โครงการปลูกรากแก้วให้แผ่นดิน

โครงการปลูกรากแก้วให้แผ่นดินfficeffice" /><O></O>

ปลูกจิตสำนึกให้แก่เยาวชน<O></O>

เพื่อร่วมเฉลิมพระเกียรติ ๘๐ พรรษา<O></O>
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช<O></O>​

<O></O>
นโยบายและความเป็นมาของโครงการ<O></O>

เยาวชน คือ รากแก้วของแผ่นดิน เยาวชน คือ อนาคตของประเทศชาติ ต้นไม้ที่มีรากแก้ว ย่อมยืนต้นได้อย่างมั่นคง ฉันใด หากต้องการให้ประเทศชาติมั่นคง ก็ควรปลูกจิตสำนึกของ เยาวชน ให้มีมโนธรรมสำนึกที่ดี เพื่อเป็นรากแก้วที่มั่นคงของประเทศชาติ ฉันนั้น เมื่อเยาวชนมีจิตสำนึกที่ดี ก็จะเป็นพลังสร้างสรรค์ ในการพัฒนาสังคม ไปสู่ความเจริญทางด้านจิต วิญญาณ ของผู้ที่เป็นอนาคตของประเทศชาติ อันจะนำมาซึ่งความมั่นคงของประเทศชาติที่แท้จริง มิใช่ความเจริญทางด้านเศรษฐกิจ หรือเทคโนโลยี่ ซึ่งเป็นสิ่งที่มองเห็นและสัมผัสถึงความเจริญได้ชัดเจน แต่ก็เป็นความเจริญบนความเสื่อมของมโนธรรมสำนึก ในสังคมแห่งการแข่งขันที่รุนแรงขึ้นเรื่อยๆ จนขาดซึ่งจิตสำนึกที่จะสร้างสรรค์สังคมของประเทศชาติ<O></O>
<O></O>
การที่จะปลูกมโนธรรมสำนึกให้แก่เยาวชน ก็ต้องเริ่มจาก ครอบครัว โรงเรียน ที่จะอบรม บ่ม เพาะ ปลูกฝัง จริต นิสัย ใจคอ กิริยา มารยาท เพราะเป็นการเริ่มจากการเพาะเมล็ดพันธ์ ซึ่งจะทำได้ง่ายและมีประสิทธิภาพกว่า ดังคำภาษิตโบราณที่ว่า “ไม้อ่อนดัดง่าย ไม้แก่ดัดยาก” เสมือนการขุดเอาต้นไม้ที่โตแล้วมาปลูก ซึ่งจะไม่มีรากแก้ว ต้องมีไม้ค้ำเพื่อพยุงลำต้นให้ยืนอยู่ได้ ถึงแม้จะมีรากงอกออกมายึดในเวลาต่อมา แต่ก็ไม่มีรากแก้ว เวลาโดนลมพัดแรงๆ ก็อาจโค่นล้มได้ง่ายกว่าต้นไม้ที่โตมาจากการเพาะเมล็ดพันธ์ ที่มีรากแก้วแทรกลึกเข้าไปใต้ดินเพื่อยึดลำต้นให้มั่นคง<O></O>
<O></O>
แต่เนื่องจากความเจริญทางด้านเทคโนโลยี่ด้านการสื่อสาร ทำให้เยาวชนในยุคปัจจุบันสามารถรับข่าวสารได้ไว จากทั้งสื่อโทรทัศน์ อินเตอร์เน็ท(Internet) เวปไซท์ (Web Site) ต่างๆ ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นสื่อที่สร้างความมอมเมา ในรูปแบบใหม่ๆ ที่พยามจูงใจเยาวชนให้หลงติด จะมีสื่อที่เป็น<O></O>
หน้า 1<O></O>
สาระก็น้อยและยังไม่มีแรงจูงใจพอ สมองของเยาวชนจึงเต็มไปด้วยขยะที่ไม่สร้างสรรค์ เป็นการปลูกมโนธรรมสำนึกในเชิงลบ<O></O>
เยาวชนในอดีต ถูกปลูกฝังมโนธรรมสำนึกให้รัก ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ หลักสูตรการรียนการสอนในสมัยก่อน เอื้อต่อการสร้างคุณธรรมในจิตใจของเยาวชน โดยมีวิชาศีลธรรม หน้าที่พลเมือง และยังมีกิจกรรมสวดมนต์ทุกวันศุกร์ก่อนเลิกเรียน เยาวชนสมัยก่อนจึงมีนิสัยอ่อนโยน เคารพเชื่อฟัง พ่อแม่ ครู อาจารย์ ถึงแม้จะไม่ฉลาดในเรื่องเทคโนโลยี่ เหมือนสมัยปัจจุบัน<O></O>
เยาวชนในปัจจุบันถูกมอมเมาด้วยสิ่งต่างๆ จากผู้ที่ต้องการหวังเพียงแค่ผลกำไรในธุรกิจ โดยไม่คำนึงถึงคุณธรรม จึงผลิตสื่อหรือสินค้าต่างๆ เพื่อจูงใจเยาวชนที่ยังอ่อนทางด้านความคิด ประกอบกับสภาพสังคมที่แปรเปลี่ยนไป เป็นสังคมแห่งการแข่งขันเพื่อสร้างฐานะความเป็นอยู่ โดยลืมสร้างความอบอุ่นในครอบครัว พ่อแม่ต้องทำงาน จนไม่มีเวลาให้กับลูกๆ ฝากความหวังให้โรงเรียน เป็นที่ อบ รม บ่ม เพาะ ลูกหลาน ส่วนโรงเรียนในปัจจุบัน ก็แปรเปลี่ยนเป็นเพียงสถานที่ชุมนุมของเยาวชน ครูเองก็เริ่มเปลี่ยนเป็นครูธุรกิจ หวังเพียงรายได้จากการสอนพิเศษ มากกว่าการสอนในหน้าที่ประจำวัน เยาวชนในปัจจุบันจึงต้องแข่งขันกันกวดวิชาพิเศษ เรียนกันแทบไม่มีวันหยุด เรียนกันจนสมองแทบจะรับไม่ไหว พัฒนาแต่สิ่งที่รกสมอง จนลืมพัฒนา จิต วิญญาณ ซึ่งเป็นแก่นและเนื้อแท้ ของความเป็นมนุษย์<O></O>
<O></O>
เยาวชนในปัจจุบันถูกมอมเมาด้วยสิ่งไร้สาระ ที่มีผลต่อประสาทสัมผัสทุกทาง ตั้งแต่ <O></O>
<O></O>
ทางตา ด้วยสื่อที่สร้างรายการหลอกล่อเด็ก ทั้งการ์ตูน ละคร หนัง ที่ไม่สร้างสรรค์ เป็นส่วนใหญ่ จะมีรายการที่เป็นสาระก็น้อยมาก นอกจากนี้ยังมีสื่อลามกต่างๆ ทั้งหนังสือโป๊ วีดีโอ ซีดี หนังโป๊ต่างๆ ขายกันเต็มไปหมด หาซื้อง่ายมาก<O></O>
<O></O>
ทางหู ก็กล่อมด้วยเพลง ที่เป็นไปในเรื่อง รักๆใคร่ๆ อกหัก มากรัก มากชู้ และสร้างค่านิยมให้หลงไหลชื่นชมแบบคลั่งไคล้นักร้องดังๆ ที่หน้าตาดีๆ<O></O>
<O></O>
<!-- / message -->

 

ทางจมูก ก็มอมเมาให้เด็กหันมาให้ความสนใจเรื่องกลิ่นที่จูงใจเพศตรงข้าม น้ำหอมจึงขายดิบขายดี เกินความจำเป็นfficeffice" /><O></O>
<O></O>
ทางลิ้น ก็มอมเมาด้วยขนมขบเคี้ยว อาหารต่างประเทศที่มีไขมันสูง มีแต่ความอร่อยแต่ขาดซึ่งคุณภาพ จนเยาวชนรุ่นใหม่ๆ แทบจะไม่รู้จักอาหารและขนมไทยๆ ซึ่งน่าจะเป็นสิ่งที่ควรอนุรักษ์ในความมีเอกลักษณ์ของความเป็นไทย<O></O>
<O></O>
ทางกาย ก็ถูกมอมเมาด้วยสื่อต่างๆ จนทำให้สนใจแต่เรื่องรูป โฉม การแต่งกาย เพื่อจูงใจเพศตรงข้ามกล้าใช้เงินแต่งตัวเปลี่ยนไปตามแฟชั่น กล้าที่จะแสดงความสัมพันธ์กับเพศตรงข้ามอย่างเปิดเผย และยังใช้รูปกายเป็นช่องทางหารายได้พิเศษกันอย่างไม่สำนึกอาย<O></O>
<O></O>
ทางใจ ก็เป็นผลมาจากการถูกมอมเมาประสาทสัมผัสทั้ง 5 ดังที่กล่าวมาในทางที่ผิดๆ จึงทำให้เยาวชนในปัจจุบัน มีอารมณ์และจิตใจ อ่อนไหว ไม่สามารถทนทานต่อสภาพการเปลี่ยนแปลง ซึ่งเป็นสัจธรรมของชีวิตได้ เมื่อเจอความทุกข์ก็ทุรนทุราย ตัดสินใจชีวิตในทางที่ผิด เพราะขาดสติซึ่งเกิดจาก การไม่ได้รับการ ปลูกฝัง อบรม บ่ม เพาะ รากเหง้าของความคิดและมโนธรรมสำนึก ทีสามารถพัฒนาสติปัญญา ในการใช้ชีวิต การอยู่ร่วมในสังคม อย่างมีคุณค่า และสามารถเผชิญอุปสรรคที่เกิดความเปลี่ยนแปลงในชีวิตได้เป็นอย่างดี<O></O>
<O></O>
หนทางแก้ไขการถูกมอมเมาประสาทสัมผัสทั้ง 6 ทางก็คือ การปลูกมโนสำนึกในเชิงบวก ให้เยาวชนรู้จักที่จะเลือกบริโภค ในสิ่งที่เป็นประโยชน์ และสร้างสรรค์<O></O>
<O></O>
การปลูกมโนธรรมสำนึกให้แก่เยาวชน จะต้องแสวงหาแนวทางที่สามารถแทรกซึม แนวความคิดที่เป็นสาระ ไปพร้อมๆกับความเพลิดเพลิน ที่เยาวชนเหล่านั้นจะซึมซับได้โดยปริยาย และนี่จึงเป็นที่มาของโครงการ

 

โครงการปลูกรากแก้วให้แผ่นดิน<?xml:namespace prefix = o ns = "urn:schemas-microsoft-comfficeffice" /><o></o>

ปลูกจิตสำนึกให้แก่เยาวชน<o></o>

เพื่อร่วมเฉลิมพระเกียรติ ๘๐ พรรษา<o></o>​

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช<o></o>​

<o> </o>
นโยบายและความเป็นมาของโครงการ<o></o>

เยาวชน คือ รากแก้วของแผ่นดิน เยาวชน คือ อนาคตของประเทศชาติ ต้นไม้ที่มีรากแก้ว ย่อมยืนต้นได้อย่างมั่นคง ฉันใด หากต้องการให้ประเทศชาติมั่นคง ก็ควรปลูกจิตสำนึกของ เยาวชน ให้มีมโนธรรมสำนึกที่ดี เพื่อเป็นรากแก้วที่มั่นคงของประเทศชาติ ฉันนั้น เมื่อเยาวชนมีจิตสำนึกที่ดี ก็จะเป็นพลังสร้างสรรค์ ในการพัฒนาสังคม ไปสู่ความเจริญทางด้านจิต วิญญาณ ของผู้ที่เป็นอนาคตของประเทศชาติ อันจะนำมาซึ่งความมั่นคงของประเทศชาติที่แท้จริง มิใช่ความเจริญทางด้านเศรษฐกิจ หรือเทคโนโลยี่ ซึ่งเป็นสิ่งที่มองเห็นและสัมผัสถึงความเจริญได้ชัดเจน แต่ก็เป็นความเจริญบนความเสื่อมของมโนธรรมสำนึก ในสังคมแห่งการแข่งขันที่รุนแรงขึ้นเรื่อยๆ จนขาดซึ่งจิตสำนึกที่จะสร้างสรรค์สังคมของประเทศชาติ<o></o>
<o> </o>
การที่จะปลูกมโนธรรมสำนึกให้แก่เยาวชน ก็ต้องเริ่มจาก ครอบครัว โรงเรียน ที่จะอบรม บ่ม เพาะ ปลูกฝัง จริต นิสัย ใจคอ กิริยา มารยาท เพราะเป็นการเริ่มจากการเพาะเมล็ดพันธ์ ซึ่งจะทำได้ง่ายและมีประสิทธิภาพกว่า ดังคำภาษิตโบราณที่ว่า “ไม้อ่อนดัดง่าย ไม้แก่ดัดยาก” เสมือนการขุดเอาต้นไม้ที่โตแล้วมาปลูก ซึ่งจะไม่มีรากแก้ว ต้องมีไม้ค้ำเพื่อพยุงลำต้นให้ยืนอยู่ได้ ถึงแม้จะมีรากงอกออกมายึดในเวลาต่อมา แต่ก็ไม่มีรากแก้ว เวลาโดนลมพัดแรงๆ ก็อาจโค่นล้มได้ง่ายกว่าต้นไม้ที่โตมาจากการเพาะเมล็ดพันธ์ ที่มีรากแก้วแทรกลึกเข้าไปใต้ดินเพื่อยึดลำต้นให้มั่นคง<o></o>
<o> </o>
แต่เนื่องจากความเจริญทางด้านเทคโนโลยี่ด้านการสื่อสาร ทำให้เยาวชนในยุคปัจจุบันสามารถรับข่าวสารได้ไว จากทั้งสื่อโทรทัศน์ อินเตอร์เน็ท(Internet) เวปไซท์ (Web Site) ต่างๆ ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นสื่อที่สร้างความมอมเมา ในรูปแบบใหม่ๆ ที่พยามจูงใจเยาวชนให้หลงติด จะมีสื่อที่เป็น<o></o>
หน้า 1<o></o>
สาระก็น้อยและยังไม่มีแรงจูงใจพอ สมองของเยาวชนจึงเต็มไปด้วยขยะที่ไม่สร้างสรรค์ เป็นการปลูกมโนธรรมสำนึกในเชิงลบ<o></o>
เยาวชนในอดีต ถูกปลูกฝังมโนธรรมสำนึกให้รัก ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ หลักสูตรการรียนการสอนในสมัยก่อน เอื้อต่อการสร้างคุณธรรมในจิตใจของเยาวชน โดยมีวิชาศีลธรรม หน้าที่พลเมือง และยังมีกิจกรรมสวดมนต์ทุกวันศุกร์ก่อนเลิกเรียน เยาวชนสมัยก่อนจึงมีนิสัยอ่อนโยน เคารพเชื่อฟัง พ่อแม่ ครู อาจารย์ ถึงแม้จะไม่ฉลาดในเรื่องเทคโนโลยี่ เหมือนสมัยปัจจุบัน<o></o>
เยาวชนในปัจจุบันถูกมอมเมาด้วยสิ่งต่างๆ จากผู้ที่ต้องการหวังเพียงแค่ผลกำไรในธุรกิจ โดยไม่คำนึงถึงคุณธรรม จึงผลิตสื่อหรือสินค้าต่างๆ เพื่อจูงใจเยาวชนที่ยังอ่อนทางด้านความคิด ประกอบกับสภาพสังคมที่แปรเปลี่ยนไป เป็นสังคมแห่งการแข่งขันเพื่อสร้างฐานะความเป็นอยู่ โดยลืมสร้างความอบอุ่นในครอบครัว พ่อแม่ต้องทำงาน จนไม่มีเวลาให้กับลูกๆ ฝากความหวังให้โรงเรียน เป็นที่ อบ รม บ่ม เพาะ ลูกหลาน ส่วนโรงเรียนในปัจจุบัน ก็แปรเปลี่ยนเป็นเพียงสถานที่ชุมนุมของเยาวชน ครูเองก็เริ่มเปลี่ยนเป็นครูธุรกิจ หวังเพียงรายได้จากการสอนพิเศษ มากกว่าการสอนในหน้าที่ประจำวัน เยาวชนในปัจจุบันจึงต้องแข่งขันกันกวดวิชาพิเศษ เรียนกันแทบไม่มีวันหยุด เรียนกันจนสมองแทบจะรับไม่ไหว พัฒนาแต่สิ่งที่รกสมอง จนลืมพัฒนา จิต วิญญาณ ซึ่งเป็นแก่นและเนื้อแท้ ของความเป็นมนุษย์<o></o>
<o> </o>
เยาวชนในปัจจุบันถูกมอมเมาด้วยสิ่งไร้สาระ ที่มีผลต่อประสาทสัมผัสทุกทาง ตั้งแต่ <o></o>
<o> </o>
ทางตา ด้วยสื่อที่สร้างรายการหลอกล่อเด็ก ทั้งการ์ตูน ละคร หนัง ที่ไม่สร้างสรรค์ เป็นส่วนใหญ่ จะมีรายการที่เป็นสาระก็น้อยมาก นอกจากนี้ยังมีสื่อลามกต่างๆ ทั้งหนังสือโป๊ วีดีโอ ซีดี หนังโป๊ต่างๆ ขายกันเต็มไปหมด หาซื้อง่ายมาก<o></o>
<o></o>
ทางหู ก็กล่อมด้วยเพลง ที่เป็นไปในเรื่อง รักๆใคร่ๆ อกหัก มากรัก มากชู้ และสร้างค่านิยมให้หลงไหลชื่นชมแบบคลั่งไคล้นักร้องดังๆ ที่หน้าตาดีๆ<o></o>
<o> </o>

 

ทางจมูก ก็มอมเมาให้เด็กหันมาให้ความสนใจเรื่องกลิ่นที่จูงใจเพศตรงข้าม น้ำหอมจึงขายดิบขายดี เกินความจำเป็น<?xml:namespace prefix = o ns = "urn:schemas-microsoft-comfficeffice" /><o></o>
<o> </o>
ทางลิ้น ก็มอมเมาด้วยขนมขบเคี้ยว อาหารต่างประเทศที่มีไขมันสูง มีแต่ความอร่อยแต่ขาดซึ่งคุณภาพ จนเยาวชนรุ่นใหม่ๆ แทบจะไม่รู้จักอาหารและขนมไทยๆ ซึ่งน่าจะเป็นสิ่งที่ควรอนุรักษ์ในความมีเอกลักษณ์ของความเป็นไทย<o></o>
<o> </o>
ทางกาย ก็ถูกมอมเมาด้วยสื่อต่างๆ จนทำให้สนใจแต่เรื่องรูป โฉม การแต่งกาย เพื่อจูงใจเพศตรงข้ามกล้าใช้เงินแต่งตัวเปลี่ยนไปตามแฟชั่น กล้าที่จะแสดงความสัมพันธ์กับเพศตรงข้ามอย่างเปิดเผย และยังใช้รูปกายเป็นช่องทางหารายได้พิเศษกันอย่างไม่สำนึกอาย<o></o>
<o> </o>
ทางใจ ก็เป็นผลมาจากการถูกมอมเมาประสาทสัมผัสทั้ง 5 ดังที่กล่าวมาในทางที่ผิดๆ จึงทำให้เยาวชนในปัจจุบัน มีอารมณ์และจิตใจ อ่อนไหว ไม่สามารถทนทานต่อสภาพการเปลี่ยนแปลง ซึ่งเป็นสัจธรรมของชีวิตได้ เมื่อเจอความทุกข์ก็ทุรนทุราย ตัดสินใจชีวิตในทางที่ผิด เพราะขาดสติซึ่งเกิดจาก การไม่ได้รับการ ปลูกฝัง อบรม บ่ม เพาะ รากเหง้าของความคิดและมโนธรรมสำนึก ทีสามารถพัฒนาสติปัญญา ในการใช้ชีวิต การอยู่ร่วมในสังคม อย่างมีคุณค่า และสามารถเผชิญอุปสรรคที่เกิดความเปลี่ยนแปลงในชีวิตได้เป็นอย่างดี<o></o>
<o> </o>
หนทางแก้ไขการถูกมอมเมาประสาทสัมผัสทั้ง 6 ทางก็คือ การปลูกมโนสำนึกในเชิงบวก ให้เยาวชนรู้จักที่จะเลือกบริโภค ในสิ่งที่เป็นประโยชน์ และสร้างสรรค์<o></o>
<o> </o>
การปลูกมโนธรรมสำนึกให้แก่เยาวชน จะต้องแสวงหาแนวทางที่สามารถแทรกซึม แนวความคิดที่เป็นสาระ ไปพร้อมๆกับความเพลิดเพลิน ที่เยาวชนเหล่านั้นจะซึมซับได้โดยปริยาย และนี่จึงเป็นที่มาของโครงการ “ปลูกจิตสำนึกให้เยาวชน ด้วยสื่อเพลงธรรมะอิงคำสอนของพระพุทธเจ้า” <o></o>
<o></o>
แนวทางการดำเนินงาน<o></o>

ขั้นตอนที่ 1 จัดทำซีดี และเทปเพลงธรรมะ ที่อิงคำสอนและหลักธรรมของ พระพุทธเจ้า โดยแบ่งออกเป็น 3 ชุด คือ ชุดคุณธรรมพื้นฐาน ชุดเสริมสร้างบารมี และชุดอริยทรัพย์ ซึ่งจะมีเนื้อหาสาระหรือหลักธรรมะ ตามระดับ พื้นฐานความรู้ของผู้ที่ศึกษาแก่นแท้ของพระพุทธศาสนา โดยชุดแรกซึ่งเป็น ชุดคุณธรรมพื้นฐาน ที่ควรรู้ ควรจะทำการเผยแผ่ และแจกไปตามโรงเรียนพุทธทั่วประเทศ เพื่อเปิดให้เด็กฟัง ในช่วงเช้าก่อนเคารพธงชาติ หรือเวลาพักเที่ยง เป็นประจำ จะทำให้เด็กๆซึมซับและจดจำ หลักธรรมคำสอน เกี่ยวกับพระพุทธศาสนาได้ ขณะเดียวกันทางโรงเรียนอาจจัดให้มีการประกวดร้องเพลงธรรมะ เพื่อกระตุ้นให้เด็กๆให้ความสนใจมากขึ้น แต่ทั้งนี้โครงการดังกล่าวควรได้รับการส่งเสริมและสนับสนุนจากสถาบันหลักคือ กระทรวงศึกษาธิการ และ กระทรวงวัฒนธรรมแห่งชาติ เพื่อให้การดำเนินงานเผยแผ่ได้รับความร่วมมือจาก ทุกโรงเรียนเป็นอย่างดี และนอกจากนี้ยังสามารถใช้เพลงธรรมะดังกล่าว เป็นสื่อในการจัดกิจกรรม ประกวดร้องเพลงธรรมะสำหรับเด็กๆในโรงเรียน เพื่อเป็นกุศโลบายในการแทรกซึมหลักธรรมคำสั่งสอนของพระพุทธองค์ให้เด็กมีความสนใจมากยิ่งขึ้น<o></o>
เพลงธรรมะทั้ง 3 ชุด สามารถทำเป็นซีดี หรือเทปเพลงเพื่อจำหน่ายหาเงินเข้ากองทุน “ปลูกรากแก้วให้แผ่นดิน” และ<o></o>
“โครงการช่วยเหลือผู้ป่วยโรคเอดส์ของวัดพระบาทน้ำพุ” ได้<o></o>
ชุดที่ 1 คือ ชุดคุณธรรมพื้นฐาน ซึ่งเหมาะแก่การเสริมสร้างคุณธรรมให้แก่เยาวชน นักเรียน นักศึกษา ชุดนี้ควรเป็นการร้องประสานเสียงของเด็กๆ เพื่อสื่อถึงเด็กด้วยกันจะเหมาะสมกว่า ชุดนี้ประกอบด้วย<o></o>
- เพลงพระพุทธศาสนา<o></o>
- เพลงพระรัตนตรัย<o></o>
- เพลงอริยสัจจ์ 4<o></o>
- เพลงมรรคมีองค์ 8<o></o>
- เพลงพระพุทธโอวาท<o></o>
- เพลงมงคล 38<o></o>
- เพลงอิทธิบาท 4<o></o>
- เพลงพ่อพระของแผ่นดิน ในหลวงของเรา<o></o>
- เพลงรักที่บริสุทธิ์ <o></o>
- เพลงวัดพระบาทน้ำพุ<o></o>

 

อนุโมทนากับโครงการดีๆครับ การสร้างสังคมแห่งสัมมาทิฏฐินั้น ควรปลูกฝังกันตั้งแต่ยังเป็นกล้าอ่อน ต้องดูแลเอาใจใส่ ปลูกฝังศีลธรรม คุณธรรม จริยธรรมกันตั้งแต่เล็กๆ และติดตามผลไปจนพวกเค้าเติบโต เป็นกำลังที่สำคัญของสังคมและบ้านเมืองต่อไป

นอกจากเยาวชนจะมีความสำคัญแล้ว ตัวบุคลากรที่เข้ามาทำหน้าที่ เป็นแม่แบบ เป็นผู้สั่งสอนจริยา ก็เป็นสิ่งสำคัญ ที่ต้องพิถีพิถันคัดมาดูแล ลูกหลานเรา ให้เติบโตเป็นคนดีมีความสามารถ ของสังคมต่อไปครับ

ถึงแม้ว่า ในปัจจุบัน ผู้มีความรู้ ความสามารถ ที่เป็นคนดี จะยังไม่มีกำลังที่จะเปลี่ยนแปลง ระบบสังคมปัจจุบันได้ แต่เราก็สามารถเริ่ม สิ่งดีๆได้จาก ตัวเรา ครอบครัวเรา และสังคมที่เราอยู่อาศัย ก็เป็นการเริ่มจากจุดเล็กๆ ที่มีค่าและสำคัญยิ่งครับ

 

เป็นโครงการของเพื่อน คือ เภสัชกร สุภาวดี อ่อนชื่น
ได้ทำมาเรื่อยๆ2-3 ปีแล้วหลังจากที่ได้ซาบซึ้งในการปฏิบัติธรรม
เพิ่งได้เจอกันงานศพเพื่อนได้อ่านโครงการรู้สึกทึ่งในความสามารถ
โครงการนี้ได้ยื่นให้วัดพระบาทน้ำพุ พิจารณาอยู่
โครงการนี้เข้ากันดีกับชัยมงคลสถาน จะเป็นภาคสนามของเยาวชนต่อไป
ลองเอาให้พวกเราอ่านดู ในความพยายามของคนคนหนึ่ง
ผมโพสทั้งหมดไม่ขึ้นต้องทยอยมีหลายหน้า

 

ชุดที่ 2 คือ ชุดเสริมสร้างบารมี ซึ่งเป็นชุดที่ให้แง่คิดในการปฎิบัติตนเป็นคนที่มีคุณค่าต่อสังคม ช่วยเสริมสร้างบารมีทางด้านคุณธรรม มิใช่บารมีที่เกิดจากอำนาจเงิน หรือยศ เพลงชุดนี้ประกอบด้วย<?xml:namespace prefix = o ns = "urn:schemas-microsoft-comfficeffice" /><o></o>
- เพลงอนิจจัง ทุกขัง อนัตตา<o></o>
- เพลงปัญญา 3<o></o>
- เพลงพรหมวิหาร 4<o></o>
- เพลงสัปปุริสธรรม 7<o></o>
- เพลงโลกธรรม 8<o></o>
- เพลงรู้หนึ่ง<o></o>
- บุญกิริยาวัตถุ 10<o></o>
- ทศบารมี<o></o>
<o> </o>
ชุดที่ 3 คือ ชุดอริยทรัพย์ เป็นชุดที่ให้ความรู้เกี่ยวกับการปฏิบัติตนเพื่อแสวงหา “อริยทรัพย์” ซึ่งเป็นทรัพย์ชนิดเดียวที่ติดตัวไปได้ทุกภพชาติ สามารถช่วยให้หลุดพ้นจากการเวียนว่ายตายเกิดได้ เพลงชุดนี้ประกอบด้วย<o></o>
- เพลงอริยทรัพย์<o></o>
- เพลงสติปัฏฐาน 4<o></o>
- เพลงอภิณหปัจจเวกขณ์ 5<o></o>
- เพลงรูปนาม-ขันธ์ 5<o></o>
- เพลงนิวรณ์ 5<o></o>
- เพลงโพชฌงค์ 7<o></o>
- เพลงปฏิจจสมุปบาท<o></o>
<o> </o>
ขั้นตอนที่ 2 จัดคอนเสิร์ท การกุศล “ปลูกรากแก้วให้แผ่นดิน ปลูกจิตสำนึกให้เยาวชน” โดยใช้วงดนตรี “ออเครทต้า” และให้เด็กๆที่มีความสามารถร้องเพลงประสานเสียง ประกอบรีวิวการแสดงเกี่ยวพุทธประวัติ เพื่อเป็นกิจกรรมส่งเสรมการเผยแผ่พระพุทธศาสนา อันเป็นศาสนาประจำชาติ <o></o>
<o> </o>
<o> </o>
วิธีการและขั้นตอนการดำเนินงาน<o></o>

<o> </o>
1) จัดตั้งคณะกรรมการดำเนินงาน และสรรหาประธานโครงการฯที่มีคุณสมบัติเหมาะสมที่สามารถผลักดันโครงการฯให้เป็นรูปธรรมอย่างมีศักยภาพ ซึ่งคณะกรรมการควรประกอบด้วย<o></o>
- คณะกรรมการฝ่ายหาทุน โดยจัดตั้งเป็นกองทุน “ปลูกรากแก้วให้แผ่นดิน ปลูกจิตสำนึกให้เยาวชน” โดยเฉพาะ<o></o>
- คณะกรรมการฝ่ายประชาสัมพันธ์<o></o>
- คณะกรรมการฝ่ายดำเนินงานและประสานงาน<o></o>
2) จัดทำ โน๊ตดนตรีสากล สำหรับเครื่องดนตรี ที่เหมาะสม <o></o>
3) คัดเลือกดนตรีและนักร้อง เพื่อทำการฝึกซ้อมและบันทึกเทป และซีดี ฉบับ Master<o></o>
4) จัดทำปกเทป และซีดี โดยใช้ชื่อ “ปลูกรากแก้วให้แผ่นดิน ปลูกจิตสำนึกให้เยาวชน”<o></o>
5) Copy เทปและซีดี จำนวน 10000 ชุด<o></o>
6) ทำการแจกจ่ายให้ผู้มีอุปการะคุณที่ร่วมสนับสนุนเงินทุนในการดำเนินโครงการฯ และมอบให้กระทรวงศึกษาธิการ เพื่อให้แจกจ่ายไปตามโรงเรียนชั้นประถม-มัธยมศึกษา ต่างๆทั้งในกรุงเทพฯและต่างจังหวัด <o></o>
7) จำหน่ายเทปและซีดีให้แก่ผู้ที่สนใจที่จะร่วมสนับสนุนโครงการเผยแผ่ธรรมะ เพื่อหารายได้มอบให้แก่ วัดพระบาทน้ำพุ <o></o>
8) ติดตามผลการดำเนินงาน ศึกษาถึงปัญหาและอุปสรรคที่ทำให้การดำเนินงานไม่เป็นไปตามเป้าหมายเพื่อหาแนวทางแก้ไข และผลักดันให้โครงการฯสามารถสร้างสรรค์ประโยชน์ต่อเยาวชนได้อย่างแท้จริง<o></o>

 

ชุดที่ 1 ชุดคุณธรรมพื้นฐาน<?xml:namespace prefix = o ns = "urn:schemas-microsoft-comfficeffice" /><o></o>
<o> </o>
พระพุทธศาสนา<o></o>

ร้อยกรอง/ทำนอง เภสัชกรหญิง สุภาวดี อ่อนชื่น<o></o>
<o> </o>
พระ พุทธ ศาสนา<o></o>
สืบ ทอดมา ได้ยืนยง<o></o>
เพราะ หลักธรรม ที่มั่นคง<o></o>
ขององค์ ชินสีห์ มุนีกร<o></o>
ทรง ดับขันธ์ หลายพันปี<o></o>
แต่ ยังมี คำสั่งสอน<o></o>
ทุกบท และ ทุกตอน<o></o>
ไม่ เคยล้า แม้ช้านาน<o></o>
หลัก สัจธรรม ควรศึกษา<o></o>
วันเวลา ล่วง ตามกาล<o></o>
เปลี่ยน แปลงไป แม้สังขาร<o></o>
ไม่ควร ที่ จะรีรอ<o></o>
คุณ ธรรม จำต้องมี<o></o>
สร้าง ความดี กันเถิดหนอ<o></o>
บุญทำ กรรมชั่ว ไม่ก่อ<o></o>
เพื่อ ดับขันธ์ นิรันดร (ฮึม………………)<o></o>
<o> </o>
<o> </o>
พระรัตนตรัย<o></o>
ร้อยกรอง/ทำนอง เภสัชกรหญิง สุภาวดี อ่อนชื่น<o></o>
<o> </o>
อ้าองค์ พระสัมมา สัมพุทธเจ้า<o></o>
พระบรรเทา สรรพทุกข์ นำสุขศรี<o></o>
แก่ปวงสัตว์ ในโลกา ทุกชีวี<o></o>
ด้วยบารมี พระพุทธองค์ ทรงเพริศพราว<o></o>
อันพระธรรม นำจิต ให้ผ่องใส<o></o>
น้อมนำใจ ให้บริสุทธิ์ ดุจผ้าขาว<o></o>
น้อมนำจิต เปล่งปลั่ง ดั่งแสงดาว<o></o>
จิตใจพราว เพราะดำรง ทรงในธรรม<o></o>
แลพระสงฆ์ ผู้ดำรง พระศาสนา<o></o>
ได้เดินมา ตามรอย พระพุทธองค์ ผู้ทรงนำ<o></o>
เพื่อชี้ทาง ให้มวลมนุษย์ ผู้ใช้กรรม<o></o>
มีดวงตา เห็นธรรม นำสุขตน<o></o>
ซึ่งพระ รัตนตรัย ทั้งสามนี้<o></o>
เป็นเครื่องชี้ ทางสว่าง ทุกแห่งหน<o></o>
หากผู้ใด ยึดมั่น หมั่นฝึกตน<o></o>
ก็จะพ้น หนทางทุกข์ สุขนิรันดร์<o></o>
<o> </o>
<o> </o>
หน้า 4<o></o>

<o> </o>

อริยสัจจ์ 4<o></o>

ร้อยกรอง/ทำนอง เภสัชกรหญิง สุภาวดี อ่อนชื่น<o></o>
<o> </o>
พระพุทธองค์ ทรง ตรัสรู้<o></o>
เป็นสัพพัญญู ผู้ประกาศ พระธรรม<o></o>
อริย- สัจสี่ น้อมนำ<o></o>
พบหนทาง สิ้นกรรม สิ้นเวร<o></o>
หนึ่ง “ทุกข์” คือไม่สบาย<o></o>
กายและใจ ให้แสน ลำเค็ญ<o></o>
มีทั้งทุกข์ และสุข ไม่เว้น<o></o>
จะต้องเป็น เช่นนี้ ทั่วกัน<o></o>
อีกสอง นั้น “สมุห์ทัย”<o></o>
คือสาเหตุ ให้เกิด ทุกข์นั้น<o></o>
เพราะผลกรรม ที่ทำ ไว้กัน<o></o>
จึ่งมีอัน เกิดเหตุ ปัจจัย<o></o>
อันชีวิต ต้องมีการ หมุนเวียน<o></o>
ผลัดเปลี่ยน เวียนตาม กระแสกรรมไป<o></o>
ไม่มีผู้ใด หลีกหนี ไปได้<o></o>
จะต้องชดใช้ ไปตาม กฎเกณฑ์<o></o>
อีกสาม “นิโรจ” คือการดับทุกข์<o></o>
พา ให้พบสุข สิ้นกรรมเวร<o></o>
ดับสาเหตุ ของทุกข์ ลำเค็ญ<o></o>
จึ่งเป็นอัน สูญสิ้น ปัจจัย<o></o>
ประการสุดท้าย ของสัจ จะธรรม<o></o>
“มรรค” หนทาง นำดับทุกข์ได้<o></o>
ดัง พระองค์ ทรงดำรัสไว้<o></o>
เป็นหลักให้ ปฏิ บัติตาม<o></o>
ผู้ใด ยึดมั่น หลักสัจจะธรรม<o></o>
ส่งผลน้อมนำ จิตใจง ดงาม<o></o>
จะพบ ความสุข ทุกชั่วยาม<o></o>
คือความ หลุดพ้น จากกฎแห่งกรรม<o></o>

 

มรรคมีองค์ 8<?xml:namespace prefix = o ns = "urn:schemas-microsoft-comfficeffice" /><o></o>

ร้อยกรอง/ทำนอง เภสัชกรหญิง สุภาวดี อ่อนชื่น<o></o>
<o> </o>
หนทางดับทุกข์ (ฮึม)...... นำสุขนิรันดร์ (ฮึม)......<o></o>
ซึ่งพระอรหัน ตสัมมา สัมพุทธเจ้า<o></o>
ทรงตรัสรู้ และประกาศให้ มวลมนุษย์เรา<o></o>
เพื่อบรรเทา สรรพทุกข์ แก่สรรพชีวิต<o></o>
สัมมาทิฐิ (ฮึม)...... คือความเห็นชอบ (ฮึม)......<o></o>
จะต้องตรวจสอบ ว่าความเห็นใด สิ่งไหนถูกผิด<o></o>
ข้อแรกแห่งมรรค จักเป็นตัวการ ที่คอยลิขิต<o></o>
ด้วยความคิดเห็น เป็นประตู สู่ทางอื่นใด<o></o>
** สัมมา สังกัปโป คือ ดำริชอบ <o></o>
นั่นคือคำตอบ ว่าความคิดเห็น นั้นเป็นเช่นไร<o></o>
หากเห็นชอบ ก็ดำริชอบ ทุกครั้งไป<o></o>
ดำริอย่างไร ใคร่ครวญ ไตร่ตรองจงดี<o></o>
สัมมาวาจา (ฮึม)...... คือการพูดชอบ (ฮึม)......<o></o>
เป็นการโต้ตอบ ด้วยภาษาคำ นำถ้อยวจี<o></o>
สื่อให้มนุษย์ เข้าใจซึ่งกัน ในสิ่งที่ดี<o></o>
วาจาเป็นศรี คือวจี ที่ชอบธรรม<o></o>
สัมมากัมมันโต (ฮึม)...... คือกระทำชอบ (ฮึม)......<o></o>
ต้องรู้ข่ายขอบ ที่เราทุกคน นั้นควรกระทำ<o></o>
ด้วยชีวิตนั้น ต้องแปรเปลี่ยนไป ตามกฎแห่งกรรม<o></o>
ความดีเท่านั้น จะน้อมนำ แต่สิ่งที่ดี<o></o>
** สัมมา อาชีโว การเลี้ยงชีพชอบ <o></o>
เป็นสิ่งประกอบ เพื่อการดำรง ชีวิตเรานี้<o></o>
ควรหาหนทาง ประกอบเลี้ยงชีพ ให้ถูกวิธี<o></o>
จะได้ไม่มี ผลเบียดเบียน ต่อผู้ใด<o></o>
สัมมาวายาโม (ฮึม)...... คือความเพียรชอบ (ฮึม)......ควรเพียรมอบกาย ถวายชีพพลี เพื่อดำรงไว้<o></o>
ซึ่งคุณธรรม และความดีงาม ที่เพียรตั้งใจ<o></o>
ความเพียรนั้นไซร้ น้อมนำให้ ได้สำเร็จผล<o></o>
สัมมาสติ (ฮึม)...... การระลึกชอบ (ฮึม)......<o></o>
คือความรอบคอบ ระลึกรู้พร้อม ทั่วตัวตน<o></o>
ฝึกสติให้ มั่นคงต่อเนื่อง และแยบยล<o></o>
ส่งเป็นกุศล ผลบุญให้ ในภายภาคหน้า<o></o>
** สัมมา สมาธิ ตั้งใจมั่นชอบ <o></o>
จะต้องรอบรู้ กำหนดจิตใจ ไว้ในกายา<o></o>
อย่าให้หลงทาง ตั้งใจไว้มั่น หมั่นภาวนา<o></o>
ก่อเกิดปัญญา นั่นคือ สมาธิธรรม<o></o>
มรรคมีองค์แปด (ฮึม)...... หนทางดับทุกข์ (ฮึม)......<o></o>
ทางแห่งความสุข ที่เราทุกคน นั้นควรน้อมนำ<o></o>
จะได้สิ้นไป จากการเวียนว่าย ในกฎแห่งกรรม<o></o>
พบความสุขล้ำ คือทางนำ แห่งความหลุดพ้น<o></o>

 

ในเวบไซท์พลังจิตของเรามีนักร้องท่านหนึ่งคือคุณโจโฉ ซึ่งน่าจะมาช่วยงานด้านการร้องเพลง การ เรียบเรียงเสียงประสานได้

ด้านวงดนตรีออเคสตร้า ลองดู วงของ มหิดลดูครับ ไม่ทราบว่า อ.ไก่พอจะช่วยเชื่อมให้ได้ไหม

ประสานงานกันดีๆ งานนี้ทำได้ไม่ยากครับ เป็นไปได้สูง

ผมมองไปถึงการรวมกลุ่มดาราศิลปินสายปฏิบัติธรรม ที่มีอยู่มากหลายคนครับ หากออกมาร่วมกันทำโครงการต่างๆจะช่วยสร้างกระแสสร้างสรรค์ในสังคมไทยได้ครับ

 

คุณคณานันท์ ผมpostไม่ถูก ช่วยตัด ความเห็น1และ2 มันโพสไม่ได้
เอาความเห็นที่ 4 เป็นอันแรก ความเห็นที่3 เป็น2 แทนช่วยแก้ให้หน่อยครับ

 

แก้ให้แล้วครับผม โครงการนี้ดีครับ เป็นการใช้สื่อในการปลูกฝังสิ่งดีงามให้กับเด็กเยาวชนและบุคคลในสังคมทั่วไป

เคยได้ยินโครงการที่ พระพรหมวชิรญาณท่านจะจัดทำ สถานีโทรทัศน์ธรรมมะและที่เน้นเนื้อหาในเชิงสร้างสรรค์สังคมแต่ดูแล้วโครงการยังเงียบอยู่ คาดว่าส่วนใหญ่โครงการดีๆ แต่ไม่อาจบรรลุผลทางด้านการตลาดหรือสปอนเซอร์ได้

อันที่จริงหากมีการจัดรวมกลุ่มนักธุรกิจคุณธรรม หรือองค์กรธุรกิจที่ตอบแทนสังคมเป็นกลุ่มก้อนได้ ประเทศชาติจะได้ประโยชน์มากกว่านี้ครับ ที่ผ่านมา แต่ละท่านแต่ละบริษัทก็ต่างคน ตามทำโครงการของตนเอง ไม่ทำภาพรวมใหญ่ให้ชัดเจนแล้วแบ่งงานกันทำออกไปตามที่ถนัดซึ่งจะมีประสิทธิภาพสูงกว่าครับ

โฟกัสไปเลย งานแรก

ปลูกจิตสำนึกและกระแสคุณธรรมในสังคม โดยใช้วิธีและสื่อทางด้านต่างๆครบวงจร การส่งเสริม การให้กำลังใจ การผลักดันให้คนอยากทำดี อยากเป็นคนดี

ครั้นพอการทำความดีเป็นกระแสหลัก ของสังคม ไม่ช้าก็จะเป็นพลวัตขับเคลื่อนสังคมได้ในที่สุด

 

แก้อีกทีเอาข้อความที่บอกว่าเป็นโครงการของเภสัชกร สุภาวดี อ่อนชื่น
มาเป็นแรกสุด เดี๋ยวคนคิดว่าเป็นของผม
ข้อเสนอแนะของคุณคณานันท์เดี๋ยวผมจะคุยกับคุณสุภาวดี อีกที
เคยคุยกับเขาน่าจะนำเสนอ เสถียรธรรมสถาน ของแม่ชีศันสนีย์
เขาบอกว่าเขาเสนอทางวัดพระบาทน้ำพุแล้ว เขาเองอยากให้นักร้องเป็น
เด็กๆที่วัดนั้นใช้ดนตรีธรรมดามีการประสานเสียงของเด็กๆ
ผมเดาภาพในใจ น่าจะออกทาง"นกแล""ไอ้หนุ่มดอยเต่า น่าจะใช่
เขาจะรอวัดพระบาทน้ำพุตัดสินใจอยู่ครับ
วันหลังเขาคงมาคุยที่นี่เอง บอกไว้แล้ว

 

ขอกราบโมทนากับโครงการดีๆ ที่ ชัยมงคลสถาน นำมาเสนอ ครับ