเมื่อวานนี้ (10) ว่า กว่างตง กว่างซี กุ้ยโจว และหูหนัน เป็นพื้นที่ที่ได้รับความเสียหายมากที่สุด และอยู่ในภาวะฉุกเฉินระดับ 4 ซึ่งเป็นระดับอันตรายที่สุดของจีน

    ดังเช่นในมณฑลกว่างตง มีผู้เสียชีวิตจากเหตุดินและบ้านถล่มจำนวน 14 ราย และมีประชาชน 1.45 ล้านคนใน 17 เมืองได้รับผลกระทบ ส่วนเพื่อนบ้านอย่าง เขตปกครองตนเองชนชาติจ้วงกว่างซี มีผู้เสียชีวิต 13 ราย สร้างความเดือดร้อนให้แก่ประชาชน 1.97 ล้านคน สร้างความเสียหายโดยตรงแก่กว่างซี และหูหนันราว 449 ล้านหยวน (58.6 ล้านเหรียญสหรัฐ) และ 580 ล้านหยวน (75.8 ล้านเหรียญสหรัฐ) ตามลำดับ

    อย่างไรก็ตาม ทางศูนย์อุตุนิยมวิทยาแห่งชาติพยากรณ์ว่า พายุฝนรุนแรงจะซัดกระหน่ำตอนใต้ของจีนอีกจนกระทั่งถึงวันพฤหัสบดีนี้ โดยเจียวเหม่ยเหยียน ผู้อำนวยการศูนย์อุตุนิยมวิทยาแห่งชาติกล่าวว่า ภาวะฝนตกหนักติดต่อกันนี้เป็นผลกระทบจาก “ความเปลี่ยนแปลงทางสภาพอากาศของโลก” แต่ยังเชื่อมั่นว่าศักยภาพในการควบคุมน้ำท่วมของจีนกำลังพัฒนาเนื่องด้วยมีการอัดฉีดเงินลงทุน กอปรกับการพยากรณ์ที่แม่นยำมากขึ้น</td></tr></tbody></table></td></tr></tbody></table></td></tr></tbody></table></td></tr></tbody></table></td></tr></tbody></table>
     
  13. HONGTAY

    HONGTAY ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    36,548
    กระทู้เรื่องเด่น:
    151
    ค่าพลัง:
    +147,896
    <table class="mxtable" align="center" bgcolor="#ffffff" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"><tbody><tr><td height="120" valign="top">
    เกาะช้างเสี่ยงภัยดินถล่ม-เหตุบุกรุกธรรมชาติ

    ตราด - นายบุญส่ง ไข่เกษ นักวิชาการด้านสิ่งแวดล้อม เผยว่า ปัจจุบัน อ.คลองใหญ่ และกิ่ง อ.เกาะช้าง มีความเสี่ยงจากปัญหาดิน-หินถล่ม ข้อมูลจากกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมรายงานออกมาแจ้งเตือนให้ประชาชนรับทราบสภาพทางภูมิศาสตร์ของ อ.คลองใหญ่ จะมีทางลาดเอียงและมีปริมาณฝนตกมากที่สุดในประเทศไทย รวมทั้งมีการขุดดินบริเวณเชิงเขามาทำประโยชน์ เมื่อฝนตกลงมา 200-300 ลบ.ม.ทำให้ดินที่อยู่ด้านบนอุ้มนํ้าไว้มาก จะถูกกัดเซาะจนดินถล่มลงมาน่าเป็นห่วงมาก

    "เกาะช้างมีการพัฒนาสูงในระยะ 4-5 ปีที่ผ่านมาทำลายสภาพแวดล้อมของเกาะช้างจำนวนมาก ป่าไม้เชิงเขาก็ถูกทำลาย ฝนที่ตกลงมาไม่มีอะไรขวางหรือกั้น มีโคลน, หินถล่มลงมาเหมือนอย่างปีที่ผ่านมา หรือเกิดนํ้าท่วมที่เกาะช้างปี 2549 ทางแก้ไขต้องควบคุมการพัฒนาเกาะช้างไม่ให้เติบโตมากเกินไป"

    ด้านนายกฤษดา หอมสุด หน.อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะช้าง กล่าวในเรื่องเดียวกันว่า ปัญหาของอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะช้างในขณะนี้คือ การพัฒนาที่มีมากจนเกินไป จนส่งผลกระทบต่อป่าไม้ สภาพภูเขา รวมทั้งชายหาด สภาพทางภูมิศาสตร์ของเกาะช้างจะมีฝนตกชุกและภูเขาก็มีก้อนหินอยู่ด้านล่างมีดินอยู่ชั้นบนมีป่าไม้ปกคลุม แต่ปัจจุบันป่าไม้ถูกทำลาย มีการขุดดิน จนส่งผลกระทบต่อชั้นหินเมื่อฝนตกลงมาในระดับ 200 ลบ.ม.ม./วัน จะเกิดการไหลเลื่อนของดินหรือหินตกลงมาเหมือนที่เกิดขึ้นทุกปี

    "เกาะช้างมีความเสี่ยง อุทยานฯ เกาะช้างไม่สามารถแก้ไขได้ แต่หาทางป้องกันได้ โดยมีประชาชนร่วมมือ และนักลงทุนหรือผู้ประกอบการต้องร่วมมือไม่ทำลายธรรมชาติ ไม่ทำลายสิ่งแวดล้อม พร้อมฟื้นฟูธรรมชาติขึ้นมาใหม่ จะทำให้เกาะช้างดีขึ้นไป ผมไม่ได้ต้านเรื่องการพัฒนาแต่ต้องดูแลในเรื่องการอนุรักษ์ด้วย"


    (คอลัมน์:ภูมิภาค)
    </td><td rowspan="3" width="18"> </td></tr><tr><td align="right">ข่าวสด [​IMG] </td></tr><tr><td align="right">19 มิ.ย. 2550 </td></tr></tbody></table>
     
  14. HONGTAY

    HONGTAY ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    36,548
    กระทู้เรื่องเด่น:
    151
    ค่าพลัง:
    +147,896
    <table class="mxtable" align="center" bgcolor="#ffffff" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"><tbody><tr><td height="120" valign="top">
    เวิลด์แบงก์เตือนชายฝั่งไทย วิกฤติหนัก-ค่าเสียหาย6พันล.

    นาย เอียน พอร์เตอร์ ผอ.ธนาคารโลกประจำประเทศไทย กล่าวว่า การใช้ประโยชน์จากทรัพยากรธรรมชาติของไทยเพื่อสนับสนุนการขยายตัวทางเศรษฐกิจที่ผ่านมา ได้ส่งผลเสีย และคุกคามต่อสภาพแวดล้อมและชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนตามชายฝั่งทะเล ผลกระทบที่ตามมาคือพื้นที่ชุ่มน้ำตามป่าชายลนหลายส่วนถูกทำลาย ขณะเดียวกันชาวประมงเองก็ได้รับผลกระทบเนื่องจากการที่จำนวนสัตว์น้ำลดลงอย่างมากมาย
    ทั้งนี้ การสูญเสียพื้นที่และทรัพยากรชายฝั่งนี้ไม่ใช่แค่ปัญหาสิ่งแวดล้อมเท่านั้น แต่ยังมีนัยยะทางเศรษฐกิจที่สำคัญ โดยเห็นได้จากรายงานสถานการณ์สิ่งแวดล้อมไทยฉบับล่าสุดของธนาคารโลก ที่ระบุว่า ในแต่ละปีพื้นที่ชายฝั่งทะเลของไทยโดยรวมได้ถูกกัดเซาะไปมากถึงสองตารางกิโลเมตร คิดเป็นมูลค่าความเสียหายทางเศรษฐกิจสูงถึง 6,000 ล้านบาทหรือประมาณ 150 ล้านเหรียญสหรัฐ
    ผอ.ธนาคารโลกประจำประเทศไทย กล่าวเพิ่มเติมว่า สาเหตุของปัญหาการกัดเซาะมาจาก การขยายตัวของเมืองและการเติบโตของอุตสาหกรรมชายฝั่งในช่วง 30 ปีที่ผ่านมา ทำให้มีประชากรอาศัยตามชายฝั่งทะเลเพิ่มสูงขึ้น รวมทั้งการส่งเสริมท่องเที่ยว การขนส่งทางทะเล การประมงน้ำเค็มและเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ โดยเฉพาะฟาร์มเลี้ยงกุ้งเพิ่มจาก26%เป็น 47% จึงเกิดปัญหานความเสื่อมโทรมของทรัพยากรอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ อย่างไรก็ตามธนาคารโลกได้เสนอแนะแนวทางแก้ไขปัญหาไว้ 5 แนวทางคือ ลดการถูกกัดเซาะพื้นที่ชายฝั่งทะเล สนับสนุนวางแผนการประมงแบบยั่งยืน เพิ่มมาตรการและส่งเสริมประสิทธิภาพของการกำกับดูแลการพัฒนาพื้นที่ชายฝั่งทะเล กระตุ้นให้ส่วนท้องถิ่นเข้ามามีบาท และส่งเสริมนโยบายและการบริหารทรัพยากรที่เป็นอันหนึ่งเดียวกัน
    (คอลัมน์:ภูมิภาค)

    </td><td rowspan="3" width="18"> </td></tr><tr><td align="right">แนวหน้า [​IMG] </td></tr><tr><td align="right">22 มิ.ย. 2550</td></tr></tbody></table>
     
  15. HONGTAY

    HONGTAY ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    36,548
    กระทู้เรื่องเด่น:
    151
    ค่าพลัง:
    +147,896
    <table class="mxtable" align="center" bgcolor="#ffffff" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"><tbody><tr><td height="120" valign="top">
    ดินถล่มเหนืออพยพทั้งหมู่บ้าน

    น้ำป่าถล่มเชียงใหม่-เชียงราย โคลนทับบ้านเรือนเสียหายกว่า 50 หลัง ฝนที่ตกหนักในพื้นที่ภาคเหนือทำให้น้ำป่าจากยอดดอยและดินโคลนถล่มพัดเข้าท่วมบ้านเรือนในพื้นที่ อ.แม่อาย อ.แม่แจ่ม จ.เชียงใหม่ รวมทั้ง อ.แม่ฟ้าหลวง จ.เชียงราย เมื่อช่วงค่ำวันที่ 24 ทิ.ย. ประชาชนได้รับความเดือดร้อนกว่า 200 หลังคาเรือน โดยเฉพาะที่บ้านสุขฤทัย ต.ท่าตอน อ.แม่อาย และอ.แม่ฟ้าหลวง เจ้าหน้าที่ต้องอพยพประชาชนทั้งหมู่บ้านมายังพื้นที่ปลอดภัย
    นายสุพจน์ หอมชื่น นายอำเภอแม่แจ่ม กล่าวว่า ที่ ต.ช่างเคิ่ง และ ต.แม่ศึก บ้านถูกน้ำท่วม 60 หลัง รวมทั้งได้รับผลกระทบอีก 160 หลัง คอสะพานขาด 47 แห่ง และน้ำป่าพัดสุกรที่เลี้ยงไว้หายหมดนับสิบตัว
    ด้านบ้านสุขฤทัย ต.ท่าตอน อ.แม่อาย น้ำป่าพัดพาดินทับบ้าน 1 หลัง ขณะที่บ้านไทยใหญ่ น้ำป่าดัพสุกรหายไปประมาณ 30 ตัว ไม่มีผู้เสียชีวิตหรือบาดเจ็บ
    ด้าน จ.เชียงราย หมู่บ้านชาวไทยใหญ่ ต.เทอดไทย และบ้านห้วยผึ้ง ต.แม่สลองใน อ.แม่ฟ้าหลวง ดินถล่มทับบ้าน 50 หลัง ชาวบ้านประสบภัยราว 200 คน เจ้าหน้าที่สั่งอพยพชาวบ้านออกจากพื้นที่เสี่ยงภัย
    (คอลัมน์:ภูมิภาค)
    </td><td rowspan="3" width="18"> </td></tr><tr><td align="right">โพสต์ทูเดย์ [​IMG] </td></tr><tr><td align="right">26 มิ.ย. 2550 <!--61.91.248.51--></td></tr></tbody></table>
     
  16. HONGTAY

    HONGTAY ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    36,548
    กระทู้เรื่องเด่น:
    151
    ค่าพลัง:
    +147,896
    <table class="mxtable" align="center" bgcolor="#ffffff" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"><tbody><tr><td height="120" valign="top">
    เตือนดินถล่มภาคเหนือ

    นายอภิชัย ชวเจริญพันธ์ อธิบดีกรมทรัพยากรธรณี กล่าวว่า ขอให้ประชาชนในพื้นที่ภูเขาสูง หุบเขา และหมู่บ้านเสี่ยงภัยดินถล่มบริเวณ จ.เชียงใหม่ เชียงราย ลำปาง พะเยา แพร่ น่าน อุตรดิตถ์ และจังหวัดใกล้เคียง โดยเฉพาะในเขต อ.แม่ฟ้าหลวง จ.เชียงราย อ.แม่อาย จ.เชียงใหม่ อ.บ่อเกลือ จ.น่าน อ.สบปราบ วังเหนือ จ.ลำปาง ตรวจเฝ้าระวังภัยดินถล่มและน้ำป่าไหลหลากในระยะนี้ เนื่องจากในหลายพื้นที่ฝนตกหนัก

    ด้านนายอมรพันธุ์ นิมานันท์ ผวจ.เชียงราย ได้ประกาศให้พื้นที่ ต.เทอดไทย และ ต.แม่สลอง อ.แม่ฟ้าหลวง เป็นพื้นที่ประสบภัยพิบัติฉุกเฉินจากอุทกภัยแล้ว พร้อมทั้งได้อนุมัติงบประมาณ จำนวน 50 ล้านบาท เพื่อช่วยเหลือประชาชนโดยเร่งด่วน ซึ่งจากการสำรวจเบื้องต้นพบว่ามีประชาชนได้รับความเดือดร้อนกว่า 500 คน
    </td><td rowspan="3" width="18"> </td></tr><tr><td align="right">โพสต์ทูเดย์ [​IMG] </td></tr><tr><td align="right">27 มิ.ย. 2550</td></tr></tbody></table>
     
  17. MOUNTAIN

    MOUNTAIN เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    15,035
    ค่าพลัง:
    +132,087
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=bottom background=images/brkn_red_midtop.gif>[​IMG][​IMG]<!--[​IMG]-->[​IMG][​IMG]</TD><TD width=8>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR vAlign=top><TD width=1 bgColor=#000000>[​IMG]</TD><TD bgColor=#dddddd><!-- CONTENT --><TABLE height="100%" cellSpacing=0 cellPadding=0 width="96%" align=center border=0><TBODY><TR vAlign=top><TD width="85%">
    <!--<TABLE width=501 cellpadding=0 cellspacing=0 align=center border=0>--><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR vAlign=top><!--<TD width=1 bgcolor="#000000">[​IMG]</TD>--><TD width=468 bgColor=#dddddd>[​IMG]
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=10 width="96%" align=center border=0><TBODY><TR><TD height=70>ภูเก็ตฝนตกหนักลมพัดบ้านพังทับเด็กวัย 2 เดือนเสียชีวิต </TD></TR><TR><TD vAlign=top bgColor=#ededed>16:23 น. เวลาประมาณ 15.30 น. วันนี้ เกิดฝนตกหนักและลมกระโชกแรงในพื้นที่ อ.เมือง จ.ภูเก็ต ทำให้บ้านเรือนประชาชนในหมู่บ้านชาวไทยใหม่ ติดชายทะเลบ้านแหลมตุ๊กแก ถูกลมพัดกระหน่ำเสียหายหลายหลัง โดยเฉพาะที่บ้านเลขที่ 14 ม. 4 ต.รัษฎา อ.เมืองภูเก็ต ถูกลมพัดเสียหายทั้งหลัง เป็นเหตุให้ ดช.จีระศักดิ์ ประมงกิจ อายุ 2 เดือน บุตรของนายประเสริฐ และนางแรม ประมงกิจ ถูกท่อนไม้จากตัวบ้านหล่นทับเสียชีวิตขณะนอนอยู่ในบ้านพร้อมมารดา ส่วนมารดาไม่เป็นอะไร ขณะนี้เจ้าหน้าที่กำลังลงพื้นที่ตรวจสอบความเสียหายและให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัย
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  18. mead

    mead เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 เมษายน 2005
    โพสต์:
    8,134
    ค่าพลัง:
    +62,441
    ช่วงนี้ภัยธรรมชาติเริ่มหนักขึ้นๆเรื่อยๆแล้วนะ ทั่วโลกโดนก็กันทั่วหน้า
    บ้านเราก็หาทางป้องกันรับมือกันแล้ว เห็นซ้อมอพยบกันหลายๆจุดเลยครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 27 มิถุนายน 2007
  19. Catt Bewer

    Catt Bewer เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    3,768
    ค่าพลัง:
    +16,673
    หนีไม่คิดชีวิตลืมลูก2เดือนพายุกระหน่ำพัดบ้านพังทับเด็กดับ


    ลมกระโชกแรงพัดบ้านพัง 3 หลัง หนูน้อยวัย 2 เดือนสุดซวย พ่อแม่เห็นลมแรงหอบลูก 2 คนวิ่งหนี ลืมลูกคนเล็กที่ยังนอนอยู่บนเปล ถูกไม้หล่นกระแทกหน้าผากเสียชีวิตคาเปลญวน


    พายุพัดบ้านเสียหายและมีเด็กชายเสียชีวิตครั้งนี้

    เกิดขึ้นเมื่อเวลา 16.00 น. วันที่ 27 มิถุนายน พ.ต.ท.ชวลิต เพชรศรีเปีย สารวัตรเวร สภ.อ.เมืองภูเก็ต ได้รับแจ้งจาก นางนิต ประโมงกิจ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 4 บ้านแหลมตุ๊กแก ต.รัษฎา อ.เมือง จ.ภูเก็ต ว่า เกิดลมกระโชกแรงพัดบ้านพัง 3 หลัง นอกจากนี้บ้านหลังหนึ่งได้ทับทารกเสียชีวิต

    เหตุเกิดในหมู่บ้านชาวไทยใหม่

    หรือบ้านชาวเล แหลมตุ๊กแก จึงรุดไปตรวจสอบ พร้อมด้วยสายตรวจ ต.รัษฎา เจ้าหน้าที่ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) รัษฎา และเจ้าหน้าที่มูลนิธิกุศลธรรมภูเก็ต

    ที่เกิดเหตุอยู่ในหมู่บ้านชาวไทยใหม่

    ห่างจากชายทะเลประมาณ 10 เมตร พบบ้านถูกลมพัดพังเสียหาย 3 หลัง ในสภาพเสาบ้านถอนขึ้นมาทั้งหมด โดยบ้านทั้ง 3 หลังยกพื้นสูงประมาณ 2 เมตร เพื่อหลบคลื่นสึนามิ เมื่อเจ้าหน้าที่ไปถึงชาวบ้านก็แจ้งว่า เด็กที่เสียชีวิตในที่เกิดเหตุนั้นถูกชาวบ้านนำไปที่บ้านของนายวิกรม เลขที่ 14 หมู่ 4 ต.รัษฎา

    จากการตรวจสอบทราบชื่อเด็กที่เสียชีวิต

    คือ ด.ช.ธนาทรัพย์ ประโมงกิจ อายุ 2 เดือน 10 วัน ลูกชายของ นายวิกรม ประโมงกิจ อายุ 26 ปี และ น.ส.จันทร์แรม เรียงเมือง อายุ 28 ปี อยู่ในอ้อมกอดแม่ที่ร่ำไห้ตลอดเวลา ถูกห่มด้วยผ้าขนหนูสีเหลือง หน้าผากมีรอยปูดเขียวช้ำ

    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=3 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR bgColor=#dee6ef><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top>สอบสวนนายวิกรมทราบว่า มีลูกชาย 3 คน

    ผู้ตายเป็นคนสุดท้อง ก่อนเกิดเหตุได้พาลูกเมียออกจากบ้านเลขที่ 14 ซึ่งเป็นบ้านพักอาศัยหลับนอนในตอนกลางคืน มายังบ้านหลังที่เกิดเหตุซึ่งอยู่ห่างจากบ้านหลังแรกประมาณ 50 เมตร เพื่อไปพักผ่อน หลังจากเลิกงานทำประมงประจำวันแล้ว โดยมีบรรดาญาติๆ ออกมานั่งพักผ่อนที่พื้นบ้าน

    ส่วน ด.ช.ธนาทรัพย์ นอนอยู่ในเปลญวน

    จากนั้นก็มีฝนตกและลมกระโชกแรง ทำให้บ้านพักที่อยู่หน้าชายหาดที่สร้างขึ้นมาไม่ค่อยสมบูรณ์ ไหวไปมา ทุกคนในบ้านต่างพากันวิ่งหนีออกจากบ้าน ภรรยาได้อุ้มลูกคนโตและคนรองออกมาด้วย ต่างคนต่างหนีเอาตัวรอด ลืมว่าลูกชายคนเล็กยังนอนอยู่ในเปลญวน

    พอนึกขึ้นได้ก็รีบวิ่งเข้าไปเพื่อจะอุ้มลูกออกมา

    แต่มีลมกระโชกแรงมาอีกลูกหนึ่ง ทำให้บ้านที่ปลูกอยู่ข้างๆ พังลงมาทับบ้านของตนล้มลงมาด้วย เมื่อวิ่งเข้าไปดูในเปลญวนก็พบว่ามีไม้ทับหน้าผาก และลูกชายนอนแน่นิ่ง จึงเรียกเพื่อนบ้านให้มาช่วยรื้อไม้และหลังคาบ้านออก แต่ไม่ทันเด็กเสียชีวิตก่อนหน้านั้นแล้ว

    นายรัตนพงษ์ รักษาธรรม

    หัวหน้าป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย อบต.รัษฎา กล่าวว่า ในส่วนของค่าเสียหายที่ อบต.จะให้การช่วยเหลือนั้น นอกจากค่าทำศพแล้ว จะให้ความช่วยเหลือในส่วนของบ้านเรือนที่ได้รับความเสียหายด้วย

    จำนวนเท่าไรนั้นต้องรอสอบถามรายละเอียด

    จากเจ้าของบ้านก่อนว่ามีอะไรเสียหายบ้าง แต่กรณีที่บ้านเสียหายทั้งหลังสามารถช่วยเหลือได้ประมาณ 3.5 หมื่นบาท ซึ่งยังไม่รวมอุปกรณ์เครื่องใช้ภายในบ้าน

    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR bgColor=#dee6ef><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top>
    ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์คมชัดลึก
    [​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
    http://tnews.teenee.com/crime/12527.html
     
  20. HONGTAY

    HONGTAY ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    36,548
    กระทู้เรื่องเด่น:
    151
    ค่าพลัง:
    +147,896
    <table class="mxtable" align="center" bgcolor="#ffffff" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"><tbody><tr><td height="120" valign="top">
    ผู้ว่าฯ ตาก เตือนให้ระวังอันตรายจากน้ำป่า-ดินโคลนถล่ม ระยะนี้

    วันนี้ (30 มิ.ย.) นายชุมพร พลรักษ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดตาก เปิดเผยว่า ได้แจ้งให้ทุกอำเภอ เตือนประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัย ให้ระวังอันตรายจากน้ำป่าไหลหลาก น้ำท่วมฉับพลัน และดินโคลนถล่มในระยะนี้ หลังจากกรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์อากาศว่า หย่อมความกดอากาศต่ำที่ปกคลุมอ่าวไทย และลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้มีกำลังแรงขึ้น ลักษณะเช่นนี้จะทำให้ จ.ตาก มีฝนตกหนัก และอาจเกิดน้ำท่วมฉับพลันได้ โดยขอให้เจ้าหน้าที่เฝ้าระวังภัยอย่างใกล้ชิด พร้อมแจ้งเตือนให้ประชาชนทราบเป็นระยะ และหากเกิดภัยธรรมชาติให้รายงานสถานการณ์ให้จังหวัดทราบโดยด่วน ส่วนตามวนอุทยานต่างๆ ที่มีน้ำตก ได้กำชับให้เจ้าหน้าที่แจ้งเตือนนักท่องเที่ยว ให้ระวังอันตรายจากภัยธรรมชาติที่อาจจะเกิดขึ้นเช่นกัน โดยหากมีฝนตกติดต่อกัน หรือมีระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ให้ปิดสถานที่เป็นเวลาชั่วคราวได้ทันที สำหรับสภาพอากาศโดยทั่วไปของ จ.ตาก ขณะนี้ ท้องฟ้ามีเมฆมาก และมีฝนตกลงมาเป็นอย่างต่อเนื่อง
    (คอลัมน์:ข่าวด่วน)
    </td><td rowspan="3" width="18"> </td></tr><tr><td align="right">มติชน [​IMG] </td></tr><tr><td align="right">30 มิ.ย. 2550 <!--61.91.248.51--> </td></tr></tbody></table>
     

แชร์หน้านี้

Loading...