อานิสงส์ถวายเครื่องอัฏฐะบริขาร

ในกาลครั้งหนึ่ง
องค์สมเด็จพระผู้มีพระภาคเจ้า
เมื่อพระองค์เสด็จอาศัยกรุงสาวัตถี อันเป็นที่โคจรบิณฑบาต และเสด็จประทับอยู่ในบุพพารามวิหาร ณ ป่าเชตวันแห่งนี้​

1.ในกาลครั้งหนึ่งมีมหาเศรษฐีผู้หนึ่งอยู่ในบ้านสถานชื่อว่าหะโตสะเศรษฐีปลูกโรงมณฑปไว้หน้าเรือนของตน และทำสร้างแปลงอัฏฐะบริขาร 8 ประการ ประกอบด้วย
1.1 ผ้าจีวร 1.2 สบง 1.3 สังฆาฏิ 1.4 บาตร 1.5 ผ้ากรองน้ำ 1.6คิลานเภสัช 1.7 ขวานสิ่ว 1.8 เสื่อสาดอาสนะ และทำการมหรสพอันยิ่งใหญ่ประจบครบ 7 วัน จึงนำกองอัฏฐะเข้าไปสู่ป่าเชตวัน ณ บุพพรามวิหาร อันเป็นที่ประทับแห่งองค์สมเด็จพระพุทธเจ้า ถวายบิณฑบาตและอัฏฐะแก่พระพุทธองค์กับทั้งพระภิกษุสงฆ์ 500 รูป เสร็จจากการถวายภัตตากิจแล้ว
2.มหาเศรษฐีก็กราบทูลถามถึงองค์พระผู้เจริญ : อันบุคคลที่มีจิตศรัทธาประสันนาการมาสร้างอัฏฐะบริขาร 8 ประการให้เป็นทานจะได้อานิสงส์อย่างไรพระเจ้าข้า
3.องค์สมเด็จพระผู้มีพระภาคเจ้าจึงตรัสเทศนาว่า : ดูกรเศรษฐีบุคคลใดที่มีใจศรัทธาเลื่อมใสมาก่อสร้างอัฏฐะบริขาร 8 ประการ ถวายเป็นทาน
3.1 บุคคลผู้นั้นจะได้อานิสงส์ 36 กัลป์
3.2 บุคคลผู้นั้นจะไม่ไปสู่อบายภูมิได้ 100 ชาติ
3.3 บุคคลผู้นั้นจะได้เสวยสมบัติในชั้นสวรรค์ และในภายหลัง
3.4 บุคคลผู้นั้นจะได้พระนิพพานสมบัติ อันสิ้นภพสิ้นชาติสิ้นทุกข์สิ้นภัยไม่เวียนว่ายตายเกิดในวัฏสงสาร
การถวายทานด้วยเครื่องอัฏฐะบริขารนี้เป็นเยี่ยงอย่างประเพณีแห่งพระบรมโพธิสัตว์สืบๆกันมา
4 พระพุทธองค์จึงนำอดีตนิทานมาเทศนาว่า : ดูกรเศรษฐีในอดีตกาลล่วงมาแล้ว ในครั้งพระบรมโพธิสัตว์บำเพ็ญพระบารมีบริบูรณ์ ได้ตรัสรู้ปรมาภิเษกสัมโพธิญาณ ทรงพระนามว่า พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงพระมหากรุณาโปรดเวไนยบรรพสัตว์ ให้ตั้งอยู่ในทางสวรรค์และทางนิพพาน ครั้งนั้นยังมีบุรุษเข็ญใจเลี้ยงชีวิตอยู่มาวันหนึ่งไปเห็นพระปัจเจกโพธิองค์หนึ่งอยู่ในป่า ก็มีจิตศรัทธาเลื่อมใสในพระปัจเจกโพธิ จึงเข้าไปถวายอภิวาทแล้วแบกเอามัดฟืนและผักกับมาขายได้เงินพอสมควรแล้ว จึงนำไปซื้อผ้าแพรมาทำเป็นผ้าสบง จีวรสังฆาฏิ บาตรครบเครื่องอัฏฐะแล้ว จึงนำเข้าไปถวายแก่พระปัจเจกโพธิเจ้าแล้วตั้งจิตอฐิษฐานด้วยเดชะบุญแห่งข้าพเจ้าได้ทำทานครั้งนี้ ขอให้ข้าพเจ้าพ้นจากความเข็ญใจได้ยาก เหมือนดั่งชาตินี้และเมื่อข้าพเจ้าได่ท่องเที่ยวอยู่ในวัฏสงสารตราบใด ขอให้ข้าพเจ้าบริบูรณ์ด้วยทรัพย์สมบัติ ให้ได้จำแนกแจกทานแก่ท่านผู้มีศีลและคนยาจกวณิพกคนขอทานทุกทั่วหน้าและขอให้ข้าพเจ้าได้ตรัสรู้เป็นพระสัมมาสัมโพธิญาณ ครั้นปรารถนาแล้วก็กลับไปสู่บ้านเรือนของตน ขวนขวายหาเลี้ยงมารดาตราบเท่าสิ้นอายุ
4.1 ก็ไปบังเกิดสวรรค์ชั้นดุสิตมีวิมานทองสูง 28 โยชน์
4.2 มีนางฟ้าเทพอัปสร 500 เป็นบริวาร
4.3 ครั้นจุติจากดุสิตภิภพแล้วมาถือกำเนิดในตระกูลสากยะเสตะราชกรุงสาวัตถีบริบูรณ์ด้วยโภคสมบัติ ครั้นเจริญวัยขึ้นก็ได้เสวยราชสมบัติแทนบิดาทรงพระนามว่า"สมเด็จพระยาปัสเสนทิโกศล"ในบัดนี้
5.ครั้นจบพระธรรมเทศนาแล้ว หะโตสะเศรษฐีได้ทูลลาไปสู่เรือนของตน ครั้นเมื่อสิ้นอายุขัยแล้ว
5.1 ก็ไปเกิดในดุสิต เสวยทิพย์สมบัติ มีวิมานทองสูง 20 โยชน์
5.2 มีเทพอัปสร 30000 เป็นบริวาร​

 

อนุโมทนา
ทำบุญแล้วขอให้แผ่เมตตาแด่
สรรพสัตว์ทั้งปวงที่ยังต้องทนทุกข์
ให้พ้นจากภัยทั้งปวง
สาธุ สาธุ​

 

ขอร่วมอนุโมทนาบุญกุศลกับทุกรูปทุกนามที่ช่วยกันทำนุบำรุงและเผยแพร่พระพุทธศาสนาให้เจริญรุ่งเรืองครับ สาธุ

 

"พึงเอาชนะความตระหนี่ ด้วย ทานะบารมี/ทานะอุปบารมี/ทานะปรมัติบารมี"สาธุ สาธุ สาธุ

 

อนุโมทนา
จิตเป็นกุศล ย่อมนำมาซึ่งความสุข
สาธุ สาธุ สาธุ​