“เมตตาอยู่ที่ปาก คงกระพันอยู่ที่ใจ”

ในห้อง 'ประสบการณ์ เรื่องเล่า' ตั้งกระทู้โดย vacharaphol, 17 สิงหาคม 2009.

  1. vacharaphol

    vacharaphol เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    8,849
    ค่าพลัง:
    +27,174
    [​IMG]


    [​IMG]


    [​IMG][​IMG][​IMG]

    <SCRIPT type=text/javascript>var id='24392';function count(){$.ajax({ type: "POST", url: "http://www.komchadluek.net/counter_news.php", data: "newsid="+id, success: function(txt){ var counter_=parseInt(txt); $('#counters').html('จำนวนคนอ่าน '+counter_+' คน'); } });} featuredcontentslider.init({ id: "slider1", contentsource: ["inline", ""], toc: "markup", nextprev: ["Previous", "Next"], revealtype: "click", enablefade: [true, 0.1], autorotate: [true, 8000], onChange: function(previndex, curindex){ }})</SCRIPT>คมชัดลึก : การจัดงานประกวดพระของกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค ๗ ในวันอาทิตย์ที่ ๒๓ สิงหาคม ๒๕๕๒ ณ หอประชุมชุณหะวัณ โรงเรียนนายร้อยตำรวจ อ.สามพราน จ.นครปฐม ตั้งแต่เวลา ๐๘.๓๐ - ๑๖.๓๐ น. ที่จะถึงนี้เป็นปีที่ ๖ โดยมีการริเริ่มตั้งแต่สมัย พล.ต.ท.ชัยยันต์ มะกล่ำทอง เป็น ผบช.ภ.๗ ต่อเนื่องมาถึงสมัย พล.ต.ท.พิชิต ควรเดชะคุปต์,
    <SCRIPT type=text/javascript><!--google_ad_client = "pub-1044823792492543";/* Kom-newdesign338x280story */google_ad_slot = "7614892621";google_ad_width = 336;google_ad_height = 280;//--></SCRIPT><SCRIPT type=text/javascript src="http://pagead2.googlesyndication.com/pagead/show_ads.js"></SCRIPT><SCRIPT src="http://pagead2.googlesyndication.com/pagead/expansion_embed.js"></SCRIPT><SCRIPT src="http://googleads.g.doubleclick.net/pagead/test_domain.js"></SCRIPT><SCRIPT src="http://pagead2.googlesyndication.com/pagead/render_ads.js"></SCRIPT><SCRIPT>google_protectAndRun("render_ads.js::google_render_ad", google_handleError, google_render_ad);</SCRIPT>

    พล.ต.ท.ฉลอง สนใจ, พล.ต.ท. วรพงษ์ ชิวปรีชา และ พล.ต.ท.ถวิล สุรเชษฐ หัวแรงใหญ่การประสานงานนอกจากเซียนพระสายนครปฐมและท่าพระจันทร์แล้ว ยังมีอีกท่านหนึ่งที่ช่วยเหลือและสนับสนุนการจัดงานมาอย่างต่อเนื่อง คือ “เสี่ยฟลุ๊ค โรงแรมเวล” ซึ่งคนในวงการพระหลายท่านอาจจะไม่รู้เลยว่า เสี่ยฟลุ๊ค โรงแรมเวล มีชื่อนามสกุลจริง คือ “นายเอกพันธ์ คุปตวัช” และที่สำคัญคือเขาเป็นนักการเมืองท้องถิ่นอันเป็นที่รู้จักคนของอำเภอเมืองนครปฐมเป็นอย่างดีในฐานะ “รองนายกเทศมนตรีนครนครปฐม” ถึงกระนั้นเองเขาก็อยากให้คนเรียกว่า “เสี่ยฟลุ๊ค โรงแรมเวล” มากกว่า ด้วยเหตุผลที่ว่า “ชื่อเป็นบ้านๆ ดี เข้าหามาพูดคุยได้เสมอโดยไม่ต้องมีพิธีรีตองอะไร”
    “ที่บ้านผมมีใครชอบพระเครื่อง ทั้งพ่อและแม่ไม่ได้เป็นนักสะสมพระเครื่องอะไร พระองค์แรกที่นิมนต์ขึ้นคอ คือ พระหลวงพ่อเงินวัดดอนยายหอมซึ่งเป็นพระที่แม่ให้มา ช่วง อายุ ๑๗-๑๘ ปี เริ่มเดินสนามพระเครื่องนครปฐม โดยเริ่มตั้งแต่หลักร้อยบาท ส่วนใหญ่จะเช่าเครื่องรางมากกว่าพระเครื่อง เพราะเชื่อและศรัทธาในพุทธคุณตามคำลำลือมาว่า เครื่องรางส่วนใหญ่จะเป็นเมตตามหานิยมสำรับผู้พกพา” นี่คือเส้นก่อนเข้าสู่วงการพระเครื่องจากคำบอกเล่าของเสี่ยฟลุ๊ค
    การเข้าสู่วงการพระเครื่องอย่างเต็มตัวนั้น เสี่ยฟลุ๊ค บอกว่า ช่วงเรียนมาหาวิทยาลัยระหว่างนั้นก็ทำงานไปด้วย ทำให้มีเงินมากพอที่จะเช่าพระหลักๆ ที่มีราสูงขึ้น ด้วยเหตุที่เข้ามาสู่วงการพระเครื่องแบบนักเลงบ้านนอกลูกทุ่งๆ คือ ข้ามาคนเดียว ได้ของดีราคาถูกมาก็จำนวนไม่น้อย แต่ที่โดนมานับครั้งไม่ถ้วนด้วยเช่นกัน ช่วงอายุ ๒๐ ปี กว่าๆ เคยโดนหลอกให้เช่าพระหลักแสนหลักล้านอยู่หลายองค์ ที่ถูกสวดยัดก็มีอยู่หลายองค์
    ด้วยเหตุที่เช่าพระเราะเชื่อเพื่อน เช่าเพราะพระเป็นของพรรคพวก รวมทั้งเช่าพระตามคำหนังสือพระ โดนมาหลักล้านบาท ถึงขนาดที่ทำให้เสี่ยฟลุ๊ค เสียความรู้สึกกับคนในวงการพระเครื่อง ทั้งนี้ได้หยุดเล่นพระเครื่องไประยะหนึ่ง และได้ตั้งปณิธานในใจว่า หากจะกลับมาเล่นอีกครั้งหนึ่งต้องเข้าหาคนในวงการพระเครื่องที่รู้จักพระจริงๆ ในที่สุดก็มาเข้าอยู่ในกลุ่ม ๔ เซียนท่าพระจันทร์ คือ อ้วน นครปฐม วัฒน์ บางแค ยี่ บางแค และ หมึก ท่าพระจันทร์
    อย่างไรก็ตามหลังจากได้รู้จักและเข้ามาอยู่ในกลุ่ม ๔ เซียนท่าพระจันทร์ เสี่ยฟลุ๊ค บอกว่า วงการพระเครื่องเป็นสังคมที่มีกฎกติกาและมารยาท อย่างเช่น หากมีพระหลักๆ ซึ่งเป็นพระแท้เข้ามาในสนามท่าพระจันทร์องค์หนึ่ง จะไม่มีการตัดหน้าเพื่อแย่งกันซื้อเหมือนวงการอื่นๆ เข้ามาที่ใครก่อนจะนั้นก็ต่อกันไปเป็นทอดๆ และก็มีข้อสรุป ขณะเดียวเดียวกันถ้ามีการจองหรือบอกขายพระหรือเครื่องรางไปให้ใครแล้ว แม้ว่าจะเป็นสัญญาปากเปล่า แต่ก็ไม่มีการขายให้คนอื่นถึงจะให้ราคาสูงกว่าก็ตาม
    สำหรับพระเครื่องและเครื่องรางที่แขนติดตัวไว้เป็นประจำนั้น เสี่ยฟลุ๊ค บอกว่า จะเน้นหนักไปทางด้านเครื่องรางมากกว่า ด้วยเหตุที่ว่าเครื่องรางแต่ละชิ้นมีเอกลักษณ์เฉพาะชิ้น ที่สำคัญ คือ การทำต้องทำด้วยมือครั้งละชิ้น แต่พระเครื่องส่วนใหญ่เป็นการปั๊มออกมาซึ่ทำได้ครั้งละจำนวนมากๆ นอกจากนี้แล้วการแขวนพระเครื่องไปในสถานที่อโคจรอาจจะทำให้เราเสียความรู้สึกว่า ไม่ควรแขวนพระเข้าไป แต่หากเป็นเครื่องรางความรู้สึกเหล่านี้จะไม่เกิดขึ้น เครื่องรางที่ขาดไม่ได้ เช่น กะลาแกะ หลวงพ่อน้อย วัดศรีษะทอง เบี้ยแก้หลวงปู่บุญ หลวงปู่เพิ่ม วัดกลางบางแก้ว เสือหลวงพ่อปาน วัดมงคลโคธาวาส หรือ วัดบางเฮี้ย สิงห์ หลวงพ่อเดิม วัดหนองพฺ ตะกรุดหลวงพ่อเงิน วัดดอนยายหอม หากทุยวัดหนัง ลูกสะกด วัดอนงค์ ตะกรุดหลวงปู่เอี่ยม วัดสะพานสูง และ แพะ หลวงพ่ออ่ำ เป็นต้น
    ทั้งนี้เมื่อรวมพระเครื่องและเครื่องรางแล้วน่าจะไม่ตากว่า ๕๐ ชิ้น(องค์) และด้วยเหตุที่เป็นคนเกิดวันเสาร์ปีขาล เท่าที่รู้ตามพื้นดวงเป็นคนใจง่าย เชื่อคนง่าย พระเครื่องที่เหมาะกับคนลักษณะนี้ คือ พระหลวงปู่บุญ วัดกลางบางแก้ว จึงได้นิมนต์ พระหลวงปู่บุญ พิมพ์สะดุ้งกลับมาแขวน เพราะเคราะห์ร้ายจะกลายเป็นดี นอกจากนี้ยังมี พระหลวงพ่อเงิน วัดดอนยายหอม หลวงพ่อพูนวัดไผ่ล้อม
    “ผมเชื่อว่าทั้งพระเครื่องและเครื่องรางขอขลังที่ผมทั้งแขวนทั้งพกติดตัวมีพุทธคุณดีคนละด้าน ประเภทที่รักพี่เสียดายน้องก็ไม่ผิดนัก พระเครื่องและเครื่องรางขอขลังแม้ว่าจะขึ้นชื่อว่ามีพุทธคุณด้านเมตตาและคงกระพัน แต่สุดท้ายแล้วต้องคิดว่า เมตตาอยู่ที่ปากคงกระพันอยู่ที่ใจ แขวนพระเมตตาแต่ปากไม่ดีแขวนร้อยองค์ก็เรียบร้อย แขวนพระคงกระพันแต่ใจไม่สู้ใจไม่ดีพระก็ไม่ต่างจากอิฐหรือดินก้อนหนึ่งเท่านั้น” นี่คือเหตุผลการแขวนพระของเสี่ยฟลุ๊ค
    ส่วนประสบการณ์เฉียดตายนั้น เสี่ยฟลุ๊ค เล่าว่า เมื่อ พ.ศ. ๒๕๓๘ หรือมื่อ ๑๔ ปีที่แล้ว เหตุเกิดช่วงแยกเลี้ยวเข้า อ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี ด้วยเหตุที่เป็นคนชอบขับรถเร็วแถมรถก็แรง ด้วยความเร็วไม่ต่ำกว่า ๑๘๐ กม./ชม. อยู่ๆ มีมอเตอร์ไซค์ขับตัดหน้าในระยะกระชั้นชิ้น หักพวงมาลัยหลบมอเตอร์ไซค์พ้น แต่รถไปพุ่งชนกับร้านศาลพระภูมิที่ตั้งวางายอยู่ริมถนน สุดท้ายรถมาหยุดอยู่ที่เสาไฟฟ้า หน่วยกู้ภัยไปถึงต้องมึนงงเพราะสภาพรถพังยับเยินชนิดที่เรียกกว่าว่าอู่ไม่รับซ่อม แต่ตัวเองกลับเปิดประตูออกมายืนดูรถโดยได้รับบาดเจ็บเพียงเล็กน้อย ในครั้งนั้นแขวนพระหลวงพ่อเงินรุ่นแรกที่แม่ให้มาเพียงองค์เดียวเท่านั้น
    จากประสบการณ์โดนมานับครั้งไม่ถ้วน เสี่ยฟลุ๊ค ฝากไว้เป็นข้อคิดสำหรับผู้คิดจะเช่าพระหลักๆ ในราคาสูงๆ ว่า “เหตุที่ผมโดนเพราะผมมีความโลภและความอยากได้เป็นสรณะ ถ้าตราบใดไม่มีความโลภและอยากได้ตัดปัญหาเรื่องโดนทิ้งไปได้เลย ยิ่งเป็นคนกล้าได้กล้าเสียโอกาสโดนก็มีมากขึ้นเป็นเงาตามตัว การจะหาพระดีๆ ในราคาที่สมเหตุสมผลต้องรู้จักรอคอย สิ่งหนึ่งที่เป็นสัจจะธรรมของการเช่าพระ คือ เจ้าของพระอยากขายได้ราคาแพง ในขณะที่คนเช่าอยากได้ราคาถูก หากตัดไม่โลภและความยากได้ออกคำว่าโดนไม่มีแน่นอน ที่สำคัญ คือ เงินแท้พระต้องแท้ยิ่งกว่า
     
  2. BlueBlur

    BlueBlur เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    1,664
    ค่าพลัง:
    +1,570
    “เมตตาอยู่ที่ปาก คงกระพันอยู่ที่ใจ”
     

แชร์หน้านี้

Loading...