แห่ขอเลขเด็ดตะเคียนตะลึงภาพถ่าย

​

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR vAlign=top align=left><TD class=headline-normal> แห่ขอเลขเด็ดตะเคียนตะลึงภาพถ่าย</TD></TR><TR vAlign=top align=left><TD class=messageblack> ใกล้หวยออกแวดวงคนหวังรวยลัดก็คึกคักกันอีกครั้ง โดยเมื่อเวลา 08.00 น. วันที่ 24 มิ.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่ามีนักเสี่ยงโชคหลายพันคนเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัวหรือเหมารถสองแถวเดินทางมาจุดธูปเทียนกราบไหว้ต้นตะเคียนหินอายุกว่า 700 ปี ที่วัดบึงแก้ว หมู่ 11 บ้านชนบท ต.ชนบท อ.ชนบท จ.ขอนแก่น หลังจาก 2-3 งวดที่ผ่านมานักเสี่ยงโชคแห่มาขอเลขเด็ดต้นตะเคียนหินแล้วสมปรารถนาทั่วหน้าและทุกคนเชื่อว่าเป็นอิทธิฤทธิ์ปาฏิหาริย์ของ “นางตะเคียน” ที่สิงสถิตอยู่และมีชาวบ้านบางรายอ้างว่าถ่ายรูปต้นตะเคียนกลับติดภาพหญิงสาวอย่างน่าพิศวง ซึ่งนำภาพภ่ายมายืนยันเป็นหลักฐานสร้างความฮือฮาอีกด้วยและในงวดนี้เลขที่นิยมกันได้แก่ 585, 575, 52, 53, 25 และ 37

ด้านความเคลื่อนไหวของ พระเล็ก พระธุดงค์ต้นตำรับหวยดัง 558 และ 41 แห่งวัดลาดทิพยรส ต.ลาดทิพยรส อ.ตาคลี จ.นครสวรรค์ ในงวดวันที่ 16 มิ.ย. 49 ส่งผลให้เซียนหวยถูกกินเรียบทั่วหน้าจนเก็บข้าวของหนีออกจากวัดไปได้ 2 วันแล้วนั้น โดยในวันเดียวกันนี้ยังมีเซียนหวยและชาวบ้านที่เคารพนับถือพระเล็กเดินทางไปที่วัดลาดทิพยรสไปนั่งล้อมวงจับกลุ่มหารือกันถึงข่าวต่าง ๆ และเชื่อว่าพระเล็กน่าจะหลบไปจำวัดที่ใดที่หนึ่งในพื้นที่ จ.ลพบุรี หรือ จ.สระบุรี คาดว่ามีชาวบ้านบางรายรู้ว่าพระเล็กอยู่ที่ไหนแต่ไม่ยอมเปิดเผยข้อมูล เพราะกลัวว่าหากสื่อมวลชนนำไปเผยแพร่ พระเล็กอาจไม่ให้เลขเด็ดในงวดวันที่ 1 ก.ค. 49 นี้อีก ทำให้เสียโอกาสร่ำรวยจากการเสี่ยงโชคในงวดหน้า

ส่วนความคืบหน้ากรณีพระครูฉาวเสพ เมถุนสุนัขและเด็กสาวที่ จ.พัทลุง น.ส.ดวงใจ ช.บุญพันธ์ รอง ผวจ.พัทลุง กล่าวว่า หลังจากข่าวเจ้าอาวาสทำเสื่อมเสียแพร่กระจายไปตามสื่อมวลชนแขนงต่าง ๆ สร้างความแตกตื่นให้กับทุกคนและรู้สึกห่วงใยพระพุทธศาสนา ในฐานะที่ดูแลโดยตรงในเบื้องต้นยังไม่ตัดสินอะไร ต้องการให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่ายทั้งเจ้าอาวาสและสังคม ได้เรียกประชุมหัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้องหารือแก้ไขปัญหาให้ชัดเจนในวันที่ 27 มิ.ย. นี้อีกครั้ง ขณะที่ พ.ต.ท.ประธีป เทพชัย รอง ผกก.สส. สภ.อ.เมืองพัทลุง สั่งการให้พนักงานสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อดำเนินคดีกับพระฉาวรูปนี้แล้ว แต่จนบัดนี้ยังทำอะไรไม่ได้ เพราะเป็นความผิดทางวินัยสงฆ์. </TD></TR></TBODY></TABLE>

ที่มา :