*-*วิธีการประหารชีวิตแบบต่างๆ*-*

ในห้อง 'เรื่องผี' ตั้งกระทู้โดย rinnn, 28 มีนาคม 2006.

  1. rinnn

    rinnn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    7,666
    ค่าพลัง:
    +24,027
    *-*วิธีการประหารชีวิตแบบต่างๆ*-*
    การประหารชีวิตแบบต่างๆ

    วันนี้เราได้อ่านหนังสือเล่มหนึ่งเล่น เห็นหัวข้อว่า "ยกเลิกโทษประหาร หรือเปลี่ยนวิธีประหาร(ฉีดยากันดี) เห็นแล้วน่าสนใจดี เลยเอามาลงให้อ่าน(จากหนังสือคู่สร้างคู่สม)

    เมื่อวันที่ 11 มกราคมปีนี้มีรายงานข่าวสำคัญเรื่องหนึ่งออกมาจากทำเนียบรัฐบาลว่า คณะรัฐมนตรีไม่ผ่านร่างแก้ไขพระราชบัญญัติประมวลกฎหมายอาญามาตรา 19 ตามการเสนอของกระทรวงมหาดไทยที่ ต้องการเปลี่ยนวิธีการประหารชีวิตจากการยิงเป้า ซึ่งใช้มาตั้งแต่ พ.ศ. 2478 มาเป็นการฉีดสารพิษให้ตายแทน โดยคณะรัฐมนตรีขอให้กระทรวงใหาดไทยนำเรื่องกลับไปพิจารณาใหม่ ตั้งแต่คณะกรรมการขึ้นพิจารณาข้อดีข้อเสียโดยละเอียดอีกครั้ง รวมทั้งรับฟังความเห็นจากประชาชนด้วย เหตุผลสำคัญข้อหนึ่งของกระทราวงมหาดไทย คือ การประหารชีวิตด้วยการยิงเป้านั้นไม่เหมาะสม บางครั้งนักโทษที่ถูกยิงยังไม่ตายต้องยิงซ้ำเป็นการทรมาน จึงเห็นควรให้ประหาีวิตแบบให้ตายอย่างสงบ โดยฉีดสารพิษเข้าร่างการแทน ซึ่งนอกจากไม่เป็นการทารุณแล้ว ยังเสียค่าใช้ต่ายต่ำ โดยยกตัวอย่าง ฟิลิปปินส์ที่ประหารชีวิตนักโทษด้วยวิธีนี้ว่า เสียค่าใช้จ่ายเพียง 1000 บาท ต่อครั้งเท่านั้น

    ทางองค์การต่างๆเช่นศาสนา สิทธิมนุษยชนได้ออกมายื่นหนังสือร้องเรียนขอให้กระทราวงหมาดไทยหันมาเสนอแก้กฏหมายยกเลิกโทษประหารชีวิตเสียเลยจะดีกว่า เพราะการประหากชีวิตนั้นเป็นการทำลายสิทธิพื้นฐานประการแรกของมนุษย์ในการที่จะมีชีวิตอยู่ และเห็นว่าการจำคุกตลอดชีวิตนั้นก็โทษหนักหนาแล้ว เพราะการประกาีวิตอาจไม่ใช่การแก้ปัญกาที่ถูกต้องก็ได้

    การประหารชีวิตสมัยโบราณมีวิธีการที่น่าสยดสยองตั้งแต่สับร่างออกเป็นชิ้นๆแล้วโยนลงในกระทะน้ำมันเดือด ไปจนถึงโบนเข้ากรงเสือหรือสิงโตที่กำลังหิวโหย ต่อมาจึงมีผู้คิดวิธีประหารให้นักโทษตายเร็วขึ้นให้ได้รับความทรมานน้อยลงด้วยวิธีการต่างๆ ซึ่งจากการวิจัยของดร.ฮาโรลด์ ฮิลล์แมน แห่งองค์การนิรโทษกรรมสากลเมื่อไม่นานมานี้บอกว่า การประหารชีวิตที่มีอยู่ทั่วโลกในปัจจุบันพอแยกออกได้ดังนี้

    1. ยิงเป้า เป็นวิธีที่นิยมมากที่สุดใช้ถึง 86 ประเทศรวมทั้งประเทศไทยด้วย

    2. แขวนคอ นิยมอันดับสอง มีใช้กันอยู่ 78 ประเทศ

    3. ตัดคอ หลังจากกระประหารชีวิตด้วยกิโยตินโนฝรั่นเศสการตัดคอด้วยดาบหรือขวานในอังกฤษได้หมดไป แต่ก็ยังมีอีกอย่างน้อย 6 ประเทศในอาหรับและตะวันออกกลางที่ลงโทษประหารชีวิตด้วยการตัดศรีษะอยู่ พูดถึงการตัดคอ ถ้าตัดครั้งเดียวขาดก็โชคดีไป แต่ถ้าไม่หล่ะ...ลองคิดดูสิ...

    4. ใช้ก้อนหินขว้างจนตาย เป็นการลงโทษแบบโบราณที่สุดที่ยังหลงเหลืออยู่ในบางพื้นที่ของอิหร่าน มัวริทาเนีย ปากีสถาน ซาอุดิอาระเบีย ซูดาน แาฟกานิสถาน สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์และเยเมน วิธีนี้นักโทษจะถูกจับฝังทรายเหลือแค่คอเพื่อให้คนที่เคยถูกนักโทษคนนั้นทำร้ายใช้ก้อนอิ,ที่ทางการจัดไว้ให้เฉพาะขว้างใส่ศรีษะ คนที่ผ่านไปมาจะร่วมขว้างด้วยก็ได้จนกว่านักโทษจะตาย (ก้อนหินต้องมีขนาดพอเหมาะ ถ้าใหญ่ไปอาจตายเลยไม่ทรมาน ขว้างไปเรื่อยๆ บางรายประกฏว่าสมองไหล..กะโหลกแตก ทรมานน่าดู..!!)

    5. รมด้วยแก๊ส มีใช้อยู่ในบางรัฐของสหรัฐอเมริกานักโทษประหารจะดูกนำไปมัดไว้ในห้องอับอากาษแล้วปล่อยให้โซเดียวไซยาไนด์ในบูกแก้ว แตกออกไปผสมกับกรดกำมะถันในอ่าง เกิดปฏิกิริยาทางเคมีเป็นแก๊สไซยาไนด์

    6. ใช้กระแสไฟฟ้า อเมริกาเริ่มใช้วิธีก่อนเพื่อนเมื่อ100ปีมาแล้วหลังจากพบว่ามีผู้เสียชีวิตด้วยอุบัติเหตุจากกระแสไฟฟ้า จึงดัดแปลงเป็นเครื่องมิอประหารชีวิตเสียเลย

    7. ฉีดสารพิษ เชื่อกันว่าเป็นวิธีที่ทำให้นันกโทษเจ็บปวดและทรมานน้อยที่สุด ตายอย่างสวบที่สุดใช้กันอยู่ในบางรัฐของอเมริกาตั้งแต่ปี 2520 ในเอเซียมีฟิลิปปินส์นำมาใช้เป็นประเทศแรก ที่ตายอย่างสงบที่สุดเพราะว่า นักโทษจะถูกมัดไว้บนเตียงพิเศษคล้ายๆเตียงคนไข้แต่มีปลอกรัดปขนขาทั้ง 4 ข้างและรัดตรงกลางลำตัวอีก 1 รวมเป็น 5 ปลอก เพื่อกันดิ้นและมีอุปกรณ์สำคัญอีก 1 ชุดคือเข็มฉีดยาหร้อมสายยางฝังอยู่ในเส้นเลือดดำของนักโทษแระหาร พอได้เวลาเจ้าหน้าที่จะปล่อยยา 3 ชนิดที่เตรียมไว้ให้ไหลผ่านสายยางและเข็มฉีดยาเข้าสู่เส้นเลือด ชนิดแรกเป็นยาชาให้หมดความรู้สึกภายใน 10 -15 วินาที แล้วตามด้วยยาคลายกล้ามเนื้อและอันดับสุดท้ายคือโปแตสเซียมคลอไรด์ นัดโทษจะเสียชีวิตจากการที่กล้ามเนื้อปอดไม่ทำงานสารพิษจะเข้าไปทำให้หัวใจหยุดเต้นในขณะเจ้าตัวกำลังสลบไสลอยู่จังเป็นการตายอย่างไม่ทรมาน

    การประหารชีวิตด้วยการตัดศรีษะ เป็นการที่รักษาอวัยวะทุกชิ้นบนใบหน้าให้อยู่ในสภาพเดิมที่สุด เพราะในประวัติศาสตร์ตอนหนึ่งของฝรั่งเศส ฌอง-พอล มารัดหนึ่งในนักแฏิวัติที่ถูกประหารชีวิตด้วยกิโยตินนั้นเมื่อถูกคมมีดตัดโครมเดียว จนศรีษะกระเด็นหลุดจากบ่าแล้วเพชณฆาตคนหค่งยังไม่หนำใจตามไปหยิบเอาหัวของเธอขึ้นมาตบแก้ม 2 ข้างเข้าอีก 2 ฉาด ปรากฏว่าแก้มนั้นแดงก่ำและตาของเธอกะพริบส่งประกายแห่งความโกรธแค้นออกมาให้เธอ กสดงว่าคนที่คอขาดแบบแบบฉับเดียวอย่างนี้ ส่วนศรีษะที่หลุดออกไปจะนังมีความรู้สึกต่อไปอีกชั้วหนึ่ง นั่นคือเหตุการณ์เมื่อ 200 ปีที่แล้ว...
     

แชร์หน้านี้

Loading...