"ในหลวง-ราชินี"ทรงเสียพระทัย-ห่วงพสกนิกรน้ำท่วม

ในห้อง 'ข่าวในพระราชสำนัก' ตั้งกระทู้โดย NoOTa, 17 สิงหาคม 2008.

  1. NoOTa

    NoOTa Super Moderator ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มิถุนายน 2005
    โพสต์:
    20,125
    กระทู้เรื่องเด่น:
    349
    ค่าพลัง:
    +64,494
    "ในหลวง-ราชินี"ทรงเสียพระทัย-ห่วงพสกนิกรน้ำท่วม

    [​IMG]


    <STYLE> P { margin: 0px; } </STYLE>
    นับเป็นวันที่ 7 แล้วที่ชาวหนองคายต้องเผชิญสถานการร์น้ำท่วม โดยระดับน้ำในแม่น้ำโขงยังทรงตัวอยู่ที่ 13.53 เมตร โดยที่วัดเทพมงคล บ้านโพนสา ต.โพนสา อ.ท่าบ่อ จ.หนองคาย มูลนิธิเพื่อนพึ่งพา (ภาฯ) ยามยาก และสภากาชาดไทย ศ.นพ.พิชิต สุวรรณปากร รองประธานมูลนิธิเพื่อนพึ่งพา (ภาฯ) ยามยาก นำถุงยังชีพประทาน 500 ถุง มอบให้กับประชาชนชาว ต.โพนสา และที่บ้านหม้อ อ.ศรีเชียงใหม่ 832 ถุง


    ศ.นพ.พิชิตกล่าวว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ และพระบรมวงศานุวงศ์ทุกพระองค์ ทรงเสียพระทัยต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ทรงห่วงใยความยากลำบาก การกินอยู่ สุขอนามัย การประกอบอาชีพ และการคมนาคมของพี่น้องประชาชน รับสั่งว่าให้ทุกคนมีกำลังใจที่ดีต่อสู้อุทกภัยให้ผ่านพ้นไปด้วยดี ให้รักษาสุขภาพ ขอให้กลับไปใช้ชีวิตอย่างปกติสุข ช่วยกันดูแลครอบครัว ดูแลชุมชนและสังคม ทางมูลนิธิมีทรัพยากรจำกัด ช่วยได้ในขอบเขตที่มีความสามารถ โดยถุงยังชีพที่นำมามอบให้ถูกนำมาด้วยความช่วยเหลือของกองทัพเรือ
    =========
    [​IMG]
    http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1218884675&catid=17
     
  2. NoOTa

    NoOTa Super Moderator ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มิถุนายน 2005
    โพสต์:
    20,125
    กระทู้เรื่องเด่น:
    349
    ค่าพลัง:
    +64,494
    "ในหลวง-ราชินี"ทรงเสียพระทัยน้ำท่วม "เอ็นจีโอ"ซัดจีนปล่อยน้ำ3เขื่อนทำท่วมหนัก


    [​IMG]


    ในหลวง-พระราชินีทรงเสียพระทัยน้ำท่วม "โกวิท"ห่วง4จังหวัดเหนือ-อีสาน หลังน้ำโขงล้นตลิ่ง ท่วมลาวหนักสุดรอบ 10 ปีขอบคุณไทยส่งกระสอบทรายช่วยผ่าน"เตช" เอ็นจีโอออกแถลงการณ์อัดจีนปล่อยน้ำจาก3เขื่อนทำท่วมหนัก

    <STYLE> P { margin: 0px; } </STYLE>
    ในหลวง-ราชินี ทรงเสียพระทัยน้ำท่วม


    ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ศ.นพ.พิชิต สุวรรณปากร รองประธานมูลนิธิเพื่อนพึ่งพา (ภาฯ) ยามยาก นำถุงยังชีพประทาน 500 ถุง มอบให้กับประชาชนชาว ต.โพนสา ต.โพนสา อ.ท่าบ่อ จ.หนองคาย และที่บ้านหม้อ อ.ศรีเชียงใหม่ 832 ถุง เนื่องจากสถานการณ์น้ำท่วม จ.หนองคาย เข้าสู่เป็นวันที่ 7 แล้ว ระดับน้ำในแม่น้ำโขงยังทรงตัวอยู่ที่ 13.53 เมตร


    ศ.นพ.พิชิตกล่าวว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ และพระบรมวงศานุวงศ์ทุกพระองค์ ทรงเสียพระทัยต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ทรงห่วงใยความยากลำบาก การกินอยู่ สุขอนามัย การประกอบอาชีพ และการคมนาคมของพี่น้องประชาชน รับสั่งว่าให้ทุกคนมีกำลังใจที่ดีต่อสู้อุทกภัยให้ผ่านพ้นไปด้วยดี ให้รักษาสุขภาพ ขอให้กลับไปใช้ชีวิตอย่างปกติสุข ช่วยกันดูแลครอบครัว ดูแลชุมชนและสังคม ทางมูลนิธิมีทรัพยากรจำกัด ช่วยได้ในขอบเขตที่มีความสามารถ โดยถุงยังชีพที่นำมามอบให้ถูกนำมาด้วยความช่วยเหลือของกองทัพเรือ


    มท.1 ห่วง4จว.เหนือ-อีสานทะลัก


    พล.ต.อ.โกวิท วัฒนะ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงปัญหาอุทกภัยในพื้นที่ภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือว่า ขณะนี้กระทรวงมหาดไทยเข้าไปดูแลให้ความช่วยเหลือเต็มที่ แต่ยังมีพื้นที่ใน 4 จังหวัดที่น่าเป็นห่วง คือ จังหวัดเชียงราย หนองคาย มุกดาหาร นครพนม และในพื้นที่จังหวัดที่ติดริมแม่น้ำโขง เพราะขณะนี้น้ำในแม่น้ำโขงนั้นมีระดับสูงจนล้นตลิ่งและทะลักเข้าท่วมพื้นที่การเกษตรทำให้นาข้าวเสียหาย กระทรวงก็มีงบฯพิเศษเพื่อเข้าช่วยเหลือจัดซื้อเมล็ดพันธุ์ข้าว และเมล็ดพันธุ์พืชต่างๆ ให้เกษตรกรเหล่านั้นอย่างเต็มที่ ทั้งนี้ ในวันที่ 18 สิงหาคม นายประสงค์ โฆษิตานนท์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ได้อาสาลงพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เพื่อตรวจสอบพื้นที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัย


    เชียงรายน้ำลด-นครพนมพัง12อ.


    ส่วนสถานการณ์น้ำท่วมที่ จ.นครพนม ล่าสุดแม้ฝนจะหยุดตกแต่ระดับในแม่น้ำโขงยังสูงขึ้นต่อเนื่อง ขณะนี้อยู่ที่ระดับ 12.65 เมตร เกินจุดวิกฤต 15 เซนติเมตร และทะลักท่วมบ้านเรือนและพื้นที่การเกษตรได้รับความเสียหาย ทางจังหวัดระดมเจ้าหน้าที่นำอุปกรณ์ช่วยเหลือ กระสอบทราย เครื่องสูบน้ำไปทำฝายกั้นและติดตั้งช่วยเหลือชาวบ้านแนวริมฝั่งโขง ในเขต อ.เมือง อ.ท่าอุเทน อ.ศรีสงคราม และ อ.บ้านแพง รวมถึงพื้นที่เสี่ยง ขณะที่นางจุรีรัตน์ เทพอาสน์ หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยนครพนม เปิดเผยว่า จังหวัดประกาศเป็นพื้นที่ประสบปัญหาภัยพิบัติเกิดอุทกภัยที่ต้องให้การช่วยเหลือเร่งด่วน ทั้งหมด 12 อำเภอ 80 ตำบล


    ขณะที่ จ.เชียงราย สถานการณ์แม่น้ำโขงเอ่อท่วมบ้านเรือนสองฟากในพื้นที่ 3 อำเภอ ได้แก่ อ.เชียงแสน เชียงของ และเวียงแก่น ล่าสุดปริมาณน้ำลดลงเข้าสู่ภาวะปกติ เหลือเพียงบริเวณปากแม่น้ำอิงกับปากแม่น้ำกกหรือสบกก ยังมีน้ำท่วมขังอยู่บ้าง ชาวบ้านทั้ง 3 อำเภอส่วนใหญ่พากันเก็บกวาดบ้านและลำเลียงสิ่งของกลับเข้าบ้านแล้ว


    ต่อมานายดิสธร วัชโรทัย ประธานกรรมการบริหารมูลนิธิราชประชานุเคราะห์ในพระบรมราชูปถัมภ์ พร้อมคณะเป็นผู้แทนพระองค์นำถุงยังชีพพระราชทานของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว 2,000 ชุด ไปมอบให้ชาวบ้านผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่ อ.เชียงแสน และ อ.เชียงของ จ.เชียงราย


    ลาวหนักสุดรอบ10ปีเวียงจันทน์มิด


    วันเดียวกัน สำนักข่าวเอพีรายงานโดยอ้างสำนักข่าวเคพีแอลของทางการลาวว่า มีผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 4 ราย จากเหตุน้ำท่วมในหลายพื้นที่ของลาวที่เกิดจากระดับน้ำในแม่น้ำโขงเพิ่มสูงขึ้น โดยนายย้ง จันทะรังษี โฆษกกระทรวงต่างประเทศลาว กล่าวว่า ทั้ง 4 คนที่เสียชีวิตอยู่ในกำแพงนครเวียงจันทน์ เมืองหลวงของลาว


    นายย้งกล่าวว่า ขณะนี้ระดับน้ำเริ่มลดลงจากที่เคยสูงถึง 44.8 ฟุต ซึ่งสูงกว่าระดับสูงที่สุดในอดีตเมื่อปี 2507 ที่ 40.61 ฟุต ทางการลาวได้สั่งให้สร้างกำแพงกระสอบทรายสูง 8 ฟุต เพื่อป้องกันไม่ให้น้ำทะลักเข้าท่วมสถานที่สำคัญในนครเวียงจันทน์ ข่าวระบุด้วยว่า น้ำท่วมทำให้ไฟฟ้าถูกตัดในบางพื้นที่ของหลวงพระบาง เมืองหลวงเก่าและสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมของลาวอีกด้วย นอกจากนี้ เส้นทางระหว่างเวียงจันทน์และหลวงพระบางยังถูกตัดขาดในบางจุด


    ขอบคุณไทยส่งกระสอบทราย 1.6ล้านใบ


    ขณะที่นายเตช บุนนาค รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ซึ่งเดินทางไปเยือนลาว เพื่อแนะนำตัวหลังเข้ารับตำแหน่งอย่างเป็นทางการ ระบุว่า ได้รับการร้องขอจากนายสมสะหวาด เล่งสะหวัด รองนายกรัฐมนตรี สปป.ลาว ให้รัฐบาลไทยช่วยจัดหากระสอบทรายจำนวน 1.6 ล้านใบ เพื่อนำมาใช้เป็นเขื่อนกั้นน้ำจากแม่น้ำโขง ที่เอ่อล้นท่วมเข้านครเวียงจันทน์ ซึ่งถือเป็นเหตุการณ์ไม่เคยเกิดขึ้นนับสิบปี โดยนายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี ได้อนุมัติให้ดำเนินการในทันที ทั้งนี้ ไทยสามารถจัดหากระสอบทรายตามที่ทางการลาวร้องขอได้กว่าล้านใบแล้ว ซึ่งทางการลาวขอบคุณรัฐบาลไทยที่ช่วยเหลือทำให้ได้รับผลกระทบน้อยลง


    ซัดจีนปล่อยน้ำ3เขื่อนทำท่วมหนัก


    ทางด้านเครือข่ายประชาสังคมไทยเพื่อแม่น้ำโขง ประกอบด้วย เครือข่ายอนุรักษ์ ทรัพยากรลุ่มน้ำโขง-ล้านนา กลุ่มรักษ์เชียงของ มูลนิธิฟื้นฟูชีวิตและธรรมชาติ เครือข่ายแม่น้ำ โครงการแม่น้ำเพื่อชีวิต ได้ร่วมกันออกแถลงการณ์ กรณีอุทกภัยแม่น้ำโขงและบทบาทของคณะกรรมาธิการแม่น้ำโขง (เอ็มอาร์ซี) ระบุถึงแถลงการณ์ที่ออกเมื่อวันที่ 15 สิงหาคมที่ผ่านมาว่า อุทกภัยที่เกิดขึ้นมีสาเหตุมาจากพายุเขตร้อนคามูริ ทำให้ปริมาณน้ำเพิ่มขึ้น แต่ข้อมูลที่เอ็มอาร์ซีนำมาอ้างยังไม่ครบถ้วน โดยตั้งข้อสังเกตว่า เอ็มอาร์ซีเป็นตัวแทนของหน่วยงานรัฐบาล 4 ประเทศลุ่มน้ำโขงตอนล่าง ไม่มีหน้าที่แก้ตัวแทนเขื่อนจีน แต่ควรประสานงานกับเครือข่ายสถานีวัดน้ำ โดยเฉพาะสถานีจิ่งหง และแจ้งเตือนภัยแก่สาธารณะทันที ตลอด 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา เอ็มอาร์ซีทำเพียงประกาศเตือนภัยทางเว็บไซต์ จึงกล่าวได้ว่า เอ็มอาร์ซีมีข้อมูลระดับน้ำและตระหนักดีว่าน้ำจากแม่น้ำโขงตอนบนในจีนจะหลากท่วมพื้นที่ตอนล่าง แต่กลับไม่ประกาศต่อสาธารณะผ่านสื่อต่างๆ ให้ประชาชนทั่วไปได้


    เตรียมตัวป้องกันความเสียหาย


    แถลงการณ์ระบุว่า นับตั้งแต่มีแผนการสร้างเขื่อนแห่งแรกบนแม่น้ำโขงในปี 2539 จีนได้อ้างมาโดยตลอดว่า เขื่อนในจีนจะช่วยเพิ่มปริมาณน้ำในฤดูแล้ง และป้องกันน้ำท่วมในฤดูฝน แต่อุทกภัยที่เกิดขึ้นชี้ให้เห็นว่า ปริมาณน้ำที่เพิ่มขึ้นส่วนใหญ่มาจากแม่น้ำโขงสายหลัก มิได้มาจากน้ำสาขาในไทยหรือลาว ตรงกับที่หนังสือพิมพ์เซี่ยงไฮ้เดลี่ วันที่ 13 สิงหาคม รายงานข่าวความเสียหายจากพายุในมณฑลยูนนาน ซึ่งอยู่ทางตอนบนของแม่น้ำโขง ที่ระบุว่า ประชาชนกว่า 1,250,000 คน ใน 11 เมือง ได้รับความเดือดร้อน มีผู้เสียชีวิต 40 คน เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจึงชี้ให้เห็นว่า ปริมาณน้ำจากตอนบนในจีนมีนัยยะสำคัญต่อปริมาณน้ำและอุทกวิทยาในแม่น้ำโขงตอนล่าง โดยเฉพาะที่ จ.เชียงราย แต่ระบบเตือนภัยที่มีอยู่ล้มเหลวโดยสิ้นเชิง


    แถลงการณ์ระบุว่า เครือข่ายประชาสังคมไทยเพื่อแม่น้ำโขงจึงเรียกร้องให้เอ็มอาร์ซีตอบคำถามของสาธารณะว่า ปริมาณน้ำจากแม่น้ำโขงทางตอนบน โดยเฉพาะจากเขื่อน 3 แห่งในจีน จะสร้างความเสียหายต่อพื้นที่ใดบ้าง รวมถึงข้อมูลระดับน้ำที่สถานีวัดน้ำตั้งแต่เขื่อนม่านวาน เขื่อนต้าเฉาชาน และเขื่อนจิ่งหง ทั้งนี้ เพื่อให้มีการเตรียมการป้องกันภัยได้ทันท่วงที

    [​IMG]


    /////////////////////////////////////////////

    มติชนออนไลน์
    http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1218893767&catid=00
     

แชร์หน้านี้

Loading...