งานมหาสโมสรสันนิบาตพุทธภูมิ วันออกพรรษา ณ วัดสังกัสรัตนคิรี จ.อุทัยธานี

เสาร์ที่ผ่านมาคุณนายตั้งทองกูร แกส่งอุปกรณ์ครัวชุดหย่ายและเยอะมัก ไปฝากไว้ที่บ้านพี่คลิกแล้ว<?xml:namespace prefix = o ns = "urn:schemas-microsoft-comfficeffice" /><o></o>

 

วันนี้พี่เกษมเมตตาลงมากรุงเทพเพื่อมอบพระบรมสารีริกธาตุเพื่อนำไปประดิษฐ์ฐานบรรจุไว้ถายในองค์พระพุทธไตรโลกนาถ ปางเปิดโลก เป็นพระบรมสารีริกธาตุใสเป็นเพชร

นอกจากนั้นยังเมตตามอบพระเครื่องที่พี่เกษมได้รวบรวมเอาไว้ตลอดชีวิตที่ผ่านมา มามอบให้ไว้กระเป๋าใหญ่ๆหลายพันองค์เพื่อ ให้นำไปบูชากันในเวบไซท์เพื่อนำรายได้ทั้งหมดไม่หักค่าใช้จ่ายไปใช้ในการก่อสร้าง ปรียนันท์ธรรมสถานที่พวกเราทุกๆคนรวมใจรวมจิตกันสร้างขึ้นเพื่อ ช่วยเหลือผู้คนในยามเกิดภัยพิบัติและเพื่อเป็นที่ปฏิบัติสมาธิกันครับ

ขอกราบโมทนาในน้ำใจและกำลังใจอันเข้มข้นของพี่เกษมด้วยครับ และต้องขอกราบอภัยอีกครั้งที่ต้องให้พี่เกษมรอนานครับ

ตอนนี้อารมณ์ใจของพวกเรานั้นแม้อาจขาดแคลนทุนทรัพย์ปัจจัยกันก็จริงอยู่แต่ น้ำใจของพวกเราไม่เคยเหือดแห้งครับ
<!-- / message --><!-- sig -->

 

สู้ๆ สู้โว้ย
ส่งกำลังใจมาเชียร์ทุกท่านจ้า

 

มีข่าวดีมาเรียนให้ทุกท่านพิจารณาครับคือพี่โสภณ แจกพระบรมสารีแก้วใส พันล้านองค์เพียบโทร0895691982
พี่โต ฉัตรชัยแจกพระผงองค์จตุคาม ปู่ทวด ไม่อั้นเป็นเกินห้าหมื่นองค์0816129092
บริษัทเวิล คลาสไลฟ ซอยโชติวัฒน์ 69 ถนนประชาชื่น แขวงเขตประชาชื่น โทร 029132888สาธุครับเขาแจกห้าล้านเล่มๆละเป็นหลายร้อยขอมาได้เป็นแสนก็ได้ครับ ส่วนสีพี่ฉิม บอร์ดบริษัทสีทีโอเอ แจกฟรีทาวัดฟรี โทร 0867567863 หรือโทรหายายเอื้อม(ยายผีป่า)ก็ได้ครับสาธุครับทุกท่านขอให้บารมีเต็มเร็วๆครับ

 

ถามคำหนึ่ง...แต่ใครจะเป็นคนตอบ...มีใครว่างไหมวานบอก...
บอร์ดผลงานและการทำงานของกลุ่มพิชิตภัยพิบัติ ใครทำคร้าบ กรุณาแจ้งด้วย จะจัดบอร์ดลูกฟูก (ฟิวเจอร์บอร์ด) ไว้ให้ พร้อมกับ มือกาวทั้งหลาย คอย ติดๆๆ อย่างเดียว สำหรับเนื่อหาและรูปกิจกรรม ใครทำเอ๋ยยกมือหน่อยจ้า
ขออาสาสมัครแบบมาพร้อม สองมือ สองขา เอาตัวกะหัวมาด้วยน่ะ เอิ๊กๆ

อ๋อ บอกมาด้วยน่ะว่าต้องการบอร์ดกี่อัน สีอะไร สั่งได้ตามจาย

 

บอร์ดผลงานและการทำงาน....ของกลุ่มพิชิตภัยพิบัติ...ยังไม่มีคนทำนะครับ

 

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>นักธุรกิจอุบลฯเจ๋ง! คนแรกของโลก ค้นพบวิธีผลิต “ไบโอดีเซล 100%”</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>17 ตุลาคม 2550 18:30 น.</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=right border=0><TBODY><TR><TD width=5></TD><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=200 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=200> </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>นายพิชาญ จันทร์เจริญชัย อายุ 47 ปี เจ้าของบริษัทสหัสวรรษไบโอดีเซลอินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5></TD></TR></TBODY></TABLE> อุบลราชธานี- ฮือฮานักธุรกิจค้าน้ำมันไขมันสัตว์-พืช จ.อุบลฯ ใช้เวลากว่า 4 ปี วิจัยพบสูตรการผลิตน้ำมันไบโอดีเซล ที่ให้ประสิทธิเหมือนน้ำมันดีเซลทุกประการ ทั้งยังค้นพบการนำ “กลีเซอรีน” สารตกค้างในกระบวนการผลิตไบโอดีเซลที่ไร้ค่า นำกลับมาใช้ผลิตเป็นน้ำมันไบโอดีเซลได้เป็นรายแรกของโลก เผยช่วยลดต้นทุนการผลิตน้ำมันชนิดนี้ลดลงกว่า 300% โดยเจ้าตัวจดสิทธิบัตรกับกรมทรัพย์สินทางปัญญาแล้ว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะนี้ได้มีการค้นพบการลดต้นทุนการผลิตน้ำมันไบโอดีเซลที่ให้ประสิทธิภาพเต็ม 100% เทียบเท่าการใช้น้ำมันดีเซล นอกจากนี้ ยังนำกากตกค้างจากกระบวนการผลิต หมุนเวียนกลับมาใช้ทำน้ำมันชนิดเดียวกัน และมีประสิทธิภาพทัดเทียมกันด้วย

ทั้งนี้ ผู้ที่สามารถค้นคว้าสำเร็จรายนี้ คือ นายพิชาญ จันทร์เจริญชัย อายุ 47 ปี จบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยช่างกลปทุมวัน เจ้าของบริษัท สหัสวรรษไบโอดีเซลอินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด เลขที่ 48 หมู่ 9 บ้านทุ่งหว้า อ.เมือง จ.อุบลราชธานี

นายพิชาญ กล่าวถึงแนวคิดผลิตน้ำมันไบโอดีเซล ว่า เกิดขึ้นเมื่อกว่า 4 ปีก่อน ขณะราคาน้ำมันมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น ส่งผลกระทบต่อธุรกิจจำหน่ายไอศกรีมซึ่งตนทำอยู่ โดยต้องใช้รถเป็นพาหนะขนส่งไปให้ลูกค้าหลายคัน แบกภาระใช้น้ำมันวันละกว่า 400 ลิตร เริ่มแรกได้ทดลองค้นคว้าและหาความรู้จาก นายสมอทอง แนวชัยน้ำ ผู้รู้กระบวนการผลิตน้ำมันไบโอดีเซลดีคนหนึ่งของประเทศไทย และได้ซื้อเครื่องใช้ผลิตน้ำมันไบโอดีเซลมาทดลองทำใช้เองที่บ้านพัก

เบื้องต้นสามารถผลิตน้ำมันได้ประมาณวันละ 50 ลิตร และนำไปทดลองใช้ในรถยนต์ขนส่งไอศกรีมของตน แต่การใช้น้ำมันไบโอดีเซลในระยะแรกประสบปัญหาไส้กรองน้ำมันอุดตัน ต้องเปลี่ยนไส้กรองใหม่ทุกเดือน ตนจึงได้เริ่มค้นคว้าหาวิธีแก้ไขกระบวนการผลิต ไม่ให้น้ำมันที่ใช้ ทำให้ไส้กรองน้ำมันอุดตัน ก็ประสบความสำเร็จสามารถแก้ไขปัญหาดังกล่าวได้ จึงขยายกำลังผลิตน้ำมันไบโอดีเซลออกขาย ซึ่งโรงงานปัจจุบันผลิตได้วันละกว่า 1,000 ลิตร มีลูกค้าผู้ใช้รถยนต์ให้ความสนใจเข้ามาใช้บริการ เพราะน้ำมันไบโอดีเซลมีราคาถูกกว่าน้ำมันดีเซลเฉลี่ยลิตรละ 3-4 บาท

</TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=left border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=200 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=200> </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>นายพิชาญใช้เวลากว่า 4 ปีศึกษาค้นคว้าการผลิตไบโอดีเซลประสิทธิภาพสูง 100 %</TD></TR></TBODY></TABLE></TD><TD width=5></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5></TD></TR></TBODY></TABLE> อย่างไรก็ตาม เมื่อประมาณต้นปี 2549 วัตถุดิบที่ใช้ผลิตน้ำมันไบโอดีเซล เช่น ไขมันสัตว์ ไขมันพืช และจากน้ำมันใช้แล้วมีราคาแพงขึ้น ประกอบกับกระบวนการผลิตน้ำมันไบโอดีเซลจะมีกาก “กลีเซอรีน” ตกค้างราว 20% โดยกากกลีเซอรีนไม่สามารถนำกลับมาใช้ประโยชน์ได้ เพราะให้เพียงพลังความร้อนอย่างเดียว

นายพิชาญ กล่าวว่า ตนจึงได้เริ่มทดลองค้นคว้ากระบวนการผลิตน้ำมันไบโอดีเซล ที่ไม่มีกากกลีเซอรีนตกค้าง โดยใช้เวลากว่า 1 ปี ก็ค้นพบกระบวนการทำปฏิกิริยาระหว่างการผลิตน้ำมันไบโอดีเซล ซึ่งสามารถทำการผลิตน้ำมันไบโอดีเซล โดยไม่ให้มีกากกลีเซอรีนตกค้าง คือ สามารถผลิตน้ำมันไบโอดีเซลได้เต็ม 100% ซึ่งมีผลต่อประสิทธิภาพ ในการให้พลังงานของน้ำมันเท่าเทียมกับน้ำมันดีเซลที่ใช้อยู่ทุกประการ เช่น น้ำมันดีเซลมีความสามารถให้ระยะทาง 10 กิโลเมตร/ลิตร น้ำมันไบโอดีเซล ที่ผ่านการผลิตที่ไม่มีกากกลีเซอรีนตกค้างก็สามารถใช้งานได้ระยะเท่ากัน
นายพิชาญ กล่าวต่อว่า เมื่อค้นพบกระบวนการทำปฏิกิริยาไม่ให้มีกากกลีเซอรีนตกค้างในน้ำมันไบโอดีเซลสำเร็จ จึงได้ศึกษาค้นคว้านำเอาเฉพาะกากกลีเซอรีน ที่โรงงานผลิตไบโอดีเซลทิ้งในแต่ละวัน นำกลับมาผ่านกระบวนการผลิตเป็นน้ำมันไบโอดีเซล ซึ่งก็สามารถผลิตใช้เป็นน้ำมันไบโอดีเซลคุณภาพสูงเท่าเทียมกับน้ำมันดีเซลได้เช่นกัน

การนำกากกลีเซอรีนมาผลิตยังมีผลดีต่อโลก คือ สามารถกำจัดกากทิ้งไม่ให้เหลือตกค้าง เพราะกากกลีเซอรีนถูกนำไปใช้ในการเผาไหม้ตามโรงงานที่ต้องการความร้อน แต่การเผาไหม้ที่ไม่ถูกวิธีจะเกิดเป็นมลพิษ ส่งผลต่อชั้นบรรยากาศของอากาศ ทำให้โลกร้อนยิ่งขึ้น

สำหรับการนำกากกลีเซอรีนมาผลิตเป็นน้ำมันไบโอดีเซลทั้งหมด นอกจากช่วยลดมลพิษทางอ้อม น้ำมันไบโอดีเซลยังเป็นน้ำมันบริสุทธิ์ไม่มีสารใดๆ เหลือตกค้างในกระบวนการเผาไหม้ผ่านเครื่องยนต์ของรถยนต์ และมีผลต่อผู้ผลิตน้ำมันไบโอดีเซลโดยตรง เพราะการนำกากกลีเซอรีนมาผ่านกระบวนผลิตเป็นน้ำมันไบโอดีเซลมีต้นทุนเพียง 8 บาท/ลิตร จากปกติมีต้นทุนการผลิตลิตรละ 22-23 บาท/ลิตร ลดลงร่วม 300%

“ผลการวิจัยค้นคว้าครั้งนี้ ผ่านการตรวจสอบรับรองผลจากศูนย์เครื่องมือวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ และผมได้ทำการจดสิทธิบัตรกับกรมทรัพย์สินทางปัญญาไว้แล้ว” นายพิชาญ กล่าวและระบุเพิ่มเติมว่า

การค้นคว้ากระบวนการผลิตน้ำมันไบโอดีเซล ไม่มีสารกลีเซอรีนเหลือค้าง และการนำกลีเซอรีนกลับมาผลิตเป็นน้ำมันใหม่ดังกล่าว ขณะนี้ยังไม่มีใครสามารถค้นคว้าได้ ตนจึงถือเป็นผู้ผลิตรายแรกของโลก

ปัจจุบันประเทศไทยมีกลีเซอรีนที่เหลือจากการผลิตน้ำมันไบโอดีเซลประมาณวันละ 400,000 ลิตร โดย 200,000 ลิตรเป็นกากกลีเซอรีนของบริษัท ปตท.ที่เหลือกระจายอยู่ตามโรงงานผลิตน้ำมันต่างๆ ทั่วประเทศ กระบวนการผลิตน้ำมันไบโอดีเซลโดยไม่มีกลีเซอรีนเหลือค้าง จะทำให้ประเทศสามารถลดการนำเข้าน้ำมันดีเซลได้อีกวันละกว่า 400,000 ลิตรด้วย</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

 

พี่เล็กสรุปงานบอร์ดทั้งหมดและสถานะหน่อย ขาดเหลือเพื่อนๆจะได้ช่วยกัน

 

มารายงานตัวแล้วคร้าบ หลงัจากโดน SMS ไปตามตัวมา 555

ผมไปแน่ๆ ก่อนคือเช้าวันอาทิตย์ที่ 21 นี้ก่อนครับ ไป 2 คนครับผม น่าจะกลับวันอังคารบ่าย ไปโดยรถตู้นครสวรรค์
เสาร์อาทิตย์นี้ใครไปบ้างครับ

ส่วนวันงานไปวันไหนเด๋วแจ้งให้ทราบอีกครั้งครับ

คิดถึงพี่ทุกๆคนครับ

 

รายการที่ต้องเตรียมในการจัดงานวันเสาร์ที่ 27 ตุลาคม 2550

ก่อนวันศุกร์ที่ 26 ตุลาคม 2550

(เตรียมจดหมาย-โดยพี่ตั้ม)
(จดหมายถึงท่านอื่นๆ-พี่Tamsak)
เชิญผู้ใหญ่บ้านทั้ง 10 หมู่ สมาชิก สจ. และ อบต. รวมทั้งเชิญ ผกก.สภอ.พยุหะคีรี พร้อมทั้งขอกำลังเจ้าหน้าที่เพื่ออำนวยความสะดวกในเรื่องจราจรแล้ว
(จดหมายถึงพระครูปลัดอนันต์เรียบร้อยแล้วเมื่อวันจันทร์-โดยKhunkik)
(จดหมายถึงหลวงพ่อวิชญ์จุฑา -โดยkananun)
(จดหมายถึงชมรมรักษ์พระธาตุ-โดยkananun)
(ป้าย Cut-Out-โดยสนั่น+คลิก+เคลื่อนพล)
(งานไฟฟ้า-โดยสนั่น)

วันศุกร์ที่ 26 ตุลาคม 2550 จัดเตรียมก่อนวันงาน

1. ที่พัก STAFF (กระต๊อบที่พวกเราพักกันนั่นแหละ...ย้ายไปทางด้านหลังเล็กน้อย...กลัวพังครับ)
2. พระพุทธไตรโลกนาถ
3. จัดวางเครื่องบวงสรวง
4. จัดโต๊ะหมู่บูชา - อาสนะสงฆ์ - บริเวณถวายสังฆทาน - พระซ่อมพระ
5. เต็นท์ที่พักแขก - ผู้ใหญ่บ้าน - อบต.
6. เต็นท์ชมรมรักษ์พระบรมธาตุ

 

พี่หนั่นได้น้องเอ๊กซ์ช่วยอีกสองแรงแล้วอาทิตย์นี้

เรื่องที่ค้างคงต้องลุยก่อน
1. ติดป้ายวันนี้พี่คลิกจะไปชี้จุดให้ช่างทำ
2. รถสุขา
3. นิมนต์พระ

 

ใครโพสต์เรื่องไบโอดีเซลให้เอ่ย ขอบคุณค่ะ

ใครผลิตไบโอดีเซลแล้วไม่มีกลีเซอรีนเหลืออย่าไปซื้อของเขา เพราะของอเมริกาและเยอรมันไบโอดีเซลคือเมททิลเอสเทอร์ของกรดไขมันเท่านั้น

กลีเซอรีนหนึ่งโมเลกุลจับกับกรดไขมันสามโมเลกุลได้ไตรกลีเซอไรด์1โมเลกุล เมื่อแยกกรดไขมันมาเป็นเมททิลเอสเทอร์ของกรดไขมันแล้วจะไปแปลงกลีเซอรีนเป็นอะไรเล่า

ถ้าคนทำเป็นเคมีก็แล้วไป เคยเห็นเหมือนกันปฐมอโศกไตเตรทไบโอดีเซลไม่ให้มีกลีเซอรีน ถ้าจะทำก็ควรเรียกชื่ออื่น

 

งานบอร์ด นิทรรศการ มีรายละเอียดดังนี้

-เรื่องความเป็นมาของการปรารถนาพุทธภูมิ(คุณสลาวาเน่บอกว่าจะช่วยจัดทำ)

-พระบรมสารีริกธาตุและพระธาตุ (โดยชมรมรักษ์พระธาตุ)

-รอยพระพุทธบาท ที่ปรากฏและเหตุแห่งการปรากฏ (ยังไม่มีคนทำ)

-โครงการพระซ่อมพระ (หลวงพ่อวิชญ์จุฑา ท่านดูแล)

-แนะนำเวบไซท์พลังจิต (ทางสตาฟและเวบมาสเตอร์จะจัดทำแต่เราต้องหาคนตามงาน)

-งานของกลุ่ม"พลังจิตพิชิตภัยพิบัติ"
1.ภาพรวมของงานกลุ่ม -ให้ข้อมูลเรื่องภัยพิบัติ-สร้างพื้นฐานความดีและสมาธิเพื่อเพิ่มพลังงานด้านบวก-ให้ข้อมูลด้านการเตรียมตัวทั้งทางกายและทางจิตใจ
2.งานข้อมูลเรื่องภัยพิบติ(พี่เกษม และแวนโก)
3.กิจกรรรมที่ผ่านมาของกลุ่ม
4.งานและโครงการที่กำลังดำเนินการอยู่
5.งานเผยแพร่ธรรมมะ ผ่านสื่อด้านต่างๆ(โดยนาคามูระ)
ผมขอทำข้อ 1.และข้อ 4. ครับ
-งานของพุทธภูมิท่านต่างๆ ที่ยังค้างอยู่ และรอการช่วยเหลือ(ผมทำเองครับ)


โดยรวมงานบอร์ดก็มีดังนี้ครับผม

 

ขอเสนอว่า ของที่ระลึกนั้นไว้แจกให้คนที่ทำบุญสร้างสถานปฏิบัติธรรมค่ะ
เราเป็นโยมกันหมด ทำผ้าป่า กฐินไม่ได้ จะเชิญร่วมบุญ มันยาก
ให้เจ้าของเขียนว่าบริจาคเท่าไหร่จึงจะได้ของชิ้นนี้ และทำแบบมาก่อนได้ก่อน จะลิสต์ไว้ให้เราดูกันก่อนก็ได้เผื่อเราอยากได้กันเองจะได้ใช้สิทธิสตาฟจองก่อน

ตัวเองให้พระหลวงพ่อปานจากวัดบางนมโคที่มีไก่มีครุฑ 2545 ผงสมัยหลวงพ่อปาน จำนวน 36 องค์ค่ะ สำหรับผู้บริจาค 200 บาทขึ้นไป เลือกสัตว์ได้นะคะ

ขอถามคุณเล็กด้วยว่า press release ส่งไปที่ไหนบ้างคะ ส่งไปหรือยัง เดี๋ยวกลายเป็นว่าพวกเราจัดงานเอง เล่นเอง บริจาคเองจะจ๋อยมากเลยค่ะ

ว่าแต่กลุ่มพุทธภูมิบอกมาหรือยังคะว่าลงทะเบียนมากี่พันคนแล้ว (หมวดบอกว่ามีด้วยกันราวหนึ่งหมื่นคนค่ะ)

ลูกชายจะทำกล่องทำบุญให้ 10 ใบ (ถูกแม่ขอร้อง) เดี๋ยวคอยดูฝีมือนะคะ

 

<CENTER></CENTER>

ตัวอย่าง...ห้องน้ำเคลื่อนที่...ที่ใช้กิจการทัวร์

 

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>"ไบโอดีเซลโฮมเมด" เปลี่ยนน้ำมันเหลือทิ้งในครัวเป็นเชื้อเพลิงให้รถ</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>18 ตุลาคม 2550 15:32 น.</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>
<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=bottom align=right width=1 height=1></TD><TD vAlign=bottom align=middle background=/images/linedot_hori.gif height=1></TD><TD vAlign=bottom align=left width=1 height=1></TD></TR><TR><TD vAlign=center align=middle width=1 background=/images/linedot_vert.gif></TD><TD><TABLE cellSpacing=5 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE></TD><TD vAlign=center align=middle width=1 background=/images/linedot_vert.gif></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=right width=1 height=1></TD><TD vAlign=top align=middle background=/images/linedot_hori.gif height=1></TD><TD vAlign=top align=left width=1 height=1></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=middle>แดน เพอร์กิส วิศวกรหนุ่มเมืองผู้ดีโชว์การผลิตไบโอดีเซลจากน้ำมันเหลือใช้ให้ดู ทั้งยังรับประกันว่าใช้กับรถยนต์ได้ดีไม่มีปัญหา</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=bottom align=left height=12></TD></TR><TR><TD bgColor=#cccccc><TABLE cellSpacing=1 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle bgColor=#ffffff><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=160><TABLE cellSpacing=4 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=middle>คลิกที่ภาพเพื่อดูขนาดใหญ่ขึ้น</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR><TR><TD vAlign=baseline align=middle>อังกฤษอนุญาตให้นำน้ำมันพืชใช้แล้วมาผลิตเป็นไบโอดีเซลสำหรับใช้กับรถยนต์ในครอบครัวได้โดยไม่ต้องเสียภาษี</TD></TR></TBODY></TABLE>
<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR><TR><TD vAlign=baseline align=middle>ราคาน้ำมันเชื้อเพลิงที่สูงขึ้นส่งผลให้หลายครัวเรือนในอังกฤษหันมาผลิตไบโอดีเซลใช้กับรถยนต์เอง</TD></TR></TBODY></TABLE>
<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle width=165 height=1></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD><TD width=4 background=/images/linedot_vert3.gif></TD><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=7 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>บีบีซีนิวส์ - บ้านใครมีน้ำมันพืชเหลือใช้อย่าเพิ่งรีบทิ้ง เดี๋ยวนี้เขาอนุญาตให้ทำน้ำมันไบโอดีเซลใช้กับรถยนต์ของตัวเองกันได้แล้ว วิธีทำก็ไม่ยุ่งยาก ไม่ต้องเข้าปั๊มน้ำมันเหมือนอย่างแต่ก่อน แถมช่วยประหยัดเงินในกระเป๋าไม่ให้พร่อง

ยุคน้ำมันแพงแบบนี้ใครๆ ก็เรียกหาพลังงานทดแทน และที่กำลังมาแรงคงหนีไม่พ้น "ไบโอดีเซล" ที่นักวิทยาศาสตร์และผู้มีไอเดียบรรเจิดทั้งหลายต่างพยายามค้นคว้าวิจัยเพื่อนำมาใช้ทดแทนเชื้อเพลิงจากฟอสซิลที่กำลังจะเหลือน้อยลงทุกที

ล่าสุดกับข่าวคราว นักธุรกิจเจ้าของบริษัท สหัสวรรษไบโอดีเซลอินเตอร์เนชั่นแนล จ.อุบลราชธานี สามารถผลิตไบโอดีเซลที่ให้ประสิทธิเหมือนน้ำมันดีเซลทุกประการ และยังสามารถนำ “กลีเซอรีน” ซึ่งเป็นสารตกค้างในกระบวนการผลิตไบโอดีเซล นำกลับมาใช้ผลิตเป็นน้ำมันไบโอดีเซลได้เป็นรายแรกของโลก ทำให้ลดต้นทุนการผลิตน้ำมันชนิดนี้ลดลงกว่า 300% โดยเจ้าตัวจดสิทธิบัตรกับกรมทรัพย์สินทางปัญญาแล้ว (อ่าน : นักธุรกิจอุบลฯเจ๋ง! คนแรกของโลก ค้นพบวิธีผลิต “ไบโอดีเซล 100%”)

ทางฟากอังกฤษก็ตื่นตัวเรื่องการผลิตเชื้อเพลิงใช้เองไม่แพ้กัน เพราะเมื่อเดือน ก.ค. ที่ผ่านมา รัฐบาลแดนผู้ดีได้ออกกฏหมายอนุญาตให้คุณพ่อบ้าน-แม่บ้านสามารถผลิตไบโอดีเซลใช้กับรถยนต์ในครอบครัวได้มากถึง 2,500 ลิตร โดยไม่ต้องเสียภาษีใดๆ

เมื่อไขมันเหลือใช้สามารถเก็บไปแปลงเป็นพลังงานได้ หลายๆ บริษัทก็เริ่มหัวใสทำนเครื่องผลิตไบโอดีเซลออกมาจำหน่ายมากมายหลากหลายค่าย พร้อมแนะวิธีใช้ให้เสร็จสรรพ

ทั้งนี้ เรดิโอโฟร์ (Radio 4) ของสำนักข่าวบีบีซีจึงเสนอบทความแนะนำวิธีการผลิตน้ำมันใช้เองแบบง่ายๆ โดยยกตัวอย่างจากวิศวกรรายหนึ่งมาให้เป็นกรณีศึกษา

แดน เพอร์กิส (Dan Purkis) วิศวกรหนุ่มเมืองผู้ดีที่อาศัยอยู่ในเมืองที่ร่ำรวยน้ำมันเชื้อเพลิงของเกาะอังกฤษอย่างอเบอร์ดีน แต่เขากลับกระตือรือร้นที่จะผลิตไบโอดีเซลไว้ใช้เองกับรถโฟร์วีลของเขา

เพอร์กิสให้คำแนะนำว่า มันไม่ใช่เรื่องยุ่งยากที่จะทำ และไม่ต้องใช้เครื่องไม้เครื่องมือที่พิเศษอะไรเลย ส่วนวัตถุดิบก็ล้วนเป็นของเหลือใช้แทบทั้งสิ้น ทั้งยังมีส่วนช่วยลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมด้วย

"ผมใช้น้ำมันพืชที่ใช้แล้วจากโรงแรมในละแวกใกล้เคียง ที่แต่ละสัปดาห์จะมีน้ำมันพืชเหลือทิ้งประมาณ 50-100 ลิตร ซึ่งโดยปกติแล้วก็จะกลายเป็นสิ่งปนเปื้อนในดิน" เพอร์กิส เผย ซึ่งเขายังประดิษฐ์เครื่องทำไบโอดีเซลใช้เองด้วย แทนที่จะซื้อเครื่องมือสำเร็จรูปจากบริษัทที่ผลิตจำหน่ายในราคาเครื่องละ 700 ปอนด์ (ประมาณ 44,800 บาท)

เริ่มแรกนำน้ำมันพืชเหลือใช้นั้นมาตั้งทิ้งไว้ให้ตะกอนนอนก้น จากนั้นก็กรองเอาน้ำมันที่อยู่เหนือตะกอนประมาณ 70% ซึ่งบริสุทธิ์พอที่จะนำไปใช้กับรถยนต์ได้เลย ส่วนที่เหลืออีก 30% นำมาทำให้ใช้งานได้โดยการเติมเมธานอลและโซเดียมไฮดรอกไซด์หรือโซดาไฟ (NaOH) แล้วให้ความร้อนเพื่อให้สารทำปฏิกิริยากัน ซึ่งจะได้กลีเซอรีน

จากนั้นนำกลีเซอร์รีนไปชะเพื่อแยกให้ไบโอดีเซลออกจากสบู่ โดยใช้น้ำครึ่งหนึ่ง และจะได้เชื้อเพลิงออกมาครึ่งหนึ่ง

เพอร์กิสบอกว่า เมื่อนำไบโอดีเซลที่เขาผลิตเองไปใช้กับรถยนต์ ปรากฏว่าขับเคลื่อนได้ดียิ่งขึ้น ให้ความรู้สึกราบเรียบกว่าใช้น้ำมันหล่อลื่นเสียอีก และยังสามารถปรับเปลี่ยนเครื่องยนต์เพื่อให้รองรับกับน้ำมันไบโอดีเซลได้ด้วย

ทั้งนี้ เขายังบอกด้วยว่า ใครที่สนใจจะทำไบโอดีเซลไว้ใช้เองอย่างเขา ก็สามารถหาข้อมูลและคำแนะนำต่างๆ เกี่ยวกับการผลิตไบโอดีเซลได้ทั้งจากเว็บไซต์และหนังสืออีกมากมาย

อย่างไรก็ดี ผู้เชี่ยวชาญด้านเครื่องยนต์ของเอเอ (AA) ได้ออกมาเตือนว่า การนำไบโอดีเซลจากน้ำมันเหลือใช้มาใช้กับรถยนต์อาจทำให้เครื่องยนต์เสียหายได้ เพราะการเผาไหม้ของไบโอดีเซลนี้จะไม่สมบูรณ์เหมือนอย่างดีเซลหรือเบนซินปกติ ซึ่งจะทำให้เกิดเขม่าตกค้างในเครื่องยนต์ อีกทั้งเครื่องยนต์ดีเซลบางชนิดก็ค่อนบ้างบอบบาง ส่งผลให้เครื่องยนต์สึกหรอเร็วกว่าที่ควรจะเป็น ดังนั้นหากจะใช้ไบโอดีเซลจริงๆก็ควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญของบริษัทผลิตรถยนต์ต้นสังกัด

นอกจากนี้ทางสมาคมผู้ผลิตและจัดจำหน่ายรถยนต์ในอังกฤษยังให้คำแนะนำด้วยว่า หากจะผลิตไบโอดีเซลใช้เองต้องระมัดระวังให้มากเป็นพิเศษ เพราะกระบวนการผลิตอาจก่อให้เกิดสารเคมีที่ไม่พึงประสงค์และจัดการได้ยาก และสำหรับผู้ที่เพิ่งซื้อรถยนต์คันใหม่ก็ต้องแน่ใจด้วยว่าบริษัทที่จัดจำหน่ายหรือบริษัทประกันยินยอมให้ใช้ไบโอดีเซลได้ เพื่อจะได้ไม่เกิดปัญหาภายหลัง
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

 

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>“Hydro –Tech” เสื้อสุดเจ๋ง! ติดฟังก์ชันกันยุง </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>18 ตุลาคม 2550 09:17 น.</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=400 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=400> </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5></TD></TR></TBODY></TABLE> ถึงวันนี้คงต้องยอมรับแล้วว่า หากหวังแค่รับจ้างผลิตเหมือนรอวันปิดกิจการ ตัวอย่างชัดเจนที่สุด ไม่พ้นโรงงานสิ่งทอหลายรายที่ถูกจีนและเวียดนามชิงตลาดไปเกือบหมด ทางรอดจึงต้องเร่งสร้างจุดต่างจากคู่แข่ง อย่างเช่น เสื้อกันยุง “ไฮโดร-เทค” (Hydro –Tech) ซึ่งเชื่อมต่อระหว่างงานวิจัยกับสมุนไพรไทยโบราณ เกิดเป็นนวัตกรรมใหม่ที่มีเอกลักษณ์โดดเด่นเฉพาะตัว


</TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=left border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=300 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=300> </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>“วิศัลย์ วนะศักดิ์ศรีสกุล” กรรมการผู้จัดการ บริษัท คัฟเวอร์แนนท์ จำกัด </TD></TR></TBODY></TABLE></TD><TD width=5></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5></TD></TR></TBODY></TABLE> ผู้อยู่เบื้องหลังผลงานเสื้อกันยุง คือ “วิศัลย์ วนะศักดิ์ศรีสกุล” กรรมการผู้จัดการ บริษัท คัฟเวอร์แนนท์ จำกัด ซึ่งจบการศึกษาจากคณะพาณิชย์ศาสตร์และการบัญชี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย แต่เลือกทำธุรกิจสิ่งทอมาตลอด โดยเปิดโรงงานผลิตและวิจัยพัฒนาสิ่งทอ รับจ้างผลิตผ้าให้แก่เสื้อผ้าแบรนด์เนมหลายราย เช่น U2 , G2000 เป็นต้น แต่หลังจากเปิดเสรีการค้า ถ้าอยู่ในตลาดรับจ้างผลิตอย่างเดียว นับวันจะถูกจีนชิงตลาดไป ในฐานะผู้บริหารต้องเร่งปรับตัวหาทางรอดในระยะยาว

ดังนั้น หันมาทำแบรนด์ของตัวเอง ในชื่อ “ไฮโดร-เทค” ผลิตเสื้อที่ตัดเย็บด้วยผ้าเทคโนโลยีสมัยใหม่ ด้วยคุณสมบัติ 5 ประกาย ได้แก่ ป้องกันรังสี UV ระบายอากาศได้ดี ดูดซึมเหงื่อเร็ว เย็นสบายขณะสวมใส่ และแห้งเร็ว

นอกจากนั้น เสื้อจะมีฟังก์ชั่นพิเศษเฉพาะตัว โดยนวัตกรรมล่าสุด คือ เสื้อกันยุงสมุนไพรไทย สามารถป้องกันและขับไล่ยุงไม่ให้กัดผู้สวมใส่ได้

วิศัลย์ เล่าแรงบันดาลใจเกิดจากลูกสาวถูกยุงกัด จึงอยากให้มีเสื้อที่ใส่แล้วป้องกันได้ เมื่อสำรวจดูสินค้าในตลาดโลกจากผู้ผลิตอย่างอเมริกา หรือจีน จะเป็นการชุบน้ำยาฆ่าแมลงลงในเนื้อผ้า ซึ่งล้วนแต่เป็นสารก่อมะเร็ง ขณะที่สมุนไพรไทยหลายชนิดมีคุณสมบัติกันยุงได้ดี ซึ่งเป็นภูมิปัญญาสืบทอดมากว่า 100 ปี จึงเกิดไอเดียนำสมุนไพรมาอยู่ในเนื้อผ้า เพื่อตอบสนองลูกค้าได้สมบูรณ์แบบ

“ผลงานนี้ ผมวิจัยร่วมกับสถาบันพัฒนาอุตสาหกรรมสิ่งทอ ใช้เวลากว่า 8 เดือน ด้วยทุนกว่า 1 ล้านบาท กว่าจะประสบความสำเร็จ โดยเชื่อมโยงผู้เชี่ยวชาญ 3 ด้าน ทั้งทางผ้า แมลง และสมุนไพรเข้าด้วยกัน ซึ่งจากการทดสอบของกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ได้ผลวิเคราะห์ว่า สามารถป้องกันยุงได้ถึง 97%” วิศัลย์ อธิบาย

</TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=right border=0><TBODY><TR><TD width=5></TD><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=300 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=300> </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>เสื้อนวัตกรรมกันยุงจากสมุนไพรไทย โดย “ไฮโดร-เทค”</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5></TD></TR></TBODY></TABLE> ทั้งนี้ เสื้อกันยุงเป็นนวัตกรรมโดยใช้กระบวนการแปรรูปสมุนไพรเป็นของเหลว แล้วนำไปฝังลงถึงโครงสร้างเส้นใยผ้า ทำให้มีคุณสมบัติป้องกันยุงติดทนนาน สามารถใช้ได้กับผ้าทุกชนิด โดยจะมีกลิ่นสมุนไพรติดอยู่กับผ้าอ่อนๆ

สำหรับผู้สวมใส่จะได้ประโยชน์จากสมุนไพรซึมเข้าในผิวหนัง อายุใช้งานซักตามปกติกว่า 20 ครั้ง คุณสมบัติกันยุงจะลดลงประมาณ 50% หลังจากนั้น สามารถเติมน้ำยาสมุนไพรที่บริษัทเตรียมจะออกขายเร็วๆนี้ เหมือนการใส่น้ำยาปรับผ้านุ่ม เสื้อจะกลับมามีคุณสมบัติกันยุงได้ดีตามเดิม

นักธุรกิจหนุ่ม เผยว่า สูตรสมุนไพรดังกล่าวจดเป็นสูตรลับทางการค้า ส่วนผสมต่างๆ เป็นความลับไม่สามารถเปิดเผยได้ บอกได้แค่ว่า มีตะไคร้เป็นส่วนประกอบหลัก โดยวางขายผ่านห้างสรรพสินค้า เช่น ห้างเดอะมอลล์ทุกสาขา มีหลายดีไซน์ ทั้งเสื้อยืดคอกลม คอโปโล เสื้อเชื้ต เสื้อแจ็คเก็ต ฯลฯ ราคาตั้งแต่ 380 – 2,500 บาท เริ่มวางขายตั้งแต่เดือนสิงหาคมที่ผ่านมา มียอดขายสาขาละ 1 แสนบาทต่อเดือน

สำหรับกลุ่มลูกค้านั้นเป็นระดับกลางบนขึ้นไป เช่น คนวัยทำงานที่ใส่ใจคุณภาพชีวิต องค์กรต่างๆ สั่งให้พนักงานสวมใส่เวลาไปงานสัมมนาต่างจังหวัด รวมถึง สั่งเป็นสินค้าพรีเมียมแจกให้ลูกค้า และล่าสุด กลุ่มลูกค้าที่กำลังมาแรง คือ ทำเป็นชุดผ้าไตรจีวร ให้พุทธศาสนิกชนซื้อไปถวายพระสงฆ์ที่ออกธุดงค์ตามป่าเขา ซึ่งจำเป็นต้องใช้อย่างสูง ขายราคา 1,800 บาทต่อชุด เวลานี้มีคำสั่งซื้อแล้วกว่าหมื่นชุด

</TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=300 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=300> </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>จีวรกันชุด นิยมที่กำลังมาแรง</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5></TD></TR></TBODY></TABLE> วิศัลย์ เล่าต่อว่า โรงงานมีพนักงาน 120 คน ผลิตเสื้อได้ประมาณ 30,000 ตัวต่อเดือน โดยก้าวต่อไปของเสื้อแบรนด์ “ไฮโดร-เทค” ยังเน้นพัฒนาฟังก์ชันของเสื้อเป็นจุดขาย ต่างกับผู้ผลิตรายอื่นที่แข่งขันกับเรื่องแฟชั่น และราคา ทำให้สินค้ามีความแตกต่างจากท้องตลาด เป็นทางเลือกใหม่ที่มากกว่าเสื้อธรรมดา โดยเตรียมทยอยออกสินค้าฟังก์ชั่นใหม่ต่อเนื่องทุก 1-2 เดือน เช่น เสื้อเลิกบุหรี่ ต้นปีหน้า (2551) มีคุณสมบัติเคลือบสารนิโคติส ลงเส้นใยผ้า ช่วยผู้สวมใส่ทุเลาอาการอยากสูบบุหรี่ จนเลิกได้ในที่สุด มีลูกค้าเป้าที่โรงพยาบาลต่างๆ เป็นต้น

“ผมอยากให้เราเป็นทางเลือกที่มากกว่าเสื้อธรรมดา ซึ่งนวัตกรรมและเทคนิคเกี่ยวกับสิ่งทอมีมากมายไม่รู้จบ สามารถประยุกต์ให้เหมาะสมกับความต้องการของตลาด เช่น เสื้อที่สวมใส่สบายช่วยแก้ปัญหาโลกร้อน หรือเสื้อที่ดูแลคุณภาพชีวิต ซึ่งการวิจัยและพัฒนาจะช่วยให้เอสเอ็มอีไทยสามารถปรับตัวต่อสู้กับคู่แข่งต่างชาติได้” วิศัลย์ ระบุทิ้งท้าย

* * * * * * *

โทร.02-840-5710-2 หรือ www.hydro-tech.co.th</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

 

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>ตั้งเป้าอีก 3 ปีมีไบโอดีเซลจากสาหร่ายใช้ </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>29 สิงหาคม 2550 08:26 น.</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>
<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=bottom align=right width=1 height=1></TD><TD vAlign=bottom align=middle background=/images/linedot_hori.gif height=1></TD><TD vAlign=bottom align=left width=1 height=1></TD></TR><TR><TD vAlign=center align=middle width=1 background=/images/linedot_vert.gif></TD><TD><TABLE cellSpacing=5 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE></TD><TD vAlign=center align=middle width=1 background=/images/linedot_vert.gif></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=right width=1 height=1></TD><TD vAlign=top align=middle background=/images/linedot_hori.gif height=1></TD><TD vAlign=top align=left width=1 height=1></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=middle>แม้ว่าสาหร่ายจะสร้างปัญหาสิ่งแวดล้อมในหลายพื้นหากมีปริมาณมากเกิน แต่นักวิจัยก็เล็งเห็นศักยภาพเป็นแหล่งน้ำมันสำหรับผลิตไบโอดีเซลทดแทนปิโตรเลียม </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=bottom align=left height=12></TD></TR><TR><TD bgColor=#cccccc><TABLE cellSpacing=1 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle bgColor=#ffffff><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=160><TABLE cellSpacing=4 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=middle>คลิกที่ภาพเพื่อดูขนาดใหญ่ขึ้น</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR><TR><TD vAlign=baseline align=middle>รศ.ดร.ประหยัด โภคฐิติยุกต์ </TD></TR></TBODY></TABLE>
<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR><TR><TD vAlign=baseline align=middle>สาหร่ายบางชนิดให้น้ำมันมากกว่าสบู่ดำหรือปาล์มน้ำมันหลายเท่า (ภาพจาก en.wikipedia.org)</TD></TR></TBODY></TABLE>
<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle width=165 height=1></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD><TD width=4 background=/images/linedot_vert3.gif></TD><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=7 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>นักวิจัยมหิดลศึกษาการผลิตไบโอดีเซลจากสาหร่าย หวังนำมาใช้ทดแทนปิโตรเลียมที่กำลังจะหมดจากโลก เผยหากผลิตได้จะคุ้มทุนอย่างมาก และยังส่งขายต่างประเทศได้ด้วย เพราะใช้พื้นที่น้อยแต่ให้ผลผลิตมาก ทั้งยังช่วยลดก๊าซเรือนกระจกในบรรยากาศได้อีกด้วย

ไบโอดีเซลกำลังเป็นที่ต้องการในฐานะพลังงานทดแทนเชื้อเพลิงจากฟอสซิลที่กำลังจะหมดไป นักวิทยาศาสตร์ส่วนใหญ่ต่างก็มุ่งความสนใจไปที่พืชพลังงาน ขณะที่นักวิจัยส่วนหนึ่งเล็งเห็นน้ำมันมากมายในสาหร่าย สิ่งมีชีวิตขนาดเล็กเซลล์เดียวที่สามารถให้น้ำมันมหาศาลได้เมื่อเพาะเลี้ยงในพื้นที่และระยะเวลาเท่ากับพืชน้ำมันอื่นๆ

“นักวิจัยส่วนใหญ่มักจะมุ่งไปที่พืชน้ำมันต่างๆ โดยเฉพาะปาล์มและสบู่ดำ ขณะที่สาหร่ายก็มีน้ำมันเช่นกันแต่ยังไม่ค่อยมีใครสนใจ ซึ่งบางชนิดให้น้ำมันสูงถึง 50% ของเซลล์เลยทีเดียว” รศ.ดร.ประหยัด โภคฐิติยุกต์ อาจารย์และนักวิจัย ภาควิชาชีววิทยา คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล ชี้แจง

รศ.ดร.ประหยัด อธิบายว่า สภาพแวดล้อมในประเทศไทยเหมาะแก่การเพาะเลี้ยงสาหร่ายอย่างยิ่ง สาหร่ายใช้เวลาเลี้ยงเพียง 24 ชั่วโมง ก็โตแล้ว ขณะที่พืชพลังงานต้องใช้เวลาเพาะปลูกนานถึง 6-7 ปี ถึงจะให้น้ำมันได้
หากเลี้ยงสาหร่ายในบ่อพื้นที่ขนาดเท่ากับพื้นที่ปลูกสบู่ดำ 1 ต้น เป็นเวลา 7 ปี สบู่ดำจะให้น้ำมัน 25% แต่จะได้น้ำมันจากสาหร่ายมากถึง 1,000% และอาจเพียงพอกระทั่งผลิตส่งออกต่างประเทศได้

ทั้งนี้ รศ.ดร.ประหยัด อยู่ระหว่างศึกษาการเพาะเลี้ยงและสกัดน้ำมันจากสาหร่าย โดยได้รับทุนสนับสนุนจากบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) เพื่อผลิตไบโอดีเซลจากสาหร่ายเป็นพลังงานทดแทนน้ำมันปิโตรเลียมที่เหลือพอใช้ได้อีกไม่กี่สิบปี

“สาหร่ายที่นำมาศึกษาเป็นสาหร่ายสีเขียว 3 ชนิด ซึ่งให้น้ำมันประมาณ 20-30% ขณะที่สาหร่ายทั่วไปจะให้น้ำมันเฉลี่ยราว 7-14% และสาหร่ายที่โตเร็วก็มักจะให้น้ำมันน้อยกว่าสาหร่ายที่โตช้ากว่า ซึ่งขณะนี้ยังอยู่ในช่วงเริ่มต้นของการวิจัย ได้เพาะเลี้ยงสาหร่ายในห้องทดลองอยู่เพื่อหาสภาวะที่เหมาะสมสำหรับเพาะเลี้ยงให้สาหร่ายโตเร็วพร้อมทั้งให้น้ำมันมาก แล้วจึงขยายลงสู่บ่อเพาะเลี้ยงต่อไป"

"คาดว่าน่าจะผลิตไบโอดีเซลจากสาหร่ายและนำมาใช้ประโยชน์ได้จริงในอีก 2-3 ปีข้างหน้า” รศ.ดร.ประหยัด กล่าวถึงงานวิจัยของเขา และบอกด้วยว่าในสหรัฐฯสามารถผลิตไบโอดีเซลจากสาหร่ายและใช้กับเครื่องยนต์ได้แล้ว แต่ยังไม่ได้ผลิตเชิงพาณิชย์

นอกจากนี้ รศ.ดร.ประหยัด ยังตั้งเป้าขยายงานวิจัยเพาะเลี้ยงสาหร่ายเพื่อผลิตไบโอดีเซล ในขณะเดียวกันก็จะใช้สาหร่ายเหล่านี้บรรเทาภาวะโลกร้อนด้วย โดยใช้เป็นตัวกำจัดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ในอากาศ

“สาหร่ายต้องการก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์เพื่อใช้ในการสังเคราะห์แสงอยู่แล้ว เมื่อเราต้องเพาะเลี้ยงสาหร่ายจำนวนมาก ก็ต้องการก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ให้สาหร่ายปริมาณมากด้วยเช่นกัน อาจดักก๊าซจากโรงงานอุตสาหกรรมมาใช้ ซึ่งเป็นวิธีลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสู่บรรยากาศที่มีประสิทธิภาพเช่นกัน” รศ.ดร.ประหยัด อธิบายในตอนท้าย</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

 

เหตุที่นำข้อมูลที่ไม่เกี่ยวข้องกับกระทู้แต่ได้ยินว่าจะมีการจัดบอร์ดประเภทนี้
น่าจะเป็นพื้นฐานให้ผู้ไม่มีความรู้ด้านนี้ได้แง่คิดและมุมมองใหม่ๆบ้างไม่มากก็น้อย ถ้าข้อมูลผิดพลาดประการใดข้าพเจ้าก็ไม่ทราบได้น่ะ

(b-uh) ไม่รู้จิงๆๆๆ(b-uh)

ส่วนน้องยุงน่ะเรื่องปกติที่ต้องเจอที่สถานปฏิบัติธรรม เผื่อท่านใดชอบลองจะได้มีของตัวอย่างพิสูจน์ หรือจะใช้วิธีหลวงพ่อก็ประหยัดที่ซู๊ด

งาน "พระธาตุ" ของพวกเรา พลังจิตพิชิตภัยพิบัติ
http://palungjit.org/showthread.php?t=79786

 

<TABLE cellSpacing=3 cellPadding=1 width="95%" align=left border=0><TBODY><TR><TD style="WHITE-SPACE: nowrap" vAlign=top align=left width="1%"> WebSnow: </TD><TD align=left width="100%">aonlin: รำคาญ ad ที่ขึ้นด้านข้างจังค่ะ === พอดี ทางเราประกาศช้าไปหน่อยเรือ่งกฐิน ส่วน banner จะปิดเองใน 30 วินาที </TD></TR></TBODY></TABLE>