ทริปไปทำบุญประจำปีวัดท่าซุง ค้างที่"ซุ้มบอล" 10มีนาคม 50

เอาภาพไปดูพลางๆนะ...ส่วนท่าน kananun ขอเรียนเชิญสรุปต่อ...เน้อ...

 

ที่พัก...จากผู้มีพระคุณ...คุณเคลื่อนพล...

 

บรรยากาศดีมักๆ...

 

ไปเขากบ และวัดคีรีวงศ์...ที่นครสวรรค์เพื่อทดสอบสัญญาญวิทยุ...

 

ที่ลืมไม่ได้คือ...ต้องขอขอบคุณ...คุณ mead ที่ได้สงเคราะห์พวกเราทุกๆอย่าง...ครับ


บรรยากาศ...ต่อเนื่อง...

 

วัดคีรีวงศ์ ซึ่งเป็นที่ประดิษฐานพระจุฬามณีเจดีย์และพระบรมสารีริกธาตุ...

 

กราบนมัสการพระเจดีย์และรูปเหมือนพระอริยสงฆ์...หลังจากที่ได้ทดสอบสัญญาณวิทยุแล้ว...

 

...

 

หลังจากนั้น...เดินทางย้อยกลับไปอุทัยธานี แวะวัดสังกัสรัตนคีรี เพื่อเช็คสัญญาณวิทยุเพิ่มเติม...

โดยเดินขึ้นทางบันไดด้านหน้า....(จริงๆมีถนนขึ้นทางด้านหลังเขา) ทำให้เหนี่อยหอบกันทั้งครอบครัว....แหะๆ

 

ภาพทิวทัศน์เมืองอุทัย...และบรรยากาศการหอบ....

 

รอยพระพุทธบาท...

 

ขากลับ...เดินลงบันไดเหมือนเดิม...คราวนี้สบาย

 

วัดท่าซุง...เพื่อนๆกำลังทำความสะอาดวิหารพระปัจเจกพุทธเจ้า...กันขะมักขะเม้น...จึงเข้าไปสมทบ

 

งานทำความสะอาดเพื่อถวายบุญเป็นปฏิบัติบูชา...

 

สรุป

เรื่องระบบสื่อสาร

เรามีความเห็นพ้องต้องกันว่า...หากจะทำระบบสื่อสารทั้งหมดคงจะทำได้ไม่ง่ายนัก...และใช้เงินทุนจำนวนมาก

จึงได้ตกลงที่จะจัดทำสถานีวิทยุสื่อสารต้นแบบขึ้นมาก่อน....ที่ร้านซุ้มบอล...เพราะมีความพร้อมในทุกๆด้าน

เพื่อใช้ในการประสานงานจากอุทัยธานีลงไปทางสิงห์บุรี และอ่างทอง ซึ่งร้านซุ้มบอลถือเป็นด่านหน้าในการประสานงานให้ความช่วยเหลือแก่ผู้ประสบภัย และใช้เป็นจุดเริ่มต้นของโครงการระบบ Repeater

และเห็นพ้องกันอีกว่า...ควรจัดตั้งระบบ Repeater ในบริเวณจุดที่เราได้เลือกให้เป็นสถานที่หลบภัย คือ...บริเวณที่ได้ไปสำรวจกันมาแล้ว ทั้งนี้เพื่อประสานให้ผู้หลบภัยได้สามารถเดินทางมาได้โดยสะดวก และใช้วิทยุสื่อสารเป็นเครื่องมือประสานงานกับวิทยุชุมนุมอื่นๆให้เผยแพร่ข่าวสารเกี่ยวกับสถานที่หลบภัย และเหตุภัยพิบัติต่างๆ

ทั้งนี้จุดหลบภัยสำคัญประมาณ 5 จุด (ในเบื้องต้น) ก็จะมีระบบ Repeater เป็นของตนเอง....จากนั้นก็จะได้ขยายขอบข่ายให้เพิ่มขึ้นต่อไป โดยอาศัยความร่วมมือจากเพื่อนๆนักวิทยุสมัครเล่น และสถานีวิทยุชุมชนที่เข้าร่วม และเห็นประโยชน์จากโครงการนี้

อุปกรณ์ประจำสถานี Repeater

1. วิทยุสื่อสาร CB 245 MHz จำนวน 2 เครื่อง ราคาตัวละ 4100 บาท , หากต้องการใช้ย่าน 145 MHz ด้วยก็
ต้องเพิ่มเครื่อง 145 MHz เข้าไปอีก 2 เครื่อง
2. แป็บน้ำขนาด 2-3 นิ้ว...ต่อกัน 3 ท่อนๆละ 6 เมตร รวม 18 เมตร พร้อมลวดสลิงขึง 4 ทิศทาง
3. สายอากาศไดโพล 8 สแต๊ก (8 ห่วง) 4 ห่วงหันขึ้นทิศเหนือ 4 ห่วงหันลงทิศใต้ ราคา 4500 บาท
4. สายนำสัญญาณวิทยุ 5DFB ความยาวตามความสูงของแป็บน้ำ ราคาเมตรละ 30 บาท
5. ระบบแบตเตอรี่และเครื่องชาร์ทไฟ พร้อมแผงรับแสงอาทิตย์ ราคาประมาณ 8000
6. ไมโครคอนโทรเลอร์ความคุม Repeater ราคา 800 บาท

รวมราคาประมาณ 20000 - 30000 บาทต่อสถานี แล้วแต่ความสูงของแป็บน้ำ / การออกอากาศย่าน 245 และ
145 MHz ย่านใดย่านหนึ่ง หรือทั้งสองย่าน / ความยากง่ายในการติดตั้ง / ราคาของแบตเตอรี่และแหล่งพลังงาน

จากการสอบถามไปยังสถานีวิทยุสื่อสารของ อพปร. เกาะเทโพ ซึ่งใช้เสาสูง 20 เมตร สามารถติดต่อไปยัง บ้านไร่ ระยะทาง 70 กม. ได้สบายๆ บางช่วงสามารถติดต่อกับ สถานีที่จังหวัดพิษณุโลกได้ ซึ่งทำให้มีกำลังใจในสร้างสถานีต้นแบบเป็นอย่างมาก...

เครื่องเครื่องวัดปริมาณรังสี

เครื่องวัดรังสีแบบ Kearny Fallout Meter สร้างจากแผ่นอลูมิเนียม 2 แผ่นผูกเชือกแล้วแขวนให้ชิดกัน จากนั้นต่อสายไฟออกมาสำหรับชาร์ทประจุไฟฟ้าสถิตย์

จากนั้นนำไปบรรจุลงกระป๋องนมที่บรรจุยิบซั่มแห้ง หรือซิลิก้าดูดความชื้น เอากระดาษเขียนสเกลเป็นมิลลิเมตรติดไว้ที่ก้นกระป๋อง ด้านปากกระป๋องหุ้มด้วยพลาสติกใสเอาไว้มองดูว่าแผ่นอลูมิเนียมห่างกันเท่าไหร่

รังสีแกมม่าที่ตกค้าง จะทำให้เกิดไฟฟ้าสถิตย์ที่แผ่นอลูมิเนียม และทำให้แผ่นอลูมิเนียมทั้งสองห่างจากกัน ระยะห่างของแผ่นอลูมิเนียมบอกให้เราทราบว่า ปริมาณรังสีมีมากน้อยเท่าใด

ทั้งหมดนี้ยังไม่ได้ลองทำดูแต่หลังจากได้ดูแบบแล้วน่าจะไม่ยากอะไร ก็เลยคิดว่า...ว่างๆจะทำเครื่องตัวอย่างขึ้นดู หากได้ผลดีก็จะทำเก็บไว้ใช้สักหลายๆอัน...ต่อไป

 

ผมได้ไปร่วมพิธีตอนกลางวันเขียนแผ่นทองเหลืองหล่อพระแล้วและอยู่จนถึงเวลา 19.00 น.จึงขับรถบ้านกลับไปทางวัดสิงไปออกสี่แยกสะพานใหม่เพื่อไป ทางจว.สุพรรณบุรี พอรถมาติดไฟแดงที่สี่แยกสะพานใหม่ เมื่อไฟเขียว รถมอเตอร์ไซต์วิ่งออกไปก่อน ผมจึงขับรถออกตามไป ซึ่งในขณะนั้นมีรถพ่วงสิบล้อ วิ่งมาจากทางสุพรรณบุรี มุ่งตรงไปข้ามสะพาน จริงๆแล้วเขาจะต้องหยุดที่ไฟแดง แต่เขาเบรคไม่อยู่ /ไม่ทัน /ไม่เห็นไฟแดง เป็นช่วงผมขับรถออกไปพอดี มันเฉียดท้ายรถผมไปไม่มาก มันเหมือนภาพในหนังที่เคลื่อนไหวอย่างช้าๆ แปลกมาก ผมดูกระจกหลังเห็นรถ 10 ล้อวิ่งผ่านหลังรถผมไปอย่างช้าๆ รถคันอื่นที่จอดหลังรถผม เขาจอดกันไม่ออกมา นึกในใจเพราะผลบุญจากการหล่อพระทำให้แคล้วคลาดและผมทำตามแบบที่คุณคณานัน เคยโพสต์ไว้ "ขออนุโมทนาบุญให้กับเทวดา สิ่งศักดิ์สิทธิตามเส้นทางที่ไป" แต่ผมให้ทั้ง เทวดา เปรต เจ้ากรรมนายเวร สรรพสัตว์และวิญญาณเร่ร่อนที่อยู่ตลอดเส้นทางกลับบ้าน
<!-- / message -->

 

สาธุ...บันได 444 ขั้นครับ...หอบแน่ครับคุณ zz
ผมลืมบอกไปว่ามีทางรถขึ้นได้อยู่อีกด้านนึง
แล้วก็ที่เชิงเขามีหลวงพ่อพุทธมงคลศักดิ์สิทธิ์
ที่คนอุทัยเขานับถือกันมากๆ อฐิษฐานอะไรได้ทุกอย่างครับ
ว่างๆมาอีกสิครับ

น้องนุ๊กถ่ายภาพเก่งมากๆ ดูมุมกล้องแล้วต้องเรียกว่าเซียนมาเกิดครับ*-*
ต้องชมหน่อย 10 ขวบแต่อดทน ชอบผจญภัยไปไหนมาไหนไม่เห็นบ่นสักคำ เก่งมากๆเลยครับ"น้องนุ๊ก"

 

หวุดหวิดเลยนะครับ...
แคล้วคลาดเพราะผลบุญรักษาครับ*-*

 

คิดว่า...เป็นการทดสอบกำลังใจครับ...พอขึ้นไปแล้วมีความสุขดีมากเลย...ต้องไปอีกแน่ๆ....

 

สาธุมหากุศลจากการนำทองคำบริสุทธิ์ร่วมหล่อพระพุทธรูป จึงทำให้แคร้วคราดไปอย่างหวุดหวิดครับ

ขอให้มั่นคงในการทำความดีตลอดๆไปครับ