งานมหาสโมสรสันนิบาตพุทธภูมิ วันออกพรรษา ณ วัดสังกัสรัตนคิรี จ.อุทัยธานี

ก่อนอื่นขออนุญาตแสดงความยินดีเนื่องในวันคล้ายวันเกิดของพี่คลิก และน้องบาส ย้อนหลังด้วยครับ

และต้องขอขอบคุณพี่คลิกที่วันก่อนตอนคุยโทรศัพท์กันพี่คลิกส่งบารมีมาช่วยปลดเจ้ากรรมนายเวรให้ผม ครับต้องขอกราบขอบพระคุณมากๆ

 

เอ่อ....

รอฟังถ้อยความที่พี่สุดใจพูดในวันนั้นอยู่หนะครับ
ไม่ทราบท่านใด จะถ่ายทอดให้อ่านได้บ้างครับ

จะรออ่านและรอโมทนาอยู่นะครับ..

 

ก่อนอื่นขออนุญาติ กราบขอขมาพระรัตนไตรและเทพพรหมเทวาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายทั่วอนันต์จักรวาล รวมถึงพระโพธิสัตว์และเหล่าพุทธภูมิทั้งหลาย รวมทั้งเพื่อนๆพี่ๆน้องๆทุกคน ที่พวกเราทั้งหลายได้อาจประมาทพลาดพลั้งผิดพลาดไปทั้งที่เจตนาก็ดีไม่เจตนาก็ดีไม่ว่าจะทางกาย วาจา ใจ ผมขอกราบขมาแทนพวกเราทุกๆคนด้วยครับ

และขอช่วยสรุปรวมเรื่องราวต่างๆของงานทั้งหมดในส่วนละเอียดเพื่อถ่ายทอดให้เพื่อนๆได้ทราบกันครับ


ก่อนอื่นการจัดงานพุทธภูมิสันนิบาตนี้เป็นพันธกิจที่พวกเราพุทธภูมิทั้งหลายได้ ตั้งจิตอธิฐานกันก่อนลงมาเกิดในชาตินี้กันครับ เป็นงานของทุกๆคน ทุกๆท่านที่รวมใจกันสร้างบารมีเพื่อพระพุทธศาสนาและส่วนรวม ขออนุญาติยกเครดิตให้กับพี่...ผู้เป็นผู้ริเริ่มให้เกิดงานนี้ขึ้นได้ด้วยครับ

สิ่งสำคัญที่จัดว่าเป็นหัวใจของงาน ก็คือ"ความสามัคคี ความเสียสละ ของพุทธภูมิทั้งหลายที่ได้หล่อหลอมดวงใจเป็นหนึ่งเดียว ได้ทำความรู้จักได้ประสานงานกันเพื่อภาระกิจส่วนรวมในอนาคตอันใกล้นี้" นอกเหนือจากการทำบุญสร้างกุศล สร้างบารมีร่วมกัน


ที่สำคัญอีกประการหนึ่งก็คือการร่วมกันอธิฐานจิตเปิดบุญเปิดบารมีเปิดสายสมบัติเปิดอภิญญาให้กับพุทธภูมิทุกๆท่านทั้งที่ได้มาร่วมในงานพิธีด้วยก็ดี หรือที่ไม่ได้มาร่วมงานด้วยก็ดี ก็ล้วนแต่มีผลเสมอกันหากท่านทั้งหลายตั้งมั่นอยู่ในสัมมาทิษฐิ

สำหรับการสรุปงานในส่วนละเอียดนั้น ได้มีการช่วยกันดำเนินการกันหลายๆท่านโดย

เริ่มจากได้ไปกราบเรียนพระพุทธเจ้าทุกๆพระองค์ นับแต่สมเด็จองค์ปฐมท่าน พระมหาโพธิสัตว์ พระโพธิสัตว์ทั้งหลายทั่วอนันตจักรวาล ให้ท่านได้ทราบและมาร่วมงาน ร่วมโมทนาบุญด้วย

จากนั้นก็ได้อธิฐานกำหนดเขตปริมณฑลให้ทรงความเป็นสัมมาทิษฐิเพื่อความบริสุทธิ์ในงาน

ในเขตวันงานได้มีเหตุการปฏิหาริย์บังเกิดขึ้นหลายอย่างหลายประการด้วยกันซึ่งจะได้ รวบรวมให้ฟังตามที่ได้ทราบ ตามที่ได้สัมผัสมา

ตั้งแต่ในคืนวันพฤหัสและคืนวันศุกร์เพื่อนๆที่ได้มาช่วยกันจัดงาน ได้แลเห็น "โคมลอย" ปรากฏบนฟ้ากันอย่างชัดๆกระจ่างตา ลองมาตั้งคำถามในใจดู ว่าแถบๆนั้นเป็นทุ่ง และไม่มีวัดหลวงสำคัญที่จะปล่อย "โคมลอย"กันอย่างแน่นอน ที่สำคัญคือเหมือนมีอะไรบางอย่างเรียกให้เราเงยหน้าขึ้นไปดูท้องฟ้าในขณะที่โคมลอยปรากฏขึ้นพอดี

ลองถามพระท่านดู ท่านก็ได้บอกว่า ทางพญานาค เขาปล่อยบั้งไฟพญานาค เพื่อบูชาพระพุทธเจ้าในวันออกพรรษา เทวดาและชาวเมืองลับแลแถบนี้เขาก็มีประเพณีแบบนี้เช่นเดียวกัน

เป็นที่น่าสังเกตุว่า หลังจากปรากฏโคมลอยแล้ว พวกเราหลายๆท่านก็ถ่ายภาพดวงต่างๆกันได้เต็มท้องฟ้า รวมทั้งปรากฏ ภาพยานบิน ร่างเรืองแสงต่างๆกันได้จริงๆ ตามที่ได้มีข้อมูลมาก่อน

อีกทั้งตลอดทั้งคืนจนถึงวันงานพิธี มีเทพพรหมท่านเสด็จมากันมาก ซึ่งนอกจากที่ท่านเสด็จมาเองแล้วยังมีที่ท่านเสด็จตามพระพุทธเจ้า พระบรมธาตุ และที่ท่านคุ้มครองพระพุทธรูปก็อีกมากมาย

ช่วงคืนวันศุกร์ก่อนวันงาน ตอนกลางดึกประมาณ ตีหนึ่ง ตีสองปรากฏว่ามีฝนพรำนิดๆ ใจก็กังวลว่าพระและสิ่งของในงานจะเปียกจะเสียหายหรือไม่ ในใจก็ปรากฏว่า พระท่านบอกว่า เทวดาท่านมาประพรหมบูชาพระพุทธรูปกัน ไม่เป็นไรหรอก ซึ่งพอรุ่งเช้า ก็ปรากฏว่า ที่องค์พระท่านไม่มีรอยฝนรอยหยดน้ำใดๆจริง

นอกจากนั้นหลายคนก็ได้เห็นหรือได้ยินเสียงคนมาเดินตรวจตรารอบๆบริเวณในกลางดึกซึ่งผมเองก็ได้ยินเสียงเดินข้างๆเต้นท์ในมุมที่ไม่ใช่ทางเดินด้วยเช่นกัน ซึ่งท่านมาช่วยดูแลความเรียบร้อยให้ ต้องขอกราบโมทนาบุญด้วยครับ

นอกจากนี้หลายๆท่านคงได้เห็นพระพุทธรูป พระพุทธไตรโลกนาถที่ท่านทรงยิ้มมากกว่าปกติด้วยตาตนเองกัน ซึ่งพลอยทำให้ดวงจิตของพวกเราหลายๆคนเต็มเปี่ยมไปด้วยความปิติอิ่มบุญกันไปด้วย ความชื่นใจในน้ำใจที่มีให้กัน ความเสียสละ ความอบอุ่น ความสามัคคี ทำให้งานนี้ยิ่งเป็นงานที่ทรงคุณค่าอย่างยิ่ง

 

ปาฏิหาริย์ต่างๆที่ปรากฏขึ้นนั้น เป็นผลแห่งความดีที่ทุกๆคนได้ร่วมใจกันทำความดีเสียสละเพื่อส่วนรวม สิ่งศักดิ์สิทธิ์ท่านจึงได้เมตตาแสดงให้ประจักษ์เป็นเครื่องยังศัทธาที่ตั้งมั่นอยู่แล้วให้ยิ่งขึ้นไปอีก

ยังมีเรื่องราวในส่วนละเอียดอีก ซึ่งขอเล่าต่อพรุ่งนี้ครับผม

 

ข้าพเจ้าขอกราบขอขมาพระรัตนไตรและเทพพรหมเทวาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายทั่วอนันต์จักรวาล รวมถึงพระโพธิสัตว์และเหล่าพุทธภูมิทั้งหลาย รวมทั้งเพื่อนๆพี่ๆน้องๆทุกคน ที่พวกเราทั้งหลายได้อาจประมาทพลาดพลั้งผิดพลาดไปทั้งที่เจตนาก็ดีไม่เจตนาก็ดีไม่ว่าจะทางกาย วาจา ใจ ขออโหสิกรรมด้วยเืืทอญ


...ขอลอกครับ...สาธุ...สาธุ...สาธุ...

 

ข้าพเจ้าขอกราบแทบบาทซึ่งพระรัตนไตร พระโพธิสัตว์ เทพพรหมเทวา สิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายทั่วสากลพิภพและเหล่าพุทธบริษัททั้งหลาย ทั่วทั้งอนันต์จักรวาล ทุกท่าน ณ ที่นี้ หากแม้มีกรรมได้ที่ข้าพเจ้า ได้ล่วงเกินแก่ พระพุทธ พระธรรม พระอริยะสงฆ์ และท่านทั้งหลาย ด้วยกาย วาจา ใจ เจตนาหรือมิเจตา ทั้งต่อหน้าและลับหลัง ด้วยความรู้เท่าไม่ถึงการก็ดี ชาตินี้ก็ดี ชาติที่เป็นอดีตก็ดี ขอให้ท่านทั้งหลายได้โปรดยกให้เป็นอโหสิกรรมแก่ข้าพเจ้า ณ ตั้งแต่บัดนี้ไปตราบเท่าเข้าสู่พระนิพพาน

หากแม้มีกรรมใดก็ตามที่ได้ล่วงเกินแก่ข้าพเจ้า ด้วยเจตนาหรือมิเจตนาต่อหน้าหรือลับหลัง ชาตินี้ก็ดี ชาติที่เป็นอดีตก็ดี ข้าพเจ้าขออโหสิกรรมให้แก่กัน ตั้งแต่บัดนี้ไปต้นไปตราบเข้าถึงพระนิพพานด้วยเทอญ.


ข้าพเจ้าขออราธนาบารมีแห่งพระรัตนไตรทั้งสาม เทพพรหมเทวา และบุญบารมีทั้งมวลที่ข้าพเจ้าบำเพ็ญมาแล้วตั้งแต่อดีตกาลจนถึงปัจจุบันกาล และจะดำเนินต่อในอนาคตกาล จนถึงที่สุดแห่งพระนิพพาน ขอให้บุญบารมีทั้งมวลนี้จงมารวมกัน เป็นพละ ปัจจัย ให้ท่านทั้งหลายท่านมีความเจริญทั้งทางโลกและทางธรรม มีสัมมาปัญญา สัมมาสติ สัมมาสมาธิ สัมมาทิฐิ บริบูรณ์ไปด้วยทรัพย์สมบัติและทิพย์สมบัติ จนถึงที่สุดฝั่งของความดีที่พระนิพพานโดยพลันทั่วกันเทอญ.

 

ในตอนที่เหล่าพระโพธิสัตว์ อันได้แก่ พี่คลิก คุณเอ๋ คุณอ๊อด พี่ตั้ม คุณนาคามูระ และท่านอื่น ๆ อัญเชิญธงไปประดิษฐานไว้ที่ยอดเขา พระท่านได้ครอบตาข่ายเพชรเพื่อป้องกันภัย คลุมทั้งเขา และทั้งประเทศไทยให้ด้วย ตอนที่ขึ้นไปข้างบนเขาอยู่ ๆก็มีหมาหอนกลางวันแสกๆด้วย......

แสงซ้ายมือด้านบนเป็นฉัพพรรณรังสีที่ท่านมาโปรดครับ

 

เยือนห้องพุทธภูมิ
http://palungjit.org/showthread.php?t=86939&page=17

 

ขออธิษฐานตามข้อความข้างบนนี้ด้วยคนจ้า...... สาธุ.. สาธุ.. สาธุ...

 

ขออนุโมทนากับคุณกิ๊ก และขออธิษฐานเช่นเดียวกันครับ

 

ขออโหสิกรรมกับทุกดวงจิตที่ข้าพเจ้าได้ล่วงเกิน

อกุศลกรรมใดที่ข้าพเจ้าได้ทำไป ไม่ว่าจะเป็นเมื่อครั้งอดีตชาติและชาติปัจจุบัน ที่ได้ประมาทพลาดพลั้งล่วงเกิน กับ พระพุทธเจ้าทุกๆพระองค์
พระธรรม พระอรหันต์ทุกๆพระองค์ เทพเทวาทุกๆพระองค์ มนุษย์ สัตว์เดรัจฉาน และท่านที่อยู่ในอบายภูมิ ทุกดวงจิต ได้โปรดรับรู้และอโหสิกรรมให้ข้าพเจ้า นับตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปตราบเข้าสู่พระนิพพานด้วยเทอญ

 

แม้ จะไม่มีโอกาส ร่วมงาน ในครั้ง ที่ผ่านมา ---ขอ copy ข้อความ ด้วย จ้า

ตั้งแต่ในคืนวันพฤหัสและคืนวันศุกร์เพื่อนๆที่ได้มาช่วยกันจัดงาน ได้แลเห็น "โคมลอย" ปรากฏบนฟ้ากันอย่างชัดๆกระจ่างตา ลองมาตั้งคำถามในใจดู ว่าแถบๆนั้นเป็นทุ่ง และไม่มีวัดหลวงสำคัญที่จะปล่อย "โคมลอย"กันอย่างแน่นอน ที่สำคัญคือเหมือนมีอะไรบางอย่างเรียกให้เราเงยหน้าขึ้นไปดูท้องฟ้าในขณะที่โคมลอยปรากฏขึ้นพอดี

ลองถามพระท่านดู ท่านก็ได้บอกว่า ทางพญานาค เขาปล่อยบั้งไฟพญานาค เพื่อบูชาพระพุทธเจ้าในวันออกพรรษา เทวดาและชาวเมืองลับแลแถบนี้เขาก็มีประเพณีแบบนี้เช่นเดียวกัน

เป็นที่น่าสังเกตุว่า หลังจากปรากฏโคมลอยแล้ว พวกเราหลายๆท่านก็ถ่ายภาพดวงต่างๆกันได้เต็มท้องฟ้า รวมทั้งปรากฏ ภาพยานบิน ร่างเรืองแสงต่างๆกันได้จริงๆ ตามที่ได้มีข้อมูลมาก่อน

อีกทั้งตลอดทั้งคืนจนถึงวันงานพิธี มีเทพพรหมท่านเสด็จมากันมาก ซึ่งนอกจากที่ท่านเสด็จมาเองแล้วยังมีที่ท่านเสด็จตามพระพุทธเจ้า พระบรมธาตุ และที่ท่านคุ้มครองพระพุทธรูปก็อีกมากมาย

ช่วงคืนวันศุกร์ก่อนวันงาน ตอนกลางดึกประมาณ ตีหนึ่ง ตีสองปรากฏว่ามีฝนพรำนิดๆ ใจก็กังวลว่าพระและสิ่งของในงานจะเปียกจะเสียหายหรือไม่ ในใจก็ปรากฏว่า พระท่านบอกว่า เทวดาท่านมาประพรหมบูชาพระพุทธรูปกัน ไม่เป็นไรหรอก ซึ่งพอรุ่งเช้า ก็ปรากฏว่า ที่องค์พระท่านไม่มีรอยฝนรอยหยดน้ำใดๆจริง




ขออนุโมทนา บุญ ที่ยิ่งใหญ่ ในครั้ง นี้ กับทุกท่าน ที่ร่วมงาน และ อัญเชิญ พระบรมสารีริกธาตุ ในเกศ พระพุทธไตรโลกนาถ ปางเปิดโลก ณ สถานธรรม แห่งนี้ ด้วย ครับผม

 

ตั้งจิตอธิษฐาน

ขอใช้ของคุณกิ๊กด้วยคนนะคะ

ข้าพเจ้าขอกราบแทบบาทซึ่งพระรัตนไตร พระโพธิสัตว์ เทพพรหมเทวา สิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายทั่วสากลพิภพและเหล่าพุทธบริษัททั้งหลาย ทั่วทั้งอนันต์จักรวาล ทุกท่าน ณ ที่นี้ หากแม้มีกรรมได้ที่ข้าพเจ้า ได้ล่วงเกินแก่ พระพุทธ พระธรรม พระอริยะสงฆ์ และท่านทั้งหลาย ด้วยกาย วาจา ใจ เจตนาหรือมิเจตา ทั้งต่อหน้าและลับหลัง ด้วยความรู้เท่าไม่ถึงการก็ดี ชาตินี้ก็ดี ชาติที่เป็นอดีตก็ดี ขอให้ท่านทั้งหลายได้โปรดยกให้เป็นอโหสิกรรมแก่ข้าพเจ้า ณ ตั้งแต่บัดนี้ไปตราบเท่าเข้าสู่พระนิพพาน

หากแม้มีกรรมใดก็ตามที่ได้ล่วงเกินแก่ข้าพเจ้า ด้วยเจตนาหรือมิเจตนาต่อหน้าหรือลับหลัง ชาตินี้ก็ดี ชาติที่เป็นอดีตก็ดี ข้าพเจ้าขออโหสิกรรมให้แก่กัน ตั้งแต่บัดนี้ไปต้นไปตราบเข้าถึงพระนิพพานด้วยเทอญ


ข้าพเจ้าขออาราธนาบารมีแห่งพระรัตนไตรทั้งสาม เทพพรหมเทวา และบุญบารมีทั้งมวลที่ข้าพเจ้าบำเพ็ญมาแล้วตั้งแต่อดีตกาลจนถึงปัจจุบันกาล และจะดำเนินต่อในอนาคตกาล จนถึงที่สุดแห่งพระนิพพาน ขอให้บุญบารมีทั้งมวลนี้จงมารวมกัน เป็นพละ ปัจจัย ให้ท่านทั้งหลายท่านมีความเจริญทั้งทางโลกและทางธรรม มีสัมมาปัญญา สัมมาสติ สัมมาสมาธิ สัมมาทิฐิ บริบูรณ์ไปด้วยทรัพย์สมบัติและทิพย์สมบัติ จนถึงที่สุดฝั่งของความดีที่พระนิพพานโดยพลันทั่วกันเทอญ.
<!-- / message --><!-- edit note -->

 

กลับมาจากกฐินที่วัดบางกุ้งแล้วครับ ทำบุญเผื่อเพื่อนๆทุกท่านด้วยครับ

มาสรุปกันต่อ

เรื่องราวในส่วนละเอียดของงานที่ได้ผ่านพ้นไปนั้น ส่วนสำคัญก็คือการร่วมกันอฐิฐานจิต เพื่อการรวมจิตของพุทธภูมิให้เป็นหนึ่งเดียวกันในการทำงานเพื่อพระพุทธศาสนาและเพื่อส่วนรวม เมื่อวันเสาร์ผมเองก็ได้ไปกราบเรียนเรื่องการรวมตัวของพุทธภูมิให้หลวงพี่ชัยวัฒน์ท่านได้ทราบ ซึ่งท่านก็ได้โมทนาและได้ให้พรว่า "ขอให้งานทุกอย่างทุกประการสำเร็จสมดังที่ได้ปรารถนากันเอาไว้"

นอกจากนี้ การอธิฐานจิตยังเป็นไปเพื่อยกจิตของพุทธภูมิทุกๆท่านทั้งที่ได้มาร่วมงานและที่ไม่ได้มาร่วมในพิธี

-ให้ตั้งมั่นในสัมมาทิษฐิ
-ยกดวงจิตขึ้นสู่ความเป็นพระโพธิสัตว์
-เปิดบารมี สายบุญฤทธิ์ สายอิทธิฤทธิ์
-เปิดสายบุญ เปิดสายสมบัติ เปิดอภิญญาใหญ่

เพื่อที่จะได้ไว้ใช้ในการสร้างบารมีเพื่อส่วนรวมกัน

ซึ่งทุกสิ่งที่กล่าวมาเป็นบารมีของพระท่านที่มาเมตตาสงเคราะห์ตามคุณธรรมความดีของแต่ละท่าน ซึ่งอาจได้พบเห็นเหตุการณ์ปาฏิหาริย์แตกต่างกันออกไปตามแต่ที่พระท่านจะเมตตา

มีอีกหลายเรื่องที่พึงเป็นข้อสังเกตุว่าเป็นเหตุอันน่าอัศจรรย์

-ในการบรรจุพระบรมสารีริกธาตุและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ บนยอดพระเกศของพระพุทธไตรโลกนาถนั้น อันที่จริงมีช่องอยู่นิดเดียว แต่สิ่งที่อัศจรรย์ก็คือ การบรรจุนั้น พวกเราร่วมกันบรรจุกันตั้งแต่ตอนเช้ารอบหนึ่ง กลางวันรอบหนึ่งเย็นก็อีกรอบหนึ่ง บรรจุสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทองคำและสิ่งมีค่าลงไปเป็นอันมาก แต่ก็บรรจุเท่าไรก็ไม่เต็ม ซึ่งตอนแรกมีแต่ผู้ติงว่า ช่องบรรจุเล็กนิดเดียวบรรจุผะอบพระบรมสารีริกธาตุลงไปก็ไม่มีที่แล้ว แต่ครั้นบรรจุเข้าจริง สิ่งที่ได้บรรจุลงไปมีจำนวนเป็นถาดๆ มีผู้ขอขึ้นไปบรรจุกันเกือบสิบท่าน แต่ก็ปรากฏว่าบรรจุเท่าไรก็ไม่เต็ม สิ่งนี้นับเป็นสิ่งที่น่าอัศจรรย์ใจอย่างหนึ่งของงาน

-ท่านผู้ที่มาร่วมพิธีล้วนแต่เป็นผู้ที่มีศรัทธาแท้ที่ตั้งมั่นเป็น อจลศรัทธา แม้แต่ท่านประธานในพิธี อบต.ก็มีปฏิปทาในความเป็นพุทธภูมิและเห็นความสำคัญในงานที่พวกเราร่วมกันจัดเป็นอย่างมาก ตำรวจที่มาดูแลในงานก็บังเอิญเป็นผู้ที่ชอบไปวัดทำบุญกันทั้งสองท่าน ซึ่งก็นับว่าเป็นความบังเอิญที่สร้างความบริสุทธิ์ในมณฑลพิธี ตามที่ได้อธิฐานกำหนดเขตเอาไว้

-ยังมีเหตุการณ์แปลกๆติดตามมาอีกหลายๆเรื่องซึ่งคงต้องขออนุญาตให้ร่วมๆกันทะยอยกันเล่าเนื่องจากมีรายละเอียดค่อนข้างมาก

ที่จะเล่าให้ฟังอีกเรื่องเห็นจะเป็นเรื่องพระบรมสารีริกธาตุที่ได้รับแจกจากชมรมรักษ์พระธาตุ อยากให้ท่านที่ได้รับแจกลองกลับไปดู เพราะผมเองได้รับมาซองหนึ่ง ประมาณ 7-8 องค์ ตอนรับได้สังเกตุดู ท่านมีลักษณะเป็นสีน้ำตาลคล้ายทราย ก็ได้นำใส่กระเป๋าสตางค์เอาไว้ แล้วต้องไปต่างจังหวัด แต่พอครั้นกลับมาที่บ้านเปิดดูอีกทีหนึ่ง พระบรมสารีริกธาตุที่ได้ในซองกลับแปรสภาพเป็น แก้วใสสะอาดส่วนหนึ่งและสีขาวอีกส่วนหนึ่ง ซึ่งเป็นที่น่าอัศจรรย์ใจเช่นกัน จึงอยากให้เพื่อนๆที่ได้ไปร่วมงานได้รับแจกมาลองกลับไปสังเกตุกันดูให้ดีๆ ผมเองก็ต้องรีบจัดผะอบเพื่อบรรจุท่านเอาไว้แทนในซองที่ได้รับแจกมา

และสำหรับเรื่อง "พระธาตุ" นั้นต่อไปจะมีงานของพวกเราที่เกี่ยวข้องกับด้านนี้ต่อเนื่องไปอีกมาก จะมี ท่านผู้มีบารมีด้านพระธาตุนี้ปรากฏให้พวกเราได้ร่วมงานกับท่านอีกต่อไปในกาลข้างหน้า

 

ข้าพเจ้าขอกราบขอขมาพระรัตนไตรและเทพพรหมเทวาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายทั่วอนันตจักรวาล รวมถึงพระโพธิสัตว์และเหล่าพุทธภูมิทั้งหลาย รวมทั้งเพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ ทุกคน ที่พวกเราทั้งหลายได้อาจประมาทพลาดพลั้งผิดพลาดไปทั้งที่เจตนาก็ดีไม่เจตนาก็ดีไม่ว่าจะทางกาย วาจา ใจ ขออโหสิกรรมด้วยเืืทอญ

ข้าพเจ้าขออโหสิกรรม กรรมใดที่ทำแก่ผู้ใดในชาติใด ๆ ก็ตาม ขอให้เจ้ากรรมและนายเวร จงอโหสิกรรมให้แก่ข้าพเจ้า แม้แต่กรรมใด ๆ ที่ใคร ๆ ทำแก่ข้าพเจ้าก็ตาม ข้าพเจ้าขออโหสิกรรมให้ทั้งสิ้น ยกถวายพระพุทธเจ้าเป็นอภัยทาน เพื่อจะได้ไม่มีเวรกรรมต่อไป

สาธุๆๆ อนุโมทนามิ