สิริมาวิมาน

ในห้อง 'พระไตรปิฎก เสียงอ่าน' ตั้งกระทู้โดย vilawan, 29 สิงหาคม 2008.

  1. vilawan

    vilawan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    836
    ค่าพลัง:
    +1,432
    ๑๖. สิริมาวิมาน<O:p</O:p


    ว่าด้วยผลบุญที่ทำให้ไปเกิดในสิริมาวิมาน<O:p</O:p


    <O:p</O:p


    [๑๖] พระวังคีสเถระประสงค์จะให้นางสิริมาเทพธิดา ได้ประกาศ
    บุญกรรมที่นางทำไว้ในครั้งก่อน จึงย้อนถามนางด้วยคาถา
    สองคาถา ความว่า
    ดูกรนางงามประจำชั้นไตรทศ ผู้มีร่างกายสะโอดสะอง ฉันจะขอ
    ถามท่าน การที่ท่านเข้าถึงความเป็นผู้มีสกลกาย และยานพาหนะ
    อย่างประเสริฐเลิศยิ่ง คือ ท่านมีรถถึง ๕๐๐ คัน บุญกรรมเนรมิต
    มาให้โดยเฉพาะ ทั้งเทียมแล้วด้วยม้าอาชาไนยหลายตัว ทุกๆ ตัว
    เครื่องประดับประจำล้วนเครื่องสูง มันพากันก้มหน้าลง ในขณะที่
    ท่านจะลงมาจากเทวโลกและเหินไปตามอากาศได้ มีกำลังฉับ
    เฉี่ยว ม้าอาชาไนยทุกม้า อันบุญกรรมดังนายสารถีเร่งแล้วก็พาตัว
    ท่านไปได้ ท่านนั้นขณะที่ยืนอยู่บนรถอันเพริศแพร้วที่บุญกรรม
    ตกแต่งมาให้แล้ว ก็สว่างไสวคล้ายกับไฟกำลังโชติช่วงอยู่เช่น
    นี้ เพราะได้ทำบุญสิ่งใดไว้?
    นางเทพธิดาอันพระเถระถามแล้ว เมื่อจะประกาศการกระทำของ
    ตนให้ประจักษ์ จึงตอบเป็นคาถาความว่า
    พระคุณเจ้าพูดถึงหมู่ทวยเทพชั้นปรนิมมิตวสวัสดี ซึ่งเป็นผู้เลิศ
    โดยเชิงภพที่อยู่ และโภคสมบัติหมู่ใดว่า เป็นทวยเทพที่เยี่ยม
    หาที่เปรียบมิได้ ทวยเทพเหล่านั้นก็มีความสุขสบายแต่ในภพและ
    โภคสมบัติที่ทวยเทพพวกอื่นมาเนรมิตให้เท่านั้น เพราะ
    ฉะนั้น ทวยเทพที่มีหน้าที่เนรมิตภพและโภคสมบัติให้ คือพวกที่
    พระคุณเจ้าพูดถึงอยู่นี้ จึงได้นามว่า"นิมมานรดี" เป็นนางฟ้าที่มี
    ร่างกายและผิวพรรณงดงามอันก่อให้เกิดความงวยงงเพราะความ
    รัก เดี๋ยวนี้มาถึงมนุษยโลกนี้แล้วเพื่อจะถวายบังคมพระสัมมา-
    สัมพุทธเจ้า
    เมื่อนางเทพธิดาประกาศความที่ตนเป็นนิมมานรดีเทพ ให้ปรากฏ
    เช่นนี้แล้ว พระเถระใคร่จะถามถึงบุญกรรมที่นางให้ก่อสร้างไว้ใน
    ชาติก่อน จึงได้ภาษิตสองคาถาความว่า
    ชาติก่อนแต่จะเป็นนางเทพธิดานี้ ท่านได้สั่งสมสุจริตกรรมอย่าง
    ไรไว้ ท่านมียศบริวารอยู่มากมาย เปี่ยมไปด้วยความสุข สำหรับ
    ตัวท่านเล่าก็มีฤทธิ์และอำนาจพ้นจากสิ่งธรรมดาสูงเยี่ยม และมัก
    เหาะไปในอากาศได้ (เช่นนี้) เพราะบุญกรรมอะไร อนึ่ง รัศมีกาย
    ของท่านก็สว่างไสวไปทั่วทุกทิศ และท่านเล่าก็มีมวลเทพเจ้า
    เกรงกลัวและห้อมล้อมอยู่รอบ ท่านจุติมาจากคติไหนจึงมาถึง
    สุคตินี้ แม่เทพธิดา อนึ่ง ท่านได้ทำตามด้วยอาการยอมรับเอา
    โอวาทานุสาสนีในศาสนปาพจน์ของพระศาสดาองค์ไหน หาก
    ท่านเป็นสาวิกาของพระพุทธเจ้าจริงไซร้ ขอท่านได้โปรด
    ตอบคำถามของฉันนี้แก่ฉันด้วย?
    เมื่อนางเทพธิดา จะตอบเนื้อความตามที่พระเถระถามอย่างนี้
    จึงกล่าวตอบด้วยคาถาเหล่านี้ความว่า
    ดิฉันเป็นพระสนมของพระเจ้าพิมพิสารผู้ประเสริฐ มีศิริ อยู่ในพระ
    นครราชคฤห์ ซึ่งตั้งอยู่ในระหว่างภูเขา อันเป็นนครที่แออัดไปด้วย
    นักปราชญ์ ดิฉันมีความชำนาญในการฟ้อนรำขับร้องชั้นเยี่ยม ชาว
    เมืองในกรุงราชคฤห์ เขาพากันเรียกดิฉันว่า "นางสิริมา"
    พระพุทธเจ้าทรงเป็นผู้องอาจในจำพวกผู้แสวงหาคุณอัน
    ประเสริฐ ผู้แนะนำสัตว์โลกให้เป็นผู้พิเศษ ได้ทรงแสดงความไม่
    เที่ยงแห่งของจริง คือ เหตุเกิดของทุกข์และทางให้ถึงความดับ
    ทุกข์ อันเป็นธรรมที่ไม่มีปัจจัยอะไรปรุงแต่ง เป็นทางถาวร ทาง
    ตรง เป็นทางสุขเกษมแก่ดิฉัน ครั้นดิฉันฟังธรรมอันเป็นทางไม่
    ตาย ไม่มีเหตุปัจจัยอะไรปรุงแต่งได้ ซึ่งเป็นคำสอนของพระ
    ตถาคตผู้ประเสริฐแล้ว จึงเป็นผู้สำรวมอย่างเคร่งครัดในศีลทั้ง
    หลาย ดำรงมั่นอยู่ในธรรมปฏิบัติ ที่พระพุทธเจ้าผู้เลิศกว่านรชน
    ทรงแสดงไว้แล้ว ครั้นดิฉันรู้จักบทอันปราศจากธุลี ซึ่งหาเหตุ
    ปัจจัยปรุงแต่งไม่ได้ ที่พระตถาคตผู้ประเสริฐทรงแสดงไว้นั้น
    ดิฉันจึงได้บรรลุสมาธิอันเกิดจากความสงบจิตใจในอัตภาพนั้น
    เอง ดิฉันนั้นจึงได้มีความแน่นอนในมรรคผลอันเป็นธรรมชั้นเยี่ยม
    ขึ้น ครั้นดิฉันได้ฟังธรรมอันประเสริฐ อันไม่เกิดไม่ตายอย่างวิเศษ
    แล้ว จึงหมดความเคลือบแคลงในพระรัตนตรัย มีความรู้พิเศษใน
    การรู้อริยสัจธรรม หมดความสงสัยในสิ่งทั้งปวง จึงควรเป็นที่บูชา
    ของชุมนุมชน ได้รับผลคือความสุขอันมั่นคง เป็นเครื่องตอบแทน
    มากมาย โดยทำนองตามที่กราบเรียนมานี้ ดิฉันจึงเป็นนาง
    เทพธิดาผู้เห็นนิพพาน เป็นสาวิกาของพระตถาคตผู้ประเสริฐ เป็น
    ผู้ได้เห็นธรรมตามความเป็นจริง เป็นผู้ตั้งอยู่ในผลขั้นแรก คือ เป็น
    พระโสดาบัน ก็ทุคติย่อมไม่มีแก่ดิฉันอีก ดิฉันนั้นมาเฝ้าพระสัมมา
    สัมพุทธเจ้าผู้ประเสริฐ ก็เพื่อจะถวายบังคม และนมัสการภิกษุทั้ง
    หลายที่น่าเลื่อมใส ผู้ยินดีในธรรมอันไม่มีโทษ และเพื่อจะ
    นมัสการสถานที่ๆ พระสมณะประชุมกัน อันเป็นสถานที่มีธรรม
    เกษม ดิฉันเป็นผู้มีความเคารพในพระสัมมาสัมพุทธเจ้าผู้ทรงพระ
    ศิริ เป็นพระธรรมราชา ครั้นได้เห็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้าผู้เป็นนัก
    ปราชญ์แล้ว ก็อิ่มเอิบปลาบปลื้มใจ ดิฉันขอถวายบังคมพระ
    ตถาคต ผู้เป็นสารถีของบุคคลที่ควรฝึกอย่างยอดเยี่ยม ทรงตัด
    ตัณหาเสียได้ ทรงยินดีแล้วในกุศลธรรม ผู้ทรงแนะนำประชุมชน
    ให้พ้นจากทุกข์ได้ ผู้ทรงอนุเคราะห์สัตว์โลกในทางที่เป็น
    ประโยชน์อย่างยิ่ง.<O:p</O:p


    จบ สิริมาวิมานที่ ๑๖.

    [MUSIC]http://palungjit.org/attachments/a.389623/[/MUSIC]<O:p</O:p
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 29 สิงหาคม 2008
  2. Kob

    Kob เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 เมษายน 2005
    โพสต์:
    6,161
    ค่าพลัง:
    +19,894
    สาธุๆ ขออนุโมทนากับคุณบีคนขยันด้วยค่ะ

    rat_wting
     
  3. J.Sayamol

    J.Sayamol เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 เมษายน 2008
    โพสต์:
    6,190
    ค่าพลัง:
    +21,530
    [​IMG]
     
  4. เฮียปอ ตำมะลัง

    เฮียปอ ตำมะลัง ทุกสิ่งจบสิ้นลงด้วยความตาย วุ่นวายทำไม ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มีนาคม 2007
    โพสต์:
    24,969
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +91,130
    อ นุ โ ม ท น า ส า ธุ ... ดีแล้วชอบแล้ว





    .
     

แชร์หน้านี้

Loading...