ประเทศไทยจะเกิดอุบัติภัยอย่างที่ทำนายกันจริงๆหรือไม่

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย koymoo, 25 มกราคม 2005.

  1. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,194
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD>ประสบการณ์ลี้ลับ: สัมผัสเรื่องลี้ลับของ "คนตาทิพย์"</TD></TR><TR><TD>โดย สายทิพย์

    [​IMG]
    อ.อาชวิน จีรจินดา(ตาที่สาม)
    </TD></TR></TBODY></TABLE>
    ตอนที่ 1

    ตลอดช่วงชีวิตของคน บางคนกว่าจะรู้ค่าลึกซึ้งของคำว่า “วาง” และได้ก้าวย่างไปในแดนแห่งพุทธธรรม บางครั้งก็อาจจะสายเกินไป แต่ยังดีกว่าบางคน ที่ทั้งชีวิตไม่เคยรู้จักความพอดี และความสงบ เดินหาทางสายกลางที่พระพุทธองค์ทรงตรัสไม่พบ เพราะมัวพาตัวเองหลงอยู่ในวังวนของ “กิเลสตัณหา” เมื่อเป็นเช่นนี้ทุกชาติไปหนทางหลุดพ้นของผู้นั้นคงไม่มาถึง

    [​IMG] ผู้เขียนได้พบ “นักปฏิบัติและผู้ฝึกพลังจิตบำบัด” ในด้านของ “พลังจักรวาล” ท่านหนึ่งที่อยากจะแนะนำให้รู้จักท่านผู้นั้นคือ “อ.อาชวิน จิรจินดา” อดีตวิศวกรไฟฟ้า ผู้ผันตัวเองหลังจากเกษียณจากงาน ด้วยการหันมาสนใจการปฏิบัติธรรม และฝึกสมาธิบำบัดด้วยพลังจักรวาล โดยใช้เวลาศึกษาและปฏิบัติไม่นาน ปัจจุบันท่านกลับกลายเป็นผู้เชี่ยวชาญทางด้านพลังจิตคนหนึ่งของเมืองไทย

    อ.อาชวิน จิรจินดา เป็นหนึ่งในผู้ที่มีสัมผัสพิเศษที่แม่นยำท่านหนึ่งที่ผู้เขียนได้รู้จัก ท่านสามารถใช้ตาในของท่านตรวจดู จนรู้ในสิ่งที่คนธรรมดาไม่รู้ และเห็นในมิติต่าง ๆ ทั้งอดีตปัจจุบันและอนาคต “ตาใน” ที่ว่านี้อาจเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า “ตาที่สาม” เป็นตาที่สามของมนุษย์ซึ่งอยู่ตรงกลางหน้าผากระหว่างคิ้ว 2 ข้าง และมนุษย์จะมีดวงตาเช่นนี้ทุกคน บุคคลใดปฏิบัติดีมีสมาธิจำดีตาที่สามจะเปิด ทำให้มองเห็นมิติมหัศจรรย์ สิ่งแปลก ๆ อาทิ วิญญาณ อดีตกาล และอนาคตที่ยังมาไม่ถึง ซึ่งสิ่งเหล่านี้เป็น “อภิญญา” ที่เรียกว่า “ทิพพจักขุ” หรือมี “ตาทิพย์”

    อ.อาชวินได้เริ่มต้นการฝึกสมาธิ และศึกษาด้านพลังจักรวาลโดยใช้เวลาเพียงไม่กี่ปี แต่สามารถนำ “พลังสมาธิ” จากการฝึกเหล่านี้มาใช้ประโยชน์ ทั้งต่อตัวเองและผู้อื่นได้อย่างรวดเร็ว ทั้งที่แต่ก่อนไม่เคยสนใจและไม่เคยรู้จักเรื่องของ “พลังจิต” ใด ๆ ทั้งสิ้น แต่เมื่อมาลองสัมผัส และฝึกปฏิบัติดูกลับทำได้ดีราวกับเคยปฏิบัติมานาน นั่นอาจจะเป็นเพราะท่านมี “ของเก่า” คือ บารมีทางด้านนี้ที่สะสมมาแต่อดีตชาติ อ.อาชวินได้เล่าประสบการณ์ของการฝึกจิตให้ฟังว่า

    “ตอนเป็นเด็กอาจารย์อยู่โรงเรียนฝรั่งไม่เคยเข้าวัดไทย สวดมนต์ก็ไม่เป็นทั้ง ๆ ที่เป็นคนพุทธ ตอนเช้าพอเข้าโรงเรียนก็สวดมนต์แบบคริสต์ จนจบออกมาก็ทำงานที่การไฟฟ้ายันฮี กระทั่งถึงกลางปี 2543 เพื่อนภรรยาเขาแม่ป่วยหนักเป็นโรคร้ายแรง เขาก็ไปเรียน “พลังจักรวาล” เพื่อมารักษาแม่ คนที่เรียนพลังจักรวาลก็คือ ต้องนั่งสมาธิและฝึกเชิญพลังลง ซึ่งแฟนอาจารย์ก็ไปเรียนด้วย

    ทีนี้เขาก็ให้อาจารย์ขับรถไปรับไปส่ง อาจารย์ก็เลยไปนั่งฟังด้วย พอฟังก็มาลองทำตาม ก็เอ๊ะ!... มันแปลก ๆ ดี ตัวเองก็ไม่รู้ว่ามีพลัง จู่ ๆ พอมองคนก็อุ้ย! ทำไมตัวมันเรืองแสง เห็นสีเห็นแสง แล้วเมื่อมองเพ่งมาก ๆ เข้าก็ชักอยากจะดูข้างใน หัวใจเป็นยังไง ก็เห็นตับไตไส้พุงหมดเลย คือ แค่จิตนึกจะรู้ก็เห็นหมดเลย แล้วพอมอง ๆ ไปอย่างคนมีองค์ในก็เห็น บางคนเขามีเทวดาคุ้มครอง ร่างจะซ้อนกัน

    และ “จิต” คนเรานี่นะถ้ารวมกันเป็นหนึ่งได้ พลังจิตมหาศาลเลย และ “จิต” นิ่งเมื่อไหร่ “ตาใน” ก็จะเปิด ทีนี้ถ้าจะทำให้ได้คือหนึ่ง ต้องทำสมาธิให้เป็นซึ่งถ้านั่งแล้วจิตรวมเป็นหนึ่งได้ “อภิญญา” มาหมดเลย ทำอะไรก็ได้ในสิ่งที่ถูกต้องมองอะไรก็เห็น แค่มองหน้าคนเขาคิดอะไรเราจะรู้ทุกอย่าง แต่ระยะเวลาในการฝึกของแต่ละคนมันจะไม่เท่ากัน บางคนมีสะสมไว้แล้วจากชาติเก่ามันก็เร็ว เขาเรียกว่า บารมีจากชาติเก่าตามกลับมา เพราะฉะนั้นคนที่มีอยู่แล้วจะเร็วและดีขึ้นเรื่อย ๆ”

    ประสบการณ์แปลก ๆ หลังจากการฝึกพลังสมาธิได้ใหม่ๆนั้น อ.อาชวินได้เขียนลงในหนังสือ “ตาที่สาม” โดยเป็นการเรียนบอกเล่าถึง “ตาที่สาม” ที่มองเห็นและสัมผัสกับสิ่งลี้ลับในภพภูมิต่าง ๆ ซึ่งเรื่องราวมหัศจรรย์ต่าง ๆ จะเป็นอย่างไร ผู้เขียนจะถ่ายทอดมาให้ได้อ่านกันแต่ย่อ ๆ

    [​IMG] ประสบการณ์การหัดนั่งทำสมาธิในระยะแรก ๆ ของอ.อาชวิน ท่านเล่าไว้ในหนังสือ “ตาที่สาม” ว่าหลังจากหัดนั่งได้ 4-5 วัน ก็เริ่มรู้สึกเหมือนตัวเองกลายเป็นแม่เหล็กเหนี่ยวนำไฟฟ้า เวลาถูกเนื้อต้องตัวคนอื่นก็เหมือนกับมีไฟดูด ยิ่งทำสมาธิไปนานๆก็ยิ่งรู้สึกว่า มีพลังไฟฟ้าในตัวเพิ่มขึ้น เวลาเข้าใกล้ทีวีภาพจะล้ม อยู่ใกล้คอมพิวเตอร์ก็ทำงานไม่ได้ เมื่อปฏิบัติอีกก็พบว่า เวลาหลับตาลงรู้สึกเหมือนบนหน้าผากมีจอทีวีขาวดำ แล้วต่อมาก็มีภาพปรากฏบนจอ

    เป็นภาพที่ประหลาดมหัศจรรย์มากมาย ซึ่งเหมือนเป็นนิมิตที่ซ่อนความหมายบางอย่าง เช่น เห็นภาพดอกบัวถวายพระนับพันดอกเรียงรายอยู่ในถาดขนาดยักษ์ สวยงามมาก วันต่อมาเมื่อปฏิบิตอีกก็เห็นอีก คราวนี้เป็นภาพดอกบัวนับล้าน ๆ ดอกอยู่ในถาดขนาดมหึมาหมุนไปช้า ๆ ตามเข็มนาฬิกา มีแสงสว่างสีชมพูสาดส่องลงมาทำให้บนถาดนั้นสว่างไสว

    แล้วยังมีเหตุการณ์ที่แปลก ซึ่งเป็นประสบการณ์ทางจิตของอ.อาชวิน เมื่อเริ่มฝึกจิตใหม่ ๆ อาจารย์เล่าไว้หนังสือตาที่สาม เกี่ยวกับการมองเห็นแสงมหัศจรรย์ในกายมนุษย์ด้วยตาที่สามว่า มีอยู่วันหนึ่ง อาจารย์ไปคอยใส่บาตรพระที่วัดเชิงกระบือ อยู่ที่อ.บางกรวย จ.นนทบุรี ซึ่งเป็นวัดใกล้บ้าน ที่นั่นจะมีแม่ค้าอายุราว 50-60 ปี อยู่คนหนึ่งเป็นคนขายอาหารใส่บาตรพระโดยจัดเป็นชุด ๆ ซึ่งป้าคนนี้แกทำอาหารขายอยู่ที่นี่มานาน วันนั้นก็พอดีมีคนรู้จักกับป้า ผ่านมาทักทายว่า “ขายอาหารให้คนใส่บาตรมานานแล้วคงได้บุญมาก” ป้าก็ตอบว่า “ขอให้ได้เป็นอย่างนั้นเถิดสาธุ”

    เมื่ออ.อาชวินได้ฟังก็สนใจจึงลองใช้ตาที่สามเพ่งมองดูป้าคนนั้น ปรากฏว่า เห็นแสงของกายทิพย์ที่ออกจากตัวแก เป็นเส้นสีทองเรืองสว่างรอบขอบผิวหนังหนาประมาณ 1 เซนติเมตร ซึ่งหมายถึง การเป็นผู้ยินดีที่จะช่วยผู้อื่นเสมอ พอมองจ้องนาน ๆ เข้า ป้าคนนั้นก็สะดุ้งเหมือนถูกไฟช็อต หันมามองอาจารย์ซึ่งยืนอยู่บริเวณนั้นคนเดียว แกถามว่า

    “คุณมองป้าหรือ รู้สึกเหมือนมีอะไรมาสะกิด ตาคุณนี่แรงจัง” ปรากฏการณ์ดังกล่าวอ.อาชวินได้มาวิเคราะห์ในแง่วิทยาศาสตร์ได้ความว่า ตัวป้าคนนั้นแกคงมีประจุไฟฟ้าอยู่รอบ ๆ ตัว เพราะแกคงปฏิบัติสมาธิจึงมีพลังไฟฟ้า พออ.อาชวินส่งพลังไฟฟ้าออกไปด้วยสายตา ไฟฟ้าต่างประจุเมื่อมาพบกันก็เลยต้องช็อตกัน

    [​IMG]

    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD>ประสบการณ์ลี้ลับ: สัมผัสเรื่องลี้ลับของ "คนตาทิพย์"</TD></TR><TR><TD>โดย สายทิพย์</TD></TR></TBODY></TABLE>

    ตอนที่ ๒
    [​IMG] “อภิญญา” ตาที่สามของ อ.อาชวินนั้นนอกจากจะสามารถมองเห็นออร่า หรือ “แสงกายทิพย์” ในตัวมนุษย์ ที่มีมากมายหลายสีแล้ว เวลาไปตามสถานที่เก่าแก่ หรือโบราณสถาน เช่น วัดและวังโบราณต่างๆ อาจารย์ก็มักจะมองทะลุมิติเห็นไปถึงวิญญาณและทรัพย์สมบัติต่างๆที่ถูกซุกซ่อนไว้ และบางครั้งเมื่อไปเยือนวัดต่าง ๆ เพียงแค่เห็นหน้าสมภารเจ้าวัดบางวัด อาจารย์ก็รู้แล้วว่าแต่ละรูปเป็นใครมาเกิด และทำไมต้องมาอยู่ที่สถานที่แห่งนี้ ซึ่งอาจารย์อาชวินได้เล่าให้ฟังว่า

    “อาจารย์ชอบไปวัดเก่า ๆ พอไปถึงปั๊บก็จะเห็นมิติอีกแบบหนึ่งที่สัมผัสได้ อย่างเวลาไปอยุธยานะ อาจารย์มองเจ้าอาวาสแต่ละรูป เออ! พม่ากลับมาเกิดทั้งนั้นเลย เขาทำลายวัดไทยก็ต้องกลับมาเกิด และบวชชดใช้เพื่อสร้างวัด วัดใหญ่ ๆ ดัง ๆ หลวงพ่อทั้งหลายคือพม่าเก่าที่เคยยิ่งใหญ่กลับมาบวชทั้งนั้น เป็นการชดใช้กรรมอย่างหนึ่ง อาจารย์ก็มีเพื่อนอยู่คนนึง เป็นนักเขียนเรื่องพลังจิต เขาเก่งทางสมาธิมาก เจอหน้าเขาครั้งแรกรู้สึกเลย ‘ชาติก่อน เรารบกันนะ คุณฟันผมตกน้ำตายนะ’ เขาก็รู้ เขาขอโทษในบาปกรรมเมื่อชาติที่แล้วของเขา เกิดมาชาตินี้เขาเลยต้องมาสร้างวัด ตอนนี้ก็ไปสร้างสวนป่า ไปช่วยชาวบ้าน”

    “หรืออย่างไปที่วัดมงคลบพิตรเจออะไรบ้าง ที่นั่นมีทรัพย์สมบัติซ่อนอยู่ตามใต้ประตู แต่ที่น่ากลัวคือข้างๆ พระราชวังคือ ‘พระที่นั่งศรีสรรเพชญ์’ พระเจ้าแผ่นดินองค์ที่สร้างยังอยู่เลยยังไม่ยอมไปเกิด เพราะท่านห่วงวังท่าน แล้วเดินไปเนี่ยวิญญาณลอยเป็นร้อยดวงเลย ทหารไทยถูกฆ่าตายเยอะ ที่นั่นแรงมาก ตามบริเวณประวัติศาสตร์วิญญาณไม่ยอมไปเกิดก็เพราะเขาห่วงของเขา ถ้าจะไปเกิดต้องวางหมด ละวางทุกอย่างไม่ให้ยึดติด”

    เกี่ยวกับ “มิติวิญญาณ” ภายในบริเวณวัดมงคลบพิตร ที่ อ.อาชวิน ใช้ตาที่สามสำรวจดูนั้น มีรายละเอียดอยู่ในหนังสือตาที่สาม ที่ผู้เขียนจะเล่าให้ฟังอย่างย่อๆว่า ที่นั่นมีไหและหีบสมบัติโบราณฝังซ่อนไว้ใต้ซากสิ่งก่อสร้างโบราณด้านหน้าโบสถ์ ห่างออกไปประมาณ 100 เมตร และเมื่ออาจารย์เดินเข้าไปภายในเขตพระราชวังโบราณ และพระที่นั่งศรีสรรเพชญ์ เดินเข้าไปทางด้านหลังซึ่งเป็นอดีตท้องพระโรงขนาดใหญ่ อ.อาชวินได้หลับตากำหนดจิตเพื่อดูว่ามีใครอยู่ที่นั่นหรือไม่

    ก็ปรากฏเป็นร่างสีฟ้าอมเทาของ “บุรุษโบราณ” ร่างสูงใหญ่ นุ่งโจงกระเบนสั้น ใส่สร้อยสังวาลย์ไขว้ ไม่ใส่เสื้อ บนศีรษะมีมงกุฎสูง ยืนนิ่งๆอยู่บนพื้นยก สีหน้าไม่มีความรู้สึกใด ๆ จิตจึงถามว่า “เป็นผู้ใด” ได้รับคำตอบกลับมาทางจิตว่า “เราคือบรมไตรโลกนาถ” เมื่อได้รับคำตอบ อ.อาชวินก็ไม่คิดจะถามอะไรต่อ เพราะเข้าใจในความรู้สึกของพระองค์ถึงการล่มสลายของกรุงศรีอยุธยา

    จากนั้นได้ถวายบังคมลา และเดินออกจากท้องพระโรงไปทางขวา จะมีประตูเชื่อมต่อระหว่างพระที่นั่งศรีสรรเพชญ์กับพระราชวังโบราณ ด้านนอกนั้นเป็นที่โล่งกว้าง อาจารย์อาชวินลองหลับตามองดูด้วยตาที่สามก็พบว่า “มีดวงวิญญาณที่สว่างเหมือนเปลวเทียนลอยไปมาเหมือนคนเดินอยู่เต็มไปหมด คาดว่าเกิน 200 ดวง เป็นดวงวิญญาณที่ถูกฆ่าในสมัยกรุงแตก และยังไม่ไปผุดไปเกิด”

    [​IMG] ภาพของมิติวิญญาณจากตาที่สามภายในพระราชวังโบราณยังไม่หมดเท่านี้ เพราะเมื่อ อ.อาชวินเดินกลับต้องผ่านประตูแคบๆที่หักเหไปมาเหมือนประตูกล อาจารย์ต้องหยุดยืนนิ่งอีกครั้ง เพราะปรากฏร่างของอมนุษย์ตนหนึ่งยืนขวางประตูอยู่ "เป็นร่างของชายกำยำ นุ่งหยักรั้งยืนเฉย ๆ ร่างกายขะมุกขะมอมเหมือนถูกไฟไหม้ทั่วตัว ซึ่งมองเห็นจนเกือบดำ เมื่อกำหนดจิตรู้ก็ได้คำตอบกลับมาว่า ถูกฆ่าและถูกฝังร่างอยู่ข้างใต้ เพื่อให้เป็นวิญญาณเฝ้าประตู ตามร่างกายมีร่องรอยการเผา อ.อาชวินให้ความเห็นว่า ในสมัยก่อนการฆ่าคนให้เป็นวิญญาณเฝ้าประตู เขาคงไม่ได้ฝังเฉย ๆ แต่คงมีการเผาทั้งเป็นเพื่อให้เฮี้ยน และเมื่อ อ.อาชวินได้แผ่กุศลไปให้ ร่างนั้นจึงค่อย ๆ จางหายไป

    ผู้เฒ่าผู้แก่สมัยก่อนเขาจึงเตือนไว้นักหนาว่า ถ้าเข้าไปในสถานที่เก่าแก่ โบราณเช่นนี้ ห้ามทำกิริยาไม่งามเด็ดขาด ถ้าขืนไปลบหลู่ไม่เคารพสถานที่ อาจจะต้องเจอเหตุการณ์แปลก ๆ ที่หาคำตอบไม่ได้จากดวงวิญญาณซึ่งเฝ้าสถานที่อยู่ก็เป็นได้ และจาก “อภิญญาตาที่สาม” ที่ทำให้ อ.อาชวินกลายเป็น “คนตาทิพย์” นี้ อาจารย์ยังได้เล่าถึง “บารมีพระพุทธเจ้าหลวง” สมเด็จพระปิยมหาราช รัชกาลที่ 5 ซึ่งอาจารย์เคยเปิดตาที่สามขอดูโลกต่างมิติที่บริเวณลานพระบรมรูปทรงม้า และได้พบภาพมหัศจรรย์ของพระองค์ท่าน นั่นก็คือ เมื่อจิตเป็นสมาธิ อาจารย์ก็ได้ยินเสียงนกหวีดแว่วมาเบา ๆ และมองเห็นทหารม้าองครักษ์ในรูปสีม่วงทองราง ๆ จำนวนหนึ่งเรียงเป็นแถว ค่อย ๆ ขยับเคลื่อนมาชิดอนุสาวรีย์พระบรมรูปทรงม้า ทันใดนั้น “สมเด็จพระปิยะมหาราช” พร้อมกับม้าทรงที่ยืนอยู่บนแท่นสูงก็เริ่มแยกออกเป็น 2 ร่างซ้อนกัน แล้วกระโจนทะยานลอยลงมาช้า ๆ ขบวนม้าที่รออยู่ก็มีสัญญาณให้เริ่มขบวนออกเดิน

    ภาพที่ อ.อาชวินได้เห็นคือภาพขบวนเสด็จเคลื่อนไปตามถนนราชดำเนิน ซ้อนไปกับถนนปัจจุบันที่มีรถยนต์วิ่งกันอยู่ขวักไขว่ จิตอาจารย์บอกว่า ขณะนี้พระองค์กำลังทรงขบวนม้าตรวจเมืองเหมือนเช่นในอดีต ถึงแม้พระองค์จะสิ้นพระชนม์ไปนานแล้ว แต่ดวงพระวิญญาณก็ยังทรงห่วงใยประชาชนและบ้านเมืองไม่รู้คลาย

    [​IMG] เรื่องสุดท้ายที่จะเล่าให้ฟัง ซึ่งย่นย่อมาจากหนังสือ “ตาที่สาม” ของอาจารย์อาชวินคือเรื่องเกี่ยวกับมนุษย์ต่างดาว ความจริงรายละเอียดของแต่ละเหตุการณ์ที่นำมาเล่านั้น ยังมีสาระสำคัญที่น่าสนใจอีกมากมาย แต่ถ้ายกมาหมดเกรงว่าจะไม่พอกับหน้ากระดาษ ถ้าใครสนใจคงต้องไปซื้อหนังสืออ่านกันเอง

    อ.อาชวินเคยใช้พลังสมาธิจิตติดต่อกับมนุษย์ต่างดาว พบว่าในเมืองไทยและทั่วโลก เคยมีมนุษย์ต่างดาวจากโลกอื่นมาเยือนบ่อยครั้ง มนุษย์ต่างดาวเหล่านี้มาจากหลายแห่ง ส่วนใหญ่มาเพื่อติดต่อกับมนุษย์บนโลก ให้ผู้คนบนโลกนี้ปฏิบัติต่อกันอย่างมีคุณธรรม อย่ารุกรานและมีสงคราม เพราะยิ่งนานไปอาวุธจะทำลายกันเอง ซึ่งเป็นการฆ่าตัวตายทั้งทางตรงและทางอ้อม ถ้าโลกนี้เสียหายไป จะให้ความสมดุลของจักรวาลทั้งระบบเสียศูนย์ ซึ่งเป็นอันตรายอย่างยิ่งต่อจักรวาลรวม

    มนุษย์ต่างดาวที่มาจากดวงดาวคนละระบบจะมีรูปร่างลักษณะแตกต่างกัน ซึ่ง อ.อาชวินเคยดูออร่าของพวกเขาและพบว่ามีออร่าสีเทาเงินหรือสีบรอนซ์ ซึ่งเป็นรูปแบบของเทพหรือสิ่งที่มีพลังจิตสูง และมีพลังแรงแบบพลังหมุน หากมนุษย์ต่างดาวลงมาอยู่บนโลก เมื่อเขาปล่อยพลังเต็มที่ มนุษย์ที่อยู่ภายในรัศมี 15 เมตร จะทนไม่ได้ และจะมีอาการเหมือนถูกเหวี่ยง แล้วตัวคน ๆ นั้นจะถูกหมุนปั่นเป็นลูกข่างอยู่ตรงนั้น สำหรับสีออร่าของมนุษย์ต่างดาวนั้น อาจารย์เคยตรวจพบในมนุษย์ธรรมดาบนโลก ซึ่งเมื่อค้นข้อมูลและสอบถามแนวคิด รวมทั้งประสบการณ์แปลกๆที่เขาพบ จึงสรุปได้ว่า ในปัจจุบันมีหลายคนที่เป็นจิตหรือกายทิพย์ของมนุษย์ต่างดาวลงมาเกิดเป็นมนุษย์ ซึ่งพวกนี้จะมีลักษณะพิเศษทั้งรูปร่างหน้าตา ตลอดจนอุปนิสัย

    คัดลอกมาจาก นิตยสารหญิงไทยฉบับที่ 727 ปีที่ 31 ปักษ์หลัง เดือนมกราคม พ.ศ. 2549
    http://www.yingthai-mag.com/content_test.asp<!-- google_ad_section_end -->
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 11 มิถุนายน 2009
  2. สันโดษ

    สันโดษ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    9,940
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +16,870
    <TABLE class=tborder id=post2170620 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR><TD class=thead style="BORDER-RIGHT: #ffffff 0px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid">เมื่อวานนี้, 09:51 PM </TD><TD class=thead style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: #ffffff 0px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid" align=right>#2098 </TD></TR><TR vAlign=top><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 0px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 0px solid" width=175><!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->The Third Eyes<!-- google_ad_section_end --><SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_2170620", true); </SCRIPT>
    สมาชิก

    [​IMG]

    วันที่สมัคร: Mar 2005
    ข้อความ: 2,273
    Groans: 0
    Groaned at 3 Times in 2 Posts
    ได้ให้อนุโมทนา: 2,339
    ได้รับอนุโมทนา 49,736 ครั้ง ใน 2,513 โพส
    พลังการให้คะแนน: 3522 [​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG]


    </TD><TD class=alt1 id=td_post_2170620 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid"><!-- google_ad_section_start -->หลังจากที่กลุ่มคนที่มีพลังจิตสูงๆๆ
    ช่วยกันยกแผ่นดินประเทศไทยให้สูงขึ้น
    เป็น จังหวัดๆๆไป จนครบ 76 จังหวัด
    เป็นการยกระดับ จิตใจ/ความเป็นสุข โดยเฉลี่ยให้สูง ขึ้น
    เท่าที่จะเป็นไปได้.
    ..............................................................
    การปฏิบัติการต่อไป คือ
    สร้างกำแพงแก้ว หนา 500 เมตร สูง 200 เมตร
    เป็นกำแพงที่ ล้อมรอบประเทศไทย จากเหนือ จรดใต้
    ตะวันตก ไป ตะวันออก โดยตัวกำแพง อยู่ด้านในของ เขตดินแดน
    เพื่อป้องกันปัญหา การลุกล้ำพื้นที่ เขตแดน
    ..............................................................
    รวมทั้งกำแพง ปิด อ่าวไทย ตั้งแต่ สุดแดน จังหวัดตราด
    ตรงลงไป สุดแดนที่ จังหวัด นราธิวาส...
    ตลอดชายฝั่งด้าน ทะเลอันดามันและหมู่เกาะ ทั้งหลายที่เป็น ของ ไทย.
    .......................................................................
    เสร็จแล้วก็ ปิด ด้วยกำแพงแก้ว หนา 100 เมตร ตลอดใต้แผ่นดินทั่วประเทศ
    เพื่อไม่ให้มีอะไร ดันโผล่ขึ้นมาบนดินได้ ทั่วประเทศไทย.
    .............................................................................
    กำแพงแก้วที่ กว้าง 500 เมตร และสูง 200 เมตร รอบประเทศ
    ก็เหมือนทำให้ แผ่นดินไทย เป็นอ่างเก็บน้ำได้ อย่างดี
    .................................................................................
    ก็กำหนดจิตให้เสมือนมีน้ำวุ้นใส ที่ มีพลังสูง สุด ของ องค์พระศรีอริยเมตไตร
    ผสมอยู่เยี่ยงน้ำมนต์...ท่วมท้น ทุกชีวิต และทุกสิ่งบรรดามี
    ให้จมอยู่ในน้ำที่มีพลังพุทธ อันเมตตาสูงสุด แห่ง พระศรีอาริย์
    เพื่อ ทุกชีวิต จะได้ ดีขึ้น มีความสุขมากขึ้น.
    คนที่คิดไม่ดี จะทำสิ่งที่ไม่ดี.ไม่ได้ตามที่เขาอยากจะทำ
    เชาจะถูกทดรอน บั่นทอน ลงไป
    ........................................................................
    เท่ากับแปลว่า เมื่อ ยกแผ่นดินไทยให้สูงขึ้นแล้ว
    ก็เอาแผ่นดิน มาเข้าตู้แช่เย็น เพื่อให้คงสภาพนั้นได้ นานที่ สุด
    ไม่ว่า จะเกิด ภัยธรรมชาติที่ ร้ายแรงเท่าใด..เราจะรอด
    ในขณะที่ประเทศเพื่อนบ้านโดยรอบ จะ ลำบาก
    .............................................................
    พลังพุทธ ที่เป็นวุ้นน้ำใส ท่วมท้น ทุกชืวิตแล้ว
    ทุกคนปลอดภัยในระดับหนึ่ง...ยกเว้นคนที่ มีกรรมหนัก ก็ต้องทนไป
    ..........................................................................
    อยากรู้ว่า มีพลังน้ำใส ท่วมตัวเรา หรือไม่
    ลองยกเอามือขึ้นสูง เหนือ ศรีษะ
    แล้วโบกไป - มา..ดูว่า มันหนืดกว่า ปกติ
    ไม่หมือนเมื่อ อาทิตย์ ที่แล้ว หรือไม่
    จิตใจเรา วาง และสบายใจขึ้นบ้างหรือไม่
    .................................................
    ลองสังเกตดู
    คนที่มีพลังจิต หรือ กำลังภายในสูง จะรู้ได้ อย่างชัดเจน
    ..............................................................
    จึงเล่ามาสู่กันฟัง
    เป็นส่วนหนึ่งของ "เรื่องเล่าก่อนอนคืนนี้ของผู้มีตาทิพย์

    </TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  3. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,194
    คำทำนายกรุงเทพฯ จากมนุษย์ต่างดาว

    [​IMG]

    moony <!-- BEGIN TEMPLATE: postbit_onlinestatus -->สมาชิก

    เมื่อวันอาทิตย์ไปนั่งที่บูธ อ.อาชวิน จิรจินดามีคนมาให้อาจารย์ตรวจดูออร่าเยอะมาก อาิทิตย์ก่อนมีมนุษย์ต่างดาวมาด้วยแหละ ตอนแรกก็ไม่รู้หรอกเห็นเขานั่งรอคิวอยู่ตั้งนาน พอดี อ.วิวัฒน์ กำลังใช้พลังรักษาเราอยู่ เขาก็มานั่งใกล้ ๆ พอเสร็จเขาก็ขอให้ อ.วิวัฒน์ รักษาเขามั่ง อาจารย์ก็รักษาให้ จนกระทั่งถึงคิวเขาพอดี

    อ.อาชวิน ก็ตรวจออร่าเขา และบอกว่าคุณเป็นมนุษย์ต่างดาว (มาจากดาวไหนไม่ทันฟัง) แอบปลอมตัวมาสืบราชการลับ เอ้ยไม่ใช่ เขาต้องการรู้จักโลกว่าโลกเราเป็นอย่างไร แต่แล้วก็ผิดหวังว่าโลกเราไม่ได้โสภาอย่างที่คิด มีแต่มนุษย์อึเหม็นทั้งนั้น 555...

    ตัวเขาเองมีปัญหาเรื่องระบบต่าง ๆ ภายในร่างกาย เนื่องจากดาวเขาไม่ต้องกินอะไรมากมากเหมือนมนุษย์ อาหารต่าง ๆ ในโลกเรา กินไม่ได้สักอย่าง ระบบการขับถ่ายก็มีปัญหา อาจารย์ก็แนะนำให้เขากินพลังแดดและให้เขาหาคริสตัลมาเป็นเครื่องประดับ เพราะพลังงานจากคริสตัลเป็นพลังงานบริสุทธิ์เหมาะกับมนุษย์ต่างดาว แต่เขาไม่ได้มาคนเดียวนะค่ะ ขนกันมาทั้งครอบครัวเลย

    อาจารย์บอกว่าในบ้านมี 6 คน เขาก็เถียงอาจารย์ว่าบ้านเขามี 8 คน อาจารย์เลยบอกว่าเด็กอย่าไปนับซิ เขาก็เลยหัวเราะ แถมบ้านทั้งหลังเขายังเอาจานบินครอบเป็นเกราะกำบังอีกต่างหาก ตามนุษย์มองไม่เห็นหรอกค่ะ อาจารย์บอกเขาแว๊บไปแว๊บมาคอยดูโลก และที่มาอยู่ก็เพื่อตั้งใจจะช่วยโลกเราให้รอดจากภัยพิบัติ อาจารย์บอกว่าโลกเราตอนนี้กำลังจะแตก(เสียสมดุล)

    พวกเขามาช่วยค้ำช่วยดันประคับประคองให้โลกอยู่รอด (ขนาดคนนอกโลกยังอุตส่าห์มาช่วยและคนบนโลกอย่างเราทำอะไรอยู่) ก่อนกลับอาจารย์ขอเบอร์โทร. สงสัยจะไปตั้งกลุ่มต่างดาวพิทักษ์โลกแน่เลยอาจารย์เรา และอาทิตย์ที่ผ่านมาก็มีมนุษย์ต่างดาวอีกแล้ว แต่คนนี้เป็นวิญญาณจากต่างดาวมาเกิดบนโลก มีปัญหาเรื่องการกินการขับถ่ายเหมือนกัน ก่อนกลับอาจารย์ให้เขาใช้จิตดูซิว่าสถานการณ์บ้านเมืองเป็นยังไง

    เขาก็บอกว่าทหารยังครองอยู่ประมาณ 7 ปี ถึงจะยอมลง กรุงเทพน้ำท่วมแน่นอน ซึ่งอาจารย์ก็บอกว่า น้ำจะท่วมกรุงเทพภายใน 3 ปี แต่จะเป็นไปอย่างช้า ๆ เนื่องจากกรุงเทพฯ พื้นดินจะทรุด ประกอบกับน้ำแข็งขั้วโลกละลาย สระบุรีจะเป็นชายทะเล ตั้งแต่โคราชขึ้นไปจะปลอดภัยจากน้ำท่วม ปัญหาเศรษฐกิจช่วงนี้แย่หน่อย จะดีปีหน้า ก็คงจะเป็นช่วงหลังเลือกตั้งไปแล้ว

    อ่านแล้วอย่าพึ่งท้อนะค่ะ สู้ สู้ สู้โว้ย ...แล้วอาทิตย์นี้ moony จะแอบย่อง ๆ ไปบูธอาจารย์อีก แล้วมีข่่าวใหม่ ๆ จะมารายงานจ้า สวัสดี

    08-30-2007, 07:49 PM

    ที่มา http://palungjitrescuedisaster.com/showthread.php?t=643
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 11 มิถุนายน 2009
  4. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,194
    คำทำนายของ อ.อาชวิน จิรจินดา กับแผนที่โลกใหม่ของ อ.ปริญญา ตันสกุล

    [​IMG]

    ข้อความของ อ.อาชวิน จิรจินดา <!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->The Third Eyes<!-- google_ad_section_end --><SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_2170620", true); </SCRIPT>

    เมื่อยกแผ่นดินไทยให้สูงขึ้นแล้ว ก็เอาแผ่นดินมาเข้าตู้แช่เย็น เพื่อให้คงสภาพนั้นได้นานที่สุด ไม่ว่าจะเกิดภัยธรรมชาติที่ร้ายแรงเท่าใด..เราจะรอด ในขณะที่ประเทศเพื่อนบ้านโดยรอบจะลำบาก

    10/06/2552 09:51 PM

    ภาพแผนที่โลกยุคใหม่ ของ อ.ปริญญา ตันสกุล บริเวณที่ทาด้วยสีแดง คือพื้นดินที่จะถูกน้ำทะเลท่วมอย่างถาวร จะเห็นได้ว่าประเทศเพื่อนบ้านเราโดยรอบ โดนน้ำทะเลท่วมไปเกือบหมด แต่ประเทศไทยโดนน้ำทะเลท่วมเพียงบางส่วนเท่านั้น

    เกษม สมาชิก
    11/05/2552 17:00 AM
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • untitled.JPG
      untitled.JPG
      ขนาดไฟล์:
      61.4 KB
      เปิดดู:
      3,494
    • untitled 2.JPG
      untitled 2.JPG
      ขนาดไฟล์:
      36.9 KB
      เปิดดู:
      151
  5. somemaybe

    somemaybe เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 เมษายน 2009
    โพสต์:
    218
    ค่าพลัง:
    +143
    ถ้าน้ำท่วมกรุงเทพฯจริง เศรษฐกิจคงแย่แน่ เดี๋ยวนี้ส่วนใหญ่ก็เชื่อมต่อกัน
    เป็นระบบมหภาคไปแล้ว
    และความวุ่นวายเรื่องคนหนีน้ำคงตามมา ถ้าการท่วมเป็นไปอย่างถาวรหน่ะ
    คงจะยิ่งไปกันใหญ่
     
  6. nondanun

    nondanun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    5,980
    กระทู้เรื่องเด่น:
    13
    ค่าพลัง:
    +32,612
    อังกฤษแก้ปัญหาทางเพศของเด็กวัยรุ่น แจกถุงยางให้เด็ก 12 ขวบ

    รัฐบาลเมืองผู้ดี ปิ๊งไอเดียกระฉูด เชื่อแก้อายที่ต้องพบปะกับคนขาย แต่ให้ไปรับ "ถุงมีชัย" ที่มีแจกตามค่ายพักแรม หวังกระตุ้นสร้างความรับผิดชอบในการคุมกำเนิด...

    รัฐบาลอังกฤษเตรียม จะออกบัตรเครดิต ให้กับเด็กชาย อายุตั้งแต่ 12 ขวบขึ้นไปทั่วประเทศ นับแต่ปลายปีนี้เป็นต้นไป เพื่อให้ไปขอเบิกถุงยางอนามัยได้ฟรี เพื่อเป็นการขจัดการมีครรภ์โดยไม่ เจตนาในหมู่เด็กวัยรุ่น และขณะเดียวกันก็เพื่อให้ เด็กผู้ชาย ได้รู้จักร่วมรับผิดชอบกับการคุมกำเนิดมากขึ้น สำนักข่าว "ไทมส์ออนไลนส์" เมืองน้ำชา รายงานข่าวว่า บัตรเครดิตนั้นสำหรับให้เด็กผู้ชายจะไปรับถุงยางอนามัยตามสถานที่สาธารณะ ต่างๆ เช่น สนามฟุตบอล ร้านตัดผม และค่ายพักแรมลูกเสือ เพราะจะได้มีการจ่ายอุปกรณ์เหล่านั้น ตามแหล่งที่เด็กผู้ชาย มักไปชุมนุมกันอยู่ โดยที่จะได้ไม่ต้องไปติดต่อกับสถานีอนามัยหรือไปประจันกับพนักงานขายตามร้าน ขายยาด้วยตนเอง หลังจากผ่านการอบรมในเรื่องสุขอนามัยทางเพศมาแล้ว เพียงแต่แสดงบัตรเท่านั้น ไม่ต้องแจ้งชื่อหรือตอบคำถามเรื่องทางเพศของตนกับใครอีก ขณะนี้ทางการบางเมืองได้เริ่มออกบัตรพลาสติกนั้นแล้ว แต่จะมีการดำเนินการแจกจ่ายให้กับเด็กชายตั้งแต่อายุ 13 ปีขึ้นไปทั่วทั้งประเทศ ในตอนปลายปีนี้.

    ที่มา ข่าวไทยรัฐออนไลน์ - อังกฤษแก้ปัญหาทางเพศของเด็กวัยรุ่น แจกถุงยางให้เด็ก 12 ขวบ

    fishh_ ทําไมเสื่อมยังงี้ - -"
     
  7. doodee1

    doodee1 คนละพวก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    458
    ค่าพลัง:
    +1,718
    วันที่ 11 มิถุนายน พ.ศ. 2552 ปีที่ 19 ฉบับที่ 6769 ข่าวสดรายวัน


    ตาลิบันบึ้มแค้นรร.หรูปากีฯตายอื้อ




    <TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=left border=0><TBODY><TR bgColor=#400040><TD>[​IMG]
    </TD></TR></TBODY></TABLE>ซีเอ็นเอ็นรายงานว่า เมื่อ 10 มิ.ย. คนร้ายก่อเหตุคาร์บอมบ์โจมตีโรงแรม 5 ดาวในนครเปชวาร์ ฝั่งตะวันตกเฉียงเหนือของปากีสถาน พบผู้เสียชีวิตเบื้องต้น 32 ราย ในจำนวนนี้เป็นเจ้าหน้าที่สหประชาชาติ 2 ราย บาดเจ็บอีก 64 คน อาคารและรถยนต์พังยับ

    เหตุเกิดขึ้นที่โรงแรมเพิร์ล คอนติเน็นทัล (พีซี) โรงแรมหรูที่มีแขกต่างชาติและนักการทูตนิยมเข้าพัก ภาพจากกล้องวงจรปิดเผยให้เห็นคนร้าย 3 คนขับรถยนต์และรถบรรทุกที่มีระเบิดขนาด 500 กิโลกรัม พุ่งเข้ามาในโรงแรม โดยเปิดฉากยิงใส่เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยบริเวณประตูทางเข้า และขับรถพุ่งเข้าไปยังชั้นล่างก่อนจุดระเบิด

    ซัจจัน กอเฮล นักวิเคราะห์ความมั่นคงกองทุนเอเชียแปซิฟิกในอังกฤษ กล่าวว่า เหตุครั้งนี้คาดว่าเป็นฝีมือตาลิบันที่ต้องการแก้แค้นทางการ ที่เดินหน้าปราบปรามอย่างหนัก ใช้เฮลิคอปเตอร์ระดมยิงไม่เลือกหน้าจนพลเรือนถูกยิงตายไปด้วย ชาวบ้านในพื้นที่จึงเริ่มเห็นใจกลุ่มตาลิบันมากขึ้น

    ฮือฮาน.ร.สาวอินเดียตัวจิ๋วสุดในโลก



    <TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=left border=0><TBODY><TR bgColor=#400040><TD>[​IMG]
    จิ๋วแจ๋ว-ชโยติ สาวน้อยร่างจิ๋วที่สุดในโลก อายุ 15 ปี กับเพื่อนๆ ร่วมชั้นในเมืองนากปุระ ประเทศอินเดีย เปิดตัวทางรายการทีวีอังกฤษเป็นที่ฮือฮา โดยให้สัมภาษณ์ว่า ภูมิใจที่เป็นเด็กสาวตัวจิ๋ว ไม่น้อยเนื้อต่ำใจแต่อย่างใด เมื่อ 10 มิ.ย. (เดลี่เมล์)

    </TD></TR></TBODY></TABLE>หนังสือพิมพ์เดลี่เมล์ รายงานวันที่ 10 มิ.ย.ว่า ชโยติ สาวน้อยร่างจิ๋วที่สุดในโลก อายุ 15 ปี ชาวอินเดีย ความสูง 33.8 เซนติเมตร หนัก 5.4 กิโลกรัม เปิดตัวในรายการทีวี ช่อง 4 ของอังกฤษ

    สาวน้อยอาศัยอยู่เมืองนากปุระ รัฐมหาราษฎะ เป็นลูกคนที่ 4 มีพี่สาว 2 คน อายุ 23 และ 18 ปี พี่ชายอายุ 22 ปี ส่วนพ่ออายุ 52 ปี แม่อายุ 45 ปี ทุกคนรูปร่างปกติ ซึ่งชโยติกล่าวว่า ภูมิใจที่เป็นเด็กสาวตัวเล็กที่สุดในโลก ไม่ได้ตกใจหรือเสียใจที่ตัวเล็ก ชอบที่คนอื่นมองด้วยความสนใจ

    ผู้เชี่ยวชาญกล่าวว่า ความเตี้ยแคระของชโยติมาจากความผิดปกติที่ร่างกายผลิตฮอร์โมนออกมาไม่เพียงพอ และจะมีรูปร่างนี้ไปตลอดชีวิต

    ชโยติได้ไปโรงเรียน โดยมีที่นั่งจัดพิเศษไว้ให้ เด็กสาวเล่าว่า ตอนไปโรงเรียนวันแรกกลัวเหมือนกัน เพราะทุกคนตัวโตกันทั้งนั้น แต่ตอนนี้ปกติแล้ว ไม่ได้รู้สึกแตกต่าง ในฐานะเป็นวัยรุ่นก็เหมือนเด็กสาวทั่วไป ชอบแต่งหน้า แต่งตัวสวยๆ ฝันไว้ว่าอนาคตจะเป็นดารา ทำงานภาพยนตร์

    คณบดีชี้ "ปู่ตา" ต้นเหตุนศ.ปี1อุปทานหมู่

    <STYLE> P { margin: 0px; } </STYLE>
    จากกรณีมหาวิทยาลัยราชภัฎเลยซ้อมเชียร์รับน้องใหม่ ทำให้นักศึกษาชั้นปีที่ 1 กว่า 70 รายเป็นลม หามส่งโรงพยาบาลกันอลหม่าน โดยรุ่นพี่ยอมรับว่าให้น้องใหม่นั่งชิดกันจนเกินไปประกอบกับอากาศร้อนอบอ้าว ตามที่เสนอเป็นข่าวไปแล้วนั้น

    เมื่อวันที่ 11 มิ.ย. นายอนุสรณ์ เอื้อประเสริฐ คณบดีคณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏ(มรภ.)เลย กล่าวว่า ตนได้ทราบเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจึงได้เดินทางไปดูแลนักศึกษาด้วยตนเองตั้งแต่ช่วงค่ำวันที่ 10 มิ.ย. ที่สนามกีฬาของสถาบัน และตามไปดูแลนักศึกษาที่โรงพยาบาลด้วย พร้อมทั้งจัดรถของมหาวิทยาลัยมาคอยรับส่งนักศึกษากลับไปยังหอพักเมื่ออาการดีขึ้น ซึ่งจนถึงเวลาประมาณ 01.00 น. สามารถทยอยส่งนักศึกษาทุกคนกลับเข้าหอพักได้ สำหรับกรณีที่เกิดขึ้นเป็นกิจกรรมที่จัดเป็นประจำทุกปี โดยรุ่นพี่แต่ละคณะจะฝึกซ้อมน้องให้ร้องเพลงเชียร์ของสถาบัน แต่ในวันดังกล่าวจะเป็นการเรียกรวมตัวของนักศึกษาปี1 จากทุกคณะจำนวนกว่า 2,500 คน มาซ้อมร้องเพลงเชียร์พร้อมกันเพื่อเข้าพิธีรับตรามหาวิทยาลัย โดยเรียกรวมกันในเวลาประมาณ 16.00 น. แต่กว่านักศึกษาทุกคนจากทุกคณะจะมาพร้อมกันได้ก็อาจจะล่าช้าไปบ้าง ทำให้นักศึกษาบางคนที่อาจไม่ได้ทานอาหารเที่ยงมาก็อาจอ่อนเพลียและอิดโรยไปบ้าง สำหรับกรณีที่ระบุว่ารุ่นพี่ฝึกหนักเสียงดังนั้น ก็เป็นธรรมดาของการฝึกซ้อมนักศึกษาจำนวนมากก็อาจจะต้องมีเสียงดังบ้าง

    “กรณีที่เกิดขึ้นเป็นเพราะนักศึกษาที่อาจจะอ่อนเพลียแล้วมาฝึกซ้อม ซึ่งในวันดังกล่าวใช้เวลานานกว่าทุกวันที่เคยซ้อมมา ประกอบกับเหตุการณ์เหลือเชื่อที่เกิดขึ้นเป็นประจำของ มรภ.เลย ที่จะมี “ปู่ตา” สิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำมหาวิทยาลัย มาประทับร่างนักศึกษาทุกปี แต่เหตุการณ์มาเกิดขึ้นในวันเดียวกับที่นักศึกษากำลังซ้อมร้องเพลงเชียร์อยู่ จึงอาจจะทำให้เด็กคนอื่นๆ กลัวไปด้วย เลยเกิดเหตุผสมโรงกันไปคล้ายกับการอุปทานหมู่” นายอนุสรณ์ กล่าว

    นายอนุสรณ์ กล่าวอีกว่า ตนเจอเหตุการณ์เหลือเชื่อเกี่ยวกับสิ่งศักดิ์มาด้วยตัวเองแล้วถึง 5 ปีซ้อน โดยในปีนี้ “ปู่ตา” ซึ่งเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำมหาวิทยาลัยได้มาประทับร่างนักศึกษาและกำหนดให้จัดพิธีเลี้ยงปี ในวันที่ 14 มิ.ย. ซึ่งเป็นพิธีไหว้ศาลเจ้าปู่ตา และศาลอื่นๆ ในสถาบัน ที่จัดเป็นประจำทุกปี แต่ทางสถาบันดูกำหนดเวลาแล้วไม่สามารถจัดงานในวันที่ “ปู่ตา” กำหนดไว้ได้ จึงเลื่อนมาเป็นวันที่ 16 มิ.ย. ทำให้ “ปู่ตา” ได้มาประทับร่างนักศึกษาคนหนึ่งในช่วงที่มีการซ้อมเชียร์อยู่ และถามว่า “ทำไมจึงเลื่อนมาจัดงานวันที่ 16 มิ.ย.” ทั้งนี้เหตุการณ์ลักษณะนี้มักจะเกิดขึ้นเป็นประจำทุกปีอยู่แล้ว ซึ่งอาจทำให้นักศึกษาคนอื่นๆ หวาดกลัวไปด้วย อย่างไรก็ตามเท่าที่ตนเคยเห็นมาปกติจะมีนักศึกษาที่เจอประมาณ 5-6 คน โดยนักศึกษาจะมีอาการเกร็ง ตัวสั่น พูดจาด้วยภาษาพื้นเมืองเลย ถ้าเป็นผู้หญิงอาจจะเป็นเสียงเหมือนผู้ชาย ถ้าเป็นนักศึกษาผู้ชายอาจจะเสียงเหมือนผู้หญิง แต่ครั้งนี้ถือว่าเยอะมากเพราะมีนักศึกษาที่เจอกว่า 50 คน

    ไอรูปกรวยท้ายบินรบ



    <TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=left border=0><TBODY><TR bgColor=#400040><TD>[​IMG]
    </TD></TR></TBODY></TABLE>ไอรูปกรวยที่เห็นอยู่ท้ายเครื่องบินรบซูเปอร์ฮอร์เน็ตของกองทัพเรือสหรัฐไม่ได้เกิดจากเทคนิคการถ่ายภาพ แต่เกิดขึ้นเมื่อเครื่องบินที่บินด้วยความเร็วสูงบินผ่านสภาพอากาศที่มีความกดดันรอบๆ เครื่องบินที่แตกต่างกันไป <TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=right border=0><TBODY><TR bgColor=#400040><TD>[​IMG]
    </TD></TR></TBODY></TABLE>

    ร้อยโทจัสติน แฮลลิแกน และร้อยโทไมเคิล วิตต์ จับเครื่องบินลำนี้ด้วยความเร็ว 570 ไมล์ต่อชั่วโมง ขณะบินแสดงในงานโจนส์บีชแอร์โชว์ ที่เมืองวัตแทก รัฐนิวยอร์ก

    นายพอล แจ๊กสัน บ.ก.นิตยสารเจนส์ออล เดอะเวิลด์แอร์คราฟต์ เปิดเผยว่า ไอทรงกรวยเกิดขึ้นจากความกดในระดับที่แตกต่างกันรอบเครื่องบิน ซึ่งเมื่อเครื่องบินบินผ่านจะทำให้ระดับความกดต่ำลงจนน้ำระเหยกลายเป็นไอ ส่วนซูเปอร์ฮอร์เน็ตนั้นสามารถบินด้วยความเร็วสูงสุดถึง 1,370 ไมล์ต่อชั่วโมง หรือสูงกว่าความเร็วเสียง 1.8 เท่า

    ญี่ปุ่นสร้างโรงงานผัก



    <TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=left border=0><TBODY><TR bgColor=#400040><TD>[​IMG]
    </TD></TR></TBODY></TABLE>นักวิทยาศาสตร์ชาวญี่ปุ่นพัฒนาวิธีใหม่ในการปลูกผัก ซึ่งอาจเป็นวิธีการปลูกพืชการเกษตรในอนาคต ใน "โรงงานผัก" ของบริษัทโอสุ มีการควบคุมสิ่งแวดล้อมทุกๆ อย่าง เช่น แสง น้ำ ความชื้น อุณหภูมิ ไม่ใช้ดิน ไร้แมลง ไม่มีอากาศจากภายนอกเล็ดลอดเข้ามา แม้แต่ระดับคาร์บอนไดออกไซด์

    ผู้ที่ทำงานอยู่ใน "โรงงานผัก" ต้องใส่ถุงมือ หน้ากาก เสื้อผ้าพิเศษที่ใส่ดูแล้วเหมือนกับเป็นนักวิทยาศาสตร์ในห้องทดลองมากกว่าเป็นคนงาน ทั้งยังมีการรักษาความสะอาดเป็นอย่างยิ่ง

    เมื่อวิธีปลูกไม่ธรรมดา ราคาก็ต้องไม่ธรรมดาตามไปด้วย ผู้ที่ซื้อส่วนมากเป็นผู้มีฐานะดี เนื่องจากไม่มีการใช้ปุ๋ย สารเคมี ยาฆ่าแมลง และอยู่ในที่สะอาด บรรดาผักจึงนำมากินได้เลยโดยไม่ต้องล้าง

    "โรงงานผัก" มีแสงส่องสว่างตลอด 24 ชั่วโมง ผักจึงเติบโตได้อย่างรวดเร็ว อย่างผักกาดหอมสามารถเวียนปลูกได้ 20 ครั้งต่อปี การสร้าง "โรงงานผัก" ยังมีแนวโน้มมากขึ้น เพราะรัฐบาลสนับสนุนการปลูกพืชโดยไม่ใช้สารเคมี ทั้งยังไม่เปลืองเนื้อที่เพาะปลูก ควบคุมค่าใช้จ่ายได้ง่าย ที่เหนืออื่นใดคือปลอดภัยต่อผู้บริโภค
    กำจัดยุงด้วยแบคทีเรีย

    หมุนก่อนโลก



    <TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=left border=0><TBODY><TR bgColor=#400040><TD>[​IMG]
    </TD></TR></TBODY></TABLE>ดร.คุณหญิงกัลยา โสภณพนิช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี นำสื่อมวลชนลงพื้นที่บริเวณเสี่ยงที่จะเป็นแหล่งเพาะพันธุ์ยุงลายพาหะนำโรคไข้เลือดออก เพื่อสาธิตเทคโนโลยีกำจัดยุงลายด้วย "แบคทีเรียบีทีไอ" ที่ปกติพบได้ในดินธรรมชาติทั่วไปและเป็นศัตรูธรรมชาติของลูกน้ำยุงลาย โดยแบคทีเรียดังกล่าวสามารถสร้างโปรตีนผลึกที่ทำลายกระเพาะอาหารของลูกน้ำยุง ทำให้อดอาหารและตายไปในที่สุด ทั้งยังได้รับการรับรองจากองค์การอนามัยโลกว่ามีความปลอดภัยสูง ทำลายเฉพาะลูกน้ำยุงลาย ไม่มีผลต่อแมลงชนิดอื่นที่เป็นประโยชน์ต่อสิ่งแวดล้อม

    ขนาดการใช้งานแบคทีเรียบีทีไอจำนวน 20 กรัมต่อน้ำ 200 ลิตร หรือ 1 โอ่งใหญ่ สามารถออกฤทธิ์ฆ่าลูกน้ำยุงได้ภายใน 24 ชั่วโมง และมีประสิทธิภาพควบคุมลูกน้ำยุงลายได้นานถึง 12 สัปดาห์

    ดร.คุณหญิงกัลยา กล่าวว่า เรามีความจำเป็นที่จะต้องทำการควบคุมลูกน้ำยุงลายโดยวิธีการที่มีประสิทธิภาพ เหมาะสม สะดวกต่อการใช้ และเป็นที่ยอมรับของประชาชน จึงได้ทำการวิจัยพัฒนาเทคโนโลยีการผลิตชีวินทรีย์ควบคุมลูกน้ำยุงพาหะนำโรค โดยการใช้จุลินทรีย์ชนิด บีทีไอ ซึ่งเป็นแบคทีเรียที่มีชื่อว่า "บาซิลัสธูรินจิ เอ็นซิส อิสราเอลเอ็นซิส" เป็นแบคทีเรียที่พบได้ในธรรมชาติทั่วไปและเป็นศัตรูธรรมชาติของลูกน้ำยุงลาย เพราะสร้างโปรตีนที่ทำลายลูกน้ำยุงลายได้ เมื่อลูกน้ำกินเข้าไปโปรตีนผลึกนี้จะเข้าทำลายกระเพาะอาหารของลูกน้ำยุง ทำให้ลูกน้ำยุงอดอาหารและตายในที่สุด

    ด้าน ดร.กัญญวิมว์ กีรติกร ผู้อำนวยการศูนย์พันธุวิศวกรรมและเทคโนโลยีชีวภาพแห่งชาติ (ไบโอเทค/สวทช.) กล่าววว่า ได้นำแบคทีเรียไปทดสอบประสิทธิภาพในพื้นที่ชุมชนชนบทอำเภอแปลงยาว จังหวัดฉะเชิงเทรา และอำเภอคลองหลวง จังหวัดปทุมธานี โดยใส่ผลิตภัณฑ์ชีวินทรีย์ 20 กรัม/ น้ำ 200 ลิตร ในน้ำใช้ทุกภาชนะของบ้านที่ทำการทดลอง และติดตามบันทึกผลการควบคุมลูกน้ำยุงลาย พบว่าสามารถควบคุมลูกน้ำยุงลายได้นานประมาณ 12 สัปดาห์ โดยที่ปริมาณลูกน้ำยุงลายจะค่อย ๆ ลดลงและหมดไปในสัปดาห์ที่ 3 และพบลูกน้ำยุงลายเล็กน้อยในสัปดาห์ที่ 7-11
     
  8. เมทิกา

    เมทิกา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    952
    ค่าพลัง:
    +2,393
    เท่าที่สังเกตตัวเองดู เดือนห้าเดือนหกนี้ไม่ค่อยฝันเตือนภัยอะไรเลย

    ผิดกับเมื่อปีที่แล้ว ที่จะฝันเห็นพญานาค, พระอินทร์, หลวงปู่ทวด, พระแม่ธรณี ฯลฯ มาให้เห็นในฝัน (เหมือนยังมีโอกาสเตือนได้อยู่)


    ตอนนี้ฝันล่าสุดที่ผ่านมา (นานแล้วเหมือนกัน) ไม่เห็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์แล้ว จะฝันเห็นแต่อันตรายที่เข้ามาถึงตัวอย่างทันที และในฝันเราบอกกับตัวเองว่า ตายๆๆๆๆๆ (ถามว่าในฝันกลัวไหม ไม่กลัว แต่มีสติรู้ว่าจะต้องตายแน่ๆ)

    ต่อมา ไม่ได้ฝัน แต่เป็นสังหรณ์ขณะตื่นๆเป็นๆว่า มัวทำอะไรอยู่ (แปลว่ามัวหายใจทิ้งไปวันๆอยู่นั่นแหละ) ทำไมไม่รีบๆได้แล้ว (รีบเจริญสติ สำรวมกาย วาจา ใจ แผ่เมตตา ทรงพรหมวิหาร ทำเหมือนตัวเองบวช แต่เป็นการบวชที่ใจ) เวลาไม่มีเหลือแล้วนะ (ต้องเร่งทำความเพียรตลอด 24 ชั่วโมงได้แล้ว)

    แล้วก็รู้สึกมาสักพักว่า หมดการเตือนแล้ว หมดเวลาเตือนแล้ว เริ่มนับถอยหลังได้แล้ว


    เป็นความเห็นส่วนตัว ห้ามเชื่อเพราะพิสูจน์ไม่ได้

    ส่วนท่านอื่นๆมีใครรู้สึกเหมือนกันบ้าง เราว่ามีหลายคนเลยแหละ
     
  9. Kongp

    Kongp เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    1,696
    ค่าพลัง:
    +3,909
    ดูข่าว สามมิติ

    ท่อระบายน้ำ ระเบิด ที่ หน้าห้าง BiG C ลาดพร้าว มีผู้บาดเจ็บครับ

    ยังไม่ทราบสาเหตุว่าเกิดจากอะไร
     
  10. โชตนา

    โชตนา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    259
    ค่าพลัง:
    +773
    พบหินประหลาด คล้ายมือ โผล่ตามหินย้อย
    [​IMG]

    <TABLE class=A14 cellSpacing=0 cellPadding=3 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top>เมื่อเวลา 16.00 น.วันนี้ (11 มิ.ย.) นายบุญญฤทธิ์ ตุลาพันธ์พงศ์ เจ้าของบุญศิริการพิมพ์ ต.หนองหอย อ.เมือง จ.เชียงใหม่

    ได้นำหินรูปร่างประหลาดเข้าพบผู้สื่อข่าวที่ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ โดยลักษณะของหินเป็นหินปูนคล้ายมือของผู้หญิงมีนิ้วทั้ง 5 นิ้วโดยมีขนาดเท่ามือหญิงสาววัยรุ่น ที่นิ้วก้อยกระเทาะแตกออกมีแกนคล้ายเล็บมนุษย์โผล่ออกมา นายบุญญฤทธิ์ กล่าวว่า เมื่อเช้าวันนี้ (11 มี.ค.) พระสมคิด อภิปุญโญ จำพรรษาอยู่สำนักสงฆ์ถ้ำหีบ บ้านปางกว้าง ต.อินทขิล อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่ ได้มาพบและชวนตนขึ้นไปพิสูจน์บนยอดดอยสูงของ อ.แม่แตง โดยได้เล่าว่าขณะที่จำวัดอยู่ได้มีชาวเขาที่มีบ้านอยู่บนดอยได้นำแผ่นหินขนาดเท่าฝ่ามือคน มีลักษณะคล้ายมือคนมี 5 นิ้ว โดยชาวเขาพบมีอยู่จำนวนมากบนยอดดอย ความเชื่อของชาวเขาเชื่อกันว่าสำหรับแผ่นหินที่มีนิ้วยาวอ่อนช้อยเหมือนมือผู้หญิงเป็นมือเทพธิดา และมือที่แข็งกระด้างจะเป็นมือเทวดา โดยบอกว่าโผล่มาจากในถ้ำบนดอยมีจำนวนหลายอันมาก จึงต้องการพิสูจน์ว่าเป็นอะไรกันแน่จึงได้นำลงมาให้ทางคนที่มีความรู้ได้ทำการพิสูจน์หรือระบุให้ชัดเจน

    นายบุญญฤทธิ์ เปิดเผยต่อว่า เพื่อต้องการพิสูจน์ความจริง ตนจึงได้นำวัตถุคล้ายมือมนุษย์ เข้าไปยังสำนักงานศิลปากรที่ 8

    ได้นำเข้าพบกับนายตระกูล หาญทองกุล นักโบราณคดีอาวุโส หัวหน้ากลุ่มงานอนุรักษ์โบราณคดีเชียงใหม่ เพื่อขอให้ตรวจสอบว่าเป็นอะไร โดยทางนายตระกูล ได้บอกว่าน่าเชื่อว่าเป็นวัตถุที่เกิดตามธรรมชาติ ไม่ใช่สร้างโดยมนุษย์ เนื่องจาก ด้านในของแผ่นหินคล้ายมือเรียวงาม มีหินแคลเซียมเป็นชั้น ๆ ใต้แผ่นหินไม่เป็นรอยเรียน และที่น่าแปลกใจคือปลายนิ้วชี้กระเทาะออก ที่แกนโผล่ให้เห็นคล้ายกระดูก แต่น่าจะไม่ใช่กระดูก ซึ่งจะต้องให้ทางผู้เชี่ยวชาญด้านโบราณวัตถุตรวจสอบอีกครั้ง

    ต่อมานายบุญญฤทธิ์ ได้นำไปให้ทาง น.ส.แสงจันทร์ ไตรเกษม ผู้อำนวยการพิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติเชียงใหม่ และกัณฑารักษ์ของพิพิธภัณฑ์ฯ

    ตรวจสอบแผ่นหินที่ชาวเขาเรียกมือเทพธิดา ซึ่งทาง น.ส.แสงจันทร์ ว่าลักษณะคล้ายนิ้วมือจริง แต่ลักษณะนี้ส่วนใหญ่ถ้าเป็นของเก่าแก่ ก็จะเป็นเขี้ยวสัตว์ แต่วัตถนี้ดูแล้วไม่แน่ใจว่าเป็นอะไร ถ้าเป็นมือมนุษย์จะมีกระดูกเป็นข้อๆ ส่วนปลายนิ้วชี้เป็นแกนเหมือนกระดูก ต้องไปให้ผู้เชี่ยวชาญด้านทรัพยากรธรณีดูเพื่อชี้ชัดว่าเป็นอะไรแต่เบื้องต้นเชื่อว่าเป็นปูแคลไซท์ เกิดจากหินย้อยมาทับกันนานเข้า แต่เนื่องจากไม่สามารถเห็นว่าแผ่นหินนี้เกิดขึ้นตรงไหน องค์ประกอบอื่นๆเป็นอย่างไร จึงไม่สามารถสรุปได้ ต้องให้นำไปให้ทางด้านทรัพยากรธรณีตรวจสอบ

    ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า นายบุญญฤทธิ์ จะนำไปให้ทางเจ้าหน้าที่ทรัพยากรธรณีตรวจสอบ และที่ชาวเขาระบุว่ามีลักษณะคล้ายกับมือคนโผล่ขึ้นมาตามหินย้อยต่างๆ หากยังพิสูจน์ไม่ได้ว่าเป็นอะไรก็จะขอให้ทางพระสมคิด อภิปัญโญ และชาวเขานำเข้าไปยังสถานที่พบมือเทพธิดา หรือมือเทวดาโผล่


    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><CENTER>ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ
    [​IMG]</CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  11. วรเดช

    วรเดช เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    1,753
    ค่าพลัง:
    +6,146
    <TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 bgColor=#e2e2e2 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ecfae0>ล็อคแม้ค้าแสบส่งขนมยัดไส้ยาบ้าขาย ร.ร.</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ffffff><TABLE class=A14 border=0 cellSpacing=0 cellPadding=3 width="100%" align=center><TBODY><TR bgColor=#cccccc><TD vAlign=center> </TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>

    ตำรวจ จ.นครศรีฯ จับแม่ค้านำยาบ้ายัดไส้ขนมส่งขายตามสหกรณ์โรงเรียน พร้อมของกลางซุกคัสตาร์ดและขนมเค้กเกือบ 400 เม็ด ยังให้การภาคเสธ

    ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เวลา 07.00 น. วันนี้ (10 มิ.ย.) พ.ต.ท.เสน่ห์ มณีฉาย สารวัตรกลุ่มงานสืบสวน กองบังคับการตำรวจภูธร จังหวัด (บก.ภ.จ.) นครศรีธรรมราช พร้อม ร.ต.ท.สุชาติ ศรีอุทัย รองหัวหน้าชุดปราบปรามยาเสพติดบก.ภ.จ.นครศรีธรรมราช และคณะนำกำลังดักซุ่มบริเวณจุดจอดรถสามแยกสวนผัก ถนนเอเชียสาย 41 ท้องที่หมู่ 8 ต.ร่อนพิบูลย์ อ.ร่อนพิบูลย์ จ.นครศรีธรรมราช หลังสืบทราบจะมีการส่งยาเสพติดจากอ.หาดใหญ่ จ.สงขลาใน บริเวณดังกล่าว

    จากนั้น มีรถยนต์ตู้โดยสารสายหาดใหญ่–นครศรีธรรมราช เข้ามาจอดที่จุดจอดรถ คนขับรถได้นำกล่องกระดาษ ขนาดใหญ่ลงมาจากรถส่งมอบให้ผู้หญิงคนหนึ่งซึ่งขี่รถจักรยานยนต์มารับ

    ก่อนจะขับรถตู้ออกไปตำรวจจึงเข้าตรวจสอบผู้หญิงคนที่รับกล่องกระดาษจากคนขับรถตู้ ทราบชื่อในเวลาต่อมา คือ น.ส.รุจิรา แซ่ลิ่ม อายุ 32 ปี อยู่บ้านเลขที่ 167 หมู่ 5 ต.ควนชุม อ.ร่อนพิบูลย์ จ.นครศรีธรรมราช ตรวจสอบในกล่องกระดาษพบกล่องขนมคัส ตาร์ดเค้ก 2 กล่องใหญ่ และขนมเค้กวันเกิดอีก 1 กล่อง

    ทั้งนี้ เมื่อเปิดถุงขนมคัสตาร์ดเค้กพบว่าในขนมแต่ละถุงมียาบ้าบรรจุถุงพลาสติกยัดอยู่ในเนื้อขนมถุงละ 15 เม็ด ในกล่องแรก และถุงละ 20 เม็ด ในกล่องที่ 2

    นอกจากนั้น ยังพบยาบ้าซุกอยู่ขนมเค้กก้อนใหญ่อีกรวมยาบ้าที่ยึดได้ 394 เม็ด ซึ่งจากการสอบสวน น.ส.รุจิราให้การภาคเสธ โดยอ้างว่าไปรับขนมทุกวัน แต่ไม่รู้ว่าในขนมมียาบ้ายัดอยู่ เจ้าหน้าที่ควบคุมตัวไว้ดำเนินคดี และจะได้สอบสวนขยายผลต่อไป

    พ.ต.ท.เสนห์ กล่าวว่า ตำรวจสืบสวนทราบว่า น.ส.รุจิราเป็นแม่ค้าส่งขนมขายตามสหกรณ์และร้านค้าโรงเรียนต่าง ๆ ใน อ.ร่อนพิบูลย์ และมีพฤติกรรมลักลอบจำหน่ายยาเสพติดด้วยการแอบนำยาเสพติดยัดในขนมต่าง ๆ ที่ส่งไปขาย โดยให้เพื่อนและญาติใน อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ดัดแปลงกล่องขนมต่าง ๆ ที่ส่งมาให้ ด้วยวิธีกรีดถุงแล้วยัดยาบ้า จากนั้น ใช้กาวปิดปากถุงขนมต่าง ๆ เหมือนเดิม ส่งมาขายให้กับเอเย่นต์ที่เป็นนักเรียนที่นัดหมายกันไว้ล่วงหน้า เพื่อขายต่อให้นักเรียนมัธยมวัยรุ่นที่เป็นผู้เสพ


    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><CENTER>ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ
    [​IMG]</CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 bgColor=#e2e2e2 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ecfae0>รับน้องมรภ.เลย อุปทานหมู่ เป็นลมหามส่งรพ.</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ffffff><TABLE class=A14 border=0 cellSpacing=0 cellPadding=3 width="100%" align=center><TBODY><TR bgColor=#cccccc><TD vAlign=center> </TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top>เมื่อเวลา 20.00 น.ที่ผ่านมา(10 มิ.ย.)เกิดเหตุนักศึกษาใหม่ของมหาวิทยาลัยราชภัฏเลย และรุ่นพี่กว่า 100 คน เป็นลมระหว่างการซ้อมร้องเพลงประจำสถาบัน ที่บริเวณสนามฟุตบอลของมหาวิทยาลัย ภายหลังเกิดเหตุรถฉุกเฉินมูลนิธิกู้ภัยต้องระดมกันเข้ารับนักศึกษาที่เป็นลม นำส่งโรงพยาบาลเลยอย่างโกลาหล

    นายวิทูรย์ เลี้ยงรักษา รักษาการผู้อำนวยการกองพัฒนานักศึกษามหาวิทยาลัยราชภัฏเลย เล่าถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่า การซ้อมร้องเพลงเป็นกิจกรรมหนึ่งที่ถือปฏิบัติตามปกติ

    หลังจากเปิดเทอมรับนักศึกษาใหม่ จำนวนกว่า 1,500 คน แต่ในวันนี้เวลาประมาณ 19.30 น. มีรุ่นพี่เริ่มเป็นลมล้มพับลงคนแรก หลังจากนั้นก็มีนักศึกษาทั้งรุ่นพี่รุ่นน้อง ส่วนใหญ่เป็นผู้หญิงเริ่มเป็นลมลักษณะอาการเดียวกันอีกหลายราย จนเกิดความวุ่นวายไปทั่วบริเวณสนามฟุตบอล บางรายมีอาการร้องเอะอะโวยวาย และร้องไห้ โดยรุ่นพี่ที่มาซ้อมร้องเพลงให้รุ่นน้องได้ผ่านการอบรมมาเป็นอย่างดี ไม่มีการใช้ความรุนแรง หรือถ้อยคำหยาบคายกับรุ่นน้อง เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นยังไม่ทราบสาเหตุที่แท้จริง คาดว่าจะเป็นเพียงอุปทานหมู่

    ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังเกิดเหตุ นักศึกษารุ่นพี่ได้พากันไปกราบไหว้ศาลเจ้าปู่ ประจำมหาวิทยาลัย เพื่อขอขมาในสิ่งที่ทำล่วงเกิน

    ซึ่งเหตุการณ์ลักษณะเช่นนี้ เคยเกิดขึ้นเกือบทุกปี โดยนักศึกษา คณาจารย์และเจ้าหน้าที่ต่างวิพากษ์วิจารณ์ว่า สิ่งศักดิ์สิทธิ์ภายในมหาวิทยาลัยต้องการสื่อสารให้รับรู้ว่า มีการกระทำบางสิ่งบางอย่างอย่างที่เป็นการล่วงเกิน.

    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><CENTER>ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ
    [​IMG]</CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 bgColor=#e2e2e2 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ecfae0>จับครูข่มขืนลูกศิษย์มานานนับปีที่สกลนคร </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ffffff><TABLE class=A14 border=0 cellSpacing=0 cellPadding=3 width="100%" align=center><TBODY><TR bgColor=#cccccc><TD vAlign=center> </TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top>กรุงเทพฯ 10 มิ.ย. - ตำรวจ ปดส. รวบครูสอนภาษาไทยและคอมพิวเตอร์ข่มขืนลูกศิษย์อายุ 12 ปี มานานนับปี ก่อนพยายามฆ่าตัวตายหนีความผิด

    พ.ต.อ.ณพวัฒน์ อารยางกูร ผู้กำกับการ 1 กองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดต่อเด็ก เยาวชนและสตรี หรือ ปดส. เปิดเผยว่า ได้ควบคุมตัวนายศักดิ์ชัย อุปละ อายุ 50 ปี

    อาจารย์สอนวิชาภาษาไทยและคอมพิวเตอร์ ของโรงเรียนแห่งหนึ่งในจังหวัดสกลนคร ตามหมายจับข้อหาข่มขืนกระทำชำเราเด็กหญิงอายุไม่เกิน 13 ปี ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 7-20 ปี และปรับตั้งแต่ 8,000-40,000 บาท หลังได้สอบปากคำเด็กหญิงผู้เสียหายอายุ 12 ปี ซึ่งเป็นลูกศิษย์ของผู้ต้องหาตามที่ได้รับการประสานจากมูลนิธิปวีณา หงสกุล เพื่อเด็กและสตรี ว่า ถูก นายศักดิ์ชัย ข่มขืนในห้องคอมพิวเตอร์ และห้องน้ำของโรงเรียนในช่วงพักกลางวัน และหลังเลิกเรียน มาตั้งแต่กลางเดือนพฤษภาคม 2551 โดยให้เงินครั้งละ 300 บาท พร้อมข่มขู่ไม่ให้นำเรื่องนี้ไปบอกผู้ปกครอง แต่ผู้ต้องหาให้การปฏิเสธ โดยระหว่างคุมตัวไว้ที่ห้องคุมขังกองปราบปราม เพื่อรอนำตัวไปฝากขัง


    ผู้ต้องหาซึ่งอยู่ในอาการเครียดได้พยายามฆ่าตัวตายโดยใช้กางเกงที่สวมใส่รัดคอจนหมดสติ

    แต่สิบเวรหน้าห้องขังเห็นเหตุการณ์จึงช่วยเหลือส่งโรงพยาบาลตำรวจ และอายัดตัวไว้ สำหรับคดีนี้ หากศาลพิพากษาว่าผิด จะมีการเพิ่มโทษผู้ต้องหาอีก 1 ใน 3 เนื่องจากเป็นการกระทำกับลูกศิษย์ อีกทั้งยังเคยสอนพ่อ แม่ และญาติของเด็กมาก่อน.-สำนักข่าวไทย


    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><CENTER>ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย:"ข่าวเข้ม ฉับไว เป็นกลาง"
    [​IMG]</CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 bgColor=#e2e2e2 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ecfae0>เห็ดหมดป่ากาฬสินธุ์-เหตุตัดไม้ ต้องนำเข้าจากลาว</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ffffff><TABLE class=A14 border=0 cellSpacing=0 cellPadding=3 width="100%" align=center><TBODY><TR bgColor=#cccccc><TD vAlign=center> </TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top>กาฬสินธุ์ - นางบุญร่วม ภูผาลาด ชาวบ้าน ต.บัวบาน อ.ยางตลาด จ.กาฬสินธุ์ กล่าวว่า ทุกๆ ปีเมื่อเริ่มเข้าสู่ฤดูฝน

    ชาวบ้านตามชนบทจะออกไปหาเก็บเห็ดป่าป่าสงวนแห่งชาติดงระแนง เห็ดที่นิยมนำมาบริโภค เช่น เห็ดโคน เห็ดไค หากหาเก็บได้มากก็จะนำมาจำหน่ายในชุมชน เป็นรายได้เสริม แต่สำหรับปีนี้เห็ดป่าหายากมากขึ้น เนื่องจากป่าไม้ถูกทำลายลงไปมาก มีความอุดมสมบูรณ์น้อยลง บางครั้งชาวบ้านเข้าไปเดินหาเก็บเห็ดในป่าทั้งวันไม่พบเห็ดเลยสักดอกเดียว

    นางบุญร่วม กล่าวอีกว่า ในอดีตเห็ดป่าหาได้ไม่ยาก แต่ปัจจุบันหายาก เห็ดที่ซื้อได้ตามท้องตลาดทั่วไปส่วนใหญ่จะเป็นเห็ดที่เพาะปลูกขึ้นในเรือนเพาะเห็ด หากเป็นอย่างนี้ต่อไปเห็ดป่าหลายชนิดอาจจะสูญพันธุ์ไปก็ได้

    นางรัศมี ภูบุตรตะ แม่ค้าขายเห็ดตลาดสดทุ่งนาทอง เขตเทศบาลเมืองกาฬสินธุ์ กล่าวว่า หน้าฝนทุกปีจะตระเวนหารับซื้อเห็ดป่าจากชาวบ้านหมู่บ้านต่างๆ แต่ปีนี้เห็ดที่เก็บได้มีน้อยและหายากขึ้น อาจจะเป็นเพราะป่าถูกบุกรุก มีการเผาป่า ทำให้เชื้อเห็ดถูกทำลาย ตนและเพื่อนแม่ค้าต้องนำเข้าจากจังหวัดใกล้เคียง อาทิ สกลนคร นครพนม และลาวมาจำหน่ายแทน ทำให้ราคามีการปรับสูงขึ้น จาก ก.ก.ละ 150 บาท เป็น 250 บาท แต่ก็ยังได้รับความนิยมจากผู้บริโภค ซื้อกันเป็นจำนวนมาก ขายได้วันละนับร้อยก.ก.

    น.พ.พิสิทธิ์ เอื้อวงษ์กูล นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดกาฬสินธุ์ กล่าวว่า การบริโภคเห็ดป่า ต้องระวังให้มาก เนื่องจากเห็ดพิษบางชนิดมีลักษณะเหมือนเห็ดที่รับประทานได้

    เมื่อรับประทานเห็ดพิษเข้าไปจะทำให้เกิดอาการคลื่นไส้ วิงเวียนศีรษะ หากรุนแรงอาจถึงแก่ชีวิต ฉะนั้นก่อนที่จะเก็บหรือซื้อมารับประทานควรสังเกตให้ดี เพื่อความปลอดภัยในชีวิตของผู้บริโภคเอง

    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><CENTER>ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์ข่าวสด
    [​IMG]</CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 bgColor=#e2e2e2 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ecfae0>ผู้นำไต้หวันอาจพบผู้นำจีน</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ffffff><TABLE class=A14 border=0 cellSpacing=0 cellPadding=3 width="100%" align=center><TBODY><TR bgColor=#cccccc><TD vAlign=center> </TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
    หนังสือพิมพ์ไชน่าเดลี่ของทางการจีนรายงานว่า การที่ประธานาธิบดีหม่า อิงจิ่ว ของไต้หวัน มีแนวโน้มได้รับเลือกเป็นประธานพรรคก๊กมินตั๋ง อาจปูทางไปสู่การพบกับประธานาธิบดีหู จิ่นเทา ของจีน โดยพบกันในฐานะประธานพรรคการเมือง ไม่ใช่หัวหน้ารัฐบาล

    ไชน่าเดลี่ระบุว่า หากนายหม่า เยือนกรุงปักกิ่งในฐานะประธานพรรคก๊กมินตั๋งและหารือกับนายหู ในฐานะเลขาธิการใหญ่คณะกรรมการกลางพรรคคอมมิวนิสต์จีนจะเป็นการเยือนครั้งแรกที่ไม่เคยปรากฏมาก่อนและจะเป็นสัญญาณของความปรองดองครั้งยิ่งใหญ่

    แต่นายลี เชียนจุง โฆษกพรรคก๊กมินตั๋งชี้ว่า เรื่องนี้เป็นการคาดการณ์และวิเคราะห์ของสื่อไต้หวัน หากโอกาสเหมาะสมทั้งสองฝ่ายก็จะพิจารณา แต่ปัญหาคือหากนายหม่าได้รับเลือกเป็นประธานพรรคก๊กมินตั๋งจริงเขาจะมี 2 สถานภาพในเวลาเดียวกันคือ

    ประธานาธิบดีและประธานพรรค การพบกันในฐานะหัวหน้ารัฐบาลจีนและไต้หวันเป็นเรื่องเป็นไปได้ยากเพราะจีนยืนยันว่าไต้หวันเป็นดินแดนหนึ่งของจีนและไม่ยอมรับสถานภาพของรัฐบาลไต้หวัน


    พรรคก๊กมินตั๋งจะตัดสินใจในวันที่ 26 ก.ค.ว่าจะแต่งตั้งนายหม่าเป็นประธานพรรคหรือไม่ หากได้รับแต่งตั้งเขาจะรับตำแหน่งในวันที่ 12 กันยายน นายหม่าลาออกจากตำแหน่งประธานพรรคก๊กมินตั๋งเมื่อต้นปี 2550

    เพราะถูกฟ้องร้องข้อหาทุจริตขณะดำรงตำแหน่งนายกเทศมนตรีกรุงไทเป ก่อนพ้นผิดในเวลาต่อมา ส่วนนายอู๋ ป๋อสง ประธานคนปัจจุบันได้ประกาศลาออกและจนถึงขณะนี้ยังไม่มีใครประกาศตัวชิงตำแหน่ง


    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><CENTER>ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย:"ข่าวเข้ม ฉับไว เป็นกลาง"
    [​IMG]</CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 bgColor=#e2e2e2 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ecfae0>ส่องคอนเทนเนอร์ ว่างเปล่า ไม่พบซากกระดูก</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ffffff><TABLE class=A14 border=0 cellSpacing=0 cellPadding=3 width="100%" align=center><TBODY><TR bgColor=#cccccc><TD vAlign=center> </TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>

    'หมอพรทิพย์' ส่งชุดประดำน้ำลงสำรวจตู้คอนเทนเนอร์ ในทะเลอ่าวไทย รอบ 2 พบตู้มีรู สามารถตรวจสอบภายในได้ โดยผลตรวจเบื้องต้นไม่พบซากกระดูกสิ่งมีชีวิต มีเพียงเปลือกหอย และ ยังไม่สามารถสรุปได้ว่าไม่มีสารเคมี

    จากกรณีที่ได้มีชาวประมงพบสุสานกะโหลกมนุษย์ในทะเลอ่าวไทย และพบตู้คอนเทนเนอร์ จำนวน 8 ตู้ ถูกปิดสนิทจมอยู่ในทะเลหลายจุด ในระดับน้ำลึก 25 ,30 และ 50 เมตร จุดแรก ในร่องน้ำทะเลเส้นทางเดินเรือสินค้าระหว่างเกาะไผ่ กับเกาะคราม จุดที่ 2 ห่างจากเกาะจวงไปทางด้านทิศใต้ประมาณ 30 ไมล์ทะเล และจุดที่ 3 ทางด้านทิศตะวันออกของเกาะจาน อ่าวแสมสาร พิกัด ละติจูด 29 องศา 04 ลิปดา และพิกัด ละติจูด 30 องศา 05 ลิปดา ซึ่งบริเวณใกล้เคียงแต่ละจุด เคยมีเรือประมงอวนลากพบหัวกะโหลกติดอวนมาแล้วจำนวนมาก ต่อมา นายกรัฐมนตรี ได้มอบหมายให้ แพทย์หญิงคุณหญิง พรทิพย์ โรจนสุนันท์ ผู้อำนวยการสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ ร่วมกับทัพเรือภาคที่ 1 สำรวจพบตู้คอนเทนเนอร์

    ต่อมาวันนี้ (11 มิ.ย.) เวลา 06.00 น. พล.ร.ต ทวีป สุขพินิจ เสนาธิการทัพเรือภาคที่ 1 เป็นหัวหน้าคณะทำงาน และแต่งตั้งเจ้าหน้าที่ในการปฏิบัติงาน ทั้งบนบกและใต้น้ำ ซึ่งการปฏิบัติภารกิจใต้น้ำในครั้งนี้ พร้อมทั้งได้เตรียมจัดส่งชุดประดาน้ำสังกัดกรมสรรพาวุธ ทหารเรือ ขึ้นเรือหลวงตะลิบง ออกเดินทางไปยังจุดที่ตรวจพบตู้คอนเทนเนอร์ ซึ่งอยู่ห่างจากเกาะจวงประมาณ 8 ไมล์ทะเล เพื่อลงสำรวจเบื้องต้น และดูสภาพพื้นที่โดยรอบ

    จากนั้นในเวลา 08.00 น. แพทย์หญิงคุณหญิงพรทิพย์ ได้เดินทางมาส่งคณะทำงานซึ่งประกอบไปด้วยทีมประดาน้ำในทีมของ ผศ.ดร.ธรณ์ ธำรงนาวาสวัสดิ์ รองคณบดีคณะประมง มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ คณะสื่อมวลชน และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องติดตามไปสมทบ โดยเรือรบหลวงแกลง
    ซึ่งคณะทำงานชุดนี้ จะมีอุปกรณ์จำพวกกล้องถ่ายภาพใต้น้ำ เครื่องตรวจวัดกัมมันตภาพรังสี กล้องส่องพิเศษที่สามารถสอดเข้าไปตามรอยแยกของตู้คอนเทนเนอร์เพื่อตรวจดู สิ่งแปลกปลอมภายในตู้

    ต่อมาเมื่อเวลา 11.00 น.ชุดแรกได้ตรวจสอบพบ ว่าด้านบน ของตู้คอนเทนเนอร์ มีรูสามารถตรวจสอบได้ด้วยการนำกล้องส่องเข้าไป

    นอกจากนี้ยังเอา กัลปังหา ดิน และ คราบตะไคร่ ที่ติดอยู่ที่ตู้คอนเทนเนอร์ ขึ้นมาเพื่อตรวจสอบ และจะทราบทันที่ว่า อายุของตู้คอนเทลเนอร์ อายุเท่าไหร่ นอกจากนั้นนักประดาน้ำ ยังได้บันทึกภาพสิ่งแวดล้อม ที่อยู่รอบๆ ตู้คอนเทนเนอร์พบว่า มีสิ่งแวดล้อมที่ดี มีแม้กระทั่งลูกปลาฉลาม

    แพทย์ หญิงคุณหญิงพรทิพย์ เปิดเผยว่า การทำงานของชุดประดาน้ำรอบสองในครั้งนี้ถือเป็นการทำงานในรอบที่ 2 โดยชุดทำงานชุดนี้จะเพิ่มความเข้มข้นในการตรวจสอบมากยิ่งขึ้นและหาทางสรุป ให้นายกรัฐมนตรี และประชาชนทั่วไปได้ทราบ ข้อเท็จจริง

    อย่างไรก็ตาม ล่าสุด เมื่อช่วงบ่าย ดร.ธรณ์ ซึ่งเดินทางนำคณะดำนำสำรวจตู้คอนเทนเนอร์ที่อ่าวแสมสาร อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี กล่าวระหว่างควบคุมการทำงานบนเรือหลวงตะลิบง ว่า พบช่องสี่เหลี่ยม ความกว้าง 60 เซนติเมตร ลักษณะเหมือนเคยมีฝาปิด แต่ฝาหายไป และเมื่อส่องกล้องวิดีโอลงไป พบบันไดเป็นทางลง ทำให้นักสำรวจสงสัยว่า จะเป็นตู้คอนเทนเนอร์หรือตู้อะไร

    ส่วนภายในตู้เมื่อถ่ายภาพออกมาแล้ว ไม่พบซากกระดูกสิ่งมีชีวิตใด ๆ มีเพียงเปลือกหอย จึงจะนำภาพที่ได้ในวันนี้มาดูและประชุมร่วมกันอีกครั้ง แต่ยังไม่สามารถสรุปได้ว่าจะไม่มีสารเคมี


    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><CENTER>ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ
    [​IMG]</CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  12. Kongp

    Kongp เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    1,696
    ค่าพลัง:
    +3,909
    ท่อระบายน้ำทิ้งหน้าห้างบิ๊กซีระเบิดแม่ค้าเจ็บ4

    <!-- AddThis Button BEGIN --><SCRIPT type=text/javascript>var addthis_pub="komchadluek";var addthis_brand = "คมชัดลึก";var addthis_header_color = "#ffffff";var addthis_header_background = "#3792ef"</SCRIPT><SCRIPT src="http://s7.addthis.com/js/200/addthis_widget.js" type=text/javascript></SCRIPT><!-- AddThis Button END -->
    <SCRIPT type=text/javascript>var id='16682';function count(){$.ajax({ type: "POST", url: "http://www.komchadluek.net/counter_news.php", data: "newsid="+id, success: function(txt){ var counter_=parseInt(txt); $('#counters').html('จำนวนคนอ่าน '+counter_+' คน'); } });} featuredcontentslider.init({ id: "slider1", contentsource: ["inline", ""], toc: "markup", nextprev: ["Previous", "Next"], revealtype: "click", enablefade: [true, 0.1], autorotate: [true, 8000], onChange: function(previndex, curindex){ }})</SCRIPT>คมชัดลึก : เกิดเหตุท่อระบายน้ำห้างดัง ย่านลาดพร้าวระเบิด กลิ่นแก๊สฟุ้งกระจายทั่วบริเวณ ตะแกรงเหล็กปิดท่อเปิด น้ำพุ่งเหมือนน้ำพุ เศษหินพื้นถนนกระเด็นใส่แม่ค้าเจ็บ 4 ตำรวจคาดของเสียหมักหมม
    <SCRIPT type=text/javascript><!--google_ad_client = "pub-1044823792492543";/* Kom-newdesign338x280story */google_ad_slot = "7614892621";google_ad_width = 336;google_ad_height = 280;//--></SCRIPT><SCRIPT src="http://pagead2.googlesyndication.com/pagead/show_ads.js" type=text/javascript></SCRIPT><SCRIPT src="http://pagead2.googlesyndication.com/pagead/expansion_embed.js"></SCRIPT><SCRIPT src="http://googleads.g.doubleclick.net/pagead/test_domain.js"></SCRIPT><SCRIPT src="http://pagead2.googlesyndication.com/pagead/render_ads.js"></SCRIPT><SCRIPT>window.google_render_ad();</SCRIPT>
    เมื่อเวลา 20.30 น. วันที่ 11 มิถุนายน ร.ต.ท.สถาพร สุขสว่าง ร้อยเวรสอบสวน สน.โชคชัย รับแจ้งเกิดเหตุระเบิดบริเวณลานขายสินค้าหน้าห้างสรรพสินค้าบิ๊กซี สาขาลาดพร้าว แขวงและเขตวังทองหลาง กทม. ตรวจสอบที่เกิดเหตุพบพื้นถนนแตกและนูนสูงขึ้นประมาณ 50 ซม. กว้างประมาณ 5 เมตร เหล็กตะแกรงปิดท่อระบายน้ำทิ้ง 7 ท่อเปิดออก และมีผู้ได้รับบาดเจ็บ 4 คนถูกนำส่ง รพ.เปาโล เมโมเรียล ได้แก่ น.ส.สุวรรณา อนุศักดิ์ชล อายุ 24 ปี น.ส.เกวดี บุญดี 24 ปี นางนิดา สร้อยวงษา อายุ 54 ปี และนางสรัญญา แห้วไธสง อายุ 19 ปี ทั้งหมดเป็นแม่ค้าขายของบริเวณที่เกิดเหตุ
    จากการสอบสวนทราบว่า ช่วงกลางวันบริเวณดังกล่าวจะเป็นสถานที่ให้รถวิ่งเข้า-ออกและจอดได้ ช่วงเย็นจะเปิดให้บุคคลภายนอกเช่าขายของ ก่อนเกิดเหตุพ่อค้าแม่ค้ามาตั้งแผงขายสินค้า ระหว่างนั้นมีกลิ่นแก๊สฟุ้งกระจายไปทั่วและมีน้ำพุ่งออกมาจากท่อระบายน้ำทิ้ง ก่อนจะมีเสียงระเบิดดังขึ้น ทำให้บริเวณดังกล่าวเป็นสันนูน เบื้องต้นเชื่อว่าอาจเกิดจากการหมักหมมของเสีย ทำให้เกิดเป็นแก๊สอัดแน่นและระเบิดขึ้น อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ประสานสำนักงานเขตวังทองหลางและผู้บริหารของห้างตรวจสอบหาสาเหตุแล้ว
    ต่อมาเวลา 21.00 น. เจ้าหน้าที่สิ่งแวดล้อมและสุขาภิบาล สำนักงานเขตวังทองหลาง มาตรวจสอบพร้อมกับกล่าวว่า จะต้องประสานงานกับฝ่ายเจ้าหน้าที่โยธาของห้างสรรพสินค้าบิ๊กซีเพื่อนำแผนที่โครงสร้างของท่อระบายน้ำเสียมาตรวจสอบว่ามีการดำเนินการก่อสร้างในลักษณะใด จึงจะสามารถหาสาเหตุได้
     
  13. k_isara

    k_isara เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    246
    ค่าพลัง:
    +119
    12 มิ.ย. 52
    <O:p</O:p
    <O:p</O:p
    มาตามนัด
    <O:p</O:p
    หลังจากได้รับสัญญาณแล้ว ผมจะจดลงบนปฏิทินของเช้าวันนั้นและส่งให้ท่านทราบ เพื่อให้ท่านที่สนใจรู้ล่วงหน้า ท่านที่สนใจก็จะกดปุ่มอนุโมทนา ผมก็จะมีพยานหลักฐาน ทั้งวันที่ เดือน ปีและพยานบุคคลเป็นเครื่องยืนยัน ส่วนผมก็จะเฝ้าดูว่าจะเกิดจริงตามที่รู้มาหรือไม่ เมื่อเหตุการณ์มาถึง ผมก็จะแจ้งลงให้ทราบว่า เหตุการณ์ที่ว่าได้เกิดแล้ว เช่น<O:p</O:p
    1 พ.ค. 52 หมูนานาชาติ
    <O:p</O:p
    <O:p</O:p
    คิดว่าไม่มา แต่ก็คิดผิด ขอให้ทุกท่านดูแลสุขภาพให้ดี<O:p</O:p
    ความหมายก็คือ H1N1 ได้ระบาดเข้าประเทศมาแล้ว
    <O:p</O:p
    <O:p</O:p
    5 มิ.ย. 52 น้ำท่วมดีกว่าฝนแล้ง ถ้าน้ำไม่แห้งให้ฝนแล้งเสียยังดีกว่า<O:p</O:p
    ปีนี้จะมีน้ำมาก<O:p</O:p
    ดูจากข่าวทีวี ได้เกิดทางภาคเหนือบ้างแล้ว แต่แค่เริ่มต้น
    <O:p</O:p
    <O:p</O:p
    6 มิ.ย. 52 เรื่องเก่า<O:p</O:p
    H1N1<O:p</O:p
    11 มิ.ย. 52 เริ่มระบาด มีผู้ป่วย 46 ราย ตามข่าว
    <O:p</O:p
    <O:p</O:p
    7 มิ.ย. 52 ยาตราม้า<O:p</O:p
    ยาบ้าระบาด
    <O:p</O:p
    <O:p</O:p
    นี่คือสัญญาณที่ผมได้ยกตัวอย่างให้ท่านดูเป็นตัวอย่าง ท่านลองย้อนกลับไปดูสัญญาณเก่าๆของผมดูในระยะที่ผมลงมาตั้งแต่ วันที่ 5 ก.พ. 50 ท่านก็จะตัดสินใจได้ว่า ในอนาคตจะเกิดภัยพิบัติหรือไม่?<O:p</O:p
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 12 มิถุนายน 2009
  14. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,194
    แนะนำกระทู้ของ .อาชวิน จิรจินดา ครับ

    [​IMG]

    อ.อาชวิน จีรจินดา(ตาที่สาม)



    ************************************************************************************
    ผลงานเขียนที่น่าสนใจของ อ.อาชวิน จิรจินดา ครับ

    วีดีโอมือถือ
    เรื่องมหกรรมล้างแผ่นดินEpisode i

    โทรศัพท์ ธรรมดา มีมานานแล้ว ต่อมาก็มีมือถือ ถัดมาก็มีวีดีโอ และล่าสุดก็มีวีดีโอมือถือ ซึ่งคิดว่าไม่เหมือนใคร เมื่อวันพฤหัสที่ผ่านมา ขณะขับรถไปทำธุระแถว ลาดพร้าว ซอย 93 จะไปเอาหน้าปก หนังสือ "ตาที่สาม เล่ม 3" ไปให้เขาแก้ เฉดสีให้สดขึ้น เพราะหนังสือกำลังจัดพิมพ์ คาดว่าการพิมพ์จะแล้วเสร็จประมาณกลางเดือน มิถุนายน 2548

    ขณะขับไป ก็เห็นรูปของพระพุทธองค์ลอยมาบนฟ้าทางทิศเหนือ เป็นพระพุทธรูปสีทองเหลืองอร่าม ก็ตั้งจิต เพราะรู้ว่าเป็นการส่งข่าวจากเบื้องบน เมื่อกำหนดจิตก็ได้ความว่าให้ไปที่บ้านคนที่รู้จักดี คนหนึ่ง เพราะคาดว่าต้องมีเรื่องสำคัญ เราก็ไป เจ้าของบ้าน ก็พอดีกลับมา จึงพากันเข้าไปในห้องพระ และได้เห็นพระพุทธรูปที่ศักดิ์สิทธิ์และสำคัญยิ่ง มีปาฏิหาริย์มากมายเกิดขึ้นที่ห้องพระนั้น วันหลังจะขยายให้ฟัง

    วันศุกร์ตอนบ่าย เจ้าของบ้านพระพุทธรูปก็แวะมาที่บูธ บอกว่า "พระพุทธรูปท่านฝาก วีดีโอมาให้อาจารย์ดู ขณะนี้อยู่ในมือข้างขวาของผม ขอให้อาจารย์ดู จะได้หมดหน้าที่ของผู้ถือสาร เพราะหนักมือ เพราะท่านใช้วิธีจารอัด ลงไป" เออ..เคยเจอวีดีโอ ที่เป็นแผ่นกลมๆเล็กๆ นี่มาเป็นมือของคน ก็แปลกดี..ก็ไม่คิดอะไร..อาจจะเป็นไปได้..จึงกำหนดจิต เพ่งไปที่มือ ของเขา..โอ้โฮ.เป็นวีดีโอ ภาพสีจริง แต่ภาพในมือมันเล็กไป จึงกดคลิกๆๆ แบบคุณ Freeek ย้ายภาพ และขยายให้ไปอยู่บนฟ้า นั่งดูเหมือนอยู่ในโรงหนัง วีดีโอนั้น เป็นสามม้วน เป็น มหกรรมชนิด StarWar มี 3 episode

    ม้วนแรกเริ่มด้วย มองเห็นโลกจากระยะไกล ประมาณครึ่งทาง โลก-ดวงจันทร์ เป็นโลก ขาว ปกคลุมไปด้วยไอน้ำและควันสีเทา ภาพค่อยๆๆ ซูมลงมา พอใกล้ก็จำได้ว่า เป็นภูมิภาคเอเซียตลอดทั้งทวีป มองเห็นประเทศไทยที่เป็นด้ามขวานทอง

    ภูมิทัศน์ทางภูมิศาสตร์ที่เคยเห็นจนชินตา และจำได้ตอนเรียนหนังสือเปลี่ยนไป ด้ามขวานแคบและแหว่งวิ่นเห็นได้ชัด ทั้งฝั่งอ่าวไทย และฝั่งอันดามัน ทำให้ขนาด เหลือประมาณ 70 % เทียบกับของเดิม..และจะขาดออกเป็นสามท่อน ในช่วงการปรับครั้งสุดท้าย

    อ่าวไทย กว้างขึ้น ฝั่งตะวันออกหายไปแยะ หายลึกเข้าไปถึง แปดริ้ว ปลวกแดง ไม่มีชลบุรี ศรีราชา เหลือเกาะสัตตหีบเล็กๆ โรงไฟฟ้าบางปะกง กฟผ. ที่เราเคยมีส่วนในการสร้างก็หายไป หมายความว่า หลังการกวาดล้างและแก้ระบบนิเวศน์โดยเบื้องบน ภาพที่เห็นคือ ผลสุดท้ายของการปรับและกวาดล้าง เพื่อ ชีวิตและนิเวศน์ที่ี่ดีกว่า..หลังจากถูกมนุษย์ย่ำยีจนเป็นอันตรายต่อการดำรงสภาพชีวิตของชนรุ่นหลัง จากนั้นในวีดีโอได้แสดงให้เห็นว่า ขั้นตอนการปรับสภาพนิเวศน์ของอ่าวไทยเกิดขึ้นได้อย่างไร มีรายละเอียดมาก จะขอข้ามไปก่อน

    มหกรรมภาค2 Episode ii

    เริ่มด้วยมองเห็นท้องน้ำและฟ้ามืดมาก มองสลัวพอจำเค้าได้ว่าเป็นส่วนหนึ่งของแม่น้ำเจ้าพระยา ฟ้ามืด อากาศมัวมาก เหมือนกรุงเทพฯ ตกอยู่ในหมอกแห่งความน่ากลัว..มองเห็นสิ่งหนึ่งมีสีทองสว่างท่ามกลางความมืด..ล่องลอยมาตามลำน้ำ..พอเข้ามาใกล้ก็ เห็นชัด นั่นคือ หัวพญานาค 7 เศียร ลอยมาเหนือน้ำ .....พญานาคมาทำไม

    ทันใด ก็ชัดเจนขึ้นว่า เป็นหัวเรืออนันตนาคราช ซึ่งเป็นหนึ่งในขบวนเรือพระที่นั่งของกาตริย์แห่งราชวงศ์จักรีขนาดเรือ เท่าของจริง มองเห็นผู้ที่กำลัง เป็นผู้ควบคุมเรือ ท่านคือ องค์พิฆเนศวร กำลังให้สัญญาณในการบังคับเรือ มองเห็นว่า ด้านท้ายเรือ ผู้ที่ทำหน้าที่ถือหางเสือเรือ คือ พญาครุฑ ซึ่งเป็น สัตว์เทพพาหนะคู่บารมีของพระเจ้าแผ่นดิน

    กลางลำเรือมองเห็นชัดเจน พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลปัจจุบัน ทรงประทับยืน ในพระหัตถ์ทรงถือธารพระกรหรือคฑา ทรงค่อยๆๆชูคฑานั้นขึ้นสูงเหนือพระเศียร ทันใดพระคฑาก็กลายเป็นคบเพลิงใหญ่สว่างโรจน์ เหมือนภาพรูปปั้นอนุสาวรีย์เสรีภาพ ที่หน้าอ่าวแมนฮัตตัน ของอเมริกา

    ความสว่างและความร้อนของเพลิง ขับไล่ความมืดมัว ท้องฟ้าที่มีสีดำ เหมือนมนต์อาถรรพ์ เริ่มละลายเป็นช่องโหว่ที่ตำแหน่ง เหนือพระเศียร..... พอช่องโหว่ได้ที่ พระองค์ก็ทรงโยนพระคฑาขึ้งสูง เหมือน ดรัมเมเดยอร์โยนคฑาขึ้นฟ้า คฑาที่ลอยขึ้น กลายเป็น เศวตฉัตร 9 ชั้นสีเงิน เศวตฉัตรนั้น ลอยขึ้นสูงอย่างช้าๆ เมื่อไปแตะเมฆดำทึบมืดมนต์ ก็เกิดสายฟ้าแลบกว้างไกล...ท้องฟ้าทั้งหมด สว่างขึ้นทันตา..ความมืดมัวและอาถรรพ์นั้นหายไปจนหมดสิ้น..ฟ้าเปิดแล้ว

    ทั้งหมดแปลว่า ท่ามกลางความยุ่งยากของความวิปริตของธรรมชาตินั้น ในที่สุดก็คลี่คลายด้วยพระบารมี ของในหลวงรัชกาลปัจจุบัน โดยการร่วมมือของพญานาค องค์พิฆเนศวร(ฝ่ายเทพ) พญาครุฑ(จากฟ้า) และองค์มหาเทพ ในหลวงรัชกาลที่ 9..ที่ทรงสเด็จลลงมาช่วยแก้ไขประเทศไทยไว้..อันเป็นบารมีสูงสุด

    ม้วนที่สามEpisode iii

    เป็นภาพท้องน้ำเจ้าพระยาอีกครั้ง มองเห็นลำน้ำใส มองเห็นทิวแม่น้ำและท้องทุ่ง สดเขียวขจี ทุกแห่งมีแต่ความสมบูรณ์ ผู้คนล้วนแต่งในชุดขาว หน้าตาสดใส เป็นผู้คนที่มาจากฟ้าหลังฝน มองเห็นแต่ความเจริญ ดังคำกล่าวที่ว่า เป็นการเริ่มยุคแห่งพระศรีอาริยเมตไตรย..เป็นความร่วมมือของ พระแม่ธรณี พระแม่คงคา พระแม่โพสพ พระแม่สุวรรณมัจฉาและพระพิรุณ..โดยแท้

    ทางฝั่งขวาของแม่น้ำ มองเห็นองค์พระพุทธรูปปางลีลา สูงเด่นมองเห็นแต่ไกล ซึ่งแสดงระหัสว่า พระพุทธศาสนาจะคงอยู่ในประเทศไทย เป็นหลักให้คนทำดี ได้มีโอกาสทำดีต่อไป...หลังจากที่ฝนพายุได้ผ่านไป

    มองเห็นพระพุทธคยา ตั้งเด่นซ้อนอยู่กับองค์พระพุทธรูป ขนาดสูงใหญ่...ซึ่งเป็นนิมิตหมายว่า ประเทศไทยจะเป็นศูนย์กลางการเผยแผ่ศาสนาพุทธอันยิ่งใหญ่ในอนาคต

    เมื่อเป็นเช่นนี้แล้ว..พวกเราในวันนี้ เราควรจะทำเช่นใด..ผู้ที่มีวิจารณาญาณที่ดี ก็คงจะรู้ว่าจะต้องทำอะไร มองดูทั่วโลก ยุโรปเปลี่ยนแปลงน้อย อเมริกา เหมือนถูกทุบ มองเห็นร่องน้ำใหญ่ ที่เกิดจากถูกฝ่ามือกดลงไป กลายเป็นร่องน้ำกว้างหลายร้อยไมล์ยาวกว่าพันไมล์ ห้าร่อง แปลว่าจะมีคนตายนับล้านที่นั่นเอเซีย นั้นไม่มีสิงค์โปร์ ไม่มีฟิลิปปินส์ ไม่มีเกาะญี่ปุ่น อินโดนีเซียเหลือเพียงบางส่วน ฯลฯ

    เช้านี้เวลาตีห้า มีกระแสเข้ามาทางจิตว่า มีจานบินจากดาวต่างๆๆ เข้ามาวนอยู่รอบโลกในระดับสูงมากกว่า 200 ลำ เพื่อช่วยเหลือมนุษย์ที่จะต้องเผชิญกับ ภัยธรรมชาติ

    ความสำคัญจึงอยู่ที่ว่า...พวกเราพร้อมหรือยัง..มหกรรม ยกแรก Episode i กำลังจะเริ้มขึ้นแล้ว...ขอให้ทุกท่านจงปลอดภัย ตามแรงบุญและความดี ที่ได้สะสมไว้ ..ตลอดหลายภพ หลายชาติที่ผ่านมา..สวัสดี

    จากคุณ : ตาที่สาม - [ 15 พ.ค. 48 07:14:57 ]

    เมื่อวันก่อน ได้เล่าเรื่องมหกรรมล้างแผ่นดิน ไว้เป็นสามภาค หรือ Episode i ii iii และมีคนพยายามที่จะรู้ว่า จะเริ่มเมื่อใด ได้สนทนากับผู้ที่มีหน้าที่กดปุ่มเริ่มต้นแล้ว ได้ความยาว ค่อนข้างยาวแต่จะขอย่อมาไว้ดังนี้

    1. มหกรรมนั้น ที่จริง จะเริ่ม ตั้งแต่ปี 2547 แต่บรรดา หลวงปู่ หลวงพ่อ ศักดิ์สิทธิ์ของพวกคนไทย นับร่วมสิบ ได้ขอ ใช้บารมี เลื่อนออกไป

    2. เมื่อหนึ่งเดือนที่ผ่านมา ก็จะได้กำหนดอีกครั้ง ก็ถูกขอเลื่อนไปได้อีกครั้ง โดย หลวงปู่ หลวงพ่อ ทั้งหลาย

    การขอเลื่อนสองครั้ง ทำให้บารมีหมดลงไปมาก และเบื้องบนยินยอม แต่ในครั้งที่สามนี้ บารมีของหลวงปู่หลวงพ่อทั้งหลาย จะไม่มากพอที่จะเลื่อนการกวาดล้างเป็นไป ตามธรรมชาติกำหนด เพื่อล้างสิ่งที่เลวร้ายทั้งคน วิญญาณ และสภาพแผ่นดิน นิเวศน์วิทยา ให้ลดลง สิ่งที่ตามมาคือ สภาพสังคม สภาพสิ่งแวดล้อมที่ดีกว่าและชีวิตที่ดีกว่า

    น้ำหนักของกรรมนั้นบัดนี้เต็มตราชั่งแล้วแต่ ที่ยังกดปุ่มไม่ได้ เพราะน้ำหนักของกรรม (คนบาป คนเลว) ยังกระจายอยู่นอก Killing one หรือ พื้นที่ กำจัด ในไม่ช้าจะต้องมีการดลใจและชักนำทางอ้อมให้ เป้าหมาย เคลื่อนย้ายเข้าสู่ คิลลิ่งโซน เมื่อครบน้ำหนัก มหกรรมนั้นก็จะเริ่ม

    เหมือนปลาในบ่อใหญ่ หรือตามคลองหน้าวัด ธรรมดา จะกระจายกันอยู่ ทั่วท้องน้ำ วิธีที่ปลาจะมาออรวมกันก็คือ ต้องมีสิ่งล่อใจ เช่น ตามลานบุญ ในวัด ตามหน้าวัด ที่มีการให้อาหารปลา เมื่อมาเต็ม ก็โยนระเบิดปลาใส่ ก็จะจบเรื่อง..เรื่องนี้ก็จะทำนองเดียวกัน

    เมื่อรู้หลักนี้แล้วก็คงจะรู้ไม่ยากว่า การกดปุ่มจะเริ่มเมื่อใด ลองไล่ปฏิทินดู การตายของมนุษย์ไม่ใช่เรื่องใหญ่ ไม่ใช่เรื่องน่ากลัว เพราะเป็นการเปลี่ยนสภาพจากเดิม ไปเป็นรูปอื่น ที่เป็นเหตุเป็นผลกับกรรมที่ได้ทำไว้ครับ

    จากคุณ : ตาที่สาม - [ 6 มิ.ย. 48 15:36:35 ]

    ที่มาhttp://topicstock.pantip.com
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 12 มิถุนายน 2009
  15. kananun

    kananun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2006
    โพสต์:
    10,282
    ค่าพลัง:
    +114,775
    สถานการณ์ไข้หวัดขณะนี้ เพาะตัวในช่วงใกล้การระบาดแล้ว

    ต่อจากนี้ไปจะเริ่มมีคนติดเพิ่มมากขึ้น ได้อย่างรวดเร็วดังที่เราเห็นจากข่าวที่ปรากฏว่า ติดพรึ่บเดียว หลายสิบคน


    พอพ้นจากสเตจนี้ก็จะเป็นช่วงพีคของการระบาดครั้งใหญ่ เริ่มมีผู้เสียชีวิตอย่างรวดเร็วกัน


    ดังนั้นหากเป็นไปได้อยากให้ทุกๆคนช่วยกันดูแลรักษาสุขภาพ ให้แข็งแรงเอาไว้อย่าปล่อยให้ไม่สบายครับ

    จุดสำคัญในการแพร่กระจายเชื้อโรคอยู่ที่ห้องแอร์ ตามสถานที่ชุมนุมชน คนจำนวนมากๆ

    อย่างกรณีที่รร. เซนต์คาเบรียล นั้นเรียนในห้องแอร์กันเลยติดหวัดกันหมด

    เท่าที่สำรวจดูที่ร้านขายยา ตอนนี้เริ่มสต๊อคหน้ากาก และผ้าปิดจมูกกันแล้วครับ

    อีกไม่นานได้ใส่กันทุกคนเวลาออกจากบ้านแน่นอนครับ
     
  16. ragpon

    ragpon เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    456
    ค่าพลัง:
    +954
    ถ้าต้องจำเป็นต้องพบผู้ปวยร้ายแรงต่างๆใน อนาคต ใช้ญาต พี่น้อง หรือไม่นั้น ก็ควรให้ความช่วยเท่าที่ช่วยได้ และ ให้กำลังใจสุดท้ายเพื่อพวกเขาเหล่านั้นด้วยน่ะครับ ย่อมหน้าเห็นใจผู้คนเหล่านี้ เหตุ และ ผล ย่อมเกิดแก่ทุกคนเสมอของใครก็ของมัน และ สิ่งที่เราจะมอบให้ด้วยเช่นกัน แต่ อะไรละที่เราจะมอบให้ผู้อื่นในโอกาศสุดท้ายที่เราจะมอบให้ได้
     
  17. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,194
    โอเซลทามิเวียร์(Oseltamivir) ทามิฟลู(Tamiflu)
    ยาต้านไวรัสไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ H1N1 2009

    เวลาเราดูข่าวเกี่ยวกับ เชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่ สายพันธุ์ใหม่ H1N1 2009 เราก็มักจะได้ยินเรื่องของยาต้านไวรัสที่จะกล่าวถึงเสมอคือ ยาโอเซลทามิเวียร์(Oseltamivir) ซึ่งเจ้ายาโอเซลทามิเวียร์ เป็นชื่อทางวิทยาศาสตร์ส่วนชื่อทางการค้าที่เรามักจะได้ยินกันคือ ทามิฟลู(Tamiflu) คุ้นใช่ไหมครับ มันคือตัวยาตัวเดียวกับที่ใช้รักษาโรคไข้หวัดนกนะครับ อันเดียวกันเลย และข่าวดีของคนไทยคือ ประเทศไทยโดยองการเภสัชกรรม หรือ GPO ได้ผลิตยาโอเซลทามิเวียร์(Oseltamivir) ได้แล้วในประเทศไทย

    [​IMG]

    “โอเซลทามิเวียร์” เป็นชื่อสามัญ มีบริษัทโรชเป็นเจ้าของลิขสิทธิ์ และผลิตยาตัวนี้ขายในชื่อการค้าว่า “ทามิฟลู” โดย อภ.ได้รับอนุญาตให้ผลิตยาต้านไวรัสตัวนี้ได้ในชื่อการค้าว่า “จีพีโอ-เอ-ฟลู” (GPO-A-Flu) ในราคาเม็ดละประมาณ 70 บาท หากสั่งซื้อจากต่างประเทศจะมีราคาเม็ดละ 100 กว่าบาท แต่การผลิตจีพีโอ-เอ-ฟลูต้องทำภายใต้สิทธิบัตรของบริษัทโรช และต้องจำหน่ายภายในไทยเท่านั้น เนื่องจาก 2 -3 ปีที่แล้วบริษัทโรชเห็นว่าไทยอยู่ในกลุ่มประเทศเสี่ยงสูงต่อการแพร่ระบาดของ เชื้อไข้หวัดนก

    ข้อมูลทั่วไปของยา โอเซลทามิเวียร์(Oseltamivir)

    [​IMG]

    โอเซลทามิเวียร์ (อังกฤษ: Oseltamivir) เป็น ยาต้านไวรัส (antiviral drug) ที่มีฤทธิ์เป็น นิวรามินิเดส อินฮิบิเตอร์ (neuraminidase inhibitor) ใช้รักษาและป้องกัน (prophylaxis) ไข้หวัดใหญ่ (influenza) เอ และ บี โอเซลทามิเวียร์เป็นยาที่ใช้รับประทานและมีผลยับยั้งเอ็นไซม์ นิวรามินิเดส พัฒนาโดย ไกลีด ไซเอนซ์ (Gilead Sciences) และทำตลาดโดย ฮอฟฟ์แมน-ลา โรช ในชื่อการค้าว่า ทามิฟลู® (Tamiflu®)

    กลไกการออกฤทธิ์

    โอเซลทามิเวียร์เป็นโปรดรัก (prodrug) ในรูปเกลือฟอสเฟต เมื่อเข้าสู่ร่างกายแล้วจะถูกไฮโดรไลซ์ (hydrolysis) โดยตับเป็นแอคตีพเมตทาโบไลต์ที่มี คาร์บอกซิเลต (carboxylate) อิสระ คล้ายกับ ซานามิเวียร์ (zanamivir) จะออกฤทธิ์เป็น ทรานซิชั่น สเตต (transition state) อะนาลอก อิฮิบิเตอร์ กับเอ็นไซม์นิวรามินิเดส ของเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่

    [​IMG]

    ข้อบ่งใช้และรูปแบบยา

    Dose แนะนำสำหรับสหรัฐอเมริกา

    ทามิฟลู® ในรูปแคปซูล 75 มก. และผงยาสำหรับสารละลานแขวนตะกอน 12 มก./มล. แนะนำให้ใช้เพื่อรักษาและป้องกันไข้หวัดใหญ่ตามขนาดการใช้ดังนี้

    * ทามิฟลู® ใช้รักษาไข้หวัดใหญ่ในผู้ป่วยที่มีอายุ 1 ขวบ ขึ้นไป ที่มีอาการมากกว่า 2 วัน มาตรฐานปริมาณการใช้สำหรับรักษาไข้หวัดใหญ่ในเด็กอายุ 13 ปี ขึ้นไป 75 มก.วันละ 2 ครั้งเป็นเวลา 5 วัน ขนาดการใช้สำหรับเด็กอายุต่างๆ ให้คำนวณตามน้ำหนัก

    * ทามิฟลู® ใช้ป้องกันไข้หวัดใหญ่ มาตรฐานปริมาณการใช้สำหรับรักษาไข้หวัดใหญ่ในเด็กอายุ 13 ปี ขึ้นไป 75 มก.วันละ 1 ครั้งเป็นเวลา 6 สัปดาห์

    Genaral Talk Thu, May 14, 2009

    ที่มา http://www.phet.in.th/2009/05
     
  18. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,194
    "หน้ากาก" ทางรอดที่เท่ได้ !!!

    [​IMG]

    คมชัดลึก : ท่ามกลางการระบาดของโรคหวัด เอ เอช 1 เอ็น 1 หน้ากากกลายเป็นสิ่งธรรมดาที่เห็นได้ทั่วโลก แต่สำหรับญี่ปุ่น ผ้าปิดปากเป็นส่วนหนึ่งของแฟชั่นบนท้องถนนมาหลายสิบปีแล้ว และการระบาดครั้งนี้ยิ่งทำให้แฟชั่นครั้งนี้กลับมาบูมอีก

    ความรักในหน้ากากของชาวญี่ปุ่น สร้างความงงงวยให้แก่ผู้มาเยือนที่รู้สึกกระอักกระอ่วนใจ กับการต้องเห็นผู้โดยสาร คนเดินทาง คนทำงาน พร้อมใจกันสวมหน้ากากแทนที่จะหันไปโรงพยาบาล

    หน้ากากเกาเซที่ได้รับการออกแบบมาเพื่อหยุดแมลง ฝุ่น และอาการแพ้ วางขายที่ร้านค้าสะดวกซื้อบนถนนแทบทุกแห่งในญี่ปุ่น ซึ่งหน้ากากที่มาจากผู้ผลิต 42 แห่งนี้ช่วยปกป้องประชากร 127 ล้านคนของญี่ปุ่นจากอากาศสกปรก

    “พื้นฐานคนญี่ปุ่นเป็นคนชอบความสะอาดและความอนามัย ผมคิดว่ามันเป็นส่วนหนึ่งของจิตสำนึกของคนญี่ปุ่นที่ต้องการจะปกป้องตัวเองจากโรคอะไรก็ตาม และความรู้สึกนั้นรุนแรงกว่าความรู้สึกอับอายที่จะต้องสวมหน้ากาก” นาโอยะ ฟูจิตะ ประธานสมาคมอุตสาหกรรมสินค้าอนามัยของญี่ปุ่นกล่าว

    ธรรมเนียมปฏิบัติในสังคมญี่ปุ่น ยังไม่เพียงแต่สั่งสอนให้ผู้คนสวมหน้ากากเพียงเพื่อปกป้องตัวเองเท่านั้น แต่ยังป้องกันไม่ให้คนอื่นต้องมาติดเชื้อจากตัวเองเมื่อยามเป็นหวัดด้วย

    ตัวเลขล่าสุดระบุว่า มีหน้ากากกว่า 1.96 ล้านชิ้น ผลิตขึ้นในญี่ปุ่นเมื่อปี 2550 ซึ่งหมายรวมถึงหน้ากากในรูปแบบต่างๆ เช่น ป้องกันไวรัสและแบคทีเรีย เกสรดอกไม้ มลภาวะจากอุตสาหกรรม อาการแห้นเครื่องบิน และเก็บกักความร้อนไว้ในหน้าหนาว

    ญี่ปุ่นยังไม่ยืนยันว่ามีผู้ป่วยติดเชื้อไข้หวัดใหญ่เอ เอช 1 เอ็น 1 ที่ระบาดจากเม็กซิโกไปยังหลายประเทศ แต่ยอดขายหน้ากากได้พุ่งขึ้นไปเรียบร้อยแล้ว หลังจากที่ญี่ปุ่นเข้าร่วมมาตรการรับมือหวัดมรณะนี้

    ยูนิชาร์ม หนึ่งในผู้ผลิตสินค้าอนามัยชั้นนำของญี่ปุ่น ได้เพิ่มการผลิตขึ้นหลังจากที่ยอดขายหน้ากากเพิ่มขึ้น 4 เท่าจากเป้าหมายที่ตั้งไว้ในเดือนเมษายน ซึ่งมากกว่ายอดขายปีต่อปีถึง 7 เท่า

    ทางสถานีโทรทัศน์ญี่ปุ่น ผู้เชี่ยวชาญหลายคนได้นำหน้ากากที่วางขายในเม็กซิโก มาส่องกล้องจุลทรรศน์ก่อนจะสรุปว่า หน้ากากที่วางขายในประเทศ ที่ใช้ผ้าใยสังเคราะห์หนากว่า สามารถหยุดยั้งไวรัสได้มีประสิทธิภาพกว่า

    เสื้อผ้ากับหน้ากากเริ่มกลายเป็นของคู่กันในญี่ปุ่นมาตั้งแต่ต้นศตวรรษที่ 20 นับแต่ประเทศเริ่มต้นเป็นประเทศอุตสาหกรรม และการปล่อยมลภาวะจากโรงงานก็เพิ่มขึ้นอย่างพรวดพราด แต่การใช้อย่างแพร่หลายคือในช่วงปี 2462 ในช่วงที่ไข้หวัดสเปนระบาด และใช้แพร่หลายอีกเมื่อเกิดแผ่นดินไหวใหญ่ในเมืองคันโตปี 2466 และช่วงที่ไข้หวัดสเปนกลับมาระบาดอีกเมื่อปี 2477

    จากนั้นหน้ากากเริ่มเป็นเครื่องประดับคู่ชาวญี่ปุ่นไปแล้ว ทั้งจากการที่ยอดขายเพิ่มขึ้นในช่วงฤดูหนาว และช่วงความหวาดวิตกเรื่องโรคซาร์สระบาดเมื่อ 6 ปีที่แล้ว

    ในกรุงโตเกียว ผู้คนใช้หน้ากากเพื่อลดการสูดดมมลภาวะ และอาการแพ้เกสรดอกไม้ที่ลอยมาจากป่ารายรอบเมืองหลวง อันเกิดจากนโยบายปลูกป่าหลังสงครามโลกครั้งที่ 2

    ด้วยความหลงใหลแฟชั่น ทำให้ไม่ใช่เรื่องแปลกใจเลยที่ผู้ผลิตหน้ากากจะทำหน้ากากออกมาสำหรับทุกโอกาส ตั้งแต่หน้ากากเฮลโล คิตตี้สีชมพูหวานแหววไปจนถึงตลาดบนที่ผลิตหน้ากากแปะแบรนด์ยี่ห้อหรูลงไป

    ยูนิชาร์มส์ถึงกับผลิต “มาสก์ คอลเลกชั่น” ที่ประดับเพชรหรู และแบบที่ไม่เปื้อนลิปสติก พร้อมทั้งออกสารพัดวิธีในการใส่หน้ากากให้เข้ากับเสื้อผ้าหน้าผมแบบต่างๆ ด้วย

    แต่ไม่ว่าจะสวมแบบธรรมดาหรือแบบเก๋ไก๋ คำถามก็ยังคงเป็นเช่นเดิมว่า หน้ากากจะทำหน้าที่ได้มีประสิทธิภาพแค่ไหน

    เมื่อเจ้าหน้าที่การแพทย์อังกฤษเตือนว่า หน้ากากได้ทำให้เกิดความเข้าใจผิดเกี่ยวกับการป้องกันหวัด ขณะที่หนังสือพิมพ์เจแปน ไทม์ส ก็อภิปรายกันเรื่องคุณค่าของหน้ากากป้องกันหวัดที่แตกต่างกัน ระหว่างญี่ปุ่นและอังกฤษ

    ผู้เชี่ยวชาญหลายคนระบุว่า ระดับของการป้องกันนั้นขึ้นอยู่กับหน้ากากว่าใส่มานานเพียงใด และใส่ในสภาพแวดล้อมแบบไหน

    “ดีกว่าไม่สวมอะไรเลย เป็นเรื่องยากที่จะป้องกันไวรัสในอากาศที่สามารถเล็ดลอดเข้าไปในช่องว่างได้ สิ่งดีที่สุดคือการหลีกเลี่ยงคนกลุ่มใหญ่ โดยเฉพาะในพื้นที่แบบปิด เพราะไวรัสสามารถแพร่กระจายได้เร็วกว่าอยู่ในพื้นที่เปิดโล่งที่ไวรัสเหล่านี้สามารถถูกทำลายได้ด้วยแสงอาทิตย์” ยูกิฮิโระ นิชิยามะ ศาสตราจารย์ด้านไวรัสวิทยาประจำคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยนาโกยา กล่าวทิ้งท้าย

    ที่มาhttp://www.komchadluek.net
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 13 มิถุนายน 2009
  19. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,194
    เกิดแผ่นดินไหว 6.3 ริกเตอร์นอกชายฝั่งวานูอาตู

    [​IMG]

    ซิดนีย์ 12 มิ.ย. – สำนักงานสำรวจธรณีวิทยาสหรัฐรายงานว่า เกิดแผ่นดินไหว ขนาด 6.3 ริกเตอร์ นอกชายฝั่งเกาะวานูอาตูในมหาสมุทรแปซิฟิกในวันนี้ แต่ไม่มีรายงานความเสียหายหรือผู้บาดเจ็บแต่อย่างใด

    แผ่นดินไหวมีศูนย์กลางห่างจากกรุงพอร์ตวิลาไปทางทิศพายัพเฉียงตะวันตก 62 กม. และอยู่ลึกลงไป 53 กม.เกิดขึ้นเมื่อเวลา 20.44 น.ตามเวลาท้องถิ่น หรือตรงกับเวลา 16.44 น. ตามเวลาในไทย เจ้าหน้าที่ตำรวจกล่าวว่า ยังไม่ได้รับรายงานความเสียหายใด ๆ ด้านศูนย์เตือนภันสึนามิในแปซิฟิกในรัฐฮาวายไม่ได้ออกคำเตือนที่เกี่ยวกับแผ่นดินไหวครั้งนี้แต่อย่างใด วานูอาตูตั้งอยู่ในแนววงแหวนไฟแปซิฟิก ซึ่งมักเกิดแผ่นดินไหวและภูเขาไฟปะทุบ่อยครั้ง.-สำนักข่าวไทย

    2009-06-12 18:00:31

    เกิดแผ่นดินไหว 5.5 ริคเตอร์ที่อินโดนีเซีย

    [​IMG]

    จาการ์ตา 11 มิ.ย.-เกิดแผ่นดินไหววัดแรงสั่นสะเทือนได้ 5.5 ริคเตอร์ที่จังหวัดเบงกูลูของอินโดนีเซีย แต่ยังไม่มีรายงานความเสียหายต่อชีวิตและทรัพย์สิน

    แผ่นดินไหวเกิดขึ้นในเวลา 07.16 น.ตามเวลาประเทศไทย โดยมีจุดศูนย์กลางห่างจากเมืองบินตูฮัน ชายฝั่งเกาะสุมาตราไปทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ 61 กิโลเมตร และอยู่ลึกลงไป 22 กิโลเมตร แต่ไม่มีการแจ้งเตือนภัยคลื่นยักษ์สึนามิ

    อินโดนีเซียตั้งอยู่บริเวณที่เรียกว่า “วงแหวนแห่งไฟ” ซึ่งเป็นการมาบรรจบกันของเปลือกทวีปเป็นเหตุให้เกิดทั้งแผ่นดินไหวและภูเขาไฟระเบิดบ่อยครั้ง.-สำนักข่าวไทย

    2009-06-11 09:47:32

    WHO ยกระดับเตือนภัยหวัด 2009 สู่ขั้นสูงสุดระดับ 6

    [​IMG]

    สวิตเซอร์แลนด์ 12 มิ.ย.-องค์การอนามัยโลกยกระดับเตือนภัยไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 สู่ระดับสูงสุด ยอมรับไม่สามารถหยุดยั้งการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสได้

    ถ้อยแถลงของ ดร.มาร์กาเร็ต ชาน ผู้อำนวยการองค์การอนามัยโลก มีขึ้นหลังการประชุมคณะผู้เชี่ยวชาญขององค์การอนามัยโลก ที่นครเจนีวา สวิตเซอร์แลนด์ ดร.ชาน กล่าวว่า จำเป็นต้องยกระดับการเตือนภัยสู่ระดับสูงสุด เนื่องจากพบการระบาดจากภูมิภาคอเมริกาเหนือไปยังออสเตรเลีย เอเชีย และยุโรปแล้ว และว่าโลกกำลังเผชิญกับโรคระบาดครั้งแรกในศตวรรษที่ 21 และเป็นเรื่องยากที่จะควบคุมเชื้อไวรัสไม่ให้ลุกลามได้ อย่างไรก็ดี เชื้อไวรัสเอช 1 เอ็น 1 มีความรุนแรงไม่มากนัก การยกระดับเตือนภัยจึงไม่ได้หมายความว่า จะพบผู้เสียชีวิตหรือผู้ป่วยอาการรุนแรงเพิ่มขึ้น

    ผู้อำนวยการองค์การอนามัยโลก เตือนว่า คนที่อายุ 30-50 ปี หญิงมีครรภ์หรือผู้มีอาการป่วยเรื้อรัง เช่น โรคหืด เบาหวาน หรือโรคอ้วน มีความเสี่ยงสูง และแม้เวลานี้การระบาดของเชื้อไวรัสตัวใหม่จะคงที่แล้ว แต่หากไปรวมกับเชื้อเอช 5 เอ็น 1 ของไข้หวัดนก ก็จะเป็นอันตรายถึงชีวิตมากขึ้น

    ดร.ชาน กล่าวอีกว่า องค์การอนามัยโลกจะเริ่มแจกจ่ายยาทามิฟลูของบริษัทโรช 5.65 ล้านชุด พร้อมขอให้ผู้ผลิตยาผลิตวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ตามฤดูกาลต่อไป ซึ่งในแต่ละปีไข้หวัดใหญ่ทั่วไปทำให้มีผู้เสียชีวิตถึง 500,000 คน และติดเชื้อหวัดอีกหลายล้านคน ขณะที่บริษัทยาชั้นนำกำลังพัฒนาวัคซีนป้องกันไวรัสเอช 1 เอ็น 1 อยู่แล้ว อย่างไรก็ตาม ตลาดโลกยังคงไม่สนใจปัญหาการระบาดของไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ เนื่องจากนักลงทุนต่างพากันให้ความสนใจการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก

    ทั้งนี้ มีรายงานพบการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสแล้วเกือบ 28,000 รายใน 74 ประเทศ นับเป็นการยกระดับการเตือนภัยโรคระบาดครั้งแรกในรอบ 41 ปีขององค์การอนามัยโลก นับตั้งแต่การแพร่ระบาดของไข้หวัดใหญ่ฮ่องกง เมื่อปี พ.ศ.2511 ซึ่งคร่าชีวิตผู้คนกว่า 1 ล้านคน.-สำนักข่าวไทย

    2009-06-12 05:06:22

    ออสเตรเลียประชุมด่วนหลังอนามัยโลกเตือนภัยไข้หวัดใหญ่ถึงขีดสุด

    [​IMG]

    ซิดนีย์12 มิ.ย.-ทางการออสเตรเลียพิจารณาเพิ่มระดับการเตือนภัยไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ในวันนี้ ภายหลังจากที่องค์การอนามัยโลกประกาศเตือนภัยการระบาดถึงขั้นสูงสุดแล้ว ขณะที่นายกรัฐมนตรีออสเตรเลียยอมรับว่า ออสเตรเลียซึ่งได้รับผลกระทบหนักที่สุดในเอเชีย-แปซิฟิก กำลังเผชิญกับปัญหาการระบาดครั้งใหญ่

    ก่อนหน้านี้องค์การอนามัยโลกประกาศเตือนภัยการระบาดของไข้หวัดใหญ่ดังกล่าวซึ่งนับเป็นการระบาดหนักเป็นครั้งแรกในรอบ 40 ปี จากนั้นเพียงไม่กี่ชั่วโมงเจ้าหน้าที่ด้านสาธารณสุขของออสเตรเลียร่วมหารือฉุกเฉินเพื่อเพิ่มระดับการเตือนภัยให้สูงขึ้น ซึ่งมาตรการใหม่จะรวมถึงการปิดสนามกีฬา จำกัดการเดินทาง และปิดพรมแดน นายกรัฐมนตรีเควิน รัดด์ ของออสเตรเลีย กล่าวว่า ออสเตรเลียได้เตรียมการรับมือการระบาดอย่างเต็มที่แล้ว แต่เตือนว่าการเดินทางไปมาอาจสร้างปัญหาได้ ล่าสุดออสเตรเลียมีผู้ติดเชื้อจำนวน 1,307 คน .-สำนักข่าวไทย

    2009-06-12 08:37:58

    พบเด็ก รร.ญี่ปุ่นในเยอรมนี 46 คน ติดไข้หวัดสายพันธุ์ใหม่

    [​IMG]

    เบอร์ลิน 12 มิ.ย. - เจ้าหน้าที่ของทางการเยอรมนี รายงานว่า จำนวนเด็กในโรงเรียนญี่ปุ่นในเยอรมนีที่มีรายงานยืนยันว่าติดเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ เพิ่มเป็น 46 คนแล้ว

    โรงเรียนดังกล่าวมีเด็กราว 560 คน ตั้งอยู่ในเมืองดึสเซลดอร์ฟ ทางตะวันตกของเยอรมนี และถูกสั่งปิดตั้งแต่วันอังคารที่ผ่านมา ส่วนเด็กที่ติดเชื้อถูกกักตัวไว้ในบ้าน โรงเรียนพบเด็กติดเชื้อรายแรกเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา นายกเทศมนตรีเมืองดึสเซลดอร์ฟ กล่าวว่า กำลังพยายามกระทำทุกวิถีทาง เพื่อติดตามตัวผู้ติดเชื้อให้ได้โดยเร็ว พร้อมกันนี้ ยังได้กล่าวแสดงความเชื่อมั่นว่า มาตรการต่าง ๆ ทั้งที่ท่าอากาศยานและโรงเรียนญี่ปุ่น จะสามารถสกัดกั้นการระบาดของโรคได้

    รายงานขององค์การอนามัยโลก ระบุว่า มีผู้ติดเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่แล้วเกือบ 29,000 คน ใน 74 ประเทศ และมีผู้เสียชีวิตไปแล้วเกือบ 150 คน นับแต่พบในเม็กซิโก เมื่อเดือน เม.ย.ที่ผ่านมา. - สำนักข่าวไทย

    2009-06-12 17:44:56

    โนวาร์ตีสเผยผลิตวัคซีนไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ชุดแรกได้สำเร็จ

    [​IMG]

    บาเซิล 12 มิ.ย. - โนวาร์ตีส เอจี บริษัทผลิตยารายใหญ่ของสวิตเซอร์แลนด์ ระบุวันนี้ว่า ประสบความสำเร็จในการผลิตวัคซีนไข้หวัดใหญ่ชนิดเอ เอช 1 เอ็น 1 ชุดแรกได้เร็วกว่าที่คาดไว้หลายสัปดาห์

    โนวาร์ตีส เอจี ระบุว่า วัคซีนชุดนี้ผลิตขึ้นจากการเพาะเลี้ยงในเซลล์ ไม่ได้ใช้วิธีเพาะเลี้ยงในไข่เหมือนการผลิตวัคซีนทั่วไป โดยจะเริ่มใช้ทดลองในสัตว์ก่อน และกำลังพิจารณาทำการทดสอบในคนต่อไป สำหรับวัคซีนชุดนี้ผลิตขึ้นที่โรงงานในเมืองมาร์บูร์ก ของเยอรมนี ซึ่งมีขีดความสามารถในการผลิตวัคซีนได้สัปดาห์ละหลายล้านชุด และบริษัทกำลังก่อสร้างโรงงานแห่งที่ 2 ในเมืองฮอลลี สปริงส์ รัฐนอร์ทแคโรไลนา ของสหรัฐ

    ขณะนี้บริษัทได้รับคำสั่งซื้อวัคซีนจากรัฐบาลต่างๆในกว่า 30 ประเทศ รวมทั้งกระทรวงสาธารณสุขและบริการมนุษยชนของสหรัฐ ซึ่งสั่งซื้อวัคซีนมูลค่า 289 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 9,826 ล้านบาท) ไปเมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา -สำนักข่าวไทย

    2009-06-12 15:42:09

    พายุกระหน่ำสหรัฐ ผู้คนในรัฐเท็กซัสกว่า 2 แสนคนไม่มีไฟฟ้าใช้

    [​IMG]

    สหรัฐฯ 12 มิ.ย. - พายุฝนฟ้าคะนองส่งผลให้ผู้คนทางตอนเหนือของรัฐเท็กซัส กว่า 2 แสนคน ไม่มีกระแสไฟฟ้าใช้ การจราจรทั้งทางบกและทางอากาศเป็นอัมพาต

    พายุฝนฟ้าคะนองที่โหมกระหน่ำรัฐเท็กซัส ส่งผลให้ผู้คนทางตอนเหนือของรัฐเท็กซัส ร่วม 245,000 คน ไม่มีกระแสไฟฟ้าใช้ น้ำที่ท่วมขังและไฟจราจรที่ขัดข้องตามท้องถนนสายต่าง ๆ ทำให้การจราจรเป็นอัมพาต อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีรายงานผู้เสียชีวิตหรือได้รับบาดเจ็บ

    ขณะที่มีรายงานว่า ความรุนแรงของพายุฝนฟ้าคะนองได้เริ่มบรรเทาลงแล้ว พื้นที่ที่ได้รับความเสียหายจากพายุฝนฟ้าคะนองครั้งนี้มากที่สุด ได้แก่ พื้นที่ทางตอนเหนือชานเมืองดัลลัส และเมืองฟอร์ธ เวิร์ธ นอกจากนี้ คาดว่าอิทธิพลของพายุฝนฟ้าคะนองยังเป็นเหตุให้เกิดเพลิงไหม้บ้านหลังหนึ่งใกล้กับเมืองดัลลัสด้วย

    ส่วนการคมนาคมสัญจรที่ท่าอากาศยานนานาชาติดัลลัส ฟอร์ธเวิร์ธ ขณะนี้สามารถเปิดให้บริการได้ตามปรกติแล้ว.-สำนักข่าวไทย

    2009-06-12 11:12:14

    พบเพิ่ม 3 ศพในจุดเครื่องบินแอร์ฟรานซ์ตก

    [​IMG]

    เรซิเฟ 12 มิ.ย. - กองทัพเรือบราซิลกู้ศพได้อีก 3 ศพบริเวณที่เครื่องบินแอร์ฟรานซ์ตกในมหาสมุทรแอตแลนติก ทำให้ยอดรวมศพที่พบมีจำนวน 44 รายแล้ว

    เครื่องบินแอร์บัสเอ 330 ของสายการบินแอร์ฟรานซ์เที่ยวบิน 447 เส้นทางจากนครริโอเดอจาเนโรมายังกรุงปารีส ประสบอุบัติเหตุตกในมหาสมุทรแอตแลนติกเมื่อวันที่ 1 มิถุนายน ทำให้ผู้โดยสารบนเครื่องทั้งหมด 228 คนเสียชีวิต ส่วนศพที่พบจะส่งต่อไปยังเมืองเรซิเฟของบราซิลในวันเสาร์และวันอาทิตย์นี้เพื่อตรวจสอบต่อไป

    เจ้าหน้าที่กล่าวว่า ยิ่งเวลาผ่านไปนานเท่าไร การค้นหาร่างผู้เสียชีวิตก็ยิ่งลำบากมากขึ้น และแนวโน้มการหาศพให้พบทั้งหมดนั้นเป็นเรื่องยากมาก อย่างไรก็ตาม ปฏิบัติการค้นหาจะดำเนินต่อไปอย่างน้อยจนถึงวันที่ 19 มิถุนายนนี้ .-สำนักข่าวไทย

    2009-06-12 08:57:34

    อียูวิตกปัญหารัฐบาลพม่าใช้กำลังปราบกลุ่มกะเหรี่ยง

    [​IMG]

    บรัสเซลส์12มิย.-แถลงการณ์ของสาธารณรัฐเช็กซึ่งเป็นประธานสหภาพยุโรปในปัจจุบัน กล่าวแสดงความวิตกอย่างยิ่งต่อการที่รัฐบาลทหารพม่าใช้กำลังปราบปรามกลุ่มกบฏชาวกะเหรี่ยงมากขึ้น จนทำให้พลเรือนจำนวนมากต้องอพยพหนีเข้าประเทศไทย และเรียกร้องให้สงบศึกกันโดยเร็ว

    แถลงการณ์ของประธานอียู ระบุว่า รัฐบาลพม่าไม่ควรใช้ปฏิบัติการทางทหารปราบปรามชนกลุ่มน้อย ซึ่งจะยิ่งทำให้ไร้เสถียรภาพ แตกแยกกันในระยะยาว และเพิ่มความเกลียดชังกันมากขึ้น ดังนั้น อียูจึงขอเรียกร้องให้ทั้งรัฐบาลทหารและกองกำลังกะเหรี่ยงหยุดยิงในทันที รวมทั้งขอให้รัฐบาลและกองทัพปกป้องพลเรือน ทำตามหลักกฎหมายด้านมนุษยธรรมและสิทธิมนุษยชนระหว่างประเทศ

    อียูระบุว่าวิตกอย่างยิ่งต่อสถานะของผู้ไร้ที่อยู่อาศัยหลายพันคนในไทย และขอให้รัฐบาลไทยช่วยดำเนินการดูแลตามความจำเป็นด้วย .-สำนักข่าวไทย

    2009-06-12 08:20:29

    ที่มา http://news.mcot.net
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  20. วรเดช

    วรเดช เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    1,753
    ค่าพลัง:
    +6,146
    ราเกซ แพ้อุทธรณ์คดีส่งผู้ร้ายข้ามแดน<SCRIPT type=text/javascript><!-- google_ad_client = "pub-0032874521947222"; /* 468x15, ถูกสร้างขึ้นแล้ว 3/13/09 */ google_ad_slot = "7657140061"; google_ad_width = 468; google_ad_height = 15; //--> </SCRIPT><SCRIPT type=text/javascript src="http://pagead2.googlesyndication.com/pagead/show_ads.js"> </SCRIPT><SCRIPT src="http://pagead2.googlesyndication.com/pagead/expansion_embed.js"></SCRIPT><SCRIPT src="http://googleads.g.doubleclick.net/pagead/test_domain.js"></SCRIPT><SCRIPT src="http://pagead2.googlesyndication.com/pagead/render_ads.js"></SCRIPT><SCRIPT>window.google_render_ad();</SCRIPT><INS style="POSITION: relative; BORDER-BOTTOM-STYLE: none; PADDING-BOTTOM: 0px; BORDER-RIGHT-STYLE: none; MARGIN: 0px; PADDING-LEFT: 0px; WIDTH: 468px; PADDING-RIGHT: 0px; DISPLAY: inline-table; BORDER-TOP-STYLE: none; HEIGHT: 15px; VISIBILITY: visible; BORDER-LEFT-STYLE: none; PADDING-TOP: 0px"><INS style="POSITION: relative; BORDER-BOTTOM-STYLE: none; PADDING-BOTTOM: 0px; BORDER-RIGHT-STYLE: none; MARGIN: 0px; PADDING-LEFT: 0px; WIDTH: 468px; PADDING-RIGHT: 0px; DISPLAY: block; BORDER-TOP-STYLE: none; HEIGHT: 15px; VISIBILITY: visible; BORDER-LEFT-STYLE: none; PADDING-TOP: 0px"><IFRAME style="POSITION: absolute; TOP: 0px; LEFT: 0px" id=google_ads_frame1 height=15 marginHeight=0 src="http://googleads.g.doubleclick.net/pagead/ads?client=ca-pub-0032874521947222&dt=1244852121958&lmt=1244852121&output=html&slotname=7657140061&correlator=1244852121958&url=http%3A%2F%2Fnews.mthai.com%2Fgeneral-news%2F37422.html&ref=http%3A%2F%2Fwww.mthai.com%2F&frm=0&ga_vid=180069832400602850.1242101222&ga_sid=1244852132&ga_hid=789173802&ga_fc=true&flash=10.0.22.87&w=468&h=15&u_h=1024&u_w=1280&u_ah=979&u_aw=1280&u_cd=32&u_tz=420&u_his=1&u_java=true&dtd=M&xpc=igMWnFSWGi&p=http%3A//news.mthai.com" frameBorder=0 width=468 allowTransparency name=google_ads_frame marginWidth=0 scrolling=no></IFRAME></INS></INS>


    บทความนี้เขียนโดย supernova, โพสต์เมื่อ <ABBR class=published title=2009-06-12T13:32:11+0700>12/06/2009 at 13:32</ABBR>, ในหมวด ข่าวทั่วไป, ข่าวเด่นประจำวัน และ คดีส่งผู้ร้ายข้ามแดน, ราเกซ, แคนาดา, แพ้อุทธรณ์, ไทย. เก็บกระทู้นี้ได้ที่ ลิ้งค์นี้. ติดตามความคิดเห็นในบทความนี้ ด้วยระบบ RSS feed. แสดงความคิดเห็น หรือทิ้งแทร็กแบค: Trackback URL.
    [​IMG]
    ราเกซ สักเสนา แพ้คดีอุทธรณ์ล่าสุดที่แคนาดา ในความพยายามไม่ให้ส่งตัวมาในฐานะผู้ร้ายข้ามแดน มาดำเนินคดีในไทย
    (12มิ.ย.) สำนักข่าวเอพีรายงานในวันนี้ว่า ศาลอุทธรณ์มณฑลบริติช โคลัมเบีย ของแคนาดา ได้มีคำพิพากษาเมื่อวันพฤหัสบดีตามเวลาท้องถิ่น ไม่อนุมัติการยื่นอุทธรณ์ครั้งล่าสุด ของนายราเกซ สักเสนา อดีตนายธนาคารคนหนึ่งของไทย ผู้พยายามต่อสู้ดิ้นรนเพื่อที่จะอยู่ในแคนาดาต่อไป และไม่ให้ตัวเองถูกส่งตัวกลับมาดำเนินคดีในไทยในฐานะผู้ร้ายข้ามแดนหลังจาก ศาลแคนาดา มีคำพิพากษาเมื่อเดือนพฤศจิกายน ปี 2551 ให้ส่งตัวเขากลับมาให้ไทยดำเนินคดี หลังถูกตำรวจแคนาดาจับกุมตัวเมื่อปี 2539 ซึ่งรายงานข่าวระบุว่าคดีของเขาเป็นหนึ่งในคดีส่งผู้ร้ายข้ามแดนยืดเยื้อที่ สุดคดีหนึ่งในประวัติศาสตร์ของแคนาดา
    นายราเกซเป็น นักการเงินชาวอินเดียผู้เข้ามาทำงานในไทย และได้เป็นที่ปรึกษาของธนาคารกรุงเทพพาณิชยการมาตั้งแต่ปี 2535 และเมื่อปี 2539 เขาถูกตั้งข้อหาในไทยว่าฉ้อโกงเงิน72 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (ราว 2520 ล้านบาท) หลังการล้มละลายของธนาคารกรุงเทพพาณิชยการในปี 2538 ซึ่งไทยระบุว่าการฉ้อโกงเงินดังกล่าว
    มีส่วนทำให้ธนาคารล้มละลายและทำให้เกิดวิกฤตการเงินครั้งใหญ่ของเอเชียเมื่อปี 2540 นายราเกซได้ หลบหนีไปแคนาดาและถูกตำรวจจับได้ แต่เขาต่อสู้คดีเพื่อไม่ให้ถูกส่งตัวมาไทยในฐานะผู้ร้ายข้ามแดน โดยอ้างว่าเขาอาจถูกสังหาร หรือถูกคุมขังในเรือนจำไทยอย่างโหดร้ายทารุณ
    ขอบคุณเนื้อหาข่าวจาก [​IMG] คมชัดลึก


    ข่าว: ผู้ป่วยติด หวัด2009 พุ่งพรวด 89 วันเดียวเพิ่ม 43ราย

    <SCRIPT type=text/javascript><!-- google_ad_client = "pub-0032874521947222"; /* 468x15, ถูกสร้างขึ้นแล้ว 3/13/09 */ google_ad_slot = "7657140061"; google_ad_width = 468; google_ad_height = 15; //--> </SCRIPT><SCRIPT type=text/javascript src="http://pagead2.googlesyndication.com/pagead/show_ads.js"> </SCRIPT><SCRIPT src="http://pagead2.googlesyndication.com/pagead/expansion_embed.js"></SCRIPT><SCRIPT src="http://googleads.g.doubleclick.net/pagead/test_domain.js"></SCRIPT><SCRIPT src="http://pagead2.googlesyndication.com/pagead/render_ads.js"></SCRIPT><SCRIPT>window.google_render_ad();</SCRIPT><INS style="POSITION: relative; BORDER-BOTTOM-STYLE: none; PADDING-BOTTOM: 0px; BORDER-RIGHT-STYLE: none; MARGIN: 0px; PADDING-LEFT: 0px; WIDTH: 468px; PADDING-RIGHT: 0px; DISPLAY: inline-table; BORDER-TOP-STYLE: none; HEIGHT: 15px; VISIBILITY: visible; BORDER-LEFT-STYLE: none; PADDING-TOP: 0px"><INS style="POSITION: relative; BORDER-BOTTOM-STYLE: none; PADDING-BOTTOM: 0px; BORDER-RIGHT-STYLE: none; MARGIN: 0px; PADDING-LEFT: 0px; WIDTH: 468px; PADDING-RIGHT: 0px; DISPLAY: block; BORDER-TOP-STYLE: none; HEIGHT: 15px; VISIBILITY: visible; BORDER-LEFT-STYLE: none; PADDING-TOP: 0px"><IFRAME style="POSITION: absolute; TOP: 0px; LEFT: 0px" id=google_ads_frame1 height=15 marginHeight=0 src="http://googleads.g.doubleclick.net/pagead/ads?client=ca-pub-0032874521947222&dt=1244852217984&lmt=1244852218&output=html&slotname=7657140061&correlator=1244852217984&url=http%3A%2F%2Fnews.mthai.com%2Fheadline-news%2F37467.html&ref=http%3A%2F%2Fwww.mthai.com%2F&frm=0&ga_vid=180069832400602850.1242101222&ga_sid=1244852218&ga_hid=1865946154&ga_fc=true&flash=10.0.22.87&w=468&h=15&u_h=819&u_w=1024&u_ah=783&u_aw=1024&u_cd=32&u_tz=420&u_java=true&dtd=125&xpc=nUGPONlqm2&p=http%3A//news.mthai.com" frameBorder=0 width=468 allowTransparency name=google_ads_frame marginWidth=0 scrolling=no></IFRAME></INS></INS>


    บทความนี้เขียนโดย supernova, โพสต์เมื่อ <ABBR class=published title=2009-06-12T23:01:18+0700>12/06/2009 at 23:01</ABBR>, ในหมวด ข่าวทั่วไป, ข่าวพาดหัว และ ผู้ติดเชื้อ, พุ่ง, หวัด2009. เก็บกระทู้นี้ได้ที่ ลิ้งค์นี้. ติดตามความคิดเห็นในบทความนี้ ด้วยระบบ RSS feed. แสดงความคิดเห็น หรือทิ้งแทร็กแบค: Trackback URL.
    [​IMG]
    หวัด2009 พุ่งวันเดียว43ราย ลามภูเก็ต-สงขลา-ร้อยเอ็ด ล่าสุด2นศ.สาวกลับจากสหรัฐฯ รวมติดเชื้อแล้ว89
    “สธ.”เปลี่ยนศูนย์ตอบโต้เป็นศูนย์ควบคุม ป้องกัน หลังคุมการแพร่ระบาดในไทยไม่อยู่ วันเดียวพุ่งพรวดรวดเดียว 43 ราย รวมผู้ป่วยติดเชื้อแล้ว 89 ราย ลามภูเก็ต-สงขลา-ร้อยเอ็ด ชาวภูเก็ตถูกเฝ้าระวัง 20คน ชาวจีนส่อติดเชื้อหลังกลับจากเสิ่นเจิ้น ล่าสุด2นศ.สาวร้อยเอ็ดกลับจากอเมริกา “มาร์ค”จี้คุม”รร.-พัทยา-ภูเก็ต”
    เวลา 19.00 น. วันที่ 12 มิถุนายน นพ.ปราชญ์ บุณยวงศ์วิโรจน์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า สธ.ได้ขึ้นทะเบียนผู้ป่วยติดเชื้อไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 อีก 43 ราย แบ่งเป็น พัทยา 3 ราย โรงเรียนนานาชาติในกรุงเทพฯ 1 ราย จ.ภูเก็ต 1 ราย จ.สงขลา 1 ราย และจากโรงพยาบาลเอกชนทั่วไป อีก 37 ราย รวมผู้ป่วยขึ้นทะเบียนเป็น 89 ราย โดยผู้ป่วยส่วนใหญ่เดินทางกลับมาจากต่างประเทศ อย่างไรก็ตาม สธ.จะรายงานรายละเอียดของผู้ป่วยอย่างเป็นทางการในวันที่ 13 มิถุนายน
    ด้าน นพ.ภาสกร ไชยเศรษฐ สาธารณสุขจังหวัด (สสจ.) ร้อยเอ็ด เปิดเผยว่า พบผู้ติดเชื้อไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 จำนวน 2 คน เป็นหญิง อายุ 21 ปี เป็นนักศึกษามหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง เดินทางกลับจากการทำงานและท่องเที่ยวจากอเมริกา เมื่อวันที่ 6 มิถุนายน เข้ารักษาที่โรงพยาบาลเมื่อวันที่ 9 มิถุนายน ผลตรวจพบว่ามีการติดเชื้อไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ รายที่ 2 เป็นหญิง อายุ 19 ปี เพื่อนกับผู้ป่วยรายแรกศึกษาอยู่มหาวิทยาลัยเดียวกัน เดินทางไปอเมริกา กลับมาถึงประเทศไทยพร้อมกันแต่อาการดีขึ้นแล้ว ส่วนเพื่อนกลุ่มเดียวกัน 4 คนที่ร่วมเดินทางไปด้วย ตรวจไม่พบเชื้อ และผู้ป่วยทั้งสองรายมีผู้สัมผัสใกล้ชิด 7 คน ซึ่งทีมสอบสวนเคลื่อนที่เร็ว ออกสอบสวนและเฝ้าระวังอาการอย่างใกล้ชิดเป็นเวลา 7 วันแล้ว
    วันเดียวกัน เจ้าหน้าที่เทศบาลเมืองปทุมธานี พร้อมสาธารณสุขจังหวัดปทุมธานี ออกพ่นยาฆ่าเชื้อไข้หวัดสายพันธุ์ใหม่ที่โรงเรียนอนุบาลปทุมธานี ถนนเทศสัมพันธ์ ต.บางปรอก อ.เมือง จ.ปทุมธานี เพื่อป้องกันการแพร่ระบาด
    นพ. ภูกฤษ์ เวชศักดาโอสถ สาธารณสุขจังหวัดปทุมธานี กล่าวว่า หลังจากนักเรียนโรงเรียนอนุบาลปทุมธานี เข้ารับการรักษาอาการหวัดในวันแรกกว่า 50 คนและนอนรักษาตัวที่โรงพยาบาล 3 คน วันนี้มีเด็กมาตรวจอีก 33 คน ซึ่งแพทย์ให้นอนโรงพยาบาล 2 คน และนักเรียนโรงเรียนวัดฉาง อ.เมือง จ.ปทุมธานี 8 คน พร้อมทั้งโรงเรียนคณะราษฎรบำรุงปทุมธานี อีก 1 คน ส่วนใหญ่ตรวจพบว่ามีไข้อยู่ที่ 37 องศาเซลเซียส แต่ไม่เกิน 38 องศาฯซึ่งไม่ถึงเกณฑ์ 38 องศาฯ จึงให้ยาและปล่อยให้กลับบ้านได้
    ด้านนาย มนตรี เทพสิทธิ์ ผู้อำนวยการโรงเรียนอนุบาลปทุมธานีประชุมผู้ปกครอง พร้อมชี้แจงเหตุการณ์ เพื่อไม่ให้ผู้ปกครองตื่นตระหนก รวมทั้งได้ฉีดพ่นยาพร้อมทำความสะอาดโรงเรียน หากเด็กที่ป่วยมีอาการไข้ไม่ลดลงจะปิดโรงเรียนต่อในวันที่ 15 มิถุนายน
    องค์การอนามัยโลก (WHO) ประกาศยกระดับเตือนภัยการระบาดใหญ่ของไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ ชนิดเอ เอช 1 เอ็น 1 หรือไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 จากระดับ 5 เป็นระดับ 6 ซึ่งหมายถึง การระบาดของเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 เริ่มแพร่กระจายไปทั่วโลกแล้ว โดยติดต่อจากคนสู่คนนั้น ทาง นายวิทยา แก้วภราดัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) นายมานิต นพอมรบดี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข ประชุมคณะผู้บริหารระดับสูง สธ. ทบทวนสถานการณ์และมาตรการป้องกันควบคุมการแพร่ระบาดของโรคไข้หวัดใหญ่สาย พันธุ์ใหม่ 2009 ทันที เมื่อเวลา 08.30 น. วันที่ 12 มิถุนายน ที่กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) โดยใช้เวลาประชุมกว่า 3 ชั่วโมง
    นายวิทยาแถลงว่า ที่ประชุมมีมติยุบศูนย์ปฏิบัติการตอบโต้ภาวะฉุกเฉินด้านการแพทย์และสาธารณ สุข ที่มี นพ.ไพจิตร์ วราชิต รองปลัด สธ. เป็นประธาน เปลี่ยนเป็น ศูนย์อำนวยการปฏิบัติการควบคุมป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ มีปลัดกระทรวงสาธารณสุข เป็นผู้อำนวยการศูนย์
    นพ.คำนวณ อึ้งชูศักดิ์ ผู้ทรงคุณวุฒิ กรมควบคุมโรค สธ. กล่าวว่า พบผู้ป่วยยืนยันโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 เพิ่มอีก 1 คน นับเป็นรายที่ 47 โดยเป็นนักเรียนชายชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 (ป.6) โรงเรียนเซนต์คาเบรียล ซึ่งเป็น 1 ใน 10 คนที่ สธ.เก็บตัวอย่างเชื้อไปตรวจเมื่อวันที่ 11 มิถุนายน ขณะนี้ผู้ปกครองได้นำเด็กไปรักษาที่โรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่ง ส่วนผลตรวจเชื้อของเด็กอีก 9 คน ยังไม่แล้วเสร็จ นอกจากนี้ยังมีผู้ป่วยที่อยู่ในข่ายเฝ้าระวังที่อยู่ระหว่างสอบสวนและตรวจ เชื้อทางห้องปฏิบัติการ 105 คน ในจำนวนนี้เป็นชาว จ.ภูเก็ต 20 คน ส่วนใหญ่เป็นพนักงานในสถานบันเทิงแห่งหนึ่ง ย่านป่าตอง เพราะมีรายงานจากฮ่องกงว่า มีชาวฮ่องกงติดเชื้อหลังจากมาท่องเที่ยวที่ จ.ภูเก็ต ช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งมีประวัติเดินทางไปที่ จ.ภูเก็ต เพียงแห่งเดียว สำหรับกลุ่มนักเรียนอนุบาลแห่งหนึ่งใน จ.ปทุมธานี ประมาณ 50 คน พบว่ามีเด็กเป็นไข้หวัดจำนวนมาก
    “ยอมรับว่าผู้ป่วยรายที่ 16 เป็นเรื่องเกินขีดความสามารถของ สธ.ที่จะพิสูจน์ว่าติดเชื้อจากที่ใด เพราะการตรวจหาเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ จะตรวจยืนยันได้ผลภายใน 7 วันหลังได้รับเชื้อ แต่หากตรวจที่ล่าช้าเกิน 7 วันไปแล้ว จะตามพิสูจน์ไม่ได้ ตรวจหาเชื้อไม่พบ ซึ่งทีมระบาดวิทยา สธ.ตั้งสมมติฐานว่าอาจจะมีเด็กที่ป่วยเป็นไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 อยู่ก่อนแล้ว และแพร่เชื้อไปยังผู้ป่วยรายที่ 2 รายที่ 3 ได้ แต่ผู้ป่วยที่เป็นต้นตออาการไม่หนัก จึงไม่ได้ป้องกันโรค หรือไม่ได้ไปพบแพทย์และหายป่วยได้เอง” นพ.คำนวณกล่าว
    นพ.คำนวณกล่าวอีกว่า จากการลงพื้นที่สอบสวนโรคที่โรงเรียนเซนต์คาเบรียล และเมืองพัทยา จ.ชลบุรี ทำให้ทราบสาเหตุการแพร่เชื้อ กรณีโรงเรียนเซนต์คาเบรียล พบว่าโต๊ะเรียนมีขนาดกว้างเพียง 1.5 เมตร แต่มีเด็กนั่งเรียนร่วมกัน 3 คน และเป็นห้องปรับอากาศ (ติดแอร์) เด็กนั่งเรียนอยู่ด้วยกันนาน 7-8 ชั่วโมงต่อวัน และมีกิจกรรมทำร่วมกันตลอดทั้งวัน เช่น วาดรูป คอมพิวเตอร์ จึงทำให้ติดเชื้อได้ง่าย ส่วนการระบาดที่สถานบันเทิงแห่งหนึ่งในเมืองพัทยา มีผู้ป่วยเป็นไข้หลายราย เพราะสถานบันเทิงมีขนาดกว้างประมาณ 1 สนามบาสเกตบอล จุคนได้มากถึง 300-400 คน เฉพาะพนักงานในร้านมีมากถึง 100 คน และต้องทำงานอยู่ร่วมกันเป็นเวลานานตั้งแต่ 2 ทุ่ม-ตี 2 อากาศไม่ถ่ายเท เพราะเป็นห้องปิดทึบไม่มีหน้าต่าง
    นพ.คำนวณกล่าวว่า ประชาชนใน อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ที่มีอาการป่วยกว่า 100 คน เดินทางไปขอตรวจเชื้อที่ โรงพยาบาลบางละมุง เช่นเดียวกับผู้ปกครองนักเรียนโรงเรียนเซนต์คาเบรียล ที่พาบุตรหลานไปตรวจเชื้อที่โรงพยาบาลเอกชน ดังนั้น ขอยืนยันว่าการตรวจหาเชื้อไม่เป็นประโยชน์ เพราะไม่ว่าจะติดเชื้อไข้หวัดจากสายพันธุ์ใดก็ตาม วิธีรักษาและป้องกันโรคเหมือนกันทุกสายพันธุ์ ที่สำคัญ การตรวจวิเคราะห์ต้องเสียค่าตรวจอย่างน้อยครั้งละ 2,000 บาท ส่วนกรณีข่าวที่มีนักศึกษาคณะสาธารณสุขศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล ป่วยเป็นโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 นั้น ข้อเท็จจริงคือ ผู้ป่วยเป็นหญิง อายุ 20 ปี ที่เดินทางกลับจากต่างประเทศ และเป็นผู้ป่วยที่ขึ้นทะเบียนไปก่อนหน้านี้แล้ว
    ด้าน นพ.วิทิต อรรถเวชกุล ผู้อำนวยการองค์การเภสัชกรรม (อภ.) กล่าวว่า ได้ประสานไปยัง สธ.กับบริษัท ซาโนฟี ปาสเตอร์ ซึ่งร่วมทุนผลิตวัคซีนจำนวน 2 ล้านชุด โดยมีเงื่อนไขคือ 1.สั่งจองโดยยังไม่จ่ายเงิน 2.หากผลิตออกมาแล้วไม่ได้ใช้วัคซีน ไม่ต้องจ่ายเงิน แต่ต้องซื้อวัคซีนไข้หวัดใหญ่ตามฤดูกาลในปริมาณเท่ากัน ซึ่งข้อเสนอดังกล่าวมีมาก่อนหน้านี้ แต่ อภ.ไม่ตัดสินใจ เพราะปริมาณการฉีดไข้หวัดใหญ่ในฤดูกาล 1 ล้านโดสเท่านั้น ถ้าใช้ไม่หมดอาจสูญเงิน 100 ล้านบาท ในทางปฏิบัติจึงต้องเจรจาว่าจะให้ใครเป็นผู้สั่งซื้อ เพื่อเป็นแนวทางปฏิบัติในการนำแนวทางมาใช้ต่อไป
    ที่มาจากหนังสือพิมพ์มติชน

    ข่าวที่เกี่ยวข้อง :

    <SMALL>ข่าว: มือน้ำกรด จนมุมแล้ว ยังปฏิเสธ

    <SCRIPT type=text/javascript><!-- google_ad_client = "pub-0032874521947222"; /* 468x15, ถูกสร้างขึ้นแล้ว 3/13/09 */ google_ad_slot = "7657140061"; google_ad_width = 468; google_ad_height = 15; //--> </SCRIPT><SCRIPT type=text/javascript src="http://pagead2.googlesyndication.com/pagead/show_ads.js"> </SCRIPT><SCRIPT src="http://pagead2.googlesyndication.com/pagead/expansion_embed.js"></SCRIPT><SCRIPT src="http://googleads.g.doubleclick.net/pagead/test_domain.js"></SCRIPT><SCRIPT src="http://pagead2.googlesyndication.com/pagead/render_ads.js"></SCRIPT><SCRIPT>window.google_render_ad();</SCRIPT><INS style="POSITION: relative; BORDER-BOTTOM-STYLE: none; PADDING-BOTTOM: 0px; BORDER-RIGHT-STYLE: none; MARGIN: 0px; PADDING-LEFT: 0px; WIDTH: 468px; PADDING-RIGHT: 0px; DISPLAY: inline-table; BORDER-TOP-STYLE: none; HEIGHT: 15px; VISIBILITY: visible; BORDER-LEFT-STYLE: none; PADDING-TOP: 0px"><INS style="POSITION: relative; BORDER-BOTTOM-STYLE: none; PADDING-BOTTOM: 0px; BORDER-RIGHT-STYLE: none; MARGIN: 0px; PADDING-LEFT: 0px; WIDTH: 468px; PADDING-RIGHT: 0px; DISPLAY: block; BORDER-TOP-STYLE: none; HEIGHT: 15px; VISIBILITY: visible; BORDER-LEFT-STYLE: none; PADDING-TOP: 0px"><IFRAME style="POSITION: absolute; TOP: 0px; LEFT: 0px" id=google_ads_frame1 height=15 marginHeight=0 src="http://googleads.g.doubleclick.net/pagead/ads?client=ca-pub-0032874521947222&dt=1244852189506&lmt=1244852189&output=html&slotname=7657140061&correlator=1244852189506&url=http%3A%2F%2Fnews.mthai.com%2Fgeneral-news%2F37381.html&ref=http%3A%2F%2Fwww.mthai.com%2F&frm=0&ga_vid=180069832400602850.1242101222&ga_sid=1244852190&ga_hid=324973821&ga_fc=true&flash=10.0.22.87&w=468&h=15&u_h=819&u_w=1024&u_ah=783&u_aw=1024&u_cd=32&u_tz=420&u_java=true&dtd=16&xpc=FFcMEDNu1w&p=http%3A//news.mthai.com" frameBorder=0 width=468 allowTransparency name=google_ads_frame marginWidth=0 scrolling=no></IFRAME></INS></INS>


    บทความนี้เขียนโดย supernova, โพสต์เมื่อ <ABBR class=published title=2009-06-12T10:27:55+0700>12/06/2009 at 10:27</ABBR>, ในหมวด ข่าวทั่วไป, ข่าวเด่นประจำวัน และ จนมุมแ, มือน้ำกรด. เก็บกระทู้นี้ได้ที่ ลิ้งค์นี้. ติดตามความคิดเห็นในบทความนี้ ด้วยระบบ RSS feed. แสดงความคิดเห็น หรือทิ้งแทร็กแบค: Trackback URL.
    [​IMG]
    จับ แล้วมือสาดน้ำกรดใส่สาวนับ 10 คนที่โคราช เผยเป็นโชเฟอร์นายกอบต.แห่งหนึ่งใน อ.ขามสะแกแสง สอบสวนยังปากแข็งให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา เผยเหยื่อสาวที่เคยโดนสาดพริกเกลือเมื่อเดือนมี.ค.จำหน้าได้แม่น เมื่อตร.นำรูปมาให้ดูจึงยืนยัน แฉเคยก่อคดีอนาจารสาวมาด้วย ส่วนเหยื่อน้ำกรดยังรักษาที่ร.พ.อีก 4 ราย มี 2 รายอาการน่าเป็นห่วง
    จาก กรณีคนร้ายใช้สารเคมีผสมน้ำ ซึ่งสงสัยว่าจะเป็นน้ำกรดใส่ในขวดน้ำพลาสติก แล้วขี่รถจักรยานยนต์ออกตระเวนฉีดใส่ใบหน้าผู้หญิงที่มีหน้าตาดี ในเขต อ.ขามสะแกแสง จ.นครราช สีมา ทำให้มีผู้หญิงหลายหมู่บ้านได้รับบาดเจ็บนับสิบราย เข้ารักษาตัวที่ร.พ.ขามสะแกแสง และบางรายอาการสาหัสถูกส่งต่อไปรักษาที่ร.พ. มหาราชนครราชสีมา เหตุเกิดเมื่อวันที่ 10 มิ.ย.ที่ผ่านมา ตามที่เสนอไปแล้วนั้น
    ความ คืบหน้าเรื่องนี้ เมื่อวันที่ 11 มิ.ย. พ.ต.อ.สมชาย ภูการุณย์ ผกก.สภ.ขามสะแก แสง จ.นคร ราชสีมา เรียกประชุมตำรวจฝ่ายสืบสวน เพื่อวางแผนติดตามจับกุมคนร้ายที่ ก่อเหตุดังกล่าว โดยมีการระดมกำลังตั้งจุดสกัดตามเส้นทางต่างๆ พร้อมจัดสายตรวจรถจักร ยานยนต์และสายตรวจรถยนต์ออกไปตามหมู่บ้านและตำบลต่างๆ พร้อมทั้งขอความร่วมมือตำรวจบ้าน กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน อปพร. ของหมู่บ้านต่างๆ ช่วยสอดส่องหาเบาะแสคนร้ายรายนี้ซึ่งตำรวจมั่นใจว่าน่าจะเป็นคนในพื้นที่ และยังไม่หลบหนีไปไหน
    พ.ต.อ.สมชายเปิดเผยว่า ขณะนี้ตำรวจพบตัวผู้ต้องสงสัยและคาดว่าน่าจะเป็นคนร้ายที่ก่อเหตุดังกล่าว ซึ่งพ.ต.ต.สมบูรณ์ จันทร์โท พนักงานสอบสวนเจ้าของคดี นำรูปถ่ายไปให้ผู้เสียหายที่พักรักษาตัวอยู่ที่ร.พ.มหาราชนครราชสีมา ชี้ตัวแล้ว เมื่อค่ำวันที่ 10 มิ.ย.และจากการชี้ตัวผู้เสียหายบางคนก็จำใบหน้าของคนร้ายไม่ได้ เพราะขณะก่อเหตุคนร้ายสวมหมวกกันน็อก อย่างไรก็ตามจากการติดตามพฤติกรรมของผู้ต้องสงสัยรายนี้ ตั้งแต่เคยใช้พริกป่นสาดหน้าหญิงสาวเมื่อปี 2551 จนถึงการเปลี่ยนมาใช้สารเคมีผสมในขวดน้ำพลาสติกฉีดใส่หน้าผู้หญิง ซึ่งตำรวจมั่นใจว่ามีพยานหลักฐานมัดตัวผู้ต้องสงสัยซึ่งขณะนี้มีผู้เสียหาย ที่เป็นผู้หญิงทั้งหมดมาแจ้งความแล้ว 4 ราย แต่ทราบว่าบางรายก็ไม่ได้มาแจ้งความ เพราะเห็นว่าไม่ได้รับบาดเจ็บอะไรมากนัก รวมแล้วประมาณ 10 ราย
    อย่าง ไรก็ตามมั่นใจว่าจะสามารถดำเนินคดีกับผู้ต้องสงสัยรายนี้ได้ โดยในวันนี้จะออกหมายเรียกตัวผู้ต้องสงสัยมาสอบปากคำที่ สภ.ขาม สะแกแสง ซึ่งถ้าผู้ต้องสงสัยรับสารภาพ ตำรวจ ก็จะแจ้งข้อกล่าวหาทำร้ายร่างกายผู้อื่นให้ได้รับอันตรายแก่กาย และควบคุมตัวไปดำเนินคดี ต่อไป ส่วนผู้เสียหายจะได้รับบาดเจ็บสาหัสหรือไม่ก็ขึ้นอยู่กับการวินิจฉัยของ แพทย์ที่รักษา อีกครั้ง
    รายงานข่าวแจ้งว่า สำหรับผู้ต้องสงสัยที่ตำรวจขอออกหมายจับ เป็นพนักงานขับรถของนายก อบต.คนหนึ่งใน อ.ขามสะแกแสง อายุ 40 ปี มีภรรยา 2 คน บุตร 2 คน ส่วนสาเหตุที่ผู้ต้องสงสัยรายนี้กระทำลงไปน่าจะมาจากความผิดปกติทางจิต และมีปัญหาทางครอบครัว เนื่อง จากมีภรรยา 2 คน มีเหตุทะเลาะกันบ่อยครั้ง
    ต่อ มาเจ้าหน้าที่ตำรวจเรียกนางมีนา สอนสะอาด อายุ 42 ปี อยู่บ้านเลขที่ 16 หมู่ 3 ต.พะงาด อ.ขามสะแกแสง ซึ่งเคยถูกคนร้ายใช้พริกกับเกลือสาดเข้าที่ใบหน้า เหตุเกิดเมื่อวันที่ 16 มี.ค.ที่ผ่านมา มาสอบปากคำ นางมีนาให้การว่า ขณะที่ตนกำลังขี่รถจักรยานยนต์กลับจากทำงาน อยู่บนถนนทางเข้าบ้านขามสะแกแสง มีคนร้ายขี่รถจักรยานยนต์ ไม่ปกปิดใบหน้า มาเทียบข้างรถของตนก่อนจะใช้มือซ้ายกำพริกผสมกับเกลือ ที่เตรียมใส่ถุงพลาสติกมาปาเข้าใส่หน้าของตน จนตนต้องจอดรถเนื่องจากเกิดอาการแสบร้อนที่ดวงตา ก่อนจะประคองตัวขี่รถกลับถึงบ้านและรีบล้างน้ำออก ส่วนคนร้ายกลับรถขับหลบหนีไป ตนยืนยันว่าจำหน้าคนร้ายได้เป็นอย่างดี เนื่องจากเป็นคนที่อาศัยอยู่ใน ต.พะงาด เหมือนกัน ก่อนที่จะแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ ซึ่งหลังจากวันเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ให้ไปดูรูปของผู้ที่ก่อเหตุซึ่ง เป็นคนเดียวกันกับวันนี้
    ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับผู้ต้องหารายนี้คือ นายบุญทิ้ง มุ่งทุ่งกลาง อายุ 40 ปี อยู่บ้านเลขที่ 204 หมู่ 7 บ้านดอนใหญ่ ต.พะงาด อ.ขาม สะแกแสง ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจแจ้งข้อหา ทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนได้รับบาดเจ็บสาหัส และกระทำอนาจาร เนื่องจากเคยก่อเหตุจับหน้าอกผู้หญิงคนหนึ่ง จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจเดินทางไปตรวจค้นที่บ้านเลขที่ 340 หมู่ 7 บ้านดอนใหญ่ ต.พะงาด ซึ่งเป็นบ้านของนายบุญทิ้ง แต่ไม่พบนายบุญทิ้งอยู่ในบ้าน ทราบว่านายบุญทิ้งออกไปขับรถไถที่ท้องนา และเมื่อติดตามไปดูก็ไม่พบตัว อย่างไรก็ตามต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมตัวนายบุญทิ้งได้แล้ว พร้อมทั้งแจ้งข้อหากระทำอนาจารอีกข้อหาหนึ่ง หลังสืบสวนพบว่าเคยก่อเหตุจับหน้าอกผู้หญิงคนหนึ่ง และนำตัวมาสอบสวนที่บก.ภ.จว.นครราชสีมา เบื้องต้นผู้ต้องหายังให้การปฏิเสธ
    ด้าน น.พ.ณัฐชัย นิธิอภิญญาสกุล หัวหน้ากลุ่มงานจักษุแพทย์ ร.พ.มหาราชนครราชสีมา ที่รักษาผู้ที่ได้รับบาดเจ็บเปิดเผยว่า จนถึงขณะนี้ มีผู้ป่วยมารับการรักษาที่ร.พ.มหาราชนครราช สีมา 6 ราย โดยแพทย์อนุญาตให้กลับบ้านแล้ว 2 ราย แต่ได้แจ้งให้ผู้เสียหายมาตรวจดวงตาอย่างละเอียดอีกครั้ง และจนถึงขณะนี้มีผู้ป่วยคงพักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล 4 ราย โดย 2 ราย อาการค่อนข้างน่าห่วง เพราะมีปริมาณสารเคมีในดวงตาที่มีค่าเป็นด่างสูงและซึมเข้าไปในเนื้อเยื่อ ซึ่งแพทย์ยังคงต้องดูแลอย่างใกล้ชิด ส่วนอีก 2 รายอาการเริ่มดีขึ้น แต่ก็ยังคงต้องดูอาการอย่างใกล้ชิดเช่นกัน
    ส่วนสารเคมีที่คนร้ายใช้ นั้นมีค่าเป็นด่างและยังไม่ทราบชนิด ซึ่งแม้จะไม่ใช่น้ำกรดแต่ก็เป็นสารเคมีที่มีค่าเป็นด่าง เป็นชนิดที่เป็นอันตรายมากกว่าน้ำกรดอีก ผู้ป่วยต้องรักษาตัวอย่างน้อย 1 เดือน อย่างไรก็ตามหากผู้ป่วยที่ถูกฉีดพ่นสารเคมีในลักษณะดังกล่าว ให้รีบล้างด้วยน้ำสะอาดทันทีเพื่อเจือจางปริมาณของสารเคมีเพราะหากปล่อยไว้ จะถึงขั้นตาบอดได้
    ส่วนในพื้นที่ อ.เมือง จ.นครราชสีมา พ.ต.อ.บุญเลิศ ว่องวัจนะ ผกก.สภ.เมืองนคร ราชสีมา เปิดเผยถึงมาตรการป้องกันเหตุการณ์ลักษณะเดียวกันว่า หลังจากมีเหตุการณ์ดังกล่าวทำให้เป็นที่หวาดกลัวแก่พี่น้องประชาชน สั่งการระดมเจ้าหน้าที่สายตรวจกระจายกำลังตระเวนตรวจ สอบหาข้อเท็จจริงทั่วพื้นที่ นอก จากนี้ยังสั่งการให้ตรวจสอบเพื่อป้องกันการเกิดเหตุ เพิ่มความเข้มในการตรวจตราตามพื้นที่เสี่ยง ที่ลับตาผู้คน และแหล่งชุมชน แต่ในเขตพื้นที่รับผิดชอบนั้นยังไม่พบเบาะแสเกี่ยวกับคดีนี้แต่อย่างใด หากผู้ใดมีเบาะแสเกี่ยวกับคนร้ายที่ก่อเหตุสามารถแจ้งเหตุได้ที่ 191 สภ.เมืองนครราชสีมา อย่างไรก็ตามประชาชนอย่าวิตกกังวลในข่าวลือมากจนเกินไป จนทำให้ไม่สามารถทำกิจวัตรประจำวันได้
    รายงานข่าวแจ้งว่าจากการตรวจสอบพบว่าน้ำที่คนร้ายใช้สาดสาวๆ นับ 10 รายนั้น เป็นน้ำยาล้างห้องน้ำผสมกับน้ำเปล่า
    ขอบคุณเนื้อหาข่าวจาก [​IMG] ข่าวสด

    </SMALL>
     

แชร์หน้านี้

Loading...