เรื่องเด่น อาถรรพณ์ ! 'พระปิดตาผงอัฐิ' 'พระอาจารย์หนู' วัดโพธิ์ท่าเตียน

ในห้อง 'ประสบการณ์ เรื่องเล่า' ตั้งกระทู้โดย อดุลย์ เมธีกุล, 7 กุมภาพันธ์ 2011.

  1. อดุลย์ เมธีกุล

    อดุลย์ เมธีกุล เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 กันยายน 2007
    โพสต์:
    7,363
    ค่าพลัง:
    +11,795
    คมชัดลึก :พระปิดตาเนื้อผงอัฐิ วัดโพธิ์ท่าเตียน เป็นพระเครื่องที่ผู้นำไปใช้บูชาติดตัวแล้ว ต่างมีเรื่องเล่าขานสืบต่อกันมามากมาย ในด้านประสบการณ์ต่างๆ พระรุ่นนี้มีชื่อเสียงโด่งดังมาตั้งแต่ครั้งสงครามอินโดจีน ช่วงปี ๒๔๘๐ กว่าๆ อันเป็นสงครามระหว่างไทยกับฝรั่งเศส ที่มีอาณานิคมอยู่ในอินโดจีน

    [​IMG]
    <SCRIPT type=text/javascript>google_ad_channel = '9989085094'; //slot numbergoogle_ad_type = 'text'; //media image, text, html, flash google_max_num_ads = '3'; //amount Ads//google_image_size = '300X250';//google_skip = '3';var ads_ID = 'adsense_inside'; // set ID for main Element divvar displayBorderTop = false; // default = false;//var displayLandScape = true; // false=Default, true=landscape *** if set Landscape not arrow ad type imagevar position_ad_detail ='in'; // ''=Default, in=Intext, under=TextUnderDetail</SCRIPT><SCRIPT type=text/javascript src="http://www.komchadluek.net/AdsenseJS.js"></SCRIPT><SCRIPT type=text/javascript src="http://pagead2.googlesyndication.com/pagead/show_ads.js"></SCRIPT><SCRIPT src="http://pagead2.googlesyndication.com/pagead/js/r20101117/r20110202/show_ads_impl.js"></SCRIPT><SCRIPT src="http://googleads.g.doubleclick.net/pagead/test_domain.js"></SCRIPT><SCRIPT src="http://pagead2.googlesyndication.com/pagead/render_ads.js"></SCRIPT><SCRIPT>google_protectAndRun("render_ads.js::google_render_ad", google_handleError, google_render_ad);</SCRIPT><SCRIPT language=JavaScript1.1 src="http://googleads.g.doubleclick.net/pagead/ads?client=ca-pub-1044823792492543&output=js&lmt=1297041857&num_ads=3&channel=9989085094&ad_type=text&adtest=off&ea=0&feedback_link=on&flash=10.1.82.76&url=http%3A%2F%2Fwww.komchadluek.net%2Fdetail%2F20100603%2F61455%2F%E0%B8%AD%E0%B8%B2%E0%B8%96%E0%B8%A3%E0%B8%A3%E0%B8%9E%E0%B8%93%E0%B9%8C!%E0%B8%9E%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%9B%E0%B8%B4%E0%B8%94%E0%B8%95%E0%B8%B2%E0%B8%9C%E0%B8%87%E0%B8%AD%E0%B8%B1%E0%B8%90%E0%B8%B4%E0%B8%9E%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%AD%E0%B8%B2%E0%B8%88%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%A2%E0%B9%8C%E0%B8%AB%E0%B8%99%E0%B8%B9%E0%B8%A7%E0%B8%B1%E0%B8%94%E0%B9%82%E0%B8%9E%E0%B8%98%E0%B8%B4%E0%B9%8C%E0%B8%97%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B9%80%E0%B8%95%E0%B8%B5%E0%B8%A2%E0%B8%99.html&dt=1297041857721&shv=r20101117&jsv=r20110202&saldr=1&correlator=1297041857768&frm=0&adk=2841150207&ga_vid=412530616.1272595154&ga_sid=1297041354&ga_hid=1808433832&ga_fc=1&u_tz=420&u_his=0&u_java=1&u_h=1024&u_w=1280&u_ah=984&u_aw=1280&u_cd=32&u_nplug=0&u_nmime=0&biw=686&bih=755&ref=http%3A%2F%2Fwww.komchadluek.net%2Fsection%2F%E0%B8%9E%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B9%80%E0%B8%84%E0%B8%A3%E0%B8%B7%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B8%87.html&fu=0&ifi=1&dtd=102"></SCRIPT>


    ยุคนั้นทำให้เราได้รู้จักพระเกจิอาจารย์ผู้มีวิชาอาคมขลังมากมาย รวมทั้งวัตถุมงคลที่ท่านได้สร้างขึ้นมาเพื่อแจกให้ทหารที่ออกรบ
    พอเสร็จสงครามอินโดจีน ก็เข้าสู่ยุคของสงครามโลกครั้งที่ ๒ ช่วงนั้นก็มีพระเกจิอาจารย์อีกหลายท่าน ได้สร้างวัตถุมงคลออกมาด้วย เนื่องจากประเทศไทยได้ทำสัญญาเป็นมิตรกับญี่ปุ่น อยู่กับฝ่ายอักษะ ประเทศไทยจึงมีทหารญี่ปุ่นเข้ามาตั้งฐานทัพเต็มไปหมด ทำให้เราต้องทำสงครามกับฝ่ายพันธมิตรอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ส่งผลให้สถานที่สำคัญหลายแห่ง ที่เป็นจุดยุทธศาสตร์ และเป็นที่ตั้งของกองทัพญี่ปุ่น ถูกเครื่องบินของฝ่ายพันธมิตรทิ้งระเบิดระลอกแล้วระลอกเล่า

    การทิ้งระเบิดครั้งนั้น เป็นการทิ้งแบบปูพรม โดยที่เครื่องบินได้บินสูงๆ เมื่อทิ้งระเบิดลงมาจึงทำให้เกิดการพลาดเป้าหมาย ไปถูกบ้านเรือนของประชาชนเป็นประจำ จนมีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บพิการเป็นจำนวนมาก
    พระเกจิอาจารย์หลายท่าน จึงได้สร้างวัตถุมงคลขึ้นมาแจกจ่ายแก่ทหาร ตำรวจ อาสาสมัคร และประชาชน ไว้ป้องกันอันตราย เป็นขวัญและกำลังใจ

    เมื่อราวปี ๒๔๘๕ พระอาจารย์หนู วัดโพธิ์ ท่าเตียน (หรือ วัดพระเชตุพนวิมลมังคลราม) เป็นอีกท่านหนึ่งที่ได้สร้างพระเครื่องขึ้นมาในครั้งนั้นด้วย เป็นการสร้างโดยตัวท่านเอง แบบเงียบๆ ค่อยเป็นค่อยไป คือ พระปิดตาเนื้อผงอัฐิ

    พระอาจารย์หนู เป็นพระเกจิอาจารย์จาก จ.สุรินทร์ มีเชื้อสายเป็นชาวเขมร ท่านมีวิชาอาคมแก่กล้า และเชี่ยวชาญทางไสยศาสตร์มาก แม้อายุจะไม่มากนัก แต่ความรู้ความสามารถทางคาถาอาคมมีสูง จนมีผู้คนเคารพนับถือกันอย่างกว้างขวาง

    ท่านชอบเลี้ยง ว่าน ไว้ที่กุฎิของท่านหลายชนิด นอกจากนี้ท่านยังมีความรู้ทางแพทย์แผนโบราณ จึงมีชาวบ้านไปขอความอนุเคราะห์ให้ท่านรักษาโรคภัยไข้เจ็บอยู่เสมอ บ้างก็ไปขอวัตถุมงคล หรือให้ท่านรดน้ำมนต์

    เนื่องจากพระอาจารย์หนู มีความชำนาญในวิชาอาคม และไสยศาสตร์มาก การสร้างพระเครื่องของท่าน จึงทำแบบพิสดาร ผิดไปจากการสร้างพระเครื่องของพระเกจิอาจารย์ทั่วๆ ไป

    [​IMG]

    กล่าวคือ ท่านได้นำเอา อัฐิ หรือ ขี้เถ้ากระดูกของคนตาย มาสร้างเป็นองค์พระปิดตา ผสมกับผงพุทธคุณ, ผงอิทธิเจ และว่านอาถรรพ์ต่างๆ
    การที่ท่านนำเอาขี้เถ้ากระดูกของคนตายมาสร้างพระเครื่อง เป็นเหตุผลของตัวท่านเอง เนื่องจากขี้เถ้ากระดูกของคนตายนี้ ตามหลักของวิชาไสยศาสตร์ ถือว่าเป็นวัสดุอาถรรพณ์ชนิดหนึ่ง

    แต่การที่จะเอาขี้เถ้ากระดูกของคนตายมาสร้างวัตถุมงคล จะต้องเป็นคนที่มีวิชาอาคมแก่กล้า ถึงจะทำได้ เพราะของแบบนี้ ย่อมมีแรงอาถรรพณ์อยู่ในตัว

    ขี้เถ้ากระดูกผี ที่พระอาจารย์หนูนำมาสร้างพระเครื่องนั้น ไม่ได้จำเพาะว่า จะต้องเป็นขี้เถ้ากระดูกของคนที่ตายโหง หรือตายวันเสาร์เผาวันอังคาร แต่ประการใด ขอให้เป็นขี้เถ้าของกระดูกคนที่ตายแบบไหนก็ใช้ได้

    สมัยนั้น ชาวบ้านนิยมเผาคนตายตามเชิงตะกอน ช่วงสงครามมีคนตายกันมาก ขี้เถ้ากระดูกของคนตายจึงสามารถหาได้ง่าย
    แต่ก่อนที่จะเอาขี้เถ้ากระดูกคนตายมาใช้สร้างพระเครื่อง ท่านจะทำพิธีพลีกรรมก่อนทุกครั้ง ตามวิชาที่ได้เรียนมา

    พระผงขี้เถ้ากระดูกคนตาย ที่พระอาจารย์หนูสร้างขึ้นนั้น ท่านได้เอา ว่านโพง มาบดให้ละเอียดผสมเข้าไปด้วย

    ว่านชนิดนี้เรียกอีกชื่อหนึ่งว่า ว่านกระสือ เชื่อกันว่า เป็นว่านที่มีอาถรรพ์ และมีอิทธิฤทธิ์มาก มักขึ้นอยู่ตามป่าลึก หากสัตว์พลัดหลงเข้าไปในบริเวณที่มีว่านชนิดนี้ขึ้นอยู่ อาจถูกว่านดูดเลือดกินจนตายก็ได้

    ว่านโพงหรือว่านกระสือนี้ อาจารย์ไสยศาสตร์ที่มีวิชาอาคมขลัง มักจะชอบเลี้ยงเพื่อไว้เฝ้าบ้าน การเลี้ยงว่านชนิดนี้ เลี้ยงยากกว่าว่านชนิดอื่นๆ

    อย่างไรก็ตาม แม้มวลสารที่พระอาจารย์หนูนำมาใช้ในการสร้างพระปิดตา ดูจะเฮี้ยนๆ น่ากลัว แต่ท่านได้ทำพิธีพลีกรรมถูกต้องตามตำราทุกประการ จึงทำให้ผู้ที่นำพระไปใช้ กลับได้รับคุณอย่างเดียว เรื่องโทษยังไม่เคยปรากฏ และผลที่ได้กลับแปลก คือ แรง และ เร็ว กว่าวัตถุมงคลชนิดอื่นๆ หลายเท่า

    พุทธคุณจะแรงและเร็ว คล้ายๆ กับเครื่องรางของขลัง ผู้นำมาใช้อธิษฐานขอสิ่งใด มักจะสมหวังเสมอ และหากสมหวังดั่งใจแล้ว ก็ควรทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้กับเจ้าของเถ้ากระดูกนั้นด้วย

    สำหรับประสบการณ์ที่เล่าขานกันนั้น เป็นที่ประจักษ์แก่ทั้งทหารไทย และทหารญี่ปุ่น จนมีคำเรียกติดปากกันในยุคนั้นว่า ทหารผี เพราะมีคนเห็นว่า ทหารไทยโดนยิงจนล้มแล้ว กลับลุกขึ้นมาสู้ใหม่ได้ ทั้งๆ ที่น่าจะตาย แต่ไม่ตาย เพราะหนังเหนียว ทรหดอดทนมาก

    พระปิดตาผงกระดูกผี นี้เมื่อบูชาแล้วจะเด่นมากในด้านความปลอดภัย ป้องกันภัยดี เวลาเดินทางไปไหน มาไหน ทั้งๆ ที่ไปคนเดียว แต่มีคนกลับมองเห็นว่า เหมือนมีคนเดินตามกันมาหลายคน

    บางคนนั่งรถไปธุระ พอลงจากรถ มักจะมีคนถามว่า...คนที่มาด้วยไปไหนแล้ว...อย่างนี้ก็มี ส่วนประสบการณ์ด้านอื่นๆ เช่น การเสี่ยงโชค นักเสี่ยงโชคมักจะมีความรู้สึกว่า มีคนคอยมาดลจิต ให้ได้รับโชคนั้นๆ แต่มีข้อแม้ว่า หากใครได้โชคมาพอประมาณแล้ว ก็ควรจะเลิก อย่าโลภมาก เพราะอาจจะหมดตัวก็ได้

    คนที่ชอบของแรงๆ พุทธคุณเด่นชัดเร็วๆ ต้องบูชาพระปิดตาสำนักนี้ รับรองว่า แขวนเดี่ยวจะปรากฏประสบการณ์อย่างชัดเจนมาก มีครบสูตร ไม่ว่าจะคงกระพัน แคล้วคลาด เมตตามหานิยม

    ปัจจุบัน พระปิดตาผงกระดูกผี ของ พระอาจารย์หนู ที่เล่นหากันนั้น ส่วนใหญ่ไม่ใช่ตัวจริง ตัวจริงต้องกดพิมพ์ได้ลึกแบบที่เห็นนี้ ผิวพรรณ ความเก่า มวลสารเก่าเพียบ ดูเข้มขลัง นับเป็นพระปิดตาที่น่าสนใจพิมพ์หนึ่ง ราคาค่านิยมยังไม่แพงจนเกินไปนัก องค์นี้พระติดลึกเต็มๆ สภาพสวยแชมป์ระดับนี้ ปัจจุบันไม่ใช่จะหาได้ง่ายนัก

    0 เสี้ยนพระ 0

    ที่มา - http://www.komchadluek.net/detail/2...ปิดตาผงอัฐิพระอาจารย์หนูวัดโพธิ์ท่าเตียน.html
    <SCRIPT src="http://pagead2.googlesyndication.com/pagead/js/r20101117/r20110202/show_ads_impl.js"></SCRIPT><SCRIPT src="http://googleads.g.doubleclick.net/pagead/test_domain.js"></SCRIPT><SCRIPT src="http://pagead2.googlesyndication.com/pagead/render_ads.js"></SCRIPT><SCRIPT>google_protectAndRun("render_ads.js::google_render_ad", google_handleError, google_render_ad);</SCRIPT><SCRIPT language=JavaScript1.1 src="http://googleads.g.doubleclick.net/pagead/ads?client=ca-pub-1044823792492543&output=js&channel=9989085094&adtest=off&ea=0&feedback_link=on&flash=10.1.82.76&dt=1297042834267&shv=r20101117&jsv=r20110202&saldr=1&correlator=1297042834291&frm=1&adk=256789428&ga_vid=545484422.1295580347&ga_sid=1297041945&ga_hid=1237930571&ga_fc=1&u_tz=420&u_his=32&u_java=1&u_h=1024&u_w=1280&u_ah=984&u_aw=1280&u_cd=32&u_nplug=0&u_nmime=0&biw=1259&bih=788&ifk=199505698&fu=4&ifi=1&dtd=250"></SCRIPT>
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 7 กุมภาพันธ์ 2011
  2. trirut

    trirut เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กันยายน 2008
    โพสต์:
    1,420
    ค่าพลัง:
    +1,499
    ขอบคุณครับ สำหรับข้อมูลดีๆๆ ^^
     
  3. อดุลย์ เมธีกุล

    อดุลย์ เมธีกุล เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 กันยายน 2007
    โพสต์:
    7,363
    ค่าพลัง:
    +11,795
    ขอขอบคุณครับที่เข้ามาตอบกระทู้
     
  4. Shinya

    Shinya สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 พฤศจิกายน 2010
    โพสต์:
    96
    ค่าพลัง:
    +13
    ขอบคุณครับ..................
     
  5. กำธร นครปฐม

    กำธร นครปฐม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กรกฎาคม 2007
    โพสต์:
    2,756
    ค่าพลัง:
    +7,205
    เยี่ยมครับป๋า ขอบคุณมาก ๆ เลยครับ
     
  6. อัสนี

    อัสนี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2009
    โพสต์:
    1,401
    ค่าพลัง:
    +3,566
    ประเทศไทยมีของดีเยอะมากๆ เป็นศาสตร์โบราณที่ควรคุณค่าน่าอนุรักษ์ไม่มีผู้สืบทอดเมื่อครูบาอาจารย์มรณะภาพวิชาต่างๆก็สูญหายไป และพวกเหลือบพวกโครตเซียนทั้งหลายอีกชอบทำของเลียนแบบครูบาอาจารย์หวังเพื่อได้เงินเล็กๆน้อยๆมาหลอกขายหยุดเถอะ!หยุดเถอะพฤติกรรมแบบนี้ สร้างความเสื่อมเสียและอาจทำให้ผู้ที่ได้ไปต่อว่าครูบาอาจารย์ว่าของไม่ดีกลายเป็นบาปติดตัวโดยไม่รู้เรื่องอีก ขอร้องให้หยุดเถอะน่ะ
     
  7. อุตฺตโม

    อุตฺตโม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    1,688
    ค่าพลัง:
    +1,931
    -เพราะมีการให้ "ข้อมูลที่เป็นความรู้และเป็นประโยชน์" ชนยุคหลัง ๆ ก็ได้ศึกษาและจดจำ

    เล่าสืบต่อกันไป ทำให้มีปัญญา"วิเคราะห์เรื่องราวในอดีต"ได้.

    "ท่านคือผู้มีคุณครับ" จากใจจริงของผมครับ.
     
  8. pharm.taung

    pharm.taung เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2009
    โพสต์:
    945
    ค่าพลัง:
    +432
    ขอบคุณครับพี่อดุลย์...
     
  9. ซักวันจะคิดออก

    ซักวันจะคิดออก เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    5,556
    ค่าพลัง:
    +6,330
    แบบนี้พอจะดูได้มั๊ยครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 300173-1.jpg
      300173-1.jpg
      ขนาดไฟล์:
      103.5 KB
      เปิดดู:
      826
    • 300173-2.jpg
      300173-2.jpg
      ขนาดไฟล์:
      108.3 KB
      เปิดดู:
      379
  10. อหิงสกะ

    อหิงสกะ สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 เมษายน 2010
    โพสต์:
    6
    ค่าพลัง:
    +5
    ใครสนใจบ้างครับ พระสังกัจจาย์ หลวงปู่ยิ้ม วัดหนองบัว รูปขึ้นไม่ได้ครับ สนใจส่งเมล์จะส่งรูปให้ suriya.94@hotmail.com
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • P1020415.JPG
      P1020415.JPG
      ขนาดไฟล์:
      768.8 KB
      เปิดดู:
      811
    • P1020416.JPG
      P1020416.JPG
      ขนาดไฟล์:
      677.8 KB
      เปิดดู:
      1,306
  11. อหิงสกะ

    อหิงสกะ สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 เมษายน 2010
    โพสต์:
    6
    ค่าพลัง:
    +5
    ขึ้นรูปได้แล้ว สนใจติดต่อมาครับ
    แล้วปิดตากระดูกผี อ.จารย์หนู ติดต่อมาได้ครับ ราคาไม่แพง
     
  12. อหิงสกะ

    อหิงสกะ สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 เมษายน 2010
    โพสต์:
    6
    ค่าพลัง:
    +5
    ชีวประวัติหลวงปู่ยิ้มวัดหนองบัว <?xml:namespace prefix = o ns = "urn:schemas-microsoft-com:eek:ffice:eek:ffice" /><o:p></o:p>
    <HR align=center width="100%" color=white noShade SIZE=1>
    ชีวประวัติ วัดศรีอุปราราม
    วัดหนองบัว ต.หนองบัว อ.เมือง จ.กาญจนบุรี
    วัดหนองบัว สร้างตั้งแต่สมัยไหนไม่อาจจะรู้ได้จากคำบอกกล่าวของก๋งพ้ง บัวขม(แซ่โค้ว)อายุ99ปี
    คุณffice:smarttags" />ก๋งพ้ง บัวขม(แซ่โค้ว เกิดเมื่อปีพ.ศ2425ชะตา2524บอกเล่าให้ผมผู้เป็นหลานสมัยท่านมีอายุ ขณะนั้นเข้าเจ้ามีอายุได้26ปี
    สมัยที่ก๋งพ้งเป็นเด็กๆ ได้บอกกล่าวจาก ก๋งอู๊ บัวขว (แซ่โค้ว) ซึ่งเป็นบิดา ว่าวัดหนองบัวมีเจ้าอาวาสหลายองค์
    1.หลวงปุ่โบย เป็นชาวมอญ
    2.หลวงปู่เหมีน เป็นชาวเขมร
    3.หลวงพ่ออุปณาย์ กลิ่น เป็นคนหนองบัวโดยกำเนิด
    วัดหนองบัว เมื่อสมัยก่อนยังเป็น สำนักสงฆ์อยู่(ทุ่งเลือดแห้ง)หรือปัจจุบัน(ทุ่งลาดหญ้า)ท่านอุปณาย์กลิ่นองค์นี้เป็นบรมจารย์ที่เรืองเวทย์ พระอริยสงฆ์ขากทั่วสารทิศให้ความเคารพท่าน และมอบตัวเป็นศิษย์ของท่าน ถ้ำพุพระ (หรือถ้ำขุนแผน)ซึ่งอยู่ในเขตวัดหนองบัว เป็นที่นั่งวิปัสสนาหรือนั่งกรรมฐาน จนท่านสำเร็จวิชาต่างๆ
    อริยสงฆ์ที่มอบตัวเป็นศิษย์ในยุดนั้น ได้แก่
    1.หลวงปู่ม่วง วัดบ้านทวน จ.กาญจนบุรี
    2.หลวงปู่เนียน วัดน้อย
    3.หลวงปู่ปาน วัดบางเหี๊ย จ.สมุทรปราการ
    4.หลวงปู่ทา วัดพระเนียงแตก จ.นครปฐม
    5.หลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า จ.ชัยนาท
    6.หลวงปู่บุญ วัดบางแก้วจ.นครปฐม
    7.หลวงพ่อเฒ่ายิ้ม วัดหนองบัว (ศิษย์ก้นกุฎิจนหลวงปู่กลิ่นมรณภาพ)
    หลวงปู่กลิ่น เกิดพ.ศ.2301มรณะภาพพ.ศ .2418 รวมศิริอายุได้117ปี ถือว่าเป้นบรมจารย์ที่มีอายุยืนยาวที่สุดในสมัยนั้น
    ชีวประวัติ ของหลวงพ่อเฒ่า (จันทโชติ) อริยสงฆ์แห่งวัดหนองบัว
    ท่านเป็นชาววังดัง จ.กาญจนบุรี เกิดปีมะโรง เดือนห้าวันอังคาร พ.ศ. 2387 เป็นบุตร นายยิ่ง
    นางเปี่ยม เมื่อสมัยเด็กมีนิสัยใจกล้าเป็นนักเลงพูดจริงทำจริงเด็กรุ่นเดียวกันหรือแก่กว่ายกให้เป็นลูกพี่ ได้เป็นกำลังช่วยบิดามารดาประกอบอาชีพค้าไม้ไผ่ ไปขายที่ปากอ่าวแม่กลองจนเป็นที่รู้จักของชาวแม่กลองเป็นอย่างดี
    ก่อนครบบวชท่านได้บวชเป็นสามเณรอยู่2ปีที่วัดบ้านเกิด ต.วังด้ง จนอายุ20ปีบริบูรณ์ ตรงกับปีพ.ศ.2408 โยมบิดา- มารดาทั้งสองได้นำสามเณรยิ้มไปบวชที่วัดทุ่งสมอ เขตบ้านทวน จ.กาญจนบุรี (ซึ่งเป็นบ้านเกิดของแม่ท่านเอง )โดยเจ้าอาวาสวัดทุ่งสมอเป็นพระอุปฌาย์บวชเป็นพระยิ้ม (จันทโชติ)อยู่รับใช้อุปฌาย์ และเรียนวิชาจนแตกฉาน อยู่2พรรษา สามารถสวดปาฎิโมกข์ได้อุปฌาย์วัดทุ่งสมอจึงชี้แนะให้ไปศึกษาวิชาและภาษาบาลี ที่สำนักวัดลิงขบ ย่านธนบุรี ซึ่งหลวงปู่พวง วัดลิงขบเป็นสหายกับอาจารย์ของท่าน ศึกษาอยู่ได้1พรรษา จึงเดินทางกลับวัดทุ่งสมอ อุปฌาย์วัดทุ่งสมอจึงชี้แนะให้ศึกษาวิชาไสยเวทย์ต่อที่ จ.สมุทรสงคราม
    1.1หลวงพ่อปลัดทิม วัดบางยี่น้อย (เป็นสหายกับอุปฌาย์ของท่าน) ใครอาบน้ำมนต์วัดนี้คนจนก็จะรวย
    2.1 หลวงปู่พ่วง วัดลิง้จน(วัดปากสมุทรสุดคงคา)เรียนวิชาทำธงกับอสุนิบาตสายฟ้าและพายุ
    3.1หลวงพ่อกลัด วัดบางพรมอัมพวา เรียนทางมหาอุดผ้าเช็ดหน้าทางมหานิยม
    4.1หลวงพ่อแจ้ง วัดประดู่อัมพวา เรียนทางแพทย์แผนโบราณ มีดหมอปราบภูตผีปีศาจรวมถึง1ปีเต็มๆท่านก็ออกธุดงค์ไปทางภาคใต้ สำนักวัดเขาอ้อ จ.พัทลุง ด้วยความยากลำบาก และได้มนัสการหลวงปู่เฒ่าศึกษาวิชาจนสำเร็จและได้ออกเดินธุดงค์ย้อนกลับมาถึงจังหวัดกระบี่ ด้วยความยากลำบากท่านธุดงค์บ่ายหน้าสู่ตะวันออกไปถึงนครวัตร ประเทศเขมรและธุดงค์ต่อประเทศลาว ผ่านภูเขาควาย ได้พบกับพระอาจารย์ เสาร์ ได้สนทนาธรรมและได้ย้อนกลับเมืองไทย ข้ามแม่น้ำโขงตรงกลับ จ.นครพนม เพื่อสักการะกราบพระธาตุพนมและเดินธุดงค์ไปจรดเหนือสุดประเทศไทย ธุดงค์ไปมนัสการ พระธาตุเชวงกอง ประเทศพม่า และธุดงค์กลับประเทศผ่านเจดีย์สามองค์ จ.กาญจนบุรี เพื่อเยี่ยม มนัสการอุปฌาย์ของท่านที่วัดทุ่งสมอ และได้จำพรรษาที่วัดทุ่งสมอจนถึงปีพ.ศ.2416ได้ข่าวว่าสำนักสงฆ์แห่งวัดหนองบัวมีบรมจารย์ผู้แก่กล้าคือ ท่านหลวงพ่อกลิ่น อุปฌาย์กลิ่น หลวงพ่อเฒ่ายิ้มจึงมีความเกิดสัทธายิ่งจึงถวายตัวเป็นศิษย์ปลายปีพ.ศ.2416เป็นศิษย์องค์สุดท้าย ศึกษาวิชาไสยเวทย์ต่างๆอยู่จนพ.ศ.2417หลวงพ่ออุปฌาย์กลิ่นได้มรณภาพลง วัดหนองบัวจึงว่างเจ้าอาวาส ขาวบ้าน ต.หนองบัวจึงพร้อมใจนิมนต์ท่านเป็นเจ้าอาวาสวัดหนองบัวองค์ที่4ต่อจากหลวงพ่ออุปฌาย์ กลิ่นเมื่อปีพ.ศ.2420 หลวงปู่ยิ้มได้บูรณะวัดต่อจากหลวงปู่กลิ่น จนวัดเจริญรุ่งเรือง ชาวหนองบัวจึงเคารพและศรัทธาท่านมาก ในชีวิตของท่าน ท่านปักกลดเป็นวัด ใต้ต้นโพธิ์ ถ้ำเป็นวัดเฉพาะเข้าพรราอยู่ที่วัด แต่ออกพรรษาท่านจะธุดงค์ไปศึกษาวิชากับพรอาจารย์ต่างๆทั่วสารทิศ พระอาจารย์ไหนที่ว่าเก่ง จนท่านมีพระสหาย อริสงฆ์ดังๆหลายท่าน ซึ่งเป็นศิษย์ในสำนักเดียวกันบ้าง ต่างสำนักบ้าง ส่วนใหญ่ท่านจะปักกลดอยู่ใต้ต้นโพธิ์ มีอยู่ครั้งหนึ่งได้เกิดอาเพศทั้งฝนและลมได้ตกลงมาพัดจนกิ่งโพธิ์หักที่หลวงพ่อปักกลดอยู่พอฝนหายนายก๋งพ้งปู่ชื่น ปู่ทัน ได้วิ่งไปหาหลวงปู่ยิ้มด้วยความเป็นห่วง กิ่งโพธิ์ได้หักลงมาทับกลด แต่กลดของหลวงปู่ไม่เสียหายและเป็นที่น่าอัศจรรย์ยิ่งกลดของหลวงปู่ไม่เปียกฝนและได้กลดที่ท่านนั่งน้ำไม่ไหลเข้าไป ลูกศิษย์ท่านนิมนต์ท่านให้ขึ้นวัด หลวงปู่ยิ้มได้พูดว่าเป็นเรื่องของธรรมชาติฉันไม่เป็นไร คืนนี้จะจำวัดที่นี่ต่อ ทุกคนจึงไม่กล้านิมนต์ท่าน เพราะหลวงปู่เป็นพระพูดน้อย ลูกศิษย์ทุกคนจึงไม่กล้าพูดต่ออีก และบางวันท่านจะถอนกลดจากใต้ต้นโพธิ์ไปจำวัดอยู่กลางป่าช้า เช้าท่านออกบินพบาตรโปรดสัตว์แล้วท่านก็จะกลับมากลางป่าช้าที่ปักกลด ท่านจะฉันข้าวอยู่กับวากศพที่ฝังและพวกสัตว์ป่าทั้งหลาย พอท่านฉันเสร็จท่านก็จะหว่านข้าวที่ลานป่าช้า ให้สัตว์จนสัตว์ป่าเชื่อง โดยเฉพาะหลวงปู่ท่านคุยกับสัตว์ได้ มีครั้งหนึ่งก๋งพ๋ง จำได้เวลาประมาณสองทุ่ม ได้นำลูกสมอที่ดองไปถวายท่าน หลวงปู่ยิ้มบอกก๋งพ๋งว่าฉันจะทำอะไรให้ดู หลวงปู่ให้ก๋งพ๋งไปหยิบดินเหนียวมาก้อนใหญ่ ให้ปั้นเป็นควาย1ตัววัว1ตัว พอปั้นเสร็จก๋งพ๋งก็ส่งให้หลวงปู่ยิ้ม หลวงปู่หยิบควายขึ้นมาไว้ในมือและ
    บทความนี้ เขียนจากหนังสือเล่มที่หลวงปู่ยิ้มมอบให้ พระยาขุนศรี ท่านเถื่อน<o:p></o:p>

    รูปขนาดเล็ก <o:p></o:p>
    <?xml:namespace prefix = v ns = "urn:schemas-microsoft-com:vml" /><v:shapetype id=_x0000_t75 stroked="f" filled="f" path="m@4@5l@4@11@9@11@9@5xe" o:preferrelative="t" o:spt="75" coordsize="21600,21600"><v:stroke joinstyle="miter"></v:stroke><v:formulas><v:f eqn="if lineDrawn pixelLineWidth 0"></v:f><v:f eqn="sum @0 1 0"></v:f><v:f eqn="sum 0 0 @1"></v:f><v:f eqn="prod @2 1 2"></v:f><v:f eqn="prod @3 21600 pixelWidth"></v:f><v:f eqn="prod @3 21600 pixelHeight"></v:f><v:f eqn="sum @0 0 1"></v:f><v:f eqn="prod @6 1 2"></v:f><v:f eqn="prod @7 21600 pixelWidth"></v:f><v:f eqn="sum @8 21600 0"></v:f><v:f eqn="prod @7 21600 pixelHeight"></v:f><v:f eqn="sum @10 21600 0"></v:f></v:formulas><v:path o:connecttype="rect" gradientshapeok="t" o:extrusionok="f"></v:path><o:lock aspectratio="t" v:ext="edit"></o:lock></v:shapetype><v:shape id=_x0000_i1026 style="WIDTH: 151.5pt; HEIGHT: 105.75pt" o:button="t" alt="คลิ๊กเพื่อดูภาพขนาดใหญ่

    Name: IMG_2003.jpg
    Views: 312
    Size: 77.9 KB
    ID: 466150" type="#_x0000_t75"><v:imagedata o:href="http://palungjit.org/attachment.php?attachmentid=466150&stc=1&thumb=1&d=1229182163" src="file:///C:\DOCUME~1\User\LOCALS~1\Temp\msohtml1\01\clip_image001.jpg"></v:imagedata></v:shape>
    <o:p></o:p>

    หลวงปู่ยิ้มวัดหนองบัว ท่านเริ่มสร้างปีพ.ศ.2439ส่วนผสมผงของท่านจะใช้ของธรรมชาติเป็นส่วนมาก มีพญากาฝากที่เป็นสิริมงคล108คดไม้มลคล108ไม้มงคลที่ตายพราย108ต้นว่านมงคล108ชนิด เกสร108ชนิด ไม้ไผ่ตัน คดข้าวสารดำ ข้าวสารหิน สมุดใบข่อย สมุดใบลานเก่าๆที่ขาดไม่ได้ใช้ผงธูปไหว้พระ ข้าวสุกก้นบาตรพระพุทธนำมาตากแห้ง ลูกมะพร้าวที่มีตาเดียวหรือกะลาตาเดียวเป็นมหาเสนห์ ลูกมะพร้าวที่ไม่มีตาหรือกะลาไม่มีตาเป็นมหาอุตม์ คดมะพร้าว กิ่งโพธิ์นิพพานคือกิ่งโพธิ์ที่หักลงมาเองทางทิศตะวันออก ไม้ไก่กุก คือเวลาที่ไก่เพศผู้เรียกหาไก่เพศเมียร้องกุกกุกไก่เพศเมียวิ่งมาให้ผสมพันธ์ด้วยกันนำไม้ที่ไก้เพศผู้จิกหรือคุ้ยเขี่ยอยู่ในบริเวณนั้นบดเป็นผง ปูนากระตุกเดือน5นำขุยปากรู กบจำศีลเดือน5ตาคารูกบนั้นมาเผาไฟป่นเป็นผง เขี้ยวงูจงอางตัวที่ฟักไข่จนตัวตายคาไข่ที่ฟัก ไม้คานคุก ๆม้คานประตูคุก ตัวชินณรงค์ที่สร้างรังอยู่ตามชายป่าลักษณะคล้ายจอมปลวกแต่จะต้องอยู่กลางแจ้งเท่านั้น ถ้าอยู่ตามโพรงไม้ใช้ไม่ได้และต้องให้ดวงอาทิตย์ส่องให้ตั้งจริงกับปากรูพอดีนำรังของตัวชินณรงค์นั้นมาทำเป็นผงไม้คานแม่หม้ายคือไม้คานที่ใช้หาบของขาย สากกะเบือแม่หม้ายที่มีสามีแล้วสามีตาย เป็นอาธรรพ์แก้คุณไสยต่างๆ ไม้คานและสากกะเบือของผู้หญิงที่ไม่มีสามีจนแก่เฒ่าตายต้องตายวันเสาร์ เผาวันอังคาร เขาควายเผือกที่ถูกฟ้าผ่าตาย เขี้ยวเสือโปร่งเป็นมหาอำนาจเขี้ยวหมูตันเป็นคงกะพันมหาอุตม์ คดสมองวัวจะเป็นก้อนหินที่อยู่ในสมองวัวมีอนุภาพทางตบะเดชะ ผู้เจตนาร้ายไม่กล้าขยับปากด่าว่าให้ร้ายป้องกันเขี้ยวงาอยู่ยงคงกะพัน คดขนุนเป็นหินที่เกิดในพืชถือว่าเป็นของที่ศักดิ์สิทธิ์ขึ้นเองตามธรรมชาติ คดขนุนเกิดจากลูกขนุนที่มีลูกขึ้นอยู่ใต้ดินเมื่อผ่าดูจะพบคดขนุนอยู่สองถึงสามลูกชื่อกันว่าคดขนุนต้นนั้นมีเทพยดาอาศัยอยู่ มีอนุภาพค้ำชูดวงชะตา เมตตามหานิยม มหาอุตม์ งาช้างดำ (งาที่กลายเป็นหิน)มีอนุภาพครอบจักรวาล งากำจัด งากำจาย งาช้างน้ำ เขากวางคุดมีอนุภาพทางด้านแคล้วคลาด พญางูเหลือมปากเป็ดลือเลื่องอนุภาพทางบันดาล โชคลาภ ตะไคร้โบสถ์ ตะไคร้เสมา108เสมา ตะไคร้เจดีย์ใหญ่108เจดีย์ กระเบื้องหลังคาโบสถ์ที่เลิกใช้แล้ว108โบสถ์ โบสถ์ดินศักดิ์สิทธิ์ตามที่ต่างๆดินจากสังเวชนียสถานทั้ง4ที่ประสูติ ตรัสรู้ แสดงปฐมเทศนาและปรินิพาน ท่านได้มาตอนที่ไปธุดงค์ที่อินเดีย แร่ธาตุต่างๆที่เป็นธาตุกายสิทธิ์มีความขลังความศักดิ์สิทธิ์ในตัวเองตามธรรมชาติ อาทิเช่น เพชรหน้าทั่ง ดินสากกายายัก เหล็กสังฆวนร เหล็กน้ำพี้ รังเหล็กไหล ข้าวตอกพระร่วง แร่ธาตุต่างๆที่108สัตว์ที่มีรูปร่างแปลกๆซึ่งมีความศักดิ์สิทธิ์ตามธรรมชาติ เช่น จิ้งจกสองหาง จิ้งจกห้าหาง นำมาเผงไฟแล้วบดเป็นผง อัญมณี12สีมีความหมายเท่ากับ12ราศี ตะไคร้หลักเมืองทุกเมืองในสมัยนั้นน้ำฝนเดือนห้าตกรดหลังคาโบสถ์108โบสถ์ น้ำฝนกลางหาวคือน้ำฝนเดือนห้าที่ตกลงมากลางแจ้ง โดยนำโอ่งมารองน้ำฝนบริเวณกลางแจ้ง นำน้ำนั้นมาผสมตอนทำพระหลวงปู่ยิ้มท่านได้ลบผงพุทธคุณ ผงปถมัง ผงอิทธิเจ ผงตรีนิสิงเหและผงมหาราชท่านยังได้ผงมาจากหลวงปู่กลิ่นซึ่งท่านได้มาจากวัดระฆังเป็นจำนวน1กะลามาผสมด้วย และได้พระผงเก่าที่แตกหักจากกรุต่างๆซึ่งหลวงปู่เนียน วัดน้อย จังหวัดสุพรรณบุรี เป็นผู้เอามาให้ ที่จำได้มีผงสุพรรณ พระขุนแผน พระกรุวัดถ้ำเสือและพระผงหักอีกหลายกรุมาบดเป็นผงหลวงปู่ยิ้มท่านจึงให้ตะกั่วพระท่ากระดานหักและตะกั่วนมประมาณ100กิโลกรัมกลับไป หลวงปู่อยู่ซึ่งเป็นศิษย์เอกหลวงปู่จีน วัดท่าลาดภายหลังหลวงปู่จีนมรณภาพจึงได้มาศึกษาวิชากับหลวงปู่ยิ้ม วัดหนองบัว และอยู่ประจำวัดจนหลวงปู่ยิ้มมรณภาพ หลวงปู่อยู่ท่านเป็นกำลังสำคัญในการทำพระผง หลวงปู่ยิ้มกับหลวงปู่อยู่เคยออกธุดงค์ด้วยกันผ่านประเทศพม่าธุดงค์ไปจนถึงประเทศอินเดียท่านได้ไปมนัสการต้นศรีมหาโพธิ์และท่านยังเก็บใบโพธิ์และดินบริเวณนั้นมาในสมัยนั้นยังเอามาง่าย หลวงปู่ยิ้มกับหลวงปู่อยู่ท่านยังได้ไปเรียนวิชาทำผงพุทธคุณอึดใต้บานพระบัวเข็มกับพระมอญที่เมืองมัณฑะเลหลวงปู่ยิ้มจึงได้ผงพุทธคุณนี้มาผสมในผงพระด้วย หลวงปู่ยิ้มได้รวบรวมผงสร้างพระปิดตามหาลาภถึง3ปี ตั้งแต่ปีพ.ศ.2439-พ.ศ.2441
    หลวงปู่ยิ้มได้ปรารภกับหลวงปู่อยู่ ก๋งพ๋ง ปู่ชื่นและท่านหมื่นปรารภบุญไมยพ่อบ้านเหลี่ยม บุญน้อยในสมัยนั้น หลวงปู่ยิ้มได้ปรารภว่าได้รวบรวมของทำผงจนครบหมดแล้วขาดสิ่งเดียวถ้าไม่ได้สิ่งนี้ก็ทำพระปิดตามหาลาภไม่ได้เพราะยังไม่ครบสูตรถ้าจะทำมันพระสุดยอดของพระปิดตาหลวงปู่ยิ้มพูดว่าถ้ามีบุฯวาสนาคงสร้างพระปิดตาจนร่วงปีพ.ศ.2442เดือนมกราคมมีผึ้งหลวงใหญ่มาทำรังที่เกศพระประทานในโบสถ์วัดหนิงบัวทำรังไปจนถึงตาพระพุทธเป็นผึ้งหลวง หลวงปู่ยิ้มท่านดีใจมากพอขึ้นเดือนเมษายนวันที่1พ.ศ.2442หลวงปู่ท่านได้ ทำพิธีขอรังผึ้งตรงที่รังผึ้งใหญ่ที่ทำรังปิดตาอยู่ ท่านขูดรังผึ้งตรงที่ปิดตาจนเกลี้ยงพอถึงวันที่13เมษา2442หลวงปู่ยิ้มท่านได้ทำพิธีผสมของศักดิ์สิทธิ์ต่างๆที่ท่านได้รวบรวมเอาไว้ หลวงปู่ยิ้มได้ปลุกเสกจนถึงพ.ศ.2445ท่านได้นำออกมาแจกเป็นทานให้กับศิษย์และผู้ที่มาทำบุญ หลวงปู่ยิ้มได้มอบพระปิดตาให้กับหลวงปู่ใจ วัดเสด็จไปแจกจำหน่ายเพื่อนำรายได้มาบำรุงวัดที่จะต้องบูรณะลูกศิษย์รูปไหนที่มาขอพระปิดตาไปแจกท่านก็มอบให้ วันที่หลวงพ่อคง วัดบางกระพร้อม จังหวัดสมุทรสงคราม เคยได้รับพระปิดตามหาลาภไปแจกวันที่ได้รับการแต่งตั้งเป็น พระอุปัชณาย์ ในสายลุ่มแม่น้ำแม่กลองจะมีพระปิดตามหาลาภของหลวงปู่ยิ้มมากพอสมควรทุกวันนี้พระปิดตาหลวงปู่ยิ้มหายากมาก
    ขอโทษนะทุกวันนี้เซียนพระดูของปลอมเป็นของจริงดูของจริงเป็นของปลอม
    นอกจากพระปิดตาแล้วหลวงปู่ท่านยังสร้างเครื่องรางของขลังอีกมากมาย อาทิเช่น เบี้ยแก้ มีดหมอ ตะกรุด หวายคาดเอว แหวนพิรอด และที่มีคนนิยมกันมากลูกอมทองหลวงปู่ยิ้ม ซึ่งเป็นที่เลื่องลือมาก ท่านพระยาประสิทธิ์สงคราม(นุช มหานีรานนท์) เจ้าเมืองกาญจนบุรีในสมัยนั้น ถ้าลงมาราชการที่กรุงเทพมหานครครั้งใด ทางกรุงเทพ จะต้องถามว่าท่านเจ้าคุณมีตะกรุดลูกอม วัดหนองบัวมาฝากบ้างหรือเปล่า จึงถือว่าเจ้านายและข้าราชการผู้ใหญ่ทางกรุงเทพ นับถือหลวงปู่ยิ้มจริงๆ
    จบประวัตการสร้างพระปิดตามหาลาภ หลวงปู่ยิ้มหรือเฒ่ายิ้มหรือองผง วัดหนองบัว
    บทความนี้ได้รวบจาก คุณffice:smarttags" />ก๋งพ๋ง บัวขม มอบให้หลาน พล ตรีละเอียดรัช บัวขม0841449052 <o:p></o:p>

    <o:p> </o:p>
    <o:p> </o:p>
    พระคาถาทำสงครามเสกข้าวกิน อารธนาพระขึ้นคอหลวงปู่ยิ้มวัดหนองบัว<o:p></o:p>
    นะโมตัสสะ 3จบ
    พุธธังอารธนานัง ธัมมังอารธนานัง สังฆังอารธนานัง
    พุทธังประสิทธิเม ธัมมังประสิทธิเม สังฆังประสิทธิเม
    พุทธังมหาอำนาจ ธัมมังมหาอำนาจ สังฆังมหาอำนาจ
    พุทธังเมตตา ธัมมังเมตตา สังฆังเมตตา
    พุทธังแคล้วคลาด ธัมมังแคล้วคลาด สังฆังแคล้วคลาด
    พุทธังกัน ธังมังป้อง สังฆังล้อม
    พุทธังกำแพงแก้ว ธัมมังกำแพงทอง สังฆังกำแพงเหล็ก
    บังตัวข้าพเจ้า ปิดทวารบานประตู นะมัดอัดอุด
    อุดอัดปัดปิด อุดทังอัดโท อุดนะโมพุทธายะ
    นะมะพะทะ จะภะกะสะ นะจังงังอะคัตชะติ
    นะอย่านะ อย่าทำนะ พระระหัง
    จะพุทโธนะโกหะกะ สิริติเตจิรุนิ พุทธะสังมิอิกะวิติ
    นะชาลีติ อิสวาสุ อะสังวอสุโลปุสะพุภะ นะมะอะอุอุด <o:p></o:p>
     
  13. set2580

    set2580 สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 สิงหาคม 2011
    โพสต์:
    17
    ค่าพลัง:
    +2
    อยากทราบราคา

    อยากทราบราคาครับ สนใจอยากบูชา
     

แชร์หน้านี้

Loading...