สัมภาษณ์ ดร.ประพนธ์ เขมดำรง

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย ธุลีดิน, 23 กันยายน 2004.

  1. ธุลีดิน

    ธุลีดิน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 กันยายน 2004
    โพสต์:
    136
    ค่าพลัง:
    +156
    ดร.ประพนธ์ เขมดำรง
    อาจารย์ประจำภาควิชาวิศวกรรมสิ่งแวดล้อม คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่

    -รู้จักวัดได้อย่างไร ?
    เคยมาช่วยวัดในระยะแรกเริ่มเมื่อ พ.ศ.๒๕๒๖ ครับ

    -ลำบากไหม เดินทางมาไกลถึงเชียงใหม่ ?
    ไม่ลำบากครับ แต่หาเวลามาไม่ค่อยจะได้

    -ก้าวแรกที่เข้ามาวัดรู้สึกอย่างไร ?
    รู้สึกร่มรื่นและสงบดี

    -กิจกรรมแต่ละวัน และความเป็นอยู่ระหว่างอบรม เป็นอย่างไร ?
    กิจกรรมก็เข้มข้นดีครับ เรื่องความเป็นอยู่เราก็ต้องปรับตัว เพราะไม่ใช่เหมือนอยู่บ้าน

    -การบรรยายธรรมะของพระอาจารย์ และองค์บรรยายแต่ละท่าน เป็นอย่างไร ?
    อธิบายได้ง่าย และเข้าใจดี ใช้ได้ดีกับชีวิตประจำวัน เช่น ถ้าขี้เกียจทำวัตร หรือเข้าร่วมกิจกรรม ท่านเทศน์ว่าความขี้เกียจเป็นสิ่งไม่ดี ควรจะเก็บไว้ที่บ้าน ไม่ควรให้คนเห็น เรามาวัดเพื่อฝึกอบรม ต้องขยัน ถ้าขี้เกียจ แสดงว่านำสิ่งไม่ดีมาประกาศให้คนอื่นๆ รู้ ซึ่งนำไปประยุกต์กับเรื่องอื่นๆ เช่น สิ่งไหนเราไม่ชอบก็อย่าทำ เพราะคนอื่นก็ไม่ชอบเช่นกัน

    -ปกติเข้าวัดบ่อยไหม ?
    เข้าวัดไม่บ่อยครับ แต่ใช้วิธีอ่านหนังสือธรรมะอื่นๆ และพระไตรปิฎก

    -ปกติสนใจในทางพระพุทธศาสนาไหม ?
    สนใจมากครับ

    -เชื่อเรื่องนรก-สวรรค์ ?
    ผมกลับรู้สึกเฉยๆ นะครับ เพราะเห็นว่าเป็นเรื่องที่คุ้นเคยกับชีวิตประจำวัน เนื่องจากพระพุทธศาสนาสอนให้เชื่อเรื่องกฎแห่งกรรมอยู่แล้ว

    -เคยฝึกสมาธิมาก่อนหรือไม่ ?
    เคยฝึกเมื่อ ๒๐ ปีมาแล้วครับ

    -ตอนได้ธรรมกาย รู้สึกอย่างไร ?
    รู้สึกสงบ สบาย และได้รู้จักอีกมิติหนึ่งครับ

    -รู้สึกว่ายากไหม ?
    ไม่ยากครับ ฝึกแล้วก็ได้ผล

    -ลักษณะพระธรรมกายเป็นอย่างไร ?
    มีลักษณะเหมือนพระพุทธรูปปางสมาธิ เกตุดอกบัวตูม ขาวใสคล้ายเพชรครับ

    -ภพ นรก/สวรรค์/นิพพาน ที่ได้พบเห็น มีลักษณะอย่างไร ?
    ข้อนี้ไม่อยากพูดมาครับ เพราะคล้ายกับที่ปรากฏในหนังสือไตรภูมิพระร่วง

    -แล้วเทวดา สัตว์นรก มีลักษณะอย่างไร ?
    เทวดาก็คล้ายชุดเทวดาที่คนเล่นละครใส่ และคล้ายๆ กับในหนังสือครับ

    -ศิลปะของอาคารในสวรรค์เหมือนของไทยไหม ?
    เหมือนมากครับ ทำให้คิดว่าบรรพบุรุษของเราในอดีตคงเคยเห็นในสมาธิมาก่อนแน่

    -ถ้ามีคนมาพูดว่า การสอนธรรมะ ไม่จำเป็นต้องเอาสวรรค์มาล่อ เอานรกมาขู่ ก็สามารถปฏิบัติธรรมได้ คุณคิดอย่างไร ?
    อาจจะไม่จำเป็นก็ได้ แต่ต้องสอนให้รู้เรื่องกฎของกรรม จากสิ่งที่เห็นในโลกนี้ เช่น ในอดีตผมเคยหนังสือเขียนว่า คนทำดี ผลจะส่งให้ลูกหลาน ๗ ชั่วคน ๑๕ ชั่วคน ก็ยังนึกภาพไม่ออก แต่ถ้าดูจากตระกูลมหาตมะคานธี ซึ่งได้เป็นนายกรัฐมนตรีอินเดียถึง ๓ ชั่วคน ก็ชัดเลย

    -ถ้ามีคนว่าสิ่งที่เห็นเวลานั่งสมาธินั้นเป็นการนึกเอาเอง ?
    แสดงว่าคนๆ นั้นไม่รู้จริง พระอาจารย์ที่มีผู้เคารพมากมายหลายท่าน ไม่ว่าจะฝึกแบบไหน ในขั้นแรกก็ใช้อุบายในการนึกก่อน แต่จากการนึก (ของสมมุติ) จะนำไปสู่ของจริง เป็นการเห็นจริงรู้จริง ถ้าผู้พูดอยากรู้ ควรอ่านวิธีฝึกสมาธิของหลวงปู่ดู่วัดสะแก หรือการฝึกแบบลมหายใจ (อานาปานสติ) ก็ใช้การนึกเห็นว่าลมหายใจไปสิ้นสุดจุดไหน ถ้าถามว่ามองเห็นอากาศไหม ก็มองไม่เห็น ใช้วิธีนึกเช่นเดียวกัน ว่าลมไปถึงจุดนั้น เลยเอาใจไว้ที่จุดนั้น ซึ่งเป็นอุบายให้ใจรวม ใจหยุด เดี๋ยวก็เห็นเอง ถึงตอนนั้น สิ่งที่เห็นนี้ เป็นการเห็นจริง เป็นเห็นด้วยใจ เรียกว่าเห็นนิมิต ถ้าจะนึกขึ้นมาเฉยๆ ให้นึกอย่างไรก็นึกไม่ออก

    -วิชชาธรรมกายมีประโยชน์อย่างไร ? ช่วยเรื่องการเรียน/ทำงาน มากแค่ไหน ?
    ทำให้มีสติในการทำงานและดำรงชีวิตครับ

    -การฝึกภาวนาที่บ้านกับที่วัดต่างกันอย่างไร ?
    ที่วัดเข้มข้นกว่าครับ แต่ก็ให้ผลเช่นเดียวกัน [ถ้าปฏิบัติจริงจัง]

    -การมาอบรมครั้งนี้ เราได้ประโยชน์อะไรบ้าง ?
    ทำให้สามารถตัดเรื่องอื่นออกหมด สนใจปฏิบัติอย่างเดียว ทำให้ใจเป็นสมาธิดีขึ้นครับ ซึ่งเดิมเคยทำได้ แต่ขาดช่วง แต่ก็ฝึกถึงขั้นนี้ได้บ่อยๆ ตอนอยู่บ้าน

    -ฝึกสมาธิแล้ว ถ้าพบสิ่งที่ไม่น่าชอบใจ เช่นมีคนทำให้เราโกรธ เราจะทำอย่างไร ? แล้วสำหรับสิ่งน่าชอบใจ หลงใหล ?
    ถ้าเราฝึกได้ผลดี คือเห็นธรรมกายใสชัด ถ้ามีอะไรมากระทบอายตนะของเรา เราจะเห็นขั้นตอนของการกระทบชัดเจนมากครับ ทำให้รู้เห็นเหตุผลว่าทำไมบุคคลนั้นทำเช่นนี้ และสิ่งที่ควรทำจะเป็นอย่างไร ปฏิกิริยาที่เกิดขึ้นกับตัวเราคือ การรับรู้ แต่ไม่มีความโกรธหรือหลง (เป็นอุเบกขา) ทั้งหมดนี้ เวลาพูดหรืออธิบายจะนาน แต่ว่าขณะจิตถูกกระทบ และตัดสินใจ แล้วแสดงปฏิกิริยาออกไป จะเร็วมาก เป็นเสี้ยววินาที การจะเป็นเช่นนี้ได้ ศีลต้องบริสุทธิ์ และและฝึกให้เห็นองค์พระธรรมกายตลอด ความรู้หรือปั__าจะแวบขึ้นมาตัดตอนกิเลสเหล่านั้นได้ครับ แต่บางครั้งก็ยังมีความโกรธอยู่ จะเป็นความโกรธเล็กๆ น้อยๆ แม้จะคิดได้ในชั่วระยะเวลา ๑-๒ วินาที

    -นึกถึงคนที่ไม่ได้มีโอกาสมาปฏิบัติอย่างเราไหม ? จะชักชวนแนะนำคนอื่นหรือไม่ ?
    จะชักชวนให้ฝึกสมาธิก่อน ถ้าคนนั้นสนใจ จึงจะบอกว่าวิธีไหนง่ายที่สุด เห็นผลเร็วที่สุดครับ และจะบอกว่าผลที่ได้เพื่อประยุกต์ใช้กับชีวิตประจำวันมีอะไรบ้าง

    -คิดว่า ศีล ๕ จำเป็นสำหรับชีวิตไหม ?
    จำเป็นมากครับ

    คิดว่าสังคมไทยเป็นขณะนี้เป็นอย่างไร ? ควรแก้ไขส่งเสริมอย่างไร ?
    น่ากลัวครับ ควรส่งเสริมให้คนมีศีล ๕ ให้มากขึ้น และเคร่งครัดในการรักษาศีลด้วย

    -จะฝากอะไรถึงผู้ที่ไม่ได้มาปฏิบัติอย่างนี้บ้าง ?
    รู้สึกเสียดายแทนคนที่ไม่ได้มานะครับ

    -คราวหน้าจะมาอบรมอีกไหม ?
    คาดว่าพฤษภาคม ปีหน้า จะมาอีกครับ
     

แชร์หน้านี้

Loading...