เรื่องการเทศน์ในพระบรมหาราชวัง และที่อื่น ๆ

ในห้อง 'สมเด็จโต พรหมรังสี' ตั้งกระทู้โดย nondanun, 16 มิถุนายน 2010.

  1. nondanun

    nondanun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    5,980
    กระทู้เรื่องเด่น:
    13
    ค่าพลัง:
    +32,612
    เรื่องการเทศน์ในพระบรมหาราชวัง และที่อื่น ๆ

    [​IMG]

    "....โดย ปรกติ พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้เสด็จออกทรงธรรม ณ พระที่นั่งอนันตสมาคมเสมอ พระที่นั่งอนันตสมาคมนี้ อยู่ในกำแพงพระบรมมหาราชวัง เป็นทั้งท้องพระโรงสำหรับรับแขกเมืองและเสด็จออกขุนนางตามปรกติด้วย ณ พระที่นั่งนี้แลได้โปรดฯ ให้นิมนต์สมเด็จพระราชาคณะชั้นผู้ใหญ่ผลัดเปลี่ยนเวรกันเข้าไปถวายพระธรรม เทศนา และในโอกาสหนึ่ง เจ้าพระคุณสมเด็จฯ ได้ถูกนิมนต์เข้าไปถวายเทศน์ในพระบรมมหาราชวัง กำหนดถวายเทศน์ติดต่อ ๓วันจบ ในวันแรกการถวายเทศน์ได้ดำเนินไปตามปรกติ ครั้นพอย่างเข้าวันที่๒ เจ้าพระคุณสมเด็จฯ จะทราบได้ทางใดทางหนึ่งไม่ปรากฏว่า วันนี้เจ้าจอมองค์หนึ่งกำลังจะประสูติพระเจ้าลูกยาเธอ และขณะที่ถวายพระธรรมเทศนาอยู่นั้น สังเกตได้ว่าพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงมีพระอาการกระสับกระส่าย จึงทรงถวายเทศน์อยู่เป็นเวลานาน จนเสียงมโหรีประโคมขึ้น แสดงว่าพระเจ้าลูกยาเธอทรงประสูติแล้ว เจ้าพระคุณสมเด็จฯก็จบพระธรรมเทศนาลงด้วยเหมือนกัน

    ครั้นวันที่ ๓ พอเจ้าพระคุณสมเด็จฯ ขึ้นธรรมมาส์น ตั้ง นโมและบอกศักราชตามธรรมเนียมแล้ว ก็ถวายพระธรรมเทศนาว่า

    "อันธรรมะใดๆ มหาบพิตรก็ทรงแจ้งอยู่แล้ว เอวํก็มีด้วยประการฉะนี้ ขอถวายพระพร"

    พระ บาทสมเด็จพระจอมเกล้าฯ จึงทรงพระดำรัสถามขึ้นว่า "เมื่อวานนี้มีธุระอยากจะให้เทศน์จบเร็วๆกลับเทศน์เสียนาน วันนี้ใจคอสบาย อยากฟังนานๆ กลับเทศน์ห้วนอะไรเช่นนี้" เจ้าพระคุณสมเด็จฯ จึงถวายพระพรว่า "เมื่อวานนี้มหาบพิตรทรงไม่สบายพระราชหฤทัย สมควรจะได้สดับพระธรรมให้มากๆ เพราะพระธรรมเท่านั้นจะกล่อมพระอารมณ์ที่ขุ่นมัวให้สิ้นได้ แต่วันนี้พระองค์ทรงพระสำราญพระราชหฤทัยดีแล้ว ไม่ต้องฟังพระธรรมมากนักก็ได้" พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าฯ เมื่อได้ทรงสดับเช่นนี้ก็พอพระทัยยิ่งนัก

    คราวหนึ่ง ขณะดำรงสมณศักดิ์เป็นเจ้าคุณธรรมกิตติ ถูกนิมนต์เทศปุจฉาวิสัชนาคู่กับเจ้าคุณธรรมอุดม(สมณศักดิ์อันนี้ได้มา เปลี่ยนเป็น "ธรรมวโรดม" ในรัชกาลที่ ๔) วัดเชตุพนฯ เมื่อใกล้จะจบ เจ้าคุณธรรมอุดมได้เทศน์แถมท้ายเป็นปริศนาว่า "พายเถอะหนาพ่อพาย ตะวันจะสาย ตลาดจะวาย สายบัวจะเน่า" โดยไม่ทันรู้ตัวมาก่อนว่า เจ้าคุณธรรมอุดมจะเทศน์ในลักษณะนี้ แต่ด้วยปฏิภาณอันเฉียบแหลม เจ้าพระคุณสมเด็จฯ เข้าใจความหมายได้ทันที (เจ้าคุณธรรมอุดมหมายความว่า อันมีชีวิตของมนุษย์เรานี้สั้นนัก จงเร่งสร้างการกุศล และยึดธรรมะเป็นที่พึ่งเถิด เพราะความตายย่างใกล้เข้ามาทุกขณะแล้ว มิฉะนั้นจะเป็นการสายเกินไป) จึงเทศน์แก้ออกไปทันทีว่า

    "ก็โซ่ไม่แก้ ประแจไม่ไข จะพายไปไหว หรือพ่อเจ้า"

    อันเป็นความหมายว่า มนุษย์เรานี้เต็มไปด้วยกิเลสและสังโยชน์ (สังโยชน์ ๑๐ "เครื่องร้อยรัด ๑๐ ประการ ซึ่งได้แก่

    ๑. สักกายทิฎฐิ การหลงตัว (The illusion of self)

    ๒. วิจิกิจฉา ความคลางแคลง (Skepticism)

    ๓. สีลมพัตตปรามาส การยึดถือเพียงพิธี ( Attachment to Rites and Ceremonies)

    ๔.กามราคะ ความยินดีในกาม (Sexual lust)

    ๕. ปฏิฆะ ความโกรธ (Ill-will)

    ๖. รูปราคะ ความอยากมีชีวิตอยู่ในโลกที่มีรูปบริสุทธิ์ (Craving for lift in the world form)

    ๗. อรูปราคะ(Craving for lift in the world)

    ๘. มานะ ความเย่อหยิ่ง (Pride)

    ๙. อุทธัจจะ ความฟุ้งซ่าน (Agitation)

    ๑๐. อวิชชา ความไม่รู้ (Ignorance) )อันเป็นเครื่องร้อยรัด
    และไม่พยายามตัดเครื่องร้อยรัดเหล่านี้ออกเสียจะก้าวเข้าสู่อาณาจักรแห่งพระโลกกุตรธรรมได้อย่างไร?

    ที่มา เรื่องการเทศน์ในพระบรมหาราชวัง และที่อื่น ๆ
     
  2. สร้อยฟ้ามาลา

    สร้อยฟ้ามาลา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    19,158
    ค่าพลัง:
    +43,837
    อนุโมทนาด้วยจ่ะ.........
    ชอบอ่านประวัติของท่านเจ้าประคุณสมเด็จ.....
    อ่านมา ๒ - ๓ รอบแล้ว อ่านทีไร ก็ไม่เบื่อ.....
     
  3. สายฝนฉ่ำเย็น

    สายฝนฉ่ำเย็น เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    1,474
    ค่าพลัง:
    +7,070
    แม่ส้มแป้นของพี่ ชอบอ่าน กระนั้น ก็จงชอบปฏิบัติด้วยนะจ๊ะ บารมีหลวงปู่ท่านจะได้คุ้มครองตัวนะจ๊ะ น้องรัก...
     

แชร์หน้านี้

Loading...