สรุปคำอธิบายหมู่มงคลชีวิต ๓๘ ประการ

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย phuang, 17 มีนาคม 2005.

  1. phuang

    phuang เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 มกราคม 2005
    โพสต์:
    4,033
    ค่าพลัง:
    +10,043
    มงคลหมู่ที่ ๓ ฝึกตนให้เป็นคนมีประโยชน์
    มงคลที่ ๗ เป็นพหูสูต
    มงคลที่ ๘ มีศิลปะ
    มงคลที่ ๙ มีวินัย
    มงคลที่ ๑๐ มีวาจาสุภาษิต


    สรรพสัตว์ทั้งหลายในโลกมีมากสุดคณนา แต่มนุษย์ได้ชื่อว่าเป็นสัตว์ที่ประเสริฐสุด เพราะสามารถฝึกตนให้บำเพ็ญประโยชน์ทั้งแก่ตนเองและสังคมได้เต็มที่ คนมีประโยชน์ ที่ใคร ๆ ต้องการนั้น ต้องมีคุณสมบัติดังนี้

    ๑.ต้องไม่เป็นคนโง่ เราจึงต้องฝึกตัวเองให้เป็นพหูสูต ใฝ่หาความรู้ "ฉลาดรู้"

    ๒. ต้องไม่เป็นคนชนิดความรู้ท่วมหัวเอาตัวไม่รอด มีแต่ความรู้แต่พอให้ทำอะไรทำไม่ได้สักอย่าง ทำไม่เป็น เราจึงต้องฝึกตัวเองให้มีศิลปะ ทำได้ ทำเป็น สามารถนำเอาความรู้มาใช้งานได้จริง ๆ "ฉลาดทำ"

    ๓. ต้องไม่เป็นคนเจ้าอารมณ์ เอาแต่ใจตัวเอง เราจึงต้องฝึกตัวเองให้เป็นคนมีวินัย เคารพต่อกฏระเบียบของหมู่คณะ และวินัยของตนเองรู้จักควบคุมตนเองให้นำความรู้ความสามารถไปใช้ในทางที่ถูก "ฉลาดใช้"

    ๔.ต้องไม่เป็นคนปากเปราะเราะราย คนเราต่อให้ฝีมือดีแค่ไหนมีความรู้ความสามารถสูงส่ง แต่ถ้าพูดไม่เป็นเข้าที่ไหนบ่อนแตกที่นั่น พูดจาไม่เข้าหูคน ก็ไม่มีใครต้องการ เราจึงต้องฝึกตัวเองให้มีวาจาสุภาษิต รู้สึกควบคุมวาจา พูดเป็น "ฉลาดพูด"


    มงคลหมู่ที่ ๔ บำเพ็ญประโยชน์ต่อครอบครัว
    มงคลที่ ๑๑ บำรุงบิดามารดา
    มงคลที่ ๑๒ เลี้ยงดูบุตร
    มงคลที่ ๑๓ สงเคราะห์ภรรยา (สามี)
    มงคลที่ ๑๔ ทำงานไม่คั่งค้าง


    ผู้ที่จะมีครอบครัวดีได้ จะต้อง
    ๑. บำรุงบิดามารดา มีความกัตัญญู รู้คุณพ่อแม่ เลี้ยงดูปรนนิมัติท่านให้ได้รับความสุขสบาย

    ๒. เลี้ยงดูบุตร รู้จักวิธีเลี้ยงลูกให้ลูกเป็นคนดี เป็นลูกแก้วนำชื่อเสียงเกียรติภูมิมาสู่พ่อแม่วงศ์ตระกูล

    ๓. สงเคราะห์ภรรยา (สามี) สามีภรรยาจะต้องรู้จักวิธีปฏิบัติตัวต่อกัน มีความเกรงอกเกรงใจ เคารพให้เกียรติกัน ไม่นอกใจกัน นี่จะเป็นการสร้างสายสัมพันธ์ของคนในครอบครัวให้อบอุ่นแน่นแฟ้น ครอบครัวจะมีแต่ความร่มเย็น เพียงย่างเท้าเข้าบ้านก็มีความสุขใจแล้ว เข้าบ้านก็เหมือนขึ้นสวรรค์

    ๔. ทำงานไม่คั่งค้าง ต้องทำงานไม่คั่งค้างเพราะ ครอบครัวก็ต้องมีค่าใช้จ่าย จะเลี้ยงพ่อเลี้ยงแม่ เลี้ยงลูก เลี้ยงภรรยา ก็ต้องใช้สตางค์ทั้งนั้น เราจึงมีหน้าท่ก่อร่างสร้างตัว ด้วยการทำงานไม่คั่งค้าง ต้องทำให้เสร็จ ทำให้สำเร็จ จะได้สร้างฐานะความเป็นปึกแผ่นแก่ตนเองและครอบครัว
    ใครปฏิบัติได้ครบ ๔ ข้อนี้ ครอบครัวก็จะมั่นคงมีความสุข


    มงคลหมูที่ ๙ การฝึกภาคปฏิบัติเพื่อกำจักกิเลสให้สิ้นไป
    มงคลที่ ๓๑ บำเพ็ญตบะ
    มงคลที่ ๓๒ ประพฤติพรหมจรรย์
    มงคลที่ ๓๓ เห็นอริยสัจ
    มงคลที่ ๓๔ ทำพระนิพพานให้แจ้ง


    เมื่อจบมงคลหมู่ที่ ๘ คือว่าด้านทฤษฎีต่าง ๆ เราได้เข้าใจเต็มที่แล้ว มงคลหมู่ที่ ๙ นี้จะเป็นการลงมือปฏิบัติฝึกฝนอย่างจริงจังเพื่อกำจักกิเลสให้หมดไป โดย

    ๑.บำเพ็ญตบะ ทำความเพียรเผากิเลสให้เร่าร้อนทนอยู่ไม่ได้ ต้องเผ่นหนีไปจากใจของเรา ธุดงควัตรมีกี่ข้อ ๆ ตั้งใจสมาทานรักษาเต็มที่ทีเดียว

    ๒.ประพฤติพรหมจรรย์ คือ เมื่อบำเพ็ญตบะจนกิเลสเบาบางลงไปแล้ว ก็ต้องรีบปลูกฝังคุณธรรมต่าง ๆ ลงในใจก่อนที่กิเลสจะฟูกลับขึ้นมาอีก โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ต้องยกใจออกจากกาม อันเป็นที่มาของความเสื่อม และจะนำความทุกข์ นำกิเลสมาสู่ใจของเราอีก

    ๓.เห็นอริยสัจ คือ ตั้งใจปฏิบัติธรรมฝึกสมาธิต่อไปอีกอย่างยิ่งยวดจนเข้าถึงธรรมกายและเห็นอริยสัจ คือ เห็นความจริงเกี่ยวกับโลกและชีวิตด้วยธรรมกาย

    ๔.ทำพระนิพพานให้แจ้ง คือ เมื่อเห็นอริยสัจแล้ว ก็ตั้งใจทำสมาธิต่อไป ประคองใจหยุดนิ่งเข้ากลางธรรมกายไปเรื่อย ๆ ให้ใจละเอียดอ่อนยิ่งขึ้นจนทำพระนิพพานให้แจ้งได้ กิเลสต่าง ๆ ก็ค่อย ๆ ร่อนหลุดไปจากใจตามลำดับ ๆ จนหมดกิเลสเป็นพระอรหันต์ในที่สุด



    มงคลหมู่ที่ ๑๐ ผลจากการปฏิบัติจนหมดกิเลส
    มงคลที่ ๓๕ จิตไม่หวั่นไหวในโลกธรรม
    มงคลที่ ๓๖ จิตไม่โศก
    มงคลที่ ๓๗ จิตปราศจากธุลี
    มงคลที่ ๓๘ จิตเกษม


    เมื่อเราอาบน้ำชำระล้างร่างกายเรยบร้อยแล้ว ก็จะมีผลตามมาซึ่งเราอาจบรรยายได้หลายลักษณะ เช่น ไม่สกปรก ไม่เลอะเทอะ ไม่เหนียว เหนอะหนะ สะอาดสดชื่นผ่องใส ในทำเดียวกัน เมื่อเราปฏิบัติฝึกฝนตนเองจนกิเลสต่าง ๆ ร่อนหลุดไปจากใจแล้ว เราก็อาจบรรยายสภาพจิตของเราในขณะนั้นได้หลายลักษณะเช่น

    ๑.จิตไม่หวั่นไหวในโลกธรรม คือ มีความหนักแน่นขุนเขาไม่ยินดียินร้ายในลาภ ยศ สรรเสริญ สุขหรือความเสื่อมลาภ เสื่อมยศ นินทา ทุกข์อีกต่อไป

    ๒.จิตไม่โศก คือ หลุดพ้นจากยางเหนียวแห่งบ่วงสิเนหา ไม่ลุ่มหลงในความรักอีกต่อไป มีใจที่อิ่มเอิบ ไม่แห้งผาก ผ่องใส ไม่เศร้าหมอง

    ๓.จิตปราศจากธุลี คือ กิเลสต่าง ๆ ทั้งหยาบทั้งละเอียดร่อนหลุดไปจากใจหมด เหมือนหยาดน้ำตกจากใบบัวอย่างนั้น

    ๔.จิตเกษม คือ มีความสุข ปลอดภัยจากภัยอันตราย ทั้งหลายอันเนื่องจากการเวียนว่ายตายเกิดในวัฎสงสารสามารถตัดโยคะ เครื่องผูกสัตว์ไว้ในภพทั้งสาม ได้ขาดสะบั้นโดยสิ้นเชิง จึงมีอิสระเสรีเต็มที่มีใจที่สะอาดผ่องใส บริสุทธิ์ บริบูรณ์ สิ้นเชิง เข้าพระนิพพานตามพระสัมมาสัมพุทธเจ้า และเหล่าพระอรหันต์สาวกทั้งหลาย
     

แชร์หน้านี้

Loading...