เรื่องเด่น เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันเสาร์ที่ ๒๒ มีนาคม ๒๕๖๘

ในห้อง 'หลวงพ่อเล็ก วัดท่าขนุน' ตั้งกระทู้โดย iamfu, 22 มีนาคม 2025 at 18:21.

สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้
  1. iamfu

    iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    21,056
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,681
    ค่าพลัง:
    +26,542
    เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันเสาร์ที่ ๒๒ มีนาคม ๒๕๖๘


     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • IMG_6801.jpeg
      IMG_6801.jpeg
      ขนาดไฟล์:
      308.1 KB
      เปิดดู:
      10
  2. iamfu

    iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    21,056
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,681
    ค่าพลัง:
    +26,542
    วันนี้ตรงกับวันเสาร์ที่ ๒๒ มีนาคม พุทธศักราช ๒๕๖๘ กระผม/อาตมภาพลงเหยียบท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิตอน ๐๔.๓๗ น. โดยปกติแล้วเครื่องจะถึงประมาณ ๐๕.๐๕ น. แต่เนื่องจากว่าได้รับความอนุเคราะห์สงเคราะห์จากบรรดาท่านทั้งหลายที่มีความเมตตาช่วยเหลือเป็นปกติ จึงทำให้มาถึงด้วยความสะดวก คล่องตัว และก่อนเวลาที่ควรจะเป็น ทำเอารถลีมูซีนที่คุณเผือกน้อย (นายเฉลิมเดช รุจิราวรรณ) เรียกเอาไว้นั้นถึงขนาดมาไม่ทัน เพราะคิดว่าเครื่องยังไม่ลง และที่มาทันก็กลายเป็นคนละคันคนละชื่อกันไป ต้องแก้ไขกันอุตลุด กว่าที่จะได้เดินทางกลับยังที่พัก

    เมื่อล้างหน้าล้างตา แต่งตัวใหม่แล้ว กระผม/อาตมภาพก็เดินทางไปยังศูนย์ปฏิบัติธรรมคณะสงฆ์จังหวัดนครปฐมแห่งที่ ๒ หมู่ที่ ๑ ตำบลขุนแก้ว อำเภอนครชัยศรี จังหวัดนครปฐม เพื่อไปเป็นเจ้าภาพถวายภัตตาหารเช้า แก่บรรดาพระวิปัสสนาจารย์ประจำสำนักปฏิบัติธรรมประจำจังหวัด ในเขตปกครองคณะสงฆ์ภาค ๑๔ ที่เข้าปฏิบัติธรรมร่วมกันเป็นเวลา ๑๐ วัน ซึ่งการปฏิบัติธรรมนี้จะมีอยู่ทุกปี

    กระผม/อาตมภาพนอกจากถวายภัตตาหารเช้าแล้ว ยังมอบปัจจัยสนับสนุนงานให้กับดร.ท่านเจ้าคุณอ๋อ (พระวชิรปัญญาภรณ์, ดร.) เลขานุการเจ้าคณะภาค ๑๔ อีก ๒๐,๐๐๐ บาท เพื่อร่วมสนับสนุนการปฏิบัติธรรมตลอด ๑๐ วันนี้ แล้วก็ขอตัวกลับที่พัก เพื่อที่จะได้ซักผ้าผ่อนท่อนสไบต่าง ๆ ที่หมกมา ๕ - ๖ วันแล้ว..!

    เมื่อวานนี้บนรถไฟด่วนพิเศษขบวนฮารุกะ ซึ่งตรงไปยังท่าอากาศยานนานาชาติคันไซ ก็มีภาพของพวกเราซึ่งก้มหน้าก้มตาทำงานอยู่บนรถไฟนั้น ประกอบไปด้วยไอ้ตัวเล็ก (นางสาวพัชรีภรณ์ หยกอุบล) ทำการตรวจสอบและลงตารางบุคคลผู้จองพระสมเด็จคำข้าวมหาลาภปลดหนี้ ๒ แผ่นดิน ซึ่งเหลืออยู่แค่ไม่กี่องค์ กระผม/อาตมภาพกำลังมองอยู่ว่าเหลือเท่าไรจะเหมาหมด เพื่อที่จะได้เก็บเอาไว้เป็นไม้ตายประจำตัวบ้าง

    ส่วนหม่อมเยี่ยม (ม.ล.พิชวัฒน์ จักรพันธุ์) นั้น ก็ตั้งหน้าตั้งตาตัดแต่งเสียงธรรมจากวัดท่าขนุน ซึ่งบางทีกระผม/อาตมภาพก็มีไอมีจามบ้าง ต้องตัดออก หรือว่าบางช่วงหยุดหายใจ หรือว่าสำลักน้ำลายก็โดนตัดเสียงออกเช่นกัน ที่ฟังการพูดลื่นไหลไปตลอดระยะเวลาของเสียงธรรมในวันนั้น ๆ เพราะว่าได้รับการขัดเกลามาในระดับหนึ่งแล้ว
     
  3. iamfu

    iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    21,056
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,681
    ค่าพลัง:
    +26,542
    เมื่อพวกเราไปถึงท่าอากาศนานาชาติคันไซ ก็ได้ตรงเข้าไปยังบริเวณสนามบินโซน H ที่บอกเอาไว้อย่างชัดเจนว่าให้พวกเราไปรับกระเป๋าที่ฝากไว้ตั้งแต่เมื่อเช้านี้ ซึ่งมาถึงไล่เลี่ยกับพวกเรา ดังนั้น..จึงต้องมีการ "เดินและวิ่งการกุศล" กันอีกตามเคย เนื่องเพราะว่าสถานีรถไฟ ตลอดจนกระทั่งสนามบินในญี่ปุ่นนั้น ต้องมีให้เราขึ้นฟ้าลงดินกันทุกแห่ง กระผม/อาตมภาพใช้บันไดปกติ ขณะที่คนหมดเรี่ยวหมดแรงแล้วจากการช็อปปิ้งก็ใช้บันไดเลื่อนกันไป

    เมื่อพวกเราไปถึง แจ้งกับทางเจ้าหน้าที่แล้ว เขาบอกว่ามีกระเป๋าแค่ ๒ ใบ กระผม/อาตมภาพจึงเปิดรูปที่ถ่ายเอาไว้ บอกว่า "Five more" คืออีก ๕ ใบ เมื่อเขาเห็นรูปและสีของกระเป๋าก็รีบวิ่งกลับเข้าไปดูใหม่ ท้ายที่สุดก็นำมาให้จนครบทั้ง ๗ ใบ เมื่อพวกเราได้กระเป๋ามาแล้ว ส่วนหนึ่งก็ไปทำการเช็คอินผ่านเครื่องอัตโนมัติ อีกส่วนหนึ่งก็มาจัดกระเป๋าเสียใหม่ ปรากฏว่ามีบางคนตอนมาเห็นหิ้วกระเป๋ามาใบเดียว ตอนกลับกระเป๋าออกลูกออกหลานเป็น ๓ ใบไปเรียบร้อยแล้ว..!

    ส่วนตัวกระผม/อาตมภาพก็มีปัญหาอยู่เช่นเคย ก็คือไม่สามารถที่จะเช็คอินได้ด้วยระบบอัตโนมัติ เนื่องจากว่าสมณศักดิ์ของพระนั้นไม่มีนามสกุล จึงทำให้เครื่องไม่ยอมรับ ต้องไปเช็คอินที่หน้าเคาน์เตอร์ซึ่งจะเปิดตอน ๒๑.๔๕ น. แต่ว่าทิดโฮป (นายกฤตบุญ ปัญจรัตนากร) ใช้ความสามารถส่วนตัว ที่ทางประเทศสิงคโปร์ถึงขนาดเชิญไปทำงาน ก็คือเป็นผู้เชี่ยวชาญทางไอที ใช้ "วิชามาร" เข้าไปทำให้กระผม/อาตมภาพสามารถเช็คอินออนไลน์จนได้..!

    เมื่อทุกอย่างเสร็จสิ้นเรียบร้อย ส่วนหนึ่งก็ไปเดินช็อปปิ้งหรือว่าหาอาหารเย็นรับประทานกัน อีกส่วนหนึ่งก็ทำหน้าที่ของตนเอง อย่างเช่นคุณเผือกน้อย (นายเฉลิมเดช รุจิราวรรณ) ก็ตั้งหน้าตั้งตาถอดเสียงธรรมจากวัดท่าขนุนเป็นตัวอักษร พวกเราทำงานไปก็ดูผู้คนที่วุ่นวายไปหมด เพราะว่าสนามบินนานาชาติคันไซนั้น มีผู้ใช้บริการค่อนข้างที่จะมากทีเดียว

    จนกระทั่งการถอดเสียงธรรมจากวัดท่าขนุนเสร็จเรียบร้อย หมอโส (นายโสภณ ศิริปุณย์) ก็ถามกระผม/อาตมภาพว่า "มีอาการเจ็บอาการป่วยที่ใดบ้าง ?" จึงบอกไปว่าที่มางวดนี้ไม่มีความเจ็บป่วยเลย ด้วยสาเหตุ ๒ ประการ ประการแรกก็คือได้รับการอนุเคราะห์สงเคราะห์จากพี่ใหญ่ ก็คือท่านอสุรินทราหูและท่านปู่ ก็คือท่านท้าวเวสสุวรรณ หัวหน้าท้าวมหาราชทั้ง ๔ ที่ช่วยติดตามดูแลประคับประคองกายสังขารให้ ถ้าหลายท่านสังเกตจะเห็นว่ากระผม/อาตมภาพถึงจะเซบ้าง ลื่นบ้างตอนเดินอยู่ แต่จะไม่มีวันล้ม หลายคนที่ผวาเข้าไป จะช่วยจับช่วยประคองก็เลยเสียเวลาเปล่า
     
  4. iamfu

    iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    21,056
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,681
    ค่าพลัง:
    +26,542
    ความจริงแล้วท่านที่จะช่วยอย่างสนิทชิดเชื้อเลย ก็คือท่านท้าวธตรฐ เนื่องเพราะว่ามีความสัมพันธ์กันมาในอดีตชาติ แต่กระผม/อาตมภาพไม่มีรูปเป็นที่ระลึกจากท่าน จึงได้นำเอารูปหล่อท้าวเวสสุวรรณเนื้อทองผสม ของท่านเจ้าคุณศรีสัจจญาณมุนี (สนธิ์ ยติธโร ป.ธ. ๗) วัดสุทัศนเทพวราราม ติดตัวมาแทน ทำให้กลายเป็นท่านปู่ท้าวเวสสุวรรณต้องตามดูแล พร้อมกับท่านพี่อสุรินทราหูด้วย

    แต่ว่าอาการเจ็บป่วยเก่านั้นก็คือมีอาการไหล่ติด เนื่องจากว่าบิณฑบาตด้วยการใช้สายบาตรคล้องไหล่ข้างเดียวมาเกือบ ๔๐ ปีแล้ว เมื่อต้องรับน้ำหนักมาก ๆ ทุกวัน กลายเป็นอาการเจ็บสะสม จนท้ายที่สุดก็ทำท่าว่าจะยกแขนไม่ขึ้น หมอโสจึงจัดการควักเข็มที่ติดตัวมาด้วย เพราะตั้งใจจะช่วยอนุเคราะห์สงเคราะห์กระผม/อาตมภาพอย่างเต็มที่ ทำการฝังเข็มให้ตรงนั้นเลย ทำเอานักท่องเที่ยวจีนหลายท่านที่เล็ง ๆ มองอยู่ ยกหัวแม่มือให้ ประมาณว่าคนฝังก็ยอดฝีมือ ส่วนคนรับการฝังก็ไม่แอะอะไรเลยสักคำเดียว..!

    เมื่อทุกอย่างเสร็จเรียบร้อยแล้ว เผือกน้อยก็นำกระผม/อาตมภาพไปผ่าน ตม.ก่อน ซึ่งเป็นการผ่านที่ต้องบอกว่าสะดวกสบายมาก เนื่องเพราะว่าทิดโฮปได้จัดการเปลี่ยนจากการเช็คอินออนไลน์ ออกมาเป็นคิวอาร์โค้ดให้กระผม/อาตมภาพแล้ว เมื่อผ่านเครื่องแค่สแกนคิวอาร์โค้ดและสแกนพาสปอร์ต ก็ผ่านไปได้แบบง่าย ๆ

    แต่ว่าสนามบินคันไซนั้นใหญ่ไม่น้อยเลย พวกเราต้องไปถึงประตูขึ้นเครื่องที่ ๓๐ จึงต้องขึ้นรถรางที่เขามารอรับอยู่ แต่ว่าในช่วงที่ผ่านเครื่องเอ็กซเรย์นั้น เจ้าหน้าที่ผู้หญิงชี้ให้กระผม/อาตมภาพถอดรองเท้ากันหิมะออกก่อน เพื่อนำเข้าเครื่องสแกน โดยที่มีความเมตตานำรองเท้าแตะมาให้กระผม/อาตมภาพใส่แทน

    ต้องบอกว่าคนญี่ปุ่นนั้นมี "วิถีบูชิโด" หรือ "คุณธรรมของนักรบ" เปี่ยมอยู่ในเลือดเนื้อและชีวิต เพราะได้รับการปฏิบัติมาหลายต่อหลายรุ่น สืบเนื่องกันมาตั้งแต่บรรพบุรุษ คนญี่ปุ่นจึงมีบุคลิกลักษณะอ่อนน้อม ใส่ใจในทุกรายละเอียด ให้ความเคารพผู้อื่นเป็นปกติ แต่ว่าถึงเวลาทำงานแล้ว จริงจังเด็ดขาดมาก ประมาณว่าพร้อมที่จะแลกชีวิตกับงาน ตามวิสัยของนักรบบูชิโดนั่นเอง
     
  5. iamfu

    iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    21,056
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,681
    ค่าพลัง:
    +26,542
    เมื่อถอดรองเท้าเสร็จ จะเดินผ่านเครื่อง เจ้าหน้าที่หญิงที่เดินผ่านเข้าไปก่อน เครื่องร้องเสียงดังสนั่นหวั่นไหวมาก ก็เลยรีบหันกลับมา ยกมือทำท่าให้กระผม/อาตมภาพยืนรอก่อน จนกระทั่งระบบกลับเป็นปกติแล้ว กระผม/อาตมภาพจึงเดินผ่านไปโดยเงียบกริบ ทั้ง ๆ ที่ในตัวนั้นประกอบไปด้วยพระสมเด็จองค์ปฐม รุ่น ๒ วัดท่าซุง พระสมเด็จคำข้าว พระสมเด็จหางหมาก รุ่น ๑ ทั้งคู่ของวัดท่าซุง พระ ๒๕ พุทธศตวรรษ เนื้อดิน และพระหลวงปู่ปานขี่ครุฑ ซึ่งทั้งหมดนั้นล้วนแต่เลี่ยมทอง และมีแหนบแขวนทั้งสิ้น..!

    ที่เอวก็ยังมีท่านปู่ท้าวเวสสุวรรณเนื้อทองผสม และท่านพี่อสุรินทราหูอยู่ด้วย ซ้ำยังมีกุญแจตลอดจนกระทั่งข้าวของบางอย่างที่เป็นโลหะ แต่ผ่านไปแบบเงียบฉี่ คุณหนูเธอก็ไว้ใจพระเหลือเกิน โบกมือให้ไปรับของโดยที่ไม่ได้ตรวจร่างกายซ้ำเลย..!

    เมื่อพวกเรานั่งรถรางไปจนถึงประตูที่ ๓๐ เวลาขึ้นเครื่องก็คือ ๐๐.๔๕ น. กระผม/อาตมภาพกับเผือกน้อยจึงได้นั่งภาวนาแข่งกัน รอจนกระทั่งท่านอื่น ๆ ซึ่งเป็นขาช็อปปิ้ง ทำการละลายทรัพย์จนกระทั่งแบกไม่ไหวแล้ว ตามกันเข้ามา รอจนกระทั่งได้เวลา พวกเราก็ขึ้นสู่เครื่องบิน เดินทางกลับสู่สนามบินนานาชาติสุวรรณภูมิ ครั้นเวลาประมาณ ตี ๓ ครึ่งของประเทศไทย ซึ่งเป็นเวลาตี ๕ ครึ่งของญี่ปุ่น เจ้าหน้าที่ก็ได้เสิร์ฟอาหารเช้าให้ ซึ่งเป็นข้าวหน้าไก่อบพริกไทย ฉันเสร็จเรียบร้อย เข้าห้องน้ำแล้ว ก็ได้เวลาลงสู่สนามบินสุวรรณภูมิพอดี

    การไปประเทศญี่ปุ่นในครั้งนี้ต้องบอกว่าเป็นทริปที่สนุกสนานมาก ได้ออกกำลังกันอย่างชนิดที่เหลือเชื่อเลยทีเดียว เนื่องเพราะว่าบางคนมีแก็ดเจ็ตติดตัวไปด้วย ทำการวัดระยะการเดินทางแล้ว ได้ถึง ๔๐,๐๐๐ กว่าก้าวในแต่ละวันก็มี ซึ่งหลายท่านก็บอกว่าถ้าตัดการช็อปปิ้งออกไปแล้ว อย่างน้อย ๆ ก็ต้องได้ถึง ๒๐,๐๐๐ ก้าวต่อวันประมาณนั้น ทำให้รู้สึกว่าร่างกายแข็งแรงขึ้น ซึ่งเป็นสาเหตุที่สอง ก็คือนอกจากได้รับความอนุเคราะห์สงเคราะห์จากท่านผู้เมตตาแล้ว ตนเองก็ยังออกกำลังกายอย่างหนักอยู่ทุกวัน สภาพร่างกายจึงยังพอไหว ไม่ได้เจ็บไข้ได้ป่วยอะไร แม้แต่ยาที่เตรียมเอาไว้สำหรับ ๖ วัน ก็ได้แต่ฉันกันไข้ไปเฉพาะตอนที่เจอหิมะบนยอดเขาโคยะซังเท่านั้น

    สำหรับวันนี้ก็ขอเรียนถวายพระภิกษุสามเณรของเรา และบอกกล่าวแก่ญาติโยมแต่เพียงเท่านี้

    พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
    เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
    วันเสาร์ที่ ๒๒ มีนาคม พุทธศักราช ๒๕๖๘
    (ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
     
สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้

แชร์หน้านี้

Loading...