ถึงเวลาของ นักศึกษาตำราพิชัยสงคราม

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย เล่าปัง, 19 พฤศจิกายน 2007.

  1. เล่าปัง

    เล่าปัง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    4,787
    ค่าพลัง:
    +7,918
    ขอบคุณที่ตักเตือน

    แต่เรากล่าวโดยไม่ได้คิดอื่นใด เรากล่าวข้อความว่า เผื่อความรู้นี้จักไม่ได้ใช้ หมายถึง ผู้ออกความคิดเห็นตายไปก่อนที่จะได้ใช้ คนที่กล่าวเช่นนี้คือบุคคลที่มีความทะยานอยาก จึงไม่มีฐานะที่เป็นได้

    แต่อย่างไรแล้ว ก็แล้วแต่ท่านจักเห็นควร ท่านเป็นผู้เลิศกว่า ท่านเป็นผู้อุตสาหะยิ่ง เป็น ทีมพระไตรปิฏก บางคนก็กล่าวถึงกิติมศักดิ์ท่าน ถึง Dr. ถ้าหากท่านเห็นว่าเป็นการล่วงเกินแล้ว ก็ขอโปรดยกโทษ และอโหสิกรรมให้กันและกัน

    เราคงไม่ได้อยากแข่งดีกับใคร ถ้าท่านผู้ทรงคุณาวุฒิ เห็น กระทู้ นี้เป็นความวิปลาส ก็ขอให้ทุกๆท่านเห็นเป็นความวิปลาสเกิดขึ้นตามที่ปราชญ์ได้แย้งแล้วเทอญ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 20 พฤศจิกายน 2007
  2. หนุมาน ผู้นำสาร

    หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    13,713
    ค่าพลัง:
    +51,945
    *** สัญญาณเตือนกรรม ****

    - " หนุมาน ผู้นำสาร "
     
  3. illanzer

    illanzer เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    631
    ค่าพลัง:
    +840
    ถ้าจะถกถึงปัญหาเรื่องนี้กัน มันก็ไม่ผิดที่จะแสดงความคิดเห็นนะครับ...

    เชิญท่าน เล่าปัง เสนอ แนวคิดต่อได้เลยครับ...สำหรับคนที่มองการไกลอย่างท่าน มีความรู้ความสามารถที่เป็นประโยชน์ต่อผู้คนอีกมากหลาย อย่าได้หยุด หรือยอมแพ้ที่จะแสดงศักยภาพนั้นออกมาเลยครับ

    แต่คำถามที่ผมถามไปยังไม่ได้รับคำตอบเลยครับ *0*
     
  4. tamsak

    tamsak ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 กันยายน 2004
    โพสต์:
    7,857
    กระทู้เรื่องเด่น:
    22
    ค่าพลัง:
    +161,177


    ที่ผมกล่าวว่า "คิดไกลเกินตัวไปมาก" นั้น เพราะเห็นว่า เป็นเรื่องยังไม่สมควรคิดตอนนี้ ถึงหากอยากคิด หรือคิดไปแล้ว ก็ยังไม่สมควรนำมากล่าวในขณะนี้ เรื่องนี้ไม่ใช่ว่าไม่มีใครคิดเลย คิดเหมือนกัน พูดถึงเหมือนกัน แต่ไม่ใช่เวลาที่จะนำมากล่าวถึงในที่สาธารณะเช่นนี้

    ช่วงเวลานี้ ควรจะคิด จะพูดถึงว่า เราควรจะเตรียมตัวในด้านกายภาพและด้านจิตใจอย่างไร จะหาทางช่วยเหลือคนให้อยู่รอดปลอดภัยให้มากที่สุดอย่างไร จะปกปักรักษาพระธรรมคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้าในรูปสื่อต่างๆ อย่างไรให้อยู่ครบถ้วนสมบูรณ์มากที่สุดเมื่อมีภัยพิบัติเกิดขึ้นจริงๆ มากกว่าที่จะไปพูดถึงการปกครองผู้คน การเป็นผู้นำ ฯลฯ ยังมีเรื่องสำคัญๆ และสมควรที่จะทำอีกมากมาย หากไม่รังเกียจที่จะมาร่วมมือกันทำกิจกรรมกับกลุ่มพลังจิตพิชิตภัยพิบัติ ผมและเพื่อนๆ ก็ยินดีต้อนรับเสมอโดยเฉพาะผู้ที่มีสัมมาทิฏฐิ สัมมาสมาธิ และสัมมาปฏิบัติ

    ขอขอบคุณที่ยกย่องผมเสียจนเลิศเลอ แต่ทว่า...ผมยังไม่มีความดีพอที่จะรับคำเยินยอที่มอบให้ได้ และผมก็ไม่ได้ถือว่า มาล่วงเกินอะไรผม เพราะได้บอกแต่ต้นแล้วว่า ในกระทู้นี้จะนั่งดูอยู่เฉยๆ สบายกว่ากันเยอะเลย

    แต่เมื่อถูกพาดพิงเข้าเต็มๆ ก็ต้องลุกจากที่นั่งออกมาใช้สิทธิเล่าแจ้งแถลงไขเพื่อความเข้าใจอันดีต่อกัน และสำหรับตำแหน่งทีมพระไตรปิฎกนั้น เว็บมาสเตอร์ท่านจัดสรรตำแหน่งให้เนื่องจากทำหน้าที่เก็บรักษาเงินที่สมาชิกบริจาคเข้ามาเนื่องในการสร้างพระไตรปิฏกฉบับเว็บเวอร์ชั่น และแท้ที่จริงผมยังไม่ได้ทำงานอะไรที่เกี่ยวข้องกับพระไตรปิฎกเลย ขอได้โปรดเข้าใจตามนี้

    หากจะเสวนาตามหัวข้อกระทู้ที่ตั้งขึ้นมา ก็ขอเชิญตามสบาย...ใครจะแข่งดีหรือแข่งเลวกับใครก็เชิญตามสะดวก.....ส่วนผมก็ขอกลับไปนั่งดูแบบสบายๆ ต่อไปละกัน...


    .
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 20 พฤศจิกายน 2007
  5. เล่าปัง

    เล่าปัง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    4,787
    ค่าพลัง:
    +7,918
  6. bnbk

    bnbk เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    1,047
    ค่าพลัง:
    +15,613
    หลักการในการบำเพ็ญประโยชน์ผู้อื่นเช่นนี้พึงทราบวิธีการดังต่อไปนี้ :-

    ( ๑ ) วิธีใช้ทิพยอำนาจคุ้มครองผู้อื่น
    ในกรณีที่ผู้อื่นไม่สามารถจะคุ้มครองตนของเขาให้ปลอดภัยได้ ถ้าเราเป็นผู้สามารถป้องกันภัยได้และเมตตากรุณาแก่เขา ก็พึงทำการคุ้มครองเขาด้วยทิพยอำนาจประการใดประการหนึ่ง เช่น

    ก. ทำฤทธิ์กำหนดเขตปลอดภัยแก่เขา.
    ข. ทำฤทธิ์อธิษฐานวัตถุให้เป็นเครื่องคุ้มกันภัยแก่เขา.
    ค. แนะนำให้เขาระลึกถึงพระรัตนตรัย และคนซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของพระรัตนตรัย ในเวลาหวาดระแวงภัย.
    ฆ. ทำฤทธิ์ด้วยเมตตาพล กรุณาพล หรือการอื่นๆ ปกคลุมไปคุ้มครองเขาในเมื่อจำเป็น.

    ( ๒ ) วิธีใช้ทิพยอำนาจบรรเทาภัยแก่ผู้อื่น
    ในกรณีที่ผู้อื่นประสพกับอันตรายอย่างใดอย่างหนึ่ง เมื่อเราเมตตากรุณาเขาอยู่ และมีสมรรถภาพพอจะช่วยได้ ก็พึงช่วยทิพยอำนาจประการใดประการหนึ่งซึ่งเหมาะสมกับกรณีนั้นๆ เช่น

    ก. ทำฤทธิ์กำจัดภัย ในเมื่อเห็นว่าจำเป็นต้องทำเพราะจะปฏิบัติโดยวิธีอื่นใดไม่สำเร็จ.
    ข. ทำบุญอุทิศ หรืออุทิศบุญที่มีอยู่แล้ว ไปให้แก่เขาผู้กำลังตกทุกข์ได้ยากอยู่ในปรโลก ให้พ้นทุกข์ยากไป.
    ค. ให้คำแนะนำสั่งสอนอันศักดิ์สิทธิ์ เหมาะสมกับภัยที่เขาผจญอยู่นั้น ให้เขาเกิดกำลังใจต่อสู้กับภัยด้วยธรรมิกอุบาย และแผ่กระแสจิตประกอบด้วยอานุภาพไปช่วยเขาตามสมควร.
    ฆ. ถ้าเขาเป็นผู้มีทิพยอำนาจพอจะขจัดภัยแก่ตัวเองได้อยู่ หากแต่ไม่ฉลาดในวิธีใช้ พึงแนะอุปเทศแห่งทิพยอำนาจแก่เขาตามควร.

    ( ๓ ) วิธีใช้ทิพยอำนาจบำบัดอาพาธผู้อื่น
    ในกรณีที่ผู้อื่นเกิดอาพาธที่พอเยียวยา หรือผ่อนบรรเทาทุกขเวทนาได้ ก็พึงช่วยเหลือตามสมควรแก่กรณี เช่น

    ก. เข้าสมาธิขั้นปีติสุขภูมิ แล้วแผ่กระแสปีติสุขนั้นไปให้ หรือทำอธิษฐานฤทธิ์ก็ได้.
    ข. ถ้าเป็นผู้มีกำลังใจ ได้เคยซาบซึ้งในพระธรรมอยู่แล้ว แสดงธรรมอันวิเศษให้ฟังก็บรรเทาได้.
    ค. ถ้าผู้อาพาธ เป็นผู้ที่ควรสงเคราะห์โดยประการทั้งปวง พึงเพ่งให้เกิดเป็นทิพยโอสถขึ้นแล้วให้เขาใช้อาบกิน.
    ( ๔ ) วิธีใช้ทิพยอำนาจปลูกศรัทธาในศีลธรรมแก่ผู้อื่น
    ในกรณีช่วยเหลือผู้อื่น ให้เกิดศรัทธาเชื่อมั่นในศีลธรรมนั้น นอกจากการให้คำแนะนำสั่งสอนตามธรรมดาแล้ว ในบางกรณีจะต้องอาศัยทิพยอำนาจเข้าช่วย จึงจะสำเร็จผล เพราะบางคนมีทิฏฐิมานะกล้า ถ้าไม่เห็นคุณน่าอัศจรรย์ประจักษ์ตา เขาจะไม่เชื่อถือถ้อยคำในการแนะนำสั่งสอน

    แต่ถ้าเขาได้เห็นคุณน่าอัศจรรย์แล้ว เขาจะเชื่อถ้อยคำในการแนะนำสั่งสอนอย่างดียิ่ง และทำให้เขามั่นใจในศีลธรรมว่า เป็นสิ่งดีวิเศษกว่าสิ่งใดๆ เมื่อเขามั่นใจในศีลธรรมยิ่งๆ ขึ้น ในกรณีที่ต้องใช้ทิพยอำนาจนี้ต้องพิจารณาโดยรอบคอบว่า ควรใช้ทิพยอำนาจชนิดใดด้วย อย่าสักว่ามีอำนาจใช้ก็ใช้ไปทีเดียว เพราะถ้าใช้ไม่ถูกวิธี ก็อาจกลับเป็นร้ายได้ และต้องสังวรให้มาก อย่าใช้พร่ำเพรื่อ จะนำอันตรายมา

    อนึ่ง นาค ยักษ์ คนธรรพ์ ปีศาจ เปรตบางจำพวกมีฤทธิ์และโหดร้าย ถ้าไม่ใช้ฤทธิ์ทรมาน ก็ย่อมไม่สำเร็จอยู่ดี ในกรณีทำฤทธิ์ทรมานพวกนี้ พึงพิจารณาดูฤทธิ์ อันจะปราบเขาได้ เช่น นาค ต้องใช้ฤทธิ์สองประการทรมาน คือ ธมายิกภาพ กับปัชชลิกภาพ นอกนั้น เพียงเมตตาฌานก็อาจทรมานได้ ถ้าใช้เมตตาไม่ลง จึงค่อยใช้ฤทธิ์อื่นๆ ต่อไปตามสมควร เมื่อทรมานลงแล้ว ต้องสั่งสอนให้ดำรงอยู่ในพระไตรสรณคมน์ และศีล ๕ ประการ เสมอไปทุกครั้ง อย่าทรมานปล่อย จะได้ประโยชน์น้อย.
    ทิพยอำนาจ<?xml:namespace prefix = o ns = "urn:schemas-microsoft-com:eek:ffice:eek:ffice" /><o:p></o:p>

    พระอริยคุณาธาร
    เรียบเรียง<o:p></o:p>
     
  7. เล่าปัง

    เล่าปัง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    4,787
    ค่าพลัง:
    +7,918
    หนทางแห่งอบายของทิพย์อำนาจ

    เมื่อผู้ใดใช้ทิพย์อำนาจ ย่อม อ้างว่า

    1.เขาคือบุคคลผู้มีเมตตา
    2.เขาคือบุคคลผู้บรรดาลอาหาร และยา
    3.เขาเป็นผู้ยุติธรรม ลงทัณฑ์ผู้หยาบช้า
    4.เข้าเป็นผู้ยึดมั่นในศีล


    เมื่อผู้ใดอยากใช้ทิพย์อำนาจที่ตัวเองไม่มี ย่อม อ้างว่า

    1.เราคือบุคคลผู้ถูกรังแก โปรดเมตตา
    2.เราคือบุคคลผู้ขาดอาหาร และยา โปรดเมตตา
    3.เราเป็นผู้ถูกข่มเหงไม่อาจตอบโต้ได้ โปรดช่วยลงทัณฑ์ผู้หยาบช้า โปรดเมตตา
    4.ถ้าท่านไม่เมตตา ท่านย่อม ทุศีล มีวาจาไม่สุจริต
    5.ถ้าท่านไม่นำพา ท่านย่อม ทุศีล มีจรณะไม่สุจริต มีใจลำเอียง
    6.เราไม่รู้เรื่องศีล โปรดละวางให้เรากล่าวถือ หรือทวงถึง โปรดเมตตา

    และเมื่อใช้อำนาจไปแล้ว

    ลูกหลานของผู้อยู่ใต้ทิพย์อำนาจ ย่อมร้องทุกข์ เพราะเขาขาดบิดามารดาดูแล จึงมาร้องขอความเมตตา

    และหลังใช้อำนาจไปแล้ว

    ปรากฏผู้มีทิพย์อำนาจที่ไม่มีศีลปรากฏเพียงหนึ่งบุคคล การกล่าวแลกเปลี่ยนให้ ศรัทธา และให้ ถือ ศีล ย่อมตกไป ย่อมทนไม่ได้ ย่อมไม่เที่ยง คนธรรมดาย่อมสับสนในที่มาของทิพย์อำนาจ ว่าต้องมาจากศีลหรือไม่ แล้วยังต้องศรัทธาต่อไปหรือไม่ ในเมื่อ คนไม่มี ศีล ก็มีทิพย์อำนาจเช่นกัน


    ทิพย์อำนาจ จึง เป็นหนทางแห่งทุกข์ ไม่อาจอยู่เหนือ กฏแห่งกรรม ไม่อาจปฏิเสธหรือต้านทานสายสัมพันธ์แห่งการสืบสานสันตติ แม้นใช้ลำพังเพื่อปลดทุกข์แก่ตัวก็ยังไม่ควร

    เมื่อนั้นปุถุชนย่อมรวมตัว ย่อมแห่แหน ย่อมเขารุมล้อม เพื่อล้างผลาญ คนมีทิพย์อำนาจ เสียให้สิ้น อาจเอาไปเผาไฟ อาจเอาไปบูชาญัณ หากผู้มีอำนาจใด คิด ต่อสู้ เมตตา ย่อมตกไป หากผู้มีอำนาจใด คิด หลบหนี ย่อมเป็นที่หวั่นหวาดใจของปุถุชน เป็นทุกข์แก่เขาเหล่านั้น จัดพิธีสาปแช่ง อันเป็นอกุศลต่อผู้มีทิพย์อำนาจ ชั่วกาลนาน
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 21 พฤศจิกายน 2007
  8. illanzer

    illanzer เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    631
    ค่าพลัง:
    +840
    ขอบคุณครับ
     
  9. รพินทร์ไพรวัลย์

    รพินทร์ไพรวัลย์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    669
    ค่าพลัง:
    +1,122
    จะสุขจะทุกข์เรากำหนดเอง คำติคำชมเป็นของคู่กับการสร้างสรรค์
    ใจให้นิ่งทุกคำติชมมีความหมาย กระทู้ใช้เพื่อแสดงความคิดเห็น
    ย่อมมีความเห็นที่หลากหลาย ปัญญาชนก็ต้องถกกันด้วยปัญญา
    อย่างไรก็ว่ากันไปตามเรื่องตามราว หวังดีด้วยกันทั้งนั้น
     

แชร์หน้านี้

Loading...