พระเครื่อง/เครื่องรางทั่วไป

เหรียญหน้าอรหันต์ หลวงพ่อทวด นิรันตราย ๗๗ เนื้อตะกั่ว เลข ๘๙๓ มีจาร

บูชา 1,400 บาท

งานบุญสุขในหัวใจ สานต่องานบุญจากรุ่น ปาฏิหาริย์ EOD เพื่อทหารกล้า 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้

เหรียญสวยแกะพิมพ์โดยช่างแกะเหรียญดังอันดับหนึ่งของประเทศชนวนมวลสารสุดยอดวัตถุประสงค์ดีจัดสร้างโดยหน่วยกู้ระเบิดEDO ภาคใต้เพื่อนำเงินไปซื้ออุปกรณ์เครื่องมือสื่อสารให้ทหารอาสาสมัครที่ดูแลบ้านเมืองและครูใน3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ส่วนที่เรียกว่าหน้าแก่เพราะผู้จัดสร้างตั้งใจให้ช่างแกะเหรียญชนิดที่เรียกว่าให้เห็นรอยย่นตามหน้าตามผิวหนังองค์หลวงพ่อทวดเลยค่ะซึ่งช่างเองก็สามารถแกะได้อย่างสวยงามมากส่วนชื่อรุ่นนิรันตราย77 ก็เป็นอุปเทห์ว่าประเทศนี้คือประเทศไทยประเทศไทยมี77 จังหวัดคนไทยต้องไปได้ทุกจังหวัดอย่างแคล้วคลาดปลอดภัยค่ะใครมีเหรียญหลวงพ่อทวดรุ่นนี้ติดตัวไว้ก็สามารถเดินไปได้ทุกจังหวัดอย่างแคล้วคลาดปลอดภัยนิรันตรายแน่นอนโดยเฉพาะ3 จังหวัดชายแดนภาคใต้

พิธีปลุกเสกสุดเข้มขลัง ถึง 7 วาระด้วยกัน

วาระที่ 1 เริ่มต้นที่วัดพุทไธศวรรย์

หลวงพ่อเฉลิม วัดพระญาติ
หลวงพ่อเอียด วัดไผ่ล้อม
หลวงพ่อหวล วัดพุทไธศวรรย์
พระอาจารย์โชติ วัดพุทไธศวรรย์
หลวงพ่อเพิ่ม วัดป้อมแก้ว
หลวงพ่ออุดม วัดพิชัยสงคราม
หลวงพ่อแม้น วัดหน้าต่างนอก
หลวงพ่อเอื้อน วัดวังแดงใต้
หลวงพ่อระเบียบ วัดบ้านอ้อ
หลวงพ่อโฉม วัดตำหนัก
หลวงพ่อสืบ วัดสิงห์
หลวงพ่อชำนาญ วัดบางกุฏิทอง
พระอาจารย์ปืน วัดลาดชะโด
พระอาจารย์มนตรี วัดบางแวก
พระอาจารย์สุรสิทธิ์ วัดไทร
พระอาจารย์จารุวัช วัดคฤหบดี

วาระที่ 2 สายอีสาน ศิษย์สายโคราช หลวงพ่อคูณครับ ณ อุโบสถ วัดโนนไทย ได้รับความเมตตาจากพระเกจิที่เป็นที่รู้จักของชาวโคราช

พระครูอนุวัตรชินวงศ์ หลวงพ่อจอย วัดโนนไทย
พระครูประทุมสารคุณ หลวงพ่ออินทร์ วัดบัว
พระครูวิสารวรกิจ หลวงพ่อบุญส่ง วัดหนองหว้า
พระครูวิภัชธรรมคุณ หลวงพ่อบุญ วัดจระเข้หิน
หลวงพ่อทอง สุทฺธสีโล วัดพระพุทธบาทเขายายหอม

วาระที่ 3 สำหรับพิธีพุทธาภิเษก ณ สำนักสงฆ์ต้นเลียบ
พิธีขลังมากๆครับ เงียบสงบ บรรจุพลังพุทธคุณเต็มที่ ได้รับความเมตตาจากพระเกจิครูบาอาจารย์อย่างสูงสุด

พ่อท่านหวาน วัดสะบ้าย้อย อ.สะบ้าย้อย จ.สงขลา
พ่อท่านอิ้น วัดทับใหม่ อ.เคียนซา จ.สุราษฎร์ธานี
พ่อท่านเอียด วัดโคกแย้ม อ.ควนขนุน จ.พัทลุง
พระครูอุทัย วัดวิหารสูง อ.เมือง จ.พัทลุง
พระสมุห์วรัญญู เจ้าสำนักสงฆ์ต้นเลียบ จ.สงขลา

วาระที่ 4 รับความเมตตาจากคณะกรรมการของวัดเนินสุทธาวาส จังหวัดชลบุรีอนุญาตให้นำวัตถุมงคลนิรันตราย๗๗ เข้าร่วมพิธีมหาพุทธาภิเษกของทางวัดด้วยครับได้รับบารมี พลังพุทธคุณจากพระเกจิ ผู้เปี่ยมด้วยความเมตตาและมีลูกศิษย์มากมายทั่วประเทศ

หลวงปู่ปัญญา วัดหนองผักหนาม
หลวงปู่แขก วัดสุนทรประดิษฐ์
หลวงพ่อชาญ วัดบางบ่อ
หลวงพ่อมาลัย วัดบางหญ้าแพรก
ครูบาอริยชาติ วัดแสงแก้วโพธิญาณ

วาระที่ 5 การเดินทางของงานบุญสุขในหัวใจ ภาคตะวันออก
ได้รับความเมตตาอย่างสูงสุดจาก

หลวงพ่อสิน วัดละหารใหญ่
หลวงพ่อสาคร วัดหนองกรับ
หลวงพ่อเชย

วาระที่ 7 พิธีหมาพุทธาภิเษฏ ณ วัดบวรฯ

หลวงปู่ทวดหน้าอรหันต์ “นิรันตราย 77”
อีกหนึ่งงานบุญที่ได้รวมสุดยอดพระเกจิฯชั้นแนวหน้าทั่วทุกภาคของประเทศไทย.โดยเฉพาะ หลวงปู่ คำบุ คุตฺตจิตฺโต..แห่งวัดกุดชมภู อุบลราชธานี

วาระที่ ๗ พิธีมหาพุทธาภิเษก ที่วัดท่าพระเจริญพรต นครสวรรค์

หลวงพ่อสุนทร วัดท่าพระเจริญพรตจ.นครสวรรค์
หลวงพ่อชุบ วัดวังกระแจะ จ.กาญจนบุรี
หลวงพ่อแถม วัดช้างแทงกระจาด
หลวงพ่อเสน่ห์ วัดพันสี จ.อุทัยธานี
หลวงพ่อสะอาด วัดเขาแก้ว จ.นครสวรรค์
พระมหาสุรศักดิ์ วัดประดู่พระอารามหลวง จ. สมุทรสงคราม
พระอาจารย์ติ๋ว วัดมณีชลขันธ์ จ.ลพบุรี

เหรียญหลวงพ่อทวดหน้าอรหันต์ (หน้าแก่) รุ่นนิรันตราย๗๗ ปี 2556 สวยและนิยม ไม่ค่อยพบเจอในสนามพระ หลวงพ่อหวล วัดพุทไธศวรรย์ อยุธยา ได้อนุญาตให้จัดสร้างขึ้น เพื่อหารายได้สนับสนุนกองทุนสวัสดิการช่วยเหลือนักทำลายล้างวัตถุระเบิดกองทัพบก(EOD ARMY) หน่วยทำลายล้างวัตถุระเบิด 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ และแจกจ่ายเพื่อเป็นขวัญกำลังใจแด่ทหารเหล่านี้ โดยแกะพิมพ์หลวงพ่อทวด รายละเอียดต่างๆคมชัดมาก พระทำออกมาได้สวยงาม มีโค้ดและหมายเลขกำกับที่ด้านหลังเหรียญ

ขนาดเหรียญ สูง 3.8 ซม. กว้าง 2.5 ซม.

 

เปิดดูไฟล์ 6482542


ตะกรุดเงินหลวงพ่อย้อย วัดอัมพวัน สระบุรี

เป็นแผ่นเงินเก่าจารชัดเจน ตะกรุดเงินพบเจอน้อยส่วนมากจะเป็นทองแดง ขนาดใหญ่ 5นิ้วขึ้นไป

ดอกนี้เป็นตะกรุดโภคทรัพย์ ใช้ติดตัวหรือกระเป๋า ว่ากันว่า มีเงินเท่าไหร่ก็ใช้ไม่หมด หายากสุดๆ รับประกัน

บูชา 2,500 บาท

ตะกรุด หลวงพ่อย้อย พุทธคุณครอบจักรวาล
องค์สมเด็จพระสังฆราชองค์ก่อนท่านยังใช้บูชาตะกรุดท่าน

??อะไรอยู่ตรงหน้าอกของท่าน??
สมเด็จญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช
องค์ที่แล้ว ท่านทรงพกตระกรุดหลวงปู่ย้อย

วัตถุมงคลชิ้นเอกของหลวงพ่อย้อย วัดอัมพวัน โดยท่านบอกว่าสุดยอดที่สุดไม่มีอะไรเทียบได้ ก็คือ ”ตระกรุดมหาจักรพรรตราธิราช “ มีพุทธานุภาพมาก แม้กระทั่งว่าท่านเจ้าคุณพระมหานายก(พระมหาฉลอง ชลิตกิจฺโจ) วัดบวรนิเวศ กรุงเทพมหานคร ลูกศิษย์ในสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราชสกลมหาสังฆปรินายก สมเด็จพระสังฆราชองค์ปัจจุบัน เล่าให้ฟังว่าท่านสมเด็จพระญาณสังวร ทรงมีและเคยคาดตระกรุดหลวงพ่อย้อยที่เอวท่านประจำ
ประวัติความเป็นมาของ “ตะกรุดมหาจักรพรรดิ์”ตะกรุดมหาจักรพรรดิราช (ตำหรับของสมเด็จพระพนรัตน์ วัดป่าแก้ว ) จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เป็นหนึ่งในตำราพิชัยสงคราม มีอานุภาพมากทางคุ้มครองป้องกันภัยพิบัติ ศาสตราวุธ ศาสตราคมต่างๆ คณาจารย์แต่โบราณมักจัดสร้างเพื่อถวายแก่พระมหากษัตริย์เพื่อไว้คุ้มครองตัวตามตำรากล่าวว่า ใครมีตะกรุดมหาจักรพรรดิตราธิราชแล้ว จะได้เป็นใหญ่กว่าหมู่คณะ มีตบะ เดชะ และบารมีเพิ่มพูนมากขึ้นทุกวัน จะมีคนคอยชูชุบ อุปถัมภ์จนได้เป็นเจ้าพระยามหาอมาตย์ กอปรด้วยยศถาบรรดาศักดิ์ และทรัพย์ศริงคาร ข้าทาส บริวารพร้อมมูล ศัตรูหมู่อมิตรที่คิดร้ายจะพินาศสูญ พ้นอันตรายจาก เทวดา มนุษย์ นาค และภูตผีร้าย ไปทางไหน ทิศไหน จะเป็นที่รักใคร่ นิยมของคนทางนั้น ทิศนั้น จะมีลาภ ผล และเกียรติยศ ปรากฏเกรียงไกรไปทั่วทุกทิศ จะมีเทวดาพิทักษ์รักษา ค้ำคูนดวงชะตา ผู้บูชา แต่ถ้านำไปวางไว้ที่หิ้งพระ โต๊ะหมู่บูชาพระ จะแผร่อาณุภาพค้ำดวงชะตา คนทั้งบ้าน ให้เจริญรุ่งเรือง

ประวัติหลวงพ่อย้อย ปุญญมี วัดอัมพวัน อ.เสาไห้ จ.สระบุรี
พระอธิการย้อย
ฉายา ปุญญมี
ชื่อเดิม ย้อย นามสกุลชาติภูมิ
เกิดวันที่ 1 กรกฎาคม 2435 ปีมะโรง ที่บ้านโรงเหล้า (บ้านอัมพวัน) หมู่ที่ 3 ตำบลศาลารีไทย อำเภอเสาไห้ จังหวัดสระบุรี เชื้อชาติไทย
สัญชาติไทย บิดาชื่อ นายนิ่ม เชื้อชาติไทย สัญชาติไทย ศาสนาพุทธ มารดาชื่อ นางแป๋ เชื้อชาติไทย สัญชาติไทย ศาสนาพุทธ
ก่อนบรรพชาอุปสมบท อยู่บ้านโรงเหล้า(บ้านอัมพวัน) หมู่ที่ 3 ตำบลศาลารีไทย อำเภอเสาไห้ จังหวัดสระบุรี
การศึกษา
การศึกษา ประถมปีที่ 4 พ.ศ.2452 ที่วัดวังแดงเหนือ
บรรพชาที่วัดอัมพวัน อำเภอเสาไห้ จังหวัดสระบุรี เมื่อ พ.ศ. 2452 อายุ 16 ปี เศษ มีพระครูสา วัดวังแดงเหนือ อำเภอท่าเรือ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เป็นพระอุปัชฌาย์
อุปสมบท
อุปสมบทที่วัดอัมพวัน อำเภอเสาไห้ จังหวัดสระบุรี เมื่อวันที่ 17 มิถุนายน 2456 อายุ 21 ปีมีพระครูสา วัดวังแดงเหนือ อำเภอท่าเรือ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เป็นพระอุปัชฌาย์
มีพระใบฎีกาโป๋ วัดวังแดงเหนือ อำเภอท่าเรือ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เป็นพระกรรมวาจาจารย์มีพระใบฎีกานาค วัดสมุหประดิษฐาราม อำเภอเสาไห้ เป็นพระอนุสาวนาจารย์
ตำแหน่งตามพรบ.คณะสงฆ์
ตำแหน่ง พระอธิการเจ้าอาวาสวัดอัมพวัน เมื่อ พ.ศ.2461 อายุ 26 ปี
มรณภาพ
วันที่ 19 ธันวาคม 2525 รวมอายุ 90 ปี รวม 72 พรรษา

สำหรับประวัติหลวงพ่อย้อย ปุญญมี นั้น เป็นที่น่าเสียดายที่ก่อนหน้านี้ไม่มีผู้เขียนที่สามารถจะเขียนได้อย่าง ละเอียดได้ เพราะว่าลูกศิษย์หลายท่านที่จะนำไปทำประวัติ
รวมทั้งคุณไพบูลย์ ชมภูทัพ ผู้เขียนเรื่องของดีวัดอัมพวัน ในหนังสือพระธาตุเจติยานุสรณ์ ของวัดอัมพวัน ได้ไปสอบถามกับหลวงพ่อย้อยด้วยตัวเอง 2-3 ครั้ง
ท่านเพียงแต่บอกว่าไม่ต้องเอาไปลงหรอก ทุกครั้งไป จึงเป็นเรื่องจนปัญญาที่จะหาประวัติอย่างละเอียดของท่านได้ เท่าที่ค้นหาได้จากทะเบียนพระภิกษุวัดอัมพวันตามรายละเอียดที่
ปรากฎข้างต้นนี้ อาจารย์ผู้สั่งสอนเวทย์มนต์คาถา ตำราต่างๆ ให้แก่ท่านคือ หลวงพ่อโป๋ วัดวังแดงเหนือ ที่เป็นพระพระกรรมวาจาจารย์ ตอนที่ท่านอุปสมบทนั่นเอง
หลวงพ่อย้อยเป็นพระภิกษุผู้ทรงศีล บริสุทธิ์ ที่เจริญด้วยเมตตาอย่างยิ่ง ผู้ที่ได้พบท่านมาแล้วคงจะได้เคยเห็นว่าเวลาท่านฉันอาหารไม่ว่าเช้าหรือเพล
แทบจะกล่าวได้ว่าทุกเวลาที่ท่านฉันจะมี สุนัขและแมวล้อมรอบตัวท่านและสำรับกับข้าวของท่านจำนวนมาก ท่านไม่เคยไล่ให้หนีออกไปเลย ท่านฉันอาหารไป ท่านก็ให้อาหารสุนัข
แมวไปด้วยทุกครั้ง ยุงที่กัดท่านก็ไม่เคยที่กัดท่านไม่เคยถูกไล่หรือตี มีลูกศิษย์จะตีให้ก็ไม่ยอมให้ตีบอกแต่เพียงว่าเขาอิ่มแล้วเขาก็ไป คุณลักษณะพิเศษอีกอย่างหนึ่งของท่านก็คือ
ท่านไม่เคยขัดศรัทธาของผู้ที่ไปหาท่าน ต้องการให้ท่านทำ หรือช่วยอย่างไร ท่านทำให้ทุกอย่าง ท่านมีวิชาอาคมเวทย์มนต์คาถาแต่ใช้ในทางที่ถูกเท่านั้น ช่วยเหลือ,ป้องกันภัย
ไม่ว่าจะลงกระหม่อม ทำน้ำมนต์อาบให้ หรือปลุกเสกเครื่องลางของขลังไว้ป้องกันตัวจากภัย อันตรายต่างๆ ที่ถูกผู้อื่นทำใส่ หรือที่เรียกว่า”คุณไสย” ท่านเป็นทำให้ทั้งนั้น
ไม่เคยขัดคำขอร้องของผู้ไปหาเลย อีกประการหนึ่งท่านมีประสาทหูเสีย (หูหนวก) จึงมีสมาธิดีกว่าปกติ เพราะไม่สามารถฟังเสียงรบกวนจากบริเวณใกล้เคียง
ของขลังของท่านจึงศักดิ์สิทธิ์ มีพุทธานุภาพมาก แม้กระทั่งว่าท่านเจ้าคุณพระมหานายก วัดบวรนิเวศ ลูกศิษย์ในสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราชสกลมหาสังฆปรินายก
สมเด็จพระสังฆราชองค์ปัจจุบัน เล่าให้ฟังว่าท่านสมเด็จพระญาณสังวร ทรงมีและคาดตระกรุดหลวงพ่อย้อยที่เอวท่านประจำ ปรากฏการณ์ ผลศักดิ์ สิทธิ์และ
อภินิหารเป็นที่เลื่องลือในบรรดาลูกศิษย์และคนทั่วไปที่ได้เคยมีประสบการณ์มาแล้ว
เช่น 1.คุณศุกลรัตน์ ธนรัตน์ติกานนท์ อ.แก่งคอย จ.สระบุรี ได้เล่าให้ฟังว่า ได้กำลังเดินข้ามถนน
บังเอิญไปคนคนแก่กำลังข้ามจึงได้ อาสาช่วยจูงข้าม ระหว่างข้ามถนนนั้นมีรถตู้วิ่งมาอย่างเร็วเบรคอย่างแรงด้วยความตกใจ จนรถเกือบชนอีกไม่กี่นิ้วก็ถึงตัว
ซึ่งชาวบ้านที่เห็นเหตุการณ์นั้นคิดว่ายังไงๆ 2 คนต้องถูกรถชนตายอย่างแน่นอน หลังจากเกิดเหตุคุณศุกลรัตน์ ธนรัตน์ติกานนท์
ได้คุยกับคนขับได้ความว่าที่เบรคนั้น เห็นภาพพระแก่ๆ ข้ามถนนจึงเบรค ไม่ได้เห็นตนเองกับคนแก่ที่ได้จูงข้ามเลย ทั้งๆที่นั้นไม่ปรากฎพระรูปใดๆอยู่เลย
แสดงความแปลกใจให้กับคุณศุกลรัตน์ จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้นึกขึ้นได้ว่าได้แขวนพระเหรียญหลวงพ่อย้อยรุ่น 2 ด้านหลังมีหลวงพ่อขาวไว้ในคอ เพียงองค์เดียว
เจ้าตัวจึงศรัทธาในบารมีของหลวงพ่อว่า ท่านได้มาช่วยเราปลอดภัย ตั้งแต่นั้นมาพระองค์นี้ไม่เคยห่างกายเลย และยังเป็นที่เคารพศรัทธาตลอดมา
2.ครั้งหนึ่งมีคุณป้าคนหนึ่งเดินทางไป ทัศนาจร นครเวียงจันทน์ และตอนกลับได้ซื้อของจากเวียงจันทน์ข้ามฝั่งมาไทยหลายสิ่งหลายอย่าง ปรากฎว่าในคณะที่ไปด้วยกันนั้นถูกด่านตรวจและยึดสิ่งของไปหมด ครั้นตรวจมาถึงคุณป้าคนนี้คนตรวจกลับถามว่าป้ามาจากไหน คุณป้าตอบว่ามาจากสระบุรี คนตรวจถามเพียงเท่านั้นแล้วก็เดินผ่านไป โดยไม่ได้ตรวจค้นสิ่งของและยึดของเหมือนคนก่อนๆ ปรากฎว่าเพราะคุณป้าคนนี้มีตระกรุดมหาจักรพรรตราธิราชติดตัวไปด้วย และมีเพียงอย่างเดียว ในขณะที่เขากำลังตรวจคนอื่นอยู่นั้นคุณป้าไม่รู้จะทำอย่างไร ก็เลยยกมือจับที่ตระกรุดและนึกถึงหลวงพ่อย้อย พร้อมกับรำพึงขอให้หลวงพ่อย้อยช่วยให้แคล้วคลาดไปสักครั้งเถิด (มาจากเรื่องของดีวัดอัมพวัน ในหนังสือพระธาตุเจติยานุสรณ์ ของวัดอัมพวัน คุณไพบูลย์ ชมภูทัพ ผู้เขียน)
3.อีกรายหนึ่งรถคว่ำ ทุกคนบนรถบาดเจ็บล้มตามกัน แต่ตัวเขาเองไม่ได้รับอันตรายใดๆเลย และมีมหาจักรพรรตราธิราชเพียงดอกเดียว หลังจากนั้นไม่กี่วันปรากฎว่าเขาผู้นี้ได้ไปหาหลวงพ่อย้อยที่วัด และขอสั่งจองมหาจักรพรรตราธิราชอีกถึง 10 ดอก(มาจากเรื่องของดีวัดอัมพวัน ในหนังสือพระธาตุเจติยานุสรณ์ ของวัดอัมพวัน คุณไพบูลย์ ชมภูทัพ ผู้เขียน)
เคยมีผู้กล่าวว่า ใครมีของขลังของหลวงพ่อย้อยไว้กับตัวไม่ต้องกลัวภัย โดยเฉพาะตระกรุดมหาจักรพรรตราธิราชด้วยแล้ว มีคุณานุภาพมากมายแล้วแต่จะอธิฐานใช้เอา ย่อมเกิดผลให้ทันตาเห็น สมกับที่หลวงพ่อท่านเปรียบเทียบเท่ากับแก้วสารพัดนึกนั่นเทียว แต่ทั้งนี้ต้องใช้ในทางที่ถูกที่ควร และสิ่งที่เป็นไปได้. ต่อ เสาไห้

 

ล็อคเก็ตหินรุ่นแรกเซียนแปะโรงสี อ.โง้วกิมโคย ปี2519

จัดสร้างโดยลูกหลานและลูกศิษย์ชาวไทยเชื้อสายจีน ย่านตลาดสะพานเหลือง กทมฯ.ซึ่งจัดสร้างขึ้นพร้อมเหรียญรูปไข่ ปี2519

รับประกันสากลทุกสนาม เมื่อก่อนต้องมี 8,000 ขึ้น

บูชา 2,500 บาท พิมพ์กลางหน้าแก่

...มีลักษณะพิเศษคือเป็นสองชิ้นประกบกัน และที่ด้านหลังของล็อคเก็ตทั้งหมดจะมีผ้ายันต์ติดอยู่ และที่่สำคัญจะต้องมีหมากของท่านเซียนแปะติดอยู่ด้วยทุกชิ้น

+++ ล็อคเก็ตรุ่นนี้ส่วนใหญ่อยู่กับกลุ่มลูกหลานและลูกศิษย์ใกล้ชิดเท่านั้น ถ้าไม่หลุดออกมา อย่าหวังว่าจะได้ เพราะของมีน้อย ทำบูชาเฉพาะ (เสี่ยใหญ่ วงการธุรกิจส่งออก ในคอแขวนล็อคเก๊ตรุ่นนี้เท่านั้นเองครับ) ปัจจุบันไม่พบเจอแล้วครับ ส่วนมากจะออกต่างประเทศกันหมด เพราะได้ราคากว่าบ้านเราเยอะ

+++ ของแท้ๆ จุดพิจารณาชัดเจน ของเลียนแบบเยอะมาก ส่วนมากจะเล่นสับสนกันจนคิดว่าเก๊หรือเสริมกันไปหมด แต่ของทำใหม่ปี 59 ก็มีออกมาครับ ถอดจากตัวจริงเลย แต่รายละเอียดห่างจากต้นฉบับเยอะ ให้ลองสังเกตุยันต์ด้านหลังดีๆครับ

ล็อคเก็ตรุ่นนี้ แผ่นหลังเป็นแบบแผ่นปั้มทองแดงหนา แล้วเคลือบกระเบื้อง

นำรูปถ่ายมาอัดลงบนหน้ากระเบื้อง แล้วใช้ภู่กันเล็กๆแต่สีอีกครั้ง

เป็นการทำแบบโบราณ

ถ้าสังเกตุดีๆ จะเห็นว่าแต่ละชิ้น จะมีจุดที่แตกต่างกัน
องค์นี้สภาพเดิม งานแต่งสีเก่า ไม่อุดไม่ซ่อม แกะจากเลี่ยมทองมา

 

พิมพ์กลาง หน้าหนุ่ม

บูชา 2,000 บาท

 

ปิดครับ



รูปถ่ายหลวงพ่อกวย วัดหัวเด่น ปี 2558

สร้างน้อย มวลสารทันหลวงพ่อหลายอย่าง(ผสมทรายเสก + เกศา+จีวร)

บูชา 800 บาท

 

พระสมเด็จเนื้อแตกลายงาพุทธกวัก

พระแท้ ไม่ทราบเกจิ

บูชา 400 บาท

 

ปิดครับ



รูปคุณแม่บุญเรือน หลังเหรียญขวัญถุง

เป็นรูปถ่ายหนังไก่ แท้ทันท่าน รูปถ่ายมีปรอทขึ้นให้เห็น รับประกัน

บูชา 2,500 บาท

 

แหวน ขนหางช้าง

เป็นแหวนเงิน ด้านในเป็นขนหางช้าง แหวนเงินสั่งทำสมัยเก่า

บูชา 1,400 บาท

ขนหางช้าง ถือเป็นอีกหนึ่งเครื่องรางที่นิยมใช้ติดตัวกันมานาน แหวนวงนี้ สั่งทำพิเศษ และเจ้าของเดิมได้รับมาจากคนพื้นที่นครสวรรค์ น่าจะมีอะไรที่ไม่ทำธรรมดา ยิ่งเป็นงานเก่าที่ค่อนข้างมีอายุ ไม่ใช่ เอาขนหางช้างมาถักเป็นแหวนทำขายตามตลาด ที่มีให้เห็นในปัจจุบัน

 

ปิดครับ



เหรียญเสด็จเตี่ยหลังพระธาตุพนมปี 2522

ลพ.คำพันธ์ วัดธาตุมหาชัย พร้อมเกจิในตำนาน หลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี /ลพ.เกษม เขมโก /ลป.แหวน สุจิณโณ ลพ.ฤาษีลิงดำ โดยอาจารย์ทุกองค์ปลุกเสกเดี่ยว
#จากคำบอกเล่าของทีมงานผู้สร้าง
#ประวัติการสร้าง เหรียญเสด็จเตี่ย หลังพระธาตุพนม ปี 2522
จากคำบอกเล่า ของ น.อ.ประดิตถ์ แทนสง่า หนึ่งในคณะผู้สร้าง
ขอบขอบพระคุณในวิทยาทานมา ณ ที่นี้ด้วยครับ

บูชา 800 บาท

 

เหรียญรุ่น 4 พ่อท่านซัง วัดวัวหลุง จ.นครศรีธรรมราช ปี 2535 บล๊อคผด

สุดยอดเหรียญประสบการณ์เมืองนครฯ ที่ราคามีแนวโน้มว่ากำลังแรงเพราะพื้นที่มีประสบการณ์ต่อเนื่อง ถึงแม้จะเป็นเหรียญที่ไม่ทันท่าน แต่ราคาเช่าหาค่อนข้างแรงครับ และของปลอมก็เยอะ

บูชา 2,000บาท

 

ปิดครับ



ลูกอมทรายเสก มนต์มหากาฬ หลวงพ่อกวย

ลูกอมเนื้อผงพุทธคุณ ผสมทราย ในตำนาน ปัจจุบันแทบไม่มีให้เห็น

ลูกอมยุคแรกๆ ท่านปลุกเสกด้วย มนต์พระกาฬ หรือมนต์มหากาฬ อานุภาพของมนต์บทนี้ เป็นเหมือนกำแพงแก้วเจ็ดชั้น ปกปักรักษาเราให้รอดพ้นจากภัยอันตรายต่างๆเมื่อมีใครคิดจะมาทำร้าย คิดไม่ดีกับผู้ที่มีวัตถุมงคลที่ปลุกเสกกำกับด้วยมนต์บทนี้ จะสะท้อนสิ่งไม่ดีเข้าตัวผู้คิดชั่วนั้นเอง บางท่านว่ามนต์มหากาฬ สะท้อนกลับต่อผู้คิดชั่วนั้นรุนแรงมาก ถึงขั้นวิบัติฉิบหาย กันไปเลยล่ะครับดังนั้นลูกอมทรายเสก จึงเป็นที่ครั่นคร้าม ของนักเลงมนต์ดำไสยเวทย์ฝ่ายต่ำ ภูตผีปีศาจ ผีห่าซาตาน เป็นยิ่งนัก

ลูกอมทรายเสก เป็นเครื่องรางของขลัง ที่ท่านสร้างขึ้นในยุคแรกๆ ประมาณปีที่ท่านเริ่มสร้าง พ.ศ 2483 เมื่อครั้งเกิดสงครามอินโดจีน ลูกอมนี้ท่านปลุกเสกมากปลุกเสกนาน ปลุกเสกด้วยมนต์บทพิเศษที่ไม่สามารถนำมาปลุกเสกพระได้ ดังนั้นลูกอมของท่านจึงสามารถพกพาไปได้เวลาทุกสถานที่ไม่มีวันเสื่อมความเข้มขลัง แม้เราจะหลงเข้าไปในสถานที่อโคจร..ก็ตามที นี่คือข้อดีของลูกอมทรายเสกของท่าน...คุ้มครองเราได้ในทุกสถานที่ไม่มีข้อห้ามใดทั้งสิ้น

ลูกอมผงพุทธคุณผสมทรายเสก ของหลวงพ่อกวยนั้น ขลังศักดิ์สิทธิ์ยิ่งนัก มีอานุภาพทางด้านป้องกันภูตผีปีศาจ คุณไสยต่างๆ ผีเข้าเจ้าสิง ป้องกันมนต์ดำ ลมเพลมพัด เสกของใส่ตัว อีกทั้งมีพุทธคุณทางด้านคงกระพัน แคล้วคลาดเป็นเลิศ ดังจะเห็นได้ว่ามีพระเครื่องของท่านจำนวนไม่น้อย มีทรายเสกผสมในเนื้อ

ลูกนี้เก่า ถึงยุค 24 กว่าแน่นอน ส่องดูเห็นเม็ดทรายชัดเจน มีคราบรักเก่าๆที่น่าจะใช้พันแขวนมาก่อนเลี่ยมให้เห็น เจ้าของเดิมเลี่ยมทองบูชามา รับประกันสากล ตัวจริง หายากครับ ได้ไปแล้วส่องดูถ้าไม่เก่า ไม่เห็นเม็ดทรายชัดๆยินดีรับคืนครับ

 

รูปหล่อปั๊มครูบาศรีวิชัย ปี 2515 วัดพระธาตุดอยสุเทพ จ.เชียงใ หม่ เนื้อทองเหลือง ก้นวงเดือน

จัดสร้างโดยคณะสงฆ์จังหวัดเชียงใหม่ ในพิธีมหาพุทธาภิเษกพระพุทธสิหิงค์จำลอง เมื่อวันที่ 9 เมษายน 2515 มีพระเครื่องพิมพ์ต่างๆที่สร้างและปลุกเสกในพิธีเดียวกันนี้อยู่หลายพิมพ์เช่น พระพิมพ์พระร่วงรางปืน,พระกริ่งเชียงแสน,เหรียญครูบาศรีวิชัยหลังพระธาตุ ,เหรียญพระพุทธสิหิงค์,เหรียญพระเจ้าเสตังคมณีวัดเชียงมั่น,เหรียญหลวงพ่อทันใจ,เหรียญเจ้าคุณพระราชสิทธาจารย์,เหรียญเจ้าคุณพระอภัยสารทะ วัดทุงยู เป็นต้น มหาพุทธาภิเศกใหญ่โดยมียอดพระคณาจารย์ 108 รูปชื่อดังแห่งยุคร่วมปลุกเสกอาทิเช่น หลวง ปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี / หลวงปู่แหวน วัดดอยแม่ปั๋ง / หลวงพ่อเงิน วัดดอนยายหอม /หลวงพ่อกวย วัดโฆษิตาราม/อาจารย์นำ แก้วจันทร์/หลวงพ่อเกษม เขมโก เป็นต้น พระเครื่องและวัตถุมงคลชุดนี้ นับเป็นพิธีปลุกเสกที่ยิ่งใหญ่ที่สุดพิธีหนึ่งของจังหวัดเชียงใหม่ในสมัยนั้นเลยก็ว่าได้ นับเป็นวัตถุมงคลที่ผู้มีจิตเคารพศรัทธาในครูบาศรีวิชัยควรมีไว้บูชาเป็นอย่างยิ่ง เพราะนอกจากจะทำพิธีมหาพุทธาภิเษกใหญ่โดยยอดคณาจารย์ในสมัยนั้นแล้ว ยังสร้างโดยวัดพระธาตุดอยสุเทพ ซึ่งเป็นวัดที่ครูบาศรีวิชัยท่านได้สร้างและยังเป็นศูนย์รวมใจ เป็นที่ยึดเหนี่ยวของประชาชนชาวล้านนาอีกด้วย.

บูชา 800 บาท

 

ปิดครับ



ว่ากันว่า หายากกว่าสมเด็จ วัดระฆัง

รูปพ่อครูโพมินข่อง/บรมพ่อครูโพโพอ่อง

หลังผงยาแดงสุริยันจันทรา

พ่อครูโพมินข่อง
. ผู้มากด้วยบารมีและเข้าถึงศาสตร์วิชาปรุงการกินว่านยามหาวิเศษและการเรียนวิชาแบบย้อนกลับหรือย้อนทวนวิชา จนกระทั่ง จิตเป็นทิพย์ กายเป็นทิพย์ วาจาศักดิ์สิทธิ์ บรรลุสมาบัติสูงสุดพร้อมด้วยอภิญญา ๕ ประการ สำเร็จวัชระกาย เนื้อตัวเป็นทิพย์ มีอำนาจวิเศษอาจบันดาลสิ่งต่างๆได้ตามปรารถนา ทั้งควบคุมธาตุทั้ง ๔ ได้อย่างพิสดารเด็ดขาดตายตัว อยู่บนโลกในฐานะ “คุรุเทพผู้วิเศษ” ทำหน้าที่ประดุจพระโพธิสัตว์ท่องเที่ยวโปรดสรรพสัตว์ทั้งหลายไม่มีประมาณ
........
การสร้างยาสักยาปะฐะมะสิทธิ
. ในเมืองม่านยังมีการนำเอาว่านยาสำคัญที่คัดสรรตามศาสตร์วิชามาปั้นเป็นรูปลักษณ์ต่างๆ เช่นรูปพระนางสุรัสวตี รูปมหายักษา ท้าวกุเวร รูปพญาโคอุสุภราช(เทพพาหะของพระศิวะมหาเทพ) รูปเทวดาหรือหนุมาน ฯลฯตามคติและเพื่อเสริมส่งคุณสมบัติ โดยรูปลักษณ์แต่ละอย่างจะเป็นตัวบ่งบอกว่าจะยานั้น ๆ เด่นด้านใด รูปตัวยาสักที่พบได้มากคือ รูปมหายักษา รูปหนุมาน มักทำด้วยว่านยามีสีดำ เรียกว่ายาดำ ใช้ในการสักยาดำ (ไม่ใช้ในการสักวิชายาแดง)
. ยาสักโบราณที่เป็นยาดำก็ได้รับการยอมรับและแสวงหาทั้งเพื่อการสักและการสะสมนำมาบูชา โดยเชื่อว่ายาสักโบราณมีคุณสมบัติต่าง ๆ อาทิ ด้านตบะเดชะ ล้างอาถรรพ์ หรือที่เรียกว่ายาถอน ข่มอาถรรพ์ต่างๆได้ ยาแนวคงกระพันหนังเหนียวเป็นต้น

“ยาธรรมะเจติยะ" หรือ “เส่ต่อ”
. “พระสมเด็จวัดระฆังฯ ของไทยเราเป็นจักรพรรดิ์พระเครื่องฉันใด เมืองม่านก็มีเส่ตอเป็นยอดแห่งวัตถุมงคลฉันนั้น”
ดังนั้นเส่ตอที่มีขนาดเล็กเท่าปลายนิ้วก็จัดว่ามีคุณค่ามหาศาล เพราะผู้รู้จะเปรียบไว้ว่าเสมือนหนึ่งแก่นโคตรพลังงานที่รวบรวมเอาสรรพวิชา สรรพยาและสรรพคุณทั้งหลายไว้ในตัว
. คุณค่าแห่งเส่ตอนั้นมีมากกว่าการเป็นวัตถุมงคล แต่คือบุคคลาธิษฐานที่สะท้อนความศรัทธาในบวรพระพุทธศาสนาของชาวพม่ารามัญที่มีมานานหลายร้อยหลายพันปี เป็นเสมือนเครื่องหมายแห่งพระพุทธศาสนา คือพระเจดีย์ที่ศักดิ์สิทธิ์เป็นสิ่งที่แทนองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เป็นสิ่งที่ควรค่าแห่งการกราบไหว้บูชา เป็นที่พึ่งทางจิตใจอันมีค่ายิ่ง
. เจดีย์หรือรูปพระนั้นไม่ว่าเล็กเท่าปลายนิ้วหรือว่าใหญ่โตสักแค่ไหน การสักการะนอบน้อมลงไปด้วยใจศรัทธาก็ย่อมเกิดอานิสงส์เท่ากัน มีเส่ตอชิ้นเล็กๆก็เปรียบได้กับการมีพระเจดีย์ประจำตัวของคนผู้นั้น หรือเปรียบได้กับมีองค์พระประจำตัวและมีบารมีบรมครูพ่อครูผู้ประสิทธิประศาสน์ “ยาธรรมะเจติยะ" หรือ “เส่ต่อ”คุ้มครองอภิบาลรักษาส่งเสริมทุกหนแห่ง
...........คัดมาบางส่วนจาก...หนังสือ"สิทธามหาเวทย์"( หนา 200 หน้า) โดย ทิพยจักร

บูชา 7,000 บาท

 

บูชา 2,600 บาท

 

บูชา 1,700 บาท

 

เหรียญหลวงพ่อรุ่ง วัดท่ากระบือ ปี2538

พิมพ์เล็ก

บูชา 1,500 บาท

 

ลูกอมอาจารย์แน่น วัดหนองขาว

พระครูปลัดแน่น หลวงพ่อแน่น ปุสฺโส อดีตเจ้าอาวาสวัดหนองขาว (วัดอินทาราม ) อ.ท่าม่วง จ.กาญจนบุรี เจ้าตำรับ ลูกอมผ้าห่อศพพรายท้องกลม ลูกอมอันโด่งดังหนึ่งในตำนานของจังหวัดกาญจนบุรี หลวงพ่อแน่น ได้ชื่อว่าเป็นศิษย์เอกของหลวงพ่อเปลี่ยน วัดใต้ โดยมีหลวงพ่อเปลี่ยนวัดใต้ เป็นพระอุปัชฌาย์ให้ถึง 2ครั้ง ครั้งแรกปี พ.ศ. 2474 อายุ 22 ปี ณ พัทธสีมาวัดหนองขาว โดยมีพระวิสุทธิรังษี หลวงเปลี่ยน วัดใต้ เป็นพระอุปัชฌาย์ ครั้งที่ 2 ปี พ.ศ. 2483 อายุ 31 ปี ณ พัทธสีมาวัดใต้ โดยมี พระวิสุทธิรังษี หลวงพ่อเปลี่ยน วัดใต้ เป็นพระอุปัชฌาย์ อีกเช่นกัน และได้ปวรณาตัวว่าจะอยู่ใต้ร่มกาสาวพัตร์ตลอดชีวิต(ไม่สึกตลอดชีวิต) เมื่อหลวงพ่อแน่นได้ศึกษาจนจบนักธรรมเอก ศึกษาภาษาบาลี รู้ธรรมะจนแตกฉาน หลวงพ่อเปลี่ยนได้มอบตำราให้ไว้หนึ่งเล่มท่านบอกว่าเป็นตำราโหราศาสตร์ในตำรานี้มีหลายอย่างวิชา ทั้งวิชาการสร้างพระ ทำลูกอม ทำหนังหน้าผากเสือ และอื่นๆอีกมากมายหลายอย่าง แล้วหลวงพ่อเปลี่ยนก็ได้มอบตำราให้ไว้กับหลวงพ่อแน่น หลวงพ่อแน่นท่านก็เริ่มศึกษาอย่างจริงจังติดขัดอะไรท่านก็จะไปถามหลวงพ่อเปลี่ยนเพราะหลวงพ่อแน่นจะไปเรียน นักธรรมที่วัดใต้อยู่เสมอ และเมื่อศึกษาจนรู้แจ้งถึงแก่นแท้วิชาแล้ว ต่อมาได้มีผู้หญิงตายท้องกลม หลวงพ่อแน่นจึงให้ลูกศิษย์เปลี่ยนผ้าห่อศพ โดยใช้ผ้าผืนใหม่ห่อศพไว้ แทนของเก่าและนำผ้าห่อศพผืนเก่ามาตัดเป็นสี่เหลี่ยมเป็นชิ้นเล็กๆ แล้วเขียนอักขระเลขยันต์ลงบนผ้าสี่เหลี่ยมที่ตัดไว้และนำลวดหรือทองแดงมาขึ้นโครงไว้ก่อนเป็นลูกอมมีหู แล้วนำผ้าที่ตัด สายสิญจน์มงคล ผงพุทธคุณที่ท่านได้สร้างขึ้นจากการเขียนแล้วลบ เชือกเป็นด้ายดิบ รักดำ

บูชา 5,500 บาท

 

ปิดครับ



รูปถ่ายขาวดำสองหน้า หลวงพ่อกวย หลัง หลวงพ่อตี๋(หลวงปู่ตี๋) วัดเขาเขียว จ.สุพรรณบุรี ปีพ.ศ. 2515

สภาพสวยจัด เลี่ยมเดิมจากวัด เป็นภาพถ่ายที่หลวงปู่ตี๋ วัดเขาเขียว ลูกศิษย์ หลวงพ่อกวยสร้าง แล้วได้นำเอาไปให้หลวงพ่อกวยเสก และได้ออกให้ทำบุญที่วัดเขาเขียว เมื่อปี พ.ศ.2515 เป็นรูปที่สามารถใช้แทนรูปถ่ายหลวงพ่อกวย ที่ออกวัดโฆสิตาราม จ.ชัยนาท ปี 2521 ที่ราคาตอนนี้สูงมากๆได้เลยครับ เนื่องด้วย มีประวัติการสร้างบันทึกไว้อย่างชัดเจน สร้างจำนวนน้อยเพียง ๙๙๙ แผ่นเพียงเท่านั้น นานๆจะมีออกมาให้เห็นชักใบนึงครับ ..หลวงปู่ตี๋ ฉันทธัมโม ท่านเป็นเจ้าอาวาส วัดเขาเขียวพนาราม ต.หัวเขา อ.เดิมบางนางบวช จ. สุพรรณบุรี ท่านเป็นพระเกจิ ที่ขึ้นชื่อลือชา เรื่องคงกระพันชาตรี เป็นหลัก และท่านเป็นอาจารย์ที่ มักน้อย ไม่ชอบเปิดเผยตัว ท่านมักเก็บตัวเงียบ ไม่ค่อยยุ่งเกี่ยวกับทางโลก ท่านเป็นพระที่เรียบง่าย ไม่อวดอ้าง ท่านเป็นพระ ที่ชอบธุดงค์ สักยันต์ ท่านทำกิจของสงฆ์มิได้ขาด ปราศจากเรื่องลาภยศ และยังเป็นที่พึ่งพิงของชาวบ้านในย่านตลาดท่าช้าง แต่ในเรื่องของเวทย์มนต์ คาถา รับรองได้ว่า ท่านไม่เป็นสองรองใคร ท่านเรียนเวทย์มนต์พระคาถา จากตำรา หลวงพ่ออิ่ม วัดหัวเขา ต่อมาท่านได้มาเรียน กับหลวงพ่อแขก วัดหัวเขา แล้วท่านก็มาเรียนเพิ่มเติม กับหลวงพ่อมุ่ย วัดดอนไร่ แล้วมาเรียนกับหลวงพ่อกวย วัดโฆสิตาราม ชัยนาท นอกนั้น ท่านยังได้ธุดงค์มาเจอ กับหลวงพ่อทิม แห่งวัดระหารไร่ จนต้องตามมาเรียนกับหลวงพ่อทิมอีก 1 พรรษา หลังจากนั้นท่านได้มาเรียนกับหลวงพ่อจวน วัดไก่เตี้ย และ หลวงปู่บุดดา ถาวโร วัดกลางชูศรีเจริญสุข และ หลวงพ่อเย็น วัดสระเปรียญ นอกนั้นท่านได้ยังไปขอจดตำรา จากพระอาจารย์นำ วัดดอนศาลา และ หลวงพ่อครื้น วัดสังโฆ ที่เกจิทุกท่านนี้ ล้วนไปเรียนมาจาก หลวงพ่ออิ่ม ทั้งหมดทั้งสิ้น หลวงปู่ตี๋ จึงได้รับฉายา พระจี้กงแห่งเมื่องสุพรรณบุรี เป็นเทพเจ้าแห่งตำรา จอมคาถาวัดเขาเขียว หนึ่งเดียวแห่งเมืองสุพรรณ ที่กล้าฟันกันจะๆ เวลารับพระทุกรุ่น ของหลวงปู่ หรือ บางท่านเรียกฉายาท่านว่า เถรอุปคุต (ทั้งเหนียวและผีกลัวตะบะมหาอำนาจสุดยอด และท่านชอบเก็บตัวเหมือนพระอุปคุตเถระ ) หรือบางท่านก็ให้ฉายาท่านว่า เสือซ่อนเล็บ คือมีดี ไม่อวดอ้างใคร เรียกอีกในๆหนึ่งว่า ของจริงนิ่งเป็นใบ้ ของพูดได้ เป็นของไม่จริง ดังนั้น หลวงปู่ตี๋ ท่านเป็นพระเก็บตัว ชอบอยู่เงียบๆ ..เรื่องราวของหลวงปู่ตี๋ วัดท่ามะกรูด (1.)พระอุปัชฌาย์ของท่านคือหลวงพ่อแขก วัดหัวเขา (หลวงพ่อแขกเป็นลูกศิษย์หลวงพ่ออิ่ม รุ่นใกล้กับหลวงพ่อมุ่ย วัดดอนไร่) ซึ่งหลวงปู่ตี๋ ได้เรียนวิชากับหลวงพ่อแขกและหลวงพ่อมุ่ย ด้วยครับ (2.)พ่อท่านเป็นช่างไม้ สร้างยอดมณฑปที่วัดหัวเขาสมัยปลายอายุหลวงพ่ออิ่ม แต่แม่ท่านเสี่ยตั้งแต่ท่านยังเล็ก พ่อท่านจึ้งต้องนำท่านไปเลี้ยงที่วัดหัวเขาตอนสร้างมณฑป หลวงพ่ออิ่มจึงเมตตาเลี้ยงท่านตั้งแต่ท่านยังเล็ก และมอบตำราให้ท่านเพราะทราบว่าท่านจะต้องบวชไม่สึก (3.)ท่านไปเรียนวิชากับหลวงพ่อมุ่ย วัดดอนไร่ตั้งแต่ปี 2497 – 2505 (4.)เรียนวิชากับหลวงปู่เย็น วิชาย่นระยะทาง กำบัง (5.)กับหลวงพ่อกวยเรียนวิชา ปลัดขิก ตะกรุด หนุมาน ซึ่งท่านมาเรียนกับหลวงพ่อกวยหลายครั้งและหลวงพ่อกวยจะจูงมือหลวงปู่ตี๋ เข้าไปเรียนวิชาในห้องตัวต่อตัวเสมอ (6.)หลวงปู่บุดดา ได้วิชาแป้งเสก (7.)เรียนกับหลวงปู่ทิม วัดละหารไร่ จ.ระยอง ๑ พรรษา ได้วิชาทำกุมารทอง เสกผงและเสกพระ (8.)หลวงปู่ตี๋ มักปลุกเสกวัตถุมงคลในบาตรพระและวัตถุมงคลนั้นมักจะวิ่งและส่งเสียงดังเสมอ (9.)ท่านถูกทำร้ายหลายครั้งที่วัดเขาเขียว เช่นโดนมีดฟันศรีษะ เมื่อลูกศิษย์ถามว่าหลวงพ่อไม่กลัวหรือ ท่านพูดติดตลกว่ากลัวมีดของมันจะบิ่นมากกว่า (10.)เหรียญรุ่นแรกของท่านออกที่วัดกระเสียว หลวงพ่อมุ่ย วัดดอนไร่เสกเป็นองค์แรกและหลวงพ่อกวย เสกเป็นองค์ที่สอง หลังจากนั้นท่านนำกลับมาเสกเองอีกหลายไตรมาส (มีจำนวน หนึ่งหมื่นเหรียญ) ..จากที่กล่าวมาข้างต้น หากสมาชิกท่านใด ได้พบเจอไม่ควรปล่อยให้หลุดมือนะครับ ของดีแบบนี้ เหมาะแก่การอาราธนาใช้คุ้มครองตัวเองและบุคคลอันเป็นที่รักของเราเป็นอย่างสูงนะครับ แต่ปัจจุบัน ของปลอมของเลียนแบบ มีเยอะมาก ต้องศึกษา และพิจารณาให้ดี

รูปสภาพนี้ เมื่อก่อนต้องมีหมื่นขึ้นครับ

 

ตะกรุดหนังเสือ หลวงพ่อตาบ วัดมะขามเรียง

สภาพไม่ผ่านการใช้บูชามาเลย ถักเชือกหุ้มใว้อย่างดี รับประกัน

บูชา 4,500 บาท​

 

ปิดครับ



พระสมเด็จอินโดจีน พระปลัดสุพจน์ วัดสุทัศน์ ปี2485

พิมพ์ไกเซอร์ หลังยันต์พุฒซ้อน เนื้อผสมผงเก่าสมเด็จวัดระฆัง,ผงบางขุนพรหม ปลุกเสกพิธีอินโดจีน ปี2485 และพิธีวัดประสาท ปี2506 พร้อมใบฟรอยเดิมๆ รับประกัน