"อยากรู้เรื่องพระเครื่องต้องมานะอดทนและขยัน"

ในห้อง 'ประสบการณ์ เรื่องเล่า' ตั้งกระทู้โดย vacharaphol, 5 กรกฎาคม 2009.

  1. vacharaphol

    vacharaphol เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    8,849
    ค่าพลัง:
    +27,174
    "
    [​IMG]


    [​IMG]


    [​IMG]


    [​IMG]



    [​IMG][​IMG][​IMG][​IMG]



    <SCRIPT type=text/javascript>var id='19390';function count(){$.ajax({ type: "POST", url: "http://www.komchadluek.net/counter_news.php", data: "newsid="+id, success: function(txt){ var counter_=parseInt(txt); $('#counters').html('จำนวนคนอ่าน '+counter_+' คน'); } });} featuredcontentslider.init({ id: "slider1", contentsource: ["inline", ""], toc: "markup", nextprev: ["Previous", "Next"], revealtype: "click", enablefade: [true, 0.1], autorotate: [true, 8000], onChange: function(previndex, curindex){ }})</SCRIPT>คมชัดลึก : วิวัฒน์ นิลนาวี หรือที่วงการพระรู้จักกันในนาม "วัฒน์ บางแค" เป็นหนึ่งในคณะบรรณาธิการนิตยสาร "พระท่าพระจันทร์" ที่ได้รับคำชื่นชมจากผู้อ่านว่าเป็นนิตยสารพระเครื่องที่มีมาตรฐานสูงฉบับหนึ่ง นอกจากเนื้อหาสาระอันเข้มข้นแล้ว ภาพพระทุกภาพที่ปรากฏอยู่ในนิตยสารฉบับนี้ได้ผ่านการกลั่นกรองแล้วว่า เป็น พระแท้ ทุกองค์ แม้จะเป็นหน้าโฆษณาก็ตาม
    <SCRIPT type=text/javascript><!--google_ad_client = "pub-1044823792492543";/* Kom-newdesign338x280story */google_ad_slot = "7614892621";google_ad_width = 336;google_ad_height = 280;//--></SCRIPT><SCRIPT src="http://pagead2.googlesyndication.com/pagead/show_ads.js" type=text/javascript></SCRIPT><SCRIPT src="http://pagead2.googlesyndication.com/pagead/expansion_embed.js"></SCRIPT><SCRIPT src="http://googleads.g.doubleclick.net/pagead/test_domain.js"></SCRIPT><SCRIPT src="http://pagead2.googlesyndication.com/pagead/render_ads.js"></SCRIPT><SCRIPT>google_protectAndRun("render_ads.js::google_render_ad", google_handleError, google_render_ad);</SCRIPT><INS style="PADDING-RIGHT: 0px; PADDING-LEFT: 0px; VISIBILITY: visible; PADDING-BOTTOM: 0px; MARGIN: 0px; WIDTH: 336px; BORDER-TOP-STYLE: none; PADDING-TOP: 0px; BORDER-RIGHT-STYLE: none; BORDER-LEFT-STYLE: none; POSITION: relative; HEIGHT: 280px; BORDER-BOTTOM-STYLE: none"><INS style="PADDING-RIGHT: 0px; DISPLAY: block; PADDING-LEFT: 0px; VISIBILITY: visible; PADDING-BOTTOM: 0px; MARGIN: 0px; WIDTH: 336px; BORDER-TOP-STYLE: none; PADDING-TOP: 0px; BORDER-RIGHT-STYLE: none; BORDER-LEFT-STYLE: none; POSITION: relative; HEIGHT: 280px; BORDER-BOTTOM-STYLE: none"></INS></INS>

    ทีมงานนิตยสาร พระท่าพระจันทร์ ประกอบด้วย หมึก ท่าพระจันทร์ ยี่ บางแค วัฒน์ บางแค อ้วน นครปฐม โดยมี พ.อ.ธนะศักดิ์ ชื่นอิ่ม เป็นที่ปรึกษา
    วัฒน์ บางแค เล่าย้อนอดีตที่ผ่านมาว่า "ผมเป็นลูกจ้างในอู่รถปะผุเคาะพ่นสีแถวบ้านพักที่ตลาดบางแค มีรายได้ไม่มากนัก วันหนึ่งได้เห็นเพื่อนคนหนึ่งเขาซื้อพระมาองค์หนึ่ง ๓๐๐ บาท ในเวลาไม่กี่นาทีต่อมา เขาสามารถขายไปได้ ๖๐๐ บาท กำไรถึง ๓๐๐ บาทอย่างง่ายๆ ในขณะที่ผมทำงานตลอดทั้งวันยังไม่ได้เงินมากขนาดนี้ จึงคิดว่าน่าจะเปลี่ยนอาชีพใหม่เป็นซื้อขายพระกับเขาบ้าง เพื่อจะได้มีรายได้ดีกว่าที่เป็นอยู่"
    หลังจากนั้น วัฒน์จึงได้เข้าไปยังสนามพระเล็กๆ หน้าโรงหนังบางแค ซึ่งที่นี่มีเซียนพระจากท่าพระจันทร์ มาหาของบ่อยๆ ทำให้ได้พบเห็นพระเครื่องต่างๆ พอเป็นพื้นฐาน ช่วงนั้นเป็นปี ๒๕๓๒-๓๓ คลุกคลีอยู่ที่สนามพระบางแคระยะหนึ่ง โดยได้ลาออกจากงานอู่รถพ่นสี
    ต่อมา กำนันมานะ วุฒิปัญญา ซึ่งพอรู้จักกันมาก่อน ได้เซ้งแผงพระที่ท่าพระจันทร์ จึงได้อาศัยแผงพระกำนันมานะเป็นที่พักพิง เดินเข้าออกสนามท่าพระจันทร์ทุกวัน ทำให้ได้รู้จักกับ พี่ตี๋เหล้า (ศุภชัย เรืองสรรงามสิริ) ซึ่งเป็นเซียนพระผู้รอบรู้ในการดูพระได้หลายประเภท
    สมัยนั้นแผงพระรอบวัดมหาธาตุยังมีอยู่ ทุกวันจะมีคนไปซื้อพระอย่างหลากหลาย แล้วเอามาใส่ตะกร้าเขียนชื่อเจ้าของพระติดไว้ พอพี่ตี๋เหล้ามาถึงร้านก็จะเอาตะกร้าพระของลูกค้ามาพิจารณา คัดเอาแต่พระแท้ แล้วซื้อเอาไว้
    พระแท้ ที่ซื้อไว้นี้ พี่ตี๋เหล้าจะเปิดโอกาสให้วัฒน์หยิบขึ้นไปส่ององค์พระเพื่อการศึกษาได้ทุกองค์ เป็นศึกษาหาความรู้จากพระแท้องค์จริง โดยวัฒน์บอกว่าจะต้องจดจำจุดสำคัญต่างๆ ขององค์พระเอาเอง
    นับว่าพี่ตี๋เหล้าเป็นผู้มีใจกว้าง ให้ความเมตตากรุณาแก่วัฒน์มาก เป็นพระคุณอย่างที่สุด ที่วัฒน์บอกว่ายังจดจำจนทุกวันนี้
    นอกจากพี่ตี๋เหล้าแล้วก็ยังมีผู้ใหญ่อีกหลายท่านในสนามพระท่าพระจันทร์ ที่มีความเมตตาให้โอกาสวัฒน์ได้เรียนรู้ดูพระองค์จริงอยู่เสมอ
    สนามพระท่าพระจันทร์ จึงเปรียบเสมือนตักสิลา หรือมหาวิทยาลัยพระเครื่องของเมืองไทย ที่เปิดโอกาสให้ผู้สนใจทุกคนเข้าศึกษาหาความรู้ได้ตลอดเวลา
    ข้อสำคัญอยู่ที่ผู้เรียนว่าจะมีความมานะอดทน มีไหวพริบในการตักตวงความรู้เหล่านี้ได้มากแค่ไหน สามารถจดจำได้แม่นยำหรือไม่ เพราะครูบาอาจารย์ผู้สอน จะไม่บอกว่าพระแท้ดูตรงไหน จุดตำหนิมีอย่างไร พระปลอมแตกต่างพระแท้อย่างไร ผู้ศึกษาจะต้องเรียนรู้เอง เพราะผู้สอนจะเอา พระแท้ ให้ส่องดูศึกษาหาข้อมูลเอาเอง เพียงเท่านี้ก็นับเป็นความกรุณาอย่างยิ่งแล้ว เพราะโดยทั่วไป ไม่มีใครจะหยิบยื่นพระองค์แพงๆ ให้ดูกันอย่างง่าย หากไม่มีความคุ้นเคยกัน
    อย่างไรก็ตาม แม้วัฒน์จะพอมีความรู้ในการดูพระได้ระดับหนึ่งแล้วก็ตาม ก็ยังเกิดความประหวั่นพรั่นพรึงขึ้นมาเหมือนกัน เมื่อวันหนึ่งมีคนเขาพระสมเด็จเกศไชโย พิมพ์ ๖ ชั้น อกตัน ไปขายให้ที่บ้านพัก โดยยืนยันว่าเป็นพระแท้แน่นอน เพราะมีที่มาชัดเจน โดยเปิดราคาไว้ ๘ หมื่นบาท ต่อรองลงได้ที่ ๔ หมื่นบาท วัฒน์บอกว่า วันนั้นต้องเทกระเป๋าซื้อกันเลย
    นอกจากผู้ขายยืนยันที่มาของพระองค์นี้แล้ว ที่วัฒน์กล้าซื้อเพราะเอาองค์พระเทียบกับตำรา มีจุดตำหนิต่างๆ เหมือนกันมาก จึงมั่นใจว่าเป็นพระแท้แน่นอน
    วันรุ่งขึ้น วัฒน์เอาพระสมเด็จเกศไชโยองค์นี้ไปให้เซียนพระดู เพื่อบอกขาย หลายคนบอกว่าดูยาก บางคนพลิกดูเฉยๆ ก็คืนพระทันที ชั่วโมงนั้นทำเอาวัฒน์ใจหายไปเลย คิดว่าอาชีพซื้อขายพระคงจะไม่เหมาะสำหรับตัวเองเสียแล้ว ขนาดว่ามั่นใจแล้วยังมาพลาดท่าเสียทีได้ แถมยังต้องเสียเงินจำนวนมากอีกด้วย
    แต่...ความหวังก็กลับเรืองรองขึ้นมาใหม่ เมื่อมีเซียนพระใหญ่ท่านหนึ่งเดินผ่านมา พร้อมกับขอดูพระที่วัฒน์ถืออยู่ในมือ
    เซียนพระท่านนั้นพลิกดู ๒-๓ ครั้งโดยไม่ได้ส่องผ่านแว่นขยาย ก็ถามว่าเปิดราคาไว้เท่าไร วัฒน์บอกว่า ๒๕๐,๐๐๐ บาท ท่านต่อรองลงเหลือ ๒๔๐,๐๐๐ บาท ท่านจ่ายเงินทันที
    "นาทีนั้นผมดีใจมากที่ขายพระองค์นี้ได้ ที่ดีใจไม่ใช่เพราะได้เงินกำไรถึง ๒ แสนบาท แต่ดีใจเพราะเท่ากับผมสอบผ่าน ที่สามารถดูพระได้แล้วในระดับหนึ่ง และสิ่งหนึ่งที่ได้รับคือ ต้องขยันเรียนรู้ให้มากกว่านี้ เพื่อจะได้ให้คำตอบด้วยตนเอง ไม่ต้องอาศัยสายตาคนอื่นเป็นผู้ตัดสินอีกต่อไป" วัฒน์ กล่าวอย่างมุ่งมั่น
    หลังจากนั้นวัฒน์จึงได้ศึกษาหาความรู้จากตำราต่างๆ บ้าง จากพระแท้องค์จริงบ้าง และจากผู้รู้บ้าง จนเวลาผ่านไปหลายปี มาถึงทุกวันนี้วัฒน์มีความรอบรู้ในการดูพระได้ทุกประเภทแล้ว ด้วยความแม่นยำในระดับสูง สามารถซื้อพระได้ด้วยตนเอง โดยไม่ต้องอาศัยสายตาคนอื่นเป็นผู้ช่วยไม่ว่าจะเป็นพระหลักแสนหลักล้านก็ตาม
    ในจำนวนพระเครื่องที่มีการซื้อขายกันในทุกวันนี้ วัฒน์บอกว่า พระหลวงปู่บุญ หลวงปู่เพิ่ม วัดกลางบางแก้ว จ.นครปฐม มาแรงสุดๆ มีผู้หาซื้อกันอย่างกว้างขวาง โดยกล่าวตรงกันว่าพระของท่านมีประสบการณ์ดีทุกด้าน ทำให้เวลานี้พระสายนี้มีราคาแพงเช่าหาที่แพงขึ้นเรื่อยๆ
    "โดยส่วนตัวผมเองก็มีประสบการณ์ในพระหลวงปู่บุญ หลวงปู่เพิ่ม อยู่เสมอๆ จึงได้ศึกษาหาข้อมูลอย่างชนิดเจาะลึกเป็นพิเศษ รวมทั้งเดินทางไปที่วัด ไปฟังคนเก่าคนแก่ทั้งหลายเล่าถึงเรื่องราวของหลวงปู่ทั้งสองท่าน ยิ่งทำให้เกิดความศรัทธาเลื่อมใสมากขึ้น อีกทั้งยังได้รู้ว่าพระเครื่องของหลวงปู่บุญหลวงปู่เพิ่มสร้างขึ้นมาอย่างพิถีพิถันมาก ด้วยความตั้งใจเป็นพิเศษเพื่อให้ลูกหลานได้ใช้ติดตัวเป็นสิริมงคลตลอดไป" วัฒน์บอกกล่าวด้วยศรัทธาใน ๒ หลวงปู่ผู้โด่งดังแห่งวัดกลางบางแก้ว
    วัฒน์ยังบอกด้วยว่า ทุกวันนี้เวลามีความไม่สบายใจเรื่องอะไรก็ตาม จะไปกราบไหว้รูปเหมือนของหลวงปู่บุญ หลวงปู่เพิ่ม ที่วัดเสมอๆ และก็แปลกมาก ที่หลายเรื่องไม่น่าจะเปลี่ยนแปลงได้ ก็ได้รับการเปลี่ยนแปลงในทางที่ดีขึ้น จนทำให้ได้รับความสุขความสมหวังอย่างทันตาเห็น จนแทบจะเรียกว่าเป็นปาฏิหาริย์ก็ได้
    ด้วยเหตุนี้ ทุกวันนี้วัฒน์จึงสะสมพระหลวงปู่บุญ หลวงปู่บุญ มากเป็นพิเศษ พร้อมทั้งให้คนในครอบครัวมีติดตัวกันทุกคน
    นอกจากนี้วัฒน์ยังได้ไปทำบุญที่วัดกลางบางแก้วเป็นประจำ พร้อมทั้งมอบทุนการศึกษาให้แก่นักเรียนโรงเรียนเพิ่มวิทยา ที่หลวงปู่เพิ่มได้ก่อตั้งขึ้น
    อานิสงส์ตรงนี้ทำให้ครอบครัวของวัฒน์ประสบแต่ความสุขสวัสดีตลอดมา และเป็นกำลังใจที่จะมุ่งมั่นทำแต่บุญกุศล และความดีทั้งหลายทั้งปวง โดยเชื่อว่าการปฏิบัติดี ปฏิบัติชอบ ย่อมต้องได้รับผลดีเสมอ
    สิ่งหนึ่งที่ วัฒน์ บอกว่าอยากจะให้คนในวงการพระมีความซื่อสัตย์ จริงใจ และมีคุณธรรมต่อลูกค้าผู้มีอุปการคุณให้มากๆ เพื่อสร้างความศรัทธาเชื่อมั่นให้ท่านเหล่านั้น เพื่อให้เกิดภาพพจน์ที่ดี คนในวงการพระก็จะได้รับแต่ความชื่นชมยินดี และอยู่ร่วมกับแวดวงสังคมอื่นๆ ได้อย่างสง่างามตลอดไป
    ทุกวันนี้ วัฒน์ บางแค มีร้านพระอยู่ที่สนามพระท่าพระจันทร์ โทร.๐๘-๑๙๐๙-๓๓๑๑ ถือเป็นร้านพระมาตรฐานที่ได้รับความเชื่อถือในวงการพระร้านหนึ่ง ที่บริการแต่พระแท้ ราคายุติธรรม ซื่อสัตย์สุจริต และจริงใจต่อลูกค้าเสมอ0 ตาล ตันหยง
     

แชร์หน้านี้

Loading...