กระแส"พญานาค"กับข้อเท็จจริงบางอย่าง(มีคลิป) คนที่ไม่เชื่อควรดูด้วยดุลพินิจ

(ปักหมุด50) หน้า73ลำดับที่ #1451



(โพสต์โดย บรุษไร้เงา(อจ.นพ)

เรื่อง เกี่ยวกับการห้อยวัตถุมงคล
การสวดมนต์ภาวนา
ล้วนเป็นอุบายในการเป็นเครื่อง
เชื่อมโยงเข้าถึงต้นพลังงาน
ที่ระลึกถึงอยู่แล้วปกติ

ส่วนตัวไม่ห้อยเมื่อก่อน เข้าใจเอาเอง
ว่าถ้าไม่ได้มีเจตนาไม่ดี ยังไงผีก็ไม่หลอก
เข้าใจไปเองว่าผีมีเหตุผล
และไม่เคยโดนผีหลอกเลย
เพราะแม้เค้าจะมาให้เจอ
ก็ไม่ได้มีกะแสที่จะส่งมาให้เรากลัว
แต่เรื่องตกใจมีบ้าง
เป็นปกติแล้วแต่สถานะการณ์
แต่ถ้ามาสภาพไม่สมบูรณ์
หน้าหายไปแถบ ตัวดำๆ
หรือหน้าดีๆส่วนตัวจะเฉยๆ
เพราะเข้าใจได้ว่าเป็นอุบัติเหตุ
เป็นเรื่องไม่ตั้งใจ อะไรทำนองนี้

เด่วมีนิทานมาโม้ให้ฟังเรื่องหนึ่ง
อย่างเคยไปได้ช่วยดู
เคสหนึ่งคดีดัง กับทนายดังหลายปีแล้ว
ที่อีกฝ่ายพยายามให้ดูเป็นคดีฆ่าตัวตาย
(จริงๆข้างทนายคนนั้นมีน้องรู้จักกันดี
ที่มีความสามารถภายในแบบสากล
เป็นพวกตาดี เครื่องรู้ดีช่วยงานอยู่แล้ว
ณ เวลานั้น).

เรื่อง คืออีกฝ่ายไปจ้างหมอผี
มาผูกหรือสกดดวงวิญญาณไว้
(ฟังหูไว้หู)
เหตุเพราะ เด็กผู้เสียชีวิต
ไปเข้าฝันคนโน้นคนนี้
ทำให้สามารถหาหลักฐานเพิ่มเติม
และอาจพลิกคดีได้นั่นเอง

คือตอนที่เด็กมาให้เห็นนี่หละ
มันจะมีระยะห่างซัก๓ ถึง ๔ เมตร
เนื่องจากเค้ามาได้ตามสภาพ
จึงแลดูน่ากลัวเล็กน้อย
นึกสภาพตามเนาะ ถูกจับทิ้งน้ำ
แล้วดวงวิญญาณยังถูกหมอผีมัด
ฝั่งอยู่ในน้ำอีก เวลามาหาเรา
ก็ยังหันซ้ายหันขวา คล้ายๆระแวง
จะถูกทำร้ายประมานนี้
จบนิทาน

แต่เรื่องทางโลกเราจะว่ากันด้วยหลักฐานพยานนะ ไม่ใช่เชื่อแบบนี้ หรือใช้เรื่องนี้
เป็นเกณฑ์. แต่ก็มักเห็นพวกสายปราบปราบ
ชอบไปถามพระเกจิว่า
ใครเป็นคนทำ คนขโมย เป็นประจำ ๕๕๕

ถ้าจะกลัว
จะกลัวคนกรณีกลางคืน
กลัวสัตว์มีพิษที่ออกหากินปกติกลางคืนมากกว่า เพราะเค้าไม่ได้เจตนาทำเรา
แต่จะป้องกันตัวเอง ถ้าเราเผลอไปคุกคามเค้าโดยไม่ได้ครั้งใจ
หรือเวลาไปที่เปลี่ยวๆ ที่ไม่คุ้นเคย
เดินทางคนเดียว. หรือไปนั่งชิวๆ
ในบริเวนที่มี คนชอบอวดบารมีหาเรื่องกัน
เพราะอาจโดนลูกหลง ข้อหาจำผิดคนได้ ทำนองนี้. เป็นที่มาของความจำเป็น
ที่บางคนต้องมีเครื่องมือไว้ป้องกัน
ชีวิตและทรัพย์สินนั่นแล

(โพสต์โดย บรุษไร้เงา(อจ.นพ)



***************************************
(ปักหมุด51) หน้า74ลำดับที่ #1464

เรื่อง รักๆ...รักกันไว้เถิดเพื่อต้อนรับปีใหม่2568
(จากปัญหาหัวใจของmaxmi ↑
"ช่วงนี้กำลังมีความรักเลยไม่ได้เข้ามา
กำลังดูอยู่ว่าเป็นเนื้อคู่ป่าว ความรักบังตา มารัก
หรือมาหลอก ทำไงดีนะไม่เคยมีแฟน ดูไม่ออก

ผมกลับมาถึง...
รีบเข้ามาทำภาระกิจอันเร่งด่วนนี้ก่อน

คือตอบเรื่องที่ตนเองเคยถนัด 555
สำหรับ*Max*โดยเฉพาะ
ความรักทำให้คนตาบอด
บางครั้งเหมือนเส้นผมบังภูเขา
หล่อนยืนอยู่ใกล้ๆ...เรากลับมองไม่ชัด
ทำไมเข้าใจหล่อนยากจิงๆ
นานๆเข้ากลับกลายเป็นหลอน
"...มารัก หรือ มาหลอก ทำไงดีนะ
ไม่เคยมีแฟน ดูไม่ออก..."

ใจเย็นๆ...ใช้ความใกล้ชิด...พิชิตหัวใจหล่อน
ค่อยๆศึกษาดูใจซึ่งกันและกัน

ถ้าเราไม่หล่อ ไม่สวย...ไม่รวย
หล่อนปิ้งเรา...แสดงว่าตรงสเป็กหล่อน
หล่อนอาจจะชอบ*Max*ในสิ่งที่คนอื่นไม่มี
สาวๆเช่นกัน...ถ้าเจอเคสนี้
...ก็ปลอดภัยไปกว่าครึ่ง

ใช้เวลาคบหาไปนานๆหน่อย
อย่ารีบด่วนทำอะไรโดย...
...พละการ และพละกำลัง(ในมุมมืด)
...อันอาจทำให้หล่อนตกใจ

*ไม่ต้องเร่งด่วน*
ทางด่วนมี..แต่บางครั้งเราก็ไม่จำเป็นต้องใช้มัน

...เพราะเนื้อคู่คือเรื่องสำคัญของชีวิต
ถ้าเป็นเนื้อคู่จริง...
พรหมลิขิตจะดลบันดาลให้สมหวัง

เคยฟังเพลงพรหมลิขิต...หรือไม่
...ถ้า 9 อยู่ใกล้ๆ..จะร้องสดๆให้ฟัง

(9@Phonlee 28 กันบายน 2518)


***************************************************************

(ปักหมุด52) หน้า74ลำดับที่ #1475


เรื่อง เช้านี้นำธรรมะง่ายๆของอาจารย์เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์
มาให้อ่านเพื่อต้อนรับปีมะเส็ง2568 อาจช่วยแก้เซ็งได้

เพราะชอบๆจึงเลือกบางตอนมาลงไว้ดังนี้

“คนเราเกิดมามีการสั่งสมสันดานจนเป็นคนนั้นๆ เช่น เกิดมาก็มีสันดานของตัวเอง ซึ่งทุกคนล้วนมีสันดานและตายไปกับสันดานนั้น ถือว่าไม่บรรลุธรรม เพราะไม่มีเปลี่ยนแปลงและไม่มีธรรมในใจ”

เฉลิมชัยกล่าวพร้อมอธิบายเสริมว่า แม้จะนั่งสวดมนต์ นั่งหลับตา รู้แต่บทสวด บทท่อง หลับตา แต่ไม่รู้จักคำว่า “ปัญญา”ก็หลุดพ้นทุกข์ ไม่ได้ ดังนั้นเราจึงต้องย่อสิ่งที่พระพุทธเจ้าพูดให้น้อยที่สุด และปฏิบัติหรือทำแต่สิ่งดี สร้างการเปลี่ยนแปลงให้มากที่สุดแทน การบรรลุธรรม คือ การที่เราต้องรู้การเปลี่ยนแปลงตัวเรา รู้ธรรมชาติในใจ พัฒนาปัญญา กำหนดรู้สติ นั่นคือการมีธรรมในใจ

มนุษย์เรานั้นมีสันดาน 2 อย่าง ได้แก่
สิ่งที่ดีที่สุดในภพชาติ
และสิ่งที่ไม่ดีที่ติดตัวมา
แต่จะทำอย่างให้สิ่งที่ไม่ดีหลุดไป



สวัสดีปีใหม่ 2568 ขอให้ทุกท่านมีความสุข
และโชคดีได้พบเห็นแต่เรื่องดีๆในชีวิต

 

สาธุครับท่าน9

 

นายกฯ อิ๊งค์ นุ่งผ้าถุง เปิดงานบั้งไฟพญานาค บอกเป็นครั้งแรกที่มา ชมจัดได้ยิ่งใหญ่
นายกฯ แพทองธาร ยกคณะบุกหนองคายเปิดงานบั้งไฟพญานาค นางรำออกปากชม “น่าฮักมาก” ทักทายนางรำเด็ก บอกอยากซื้อไปใส่ให้ลูก ยกงาน “บุญบั้งไฟ” สร้างโอกาสชาวอีสาน ระบุซอฟต์พาวเวอร์ต้องสร้างและนำเสนอให้คนหลงใหล ก่อนอัญเชิญพานพญานาคบวงสรวง

วันที่ 17 ตุลาคม 2567 เมื่อเวลา 14.45 น. ที่ท่าอากาศยานทหาร 2 กองบิน 6 (บน.6) ดอนเมือง กรุงเทพฯ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี พร้อมด้วย น.ส.จิราพร สินธุไพร รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายณณัฏฐ์ หงษ์ชูเวช รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ออกเดินทางจากไปยังท่าอากาศยานทหารกองบิน 23 ต.หมากแข้ง อ.เมืองอุดรธานี จ.อุดรธานี ก่อนจะเดินทางต่อไปยังลานนาคาเบิกฟ้า อ.โพนพิสัย จ.หนองคาย เพื่อเป็นประธานในพิธีบวงสรวงบูชาพญาพิสัยสัตนาคราช เนื่องในงานประเพณีออกพรรษา และบั้งไฟพญานาคโลก ประจำปี 2567 ซึ่งถือเป็นซอฟต์พาวเวอร์ ด้านศิลปวัฒนธรรมของ
ประเทศไทย จากนั้นเวลา 16.00 น. น.ส.แพทองธาร เดินทางถึงท่าอากาศยานทหารกองบิน 23 ต.หมากแข้ง อ.เมืองอุดรธานี จ.อุดรธานี โดยน.ส.สุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รมว.วัฒนธรรม นายวันชัย คงเกษม ผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานีและหน่วยงานต่างๆ รอให้การต้อนรับ เมื่อเดินทางถึงนายกฯ ได้เปลี่ยนสวมใส่ผ้าถุงสีเงิน ซึ่งมีลวดลายจากบ้านโพน อ.คำม่วง จ.กาฬสินธุ์ และคาดผ้าสไบมัดหมี่ทอด้วยมือ สีส้มอิฐหรือสีน้ำตาลอิฐ ซึ่งเป็นสีอัตลักษณ์ของหนองคาย (เป็นสีตะกอนของแม่น้ำโขง) จ.หนองคาย ลายนาคใหญ่ (พญานาค 7 เศียร) ซึ่งมีความหมายถึงความยิ่งใหญ่ ความอุดมสมบูรณ์ โดยลายผ้าเป็นเอกลักษณ์ประจำจังหวัด ที่ได้แรงบันดาลใจจากความเชื่อและคติความผูกพันกับพญานาค ซึ่งเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่คอยปกปักรักษาแม่น้ำโขง ซึ่งชาวหนองคายเชื่อว่า พญานาคสามารถดลบันดาลความสุข ความสำเร็จ และความเจริญให้กับผู้ศรัทธา



จากนั้นน.ส.แพทองธาร น.ส.สุดาวรรณ น.ส.จิราพร เดินทางด้วยรถยนต์โตโยต้า อัลพาร์ด สีดำ ทะเบียน กล 5558 อุดรธานี ถึงลานนาคาเบิกฟ้า อ.โพนพิสัย จ.หนองคาย ในเวลา 17.30 น. โดยมีนายสรวงศ์ เทียนทอง รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา น.ส.ชนก จันทาทอง สส.หนองคาย เขต 2 พรรคเพื่อไทย และนายเอกธนัช อินทร์รอด สส.หนองคาย เขต 3 พรรคเพื่อไทย รอต้อนรับ พร้อมทั้งมีคนเสื้อแดงมารอมอบช่อดอกกุหลาบให้นายกฯ ก่อนจะเดินทักทายประชาชนและถ่ายรูปเซลฟี่กับประชาชนที่มาร่วมงานอย่างคึกคักและเป็นกันเอง นอกจากนี้ นายกฯ ยังเดินทักทายและถ่ายรูปร่วมกับนางรำจำนวน 1,000 คน ที่มารำบวงสรวงในพิธี ซึ่งตลอดเส้นทางนางรำต่างพูดชมนายกฯ ว่า “น่าฮักมาก” และ “สวยมาก” นอกจากนี้นายกฯ ยังได้ทักทายนางรำที่เป็นเด็ก พร้อมสอบถามว่า “อายุเท่าไหร่ สวมชุดนางรำน่ารักมาก อยากซื้อไปให้ลูกใส่”



จากนั้นนายกฯ กล่าวเปิดงานตอนหนึ่งว่า สวัสดีพี่น้องชาวหนองคายทุกท่านและทุกๆ คนที่อยู่ในที่นี้ และสวัสดีรัฐมนตรี สส. สื่อมวลชน ประชาชนที่รักทุกท่าน วันนี้รู้สึกเป็นเกียรติอย่างมากที่ได้มางานบุญบั้งไฟ ถือเป็นครั้งแรกของตัวดิฉัน ฉะนั้นขอเสียงตบมือดังๆ ให้งานนี้ ซึ่งถือเป็นงานที่ยิ่งใหญ่ของชาวอีสานและทีมงานซอฟต์พาวเวอร์ที่จะผลักดันเทศกาลต่างๆ และรู้สึกว่างานนี้เป็นงานที่จะสร้างโอกาสให้กับพี่น้องชาวอีสานได้มาก เพราะเป็นงานที่ยิ่งใหญ่สวยงาม และเป็นงานที่มีความเชื่อของคนอีสานอยู่มาก ตั้งแต่นานมากแล้ว รู้สึกมีเรื่องเล่าประวัติศาสตร์ และสามารถที่จะใส่ความคิดสร้างสรรค์หรือเทคโนโลยีต่างๆ เข้าไป เพื่อที่ทำให้คนทั่วโลกได้เห็น และสัมผัสสิ่งที่ชาวอีสานได้ทำกันมาต่อเนื่อง อันนี้เป็นสิ่งที่รัฐบาลพร้อมที่จะผลักดัน ซึ่งในกระบวนการต่างๆ ได้เริ่มทำแล้วฉะนั้นการที่มีเทศกาลดีๆ แบบนี้ที่อีสานเราจะผลักดัน เพราะไม่ใช่แค่เทศกาลนี้ยังมีเทศกาลอื่นๆ อีกมากมายไม่ว่าจะเป็นแห่เทียนพรรษา ไหลเรือไฟและอีกหลายเทศกาลที่มีเสน่ห์มาก

นายกฯ กล่าวต่อว่า ฉะนั้นซอฟต์พาวเวอร์เป็นสิ่งที่เราต้องสร้างเสน่ห์ มีเสน่ห์อะไรให้คนเข้ามาหลงใหล หรือเข้ามาหาเรา และนี่คือหนึ่งในเทศกาลที่จะทำให้เศรษฐกิจของพื้นที่หมุนเวียน ถ้าดูชาวต่างชาติทั้งโลกรู้จักเทศกาลนี้ของอีสาน คนอีสานต้องรวยแน่ๆ ใช่หรือเปล่า ฉะนั้นอยากจะบอกว่าวันนี้มาให้กำลังใจทุกท่าน เดี๋ยวเราจะพัฒนาในสิ่งที่ชาวอีสานมีอยู่แล้ว ให้เป็นสมบัติของชาวอีสานให้ดียิ่งขึ้นเป็นที่รู้จักมากขึ้น และต้องสวัสดีทุกท่านดีใจมากๆ ที่ได้มาจ.หนองคายในวันนี้



จากนั้นนายกฯ เป็นประธานในพิธีเจริญพระพุทธมนต์ จุดธูปเทียนเพื่อบูชาพระรัตนตรัย และเป็นประธานถวายจตุปัจจัย แด่พระสงฆ์จำนวน 9 รูปก่อนที่นายกฯ จะเป็นประธานในพิธีบวงสรวงบูชาพญาพิสัยสัตนาคราช เนื่องในงานประเพณีออกพรรษา และพิธีเปิดงานบั้งไฟพญานาคโลก ประจำปี 2567
ต่อมานายกฯ เป็นประธานในพิธีบวงสรวงวันเปิดโลก บูชาพระพุทธเจ้าและบูชาพญานาค โดยนายกฯ และรัฐมนตรีผู้หญิง รวมถึง น.ส.แอนโทเนีย โพซิ้ว รองอันดับ 1 มิสยูนิเวิร์ส 2023 อัญเชิญพานพญานาคบวงสรวง และพราหมณ์กล่าวคาถาบูชาเริ่มพิธีบวงสรวง ก่อนที่นายกฯ และรัฐมนตรี จะโปรยเครื่องดอกไม้ เพื่อบวงสรวงวันเปิดโลกบูชาพระพุทธเจ้าและบูชาพญานาค และชมรำบวงสรวงพญาพิสัยสัตนาคราช และเหล่าพญานาคที่สถิตอยู่ลุ่มแม่น้ำโขง ทั้งนี้ ภายหลังเสร็จสิ้นพิธีนายกฯ เดินทางกลับกรุงเทพฯ



(แหล่งที่มา https://www.thairath.co.th/news/)