สัมผัส และร่วมแชร์ ประสบการณ์จริง ของหลวงปู่กาหลง เขี้ยวแก้ว

ก่อนอื่นผมขอออกตัวก่อนเลยนะครับว่าผมเริ่มสะสมพระเครื่อง ก็เพื่อหวังพึ่งพุทธคุณ เพื่อหวังให้ชีวิตดีขึ้น เจริญก้าวหน้า ในอาชีพการงาน ซึ่งทุก ๆ วัน ก็จะเข้าใช้งานอินเตอร์เน็ตและแทบจะทุกวันจะต้องมี คำว่า พระเครื่องที่ช่วยให้ชีวิตเจริญก้าวหน้า ซึ่งก็มีข้อมูลมากมายแสดงออกมา ให้ผมเลือกเฟ้น และหามาบูชา ซึ่งแต่ละองค์ที่ได้มานั้นการันตี ความแท้ได้แน่นอน แต่ก็ยังไม่มีพระเครื่องของพระคุณเจ้าองค์ใด เห็นผลได้ชัดเจน
ซึ่งบางคนก็บอกว่า ต้องทำบุญทำทานด้วยซิ จึงจะสมหวัง... ซึ่งตัวผมเองก็คิดเช่นนั้น และผมก็ทำทั้งบุญทำทั้งทาน แต่ก็ยังไม่เห็นผลชัดเจนสักเท่าไหร่

จนกระทั่งเมื่อประมาณ 2 สัปดาห์ทีผ่านมาผมได้นำวัตถุมงคลหลวงปู่กาหลง เขี้ยวแก้วมาบูชา และก็พบความเปลี่ยนแปลงมากมาย ดีขึ้นหลาย ๆ อย่าง จนเพื่อนรุ่นน้องผมต้องบอกว่า "พี่เจอแล้วนะ ยินดีด้วย วัตถุมงคลที่ถูกโฉลกกับพี่ เหมือนเมื่อครั้งที่พีโกศล ได้บูชาหลวงปู่หมนเลย" นี่คือคำพูดจากปากน้องคนหนึ่งที่ศรัทธาหลวงปู่หมุนมาก ยังยอมรับความศักดิ์สิทธิ์ของวัตถุมงคลของหลวงปู่กาหลงเขี้ยวแก้ว

 

สิ่งที่เปลี่ยนแปลงและประสบการณ์ ที่เจอมีหลายเรื่องมาก ๆ ครับ ใน 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา คือ
เรื่องแรก หลังจากที่ได้นำเอาวัตถุมงคลของหลวงปู่กาหลง นำไปเลี่ยมบูชาแล้ว วันถัดมาตอนเช้าต้องไปสัมมณานอกสถานที่ วันนั้นมีเพื่อนร่วมเดินทางไปสองคน แต่คนหนึ่งมาสาย ก็เลยพาน้องที่จะไปด้วยกันไปทานข้าวรอ ซึ่งหลังจากทานข้าวน้องผมโทรมาหาพอดี ผมก็เลยขับรถไปด้วยโทรไปด้วย โดยไม่ได้ใช้ hand free (เป็นสิ่งไม่ดีนะครับไม่ควรทำตามอย่างเด็ดขาด) แล้วก็ไปรับพี่อีกคนหนึ่งที่จะไปด้วยกันซึ่งขระเดียวกันก็ยังโทรคุยไปด้วย หลังจากรับเพื่อนร่วมทางจนครบแล้ว ก็ขับไปยังสถานที่สัมมณา ซึ่งตามปกติผมก็เป็นคนขับรถไม่เร็วเท่าไหร่ ประมาณ 120 km/h ซึ่งรถที่ผมขับก็ป้ายเขียวครับ (กระบะตอนเดียว) แถมวิ่งขวาตลอดทางครับ ขับไปได้สักครู่ งานเข้าครับ คือข้างหน้าเจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวง ยืนพร้อมเตรียมโบก เลยครับ
ซึ่งสถานะการโดยสรุปก็คือ ฟิลม์รถผมใสครับ เห็นชัดเจนจากภายนอก
, ผมขับมาด้วยความเร็ว 120 km/h, กระบะวิ่งขวายาวครับ, ผมยังโทรศัพท์โดยไม่ใช้ hand free และแถมด้วยคู่หน้า เข็ดขัดนิรภัย ไม่คาด ในใจคิดว่าโดนแน่ ๆ เพราะคุณตำรวจมองเข้ามายังไงก็เห็น แถมโดนออก มาแล้วด้วย.... เริ่มโบก แล้วครับ แต่... แต่... โบกให้ผ่านครับ ทั้งหมดในรถโล่งใจครับ และแปลกใจว่าทำไมจึงไม่เรียก....

 

ต่อมา...
ผมเองรับหน้าที่เป็นพนักงานขายสินทรัพย์ให้บริษัท ซึ่งได้ทำการขายมากว่า 4 สัปดาห์แล้ว แต่ขายได้วันละไม่เงิน 3-4 หมื่นบาท หลังจากที่ผมได้บูชาวัตถุมงคลของหลวงปู่กาหลง เขี้ยวแก้ว มา ผมขายสินทัพย์ได้วันละ ไม่ต่ำกว่า 3-4 แสนบาท ต่อวัน ซึ่งน้องบัญชีที่เป็นคนเก็บเงินยังแปลกใจ ถามผมว่าพี่แขวนพระอะไรมาเนี่ย หนูนับเงินไม่ทันแล้ว (งานขายสินทรัพย์ต้องรับเงินสดอย่างเดียวครับ)

 

เรื่องต่อมาครับ
ตามปกติ ผมเป็นคนที่หัวหน้าไม่ค่อยจะยอมรับในความสามารถสักเท่าไหร่ คือ เวลามีโปรเจ็ค อะไรก็ไม่ค่อยมาปรึกษาสักเท่าไหร่ จะสั่งอย่างเดียว แต่หลังจากยอดขาย หรือ เพราะวัตถุงคลของหลวงปู่กาหลง ก็ไม่แน่ใจ เมื่อวานนี้ มีโครงการจะไปอบรมด้าน engineering ให้กับ marketing ที่กรุงเทพ หัวหน้าผมเดินเข้ามาปรึกษากับผมว่าจะอบรมยังไงดี ไปวันไหนกันดี แล้วว่างไหม ซึ่งแปลกมาก ๆ ครับ

 

เรื่องสุดท้ายที่เจอมาในสองสัปดาห์นี้ครับ

คือ เมื่อวานนี้เช่นกันครับผมได้นั่งคุยเรื่องหุ้นและการลงทุนในทองคำกัับเพื่อน ๆ ใน office โดยที่มี IT manager นั่งอยู่ด้วยซึ่ง คน ๆ นี้ ไม่เคยยอมใครในทุก ๆ เรื่อง และถ้ายิ่งใครไปดูถูกเค้าด้วยแล้ว เค้าเถียงสุดใจเลยครับ

แต่เมื่อวานนี้ ขณะที่คุยเรื่องลงทุนแกก็ขัดขึ้นมาว่า ไม่คุ้มหรอกการลงทุนในทอง ผมก็เลยคำนวน IRR ย้อนกลับของทองเทียบอัตราเงินเฟ้อให้แกดู ว่ามันถือว่ายังคุ้มถ้าลงทุนในระยะยาว แกก็ยังเถียงว่า ไม่จริง ทำงานอยู่ยังนี้แหละ ดีกว่าได้ทุกเดือน หรือ ซื้อที่ดินดีกว่า ผมเลยว่าแกไปว่า พี่ประสบการณ์ยังน้อย ไม่ต้องมาเถียงเลยพี่ ไมเคยศึกษา แล้วพี่ยังมาเถียงข้าง ๆ คู ๆ อีก แปลกครับ ตามปกติโดนอย่างนี้ แก ปรี๊ดครับ แต่เมื่อวานกลับเงียบ

นี่แหละครับ ประสบการณ์บูชาวัตถุมงคลของหลวงปู่กาหลง 2 สัปดาห์ของผม อย่างที่บอกครับเปลี่ยนแปลงมากมาย ใครที่ยังหาพระที่ถูกโฉลกกับตัวเองยังไม่เจอ ลองหามาบูชาดูครับ แล้วท่านจะรู้ว่าความศักดิ์สิทธิ์มีอยู่จริง และท่านใดที่มีประสบการณ์อย่างให้เอามาแชร์กันครับ ร่วมทั้งรูปวัตถุมงคล และ รูปหลวงปู่กาหลงเขึ้ยวแก้ว ครับ

ยังมีประสบการณ์มาก มายกับคนรอบ ๆ ข้าง ไว้จะเอามาแชร์อีกครับ

 

อนาคตังสญาณ ของ หลวงปู่กาหลง เขี้ยวแก้ว

ประสบการณ์ของน้องที่บริษัทครับ

น้องคนนี้เมื่อประมาณปี 48 ได้เดินทางไปทำงานที่อังกฤษอยู่ 2 ปี หลังจากกลับมาก็ถือโอกาสพักผ่อน ที่เกาะ PP ตอนที่พักอยู่ที่นั้น มีโอกาสได้คุยกับเจ้าของร้านอาหารร้านหนึ่งที่เกาะ PP ซึ่งนับถือหลวงปู่กาหลงมาก ๆ มีวัตถุมงคลหลวงปู่กาหลงอยู่หลายรุ่น น้องเค้าเลยนึกศรัทธาขึ้นมาจับใจ ในใจก็คิดว่าเดี๋ยวกลับไปบ้านที่นครราชสีมาก่อนจะขับรถไปหาท่านซะหน่อย

หลังจากพักผ่อนที่ PP ก็เลยได้กลับมาที่โคราช เลยมีโอกาสที่จะได้ไปกราบหลวงปู่กาหลง เช้าวันนั้นก็เลยออกจากโคราชตั้งแต่ 10 โมงเช้า โดยเดินทางมากับพี่สาว ทางไปก็ไม่รู้ รู้แต่ว่าอยู่ที่จังหวัดสระแก้ว แต่ไม่สนคิดว่า เดี๋ยวไปถามทางเอาข้างหน้า พอขับมาถึงสี่แยกกบินนทร์บุรี ก็แวะถามทางว่าไปสระแก้วทางไหน พอถึงสระแก้วก็เลี้ยวเข้าสถานีตำรวจ เพื่อถามตำรวจว่าวัดหลวงปู่กาหลงไปทางไหน ต่อจากนั้นก็ขับไปตามทางที่ตำรวจบอก ไปถีงวัดก็ประมาณ บ่ายโมง

มาถึงก็เลี้ยวเข้าจอดที่หน้าวัด พอลงจากรถ ก็เจอลุงคนหนึ่งกวาดลานวัดอยู่ เค้าถามน้องคนนี้ว่า มาหาหลวงปู่ใช่ไหม หลวงปู่รออยู่ 3 ชั่วโมงแล้ว ให้รีบขึ้นไปหาเพราะหลวงปู่กำลังจะไปปปลุกเสกวัตถุมงคลที่วัดสุทัศน์ (คำ ๆ นี้ยังก้องอยู่ในหัวน้องคนนี้มาตลอดมา) น้องคนนี้ก็ยังงงครับว่าหลวงปู่รู้ได้ยังไงว่าจะมาหา ย้อนคิดว่าตอนออกมาจากโคราช ก็ประมาณ 10 โมง ก็ประมาณ 3 ชั่วโมงพอดี

หลังจากนั้นก็เลยได้ไปพบหลวงปู่กาหลงแถมท่านยังลงทองให้อีกต่าง ๆ หาก (ไม่รู้เพราะเหตุนี้หรือเปล่า เลยมีกิ๊กเยอะเลย)

หลังจากนั้นก็ยังมีโอกาสได้ฟัง เรื่อง แนว ๆ นี้จากลุงน้อย คนที่คอยขับรถพาหลวงปู่ไปไหนมาไหน (ฉายาขุนแผนเมืองสระแก้ว) ว่า มีอยู่ครั้งหนึ่งจะพาหลวงปู่ไปหาหมอที่กรุงเทพ จะไปแต่เช้า แต่เห็นหลวงปู่ยังนั่งอยู่ไม่มีทีท่าว่าจะออกเดินทางสักที เลยถามว่าทำไมหลวงปู่ยังไม่ไปอีก หลวงปู่บอกว่าจะมีคนจาก อุดร มาหารอก่อน อีก 2 ชั่วโมงก็ถึง
ผ่านไปประมาณ 2 ชั่วโมง ก็มีรถตู้คันหนึ่งทะเบียนจังหวัดอุดรธานีมาจอดหน้าวัด แล้วถามลุงน้อยว่านี่วัดหลวงปู่กาหลงใช่ไหม แล้วบอกว่ามาจากอุดรตั้งใจจะมากราบหลวงปู่.....

 

ใช้รุ่นไหนอยู่หรอครับ ผมมีหลายรุ่นเลยยยย =) นับถือท่านมากครับ

 

มีหลายรุ่นเหมือนกันครับ แต่ที่ใช้แล้วมีประสบการณ์ในสองสัปดาห์ที่ผ่านมาก็คือปู่เสือนั่งชันเข่า กับรูปหล่อโบราณรุ่นแรกครับ ยอมครับว่าแรงจริง ๆ ครับ ขนาดว่าหลวงปู่หมุนแรง ๆ ผมใช้ตั้งหลายรุ่น ยังไม่แรงเท่าเลยครับ สุดยอดจริง ๆ ทนไม่ไหวเลยต้องมาเล่าให้กันฟังครับ(สงสัยที่เค้าเรียกว่าถูกโฉลกนะครับ)

 

กราบหลวงปู่กาหลงครับ ผมมีแต่ วัวธนู หนึ่งคู่ครับ

 

กราบปู่กาหลงครับ ครูบาอาจารย์องค์แรกๆที่ผมเคารพนับถืออย่างที่สุด

 

สุดยอดมากครับดูเข้มขลังมากๆ ครับ เคยเจอประสบการณ์อะไรบ้างไหมครับ?

 

สารภาพตรงๆ นะครับเมื่อก่อนตั้งใจจะไปกราบท่านที่วัด แต่ไปเจอแผงพระหน้าวัดก็เสียศรัทธาพอสมควร แต่มาตอนนี้เสียดาย และเสียใจครับที่ไม่มีโอกาสเจอกับท่านได้กราบท่าน

 

วัดท่านไปยังไงครับจากปราจีณบุรี

 

ถ้าจะเริ่มต้นจากปราจีนบุรี (แยกสมเด็จพระนเรศวร) ให้เดินทางมาทางกบินทร์บุรี ซึ่งสามารถตรงไปยังจังหวัดสระแก้วได้เลยครับ เมื่อถึงตัวจังหวัดสระแก้ว ให้วิ่งเลยออกตัวเมืองสระแก้วไปเล็กน้อยครับ (เลย BIG C) ไปนิดหน่อย ให้ชิดขวา จะมีแยกไฟแดง บอกว่าไป อำเภอวังน้ำเย็น หรือ จังหวัดจันทบุรี เมื่อเลี้ยวขวาไปแล้วให้วิ่งตรงยาว ๆ เรื่อย ๆ ครับ น่าจะประมาณสัก 60 กิโลเมตรครับ วัดอยู่ทางขวาเมื่อ ซึ่งอยู่ช่วงรอยต่อ ระหว่างจังหวัด จันทบุรี กับ จังหวัดสระแก้ว ครับ

แต่ลืมถามไปครับ จะมายังไงครับ ขับรถมาเองหรือ นั่งรถประจำทางครับ ?

 

ประสบการณ์ล่าสุด เจ้าหน้าที่ ตชด จาก 3 จังหวัดชายแดนใต้บูชาตะกรุดไปล็อตใหญ่ วันที่ได้รับตะกรุดหลวงปู่กาหลงไปถูกหวยเลยครับ ได้เงินเป็นหมื่นครับ

 

ขับไปเองครับ
พอเข้าตัวสระแก้วแล้ว ขับไปเจอแยกไฟแดงที่เลี้ยวขวาไปจันทบุรีใช่ไหมครับ ประมาณ 6o โล มีจุดสังเกตระหว่างทางอย่างไรบ้างครับ

 

เอาไงดีหว่า...

ยังงี้ครับ ก่อนถึงวัดจะพบทางลงเนิน (เหมือนเนินเขา ตรง ๆ ยาว ๆ) แล้วก็ขึ้นเขาอีกทีหนึ่ง พอลงอีกครั้ง เป็นโค้งเล็กน้อยจะเจอวัดเลยครับ ให้มองทางขวาไว้ แต่จุดสังเกตุง่าย ๆ ถ้าเจอด่านทหาร จุดสกัดเขาแหลม แปลว่าเลยมา (นิดหน่อย)
แต่ถ้าขีบย้อนกลับจากด่าน วัดเห็นตรงหน้าเลยครับ ตระหง่าน ชัดเจนมากครับ

 

เมื่อวานได้คุยกับลูกศิษย์ของหลวงปู่กาหลง ท่านหนึ่งซึ่งเป็นแพทย์ประจำโรงพยาบาลแห่งหนึ่งว่าทำไมถึงศรัทธาในหลวงปู่กาหลงพร้อมทั้งวัตถุมงคลของหลวงปู่ ซึ่งคำตอบที่ได้นั้นตรงกับสิ่งที่ผมค้นหาก็คือ...
หลังจากที่ลูกศิษย์ท่านนี้ได้วัตถุมงคลของหลวงปู่กาหลงไป การงานก็ดีขึ้นเรื่อยๆ มีเงินซื้อบ้านราคาหลายล้านบาท และรถยนต์ฟอร์จูนเนอร์ ด้วยเงินสด แถมทุกครั่งที่บูชาหลวงปู่จะถูกล็อตเตอร์รี่เป็นประจำ...

 

ปละเมื่อวายังมีโอกาสได้คุยกับลูกศิษย์ใกล้ชิดหลวงปู่จันทา อนากุโล. ซึ่งปกติพี่คนนี้เวลาบูชาวัตถุมฃคลแต่ะชิ้นนั้นต้องมีการทดสอบห่อนจะเช่าบูชา ซึ่งต้องรู้สึกและสัมผัสได้(ซึ่งเป็นความรู้สึกส่วนตัวของพี่เค้า) ซึ่งหนึ่งในนั้นคือหลวงปู่กาหลงเขี้ยวแก้ว พี่เค้าบอกว่าหลวงปู่มาให้โชคเค้าหลายที่แล้วเช่นกัน แต่ดวงอาจจะไม่ค่อยมี เลยไม่ได้ถูกรางวัลบ่อยนักทั้งๆที่หลวงปู่มาบอกตรงๆ

 

มีอยู่ครั้งหนึ่งหลวงปู่หมุนพร้อมหลวงปู่ละมัยรับกิจนิมนต์มาแถวสาย2ให้กับ ลูกศิษย์คนหนึ่งในงานเจอ หลวงปู่กาหลงเขี้ยวแก้ว หลวงปู่ละมัยกับหลวงปู่หมุนทัก หลวงปู่กาหลง ว่าไม่เจอกันนานเลยนะเสือเหลือง แล้วศิษย์เลยถามหลวงปู่หมุนว่าทำไมกล่าวอย่างนั้นกับหวงปู่กาหลงล่ะครับท่าน หลวงปู่หมุนบอกว่าผิวหนัง หลวงปู่กาหลง สีออกเหลืองจึงเรียก หลวงปู่กาหลง อย่างนี้

อีกทั้งหลวงปู่กาหลงยังเคยได้แลกเปลี่ยนวิชากับฟลวงปู่หมุนฝนสมัยที่ธุดงค์แล้วไปเจอกันอีกด้วย...