เพชรพญานาค-ปาฏิหาริย์ที่พิสูจน์ได้ โดย...กฤษณะ ไตรลักษณ์

ในห้อง 'ประสบการณ์ เรื่องเล่า' ตั้งกระทู้โดย Numsai, 15 พฤษภาคม 2008.

สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้
  1. Numsai

    Numsai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    5,778
    ค่าพลัง:
    +87,677
    ตามรอยเพชรพญานาค โดย...กฤษณะ ไตรลักษณ์


    <O:pหลังจากที่ผมได้รับเพชรพญานาคจากท่านพระชัยภัทรที่ได้เมตตากรุณามอบให้กับผมเป็นวรรณะสีแดงเหลือบดำ สัณฐานหยดน้ำทำให้ผมเริ่มมีความสนใจที่มาและที่ไปของเพชรพญานาคว่ามาจากไหน เกิดขึ้นได้อย่างไรและหากนำเพชรพญานาคมาขึ้นคอ และนั่งกรรมฐานจิตจะเข้าสู่สมาธิได้เร็วมากหากนั่งไปได้ระยะหนึ่ง จะมีความรู้สึกเหมือนมีงูขนาดใหญ่เลื้อยอยู่รอบๆตนเองผมได้เก็บความสงสัยที่มาที่ไปของเพชรพญานาคไว้<O:p</O:p

    เนื่องจากไม่ทราบว่าจะไปหาข้อมูลที่ไหนแต่ในความรู้สึกของตนนั้นมีความรู้สึกว่า อีกไม่นานผมต้องทราบข้อมูลเหล่านี้ และจะมีเพชรพญานาคจำนวนมากจะมาอยู่ที่กลุ่มวัชรธาตุ เวลาผ่านมาได้ระยะหนึ่ง วันที่ 5 มีนาคม 2551 คุณอนันต์สหายธรรมท่านหนึ่งที่หาดใหญ่ได้โทรมาสอบถามในเรื่องของเพชรพญานาคพร้อมกับได้จัดส่งตัวอย่างของเพชรพญานาคที่ยังอยู่ในก้อนหินมาให้ผมตรวจสอบว่าเป็นของแท้หรือไม่ซึ่งตัวผมเองนั้นขอยอมรับตามตรงเลยว่าแทบจะไม่มีความรู้เรื่องเพชรพญานาคเลยและเท่าที่ทราบมาว่า ณ ปัจจุบันได้มีการทำเพชรพญานาคปลอมออกมาจำหน่ายเป็นจำนวนมาก (เพชรพญานาคปลอมจะมีน้ำหนักเบากว่าเพชรพญานาคแท้ประมาณเท่าครึ่ง และนำมาขีดบนกระจกตัวเพชรพญานาคปลอมจะเป็นรอย แต่เพชรพญานาคแท้จะไม่เป็นรอย)เคยมีสถานีโทรทัศน์ไอทีวีได้ไปถ่ายทำยังสถานที่แห่งหนึ่งที่ได้ทำเพชรพญานาคปลอมขึ้น จนเป็นเรื่องราวใหญ่โตทำให้ความเชื่อถือเรื่องเพชรพญานาคลดน้อยลงไปตามลำดับ<O:p</O:p

    หลังจากนั้นในบ่ายของวันที่ 8 มีนาคม 2551 เพชรพญานาคที่คุณอนันต์จัดส่งไปรษณีย์ได้มาถึงผมผมรีบเปิดออกมาดูด้วยความอยากรู้อยากเห็นสิ่งที่ผมพบอยู่ภายในกล่องนั้นเป็นก้อนหินขนาดใหญ่ประมาณฝ่ามือเมื่อลองหยิบแล้วยกขึ้นดู จะมีน้ำหนักเบากว่าหิน หากลองเขย่าดูจะได้ยินเสียงเหมือนมีวัตถุอยู่ภายในก้อนหินนั้น หากพิจารณาดูให้ดีก้อนหินตัวอย่างที่คุณอนันต์ส่งมาให้ตรวจสอบนี้ มีก้อนใหญ่เท่าฝ่ามือสามก้อนก้อนเล็กประมาณผลส้มเขียวหวานสามก้อน ไม่มีก้อนไหนเหมือนกันเลยรูปทรงก็คล้ายกับหินขนาดต่างๆ ที่เราเห็นกันอยู่ทั่วไปและหากพิจารณาให้ลึกลงไปกว่านั้นไม่น่าจะใช่ฝีมือของมนุษย์ทำขึ้นมาเนื่องจากหินบางก้อนเป็นรูปทรงที่ยากต่อการทำขึ้นผมคิดว่าหากคิดจะทำขึ้นคงต้องอาศัยเวลานานมากแน่ ผมจึงลองหยิบหินก้อนใหญ่ที่มีเพชรพญานาคอยู่ภายใน มาทำการเคาะไปรอบๆโดยใช้ฆ้อนเคาะรอบๆบริเวณที่เกิดเสียงนั้นเบาๆเมื่อก้อนหินที่ห่อหุ้มเพชรพญานาคแตกออกก็จะสังเกตุเห็นผงทรายละเอียดห่อหุ้มตัวเพชรพญานาคเอาไว้แต่สิ่งที่ทำให้ผมสงสัยมากขึ้น หากสังเกตุดูหินที่ห่อหุ้มเพชรพญานาคไว้จะมีลักษณะสีแดงเหมือนดินหม้อปนทรายละเอียดคล้ายกับกระถางดินเผาแต่มวลของกระถางจะละเอียดกว่ามากเลยทำให้ผมเกิดความคลางแคลงใจว่า มันคืออะไรกันแน่ จากตำนานที่ผมเคยทราบมาเพชรพญานาคก็คือเกล็ดของพญานาคนั่นเองที่หลุดออกมาจากร่างแล้วท่านได้ใช้ดินและทรายห่อหุ้มไว้กันไม่ให้ตกสู่พื้นนานเป็นเวลาหมื่นๆปี สิ่งที่หุ้มจริงกลับกลายเป็นหินและภายในหินกลับกลายเป็นพลอยสวย ๆ หลากสีรูปทรงแตกต่างกันออกไป ผมจึงได้โทรสอบถามคนที่นำเพชรพญานาคมาพร้อมทั้งสอบถามแหล่งที่มาที่ไปของเพชรพญานาค ท่านก็ได้มีเมตตาบอกสถานที่และเบอร์โทรศัพท์ติดต่อให้กับผม หลังจากนั้นผมก็ได้โทรศัพท์ติดต่อไปทันที ผมขออนุญาตสงวนสิทธิ์ในการออกนามหลังจากได้พูดคุยกับท่าน ซึ่งท่านได้ยินดีชี้แจงรายละเอียดอย่างไม่ปิดบัง<O:p</O:p

    <O:p</O:p
    </O:p
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • Pech16.jpg
      Pech16.jpg
      ขนาดไฟล์:
      37.5 KB
      เปิดดู:
      3,742
    • pech13.jpg
      pech13.jpg
      ขนาดไฟล์:
      23.6 KB
      เปิดดู:
      1,752
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 15 พฤษภาคม 2008
  2. Numsai

    Numsai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    5,778
    ค่าพลัง:
    +87,677
    เพชรพญานาค-ปาฏิหาริย์ที่พิสูจน์ได้ โดย...กฤษณะ ไตรลักษณ์

    เพชรพญานาค-ปาฏิหาริย์ที่พิสูจน์ได้

    โดย...กฤษณะ ไตรลักษณ์
    <O:p</O:p

    หลังจากได้เคาะรังหินของเพชรพญานาคแตกออกมา แต่ก็มีความสงสัยในเรื่องของเนื้อมวลสารรังหินของเพชรพญานาคเนื้อรังหินมีลักษณะคล้ายกระเบื้องเคลือบดินเผาในแถบราชบุรีมากจึงทำให้ไม่สามารถสรุปที่มาที่ไปของเพชรพญานาคได้นอกจากการรอพิสูจน์จากสถานที่จริง
    <O:p</O:p
    หลังจากนั้นผมได้เดินทางไปยังแหล่งที่พบเพชรพญานาค คือ จังหวัดสกลนคร จุดแรกคือบริเวณเนินเขาของสถานที่สิ่งที่ผมสังเกตเห็นคือ ลักษณะของหินจะคล้ายรังหินของเพชรพญานาคได้พบได้ทั่วในบริเวณแถบเขาลูกนั้น พร้อมกับพบร่องรอยการถูกเคาะ เพื่อค้นหาเพชรพญานาคอยู่ทั่วไปในบริเวณนั้น มีทั้งรังหินที่ไม่พบเพชรพญานาคจะสังเกตได้จากไม่มีโพรงภายในบางก้อนโพรงอยู่ภายในแสดงว่าพบเพชรพญานาคโพรงภายในแต่ละก้อน จะมีรูปร่างลักษณะต่าง ๆ กันไป บางก้อนมีเป็นรูปดอกบัวบางก้อนเป็นรูปคล้ายดอกไม้ บางก้อนลักษณะคล้ายหยดน้ำ และรูปอื่นๆ<O:p</O:p

    เมื่อเดินไปถึงบริเวณหน้าปากถ้ำครั้งแรกผมได้ทำการทำการพิสูจน์ตามทฤษฎีแรก คือไม่ทำพิธีบวงสรวงใด ๆ นอกจากการตั้งจิตอธิษฐานเพียงอย่างเดียวโดยไม่มีการจุดธูปพร้อมกับระดมพลกลุ่มวัชรธาตุช่วยกันค้นหาเพชรพญานาค รอบ ๆ บริเวณถ้ำ ใครใคร่เคาะ ใครใคร่เกลี่ยพื้นทรายก็เกลี่ยเพื่อค้นหาเพชรพญานาค
    <O:p</O:p
    การค้นหาเป็นไปด้วยความยากลำบากเนื่องจากสถานที่ภายในถ้ำค่อนข้างคับแคบและมืดมากบางครั้งต้องแปลงกายเป็นนาคราชจำเป็นเลื้อยเข้าไปตามซอก หรือรูโพรงต่าง ๆทำให้ร่างกายได้รับบาดแผลตามร่างกายต่าง ๆ เช่นตามข้อศอก หัวเข่า ศีรษะพวกเราต้องใช้เวลาค้นหาไม่ต่ำกว่า3-4 ชม.สรุปว่า แต่ต่างก็คว้าน้ำเหลวจึงได้ถอยกำลังออกมานั่งพักเหนื่อยพร้อมตั้งความว่า จะได้พบเพชรพญานาคที่ถ้ำที่สอง
    <O:p</O:p
    เมื่อเดินไปถึงถ้ำที่สองเมือบรรดาขุนพลแห่งวัชรธาตุ เห็นสภาพถ้ำที่สองแล้ว ต่างก็ตกตลึง ถ้ำแรกที่ว่าโหดสุดๆ แล้ว เมือมาเจอถ้ำที่สอง ช่างแตกต่างกันลิบลับถ้ำแรกยังมีโอกาสได้ยืน นั่ง นอนได้บ้างแต่ถ้ำที่สองนั้น ไม่มีโอกาสได้นั่ง หรือนอนเลย ทำได้อย่างเดียวคือแปลงกายเป็นนาคราช เลื้อยไปมาเท่านั้นนอกจากนั้นแมลงที่ไม่เคยพบเห็นมาก่อน เป็นจำนวนเป็นหมื่น ๆตัวเกาะอยู่ตามเพดานถ้ำตามพื้นถ้ำมีบรรดาสัตว์โลกผู้น่ารัก ที่บรรดาสาว ๆ ไม่ค่อยจะชอบ เช่นอึ่งป่า กบ คางคก รวมทั้งแมลงป่อง และแมลงมีพิษต่าง ๆ อยู่บ้าง แต่ก็ไม่มากนักจะสังเกตเห็นได้ว่าบริเวณนั้นพบการลอกคราบของงูเป็นระยะ ๆ
    <O:p</O:p
    ในการเข้าถ้ำของหนุ่มสาววัชรธาตุคราวนี้เต็มไปด้วยสีสันพร้อมซาวเอ็ฟเฟํคเป็นร้องของสาว ๆ เมื่อสัตว์โลกผู้น่ารักมาทักทายเป็นระยะ ๆ ต่างก็สวดแผ่เมตตากันจ้าละหวั่น ใครที่นอนเคาะก็เคาะกันไปใครนอนเกลี่ยก็เกลี่ยกันไป เราใช้เวลาในถ้ำนี้ประมาณ1-2 ชม.พวกเราก็ต้องถอยทัพกลับมา พร้อมกับความผิดหวังอย่างเต็ม ๆ เมื่อไม่พบอะไรเลยและได้เดินทางกลับที่พักด้วยความอ่อนระโหยโรยแรงจากการเดินทางและการค้นหาเพชรพญานาค
    <O:p</O:p
    เช้าวันที่สองพวกเราได้เดินทางไปยังถ้ำแรก แต่ก่อนจะไปผมได้แวะซื้อผลไม้พร้อมธูปเทียนเมื่อไปถึงบริเวณหน้าถ้ำเหล่าบรรดาสมาชิกได้จัดเตรียมเครื่องเซ่นต่าง ๆเมื่อจัดเตรียมเรียบร้อยแล้วทางกลุ่มได้ตั้งจิตอธิษฐาน พร้อมสวดมนต์เรียกธาตุต่าง ๆพร้อมกับแผ่เมตตาให้แก่เหล่าบรรดานาคราชและเทพเทวาทั้งหลายที่ปกปักษ์รักษาบริเวณถ้ำพร้อมนั่งสมาธิอุทิศส่วนกุศลให้แก่เทพเทวาอารักข์ และเหล่านาคราชทั้งหลาย
    <O:p</O:p

    หลังจากเสร็จพิธีแล้วได้ทำการเข้าถ้ำ เพื่อค้นหาเพชรพญานาคอีกครั้งเมื่อเดินไปไม่ถึงสิบเก้าจากปากถ้ำคุณสุธารสหนึ่งในสมาชิกวัชรธาตุได้เอามือเกลี่ยพื้นทรายในถ้ำและได้ส่งเสียงร้องด้วยความยินดี ว่า
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • Pech-b1.jpg
      Pech-b1.jpg
      ขนาดไฟล์:
      36.8 KB
      เปิดดู:
      3,222
    • Pech-b2.jpg
      Pech-b2.jpg
      ขนาดไฟล์:
      44.5 KB
      เปิดดู:
      7,342
    • Pech-b3.jpg
      Pech-b3.jpg
      ขนาดไฟล์:
      43.1 KB
      เปิดดู:
      17,667
    • Pech-b4.jpg
      Pech-b4.jpg
      ขนาดไฟล์:
      43.2 KB
      เปิดดู:
      9,545
  3. Numsai

    Numsai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    5,778
    ค่าพลัง:
    +87,677
    เพชรพญานาค-ปาฏิหาริย์ที่พิสูจน์ได้ โดย กฤษณะ ไตรลักษณ์

    เพชรพญานาค-ปาฏิหาริย์ที่พิสูจน์ได้ (ต่อ)


    หลังจากถึงที่พักต่างก็พูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดเห็นที่ตนได้พบเพชรพญานาคอย่างเมามันและเปี่ยมไปด้วยความสุขจากการที่ผมได้สอบถามจากชาวบ้านในแถบนั้นได้ทราบความจริงเรื่องของสัณฐานของเพชรพญานาคยังสัณฐานแปลก ๆ อีกมากที่เราคาดไม่ถึง เช่น พระขรรค์ และรูปกริซ ขนาดสั้น2 ซม.จนถึง24 ซม.รูปคฑา หัวเป็นบัวท้ายเป็นบัว รูปพระปางปรก หรือปางสมาธิ พระพิฆเนศหรือรูปหลวงปู่ทวด รูปฤษีหรือรูปสัตว์เช่นคชหงษ์ (ตัวเป็นหงษ์ ปากเป็นงวงช้าง) รูปหงษ์รวมทั้งรูปพญานาคก็มีนับว่า เป็นมหัศจรรย์เกินความคาดฝันของเราซึ่งเพชรพญานาคสัณฐานแปลก ๆ เหล่านี้ ถ้ามีโอกาสได้พบทางวัชรธาตุจะได้นำเสนอในเว็บวัชรธาตุในคราวต่อไป


    ยังมีอีกเรื่องหนึ่งที่เกี่ยวกับลูกแก้วพญานาคหรือที่เรียกว่าแก้วจันทกานต์นับว่ามีความแปลกประหลาดและพิสดารว่าจะปรากฏขึ้นมาในช่วงเข้าพรรษา หรือช่วงออกพรรษาโดยผุดขึ้นมาในบ่อน้ำทิพย์ภายในบริเวณถ้ำมีขนาดที่แตกต่างกันกันตั้งแต่ขนาดลูกมะยม ผลส้ม จนถึงขนาด200 กก.ซึ่งแต่ละองค์ มีสีสันที่แตกต่างกันไป และมักจะปรากฏออกมาเป็นคู่โดยคู่นั้นจะมีขนาดใกล้เคียงและไม่แตกต่างกันมากนักหากนำไปให้พระผู้ทรงอภิญญาตรวจสอบ จะพบได้ว่า ลูกแก้วนั้นจะพบดวงจิตของนาคาและนาคี คือ พญานาคชาย และหญิงยอมรับว่า เป็นเรื่องที่น่าคิดพอสมควร


    <O:p
    จากเรื่องรางข้างต้นนี้ผมคิดว่า เรื่องของเพชรพญานาคมิใช่เรื่องที่รอการพิสูจน์ หรือพิสูจน์ไม่ได้แต่การที่จะไปพิสูจน์ว่า จริงหรือไม่นั้นการเดินทางไปยังสถานที่นั้น ต้องเต็มไปด้วยจิตใจที่อ่อนน้อมถ่อมตนไม่ใช่ไปแบบการลองดี หรือท้าทายจะทำให้ผู้ที่คิดเช่นนั้น ประสบกับความวิบัติไม่ทางใดก็ทางหนึ่งและหากผู้ที่ได้เพชรพญานาค และไปใช้ในทางที่ไม่ถูกไม่ควรผิดวัตถุที่เหล่าบรรดานาคราชทั้งหลายได้ตั้งจิตอธิษฐานไว้ เพื่อเป็นกำลังเผยแผ่พระพุทธศาสนา เช่นนำเอาเพชรพญานาคมาให้บูชาและผลกำไรที่ได้จากบูชานั้นมาใช้ประโยชน์ส่วนตน ไม่ว่าจะมากหรือน้อยก็ตามบุคคลเหล่านั้นจะพบกับความเดือดร้อนต่าง ๆ นานาไม่จบสิ้น


    <O:p
    แต่หากเราท่านได้อัญเชิญเพชรพญานาคมายังประโยชน์แก่พระพุทธศาสนาโดยไม่หวังผลประโยชน์ส่วนตนเหล่าบรรดานาคราชทั้งหลายที่ปกปักษ์รักษาเพชรพญานาคจะร่วมแซ่ซ้องโมทนาสาธุการพร้อมทั้งการเมตตาช่วยเหลือให้เราประสบความสำเร็จในด้านต่างๆ โดยที่ไม่ฝืนกฏแห่งกรรมของเรา


    <O:p</O:p
    ผมขอส่งท้ายสำหรับผู้ที่ไม่เชื่อในเรื่องเพชรพญานาคที่ได้กล่าวมาแล้ว ผมว่าควรจะไปพิสูจน์ด้วยตนเอง แล้วจึงค่อยออกมาพุดว่า ใช่หรือไม่ใช่ในอนาคตทางกลุ่มพร้อมเมื่อไรจะจัดTrip เพื่อให้ท่านไปพิสูจน์ด้วยตัวเอง

    <O:p</O:p
    <O:p</O:p

    โปรดติดตามเรื่องของเพชรพญานาค และเช่าบูชา ได้จาก....


    <O:p</O:p
    http://www.watcharathath.com<O:p</O:p
     
  4. มันตรัย

    มันตรัย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    8,346
    ค่าพลัง:
    +8,190
    อันนี้จากเดลินิวส์
    เร่ขายหินพญานาคมหัศจรรย์อ้างมีเพชรศักดิ์สิทธิ์
    เร่ขายหินพญานาคมหัศจรรย์อ้างมีเพชรศักดิ์สิทธิ์


    มาอีกแล ้วขบวนการสร ้างเรื่องหลอกเงินชาวบ ้านโดยใช ้ความศรัทธา อ ้างค ้นพบหิน"พญานาค" ที่ข ้างในมี"เพชรพญานาค" บรรจุอยู ่ ใครเอาไปใส ่จะร่ำรวย พ ้นเคราะห ์ภัยครั้งใหญ ่ที่จะมาเยือน ระบุเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่พระอายุเกือบ 1,000 ปีค ้นพบ คนมีวาสนาเท ่านั้นถึงไปเก็บได ้แถบลุ ่มน้ำโขง ขายลูกละเป็นพัน แต ่ต ่อรองได ้เหลือ 200 เตือนชาวบ ้านอย ่าหลงเชื่องานนี้มีสิทธิถูกหลอก!!!

    เรื่องราวของบรรดามิจฉาชีพที่หากินกับความเชื่อของชาวบ้าน ให้หลงเชื่องมงายเกิดขึ้นซ้ำแล ้วซ้ำเล ่า ล ่าสุดผู ้สื่อข ่าวรายงานว ่าได ้เกิดการหลอกลวงเพื่อขาย "หินพญานาค" ที่มีการโอ ้อวดสรรพคุณว ่าภายในหินพญานาคจะบรรจุไปด้วย "เพชรพญานาค" มากคุณค ่าปาฏิหารย ์ หาได ้ยากยิ่ง สุดท ้ายก็ลงเอยด ้วยการเสนอขายของวิเศษในราคาก ้อนละ 1,000 บาท

    เมื่อวันที่ 27 พฤษภาคมที่ผ ่านมา ผู ้สื่อข ่าวเดลินิวส ์ ได ้ไปตรวจสอบเรื่องดังกล ่าว โดยมีต้นตอมาจากเจ้าของร้านส้มตำย่านวังหลัง โรงพยาบาลศิริราช ภายในร้านจะเป็นแหล่งนัดพบของผู้คนที่มีความเชื่อและนับถือในเรื่องของ "เพชรพญานาค"

    นางทอง (นามสมมติ)เป็นผู้เล่าเหตุการณ์ต่างๆ โดยมีการอ ้างอิงถึงการไปพบพระเถระที่มีฤทธิ์เดช มีความศักดิ์สิทธิ์ ได ้แก ่"หลวงปู่ซวง" ซึ่งมีภาพนั่งยองๆเหมือนหลวงพ่อคูณ แต่นั่งอยู่ข้างกระต๊อบหรือเถียงนา นางทองหลางบอกว่า หลวงปู่ซวงนี้มีอายุได้ 900 กว่าปีแล้ว และพึ่งจะละสังขารไปเมื่อไม่นานมานี้ โดยก่อนหน้านี้ได้รอให้ตนไปกราบไหว้ก่อนที่จะละสังขาร บอกว่ารอลูกหลานมานานแล้ว

    คำบรรยายถึงหลวงปู่ซวงยังอ ้างอีกว ่า พระรูปนี้สามารถจับต้องสุภาพสตรีได้ ผิดไปจากภิกษุทั่วไป เพราะได้บำเพ็ญภาวนาจนมีกายละเอียด ไม่มีแยกชายหรือหญิง ถือได ้ว ่าพ ้นขีดขั้นของคำว ่าเพศไปแล ้ว โดยนางทองอ ้างว ่าตัวเองคือลูกหลานของหลวงปู่ซวง

    ไม ่เพียงแต ่หลวงปู่ซวง นางทองยังอ ้างถึง"หลวงปู่เที่ยงธรรม"ที่มีอายุ 500 กว่าปี จำพรรษาที่จ.สกลนคร โดยอ ้างว ่างหลวงปู่เที่ยงธรรมมีอภินิหารต่างๆ สามารถแยกร่าง แยกกายแยกจิตได้ มีคนเห็นอยู่หลายสถานที่ในเวลาเดียวกัน และอีกเช ่นกันที่นางทองเป็นลูกหบานของหลวงปู่เที่ยงธรรม

    สำหรับการอ ้างถึงพระเหล ่านี้ เนื่องจากจะมีการผูกโยงเรื่องว ่าพระทั้ง 2 รูป ต ่างก็เคยถึงสถานที่ซึ่งเก็บหินพญานาคมาแล ้ว โดยขั้นแรกไปที่ถ้ำ จ.เพชรบูรณ ์ และเป็นผู ้พบหินพญานาค ซึ่งเมื่อกระเทาะออกมาจะมีเพชรพญานาคอยู ่ข ้างใน

    เมื่อมีการถามถึงว ่าถ้ำดังกล ่าวอยู ่ที่ไหน นางทองจะอ ้างว ่าขณะนี้มีคนคิดไม่ดี ถ้ำจึงถูกปิดไปแล้วด้วยฝีมือของผู้มีอภินิหาริย์

    อย ่างไรก็ตามแม ้ถ้ำวิเศษจะถูกป"ด ขณะนี้มีการไปเก็บหินพญานาคมาจากแม่น้ำโขงและจังหวัดอื่นๆทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือ อาทิ ศรีษะเกษ นครพนม หนองคาย อุดรธานี โดยขณะที่เล่าจะมีการนำรูปถ ่ายมาบรรยายด้วยว่า นางทองได้เดินทางไปเก็บหินพญานาคมาด้วยตนเองจริง

    รูปทั้งหมดจะมีตั้งแต ่การปีนเข้าไปในถ้ำ โดยนางทองยืนยันว่าเป็นถ้ำที่จ.หนองคายอยู่ใกล้แม่น้ำโขง เมื่อเดินทางเข้าไปจะต้องใช้ไฟฉาย ถ้ำนี้จะอยู่ใต้แม่น้ำโขง ขณะที่เดินเข้าไปจะพบ"หินพญานาค"อยู่เป็นระยะ หากใครที่ไม่ใช่ลูกหลานจะไม่มีบุญได้เห็น เมื่อเดินผสมกับคลานไปจนสุดถ้ำจะไปโผล่ที่วัดแห่งหนึ่งในประเทศของลาว แต่ขากลับเกิดความกลัวจึงนั่งเรือข้ามฟากกลับกัน หินพญานาคนี้เมื่อนำออกมาแล้ว ลูกหลานจะให้ใครไปบูชาก็ได้

    สำหรับหินพญานาคนี้ ผู ้สื่อข ่าวรายงานว ่ามีลักษณะเป็นลูกหินสีน้ำตาลอมดำ เหมือนกับสีเดินลูกรัง ขนาดโตเท ่ากำปั้น สัณฐานเหมือนไข ่เป็ด เป็นหินทราย โดยเมื่อทุบออกมา ข้างในจะมีเม็ดสีใสเม็ดกลม ค่อนข้างแบน โดย1 ลูกมี 1 เม็ด มีหลากสี เหลือง แดง เขียว น้ำเงิน เรียกว่า "เพชรพญานาค"

    นางทอง บอกว่า ผู้ใดนำเม็ดสีเหล่านี้ไปเป็นเครื่องประดับใส่แล้วจะเป็นสิริมงคลแก่ชีวิต ทำมาค้าขึ้น หลุดพ้นจากภัยพิบัติ อีกไม่กี่ปีหลวงปู่เที่ยงธรรมบอกว่าผู้คนจะล้มตายจากโลกนี้ด้วยภัยภิบัติ จะรอดเฉพาะผู้ที่สวมใส่เพชรพญานาคเท่านั้น

    ระหว ่างการบรรยายนางทองพยายามชักจูงให้ผู้อื่นหลงเชื่อตามตนไปด้วย ด้วยการคะยั้นคะยอให้ ซื้อหินพญานาคไปบูชา หรอืจะซื้อไปเพื่อกระเทาะเอา "เพชรพญานาค" มาประดับ โดยอ ้างว ่าจะนำเงินรายได้ไปสร้างวัด สร้างโบสถ์ที่ไหนสักแห่ง ถ ้าใครปฏิเสธยังไม ่ซื้อ ก็จะมีการชักจูงใจว ่า ไม่ได้นะ เดี๋ยวพวกทหารเรือมาก็หมดแล้ว ไม่มีอีกแล้วนะ ตอนนี้มีคนทำของปลอมเลียนแบบ ขายกันอยู่ที่ท่าพระจันทร์ พวกนั้นของปลอมทั้งสิ้น

    เมื่อเห็นว่าจะโน้มน้าวใจไม่ได้จริงๆ หินพญานาคจากที่ตั้งราคาไว ้ก ้อนละ 1,000 บาทก็จะลดราคาให้พิเศษเหลือ 200 บาท แถมให้ติดเงินไว้ก่อนได้ด้วย

    ผู ้สื่อข ่าวรายงานด ้วยว ่า ระหว ่างที่นั่งฟ'งคำบรรยายสรรพคุณจากนางทองนั้น ก็ได ้มีกระเทยคนหนึ่งเดินเข ้ามาในร้าน แล้วบอกเล่าว่าเพิ่งกลับมาจากปัตตานีมา แล้วที่นั่นกำลังฮิต "เพชรพญานาค" มากและซื้อขายกันในราคาแพง เธอก็สวมแหวนที่นิ้วกลางมีเพชรพญานาคเม็ดใหญ่ประดับอยู่ โดยนางทองก็รับลูกบรรยายนว ่า กระเทยคนที่ว ่าเอามาจากแถวสตูล และป'ตตานี แต ่คุณภาพไม ่ดีเท ่ากับแม ่น้ำโขง

    จากการสังเกตของผู ้สื่อข ่าว การขายเพชรพญานาคของขบวนการนี้ แม ้จะเป็นเรื่องความเชื่อส ่วนตัว แต ่น ่าจะเข ้าข ่ายการหลอกลวงประชาชนอย ่างแน ่นอน เพราะหินพญานาค และเพชรพญานาคน ่าจะเป็นฝีมือมนุษย ์ในการทำขึ้นมา จึงอยากเตือนประชาชนทั่วไปอย ่าได ้หลงเชื่อ


    ข้อมูลเดลินิวส์ http://www.dailynews.co.th


    มีช่วงนึงผมพยายามค้นหาเกี่ยวกับเรื่องลูกแก้ว ก็เสริชพบการซื้อขายวัถุดิบการทำแก้วสีต่างๆเกี่ยวโยงกับเวปๆนึง ซึ่งโฆษณาเกี่ยวกับเรื่องลูกแก้วพญานาค ที่อ้างว่าเกิดขึ้นเอง แต่ที่จริงก็เป็นฝีมือมนุษย์ แล้วมีเห็นมีการอ้างชื่อพระชัยพัทร ตอนนี้ไม่รู้ไปไหนแล้วหลังจากพระสีลอกได้ด้วย
     
  5. มันตรัย

    มันตรัย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    8,346
    ค่าพลัง:
    +8,190
    แจ้งจับร.อ.หลอกขายหิน อ้างมหัศจรรย์กินเหล็กได้

    เมื่อเวลา 14.30 น. วันที่ 22 เมษายน นายบุญส่ง บุษดี อายุ 51 ปี อยู่ที่ 50 หมู่ 10 ต.ตาลเดี่ยว อ.แก่งคอย จ.สระบุรี พร้อมญาติๆ เข้าแจ้งความกับ พ.ต.ท.เกียรติพงษ์ ทองเพียร สารวัตรเวร สภ.อ.แก่งคอยว่า ถูกคนที่อ้างว่าชื่อ ร.อ.กิ่ง นรบาล อายุ 84 ปี อดีตทหารช่าง อยู่ย่านเขตบึงกุ่ม กรุงเทพฯ หลอกขายหินโดยบอกว่าเป็นหินมหัศจรรย์กินเหล็กได้ ราคา 250,000 บาท

    นายบุญส่งให้การว่า เมื่อวันที่ 17 เมษายน ได้รับการติดต่อทางโทรศัพท์จาก ร.อ.กิ่ง ว่ามีหินกินเหล็กได้ จึงพากันเดินทางไป จ.บุรีรัมย์ พบนายสุชาติอ้างว่าเป็นชาวเขมร ได้ทดลองโดยใช้หินก้อนใหญ่สีดำหนักประมาณ 4 กิโลกรัม มาวางไว้แล้วใช้ตะปูยาว 4 นิ้ว วางบนเหล็กปรากฏว่าตะปูกลายเป็นสีขาว จับตะปูมาหักได้เหมือนไม้จิ้มฟัน โดย ร.อ.กิ่งอ้างว่าถ้านำไปขายต่างประเทศจะได้ราคาถึง 50 ล้านบาท แต่จะขายให้ตนราคา 500,000 บาท จึงต่อรองเหลือ 250,000 บาท จึงรวบรวมเงินจากบรรดาญาติๆ ซื้อมา เมื่อนำมาทดลองด้วยการนำตะปูมาวางก็ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงจึงรู้ว่าถูกหลอก ต่อมาตำรวจให้นายบุญส่งซ้อนแผนโดยโทรศัพท์ไปบอก ร.อ.กิ่ง ว่าขายหินกินเหล็กได้ในราคา 30 ล้านบาท ขอให้ ร.อ.กิ่งมารับส่วนแบ่งที่บ้านนายบุญส่ง เมื่อ ร.อ.กิ่งมารับเงิน จึงถูกจับกุม ร.อ.กิ่งปฏิเสธอ้างไม่รู้จักนายบุญส่ง ไม่เคยค้าขายหินกินเหล็กแต่อย่างใด ตำรวจคุมตัวไปสอบสวนหาข้อเท็จจริง
     
  6. มันตรัย

    มันตรัย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    8,346
    ค่าพลัง:
    +8,190
    ลองอ่านดูก่อน
    ข้อแนะนำในการสะสมแร่​
    โปรดทำความเข้าใจ ก่อนสะสม

    ก่อนอื่นขอทำความเข้าใจว่าสิ่งที่เราจะกล่าวถึงนี้ เป็นการสะสมแร่ (Mineral)
    มักจะถูกเรียกว่าหิน (Rocks) ด้วยความเคยชินที่ถูกเรียกกันมานาน แท้จริงแร่และ
    หิน มีความแตกต่างกันด้วยลักษณะขบวนการกำเนิด

    ในที่นี้ใช้คำว่าแร่ในข้อเขียน บางกรณีที่เน้นสะสมเป็นแบบอัญมณี (Gemstone)
    เพื่อเน้นสวยงาม แบบเจียรไนเป็นรูปทรงต่างๆ ก็ถือว่าเป็นการเพิ่มความหลาก
    หลายในวิธีการสะสมไม่ผิดกติกาใดๆ
    เป้าหมายและข้อจำกัด

    การสะสมในประเทศไทยเป็นเรื่องที่มีข้อจำกัดมากเพราะต้องนำเข้าจาก
    ต่างประเทศเกือบทั้งสิ้น โดยจะนำเข้าจากจีนเป็นหลัก เนื่องจากเป็นศูนย์กลาง
    แถบเอเชีย บางรายในประเทศไทยนำเข้าจากบราซิลก็มีรูปแบบที่แปลกออกไป
    แต่ราคาก็จะสูงขึ้นบ้าง

    ปัญหาส่วนใหญ่ ทีพบผู้ขายผู้ซื้อขาดความรู้ ความเข้าใจ และตัดสินด้วยความ
    ใสสวยงามเป็นหลัก โดยเฉพาะความเชื่อ ความนิยมที่ถูกปลูกฝังจากพ่อค้าบางคน
    ในทางที่ไม่ถูกต้องเพื่อราคาเพิ่มสูงจากความนิยม เช่น ช่วยให้เกิดโชคลาภ
    ความรักสมหวังกระทั่งรักษาโรค ที่สำคัญ เป็นความเข้าใจผิด หรือ หลอกลวง

    แม้แต่สปาบางแห่ง นำไปใช้โดยไม่มีความรู้อะไรเลย นอกจากเพื่อทำให้รู้สึกดูดี
    และเรียกค่าบริการที่แพงขึ้น เกจิอาจารย์บางรายกลัวคน ไม่เชื่อถือใช้เป็น ของวิเศษเพื่อเรียกความศรัทธาตามกระแสนิยมพลังงานจักรวาล

    พลังงานจากแร่ มีจริงหรือเป็นคำถามที่สงสัย

    ด้านฟิสิกส์นั้นไม่ปฎิเสธเรื่องพลังงานจากแร่ ซึ่งมีอนุภาคของอะตอมอยู่
    เพราะนั่นเป็นความจริงที่พิสูจน์ได้ ในหลายรูปแบบแต่มีเงื่อนไขความเข้าใจให้
    ถูกต้องต่อการจะนำพลังงานเหล่านั้นมาใช้ประโยชน์กับร่างกายมุนษย์

    นักวิทยาศาสตร์ ที่ศึกษาวิจัยในด้านพลังนั้นเข้าใจดี เครื่องมือ ซึ่งมีอยู่ใน
    ห้องทดลองใหญ่ๆของโลก ที่สามารถวิเคราะห์พิสูจน์ สนามพลังงานตาม
    หลักวิทยาศาสตร์ให้เราเข้าใจ โดยย่อแล้ว สสารย่อมมีพลังงาน เช่น

    น้ำดูเหมือนไม่มีพิษสงเมื่ออยู่ในแก้วเรา หากรวมกันเป็นจำนวนถึงขั้นทะเล
    มหาสมุทร อันตรายก็เกิดขึ้นได้จากพลังงาน สำหรับแร่แต่ละก้อน มีประจุไฟฟ้า
    ในตัวเอง แต่มีขนาดน้อยนิดไม่ได้มากมาย จนจะถึงขั้นทำร้ายหรือให้ผลดีได้
    แบบมหัศจรรย์กับเราได้

    การสร้างพลังงานใน แร่ก้อนเล็กนั้นมีขบวนการซับซ้อน สามารถทำได้
    แต่ใครล่ะเป็นผู้ทำได้แบบนั้นได้จริง เกจิอาจารย์ หมอดู หรือ พวกชอบแสดง
    จำอวดที่จะหลอกเอาสตางค์คุณ ไม่จำเป็นเลยตัวคุณเองนั้นแหละทำได้ (อาจไม่ทุกคนเสมอไป) ไม่ต้องไปเชื่อ ใครให้เสียสตางค์
    ทฤษฏีเลือกสีที่ไม่มีเหตุผล

    ความเชื่อในการเลือกสีแร่ ตามประสบการณ์จากการค้นคว้าไม่น่าเป็นจริง ตามที่
    หลายตำรากล่าวอ้าง ไม่ช่วยให้เกิดผลใดๆไม่เคยพบว่ามีข้อพิสูจน์ ทางวิทยาศาสตร์
    ที่รับรองได้ ยังไม่เคยพบว่านักธรณีวิทยาที่มีความชำนาญเรื่อง แร่ มีการเขียนถึง
    ถึงในกรณีนี้เลย

    พบว่ามีหนังสือที่เน้นเรื่องการรักษาโรค ดูแลเรื่องในสุขภาพ มีการเขียนถึง
    การเลือกสี วิเคราะห์ได้ด้วยเหตุผล 2 กรณีคือ ใช้หลักทางทฤษฎีสี๊ ประกอบ
    เพื่อให้ตามที่กำหนดไว้ เข้าใจว่าเป็น วิธีสร้างแรงจูงใจในการขายสินค้า
    หรืออีกกรณี ได้ลอกเลียนมาจากตำราดูดวงที่กำหนดการเลือกหินแร่ ตาม
    วันเกิดหรือราศีเกิด ฯลฯ ตามความเชื่อที่บอกต่อๆกันมา

    ดูดวงจัดหิน-อัญมณีเสริมบารมี ตำราลวงโลก

    สิ่งที่มักพบเสมอ คือ ความนิยมของบางคน จัดหินหรืออัญมณีเพื่อเสริมบารมี
    ถ้าเป็นการที่จะเชื่อแบบทั่วไปคงไม่ว่ากระไร สำคัญคือประเภทหาวิธี การขายของ
    ให้แพงขึ้น โดยวิธีดูดวงให้ฟรี แล้วแนะนำ หินแร่ อัญมณี ราคาแพงให้ลูกค้าเพื่อ
    ให้เป็นการ เสริมบารมี โชคดี ทำมาค้าขายเจริญก้าวหน้าแบบครอบจักรวาล
    เป็นสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ น่าเป็นการมีเจตนาหลอกลวงทางการค้า

    ตำราดูดวงไทยแบบโบราณ เช่น อ.เอื้อน มณเฑียรทอง หรือของ อ.สิงห์โต
    (ขออภัย จำนามสกุลไม่ได้) เป็นปรมาจารย์โหราศาสตร์ไทย ที่มีชื่อเสียงในอดีต
    ไม่เคยแนะนำวิธีการเช่นนี้เลย

    ตำราโหราศาสตร์สากล ส่วนใหญ่เพียงแต่พูดถึง พลอยประจำเดือนเกิดเท่านั้น
    เพื่อความเป็นมงคลที่ยอมรับได้ แต่ก็ไม่มีตำราใดๆ (ที่มาตรฐาน) แนะนำขนาด
    ต้องใช้แร่ หรืออัญมณีแบบนั้นแบบนี้ ถ้าจะมีก็เป็นเว็บไซด์ ประเภทขายของบน
    ความเชื่อเท่านั้น

    โปรดเริ่มด้วยความคิดและความต้องการของตนเองดีที่สุด

    นักสะสมเอง คงมีเหตุผลส่วนตัวหลายประการทั้งนี้ ควรตะหนักถึงข้อมูล
    ที่ต้องทราบบ้าง เพื่อการสะสมที่คุ้มค่า ถูกต้องเข้าใจด้วยเจตนาตนเองเป็นหลัก
    มิใช่จากการยัดเยียด ความเชื่อแบบผิดทางจากใครไม่ทราบ เพียงดูดวงให้ เพราะว่าทายแม่น เลยเชื่อหมดทุกเรื่อง

    เริ่มต้นจากงบประมาณที่ไม่เดือดร้อนและข้อมูลที่รู้เองจริง

    ต้องยอมรับว่าราคาการสะสม แร่ นั้นต้องใช้งบมากอยู่ไม่น้อย
    การสะสมควรจะค่อยเป็นค่อยไป สามารถหารายละเอียดตำรามีขายอยู่ทั่วไป
    (ควรใช้คู่มือแนะนำการสะสม ที่เชื่อถือได้ซึ่งมีสถาบันที่มีชื่อเสียง)

    หากใช้ข้อมูลในเว็บไซด์ควรเลือกเว็บไซด์ที่ไม่ได้ เน้นการขายสินค้ามากนัก
    จะได้ข้อมูลความจริงที่ชัดเจน โดยมีข้อแนะนำเพิ่มเติมการศึกษาเพื่อการสะสม
    แร่ ควรใช้ฐานข้อมูลด้าน ภาษาอังกฤษเป็นหลัก เพื่อการต่อยอดไปสู่ข้อมูล
    เชิงลึกของแร่แต่ละชนิดได้
    ข้อแนะนำเบื้องต้น

    1.แร่ในโลกมีมากกว่า 4,000 ชนิด บางชนิดหายากมากและราคาสูงควรเริ่มจาก
    ชนิดที่หาซื้อได้ไม่ยากนัก ในประเทศไทยมีมากหลากหลายนับร้อยชนิด
    ที่นำเข้ามาขาย เราอาจเสียเปรียบต่อประเทศที่มีแหล่งแร่อยู่บ้าง

    2.ควรเริ่มจากแร่ที่ลักษณะโครงสร้าง สีสันรูปแบบไม่ซับซ้อนนัก ตัวเราเอง
    มองออกว่าเป็นชนิดใด เมื่อเปรียบเทียบกับภาพในคู่มือ การไปซื้อแร่ควรพก
    คู่มือไปเปรียบเทียบด้วย (บางร้านมักจะมีให้ผู้ซื้อศึกษาเช่นกัน)

    3.ไม่จำเป็นต้องเชื่อข้อมูลจากผู้ขาย (ยกเว้นว่ามีความเชื่อถือส่วนตัว) เพราะจะ
    ได้ข้อมูลที่ไม่ถูกต้องจากคนนำมาขายส่งอีกทอดหนึ่ง (พ่อค้ามีทั้งชาวอินเดีย
    และ ชาวจีน)

    4.รูปแบบการเลือกขึ้นอยู่กับรสนิยม ไม่มีข้อจำกัดจะเป็นแบบโครงสร้างธรรมชาติ
    แบบเจียระไนรูปทรงต่างๆก็ได้ เช่น กลม ปีรามิดหรือแท่ง ไม่ควรเลือกที่มี
    รอยบิ่นแตกภายนอก ส่วนรอยร้าวภายในเป็นลักษณะขบวนการเกิดแร่
    มีความเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว ไม่จำเป็นต้องเสาะหาชนิดใสดั่งกระจกไม่มี
    รอยตำหนิเพราะมีน้อยชิ้น ราคาจะสูงขึ้น (โปรดระลึกอยู่เสมอว่า ข้อแนะนำใน
    หลักการนี้ มิได้มีเน้นเพื่อการประดับร่างกาย หากมีวัถตุประสงค์ใช้แบบเครื่อง
    ประดับ ไม่จำเป็นต้องใช้หลักการข้อนี้)
    5.ราคาซื้อขายจากประสบการณ์นั้นชิ้นที่สวยเด่นมีความนิยมมักจะถูกตั้ง ราคา
    ขายต่อชิ้น หากผู้ขายทราบว่าคุณเป็นสะสมมักเสนอขายเป็นน้ำหนักต่อกรัม
    หรือกิโลกรัม เพราะต้องการลูกค้าขาประจำ เวลาร้านค้าซื้อเข้ามาขายในตลาด
    คิดเป็นน้ำหนักส่วนใหญ่

    6.การไปเลือกซื้อใช้เวลาพิจารณาแล้วตัดสินใจ โดยเลือกร้านค้า ที่น่าเชื่อถือ
    สังเกตจากความหลากหลายชนิดของแร่ สินค้ามีจำนวนให้เลือก ไม่ใช่ร้านเน้น
    ขายเครื่องประดับเป็นหลัก ร้านที่อ้างว่านำมาจาก ลาว พม่า มักจะไม่จริง
    เพราะมาจากจีนเป็นหลัก (แต่ไม่ได้หมายความว่าขุดพบในจีน แต่จีนเป็นศูนย์
    รวมการขายอาจนำมาจาก แหล่งอื่นๆก็ได้) หากราคาสูงเกินจริงก็ไม่ควรซื้อ
    อย่าลืมทั้ง โลกยังมีแร่มากมหาศาลไม่ต้องกลัวหมด และควรให้ผู้ขายมีกำไร
    ตามสมควร

    7.การซื้อจากประเทศเพื่อนบ้านจากประสบการณ์ ลาวไม่พบว่าขายอย่างจริงจัง
    ฮ่องกงราคาสูงกว่าไทย ส่วนใหญ่พบว่ามีชิ้นสวยและแปลกออกไป สิงค์โปร์ยัง
    ไม่พบเห็นชัดเจนอาจไม่แพร่หลาย ตลาดญี่ปุ่นบางส่วนซื้อจากไทยไปจำหน่าย
    และราคาค่อนข้างแพงมาก (ข้อมูลนี้ ช่วงเวลา 2544-2549)
    8.กรณีไปต่างประเทศแล้วซื้อกลับเข้ามา ประเทศเราเองควรศึกษาอัตราภาษีว่า
    เป็นชนิดที่อยู่ในพิกัดภาษี ประเภทอัญมณีหรือไม่

    9.การดูแลรักษา ล้างทำความสะอาดด้วยน้ำสะอาด (น้ำปะปา) แล้วเช็ดให้แห้ง
    หรือทิ้งไว้ให้แห้งก็ได้ก็เพียงพอ ไม่จำเป็นต้องไปตากแดด ตากแสงจันทร์
    ด้วยเหตุผลว่าเป็นการช่วยเพิ่มพลังนั้นไม่เป็นความจริง มิฉะนั้นแล้วแร่ในเหมือง
    หรือภูเขากลางแจ้ง คงมีพลังงานมากมายตลอดพันล้านปีที่ผ่านมา

    10.ที่เก็บรักษาขึ้นกับความสะดวกเหมาะสม แต่ระวังสัตว์เลี้ยงหรือเด็กเล็กนำไป
    เล่นแล้วกลืนกิน แล้วไม่จำเป็นต้องไปเก็บไว้ที่หิ้งพระเพราะละเรื่องกันระหว่าง
    แร่กับพระที่เราบูชา

    11.หากมีโอกาสไปต่างจังหวัด สถานที่เป็นภูเขา อาจเก็บหินหรือแร่ก้อนเล็กๆ
    กลับมาเป็นตัวอย่างเปรียบเทียบกับข้อมูลตำราที่มีอยู่เป็นการฝึกฝน อาจจะพบ
    แร่แปลกๆโดยไม่ต้องซื้อ

    12.ไม่ควรให้ความสนใจเรื่องมหัศจรรย์ อภิหารจากแร่ หินของตำราประเภท
    ดังกล่าวทั้งไทย-ต่างประเทศ สำหรับผู้ที่สนใจเรื่องพลังจากหินและแร่ควรศึกษา
    หลักการด้านวิทยาศาสตร์ประกอบ แล้วจะมีความเข้าใจมากขึ้น ว่าเป็นลักษณะ
    ของพลังงานธรรมชาติที่พบได้ทั่วไปในหินแร่ทุกชนิดไม่ใช่ของวิเศษ อภินิหาร
    เป็นความจริงด้านฟิสิกส์ที่สามารถแสดงและพิสูจน์ได้

    13.ไม่ควรให้ความสำคัญกับของขลังที่สร้างจากแร่ จะเสียเงินแพงเปล่าๆ
    เพราะเรากำลังสะสมแร่ ไม่ได้สะสมของขลัง
    จากนี่ครับ
    http://www.ssunantha.th.gs/web-s/sunantha/picture.htm
     
  7. แมวขาว

    แมวขาว เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    221
    ค่าพลัง:
    +241
    มีอยู่ 5 ลูกครับวรณะใสเหลือบเขียวอ่อนๆ กลม...ท่านเอามาให้ในวันแรม 11 ค่ำ ปัจจุบันบูชาแช่น้ำมนต์ไว้
     
สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้

แชร์หน้านี้

Loading...