ติดตามสถานะการณ์

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย สุกิจSukit, 8 มิถุนายน 2013.

  1. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,823
    ค่าพลัง:
    +97,150
    เราลองมาขยี้เรื่องน้ำมันดิบ Brent และ WTI ให้ลึกกันเข้าไปอีกนะครับ ท่านใดที่เข้าใจเรื่องนี้ดีอยู่แล้วก็ต้องขออภัยด้วยครับ แต่ว่าใน Inbox ของเรายังเต็มไปด้วยคำถามเหล่านี้ และทางเราตั้งใจตั้งเพจนี้ขึ้นมาเพื่อกระจายความรู้เรื่องตลาดน้ำมันโลกเราให้กับทุกๆท่านครับ เลยต้องขอออกมาอธิบายเรื่อยๆจนกว่าจะเข้าใจตรงกันทุกคน

    ตั้งแต่เขียนเพจมาคำถามที่โดนถามมากที่สุดคงเป็น #ทำไมแอดถึงชอบอัพเดทแต่ราคาน้ำมันดิบ Brent ? ทำไมไม่รายงานราคาน้ำมันดิบ WTI ? WTI เป็นราคาพื้นฐาน (Benchmark) ของโลกไม่ใช่หรือ ?

    #วันนี้ผมจึงขอถือโอกาสมาอธิบายให้เคลียร์ๆกันไปเลยนะครับ



    อะไรคือน้ำมันดิบ Brent และ น้ำมันดิบ WTI ?

    ทั้งสองนั้นเป็นชื่อเรียกของน้ำมันดิบที่ซื้อขายกันในตลาด Futures (ซื้อขายกันผ่านหน้าจอเหมือนหุ้นเลย เดี๋ยวผมจะแนบหน้าจอให้ในคอมเม้นท์) โดยหากใครเข้าไปกดซื้อหรือว่ากดขายสัญญาเหล่านี้นั้น คือต้องพร้อมที่จะไปรับและส่งมอบน้ำมันจากจุดนั้นด้วยราคาที่กดซื้อและขายไปจริงๆ ทางตลาดตั้งกฏมาแบบนี้เพื่อที่ #จะให้ราคาซื้อขายสะท้อนความต้องการของน้ำมันจริงๆ ไม่ใช่ว่าใครจะเข้าไปซื้อขายได้ตามใจชอบ แต่คนที่เข้าไปเล่นต้องพร้อมที่จะรับหรือขายของด้วยราคานั้น

    ส่วนถ้าใครที่เข้าไปซื้อและไม่อยากรับเนื้อน้ำมันจริงๆ (เช่นพวกกองทุนหรือว่านักเก็งกำไร) ก็ต้องปิดสัญญานั้นทิ้งไปก่อนหมดอายุ (Expiry) และไปรับจ่ายในเงินส่วนต่างของสัญญาที่เปิดและปิด (ยกตัวอย่าง: ถ้าตอนซื้อ ซื้อที่ 35 เหรียญ แต่ตอนขาย ขายที่ 30 เหรียญ ก็ต้องไปจ่ายเงินให้ตลาด Future 30-35 = 5 เหรียญ x ปริมาณที่ทำการซื้อขายไป)

    ส่วนที่แตกต่างกันระหว่างน้ำมันดิบ Brent และ น้ำมันดิบ WTI ?

    จุดส่งมอบคือสิ่งที่ต่างกันหลักๆระหว่าง Brent และ WTI

    โดย WTI เป็นสัญญาน้ำมันดิบที่ส่งมอบในอเมริกาที่รัฐ Texas, Houston ส่วน Brent นั้นเป็นสัญญาน้ำมันที่ส่งมอบที่ยุโรป (North Sea) ถึงแม้ทั้งคู่จะมีกลไกการซื้อขายและส่งมอบที่คล้ายๆกัน แต่เนื่องจากอยู่กันคนละทวีปทำให้ราคานั้นจึงต่างกันอย่างสิ้นเชิง ราคาจะขึ้นอยู่กับ Demand/Supply ในแต่ละภูมิภาคเลย

    WTI เป็นราคาพื้นฐาน (Benchmark) ของโลก จริงหรือ ?

    ตอนที่ผมเริ่มเทรดน้ำมันครั้งแรกเมื่อ 13 ปีก่อน WTI เคยเป็น Benchmark ของโลกจริงๆครับ ผมแทบจะไม่เคยได้ยินชื่อน้ำมันดิบ Brent ในข่าวหรือต้องติดตามราคามันเลย แต่ทุกวันนี้กลับตรงกันข้ามกัน WTI ไม่ได้เป็น Benchmark ของโลกอีกต่อไปแล้ว และผมก็แทบจะไม่ต้องติดตามราคาของมันเลย เพิ่งจะมาเริ่มติดตามอีกครั้งเมื่อ 2 ปีที่ผ่านมานี้หลังจากที่ทางเอเชียเราเริ่มมีการนำเข้าน้ำมันดิบ WTI มากขึ้น (อย่างที่ได้เขียนไปในบทความเมื่อเช้านี้) แต่ก็ติดตามน้อยกว่า Brent เยอะ

    ทำไม WTI ถึงหลุดออกมาจากการเป็นราคาพื้นฐานของโลก

    อเมริกาเป็นประเทศที่ใช้น้ำมันมากถึง 1/4 ของโลกมาโดยตลอดแต่เคยผลิตได้เพียงน้อยนิดมาก ทำให้ในสมัยก่อนนั้นต้องนำเข้าน้ำมันเป็นปริมาณมหาศาลตลอดเวลา ด้วยเหตุนี้จุดส่งมอบน้ำมันที่เท็กซัส (Texas) จึงสามารถใช้เป็นราคาพื้นฐานของโลกได้อย่างดี เป็นจุดที่ชี้วัดว่าโลกมีความต้องการใช้น้ำมันมากน้อยแค่ไหน

    แต่แล้วตั้งแต่ปี 2010 เป็นต้นมาการผลิตเชลออยล์ (Shale Oil) นั้นก็เริ่มบูมขึ้นมาอย่างรวดเร็วทำให้สหรัฐนั้นไม่ต้องนำเข้าน้ำมันดิบเยอะอย่างที่เคยเป็น และสุดท้ายก็สามารถผลิตน้ำมันเกรดนี้ได้จนเกินความต้องการใช้ของโรงกลั่นในประเทศตัวเอง (เพราะโรงกลั่นสหรัฐถูกสร้างมาเพื่อรับน้ำมันดิบหนักแต่ WTI เป็นเกรดน้ำมันดิบเบา) ทำให้สต็อกในประเทศเริ่มล้นด้วยน้ำมันดิบที่ขุดขึ้นมา

    ประกอบกับท่อน้ำมันและต่างๆที่สหรัฐเคยสร้างมานั้น ไม่ได้สร้างมาเพื่อรองรับการส่งออกเลย มีแต่สร้างมาแต่ให้นำเข้าอย่างเดียว ทำให้สต็อกน้ำมันดิบในประเทศสหรัฐที่เท็กซัสนั้นล้นเต็มเกินกว่าที่จะรับได้แล้ว ทำให้ราคาของที่ส่งมอบที่เท็กซัสนี้ราคาต้องลดลงอย่างกระจาย เพราะคนนอกประเทศก็เข้าไปรับซื้อไม่ได้

    พอสต็อกของมีล้นราคา WTI ตกลดลงมาเรื่องตลอด จนสุดจึงหลุดจากการเป็น Benchmark ของโลกมาตั้งแต่ปี 2010 แล้ว เพราะราคาสะท้อนถึงความต้องการใช้ที่จุดเท็กซัสเพียงอย่างเดียว ไม่ได้เชื่อมต่อกับราคาน้ำมันโลกและความต้องการใช่ของโลกอีกต่อไป

    ในทางกลับกัน ราคาน้ำมันดิบ Brent ได้ทะยานขึ้นเป็น Benchmark ใหม่ของตลาดโลกโดยทันที ถึงแม้การผลิตจะไม่สูงเท่า แต่ด้วยความที่มีตลาดซื้อขาย Future ที่สมดุลอยู่ตัวมานานแล้ว น้ำมันที่ส่งมอบก็สามารถส่งออกและนำเข้าได้ง่าย น้ำมันจะไหลมาทางเอเชียด้วยก็ได้ ทำให้ราคาเป็นที่ยอมรับกันว่าสะท้อนความต้องการของโลกจริงๆ และพร้อมที่สุดที่จะเข้ามาทดแทน WTI

    ทำให้ทุกวันนี้ราคาน้ำมันดิบหลายๆแห่งในโลกของเราจึงหันมาใช้ราคา Brent เป็นราคาพื้นฐานอ้างอิงในการซื้อขายน้ำมันดิบกันมากขึ้นครับ

    ทำไมพวกเราถึงชินกับการที่ราคา WTI อยู่ต่ำกว่า Brent ตลอดเวลา ? คุณภาพน้ำมันดิบที่ไหนดีกว่ากัน ?

    ทุกวันนี้ที่ราคา WTI อยู่ต่ำกว่า Brent ตลอดเวลานั้น เป็นเพราะสต็อกที่ล้นในเท็กซัสเป็นหลักอย่างที่ได้บอกไป มีของเยอะแต่ขายออกไปไม่ได้ราคาก็ต้องลดมาจนถึงจุดสมดุลเป็นธรรมดา ในจุดนึง WTI เคยต่ำกว่า Brent ถึง 20 เหรียญต่อบาร์เรล แต่สองปีที่ผ่านมาส่วนต่างเริ่มลดลงเพราะอเมริกาเริ่มสร้างท่าและท่อส่งออกได้แล้ว ทำให้โรงกลั่นในทวีปอื่นเข้าไปรับซื้อน้ำมันออกมาได้ ความต้องการใช้ WTI จากนอกภูมิภาคที่มากขึ้นก็ช่วงดึงให้ราคาไม่ตกลงไปต่ำมาก

    ที่ราคาต่ำกว่านั้นไม่ใช่เรื่องของคุณภาพน้ำมันดิบ เพราะคุณภาพน้ำมันดิบแบบไหนนั้นจะแพงหรือถูกก็ขึ้นอยู่กับช่วงเวลาครับ เพราะน้ำมันดิบแต่ละเกรดมีคุณสมบัติในการกลั่นออกมาเป็นสัดส่วนน้ำมันสำเร็จรูปที่ต่างกัน หากช่วงไหนราคาน้ำมันเบนซินเป็นที่ต้องการสูง ค่าการกลั่นสูงขึ้น น้ำมันดิบที่มีสัดส่วนกลั่นเป็นมันเบนซินนั้นก็จะมีค่ามากขึ้น

    ในสมัยที่ WTI เคยเป็น Benchmark ของโลกนั้น ราคาจะอยู่สูงกว่า Brent เสมอด้วยซ้ำ เพราะเป็นน้ำมันที่เบากว่าและสามารถผลิตออกมาเป็นน้ำมันเบนซินได้สูงกว่าซึ่งเป็นที่ต้องการในช่วงนั้นครับ

    แล้วคนไทยเราควรติดตามน้ำมันดิบตัวไหนมากกว่ากัน ??

    ขึ้นอยู่กับจุดประสงค์ในการใช้เลยครับ ถ้าคุณอยากติดตามว่า #วันนี้ราคาน้ำมันดิบในโลกแพงขึ้นหรือถูกลง โดยรวมแล้วการตามราคา Brent ก็น่าจะเป็นการบอกราคาคร่าวๆได้ดีที่สุด

    แต่ด้วยคำถามที่มีคนถามเข้ามาว่า...

    เมื่ออาทิตย์ที่ผ่านมาน้ำมันดิบ WTI โดนเทขายอย่างหนัก #ทำไมราคาหุ้นพลังงานถึงยืนอยู่ได้ ?

    นี่เป็นคำถามที่มีเยอะที่สุดใน Inbox ของอาทิตย์นี้... ผมเลยต้องขอออกมาชี้แจงว่า อย่างแรกเลยคุณควรศึกษาก่อนว่าหุ้นพลังงานที่คุณถืออยู่นั้น #เขาอยู่ในส่วนไหนของห่วงโซ่ธุรกิจ เขาอยู่ต้นน้ำเป็นคนขุดเจาะ ? หรืออยู่ตรงกลางเป็นโรงกลั่น ? หรืออยู่ปลายน้ำเป็นสถานีบริการ ? หรือจริงๆแล้วเขาอาจจะเป็นบริษัทพลังงานที่ไม่ได้รับผลกระทบต่อราคาน้ำมันโดยตรงเลยก็ได้

    ราคาหุ้นจะเปลี่ยนไปตามแรงซื้อขาย และแรงซื้อขายใหญ่ๆและหลักๆจะมาจากคนที่เข้าใจธุรกิจ เพราะฉะนั้นการศึกษาผลกระทบของธุรกิจว่าราคาน้ำมันชนิดไหนที่เปลี่ยนแปลงไป จะกระทบต่อผลประกอบการของบริษัทไหนมากน้อยแค่ไหน ? ผมอยากให้ทุกท่านที่ถามเข้ามาศึกษาตรงนี้ให้ถี่ถ้วนก่อน

    และอีกเรื่อง #ที่อยากอธิบายที่สุดคือ

    ส่วนมากบริษัทน้ำมันในไทยนั้นจะมีความเสี่ยงของราคาซื้อขายอ้างอิงกับราคาน้ำมันในสิงค์โปร์มากที่สุด เพราะฉะนั้นเราต้องเข้าใจว่าต่อให้ราคาน้ำมันดิบ WTI หรือ Brent จะขยับไปทางไหน #ตราบใดที่มันไม่ได้กระทบกับราคาน้ำมันในสิงค์โปร์ มันก็จะไม่มีผลกระทบต่อราคาหุ้น

    คราวนี้อีกจุดที่สำคัญที่ต้องเข้าใจคือ น้ำมันดิบแต่ละตัวและน้ำมันสำเร็จรูปแต่ละชนิดนั้นมีความสัมพันธ์ที่ต่างกันไป ราคาน้ำมันดิบแต่ละภูมิภาคมีราคาเคลื่อนไหวต่างกันไปจากความต้องการซื้อน้ำมันดิบของโรงกลั่นในแต่ละภูมิภาค ถ้าตลาดไหนมีน้ำมันไหลออกได้อย่างคล่องแคล่วว่องไวราคาก็จะไหลไปตามๆกันกับน้ำมันดิบเกรดตัวอื่นๆ เช่นโดยปกติหากราคาน้ำมันดิบ Brent ราคาสูงขึ้น น้ำมันดิบดูไปก็อาจจะสูงตามเพราะกลายเป็นว่าคนที่เคยซื้อ Brent อยู่อาจจะเลือกที่จะหันมาซื้อน้ำมันดิบดูไปแทน แต่ในขณะที่น้ำมันดิบ WTI นั้นคนอาจจะเข้าไปซื้อไม่ได้เพราะว่าท่อส่งออกนั้นเต็ม ราคาก็อาจจะไม่ได้ขยับขึ้นตามเกรดอื่นๆในโลกไปด้วย

    ในขณะเดียวกันราคาน้ำมันสำเร็จรูปนั้นจะมีความสัมพันธ์กันอย่างไร ก็ขึ้นอยู่กับอัตราและสัดส่วนในการกลั่นของแต่ละภูมิภาค หากภูมิภาคไหนมีการผลิตจนของล้น อุปทานของน้ำมันชนิดนี้ก็จะไหลมาอีกภูมิภาคนึงกดดันราคาตามๆกันไป

    คำอธิบายนี้น่าจะช่วยกลับมาตอบคำถามที่ว่าเมื่อวันศุกร์ที่ #ราคาน้ำมันดิบ WTI ลงหนักมาก แต่ทำไมหุ้นพลังงานถึงไม่ขยับ ?

    ก็แน่สิครับ ! สัญญาน้ำมันดิบ WTI เดือน May ที่กำลังจะหมดอายุสัญญาส่งมอบกันในวันอังคารนี้นั้นไม่ได้มีผลกระทบอะไรกับราคาน้ำมันดิบที่อื่นๆในโลกเลย เพราะฉะนั้นก็จะไม่กระทบต่อราคาน้ำมันในสิงคโปร์ด้วย จึงไม่ควรจะส่งผลกระทบต่อบริษัทน้ำมันในบ้านเรา !

    และต่อให้เป็นราคาน้ำมันดิบ WTI เดือน June ก็ยังจะมีผลกระทบที่น้อยอยู่ แต่ก็ยังสูงกว่าเดือน May เพราะถ้าราคาตลาดโลกเปลี่ยนแปลงไปอย่างไร เทรดเดอร์บางคนอาจจะนำน้ำมันไปส่งมอบในอีกภูมิภาคหนึ่งได้ (Arbitrage) ถ้าเป็นเดือนหน้ายังทันเวลาและอาจทำให้ WTI เดือน June ขยับตามตลาดโลกได้ดีกว่าเดือน May ที่กำลังจะหมดสัญญา เดือน May นั้นเป็นการซื้อขายตาม Demand/Supply ของตรงหน้าที่ส่งมอบที่ Texas ล้วนๆ

    สิ่งหนึ่งทีน่าสนใจในภาวะสงครามราคาน้ำมันและภาวะการลดกำลังการผลิตครั้งยิ่งใหญ่นี้คือ ราคาส่วนต่างและความสัมพันธ์ของราคาน้ำมันดิบทั่วโลกนี้กำลังเปลี่ยนแปลงไปอย่างที่เราไม่เคยเห็นมาก่อน

    โดยปกติราคาในแต่ละภูมิภาคจะวิ่งขึ้นลงตามๆกันถึงแม้จะในสัดส่วนที่ไม่เท่ากัน แต่ในช่วงเดือนที่ผ่านมานี้เราอาจจะเห็นราคา Brent วิ่งขึ้นแต่ WTI ไม่วิ่งตาม ราคาดูไบวิ่งลงแต่ Brent ก็ไม่ลงเท่าตาม

    ความสัมพันธ์ที่กำลังเปลี่ยนไปนี้ก็เพราะว่า การเพิ่มการผลิตของซาอุไปจนถึงการกลับมาลดกำลังการผลิตของซาอุและคนทั้งโลกอีกครั้งนั้นกำลังทำให้ปริมาณการซื้อขายน้ำมันในแต่ละภูมิภาคนั้นผันผวนและเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว

    ถ้าเป็นยามปกติที่อุปทานไม่ได้เปลี่ยนมาก เส้นทางการส่งมอบนั้นนิ่งๆ ใครเคยซื้อจากภูมิภาคไหนก็จะซื้อจากภูมิภาคนั้นเหมือนเดิมไปเรื่อยๆ ความสัมพันธ์ระหว่างราคาในแต่ละจุดก็ยังจะสูงอยู่โดยปกติ

    แต่ด้วยสงครามราคาประกอบกับช่วงนี้โรงกลั่นที่ทำหน้าที่ส่งออกน้ำมันเป็นหลังกำลังโดนปิดกันไปหลายที่ (โดยเฉพาะในอินเดียและยุโรป) เพราะการใช้จากไวรัสโควิดนั้นได้หดไปถึง 30% สิ่งนี้กำลังทำให้เส้นการขนส่งน้ำมันดิบ (Flow) ของการวิ่งของน้ำมันเหล่านี้มันเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง

    น้ำมันดิบที่เคยไหลไปสู่โรงกลั่นในอินเดียและยุโรปก็กำลังต้องไหลไปที่อื่น ความสัมพันธ์ของราคาในแต่ละภูมิภาคก็จะยิ่งแตกต่างกันไป (เช่นที่เขียนไปเมื่อเช้าว่าน้ำมันดิบซาอุเริ่มไหลเข้าสหรัฐมากขึ้นแล้ว) ทำให้ความสัมพันธ์นั้นยิ่งผันผวนและทำให้ผู้ที่อยู่นอกตลาดนั้นอาจจะยิ่งสับสนได้

    สรุป - อย่านำความเคลื่อนไหวของราคาน้ำมันดิบที่ไม่ได้มีผลกระทบต่อผลประกอบการของบริษัทที่คุณจะลงทุนมาเป็นตัวกำหนดราคาที่จะวิ่งขึ้นลง และจงทำความเข้าใจถึงความสัมพันธ์ของน้ำมันดิบในแต่ละภูมิภาค โดยเฉพาะในยุดที่สงครามราคาและการลดกำลังการผลิตทั่วโลกครั้งใหญ่กำลังเข้ามา

    #เพราะความสัมพันธ์เก่าที่คุณเคยเข้าใจอาจเปลี่ยนไปแล้ว และหากยังลงทุนเช่นเดิมก็อาจจะมีความเสี่ยงได้

    หวังว่าบทความนี้จะช่วยตอบคำถามทุกท่านที่เขียนเข้ามาให้กระจ่างขึ้น และหวังว่าเราจะช่วยอธิบายกลไกการซื้อขายราคาน้ำมันของโลกที่ซับซ้อนให้พอเข้าใจได้ง่ายขึ้นบ้างครับ โดยเฉพาะในยุคสงครามราคาน้ำมันนี้ที่กำลังเข้ามาเปลี่ยนแปลงความรู้เก่าๆที่เคยชินในตลาดเราไปอีกครั้ง

    ฝากกด Like และ Share เป็นกำลังใจให้แอดด้วยนะครับ หากบทความนี้มีประโยชน์ ขอบคุณมากๆครับ

    #OilTradingKP

     
  2. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,823
    ค่าพลัง:
    +97,150
    จำได้ไหมเอ่ย … แค่ 1 อาทิตย์ก่อนเอง ที่เม็กซิโกทำเอาปั่นป่วนไปทั่ววงการน้ำมันโลก โทษฐานดื้อรั้น ‘หัวชนฝา’ ไม่ยอมลดผลิตน้ำมันดิบตามมติ “โอเปก” กับพันธมิตร … เกือบเป็นชนวนให้ ‘วงแตก’

    เคราะห์ดีที่ไม่ล่มกลางคัน หลังฝ่า “4 วันอันตราย” ลงท้ายสมาชิกที่เหลือ 22 ประเทศยินยอมพร้อมใจเดินหน้า แล้วอะลุ้มอล่วยปล่อยให้เม็กซิโกได้ ‘อภิสิทธิ์’ ลดแค่กระจึ๋งเดียว

    สมควรโดนสั่งสอนหน่อยไหมลูกพี่?
    .
    ไม่ทันไร “มูดี้ส์” (Moody’s) สถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือชั้นแนวหน้า สำนักงานใหญ่ตั้งตระหง่าน ณ มหานคร นิวยอร์ก ประกาศ ‘ลดอันดับ’ ของ “เปเม็ก” บริษัทน้ำมันแห่งชาติของเม็กซิโก (เทียบได้กับ ปตท. บ้านเรา)
    จาก Ba2 ถูกลดขั้นลงมาเหลือ Baa3 --- จัดอยู่ในทำเนียบ “ขยะ” (junk)

    หมายความว่าถ้า “เปเม็ก” จะออกขาย “หุ้นกู้” เพื่อระดมเงิน ก็จะถือ “หุ้นกู้” นั้นเป็น “เศษสวะ” --- มิพึงลงทุน (non-investment grade) ดังนั้น เพื่อให้คนกล้าเสี่ยงมาลงทุนแล้ว “เปเม็ก” ก็ยิ่งต้องจ่าย “ผลตอบแทน” เพิ่มขึ้นสูงๆ
    ว่าง่ายๆ ก็คือจ่ายดอกเบี้ยเงินกู้หนักขึ้นน่ะแหละ

    ประเทศเม็กซิโก ก็โดน ‘หั่น’ เหมือนกัน จาก A3 รูดลงมาสู่ Baa1 (ยังไม่โสมมถึงขั้น “ขยะ”)

    ซึ่งก็ทำนองเดียวกัน ถ้ารัฐบาลออกขาย “พันธบัตร” (คือๆกันกับ “หุ้นกู้”) ก็โดนดอกเบี้ยมากขึ้น
    .
    ใช่แหละ ไม่มีใครเถียง สถานะของทั้งประเทศเม็กซิโกและบริษัทน้ำมันแห่งชาติเอง ก็ปวกเปียกจริง สมควรตกทำเนียบอยู่แล้ว

    แต่ แหม อะไรมันจะบังเอิญ ‘ประจวบเหมาะ’ เช่นนี้
    เพิ่ง ‘โชว์กร่าง’ ทำซ่า เกือบล้มดีลที่อเมริกาหมายมั่นปั้นมือ … คล้อยหลังมา 5 วัน ก็โดน ‘ปราบพยศ’ ซะแล้ว …
    โทษทัณฑ์ช่างรวดเร็วทันใจเสียนี่กระไร
    นี้จึงเป็นอุทาหรณ์สอนใจ … นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า “ใครก็ตาม อย่าขัดใจป๋า!”

    https://www.reuters.com/article/us-...attered-mexico-oil-company-idUSKBN21Z3EB?il=0

     
  3. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,823
    ค่าพลัง:
    +97,150
    กองทุนเพื่อความมั่งคั่งแห่งชาติซาอุฯ กับปรัชญาเข้าซื้อหุ้นในช่วงที่ทุกคนกลัว (สุดขีด)
    .
    #ลงทุนนอกโลก โดยเพจ #ถามอีกกับอิก
    .
    ถ้าคิดว่าเป็นข้อคิดที่เป็นประโยชน์ รบกวนแชร์ให้ด้วยนะค้าบ :)
    .
    ==============
    .
    1.“จงกลัวเมื่อตอนที่คนอื่นกล้า และจงกล้าตอนที่คนอื่นกลัว” เป็นคำพูดของปู่บัฟเฟตต์ที่นักลงทุนทุกคนต้องเคยได้ยินแน่ๆครับ
    .
    2.ในนิยาย ซีรีย์ Itaewon Class พระเอกอย่างพัค แซรอย เองก็เข้าซื้อหุ้นของคู่แข่ง ตอนที่คู่แข่งเจอวิกฤตชั่วคราว (เพราะลูกชายทำเรื่องไม่ดี) ทำให้หุ้นถูกเทขายออกมา แต่พื้นฐานธุรกิจยังไม่เปลี่ยน
    .
    สุดท้ายเมื่อเวลาผ่านไปหุ้นก็เติบโตมหาศาล จนพระเอกมีเงินทุนในการเปิดร้านอาหาร และมาต่อสู้กับฝ่ายตรงข้ามอย่าเมามัน (ใครยังไม่ได้ดู แนะนำให้ไปดูครับ)
    .
    3.ส่วนชีวิตจริงเป็นไงครับ ทำยากมากๆ จริงไหมครับ เพราะมันมีแต่ข่าวร้ายถ่าโถมเข้ามา ทำให้มีแต่ความกลัว ใครมันจะไปกล้าซื้อหุ้น ตอนที่มีแต่ความกลัวละ
    .
    4.แต่จริงๆแล้ว มีกองทุนยักษ์ใหญ่ที่ใช้กลยุทธ์นี้เป็นประจำครับ กองนี้มีชื่อว่า Public Investment Fund (PIF) กองทุนเพื่อความมั่งคั่งแห่งชาติซาอุดิอาระเบีย ครับ
    .
    ==============
    .
    #ลงทุนนอกโลก เล่าให้ฟังก่อนว่า PIF เป็นใคร มาจากไหน
    .
    1.PIF เป็นกองทุนเพื่อความมั่งคั่งแห่งชาติ ของซาอุดิอาระเบียครับ ก่อตั้งมาตั้งแต่ช่วงปี 1971 หรือ 49 ปีที่แล้ว
    .
    คือ เป็นกองทุนที่เอาเงินสำรองของประเทศไปลงทุนเพื่อสร้างผลตอบแทนให้มากขึ้น
    .
    พูดให้เข้าใจง่ายๆก็คล้ายๆกับพวกเรานั่นแหละครับ ถ้าเรามีเงินเก็บมากๆ ฝากธนาคารเฉยๆก็คงได้ดอกเบี้ยที่น้อยมากๆ เพราะฉะนั้นเราก็ต้องหาวิธีในการลงทุนเพิ่มความมั่งคั่งจริงไหมครับ
    .
    2.ในโลกนี้ มีกองทุนเพื่อความมั่งแห่งชาติไม่กี่ประเทศเองครับ ถ้าเป็นกองใหญ่ที่สุดก็คือ นอร์เวย์ครับ มีทรัพย์สินในการลงทุนมากถึง 1.098 ล้านล้านเหรียญ มากกว่า GDP ประเทศไทยทั้งประเทศ สองเท่าตัวเลยครับ
    .
    3.ส่วน PIF เป็นกองที่มีทรัพย์สินในการบริหารมากเป็นอันดับที่ 11 ของโลก ด้วยทรัพย์สินที่มากถึง 3.2 แสนล้านเหรียญ หรือ 10 ล้านล้านบาท
    .
    4.แต่สิ่งที่น่าสนใจคือ กองนี้มีเป้าหมายที่จะเพิ่มสินทรัพย์ที่อยู่ภายใต้การบริหารให้เติบโตก้าวกระโดดมากถึง 2 ล้านล้านเหรียญในปี 2030 (โหดมากๆครับ หรือ เติบโต 7 เท่าเมื่อเทียบกับปัจจุบันภายใน 10 ปีเท่านั้น)
    .
    เงินบางส่วนก็มาจากการขายหุ้น Saudi Aramco หุ้นพลังงานที่ใหญ่ที่สุดในโลก
    .
    5.โดยมีเป้าหมายใหญ่ตามวิสัยทัศน์ Vision 2030 เพื่อลดความเสี่ยงจากการพึ่งพารายได้จากน้ำมันมากเกินไป
    .
    โดยหลักๆแล้วก็จะเอาเงินไปสร้างเมืองใหม่ เป็นเมืองอัจฉริยะ, AI, เน้นเรื่องสุขภาพ, เทคโนโลยี, การศึกษา และการท่องเที่ยว
    .
    มองการณ์ไกลมากๆครับ แทบจะเปลี่ยนโฉมประเทศไปเลยครับ
    .
    ==============
    .
    ตอนนี้ PIF ลงทุนอะไรบ้าง?
    .
    1.ค่อนข้างเปิดกว้างครับ ตอนนี้ลงทุนไปแล้วมากกว่า 200 บริษัท และสัดส่วนกว่า 1 ใน 4 ก็เป็นการลงทุนในต่างประเทศ และมีแนวโน้มเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆครับ
    .
    2.และก็ไม่ได้ลงทุนแค่ในหุ้นเท่านั้นครับ แต่ลงทุนในบริษัทนอกตลาดหลักทรัพย์, startup, อสังหาฯ, หุ้นกู้
    .
    3.PIF ลงทุนเยอะมากครับ “ลงทุนนอกโลก“ ยกตัวอย่างจะได้เห็นภาพกันครับ
    .
    นอกจากนี้ยังนำเงินก้อนใหญ่มูลค่า 4.5 หมื่นล้านเหรียญลงทุนใน Vision Fund ของมาซาโยชิ ซัน โดยเน้นไปที่ AI และธุรกิจที่ได้ประโยชน์จาก sharing economy (แต่ตอนนี้กำลังเจอศึกหนักจากโควิด)
    .
    และ 2 หมื่นล้านเหรียญ ลงทุนใน Blackstone กองทุนที่เน้นไปที่การลงทุนโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ที่สุดในโลก (เน้นลงทุนที่สหรัฐ)
    .
    ลงทุนใน private fund ในฝรั่งเศสโดยเน้นไปที่ธุรกิจพลังงานหมุนเวียน
    .
    ไม่ใช่แค่นี้ครับยังลงทุน 2.5 พันล้านเหรียญในโครงการรัสเซีย
    .
    ลงทุนใน UBER 3.5 พันล้านเหรียญในปี 2016 เพราะเชื่อในศักยภาพในการเติบโต
    .
    ==============
    .
    กรณีศึกษาที่ PIF ลงทุนหนักๆตอนช่วงที่ตลาดกลัวแบบสุดขีด
    .
    1.POSCO เกาหลีใต้
    .
    PIF เข้าไปลงทุนในบริษัท POSCO ผู้ผลิตเหล็กที่ใหญ่ที่สุดในประเทศเกาหลีใต้ (ใหญ่ที่สุดอันดับที่ 4 ของโลก) ในปี 2015 ด้วยมูลค่า 1.08 พันล้านเหรียญ ในสัดส่วน 38%
    .
    ก่อนหน้านั้น ราคาหุ้น POSCO ร่วงลงมา 65% หลังจากที่เจอปัญหาภาวะล้นตลาด
    .
    โดย PIF มองว่าในตะวันออกกลางจำเป็นต้องมีการก่อสร้างจำนวนมาก และมองว่า POSCO มีประสบการณ์เยอะและเป็นเทพด้านการก่อสร้างของเกาหลีใต้จึงมองว่าเป็นจังหวะที่ดีในการเข้าไปลงทุน
    .
    เพราะจะได้ไปช่วยพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานในตะวันออกกลาง
    .
    หลังจากนั้นราคาหุ้นวิ่งฉิว 133% ภายใน 3 ปี (หลังจากนั้นก็ร่วงลงมาในปัจจุบันตามภาวะตลาดครับ)
    .
    ==============
    .
    2.Tesla สหรัฐ
    .
    “บริษัท Tesla เป็นบริษัทที่ยอดเยี่ยมมาก” นี่คือหนึ่งในเหตุผลที่ PIF เข้าลงทุนใน Tesla ในปี 2018 ครับ แม้ว่าตอนนั้น Tesla มีส่วนแบ่งการตลาดน้อยมากๆ
    .
    สัดส่วนในการเข้าซื้อรอบนั้นอยู่ที่ประมาณ 4.7% ครับ มูลค่าเกือบ 3 พันล้านเหรียญ
    .
    แต่จุดที่น่าสนใจคือ ก่อนหน้านั้นราคาหุ้น Tesla ร่วง 32% เพราะมีเรื่องดราม่ามากมาย ตั้งแต่ปัญหาส่วนตัวของ Elon Musk และมีปัญหาคอขวดที่กำลังการผลิตในโรงงาน และนักลงทุนร่วมกลัวว่าจะล้มละลายเพราะมีข่าวเพิ่มทุนมาเป็นระยะๆ
    .
    แต่ PIF มองว่า Tesla เป็นบริษัทที่มีจุดเด่นทั้งเทคโนโลยีและการดีไซน์ และก็มองถูกครับ หลังจากนั้นหุ้นก็วิ่งฉิวไป 3-4 เท่าตัว ในเวลาไม่นาน
    .
    และในท้ายที่สุด PIF ก็เทหุ้น Tesla เกือบหมดพอร์ต กำไรเยอะพอควรแต่ก็ขายหมูไปเยอะครับ
    .
    (มีข่าวว่าล่าสุด PIF เข้าไปซื้อหุ้นคู่แข่งของ Tesla อย่าง Lucid Motors ละครับ น่าติดตามว่าจะเป็นอย่างไรครับ)
    .
    ==============
    .
    3.และเมื่อไม่นานมานี้ PIF เพิ่งจัดหนัก ซื้อหุ้นเรือสำราญที่ใหญ่ที่สุดในโลก
    .
    โยเป็นการซื้อในสัดส่วน 8.2% หลังจากที่หุ้น Carnival Corp. ร่วงตั้งแต่ต้นปี 80% เพราะความกังวลโควิด และกลัวว่าจะไม่มีนักท่องเที่ยวกล้าใช้บริการอีกแล้ว
    .
    มูลค่าของการเข้าซื้อรอบนี้คือประมาณ 369.4 ล้านเหรียญ หรือประมาณ 1.1 หมื่นล้านบาท
    .
    แต่จุดที่น่าสนใจคือ Carnival มีส่วนแบ่งการตลาดสูงถึง 44.1% มีรายได้ปี 2017 มีสูงถึง 5.6 แสนล้านบาท และกำไร 8.4 หมื่นล้านบาท
    .
    ==============
    .
    4.และล่าสุดครับ จัดหนักหุ้นน้ำมันยักษ์ใหญ่ 4 แห่งรวดในช่วงที่เกิดวิกฤตน้ำมันเมื่อไม่นานมานี้
    .
    เป็นการประกาศที่ช็อคโลกเหมือนกันครับ เมื่อ PIF ใช้จังหวะที่ราคาน้ำมันร่วงหนักและราคาหุ้นบริษัทพลังงานร่วงระนาว เข้าไปทยอยเก็บหุ้นพลังงานด้วยมูลค่าประมาณ 3 หมื่นล้านบาทครับ
    .
    ตอนนี้เข้าไปลงทุนแล้วกว่า 4 บริษัท คือ บริษัท Royal Dutch Shell, Equinor As A, Total SA และ Eni Spa
    .
    เป็นช่วงที่หุ้นแต่ละตัวร่วงจากจุดสูงสุด 40-60%
    .
    เบื้องต้นเข้าไปซื้อ Equinor บริษัทพลังงานยักษ์ใหญ่ของนอร์เวย์ ด้วยมูลค่า 6 พันล้านบาท แต่บริษัทอื่นๆไม่ได้มีการเปิดเผยว่าเข้าไปซื้อเท่าไหร่ ทราบเพียงแค่ยอดรวมประมาณ 3 หมื่นล้านบาทครับ
    .
    เป็นจุดที่น่าสนใจมากๆ หลังจากที่ราคาน้ำมันร่วงหนัก ซึ่งก็เป็นผลจากการที่ซาอุฯ ประกาศสงครามน้ำมัน ด้วยการเพิ่มกำลังการผลิตแบบจัดเต็ม ทำให้ราคาหุ้นน้ำมันถูกเทหนัก
    .
    ทำให้การลงทุนครั้งนี้เป็นการเข้ามาเก็บหุ้นราคาถูกๆ เข้าพอร์ตไปแบบชิลๆ อืม.....
    .
    ก็ถูกวิพากย์วิจารณ์กันไปครับ เพราะไหนตอนแรกบอกว่าอยากกระจายความเสี่ยงจากน้ำมัน แต่ถ้ามองว่าตรงกับคอนเซปที่ PIF ชอบเก็บหุ้นดีเข้าพอร์ตตอนช่วงที่ร่วงหนักๆ สำหรับกรณีนี้ก็ “ใช่” ครับ
    .
    ==============
    .
    ความเห็นของ #ลงทุนนอกโลก โดยเพจ #ถามอีกกับอิก
    .
    1.“จงกลัวเมื่อตอนที่คนอื่นกล้า และจงกล้าตอนที่คนอื่นกลัว” เป็นคำพูดที่พูดง่าย แต่ทำจริงๆได้ยากมาก
    .
    2.สิ่งที่ทำให้ PIF สามารถทำได้เพราะการมีนโยบายการลงทุนที่ชัดเจน และมีความเชื่อมั่นในการลงทุนในแนวทางแบบนี้
    .
    3.ข้อสังเกตอีกอย่างครับ ทาง PIF จะเลือกลงทุนเฉพาะหุ้นผู้นำในอุตสาหกรรมนั้นๆ และเลือกที่จะรอให้เจอเหตุการณ์ที่กระทบแรงๆ แต่เป็นเหตุการณ์ชั่วคราว ถึงจะเข้าไปลงทุน
    .
    4.ไม่มีใครทราบว่าจุดต่ำสุดของหุ้นที่เราสนใจจะอยู่ที่ตรงไหนครับ แม้แต่ PIF เองก็ไม่ทราบ
    .
    หลายครั้งตอนที่ PIF เข้าซื้ออาจจะคิดว่าเป็นจุดที่ต่ำแล้วก็จริงครับ แต่ก็ยังร่วงต่อได้อีก 20-50%
    .
    5.แต่การที่ PIF มีเป้าหมายที่ชัดเจนในระยะยาวทำให้ไม่หวั่นไหวต่อราคาระยะสั้น และเมื่อเวลาผ่านไปก็ได้ผลตอบแทนที่สูงมากๆ
    .
    .
    ปล.1 ล่าสุด PIF กำลังอยู่ในช่วงเสนอ ซื้อสโมสรฟุตบอลชื่อดังของอังกฤษอย่าง นิวคาสเซิลครับ ไม่รู้ว่ามองเห็นศักยภาพอะไร
    .
    ปล.2 มีความเห็นอะไรเข้ามาแชร์กันได้ครับ คุณคิดว่าตลาดแบบนี้เราควรกล้า หรือยังควรกลัวอยู่ครับ ?
    .
    ========
    .
    เริ่มต้นวันนี้ดีที่สุด ขอให้ทุกท่านโชคดีและมีอิสรภาพในการใช้ชีวิต
    .
    อิสรภาพชีวิต !! อยู่ไหนก็ไม่พลาด อย่าลืมกดติดตามนะครับ หรือเพิ่มช่องทางการสื่อสารได้เลย
    .
    ส่งข่าวสารถึงมือผ่าน Line@: http://bit.ly/TAM-EIG_LINE
    คลิกเลย

     
  4. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,823
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ต่อเนื่อง

    FB_IMG_1587268705250.jpg

     
  5. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,823
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Michael DiFato

    อีกหนึ่งสนามแม่เหล็กโลกที่เบ้เมื่อเย็นนี้

    "สำหรับผู้เฝ้าดู cygnet มีห้องเล็ก ๆ สำหรับสงสัย ""

    Another Skewed magnetosphere of the Earth this evening.

    "For the cygnet watchers,there is little room for doubt"

     
  6. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,823
    ค่าพลัง:
    +97,150
    อเมริกันชนหลายรัฐชุมนุม-นัดประท้วง จี้คลายล็อกดาวน์ ทรัมป์ได้ทีทวีตหนุน
    ชาวอเมริกันในหลายรัฐออกมาชุมนุมหรือนัดจัดการประท้วง ต่อต้านมาตรการล็อกดาวน์แล้ว ขณะที่โดนัลด์ ทรัมป์ ทวีตข้อความให้ปลดปล่อยรัฐที่ถูกล็อกดาวน์
    Source : #ไทยรัฐ #ไทยรัฐทีวี #Thairath #ThairathOnline

     
  7. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,823
    ค่าพลัง:
    +97,150
    กปน. ให้โรงแรม-กิจการเช่าพักอาศัย ผ่อนค่าน้ำ 6 เดือน ลงทะเบียน 20 เม.ย.
    กปน. เสริมมาตรการช่วยบรรเทาความเดือดร้อนธุรกิจโรงแรม และกิจการให้เช่าที่พักอาศัย ผ่อนชำระค่าน้ำประปาได้นานถึง 6 เดือน โดยไม่คิดดอกเบี้ย เริ่มลงทะเบียนออนไลน์ 20 เม.ย.นี้
    Source : #ไทยรัฐ #ไทยรัฐทีวี #Thairath #ThairathOnline
     
  8. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,823
    ค่าพลัง:
    +97,150
    เช็กชัดๆ เกณฑ์การขึ้นทะเบียน "เกษตรกร" ใครบ้างมีสิทธิ์รับเงิน 15,000 บาท
    เปิดเกณฑ์การขึ้นทะเบียน "เกษตรกร" เช็กชัดๆ ใครบ้างมีสิทธิ์รับเงิน 15,000 บาท ขณะที่วิธีการตรวจสอบสถานะ ขั้นตอนง่ายๆ ไม่ยุ่งยาก
    Source : #ไทยรัฐ #ไทยรัฐทีวี #Thairath #ThairathOnline

     
  9. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,823
    ค่าพลัง:
    +97,150
    อบต.บางม่วงเร่งแจกจ่ายน้ำ ปชช.หลังเดือดร้อนหนักจากภัยแล้งที่พังงา
    วันนี้ (19 เม.ย.) เจ้าหน้าที่องค์การบริการส่วนตำบล (อบต.) บางม่วง จ.พังงา เร่งนำน้ำใส่รถดับเพลิงเพื่อไปแจกจ่ายช่วยเหลือชาวบ้านที่ประสบความเดือดร้อนจากการขาดน้ำอุปโภคบริโภค เนื่องจากภัยแล้งในพื้นที่จังหวัดพังงาเริ่มขยายวงกว้าง จากเ
    Source : เกาะติดสถานการณ์ #ManagerOnline #ผู้จัดการ #ผู้จัดการออนไลน์ #ข่าว #ข่าวออนไลน์

     
  10. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,823
    ค่าพลัง:
    +97,150
    โควิด-19 เราต้องต่อสู้อีกยาวนาน ! ศ.นพ.ยง ย้ำ เหมือนวิ่งมาราธอน

    โควิด-19เราต้องต่อสู้อีกยาวนาน

    โควิด-19เราต้องต่อสู้อีกยาวนาน ศ.นพ.ยง ภู่วรวรรณ ราชบัณฑิตและหัวหน้าศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านไวรัสวิทยาคลินิก ภาควิชากุมารเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้โพสต์ข้อความ โควิด-19เราต้องต่อสู้อีกยาวนาน โดยมีเนื้อหาดังนี้

    “อย่างที่เคยกล่าวไว้ เราจะต้องร่วมกันอีกยาวนานเหมือนวิ่งมาราธอน สิ่งที่ต้องการขณะนี้ต้องการคือความร่วมมือร่วมใจ และให้ประชาชนไทยทุกคนได้เข้าถึงความจำเป็นขั้นพื้นฐานคือ ปัจจัย 4

    “ได้แก่ อาหาร เครื่องนุ่งห่ม ที่อยู่อาศัย และยารักษาโรค เราจะต้องจัดแบ่งปัน เมืองไทยอุดมสมบูรณ์ด้วยอาหาร ถ้ามีการกระจายอาหารให้ทั่วถึง ทุกคนจะต้องไม่อด

    “เราได้เปรียบกว่าประเทศที่มีน้ำมันแต่ไม่มีอาหาร ถ้าเรารู้จักแบ่งปัน ที่อยู่อาศัยต้องมีน้ำ ไฟ

    “ดังนั้น ขณะนี้ น้ำ ไฟ ถ้าประชาชนไม่มีจ่ายก็อย่าไปตัดน้ำ ตัดไฟเลย ให้ทุกคนอยู่ได้ เครื่องนุ่งห่ม ก็ขอให้มีแบบพอเพียง

    “ส่วนความเจ็บป่วย ยารักษาโรค ทางการก็พร้อมจะเข้ามาดูแล การเรียนการศึกษาของเด็กไทย ขณะอยู่บ้านจะต้องปรับเปลี่ยน ผู้ปกครองที่บ้านจะต้องช่วยด้วย

    “ขณะนี้ที่เราต้องการควบคุมโรคให้น้อยที่สุด เพื่อรอยาที่มีประสิทธิภาพสูงลดอัตราการเสียชีวิตลงให้ได้ รอวัคซีนที่มีประสิทธิภาพมาใช้ในการป้องกันโรค

    “และเมื่อมีภูมิคุ้มกันกลุ่มเกิดขึ้น ทุกอย่างก็จะกลับมาสู่ภาวะปกติ เราจะต้องร่วมต่อสู้ไปด้วยกัน”

    ภาพโดย thedarknut จาก Pixabay

    The post โควิด-19 เราต้องต่อสู้อีกยาวนาน ! ศ.นพ.ยง ย้ำ เหมือนวิ่งมาราธอน appeared first on SpringNews.

    Source : #Springnews #สปริงนิวส์

     
  11. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,823
    ค่าพลัง:
    +97,150
    วิถี New Normal หลังโควิด-19 “นิ้วกลม” แนะทางเลือก ที่เราจะรอดไปด้วยกัน

    นิ้วกลม นักเขียนชื่อดัง โพสต์ข้อความบนเพจเฟซบุ๊ก คาด 20 การเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้นจาก โควิด-19 พร้อมเสนอแนะแนวทาง New Spirit เพื่อการอยู่รอดร่วมกัน ในวิถี New Normal ที่เราต้องเผชิญ โดยมีเนื้อหาทั้งหมดดังนี้

    ในวิกฤตที่ทุกคนเดือดร้อน สิ่งแรกที่คิดถึงคือแก้ปัญหาให้ตัวเอง เป็นธรรมดา แต่ความท้าทายของวิกฤตที่ทุกคนเผชิญปัญหาพร้อมกันคือ เราอาจไม่มีเวลาหันไปมองปัญหาของคนอื่นในสังคม ไม่ได้ใส่ใจภาพรวมภาพใหญ่ ซึ่งสุดท้ายแล้วจะวนกลับมาเป็นปัญหาของเราเช่นกัน

    จากที่ได้คุยและฟังเพื่อนพี่น้องที่ทำธุรกิจ พ่อค้าแม่ขาย และคนทำสื่อ ทำให้ได้ฟังเรื่องที่น่าตระหนักหลายเรื่อง ขออนุญาตเล่าสู่กันฟัง เผื่อจะเป็นประโยชน์ครับ

    1. คนที่ทำธุรกิจโรงแรม ร้านอาหาร ท่องเที่ยว อีเวนต์ได้รับผลกระทบหนักหนา ในมุมพนักงานมีทั้งลดเงินเดือนและเลิกจ้าง ซึ่งจะว่าไป ก็ไม่ใช่แค่สี่ธุรกิจนี้เท่านั้น

    2. เริ่มมีคนตกงานแล้ว และนี่เป็นเพียงจุดเริ่มต้นเท่านั้น

    3. ผู้คนจำนวนมากไม่ได้มีเงินออมเพียงพอ จะประคองชีวิตตัวเองไปได้หลายเดือน เมื่อถูกเลิกจ้างฉับพลัน ย่อมตั้งตัวไม่ได้

    4. ส่งผลต่อเนื่องไปถึงค่าเช่าห้อง ค่าผ่อนคอนโดฯ ซึ่งนับว่ากดดันมาก เพราะถ้ายังไม่สามารถหาเงินมาได้ทัน นี่คือปัญหาเรื่องที่อยู่อาศัย อย่างที่เห็นในสื่อว่าพนักงานเงินเดือนต้องกลายเป็นคนไร้บ้าน เพราะตกงาน

    5. สิ่งเหล่านี้ยังมีโอกาสเกิดขึ้นกับคนหนุ่มสาวที่เพิ่งเริ่มงานและยังไม่มีเงินเก็บ ใช้ชีวิตแบบเดือนชนเดือน รวมถึงฟรีแลนซ์อีกจำนวนมาก ซึ่งเคยมีรายได้สม่ำเสมอ ถ้างานค่อยๆ หดหายไป พวกเขาจะมีชีวิตอย่างไร

    6. เราอาจได้เห็นภาพห้องเช่าต่างๆ ค่อยๆ ว่างลง คำถามที่น่าคิดคือ แล้วเจ้าของห้องเหล่านั้นไปอยู่ที่ไหน ?

    7. วิถีชีวิตที่เปลี่ยนไปกลายเป็นคนเมืองมากขึ้น ทำให้ผู้คนจำนวนมากไม่สามารถกลับบ้านต่างจังหวัด (ถ้ามี) ไปทำเกษตรหรือปลูกผักกินเองได้เหมือนแต่ก่อน ทั้งวิธีกินอยู่ที่เปลี่ยนไป ที่ดินที่อาจไม่มีเหมือนเดิม ความถนัดที่ไม่เหมือนคนรุ่นก่อน ยังไม่นับปัญหาภัยแล้งอีกด้วย จึงไม่ง่ายนักเมื่อพูดถึงการ “กลับบ้าน”

    8. พ่อค้าแม่ขายได้รับผลกระทบจากยอดที่ลดลง ไม่ใช่ทุกคนจะขายของออนไลน์ได้ เศรษฐกิจที่แย่อยู่แล้วยิ่งถูกฉุดให้แย่ลงไปอีกและเร็วขึ้นอีก บางร้านต้องปิด คนขายของในห้างก็ไม่มีหน้าร้านแบบเดิม

    9. ทุกคนมีค่าใช้จ่าย ค่าเทอมลูก ค่าน้ำค่าไฟ ค่าเช่า ค่าข้าวของเครื่องใช้ เมื่อไม่มีรายได้ก็ต้องกู้ และอาจต้องกู้นอกระบบซึ่งดอกเบี้ยโหดร้าย แต่ทำไงได้เมื่อไม่มีทางอื่น

    10. การกู้เงินในห้วงยามแบบนี้นั้นเสี่ยงมาก เพราะยากจะหาเงินมาผ่อนจ่ายได้ทัน เอาแค่จ่ายดอกเบี้ยทันก็เก่งแล้ว เพราะรายได้น้อย รายจ่ายเยอะ

    11. ถึงจุดนี้ก็จะเริ่มเป็นปัญหาสังคม เริ่มจากความเครียดในชีวิต เลยไปถึงจุดที่หารายได้ไม่พอจ่ายหนี้ บางคนอาจตัดสินใจจบชีวิตตัวเองเพื่อหนีปัญหา ขณะที่บางคนอาจต้องปล้นชิงวิ่งราว กระทั่งมีคำพูดว่าถึงจุดนั้น “ถ้าไม่ทำร้ายตัวเอง ก็ต้องทำร้ายคนอื่น”

    12. หากทุกสิ่งไปถึงภาวะนั้น ต่อให้ใครจะรวยแค่ไหนก็อยู่ไม่สุขอีกต่อไป เพราะเพื่อนๆ ในสังคมทุกข์หนักด้วยปัญหาเศรษฐกิจ อาจเกิดอาชญากรรม เกิดความเกลียดชัง หมั่นไส้ หากกดดันมากย่อมเสี่ยงต่อการปะทะทางร่างกาย

    13. เมื่อผู้บริโภคส่วนใหญ่ประสบปัญหา กิจการต่างๆ ย่อมไม่มีคนอุดหนุน รายได้ค่อยๆ หดฟีบลง ส่งผลกระทบไปถึงกิจการที่ใหญ่ขึ้นไปเรื่อยๆ อาจนำมาซึ่งปัญหาตกงานเพิ่มขึ้นอีก เรียกว่าค่อยๆ ล้มกันเป็นโดมิโน่ ไม่มีปัญหาของใครแยกออกจากปัญหาของคนอื่นเลย กระทบกันเป็นชิ่ง

    14. เวลาคนที่ยังพอมีเงินเก็บบ่นว่าเดือดร้อน นั่นหมายความว่ารายได้ลดลงหรืออาจไม่สุขสบายเท่าเดิม แต่เวลาที่คนหาเช้ากินค่ำบ่นว่าจะตายแล้ว นั่นหมายความว่าเขาจะตายจริงๆ จึงเป็นปัญหาเร่งด่วนมิใช่น้อย

    15. การที่หลายคนต้องกักตัวอยู่กับบ้านทำให้เราไม่มีโอกาสได้พูดคุยและสัมผัสกับปัญหาของคนอื่นๆ ยิ่งทำให้มองไม่เห็นวิกฤตในภาพใหญ่ เรื่องของการรวมสมองช่วยกันคิดแก้ปัญหา อาจเกิดขึ้นน้อยกว่าที่มันจำเป็น

    16. เรายังไม่มีใครสักคนที่ฉายภาพใหญ่ให้เห็น ยอมรับวิกฤตอย่างที่มันเป็นและบอกกับประชาชนให้เห็นภาพตรงกันเพื่อช่วยกันคิดและช่วยเหลือกันไม่ว่าทางไอเดีย โอกาส หรือทุนทรัพย์ เราต้องการวิสัยทัศน์ที่ใหญ่เท่าๆ ปัญหา การแก้ปัญหาวันต่อวันอาจทำให้ไม่ทันการณ์ หลายคนยังรู้สึกว่าอีกไม่นานก็จะกลับไปเป็นเหมือนเดิม หลายคนยังสบายใจโดยไม่เห็นมรสุมที่กำลังโถมเข้ามา ซึ่งน่ากังวล

    17. นักธุรกิจบางคนบอกว่านี่คือวิกฤตใหญ่ที่สุดในชั่วชีวิตนี้ รวมปัญหาเศรษฐกิจตอนปี 40+วิกฤตความขัดแย้งการเมือง+น้ำท่วม เอาทุกอย่างรวมกันยังไม่เท่าครั้งนี้

    18. ก่อนแก้ปัญหา เราจำเป็นต้องเห็นปัญหา และปัญหาที่ว่าคือ ปัญหาของสังคมทั้งหมด ลำพังเพียงเห็นปัญหาของตัวเองอาจไม่พอรับมือวิกฤตครั้งนี้

    19. สุดท้ายแล้วดูเหมือนว่าเรากำลังเคลื่อนไปสู่ทางแยก ระหว่างความเดือดร้อนจะทำให้เราถ่างกว้างออกจากกัน และเอาชีวิตรอดแบบตัวใครตัวมัน กับความเดือดร้อนทำให้เราผนึกกำลังกัน แล้วใช้มันสมอง สองมือ และทรัพยากรทั้งหมดมาร่วมมือร่วมใจกันแก้ปัญหา ซึ่งไม่ใช่แค่ปัญหาของตัวเอง แต่เป็นการคิดถึงทุกข์สุขของเพื่อนๆ ร่วมสังคมที่เดือดร้อนกว่าเราด้วย

    20. เพราะการแก้ปัญหาของคนอื่นก็คือการแก้ปัญหาของตัวเราเองไปในตัว ช่วยเขาคือช่วยเรา ขณะนี้เราต้องการการระดมสมองในช่วงเวลาที่เราไม่ค่อยได้พบปะกัน ทำให้การแบ่งปันข้อมูลข่าวสารและไอเดียจางหายไปมาก แต่อาจจะได้เวลาแล้ว เพราะยิ่งช้าก็ยิ่งน่ากังวล

    ทำอย่างไรเราจึงจะเห็นภาพของ “ปัญหาใหญ่” นี้ร่วมกัน และปรับวิธีคิดให้กว้างขึ้น นอกจากช่วยทำให้ตัวเองรอดแล้ว มีอีกหนึ่งโหมดที่ทำคู่กันไปคือทำให้เพื่อนๆ ในสังคมรอดไปด้วยกัน

    สิ่งนี้อาจเป็น New Normal ที่จำเป็น คือสปิริตอีกแบบที่แตกต่างจากการแข่งขันกันเพื่อเอาชนะหรือเอาตัวรอด หากเป็นสปิริตของการคิดว่าทำอย่างไรเราจะรอดไปด้วยกัน ทำอย่างไรเราจะไม่ทิ้งใครให้ตายตกไปตามทางระหว่างวิกฤต ซึ่งทุกคนสามารถทำได้ตามความถนัดและกำลังของตัวเอง

    เพียงแค่เปลี่ยนมุมมองที่ใช้ในการคิด ถ้ารอด เราจะรอดไปด้วยกัน ถ้าพังก็จะล้มต่อกันเป็นโดมิโน่

    และถ้า “สปิริต” นี้เกิดขึ้นจริง นี่อาจเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญของความคิดอันเป็นประโยชน์ในสังคมอีกหลายอย่าง เช่น การเป็นรัฐสวัสดิการ การเกลี่ยความได้เปรียบให้คนด้อยโอกาสกว่า ความเป็นพี่เป็นน้องในสังคม การลดปัญหาความเหลื่อมล้ำ สิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นได้ถ้าคนในสังคมตระหนักถึงปัญหาของคนร่วมสังคมนอกไปจากการคิดถึงตนเอง

    New Normal ของสังคมไทยจะเป็นแบบไหน เกลียดชังและถ่างกว้างมากขึ้น หรือช่วยเหลือ แบ่งปัน คิดถึงกันและกันมากกว่าเดิม

    สังคมไทยหลังโควิด-19 จะเป็นอย่างไร ทุกคนมีส่วนในคำตอบ

    ภาพโดย mohamed Hassan จาก Pixabay

    The post วิถี New Normal หลังโควิด-19 “นิ้วกลม” แนะทางเลือก ที่เราจะรอดไปด้วยกัน appeared first on SpringNews.

    Source : #Springnews #สปริงนิวส์

     
  12. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,823
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ปูติน-สี จิ้นผิง ชี้การใส่ร้าย “โควิดจากแล็บอู่ฮั่น” เป็นสิ่งรับไม่ได้

    โควิดจากแล็บอู่ฮั่น

    โควิดจากแล็บอู่ฮั่น วลาดิมีร์ ปูติน ประธานาธิบดีรัสเซียกับสี จิ้นผิง ประธานาธิบดีจีน ได้พูดคุยทางโทรศัพท์ หลังจากรัฐบาลสหรัฐกดดันจีนให้ออกมาเปิดเผยข้อมูลไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) จากห้องแล็บเมืองอู่ฮั่น

    ทั้งนี้ทำเนียบเครมลินออกแถลงการณ์ระบุว่า ปธน.ปูติน ได้กล่าวยกย่องจีน ในการดำเนินมาตรการรับมือกับโควิด-19 ได้ผลดีอย่างต่อเนื่อง ทำให้สถานการณ์โรคระบาดภายในประเทศเข้าสู่ภาวะคงที่ มีรายงานว่า ในการพูดคุยกันทางโทรศัพท์ระหว่างสองผู้นำครั้งนี้ ไม่ได้กล่าวพาดพิงถึงทำเนียบขาวโดยตรง แต่ได้พูดถึงความพยายามกล่าวโทษจีนว่า เป็นต้นตอระบาดและไม่เปิดเผยข้อเท็จจริงเกี่ยวกับไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ให้โลกรับรู้นั้น ถือเป็นสิ่งไม่สร้างสรรค์อย่างยิ่ง

    สำนักข่าวซินหัวรายงานอ้างคำกล่าวของว่า ปธน.สี ชี้ว่า การกระทำดังกล่าวเป็นความพยายามโยงการเมืองเข้ากับโรคระบาด เป็นบ่อนทำลายความร่วมมือระหว่างประเทศ ขณะที่ ปธน.ปูติน กล่าวว่า เป็นสิ่งที่รับไม่ได้

    ในตอนท้ายของสนทนาทางโทรศัพท์ของสองผู้นำ ได้กล่าวย้ำถึงความหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์ระหว่างจีน – รัสเซีย ที่พร้อมจะให้ความช่วยเหลือซึ่งกันและกัน โดยจะมีการแลกเปลี่ยนผู้เชี่ยวชาญ รวมถึงจัดส่งอุปกรณ์ทางการแพทย์ ชุดป้องกัน และยารักษาโรค

    The post ปูติน-สี จิ้นผิง ชี้การใส่ร้าย “โควิดจากแล็บอู่ฮั่น” เป็นสิ่งรับไม่ได้ appeared first on SpringNews.

    Source : #Springnews #สปริงนิวส์

     
  13. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,823
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ตารปภ. ตกงาน ปั่นจักรยานจาก ระยองกลับบ้านเกิดที่อุบลฯ อาศัยนอนข้างทาง

    เป็นอีกหนึ่งโพสต์ที่กำลังเป็นที่พูดถึงอย่างมากอย่างหนักในโลกออนไลน์ หลังผู้ใช้เฟซบุ๊ก Bank Thaksin ได้ออกมาโพสต์เรื่องราวของคุณตาท่านหนึ่ง ซึ่งมีอาชีพเป็นรปภ.อยู่ที่จ.ระยอง แต่คาดว่าต้องตกงานจากสถานการณ์โควิด 19 เลยตัดสินใจปั่นจักรยานกลับบ้านเกิดที่ จ.อุบลราชธานี ทั้งที่ไม่มีเงินติดตัวสักบาท

    ทั้วนี้โพสต์ดังกล่าวระบุข้อความว่า

    ขอเป็นพื้นที่เล็กๆให้คุณตานะครับ
    เรื่องมีอยู่ว่าตาแกทํางานที่ระยอง ตาแกตกงานเลยไม่มีเงินติดตัวสักบาท(เพราะโควิด)แล้วตาแกเลยตัดสินใจจูงจักรยานจากจังหวัดระยอง ปั่นกลับบ้าน แกบอกว่าปั่นออกมาจากระยองได้หลายวันแล้ว อีกอย่างแกนอนข้างทางมาตลอดที่ออกมาจากระยอง คํ่าไหนนอนที่นั้นหรือเหนื่อยก็พัก

    ตาแกบอกว่า จะกลับบ้านที่ จังหวัดอุบลราชธานี ผมเลยช่วยแกไปเล็กๆน้อยๆกับนํ้าขวดนึง เผื่อแกจะได้กลับไปถึงบ้านเร็วๆและปลอดภัย ใครผ่านทางไปจังหวัดอุบลราชธานี ฝากช่วยเหลือตาด้วยนะครับ

    พิกัดตอนนี้ตาแกอยู่ที่ ก่อนเข้า อําเภอกุดรัง มุ่งหน้าอําเภอ บรบือครับ ปลายทาง จังหวัดอุบลราชธานี
    #ฝากแชร์ช่วยกันหน่อยครับ

    อัพเดตล่าสุดนะครับ 21.08 อย่าพึ่งรับแกขึ้นรถนะครับ ลุงแกสติไม่ค่อยเต็มนะครับ เผื่อเกิดอันตรายครับ ตอนนี้กําลังติดต่อญาตินะครับว่าจะเอายังไงต่อครับ เดี่ยวจะอัพเดตต่อไปครับ

    The post ตารปภ. ตกงาน ปั่นจักรยานจาก ระยองกลับบ้านเกิดที่อุบลฯ อาศัยนอนข้างทาง appeared first on SpringNews.

    Source : #Springnews #สปริงนิวส์

     
  14. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,823
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ผู้ว่าฯ สงขลาโพสต์ FB ขอสละเงินเดือน 50% สมทบกองทุนสู้โควิด-19
    นายจารุวัฒน์ เกลี้ยงเกลา ผู้ว่าราชการ จ.สงขลา ประกาศผ่านเพจเฟซบุ๊ก ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา ว่า จะขอสละเงินเดือนผู้ว่าราชการจำนวนครึ่งหนึ่ง หรือ 50 เปอร์เซนต์ เข้าสมทบเข้า กองทุนมหาดไทย ร่วมทุกข์ ร่วมสุขประชาชนจากภัยโควิด-19 เป็นร
    Source : เกาะติดสถานการณ์ #ManagerOnline #ผู้จัดการ #ผู้จัดการออนไลน์ #ข่าว #ข่าวออนไลน์

     
  15. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,823
    ค่าพลัง:
    +97,150
    เซ็นทรัล ร่อน จม. แจ้งคู่ค้าเตรียมพร้อม คาดเปิดให้บริการ 1 พ.ค. นี้

    เซ็นทรัล บริษัท สรรพสินค้าเซ็นทรัล จำกัด ส่งจดหมายถึงคู่ค้าและพันธมิตรทางการค้า โดยระบุว่า บริษัทขอแจ้งการเตรียมการเปิดให้บริการห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล ตามที่คาดว่าจะเปิดบริการในวันที่ 1 พฤษภาคม 2563 เวลาเปิด–ปิด สาขาตามปกติของแต่ละสาขา

    เพื่อเป็นการเตรียมการเปิดให้บริการ ห้างฯ ขอให้ท่านโปรดเตรียมความพร้อมเรื่องพนักงานขาย PC/BA ที่ต้องกลับมาทำหน้าที่ขายสินค้าในสาขาให้ได้ทันตามกำหนด โดยขอให้ท่านโปรดตรวจเช็คสุขภาพและความพร้อมของพนักงานก่อนส่งพนักงานเข้ามาทำงานที่สาขา ตามข้อกำหนดในหนังสือแนวทางปฏิบัติสำหรับการกลับมาปฏิบัติงานของพนักงานที่แนบมาด้วยนี้ ทั้งนี้ขอให้พนักงานเข้ารายงานตัวที่สาขาในวันที่ 28 เมษายน 2563

    ห้างฯ ขอขอบคุณคู่ค้าและพันธมิตรทุกท่าน ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาที่ได้ร่วมเผชิญสถานการณ์อันยากลำบากนี้ และหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะได้รับความร่วมมือจากท่านเป็นอย่างดีเหมือนเช่นที่ผ่านมา

    ขอแสดงความนับถือ

    ชาพิตา นวพัลลภ

    The post เซ็นทรัล ร่อน จม. แจ้งคู่ค้าเตรียมพร้อม คาดเปิดให้บริการ 1 พ.ค. นี้ appeared first on SpringNews.

    Source : #Springnews #สปริงนิวส์

     
  16. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,823
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ‘หมอมนูญ’ ชี้โควิด 19 แพร่ 2 ทาง ไขข้อสงสัย ทำไมต้อง”ใส่หน้ากากอนามัย”

    หน้ากากอนามัย นายแพทย์มนูญ ลีเชวงวงศ์ หัวหน้าประจำห้อง ICU โรคระบบการหายใจ ผู้ป่วยหนัก และโรคผู้สูงอายุโรงพยาบาลวิชัยยุทธ และประธานชมรมเชื้อราทางการแพทย์ประเทศไทย โพสต์ข้อความผ่านเพจเฟซบุ๊ก “หมอมนูญ ลีเชวงวงศ์ FC” ระบุว่า

    ทำไมเมื่อมีโรคโควิด-19 ระบาด คนไทยทุกคนต้องใส่หน้ากากอนามัย

    เมื่อเริ่มมีการระบาดของโรคโควิด-19 องค์การอนามัยโลกประกาศอย่างมั่นใจโรคนี้ติดต่อกันได้เพียง 2 ช่องทาง คือ

    1.ทางไอ จามรดกันในระยะ 1-2 เมตร ละอองเสมหะขนาดใหญ่ปนเปื้อนด้วยเชื้อไวรัสลอยออกมา กระเด็นโดนใบหน้า ตา จมูก ปากของคนใกล้ชิด แล้วเชื้อเข้าปอดผ่านทางเยื่อบุจมูก ตา ปาก
    2 ทางมือคือ ละอองเสมหะขนาดใหญ่ตกลงบนพื้นผิวของสิ่งของต่างๆที่ใช้ร่วมกัน รวมทั้งผู้ป่วยหลังจากเอามือมาป้องปากเวลาไอหรือจาม แล้วเอามือไปสัมผัสกับของที่ใช้ร่วมกัน คนอื่นสัมผัสพื้นผิวที่ปนเปื้อนเชื้อไวรัสทางมือ แล้วเอามือไปขยี้ตา แคะจมูก จับปาก เชื้อไวรัสเข้าปอดผ่านทางเยื่อบุจมูก ตา ปาก

    WHO ใช้ข้อมูลทางสถิติระบาดวิทยาของโรคโควิด-19 ผู้ป่วยโควิด 1 คนแพร่เชื้อให้เฉลี่ย 2-2.5 คน น้อยกว่าโรคหัดซึ่งติดต่อกันง่ายกว่า เพราะติดต่อทางการหายใจ (airborne) ผู้ป่วยโรคหัด 1 คนแพร่เชื้อให้เฉลี่ย 12-18 คน และจากสมมติฐานในอดีต 90 ปีที่แล้ว ขนาดของละอองฝอยต้องต่ำกว่า 5 ไมครอน (ตัดที่ตัวเลขตัวเดียวคือ 5 ไมครอน) ถึงจะติดต่อได้ทางการหายใจ
    ปัจจุบันเรามีกล้องจุลทรรศน์อิเล็กตรอนที่ดีขึ้น มีกล้องความเร็วและความละเอียดสูงมากสามารถเห็นภาพและวัดขนาดของกลุ่มละอองฝอยที่ลอยออกมาเวลาพูด ไอ หรือจาม มีขนาดต่างๆกันตั้งแต่เล็กถึงใหญ่ เราสามารถเห็นละอองฝอยขนาดเล็กกว่า 5 ไมครอนลอยออกมาในอากาศ เวลาพูด ไอจาม ปลิวไปได้ไกลถึง 8 เมตร ลอยในอากาศเป็นเวลานาน เชื่อได้เลยว่าเชื้อไวรัสโควิด-19 ขนาดเล็กมาก 0.1 ไมครอนสามารถเกาะบนละอองฝอยนี้เข้าทางลมหายใจของคนที่ยืนห่างไกลได้เป็น 10 เมตร

    เรามีหลักฐาน Super spreader 1 คนแพร่กระจายเชื้อให้คนที่นั่งชมมวยในสนามมวยลุมพินีมากกว่า 60 คน และซูเปอร์สเปรดเดอร์อีก 1 คนแพร่เชื้อให้นักร้องประสานเสียงในโบสถ์ที่รัฐวอชิงตันในประเทศสหรัฐอเมริกา 45 คนในเวลาไม่กี่ชั่วโมง ความสามารถในการแพร่เชื้อแบบนี้เกิดจากการแพร่กระจายทางอากาศ (airborne)เท่านั้น ละอองฝอยที่มีเชื้อไวรัสเกาะอยู่ แขวนลอยอยู่ในอากาศได้นานและปลิวไปได้ไกล ไม่สามารถอธิบายการติดเชื้อ 45-60 คนเกิดจากการไอจาม รดกันในระยะ 2 เมตร หรือการสัมผัสทางมือ

    ลักษณะอาการทางคลินิกของโรคโควิด-19 คือโรคปอดอักเสบ โดยเฉพาะส่วนปลายสุดของปอดคือถุงลม ที่เป็นเช่นนั้นเพราะเซลล์ในถุงลมมีตัวรับเชื้อ (receptor) ที่ชื่อ ACE2 (Angiotensin Converting Enzyme 2) โปรตีน Spike (ส่วนที่ยื่นออกมาจากอนุภาคคล้ายหนาม)ของเชื้อไวรัสสามารถเสียบเข้ากับตัวรับเหมือนรูกุญแจ เปิดประตูให้เชื้อไวรัสเข้าไปในเซลล์ และบังคับให้เชลล์ในถุงลมผลิตเชื้อเพิ่มจำนวน หลังจากเชื้อไวรัสทำลายเซลล์ เชื้อออกมาเข้าเซลล์ของถุงลมอื่นๆต่อไป ตัวรับ ACE 2 receptor ของเซลล์ในเยื่อบุจมูก หลังโพรงจมูก และทางเดินหายใจส่วนบน พบได้น้อยกว่าในถุงลมมาก อธิบายว่าทำไมอาการของทางเดินหายใจส่วนบน เช่นน้ำมูกไหล คัดจมูก เจ็บคอถึงได้น้อย และมีไข้ ไอ เหนื่อยเป็นอาการสำคัญจากการอักเสบของถุงลม ถ้าวัดจำนวนเชื้อไวรัสในทางเดินหายใจ จะพบจำนวนเชื้อไวรัสมากที่สุดในถุงลมมากกว่าในลำคอและหลังโพรงจมูก เมื่อเรารับเชื้อไวรัสโควิด-19 ทางการหายใจ แม้ปริมาณของเชื้อจะน้อย แต่เนื่องจากมีตัวรับ receptor ในถุงลมมาก คนจึงป่วยได้ โดยไม่จำเป็นต้องรับผ่านทางเยื่อบุจมูก ตา ปากเสมอไป

    ยิ่งเวลาผ่านไป นักวิทยาศาสตร์และแพทย์ทั่วโลกยิ่งเชื่อว่าโรคโควิด-19 ติดต่อกันได้ 3 ทาง ไอ จาม ทางมือ และทางหายใจ (airborne) เราขาดการทดลองที่สำคัญคือต่อท่อระบายอากาศจากห้องนอนของผู้ป่วยโควิดไปห้องของอาสาสมัครที่อยู่คนละชั้น เพื่อพิสูจน์ว่าอาสาสมัครจะติดเชื้อทางอากาศได้หรือไม่ แต่คงไม่มีใครทำการทดลองนี้ เนื่องจากอันตรายเกินไป

    การป้องกันการติดเชื้อทางการหายใจเป็นเรื่องยาก ทุกคนต้องใส่หน้ากากอนามัยเวลาออกนอกบ้าน เวลาอยู่ร่วมกันกับผู้อื่น และเวลาอยู่ในบ้าน ยกเว้นเวลาอยู่คนเดียวไม่ต้องใส่ ถ้าเราป่วย หน้ากากจะลดการแพร่เชื้อเวลาหายใจออก พูด ไอ หรือจาม ถ้าเราไม่ป่วย หน้ากากจะลดการรับเชื้อทางการหายใจเข้า เราควรอยู่ในที่มีอากาศถ่ายเท เปิดหน้าต่าง อยู่ในที่โล่งแจ้ง ไม่อยู่ในที่แออัด อากาศไม่ถ่ายเท ห้องหรือบริเวณที่ติดตั้งเครื่องปรับอากาศเป็นเวลานาน ประเทศตะวันตกมีจำนวนคนป่วยและเสียชีวิตจากโรคโควิด-19 มากกว่าประเทศในเอเชีย สาเหตุหนึ่งคือ คนตะวันตกไม่นิยมสวมหน้ากาก ปัจจุบันหลายประเทศเช่น สหรัฐอเมริกา อังกฤษ ออสเตรีย สาธารณรัฐเช็ก สาธารณรัฐสโลวีเนีย เริ่มแนะนำให้ทุกคนสวมหน้ากากแล้ว

    ณ วันนี้การสวมหน้ากากอนามัยมีความสำคัญเท่ากับการล้างมือ และการเว้นระยะห่างทางบุคคล เราต้องยอมรับและปรับตัวอยู่กับโรคโควิด-19 จนกว่าจะมีวัคซีนป้องกันโรคนี้ได้

    The post ‘หมอมนูญ’ ชี้โควิด 19 แพร่ 2 ทาง ไขข้อสงสัย ทำไมต้อง”ใส่หน้ากากอนามัย” appeared first on SpringNews.

    Source : #Springnews #สปริงนิวส์

     
  17. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,823
    ค่าพลัง:
    +97,150
    เด็กสเปนเฮ รบ.จ่ออนุญาตให้ออกนอกบ้านได้ หลังล็อกดาวน์ 6 สัปดาห์
    สเปนเตรียมผ่อนคลายล็อกดาวน์ โดยจะอนุญาตให้เด็กออกมาเล่นข้างนอกได้ หลังต้องอยู่แต่ในบ้านมานานเกือบ 6 สัปดาห์
    Source : #ไทยรัฐ #ไทยรัฐทีวี #Thairath #ThairathOnline

     
  18. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,823
    ค่าพลัง:
    +97,150
    หนุ่มวิศวะลงแดงดับคาห้องพัก หลังห้ามขายสุราจนต้องหักดิบอดเหล้า
    หนุ่มวิศวะตกงานเพราะวิกฤติโควิด-19 เสียชีวิตคาห้องพัก คาดสาเหตุเพราะลงแดง เนื่องจากเป็นคนดื่มสุราหนัก ต่อไม่สามารถหาสุรามาดื่มได้เพราะมีคำสั่งห้ามขาย
    Source : #ไทยรัฐ #ไทยรัฐทีวี #Thairath #ThairathOnline

     
  19. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,823
    ค่าพลัง:
    +97,150
    สลดใจ! “นุ่น-ต่าย” วอนช่วยช้างไทย
    ตอนนี้ผอมแห้ง ขาดน้ำ-อาหารขั้นวิกฤต
    .
    ในภาวะวิกฤตโควิด-19 ไม่ใช่แค่ผู้คนทีลำบาก แม้แต่สัตว์ต่างๆ ก็กำลังได้รับผลกระทบเช่นเดียวกัน ล่าสุดสาว “นุ่น รมิดา ประภาสโนบล” และสาว “ต่าย เพ็ญพักตร์ ศิริกุล” ได้ช่วยกันโพสต์ในอินสตาแกรมส่วนตัว ส่งต่อข้อความที่ทางมูลนิธิอนุรักษ์ช้างและสิ่งแวดล้อม จ.เชียงใหม่ ขอความช่วยเหลือ ด้วยภาวะไฟป่าและน้ำแล้งทำให้ตอนนี้ช้างไทยกำลังประสบวิกฤต ป่าแห้งแล้งจนขาดน้ำ ขาดอาหาร และนอกจากช้างหลายร้อยเชือกแล้ว ยังมีหมาแมวและวัวควาย กว่า 3,000 ชีวิต ที่อยู่ในความดูแลของ มูลนิธิอนุรักษ์ช้างและสิ่งแวดล้อม โดยนักแสดงสาวได้โพสต์ภาพช้างที่ผอมจนเห็นกระดูกพร้อมข้อความว่า....
    .
    “### ช่วยแชร์ต่อ สงสารน้องช้าง ###
    .
    อ่านต่อ>>https://mgronline.com/entertainment/detail/9630000040632
    #mgronline #ช้างไทย #ผอมแห้ง #ขาดน้ำ #อาหาร #วิกฤตโควิด-19 #มูลนิธิอนุรักษ์ช้างและสิ่งแวดล้อม

     
  20. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,823
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ส่ง นพ.สสจ.ปัตตานีเข้า รพ.หาดใหญ่หลังเจ็บหน้าอก
    แพทย์คาดโหมงานหนักสู้ภัยโควิด-19
    .
    นายแพทย์สาธารณสุขปัตตานีทรุด เจ็บหน้าอก จนต้องรีบนำตัวส่งโรงพยาบาลปัตตานี ก่อนส่งต่อไปหาดใหญ่ แพทย์ขยายเส้นเลือดใหญ่กว่า 2 ชั่วโมงจนอาการปลอดภัย แต่ต้องนอนพักต่อ คาดโหมงานหนักหลายเดือนรับมือโควิด-19
    .
    วานนี้ (18 เม.ย.) เจ้าหน้าที่สาธารณสุขจังหวัดปัตตานีรายหนึ่ง ระบุว่า นพ.ชัยรัตน์ ลำโป นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดปัตตานี มีอาการเจ็บหน้าอก จึงนำตัวส่งโรงพยาบาลปัตตานีเพื่อตรวจอาการ ก่อนที่โรงพยาบาลปัตตานีจะส่งต่อโรงพยาบาลหาดใหญ่ทันที โดยแพทย์ศูนย์หัวใจ โรงพยาบาลหาดใหญ่ เร่งทำหัตถการขยายเส้นเลือดหัวใจนานกว่า 2 ชั่วโมง
    .
    อ่านต่อ>>https://mgronline.com/south/detail/9630000040710
    #mgronline #นายแพทย์สาธารณสุขปัตตานี #เจ็บหน้าอก #โหมงานหนัก #โควิด-19
     

แชร์หน้านี้

Loading...