พระเครื่อง-เครื่องรางทั่วไป

รายการที่ 195

พระผงพิมพ์ประทานพร หลวงปู่ดู่ วัดสะแก ปี 2529 (เนื้อโขลกหายาก)

แกะจากเลี่ยมทองออกมา รับประกันแท้สากล

บูชา 2,200 บาท เมื่อก่อนแพงกว่านี้ราคาเคยไปครึ่งหมื่นครับ รุ่นนี้พระเก๊ออกมาเยอะมากครับ

พระสมเด็จปางประทานพร (พระพุทธนิมิตร) หลังยันต์เทพรัญจวน "เนื้อโขลกผงพุทธคุณ" เป็นพระที่จัดสร้างขึ้นและได้รับเมตตาอธิษฐานจิตจากหลวงปู่ท่านในปี 2529 เป็นพระที่มีแบบพิมพ์เป็นพระพุทธนิมิตรเหมือนกับพระยุคปี 2520 แต่ในวาระนี้จะจัดสร้างขึ้นเป็นเนื้อโขลก ซึ่งปัจจุบันเนื้อโขลกนี้จะหาได้ยากกว่าจึงถือเป็นอีกรุ่นหนึ่งที่น่าเก็บ

 

ปิดครับ




รายการที่ 196

เหรียญหลวงพ่อโสธร กรมตำรวจ

"พระหลวงพ่อโสธร รุ่นประวัติศาสตร์ 80 ปี กรมตำรวจ"

บูชา 1,200 บาท

จัดสร้างเมื่อปี 2538 โดย พล.ต.อ. พจน์ บุณยะจินดา อธิบดีกรมตำรวจในขณะนั้น
ออกแบบและผลิตโดย บริษัทแพนด้าจิลเวอรี่ จัดได้ว่าเป็นผลงานในยุคแรกๆ ของแพรนด้าฯ
พิธีพุทธาภิเษก ณ วัดหลวงพ่อโสธรฯ โดยพระเกจิอาจารย์ชื่อดังจากทั่วประเทศ ทั้ง 4 ภาค จำนวน 108 รูป ร่วมพิธีอธิษฐานจิตปลุกเสก อาทิ ครูบาดวงดี จ.เชียงใหม่ , ครูบาชัยวงศ์ษา จ.เชียงใหม่ , หลวงพ่ออุตตมะ จ.กาญจนบุรี, หลวงพ่อเปิ่น วัดบางพระ จ.นครปฐม, หลวงพ่อพุฒ จ.นครปฐม, หลวงพ่อแย้ม วัดสามง่าม จ.นครปฐม, หลวงพ่อหยอด วัดแก้วเจริญ จ.สมุทรสงคราม , หลวงปู่ทิม วัดพระขาว จ.อยุธยา , หลวงพ่อเฉลิม วัดพระญาติ จ.อยุธยา ,หลวงพ่อสิริ วัดตาล จ.นนทบุรี , หลวงพ่อแพ วัดพิกุลทอง จ.สิงห์บุรี , หลวงพ่อจวน วัดหนองสุ่ม จ.สิงห์บุรี , หลวงพ่อลำใย จ.กาญจนบุรี, หลวงพ่อเบี่ยง จ.กาญจนบุรี, หลวงพ่อจำเนียร จ.กาญจนบุรี, หลวงพ่อผล จ.กาญจน บุรี, หลวงพ่อคูณ จ.นครราชสีมา, หลวงพ่อพุธ จ.นครราชสีมา, หลวงปู่หงส์ จ.สุรินทร์ , หลวงพ่อเริ่ม จ.ชลบุรี, หลวง พ่อพูลทรัพย์ จ.ชลบุรี, หลวงพ่อชม จ.ชลบุรี, หลวงปู่คร่ำ จ.ระยอง, หลวงพ่อสมชาย จ.จันท บุรี, หลวงปู่คำพันธุ์ จ.นครพนม, หลวงพ่อหยอด จ.สมุทรสงคราม , อาจารย์นอง วัดทรายขาว จ.ปัตตานี เป็นต้น
เหรียญอาร์ม หลวงพ่อโสธร ฉะเชิงเทรา ปี 2538 หลังตราโล่ ครบรอบ 80 ปี กรมตำรวจ เนื้อทองแดง จัดสร้างและเข้าพิธีปลุกเสกพร้อมกับพระพิมพ์อื่นๆ สำหรับแจกให้กับข้าราชการตำรวจและผู้มาร่วมในพิธี โดยท่าน พล.ต.ท.ไกรสุข สินศุข ผู้ช่วยอธิบดีกรมตำรวจ(ยศในขณะนั้น)ซึ่งท่านเป็นรองประธาน คณะกรรมการดำเนินการจัดสร้าง ท่านได้มีความห่วงใยข้าราชการตำรวจชั้นผู้น้อยและที่มีรายได้น้อย อาจไม่มีโอกาสในการเป็นเจ้าของพระรุ่นนี้ ท่านจึงเสนอคณะกรรมการ ฯ ให้จัดสร้างเหรียญสำหรับแจกข้าราชการตำรวจขึ้นมาชุดหนึ่งก็คือ เหรียญโล่เนื้อทองแดงนี้ โดยใช้รูปแบบของเหรียญ 2460 มาเป็นต้นแบบ และพระชุดนี้ได้รับความกรุณาจากผู้บริหารบริษัทแพนด้า ฯ จัดทำให้ฟรีไม่คิดค่าใช้จ่ายแต่อย่างใด คณะกรรมการ ฯ จึงได้อนุญาตให้มีการสร้างได้ และ ได้นำเข้าพิธีเดียวกันกับพระพิมพ์อื่นๆ


พุทธคุณพระรุ่นนี้ถือได้ว่าเป็นรุ่นประสบการณ์ของหลวงพ่อโสธรเลยนะครับ มีประสบการณ์เรื่องคลาดแคล้วคงกระพัน เจริญยศ เจริญลาภ เลื่อนขั้น เลื่อนตำแหน่งยกฐานะ ดีมากๆ นายตำรวจหลายนายอธิษฐานขอให้ได้เลื่อนยศ เลื่อนตำแหน่ง ได้ตามต้องการมาหลายรายแล้ว เรื่องคลาดแคล้าวคงกระพันก็มีมากมายหลายเรื่อง อาทิ เช่น
ตำรวจ สน.ทองหล่อ เข้าไปจับคนร้ายในผับแถวสุขุมวิท ถูกคนร้ายปืนยิงสวนออกมาโดนหน้าอกจนหงายหลัง เมื่อเหตุการณ์สงบมาตรวจดูบาดแผลปรากฎว่ากระสุนเข้าตรงหัวใจแต่ หลวงพ่อโสธรรุ่นนี้ที่แขวนอยู่รับกระสุนไว้แทน ซึ่งก็เป็นที่น่าอัศจรรย์ว่าพระห้อยสร้อยยาวถึงลิ้นปี่พระขึ้นมารับลูกปืนได้อย่างไร เรื่องนี้ลงหน้าหนึ่ง นสพ.หลายฉบับ
อีกเรื่อง นสพ. เหมือนกัน คราวนี้ โดนกับทหาร ถูกยิงเข้าหัวไหล่ขวาเต็ม เสื้อทะลุ เป็นรู แต่ไม่มีบาดแผลใด ไม่มีเลือด แพทย์เอกซเรย์ พบว่าแรงกระแทกของกระสุนถึงกับทำให้หัวไหล่แตก
นอกจากจากนี้ยังมีอีกหลายเรื่องเ

 

รายการที่ 197

ลูกอมแร่บางไผ่ หลวงปู่จัน วัดโมลี

ลูกนี้ดูดติดเหล็ก น้ำหนักเบา ไม่เหมือนเหล็ก ถักเชือกมาแบบเก่าคลาสสิค อยู่กับมือใหญ่ ราคาแพงเลยครับ

บูชา 3,500 บาท

ลูกอมแร่บางไผ่ หลวงปู่จัน วัดโมลี" ลูกแร่ วัดบางไผ่ ฤทธิ์เหลือร้ายหาใดปาน คำกล่าวที่คนโบราณกล่าวถึง ยกย่อง แร่บางไผ่ ให้เป็นหนึ่งในเก้ายอดเครื่องรางมงคลของเมืองไทย ลูกอมแร่บางไผ่ลูกนี้ เป็นเนื้อแร่ แม่เหล็กดูดติด น้ำหนักเบา (เนื่องด้วยตามประวัติลูกอมท่านใช้พระแร่บางไผ่ที่หล่อไม่เต็มหรือชำรุดมาหล่อใหม่เป็นลูกอม) หายากมากครับ การสร้าง"ลูกอมแร่บางไผ่" ของหลวงปู่จันนั้น สืบเนื่องมาจากพระปิดตาแร่บางไผ่บางองค์ที่เทติดไม่เต็มหรือชำรุด หลวงปู่จันท่านจะไม่ทิ้ง แต่จะนำเอามาหลอมใหม่แล้วจึงเทออกมาเป็น "ลูกอม ลูกสะกด หรือ ก้อนแร่ไว้มอบให้ศิษย์และผู้นับถือไว้สำหรับพกพาเป็นเครื่องรางติดตัว" คนสมัยโบราณ คนรุ่นเก่ามีความเชื่อกันว่าแร่บางไผ่ เป็นแร่ที่มีคุณวิเศษและมีความศักดิ์สิทธิ์ในตัวเอง ดังนั้นจึงมีการนำเอาก้อนแร่บางไผ่ไปถักลวดทองแดงสำหรับใช้แขวนคอ บางคนก็ใช้ผ้าขาวห่อพกติดตัว กล่าวกันว่านักเลงรุ่นเก่าของเมืองนนท์จะมีประสบการณ์กับแร่บางไผ่กันมากมาย "นักเดินไพรสมัยก่อนอม ลูกอม หรือ พระปิดตาแร่บางไผ่ไว้ในปาก เดินได้เป็นวันๆ ไม่ต้องกินน้ำมีกำลังวังชา คนโบราณเอาพระแช่น้ำมันงาไว้ เอาสำลีจุ่มน้ำมางาทัดหูไปเพียงแค่นั้นก็อยู่คงแล้ว อุปเท่ห์การใช้พระแร่บางไผ่ที่ให้คุณวิเศษทางพละกำลังคือท่านให้เอาพระแช่น้ำผึ้งไว้แล้วเอาน้ำผึ้งมากินทุกวัน ท่านว่าทำให้มีกำลัง ไม่เหนื่อยง่าย อายุยืนไปไหนมาไหนก็คล่องแคล่วไม่เจ็บป่วย
คุณวิเศษอีกประการหนึ่งในเรื่องความมหัศจรรย์แห่งพระปิดตาแร่บางไผ่ของหลวงปู่จันก็คือท่านเคยสั่งว่า...“หากจวนตัวถูกรุมจนเกินกำลังจะตั้งรับได้ ให้กลืนพระแร่บางไผ่นั้นลงไปทันที ก็จะสามารถหลุดรอดจากอันตรายและพระจะกลับคืนมาหาเราโดยออกมาทางเบื้องสูง.. ถือเป็นเครื่องรางที่หายากยิ่ง ตัวจริงหายากสุดๆครับ

 

รายการที่ 198

พระผงเถ้าพิมพ์เสมาหลวงพ่อโอภาสี อาศรมบางมด กทม.

เนื้อผงผสมผงเถ้าที่หลวงพ่อเพ่งกสินไฟ ชิ้นนี้ลงชาดเก่าจริงๆ ครับ น่าจะสร้างก่อนพิมพ์เสมาหลังจปร เพราะเป็นพระบางกว่า ขนาดใหญ่กว่านิดเดียว แต่ความเก่าๆ กว่าแน่นอน แถมลงชาดแบบนี้ปิดประตูเก๊เลยครับ

บูชา 3,500 บาท

หลวงพ่อโอภาสี อาศรมบางมด กรุงเทพมหานคร ท่านเป็นลูกศิษย์และอุปสมบทเป็นพระภิกษุโดยมีสมเด็จพระสังฆราชเจ้า กรมหลวงวชิรญาณวงศ์ เป็นพระอุปัชฌาย์ สมัยก่อนชื่อเสียงของหลวงพ่อโอภาสีโด่งดังไปทั่วสารทิศเพราะพิธีกรรมที่แปลกพิสดาร อาทิ หลังมรณภาพแล้วได้ปรากฏกายทิพย์ของท่านต่อหน้าลูกศิษย์ที่ประเทศอินเดีย, การปฏิบัติบูชาไฟซึ่งท่านจะนำทรัพย์สมบัติ ข้าวของมีค่า หรือแม้แต่เงินที่ชาวบ้านนำมาถวายไปเผาไฟทั้งหมด แต่หากสิ่งใดที่ท่านจะนำไปบูชาเพลิงนั้นมีผู้ที่ต้องการขอท่านก็ยินดีให้ เพื่อเป็นพุทธบูชาขอให้ช่วยดับความร้อนในกายใจของมนุษย์ พระที่สร้างจากเถ้านี้ ว่ากันว่า น่าบูชาที่สุดของท่าน

 

ปิดครับ



รายการที่ 199

พระปิดตาไม้แกะ หลวงปู่สุข วัดโพธิ์ทรายทอง

เลี่ยมพร้อมตะกรุดจีวร หายากสุดๆ เจ้าของหวงมากครับ เพราะนับองค์ได้ที่พบเจอ รับประกัน

 

รายการที่ 200

ย่ามเศรษฐี หลวงพ่อนัส วัดอ่าวใหญ่

ขนาดเล็ก สร้างน้อย หายาก

บูชา 700 บาท

 

รายการที่ 201

พระกริ่งพุทธวิโมก ปี2528

หลวงปู่ดู่ปลุกเสก ก้นงวเดือนนิยม

บูชา 800 บาท

 

รายการที่ 202

เหรียญหลวงพ่อคูณ เพชรน้ำเอก ปี2536

1ใน9 รุ่นยอดนิยม เนื้อทองแดงบล๊อคหน้าเสือ ปั๊มเขยื้อน

บูชา 2,000 บาท

ว่ากันว่าเมื่อก่อน ราคาถูกกว่ารับเสด็จ แต่ปัจจุบันราคาแซงรับเสด็จไปแล้วครับ

 

รายการที่ 203

รูปถ่ายฟิล์ม อาจารย์ฝั้น อาจาโร /หลวงปู่ตื้อ

เป็นรูปประกบ2รูป ต้องใช้ไฟส่องจะเห็นด้านหลังเป็นหลวงปู่ตื้อครับ แปลกดี เป็นรูปถ่ายที่แท้ทันท่าน

บูชา 600 บาท

 

รายการที่ 204

เสืoกระดูกแกะหลวงพ่อเรือนวัดคลอดด่าน

ชิ้นนี้เป็นเครื่องรางที่แท้ดูง่ายมากครับ ตัวเล็ก แต่ผ่านการใช้บูชามา มีรอยจารให้เห็น มีเสน่ห์เครื่องที่แท้ๆ ใช้บูชาแทนเสือหลวงพ่อปานที่แพงๆ แถมหาที่แท้ๆยากๆได้สนิทใจครับ

บูชา 5,000 บาท

เสืoมหาอำนาจมีตะบะเตชะ มากล้นด้วยบารมี หลวงพ่อเรือน วัดคลองด่าน (บางเหี้ย) ท่านเป็นสหายเกจิร้วมสมัยของหลวงพ่อปาน ครับ หลวงพ่อเรือน พระที่เป็นสหายสนิทของหลวงพ่อปานในครั้งที่ออกธุดงธ์ไปด้วยนั้น ก็ได้มีสวนรู้เห็นและได้เรียนวิชากับหลวงพ่อแตงด้วย แต่ก็เรียนแค่เพียงน้อยนิด ไม่ถึงกับจบหรือแตกฉาน อาจเพราะเกรงใจหรือเคารพพระสหายที่เป็นรุ่นพี่ที่ไปด้วยอย่างหลวงพ่อปานจึงทำให้ไม่ได้เรียนจนจบ แต่กระนั้นหลวงพ่อเรือนก็เรียนจบวิชาสร้างเสืoปลุกเสกเสืoจนได้ ด้วยการถ่ายทอดวิชาจากหลวงพ่อปานอีกที ดังนั้นหลวงพ่อเรือนจึงเป็นทั้งศิษย์ของหลวงพ่อแตง และยังเป็นทั้งศิษย์และเป็นทั้งเพื่อนของหลวงพ่อปาน “” ไม่มีเสืoหลวงพ่อปานตัวเป็นแสนเป็นล้าน ใช้เสืoของหลวงพ่อเรือนแทนได้อย่างสนิทใจ เพราะเป็นตำราวิชาเดียวกักับหลวงพ่อปาน

 

รายการที่ 205

แหวนจักรนารายณ์ ตัดรุ้ง เนื้อเงินรุ่นเขี้ยวแก้วประกาศิต ไตรมาส 51 หลวงปู่กาหลง เขี้ยวแก้ว วัดเขาแหลม จ.สระแก้ว ขนาดใหญ่

เมื่อก่อน ราคาเกือบหมื่นครับ เนื้อทองแดงบูชากัน 1.500-2,000

บูชา 4,500 บาท เลข ๓๔๒๘

พิธีกรรมปลุกเสก
๑.หลวงปู่กาหลงอธิษฐานจิตปลุกเสกประจุพุทธาคมตลอดไตรมาส ๒๕๕๑
๒.พิธีมหาพุทธาภิเษกใหญ่ ณ วัดสุทัศน์ฯ วันที่ ๒๘ มกราคม ๒๕๕๒
เครื่องรางของขลังที่มีอานุภาพสูงส่งนั้นโดยมากมักจะเป็นเครื่องรางที่มีตำนานการสร้างจากตำราพิชัยสงคราม ซึ่งจะกล่าวถึงกรรมวิธีสร้างของกายสิทธิ์ วัตถุทรงพลังไว้คุมคนคุมทัพช้างม้า วัวควายให้อยู่ในโอวาทคำสั่งคำบัญชาการ ทั้งให้มีอิทธิคุณเด่นคุ้มครองป้องกันภัย คงกระพันมหาอุด แม้ถูกรุมล้อมเท่าใดก็สามรถพาตนรอดออกมาได้ และที่สำคัญต้องเจริญด้วยยศฐาบรรดาศักดิ์มากด้วยบารมี เป็นสิริมงคลสูงสุดแก่ผู้สวมใส่
แหวนจักรนารายณ์ คีอเครื่องมหามงคลจากตำนานพิชัยสงครามที่รังสรรค์กรรมวิธีการสร้างเครื่องมงคลชั้นสูงสำหรับแม่ทัพนายกองและผู้มีวาสนาบารมี เป็นเจ้าคนนายคน ตำรับการสร้างแหวนจักรนารายณ์นั้นเป็นการอันเชิญบารมีพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ บารมีขององค์พระนารายณ์กายสิทธิ์พิชิตหมู่มาร พร้อมด้วยพระยันต์ตามตำราพิชัยสงครามที่สำคัญทั้งปวง ได้แก่พระยันต์อิติปิโสแปดทิศ ยัต์นารายตวาดฟ้าป่าหิมพานต์ นารายณ์ถอดจักร นารายณ์เกลื่อนสมุทรเป็นต้น นำมาหลอมรวมเพื่อเป็นปหวนพระธำรงค์ที่ทรงเดชศักดานุภาพ เป็นเครื่องมงคลที่มีอำนาจปราบไพรี ปราบอาถรรพ์ ล้างคุณไสย เป็นที่เกรงกลัวของเหล่าภูติผีปีศาจสิ้นทั้งปวง
ผู้ที่สวมใส่แหวนจักรนารายณ์นี้..เสมือนว่าบุคคลนั้นมีบารมีของพระนารายณ์อวตารอยู่กับตัว บังเกิดเดชะตบะบารมี เป็นสง่าราศีแก่คนทั้งหลายเป็นที่ครั่นคร้ามแก่มนุษย์และเทวดา อมนุษย์ที่เป็นมิจฉาทิฐิจะบังเกิดความกลัวเกรงเนื่องจากอำนาจรัศมีแห่งแหวนจักรนารายณ์นี้ส่องสว่างเจิดจ้าคลุมร่างกายของผู้นั้น
แหวนจักรนารายณ์นี้เมื่อจะเสกยังต้องตั้งธาตุ ปลุกธาตุ หนุนธาติ ตามกรรมวิธีโบราณ เพื่อให้เกิดอิทธิฤทธิ์แก่ตัววัตถุนั้น ธาตุทั้งสี่คือดิน นำ ลม ไฟ จะมัรัศมีส่องสว่างในตัวเมื่อผ่านการตั้งธาตุตั้งธรรมเป็นที่เรียบร้อย รัศมีจากเตโชธาตุที่ออกจากแหวนจักรนารายณ์จะเป็นตบะเดชะเป็นที่เกรงกลัวแก่ภูติผีปีศาจทั้งปวง รัศมีจากอาโปธาตุจะเป็นที่ชื่นเย็นก่อให้เกิดความร่มเย็นเป็นสุข บังเกิดความเจริญความอุดมสมบูรณ์แก่ผู้สวมใส่ รัศมีแห่งปฐวีธาตุจำค้ำคูณเกื้อหนุนดวงชะตาทำให้ดวงแข็ง ใครคิดร้ายมิได้ ทำกิจสิ่งใดก็มั่นคง รัศมีแห่งวาโยธาตุจะเป็นพลังแห่งเมตตาต่อเพศตรงข้ามและต่อบุคคลทั้งหลายก่อให้เกิดการอุปถัมภ์ค้ำชู

คาถาบูชาแหวนจักรนารายณ์...
ตั้งนะโม 3 จบ เสฏโฐ เสฏโฐ อะยะมันติมาเมชาติ นัตถิทานิ ปุนัพภะโวติ อัคโคหะมัสมิ โลกัสสะ กุสวาหะ สวาโห พุทโธนะปิติถิ อิติปิโสวิเสเสอิ อิเสเสพุทธะนาเมอิ อิเมนาพุทธะตังโสอิ อิโสตังพุทธะปิติอิ นะรานะระหิตังเทวัง นะระเทเวหิปูชิตัง นะรานังกานะปังเกหิ นะมะมามิสุคะตังธินัง กะยะพุตัง ประสิทธิมาโน อิติปิโสภควา คะโธพระพุทธเจ้าจงมาเป็นหนังมังสัง พระธัมมเจ้าจงมาเป็นเนื้อ อัฏฐิพระสังฆเจ้าจงมาเป็นกระดูกพระอะระหังพันผูกตรีเพ็ชรคงคง อิสวาสุ สุสวาอิ พุทธะปิติอิคงอิอัตติ
มะอะอุ อะธิกามูลัง ตรีเทวานัง มหาศาสตรา อุอุ อะอะ มะมะมันตรา อุอะสวามหามันตัง มะอะอุโลปะเกเณยยัง อะการะเสวะราชิโน ตรีนี อักขระ ชาตานิ นโมพุทธายะ สัตถุโน
(ภาวนา 3 จบ ขณะสวมแหวนเข้านิ้วภาวนาคาถาว่า "โสปิติอิอัตติ" แล้วเป่าลงไปที่นิ้ว และข้ห้ามที่สำคัญคือ ห้ามนำไปชี้ว่าด่าคนหรือเอาไปต่อยตีผู้อื่น จะทำให้คนนั้นบ้าเสียสติไป มีเวรกรรมหนักเกิดขึ้นแก่เรา เพราะ "แหวนจักรนารายณ์" นี้มีอานุภาพมาก

 

รายการที่ 206

พระรูปเหมือน หลวงพ่อพันธ์ พิมพ์รูปไข่ เนื้อชานหมาก วัดบางสะพาน พิษณุโลก

บูชา 1,200 บาท

พระเกจิอาจารย์ยอดนิยมอันดับหนึ่งของเมืองพิษณุโลก แผ่นดินศักดิ์สิทธิ์ ดินแดนประวัติศาสตร์ ราชธานีสองแผ่นดิน คือ เหรียญและรูปหล่อ พระครูประพันธ์ศีลคุณ หรือหลวงพ่อพันธ์ วัดบางสะพาน ๑ ในพระเกจิอาจารย์ ๑๐๘ รูป ในพิธีจักรพรรดิมหาพุทธาภิเษก เมื่อวันท
หลวงพ่อพันธ์ เกิดเมื่อเดือนกันยายน ๒๔๓๖ ที่บ้านโพนหนอง ต.นาหอ อ.ด่านซ้าย จ.เลย ภายหลังครอบครัวได้อพยพมาอยู่ที่ จ.พิษณุโลก ได้ศึกษาเล่าเรียนอยู่ที่วัดน้อย ชอบศึกษาคาถาอาคมและสมุนไพรว่านยามาตั้งแต่เด็ก พออายุได้ ๑๘ ปี ได้เข้ารับราชการเป็นพลตำรวจประจำสถานีตำรวจภูธรอำเภอนครไทย เมื่อ พ.ศ. ๔๕๔ ซึ่งขณะนั้นมีหลวงปู่หุย วัดหัวร้อง นครไทย และหลวงพ่อเรือง วัดบ้านดง ชาติตระการ เป็นผู้เรืองอาคม เป็นที่เคารพนับถือของประชาชนทั่วไปยิ่งนัก ท่านชอบเข้าป่าหาว่านยาและแร่ธาตุต่างๆ กับศึกษาอาคม เพื่อป้องกันตัว และไข้ป่า

เนื่องจากอำเภอนครไทย หรือเมืองบางยาง ของพ่อขุนบางกลางท่าว หรือพ่อขุนศรีอินทราทิตย์ เป็นป่าดงดิบ มีสัตว์ร้ายชุกชุม ในสมัยนั้นหากข้าราชการผู้ใดถูกย้ายไปนครไทยก็เท่ากับเขาใช้ให้ไปตาย จนอายุครบ ๒๑ ปี จึงลาออกจากราชการตำรวจ อุปสมบท ณ พัทธสีมาวัดราชบูรณะ มีพระครูอนุโยคศาสนกิจ (รอด) วัดนางพญา (เจ้าคณะแขวง และเจ้าของเหรียญพระเกจิอาจารย์เหรียญของเมืองพิษณุโลก พ.ศ.๒๔๖๐) เป็นพระอุปัชฌาย์ ใน พ.ศ.๒๔๕๗ ได้ศึกษาพระปริยัติธรรมวิปัสสนากรรมฐาน และพุทธาคม เพิ่มเติมจากพระอุปัชฌาย์ และตำราโบราณ จนเชี่ยวชาญแตกฉาน

ภายหลังได้ลาสิกขาเพื่อดูแลบิดามารดาที่ป่วย มิได้มีผู้ดูแลอยู่สักพักหนึ่ง ท่านรู้สึกเบื่อหน่ายชีวิตฆราวาส หาความสงบได้ยากยิ่ง จึงขออนุญาตบิดามารดาอุปสมบทใหม่ ที่พัทธสีมาวัดพระศรีรัตนมหาธาตุวรมหาวิหาร โดยมีพระวรญาณมุนี (พร้อม พุทธสโร) เจ้าคณะมณฑลพิษณุโลก เป็นพระอุปัชฌาย์ ได้ฉายาว่า "สุสิโม" แปลว่า ผู้มีความเชี่ยวชาญในพระเวทย์ จนได้ ๕ พรรษา ได้รับแต่งตั้งเป็นเจ้าคณะตำบลดอนทอง และใน พ.ศ. ๒๔๘๔ ได้รับพระราชทานสมณศักดิ์ เป็นพระครูสัญญาบัตรที่พระครูประพันธ์ศีลคุณ เป็นพระอุปัชฌาย์ และเจ้าคณะอำเภอวังทอง (เจ้าคณะแขวงนครป่าหมาก เดิม) จึงย้ายมาจำพรรษาที่วัดตลาดชุม หรือวัดวังทองวราราม ในปัจจุบัน

หลวงพ่อพันธ์ เริ่มนำว่านยา แร่ธาตุต่างๆ มาผสมบดรวมกับชานหมาก และมหาอุด ทำจากไม้ไผ่รวกยอดด้วน ชี้ไปทางทิศตะวันขึ้น บรรจุเศษไม้สากแม่ม่าย ชานหมาก อุดด้วยดินขี้สูตดินราบ บวชพระ ๑ ครั้ง ทำได้ไม่เกิน ๒-๓ ดอก เมื่อพระสวดถึงมิ ก็ภาวนาอุด แล้วเอามีดปาดทันที นำลงอักขระเสกกำกับที่กุฏิ ๓ คืน ตลอดจนชายจีวรที่ท่านนำไปห่มต้นโพธิ์ และมีเด็กมาเลี้ยงวัวในวัดเอานำจีวรที่ต้นโพธิ์ไปทำหางว่าว แล้วเกิดทะเลากับเพื่อน จึงถูกเพื่อนฟันด้วยมีด แต่ไม่เข้าไม่ระคายผิว จึงลือลั่นไปทั่ว และมีเกียรติศัพท์ด้านอยู่ยงคงกระพัน แคล้วคลาดปลอดภัย ในสงครามอินโดจีน จึงมีผู้คนไปขอชานหมากและชายจีวร ตะกรุด ปลอกลูกปืน ลงอักขระ รูปอัดกระจก จนท่านเคี้ยวและเสกแจกให้เกือบไม่ทัน

ในยุคแรก ทหารพิษณุโลกที่ไปราชการสงคราม มาขอของดีจากท่าน อาทิ พลทหารบุญเลิศ มีศิลป์ อาสาสมัครไปรบสมรภูมิเวียดนามและลาว ถูกยิงหลายครั้ง แต่กระสุนปืนไม่ระคายผิวหนังแต่ประการใด

หลวงพ่อต้องรับธุระพระพุทธศาสนา ในฐานะเจ้าคณะปกครอง ปฏิบัติศาสนกิจมาหลายปี ไม่มีเวลาที่จะแสวงหาความสงบได้ โดยปกติหลังออกพรรษาท่านจะเดินเท้าเข้าป่า เขตวังทอง นครไทย ชาติตระการ ด่านซ้าย เลย และเพชรบูรณ์ แสวงหาว่านยา แร่ธาตุ และเจริญวิปัสสนากรรมฐาน บางครั้งท่านหายไปเป็นสิบๆ วัน ชาวบ้านคิดว่าท่านคงถูกเสือหรือสัตว์ป่าทำร้าย หรือเป็นไข้ป่าเสียชีวิตไปแล้ว เมื่อท่านกลับออกมาอย่างปลอดภัยพร้อมว่านยา เป็นที่อัศจรรย์ยิ่งนัก

ด้วยความสมถะสันโดษ ในลาภยศ ท่านจึงลาออกจากตำแหน่งเจ้าคณะอำเภอวังทอง แล้วย้ายมาอยู่ที่วัดบางสะพาน คณะศิษย์ได้ทำแม่พิมพ์พระเครื่อง พิมพ์ต่างๆ หลายแบบ มาถวายให้ท่านนำชานหมากและว่านยามากดพระพิมพ์ด้วยมือของท่าน ซึ่งท่านก็มีเมตตาแจกอย่างทั่วถึง และยังไม่เคยปรากฏพบว่าบุคคลที่รับของจากท่านไปแล้วนำติดตัวไปจะตายโหง หรือถูกอาวุธตายสักรายเดียว

พระเครื่องวัตถุมงคลชนิดต่างๆ ของหลวงพ่อพันธ์ มีพุทธคุณสูงส่ง จนเป็นที่ประจักษ์ในด้านแคล้วคลาดปลอดภัยเป็นเอกอุ จึงเป็นพระเครื่องพระเกจิอาจารย์ยอดนิยมเมืองพิษณุโลก เป็นที่นิยมแสวงหาหวงแหนกันมากเป็นยิ่งนักในปัจจุบัน

หลวงพ่อพันธ์ วัดบางสะพาน ได้ละสังขารเมื่อวันที่ ๒๕ มกราคม ๒๕๑๘ สิริอายุได้ ๘๒ ปี ปัจจุบันสังขารของหลวงพ่อพันธ์ที่มรณภาพมากว่า ๓๖ ปี ยังไม่เน่าสลายไปตามหลักธรรมชาติ เป็นรูปแรกของเมืองพิษณุโลกด้วยบุญฤทธิ์ จิตตานุภาพที่หลวงพ่อได้บำเพ็ญเพียรมาตลอดระยะเวลาในสมณเพศ สมดังฉายาที่ว่า "สุสิโม" ผู้มีความเชี่ยวชาญในพระเวทย์อย่างแท้จริง

อ.โจ้ คม.ชัด.ลึก 16 พ.ค. 54

พระพระรูปเหมือน หลวงพ่อพันธ์ พิมพ์ประภามณฑล เนื้อชานหมาก วัดบางสะพาน พิษณุโลก องค์นี้สมบูรณ์ เนื้อจัด เก่าแห้ง มองเห็นแร่เหล็กไหล หลายเม็ด อัดพลาสติกพร้อมใช้

 

ปิดครับ



รายการที่ 207

เหรียญรุ่นแรก พิมพ์ทรงกลม ด้านหลังยันต์ปทุมสวรรค์ ครูบาคำปัน สุภัทโท วัดสันโป่ง จ.เชียงใหม่ ปีพ.ศ.2519

จัดสร้างและปลุกเสกใหญ่ โดยคณาจารย์ดังหลายรูป อธิตฐานจิตโดย 1.หลวงปู่คำปัน วัดสันโป่ง เชียงใหม่ (ตลอดไตรมาส) 2.หลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี ธนบุรี 3.หลวงพ่อคง วัดวังสรรพรส จันทบุรี 4.หลวงพ่อเจิม วัดวันยาวล่าง จันทบุรี 5.หลวงพ่อศรีนวล วัดเกวียนหัก จันทบุรี 6.หลวงพ่อคำปัน วัดหม้อคำตวง เชียงใหม่ 7.ครูบาสม โอภาโส วัดโป่งกวาว เชียงใหม่ 8.พระครูญาณภิรัติ วัดป่าเจริญธรรม เชียงใหม่ 9.พระอาจารย์ประเดิม วัดเพลงวิปัสสนา ธนบุรี 10.พระอาจารย์ธีระ ญาณวุฑโฒ วัดพระธาตุสบฝาง เชียงใหม่

หลวงปู่คำปัน วัดสันโป่ง ท่านเป็นศิษย์ของหลวงปู่มั่น ภูริทัตโตอีกองค์หนึ่ง(นอกจากหลวงพ่อชา สุภัทโท)ที่หลวงปู่มั่น ท่านไม่ให้ยัติ เนื่องด้วยองค์หลวงปู่ใหญ่ท่านเห็นว่า "นิกายไม่ใช่เครื่องขวางกั้นของการปฏิบัติให้หลุดพ้น" หลวงปู่คำปันท่านเป็นสหธรรมมิกที่สนิทสนมกับหลวงปู่แหวน สุจิญโณ และหลวงปู่ตื้อ อจลธัมโม โดยผู้คนเมืองเหนือเรียว่า "เพชร 3 เม็ดงามแห่งดินแดนล้านนา" โดยทั้ง 3 องค์ล้วนแล้วแต่มีภูมิธรรมสูงล้ำและหลุดพ้น จนเป็นที่เห็นประจักษ์กันทั่ว และหลวงปู่คำปันท่านยังเป็นพระผู้เชี่ยวชาญด้านไสยเวทย์โดยท่านสำเร็จยันต์ชั้นสูงอันได้แก่ "ยันต์ปทุมสวรรค์" ซึ่งมีท่านครูบาศรีวิชัยอีกองค์ที่สำเร็จยันต์นี้ หลวงปู่คำปันท่านได้กล่าวถึงว่า"ยันต์ปทุมสวรรค์เป็นยันต์โบราณมีพระพุทธคุณครอบจักรวาลทั้งเมตตามหานิยมและแคล้วคลาดคงกระพันชาตรีซึ่งเป็นยันต์ชั้นสูงหาผู้สำเร็จยากมากๆ

บูชา 700 บาท

 

จอง196 207

 

ขอบคุณครับ

 

รายการที่ 208

พระราหูอมจันทร์

ไม่ทราบที่ สวยงามเข้มขลัง

เลี่ยมพร้อมบูชา

บูชา 1,200 บาท