เรื่องเล่าของอาจารย์แปลก จอมขมังเวทย์แห่งวัดสะพานสูง

ในห้อง 'ประสบการณ์ เรื่องเล่า' ตั้งกระทู้โดย satan, 27 สิงหาคม 2008.

  1. satan

    satan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 ตุลาคม 2004
    โพสต์:
    5,015
    ค่าพลัง:
    +17,915
    เรื่องเล่าของอาจารย์แปลก จอมขมังเวทย์แห่งวัดสะพานสูง

    ถ้าเคยได้ยินวัดสะพานสูงนนทบุรี ก็จะนึกถึง พระเดชพระคุณ หลวงปู่เอี่ยม(ปฐมนาม)แห่งวัดสะพานสูง เจ้าของวิชาตะกรุดโสฬสมงคล อันโด่งดัง และศิษย์ของท่าน ที่สืบทอดวิชาสายนี้ ทั้ง ปลวงปู่กลิ่น ถึงหลวงพ่อทองสุข แต่ถ้าไม่กล่าวถึงอาจารย์ แปลกก็คงไม่ได้ ท่านเป็นศิย์เอกของหลวงปู่เอี่ยม แม้จะสึกเป็นฆารวาสก็เข้มขลังไม่แพ้ใครครับ

    ว่ากันตามคำบอกเล่าต่อๆกันมาได้ความคร่าวๆว่าอาจารย์เเปลก (หรือ เเปลก เรือลอย) ท่านเป็นศิษย์ของหลวงปู่เอี่ยม ปฐมนาม แห่งวัดสะพานสูง เล่ากันว่าพื้นเพเดิมท่านก็เป็นคนเมืองนนท์โดยกำเนิด ในคราวที่อุปสมบทที่วัดสะพานสูงก็เป็นพระรุ่นพี่ของหลวงปู่กลิ่นซึ่งบวชในยุคราวคราวเดียวกัน แต่อาจารย์แปลกนั้นบวชมาก่อนเลยแก่พรรษากว่าหลวงปู่กลิ่น ท่านได้ศึกษาสรรพวิชาจากหลวงปู่เอี่ยมมาพร้อมๆกับหลวงปู่กลิ่น โดยเฉพาะวิชาการสร้างตะกรุดอันลือลั่นของสายวัดสะพานสูง ตะกรุดของท่านนั้นขมังมากนัก เน้นหนักไปทางคงกระพันและแคล้วคลาดเป็นหลัก ถึงขนาดนักเลงเมืองนนท์สมัยก่อนเชื่อกันถึงความหนียวของพุทธคุณตะกรุดอาจารย์แปลก ปืนและมีดดาบไม่เคยต้องหวั่นกลัว ถึงคราวที่จะต้องประลองกัน ถ้าได้อาราธนาตะกรุดของอาจารย์แปลก มีแต่จะวิ่งเข้าใส่ เพราะของท่านแรงจริงๆ

    ด้วยความที่ท่านได้เคร่งศึกษาการสร้างตะกรุดให้ดีเลิศ จนทำให้ท่านถึงขั้นร้อนวิชา หลวงปู่เอี่ยมท่านจึงแนะนำให้ลาสิขาเพื่อไปครองเพศฆราวาสจะดีกว่า แต่อาจารย์ท่านก็ยังให้ถือศีลและข้อห้ามต่างๆอย่างเคร่งครัดเพื่อให้ได้ถึงความขลังในการสร้างตะกรุดของอาจารย์แปลก หลังลาสิขา ชีวิตของท่านส่วนใหญ่จะอาศัยกินนอนอยู่บนเรือ เพราะถือหลักที่ว่าความแรงและความขลังสามารถบรรเทาอากัปกิริยา และปล่อยวางได้ถ้าได้อาศัยอยู่บนน้ำ ท่านจึงไม่มีที่อยู่เป็นหลักเเหล่ง เร่ร่อนไปเรื่อยๆ ปล่อยให้เรือลอยไปโดยไม่ใช้ไม้พาย เล่ากันว่าในคลองพระอุดมสมัยก่อน ถ้าได้ข่าวว่าเรือของอาจารย์แปลกท่านลอยมาถึง ทุกๆบ้านที่มีลูกสาวก็จะเตรียมท่อนไม้ไผ่ยาวๆไว้ที่ท่าเทียบเรือ เมื่อไรที่เรืออาจารย์แปลกลอยมาติดที่ท่าเรือหลังบ้าน เจ้าของบ้านก็จะคอยเอาไม้ไผ่ที่เตรียมไว้ เขี่ยเรืออาจารย์แปลกออกไป ไม่ให้มาติดที่ท่าจอด ถ้าบ้านไหนไม่ได้เตรียมไว้แล้วเรืออาจารย์แปลกมาลอยติดที่ท่าแล้วจอด เพียงแค่พ้นคืนราตรีเดียว ลูกสาวของบ้านนั้นก็ไม่พ้นที่จะตกเป็นเมียของท่าน

    บางครั้งก็จะมาจอดที่หน้าวัดสะพานสูง มีเหตุการณ์ครั้งหนึ่ง ช่วงนั้นเป็นช่วงเข้าพรรษา อยู่ดีๆเรืออาจารย์เเปลกก็มาจอดหน้าวัดสะพานสูง ทันทีที่อาจารย์เเปลกถึงวัด ก็เดินตรงเข้ามาที่กุฎิหลวงปู่กลิ่นทันที เเล้วตรงเข้ามากราบหลวงปู่กลิ่นอย่างนอบน้อม เเล้วเอ่ยถามหลวงปู่กลิ่นว่า ... อาจารย์ลากเรือผมมาที่วัดทำไมครับ หลวงปู่กลิ่นท่านยิ้มเเล้วตอบว่าน้ำปีนี้จะมีมาก อยากให้มาอยู่ที่วัดเสียด้วยกัน เเละเป็นที่น่าอัศจรรย์ยิ่งในปีนั้นเอง เกิดมีน้ำมากจริงๆ เหตุการณ์ครั้งนี้เเสดงให้เห็นว่าหลวงปู่กลิ่นท่านรับรู้ด้วยญาณก่อนเเล้ว เเละในปีนี้เองที่อาจารย์เเปลกลงตะกรุดโสฬสมงคลเเจอศิษย์ไว้มากที่สุด

    การสร้างตะกรุดของอาจารย์แปลกนั้นเข้มขลังมาก พระยันต์ที่ประทับด้านในมักจะเป็นพระยันต์โสฬสมงคลของวัดสะพานสูง ส่วนจารนอกก็แล้วแต่ท่านจะลงหรือไม่ และมียันต์หลายๆแบบที่ใช้ในการประทับหน้า (ผมเองได้เคยพบยันต์เป็นรูปองค์พระในคราวที่มีโอกาสได้เลาะเชือกศึกษาตะกรุดอาจารย์แปลกครั้งหนึ่ง) เล่ากันว่าเวลาท่านจารและเสกตะกรุด คนที่มาขอตะกรุดท่านต้องไปนั่งห่างๆด้านหน้า พออาจารย์แปลกทำตะกรุดเสร็จก็จะโยนไปข้างหน้าที่ศิษย์มาขอ แล้วเอ่ยวาจาให้ศิษย์ก้มเก็บตะกรุดของท่านให้หน่อย เพราะมันกระโดดไป พอศิษย์เผลอก้มเก็บตะกรุดของท่าน

    ในช่วงวินาทีที่มือของศิษย์ได้จับสัมผัสกับตะกรุดแล้ว ในเวลานั้นอาจารย์แปลกก็จะหยิบหลาวไม้ยาวที่มีปลายเป็นเหล็กแหลม คว้างเข้าใส่อย่างแรงและเร็วเพื่อหวังจะได้เข้ากลางหลัง แต่หลาวดังกล่าวก็จะกระดอนออกไปจากตัวศิษย์ทุกครั้งไป ตัวศิษย์เองก็ตกใจไม่น้อย แต่ก็ทำให้เชื่อและศรัทธาถึงอานุภาพตะกรุดของอาจารย์แปลก และจะหวงแหนเป็นอย่างยิ่งเมื่อได้ครอบครอง จะเก็บไว้ติดแนบกายไม่ห่างเลย นอกจากตะกรุดโสฬสที่ท่านมักจะสร้างเสมอๆแล้ว ยังมีตระกรุดอีกหลายแบบที่ท่านได้สร้าง ซึ่งล้วนแต่จะขลังและหายากยิ่ง เช่น ตะกรุดคุ้มบ้าน ตะกรุดเมตตา (แต่ผมว่าก็ยังไม่พ้นเหนียวอยู่ดี) และที่หายากและเป็นที่หวงแหนกันยิ่งคือ ตะกรุดเป่าแล่น ใครได้ครอบครองก็จะใช้ติดตัวไม่เคยห่าง เรื่องนี้คนเก่าแก่ในพื้นที่จะรู้จักกันดี

    ในสมัยคราวที่ท่านอาจารย์แปลกทำการสร้างตะกรุดนั้น ท่านเน้นย้ำเสมอว่าตะกรุดของท่านไม่ให้ซื้อขาย อยากได้ก็มาขอเอาเอง ยกเว้น พ่อให้ลูก อาจารย์ให้ศิษย์ หรือให้กันเองในเครือญาติ ผู้ใหญ่กับผู้น้อย ผู้บังคับบัญชากับผู้อยู่ใต้บังคับบัญชา ถ้าจะต้องให้ผู้อื่นด้วยความเสน่หาแล้วมีผลตอบแทนกลับมาเป็นสินน้ำใจ ให้นำเอาสินน้ำใจหรือเงินดังกล่าว มาถวายหรือทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา คำสอนดังกล่าวของท่านนั้นทำให้ผมรู้สึกได้ว่า ถึงแม้ท่านอาจารย์จะเป็นฆราวาส แต่อาจารย์แปลกท่านก็เปี่ยมไปด้วยคุณธรรมและเมตตาธรรม นั่นเองที่ทำให้ท่านขลังมากนักแล

    สำหรับชื่อของท่าน "แปลก" นั้นผมเองก็ไม่แน่ใจว่าเป็นชื่อเดิมของท่านเองเลยหรือเปล่า หรือเป็นการเรียกฉายาตามพฤติกรรมของท่านที่บางครั้งแปลกผิดกับคนทั่วไปกระทำ ครั้นท่านสร้างตะกรุดให้กับผู้หลักผู้ใหญ่ ท่านจะทุ่มเทในการสร้างเป็นอย่างมาก ปราณีตในการเสก ขนาดทุ่มเทสรรพกำลังที่มีอยู่เพื่อให้ได้ตะกรุดที่มีอานุภาพขั้นสูง ในบางครั้งถึงขึ้นที่ต้องคาบแผ่นทองแดงและเหล็กจาร ปีนขึ้นไปบนต้นตาลหน้าวัดที่สูงเป็นสิบๆเมตร เมื่อถึงปลายยอดก็ใช้ขาหนีบต้นตาลไว้แล้วห้อยหัวลงมาเพื่อทำการจารตะกรุด แล้วเสกจนเสร็จ ถึงได้ลงมาจากต้นตาล ซึ่งท่านห้อยหัวอยู่บนนั้นนานเป็นหลายชั่วโมง

    พอได้ลงมาศิษย์ก็ถามว่าทำไมท่านจึงต้องปีนต้นตาลเช่นนั้น ท่านว่า "มันแรง มันร้อน มันร้อนมากๆ ต้องไปให้ลมแรงๆโกรกใส่" สำหรับตะกรุดพิเศษนี้ท่านจะให้ศิษย์นำทองแดงที่ม้วนเป็นตะกรุดดังกล่าว เข้าไปกราบหลวงปู่กลิ่นผู้ที่อาจารย์แปลกนับถืออย่างยิ่งท่านหนึ่ง เพื่อของผงพุทธคุณ ที่เรียกว่าผงโสฬสมงคลซึ่งเป็นผงชนิดเดียวกันกับที่หลวงปู่กลิ่นท่านใช้สร้างพระปิดตา มาโรยที่ตะกรุดหลังจากถักเชือก แล้วนำไปคลุกหรือลงรักคลุมไว้เพื่อให้ผงวิเศษได้เกาะตัวติดกับตะกรุด แล้วนัดให้ศิษย์เข้ามารับตะกรุดอีกทีในวันหลัง ก่อนที่จะมอบให้กับศิษย์ท่านก็จะนำตะกรุดดังกล่าวไปปลุกเสกอีกครั้งหนึ่งเพื่อเพิ่มความเข้มขลัง ในบางครั้งท่านก็จะเข้าไปกราบขอเมตตาจากหลวงปู่กลิ่นเพื่อช่วยเสกกำกับให้อีกคราว

    เล่าถึงเรื่องความแปลกของท่านอาจารย์แปลก เรื่องหนึ่งที่ผมยังจำได้ไม่เคยลืมเพราะถือว่าเป็นเรื่องเล่าที่แปลกจริงๆ คือเรื่องอาจารย์แปลกกับกรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ ว่ากันว่าในคราวที่กรมหลวงชุมพรฯ ได้เข้ามาพำนักที่ตำหนักในกรุงเทพมหานคร ชื่อเสียงของกรมหลวงฯท่านนั้นโด่งดังมากโดยเฉพาะเรื่องความขมังเวทย์ของท่าน ที่ไม่เป็นรองใครเพราะถือว่าเป็นผู้มีอาจารย์ที่ดีเลิศคือหลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า เป็นอาจารย์ที่เรืองเวทย์และประสิทธิ์ประสาทวิชาให้แก่กรมหลวงฯ วันหนึ่งชื่อเสียงความโด่งดังของกรมหลวงฯท่านนั้นแว่วไปถึงหูอาจารย์แปลก ซึ่งลอยเรืออยู่ในคลองพระอุดม อาจารย์แปลกจึงคิดอยากจะลองวิชากับกรมหลวงฯสักคราว ว่าชื่อเสียงที่เล่าลือกันนั้นจะเก่งแท้สักขนาดไหน โดยท่านได้เล่าให้ศิษย์ฟังถึงเรื่องที่ท่านจะทำว่า "จะเข้าไปเมืองหลวง จะไปขอข้าวลูกท่านหลานเธอกิน" หลังจากนั้นอาจารย์แปลกก็ไม่ได้อยู่ที่เรือที่ท่านอาศัย และได้จอดเทียบท่าอยู่ที่ท่าน้ำวัดสะพานสูง

    แล้วให้ศิษย์คอยเฝ้าเรือของท่านไว้ ท่านจะไม่อยู่สักพัก .... ในขณะเดียวกันที่วังของกรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ก็ได้เกิดเรื่องใหญ่ขึ้น เรื่องของเรื่องก็คือ ในห้องเครื่องต้น (ห้องจัดเตรียมอาหารในวัง) ได้มีคนลอบเข้ามาขโมยกินข้าวหัวหม้อหรือข้าวต้นหม้อ ซึ่งเป็นข้าวที่จะถวายสำรับแก่กรมหลวงฯ เรื่องดังกล่าวเกิดขึ้นในทุกๆมื้ออาหารที่จะนำถวายสำรับแก่กรมหลวงฯ และเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นอยู่หลายวัน แต่ได้มีการปกปิดเรื่องไว้ จนกระทั่งสุดท้ายวันหนึ่งความก็หลุดไปถึงกรมหลวงฯเข้า ท่านโกรธมากเป็นฟืนเป็นไฟ ว่าใครที่มาทำกับท่านแบบนี้ ถ้าจับได้ ท่านจะนำไปประหาร กรมหลวงฯจึงวางแผนตั้งเวทยฺค่ายกลเพื่อดักจับโจรขโมยกินข้าวท่านให้ได้ โดยที่ทุกครั้งที่ที่ดักจับ โจรดังกล่าวก็หลุดหนีไปได้ทุกทีด้วยมนต์กำบังกายขั้นสูง

    จนกรมหลวงฯท่านแทบจะทนไม่ได้ที่ยังจับโจรดังกล่าวไม่สำเร็จ จึงได้ไปขอวิธีและข้อชี้แนะจากอาจารย์ของท่านคือหลวงปู่ศุข หลังจากที่ได้วิธีที่น่าจะใช้จับโจรได้แล้ว กรมหลวงฯท่านก็ดำเนินการวางแผนอย่างแยบยลและเคร่งครัด จนกระทั่งแผนดังกว่างนั้นได้สำเร็จผล คือจับโจรที่ขโมยกินข้าวต้นหม้อได้ จากนั้นก็นำไปคุมขังเพื่อให้ปริปากเอ่ยว่าเป็นใคร ทำไมถึงทำอย่างนั้น ขณะนั้นอาจารย์แปลกท่านไม่ได้เอ่ยปากใดๆแก่ทหารองค์รักษ์เลยแม้แต่น้อย ท่านเม้มปิดปากอยู่ตลอดเวลาบางครั้งก็พึมพำๆ โดยคำสั่งที่ทหารได้รับมอบมาจากกรมหลวงว่าจะต้องสอบปากคำให้จงได้

    ทหารดังกล่าวจึงคิดที่จะใช้วิธีทรมานผู้ต้องขัง (อาจารย์แปลก) ด้วยวิธีต่างๆนาๆ แต่ก็ไม่เป็นผล ทั้งมีด ทั้งปืน ไม่ได้กินเนื้อกินเลือดท่านเลยแม้แต่น้อยนิด เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น จนตกถึงค่ำ โจรขโมยข้าวที่ถูกคุมขังได้หลุดหนีออกไป ก่อนหนี ก็ได้ลอบเข้าไปในห้องบรรทมของกรมหลวงฯ แล้วเข้าไปกระซิบข้างๆหูว่า "ท่านเป็นศิษย์ของอาจารย์ใหญ่ ผู้เป็นหนึ่งในปากเกร็ด ที่ลอบเข้ามาก็เพื่อแค่จะทักทายท่านฯเพราะได้ข่าวถึงเรื่องความขมังเวทย์ของท่านฯ มิได้คิดจะทำเรื่องใหญ่โตอะไร ต่างฝ่ายต่างมีอาจารย์ดีทั้งคู่" ก่อนอันตธานหายไป... ตื่นเช้ามากรมหลวงฯท่านจึงเรียกมหาดเล็กคนที่มีพื้นเพในพื้นที่ปากเกร็ดมาสอบถามถึง อาจารย์ใหญ่แห่งปากเกร็ด จึงได้ความว่าผู้ที่ลอบเข้ามาขโมยกินข้าวท่านก็คืออาจารย์แปลก ผู้เป็นศิษย์หลวงปู่เอี่ยม วัดสะพานสูง ปากเกร็ด นนทบุรีนั่นเอง

    http://www.siamamulet.net/phpboard/qb.php?Qid=99971
     
  2. trirut

    trirut เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กันยายน 2008
    โพสต์:
    1,420
    ค่าพลัง:
    +1,499
  3. pharm.taung

    pharm.taung เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2009
    โพสต์:
    945
    ค่าพลัง:
    +432
    สุดดดดดดยอดดดดดด
     
  4. พระอนิจจัง

    พระอนิจจัง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    123
    ค่าพลัง:
    +294
    ทุกอย่างสำเร็จด้วยใจ สุดยอด นับถือจริงๆ

    :VO:VO:VO
     
  5. nutagul

    nutagul เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 มกราคม 2009
    โพสต์:
    179
    ค่าพลัง:
    +159
    อยากได้ตะกรุดอาจารย์แปลกมาก
     
  6. puedpunon

    puedpunon เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    7,130
    ค่าพลัง:
    +16,093

    ของท่านอาจารย์แปลก หายากมากครับ
    [​IMG]

    หาของลูกศิษย์ท่านจะง่ายกว่าครับ และแท้แน่นอนด้วย

    [​IMG]
    หลวงตาวาส วัดสะพานสูง
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 4 กรกฎาคม 2009

แชร์หน้านี้

Loading...