ศีลกำไร

การรักษาศีลไม่ให้ขาด หรือด่างพร้อยนั้นเรียกว่า ศีลเสมอตัว
แต่การรักษาศีลให้ได้กำไร เป็นปัญญา เป็นบารมี ทำไม่ยาก
คือ นอกจากเราจะละการทำบาปแล้ว ต้องทำความดีคู่ไปด้วย

ตั้งใจจะรักษาศีล (อธิฐานบารมี)

ระลึกเสมอว่าเราเป็นผู้มีศีลมีความถึงพร้อมในศีล (ศีลบารมี)

ระมัดระวังไม่ยอมล่วงละเมิดศีล ไม่ยอมผิดศีล (ขันติบารมี)

ขวนขวาย ที่จะทำความดี รักษาศีล ทำกุศลให้เกิดเสมอ (วิริยะบารมี)

ก่อนนอนนึกถึงความดี นึกถึงศีลที่เรารักษา พิจราณาตามความเป็นจริง แล้วปล่อยวาง ไม่ยึดติดไม่เก็บมาเป็นอารมณ์กับสุขหรือทุกข์ที่เราเจอในแต่ละวัน (อุเบกขาบารมี)

1. ปาณาติบาต คือ ละเว้นจากการฆ่าสัตว์ และการเบียดเบียนสัตว์ ทุกประเภท
แต่จะช่วยเหลือสงเคราะห์ผู้ตกทุกข์ ปล่อยนกปล่อยปลา รักตนเสมอรักผู้อื่น ไม่เป็นศัตรูกับใคร มีเมตตา กรุณามุทิตา อุเบกขา ต่อเพื่อนมนุษย์และสัตว์โลก (เมตาบารมี+พรหมวิหารสี่)

2. อทินนาทาน คือ ละเว้นจากการลักขโมย ปล้นจี้ ฉกชิง วิ่งราว เป็นต้น
แต่จะบริจาคทาน และพอใจในสิ่งที่ตนมี (ทานบารมี)

3. กาเมสุมิจฉาจาร คือ ละเว้นจากการประพฤติผิดในกามด้วยการล่วงละเมิด ลูก เมีย ผัวคนอื่น
แต่จะซื่อสัตย์ต่อคู่ครอง ให้ความรักความห่วงใยในครอบครัว ถือพรหมจรรทุกวันพระ (เนกขัมมบารมี)

4. มุสาวาท คือ ละเว้นจากการพูดปด หรือโกหกหลอกลวง พูดคำหยาบ พูดเพ้อเจ้อ พูดเหลวไหล พูดส่อเสียด พูดคำลามก เป็นต้น
แต่จะพูดแต่สิ่งที่ดีชวนฟัง พูดสุภาพอ่อนน้อม พูดแต่สิ่งมีสาระประโยชน์แก่ผู้ฟัง คิดก่อนพูด พูดความจริง แน่วแน่ทรงตัวในสิ่งที่พูด (สัจจะบารมี)

5. สุราเมระยะ คือละเว้นการเสพของมึนเมา เพราะจะเป็นที่มาของการผิดศีลในข้ออื่น ๆ
แต่จะไม่ค้าขายของมึนเมา จะกำหนดสติตั้งอยู่ในความไม่ประมาทเสมอ

ถ้าทำได้หมด ที่กล่าวมา (ปัญญาบารมี)



ผลที่ได้=ศีลห้า(ขั้นปรมัตถ)+บารมี10ทัศ+พรหมวิหาร4=บุญกิริยาวัตถุ10

เอวัง​

 

อ นุ โ ม ท น า ส า ธุ

คนส่วนมากเห็นแล้วตกใจจะทำได้หรือ

ทำได้ซิก็รักษาศีล ๕ ให้บริสุทธิ์แล้วบารมีทั้งหลายก็จะมีตามมาเอง

คนไม่ทำบาปไม่ผิดศีล ๕ มักจะทำบุญทำกุศลเสมอ

 

ขยายความ เพื่อความเข้าใจ อย่างถูกต้อง

การรักษาศีลบารมี แบ่งได้ 3 ขั้น

๑. ศีลบารมี ได้แก่ ศีลที่ใช้ในพิธีเวลาทำบุญต่างๆ พระท่านจะให้ศีลเพื่อเป็นการเตรียมตัวให้บริสุทธิ์เป็นกำลังศีลก่อนการทำพิธีต่างๆ ศีลที่บำเพ็ญด้วยรักศีลยิ่งกว่าบุคคลที่รักและทรัพย์สิน

๒. ศีลอุปบารมี ได้แก่ ศีลที่พระภิกษุ สามเณร อุบาสก อุบาสิกา น้อมรับตามกำหนดเวลาที่ประพฤติปฏิบัติจนกว่าจะลาสิขา ศีลที่บำเพ็ญด้วยรักยิ่งกว่าอวัยวะร่างกายของตน

๓. ศีลปรมัตถบารมี เป็นสูงสุด ต้องรักษาตลอดชีวิต ปรมัตถบารมี แปลว่ายากยิ่งอย่างเยี่ยมยอด ได้แก่ ศีลที่บำเพ็ญด้วยรักษาศีลยิ่งกว่าชีวิตของตน
ด้วยเจตนาอันแรงกล้าที่จะเผยแพร่พระพุทธศาสนาเพื่อนำเหล่าพุทธบริษัททั้งหลายพ้นทุกข์พบสุขที่นิรันดร์ พระเดชพระคุณหลวงพ่อพระมหาโกศล จนฺทวณฺโณ (พระครูวิสุทธิภาวนาคุณ) ได้นำแนวทางรับศีลปรมัตถบารมีของพระเดชพระคุณหลวงพ่อพระครูภาวนาวรคุณ ( หลวงพ่อเกตุมฯ ) แห่งวัดเกตุมดีศรีวราราม จังหวัดสมุทรสาคร ให้เหล่าพุทธบริษัททั้งหลายได้รักษาศีลปรมัตถ์ตลอดชีวิตแล้วแต่บุคคลพึงจะรักษาได้อย่างน้อยคนละ ๑ ข้อ และหลวงพ่อจะแจกลูกยามหาวิกัติให้เท่ากับจำนวนศีลที่รับไว้ โดยลูกยามหาวิกัตินี้ พระเดชพระคุณหลวงพ่อท่านกล่าวว่า เป็นเครื่องรางสมัยพุทธกาลที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าแจกให้พระธุดงค์ เพื่อป้องกันภัยอันตรายต่างๆ ลูกยามหาวิกัติ ทำจากดินเหนียวผสมกับข้าวก้นบาตรนำมาปั้นเท่ากับเม็ดในพุทราเจาะรูตรงกลางแล้วนำไปเผา เวลาจะใช้ให้ตั้งนะโม ๓ จบ แล้วนึกถึงพระสัมมาสัมพุทธเจ้า

 

คุณถือศีลแบบไหนกัน

ชั้นของศีล

๑. ศีลขาดทุน เมื่อแลเห็นโทษของการทุศีลจึงตั้งใจสมาทานปฏิญญาว่าจะรักษาศีล๕ ศีล๘ หรืออุโบสถศีล ก็ดีเรียกว่าได้ทุนคือศีลไว ครั้นพ่ายแพ้ต่อกิเลสสิ่งยั่วยวน ประพฤติผิดปฏิญญาจึงชื่อว่า ขาดทุน

๒. ศีลย่อหย่อน เมื่อได้สมาทานปฏิญญาว่าจะไม่ละเมิดองค์แห่งศีล แต่ในขณะเดียวกันก็ชอบหาอุบายหลีกเลี่ยงเพื่อให้ได้สำเร็จตามความอยากของตน เช่น การไม่ฆ่าสัตว์แต่ชอบทรมานสัตว์, ไม่ลักทรัพย์แต่ชอบขอ ชอบถือวิสาสะในของผู้อื่น, ไม่ประพฤติผิดในกามแต่ชอบออกอาการสุงสิงใกล้เคียง, ไม่พูดเท็จแต่ชอบพูดส่อเสียด, ไม่ดื่มน้ำเมาแต่ชอบเข้าไปมั่วสุมในสถานขายสุราหรือจำหน่ายจ่ายแจกเสียเอง เป็นต้น

๓. ศีลเสมอตัว เมื่อตั้งใจสมาทานแล้วพยายามไม่ล่วงละเมิดให้ศีลขาดตกบกพร่อง แต่ก็ไม่พยายามทำคุณพิเศษอันเป็นส่วนกำไรของศีลให้เกิดขึ้น

๔. ศีลได้กำไร ได้แก่ ศีลของผู้สมาทานปฏิญญาแล้วพยายามทำศีลนั้นให้เป็นบาทเป็นภาคพื้นไม่หยุดนิ่งอยู่แต่เพียงเท่านั้น เช่นดังตัวอย่าง ไม่ฆ่าสัตว์แล้วยังพยายามช่วยชีวิตสัตว์ให้พ้นทุกข์ด้วยความเมตตากรุณา, ไม่ลักทรัพย์แต่ยังมีใจเผื่อแผ่กว้างขวางบริจาคทรัพย์สิ่งของเพื่อประโยชน์ส่วนรวม, ไม่ประพฤติผิดในกามมั่นอยู่ในสันโดษยินดีแตใน่คู่ของตน, ไม่พูดเท็จแล้วยังมีเจตนาเว้นจากการพูดส่อเสียดยุยง ประพฤติปฏิบัติในการพูดคำจริง คำอ่อนหวาน แสดงธรรมแสดงคุณแสดงโทษแก่ผู้ที่ยังไม่รู้, ไม่ดื่มน้ำเมาแล้วยังพยายามบรรเทาความประมาททางใจด้วยการดำรงสติให้เพรียบพร้อม

 

<DD>อานิสงส์ของการรักษาศีล5
<DD>คำว่า ศีล ได้แก่สภาพเช่นไร ศีลอย่างแท้จริงเป็นไปด้วยความมีสติ รู้สิ่งที่ควรหรือไม่ควร ระวังการระบายออกทางทวารทั้งสาม คอยบังคับกาย วาจา ใจ ให้เป็นไปในขอบเขตของศีลที่เป็นสภาพปกติ ศีลที่เกิดจากการรักษา มีสภาพปกติไม่คะนองทาง กาย วาจา ใจ ให้เป็นที่เกลียด นอกจากความปกติงดงามทาง กาย วาจา ใจ ของผู้มีศีลว่า เป็นศีล เป็นธรรม
<DD>เราควรรักษาศีล5
<DD>1 สิ่งมีชีวิตเป็นสิ่งที่มีคุณค่า จึงไม่ควรเบียดเบียนข่มเหงและทำลายคุณค่าแห่งความเป็นอยู่ของเขาให้ตกไป
<DD>2 สิ่งของ ของใครๆ ก็รัก และสงวน ไม่ควรทำลาย ฉก ปล้น จี้ เป็นต้น อันเป็นการทำลายสมบัติ และทำลายจิตใจกัน
<DD>3 ลูก หลาน สามี ภรรยา ใครๆ ก็รักสงวนอย่างยิ่ง ไม่ปรารถนาให้ใครมาอาจเอื้อมล่วงเกิน เป็นการทำลายจิตใจของผู้อื่นอย่างหนัก และเป็นบาปไม่มีประมาณ
<DD>4 มุสา การโกหกพกลม เป็นสิ่งทำลายความเชื่อถือของผู้อื่นให้ขาดสะบั้นลงอย่างไม่มีดี แม้เดรัจฉานเขาก็ไม่พอใจคำหลอกลวง จึงไม่ควรโกหกหลอกลวงให้ผู้อื่นเสียหาย
<DD>5 สุรา ยาเสพติด เป็นของมึนเมาแสะให้โทษ ดื่มเข้าไปย่อมทำให้คนดีๆ กลายเป็นคนบ้าได้ ลดคุณค่าลงโดยลำดับ ผู้ต้องการเป็นคนดี มีสติปกครองตัวอย่างมนุษย์ จึงไม่ควรดื่มสุรา เครื่องทำลายของสุขภาพทางร่างกายและใจ อย่างยิ่ง เป็นการทำลายตัวเอง และผู้อื่นไปด้วยในขณะเดียวกัน
<DD>อานิสงส์ศีล5เมื่อรักษาได้
<DD>1 ทำให้อายุยืน ปราศจากโรคภัยเบียดเบียน
<DD>2 ทรัพย์สมบัติที่อยู่ในการปกครอง มีความปลอดภัยจากโจรผู้ร้ายมาราวี เบียดเบียนทำลาย
<DD>3 ระหว่าง ลูก หลาน สามีภริยา อยู่ด้วยกันเป็นผาสุกไม่มีผู้คอยล่วงล้ากล้ากลาย ต่างครองกันอยู่ด้วยความเป็นสุข
<DD>4 พูดอะไรมีผู้เคารพเชื่อถือ คำพูดมีเสน่ห์เป็นที่จับใจไพเราะ ด้วยสัตย์ ด้วยศีล
<DD>5 เป็นผู้มีสติปัญญาดีและเฉลียวฉลาด ไม่หลงหน้าหลงหลัง จับโน่นชนนี่ เหมือนคนบ้าคนบอหาสติไม่ได้ ผู้มีศีล เป็นผู้ปลูกและส่งเสริมสุขบนหัวใจคนและสัตว์ทั่วโลก ให้มีแต่ความอบอุ่นใจ ไม่เป็นที่ระแวงสงสัย ผู้ไม่มีศีลเป็นผู้ทำลายหัวใจคนและสัตว์ ให้ได้รับความทุกข์เดือนร้อนทุกหย่อมหญ้า
</DD>