เสริมการสะเดาะเคราะห์ (ตามวิธีหลวงพ่อแนะนำในคลิปเปิดในพิธีสะเดาะเคราะห์ 13 เม.ย. 67)

ในห้อง 'หลวงพ่อฤๅษีลิงดำ' ตั้งกระทู้โดย Wannachai001, 20 เมษายน 2024.

  1. Wannachai001

    Wannachai001 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    8,844
    กระทู้เรื่องเด่น:
    119
    ค่าพลัง:
    +225,741
    (((((41944373404_n.jpg
    เสริมการสะเดาะเคราะห์
    (ตามวิธีหลวงพ่อแนะนำในคลิปเปิดในพิธีสะเดาะเคราะห์ 13 เม.ย. 67)


    ผลของทาน ผลของศีล ผลของการเจริญภาวนา ผลของการสงเคราะห์นักเรียน ผลของการบวชเณร ผลของการบวชชี

    ซึ่งผลของทานจะเป็นปัจจัยให้เกิดความสุขมีทรัพย์มาก

    ผลของศีลจะเกิดให้มีความสุขความเยือกเย็นใจ

    ผลของการเจริญภาวนาจะทำให้สุขใจมากมีปัญญา

    และผลของการสงเคราะห์นักเรียนนักศึกษาจะได้ปัญญาบารมี

    ผลของการบวชเณรองค์หนึ่ง เราได้สวรรค์กัปหนึ่ง ถ้าบวช 100 องค์เราก็ได้สวรรค์ 100 กัป ผลของบวชเณรจะมีอายุบนสวรรค์หรือพรหมโลกยืนนาน

    ผลของการบวชชีกรรมบถ 10 นี่มีผล 3 อย่าง คือ ต้องปฏิบัติ กายกรรม วจีกรรม มโนกรรม ไม่เหมือนศีล 8 หรือศีล 5 ละเอียดกว่า

    ด้านกายกรรมของเขาจะเป็นปัจจัยให้เรามีร่างกายมีความสุข ในชาติหน้าสวยสดงดงาม ด้านวจีกรรมจะเป็นเหตุให้มีวาจาเป็นทิพย์พูดอะไรมีคนชอบฟัง
    ด้านมโนกรรม จะทำให้จิตใจบุคคลทั้งหลายมีกำลังใจเยือกเย็น

    ฉะนั้นการบวชเณร บวชชีมีผลร่วมกัน 4 ประการ คือ

    1. มีอายุยืนนานบนสวรรค์
    2. รูปร่างหน้าตาสวย
    3. วาจาเป็นทิพย์
    4. ใจเป็นสุข

    ต่อไปนี้ขอให้ทุกคนสมาทานศีล

    หลังจากสมาทานศีลแล้วหลวงพ่อได้นำญาติโยมพุทธบริษัททั้งหลายสมาทานพระกรรมฐานและเจริญสมาธิประมาณสัก 10 นาที เมื่อหมดเวลาเจริญสมาธิหลวงพ่อได้เมตตาเล่าให้บรรดาญาติโยมพุทธบริษัททั้งหลายฟังว่า

    "ขณะที่บรรดาญาติโยมพุทธบริษัทนั่งหลับตาภาวนาอยู่ ตอนนั้นก็มีเทวดาชั้นจาตุมหาราช แต่งตัวชุดสีแดงๆ ชุดสีแดงๆนี่คุมเคราะห์กรรม เคราะห์กรรมต่างๆที่พึงมีเทวดาชุดนี้คุม ท่านมาบอกว่าที่นั่งอยู่ที่นี้มีอยู่ 8 คนที่ทำเฉพาะเท่านี้นะช่วยกันไม่ได้ นอกนั้นช่วยได้หมด

    อีก 8 คนขอให้ทำแบบนี้คือ หนึ่งใช้ไก่หนึ่งชิ้นแต่ห้ามไปฆ่าไก่ที่บ้านหรือที่วัดนะ ห้ามฆ่าไก่นะโยมนะ เอาไก่หนึ่งชิ้นจะเป็นชิ้นเล็กชิ้นโตไม่สำคัญ เอาขาสักขาหนึ่งไปซื้อเขามาที่สุกแล้ว แล้วก็มาใช้ธูป 3 ดอกแล้วก็เทียน 3 เล่ม บูชาพระ

    บูชาพระเสร็จถือว่าเคราะห์กรรมใดๆ ที่พึงมีขอทำบุญถวายทานกับบรรดาพระสงฆ์ด้วยไก่ชิ้นนี้ และขอให้เจ้ากรรมนายเวรขอให้อโหสิกรรมด้วย

    ก็ถามท่านว่า คน 8 คนคือใคร ท่านบอกเหมือนกันโยม


    อาตมาก็ไม่ขอบอก ขอปิดไว้ก่อน ถามว่าบังเอิญคนอื่นที่ไม่มีเคราะห์กรรมแบบนั้นจะทำบ้างจะมีผลอย่างไรบ้าง เพราะของราคาไม่แพง

    ท่านบอกคนอื่นที่ไม่มีเคราะห์กรรมอย่างนั้นถ้าทำบ้าง จะมีการคล่องตัวยิ่งขึ้นหมายความว่าโชดดีมากขึ้น

    ทุกคนทำได้นะ คือทำเผื่อไก่ ชิ้นไม่โตนักจะเป็นไก่ย่างก็ได้ เป็นขาก็ได้ แล้วก็เทียนเล่มเล็กๆ 3 เล่ม ธูป 3 ดอก จุดบูชาพระเสียก่อน แล้วก็บอกว่าขอทำไก่นี้หนึ่งชิ้น ถวายแก่พระสงฆ์ในพระพุทธศาสนา ขอเจ้ากรรมนายเวรโปรดโมทนาด้วยแล้วก็อภัยให้ด้วย อโหสิกรรมให้ด้วย

    หลังจากนั้นก็เอาไก่ไปถวายที่วัด หรือว่าจะทำตอนเช้ามืดเวลาเช้าพระบิณฑบาตก็ใส่บาตรพร้อมกับพระมาก็ได้นะ

    ตอนที่จะเลิกพอดีท่านผกาพรหมมาองค์นี้ใหญ่มาก แต่งตัวขาวแพรวพราวเป็นระยับ ท่านผกาพรหมท่านมา ท่านบอกว่า รอก่อนครับ เพียงเท่านั้นยังไม่พอ มีเรื่องหนึ่งที่ผมหนักใจ เพราะงานนี้ผมก็ต้องรับรองด้วย ท่านบอกว่าโดยเฉพาะอย่างยิ่งคนที่เคยเอาของสงฆ์ไป มีไหมของในวัดมันก็มีสองอย่าง ถ้าเป็นตันไม้ดอก ต้นไม้ผล หรือต้นไม้ผักหญ้ากิน

    ถ้าคนปลูกยังอยู่ ขอกับคนปลูกนี่ไม่ถือว่าเป็นของสงฆ์ แต่ว่าพระที่ปลูกสึกไปแล้วก็ดี ตายไปแล้วก็ตาม ตกเป็นของสงฆ์ เป็นอย่างนี้จะขัดข้องต่อการสะเดาะเคราะห์


    ท่านบอกว่าคนที่เคยเอาของสงฆ์ไป หรือเคยบุกรุกในที่ของสงฆ์ก็ตาม ชำระหนี้สงฆ์เสีย ก็ถามท่านว่าจะชำระหนี้สงฆ์ยังไง

    ท่านบอกเอาอย่างนี้ก็แล้วกัน ตั้งใจชำระหนี้สงฆ์กันเดือนละบาทจะไปให้วัดไหนก็ได้ จะเก็บไว้ก่อนก็ได้ เดือนหนึ่งใส่กระป๋องไว้หนึ่งบาทตั้งใจชำระหนี้สงฆ์ หลายๆเดือนจนครบหนึ่งปีเข้าไปถวายวัดใดวัดหนึ่งก็ได้ แล้วบอกพระว่าเงินจำนวนนี้ผมขอชำระหนี้สงฆ์ เอาเท่านี้นะ ถ้าเพียงเท่านี้ท่านช่วยสะเดาะเคราะห์ได้"

    แล้วหลวงพ่อได้เมตตาเล่าให้ฟังนิดหนึ่งว่า

    "การสะเดาะเคราะห์คราวนี้มีท่านผกาพรหมเป็นเจ้าภาพ ท่านคุมงานนะเมื่อกี้ขณะที่พระให้พร อาตมาก็บอกว่าในฐานะที่ท่านผกาพรหมเป็นเจ้าภาพใหญ่คุมงาน ถ้าบรรดาญาติโยมพุทธบริษัทมีอารมณ์ขัดข้องใดๆให้บอกท่านผกาพรหมช่วยเหลือได้ไหม

    ท่านบอกว่าได้เหมือนกันแต่ต้องบอกท่านท้าวเวสสุวัณด้วย

    ท้าวเวสสุวัณท่านก็บอกว่า ได้ครับ

    ก็เป็นอันว่าถ้าบรรดาญาติโยมพุทธบริษัทขัดข้องใดๆเกิดขึ้น และต้องการการคล่องตัว ก็นึกถึงพระพุทธเจ้าก่อน พระปัจเจกพุทธเจ้า พระอรหันต์เสร็จ แล้วก็บอกท่านท้าวผกาพรหมและท่านท้าวเวสสุวัณ ช่วยแล้วกันนะ"


    (คัดลอกบางส่วนจาก ธัมมวิโมกข์ ฉบับที่ 100 เดือนมิถุนายน 2532 หน้า 66-68)
     

แชร์หน้านี้

Loading...