รางวัลสูงสุดด้านโภชนาการเชิดชูพระเกียรติ สมเด็จพระเทพฯ

ในห้อง 'ข่าวในพระราชสำนัก' ตั้งกระทู้โดย paang, 2 เมษายน 2010.

  1. paang

    paang เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 เมษายน 2005
    โพสต์:
    9,492
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +34,328
    [​IMG]



    ผลงานอันเกิดจากพระหฤทัยที่เปี่ยมล้นด้วยพระเมตตาของ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ในการหารูปแบบของการแก้ปัญหาภาวะทุพโภชนาการในวัยเรียน ควบคู่กับการเพิ่มศักยภาพการศึกษาของนักเรียนที่อยู่ในถิ่นทุรกันดารกว่าหนึ่งแสนคนในโรงเรียนตามชายแดน 700 แห่ง ในระยะ 30 ปีที่ผ่านมา ทำให้เด็กนักเรียนที่ด้อยโอกาสเหล่านี้ มีภาวะโภชนาการดีขึ้น จากเดิมที่มีน้ำหนักและความสูงต่ำกว่าเกณฑ์ถึงกว่าร้อยละ 40 เหลือเพียงร้อยละ 10 ขณะที่ปัญหาขาดไอโอดีนก็หมดไป ไม่มีปัญหาคอพอก เพราะมีการใช้เกลือเสริมไอโอดีนเป็นประจำ เด็กชั้นประถมปีที่ 1 ถึงปีที่ 6 ยังได้อาหารกลางวันที่มีคุณค่าทางโภชนาการ และดื่มนมทุกวัน นักเรียนมีโอกาสเรียนรู้วิชาการตามหลักสูตร ของกระทรวงศึกษาธิการ ทั้งในด้านการเกษตร อนุรักษ์วัฒนธรรม และสิ่งแวดล้อม รวมถึงการส่งเสริมวิชาชีพ นอกจากนี้ ยังได้พระราชทานทุนส่วนพระองค์ให้นักเรียนจากโรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนเกือบ 4,000 ราย เพื่อศึกษาต่อในชั้นมัธยมศึกษา จนถึงระดับอาชีวศึกษา และอุดมศึกษา ตลอดจนพระราชทานทุนไปศึกษาต่อระดับมหาวิทยาลัยที่ประเทศอินเดีย ซึ่งมีจำนวนไม่น้อยกลับไปเป็นกำลังสำคัญในการพัฒนาชุมชนและท้องถิ่น

    [​IMG]

    นอกจากการพัฒนาคุณภาพชีวิตเด็กและเยาวชน สมเด็จพระเทพฯ ยังทรงมีพระเมตตาแก่หญิงตั้งครรภ์ในละแวกโรงเรียนด้วย โดยพระราชทานคำแนะนำในการดูแลการตั้งครรภ์ การคลอด และแนะนำการเลี้ยงดูบุตร ทำให้สามารถคลอดได้อย่างปลอดภัย ทารกแรกเกิดมีน้ำหนักปกติ เติบโตตามเกณฑ์ และยังช่วยลดอุบัติการการเกิดทารกสมองพิการในช่วงการเกิดและหลังเกิดด้วย

    ในปี 2533 สม เด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราช กุมารี ได้พระราชทานนำประสบการณ์ของพระองค์ไปขยายผลต่อเด็กและเยาวชนที่ด้อยโอกาสในประเทศต่างๆ โดยเริ่มที่โรงเรียนวัฒนธรรมหลัก 67 แขวงเวียงจันทน์ ซึ่งเป็นโรงเรียนเด็กกำพร้า จนมีผลสัมฤทธิ์เป็นที่ประจักษ์ในการพัฒนาภาวะโภชนาการ สุขภาพ และการเรียนของนักเรียนให้ดีขึ้น ปัจจุบันมีการขยายโครงการไปสู่อีก 15 โรงเรียนใน 6 แขวงของสาธารณรัฐประชาธิปไตย ประชาชนลาว โครงการในรูปแบบเดียวกันนี้ได้ ขยายไปสู่โรงเรียนในชนบทของราชอาณาจักร กัมพูชา 3 โรงเรียน สาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม 3 โรงเรียน ประเทศมองโกเลีย 1 โรงเรียน และ สหภาพพม่า 47 โรงเรียน โดยล่าสุด พระองค์ได้ พระราชทานทุนในการก่อสร้างอาคารโรงเรียน ที่หมู่บ้านกะดงกะนิ ซึ่งถูกพายุไซโคลนพัดเสียหายเมื่อปี 2551 โดยมีพระประสงค์ให้เป็นต้นแบบ สำหรับโรงเรียนในพื้นที่เสี่ยงต่อพายุ ไซโคลน

    [​IMG]

    ในวโรกาสที่สมาคมโภชนาการแห่งประเทศไทยในพระราชูปถัมภ์ในสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ได้รับเกียรติจากสมาพันธ์โภชนาการนานาชาติ ให้จัดการประชุมโภชนาการนานาชาติ ครั้งที่ 19 ระหว่างวันที่ 4-9 ตุลาคม 2552 ที่กรุงเทพฯ มีผู้เข้าประชุมกว่า 4,100 คน จาก 107 ประเทศ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ได้ทรงมีพระมหากรุณาธิคุณเสด็จฯเป็นองค์ประธานในพิธีเปิดการประชุม และทรงร่วมประชุม โดยพระราชทานความคิดเห็นและซักถามด้วยความสนพระทัยยิ่ง ผู้เข้าประชุมโภชนาการนานาชาติครั้งนี้ ต่างชื่นชมอย่างมากในพระจริยวัตร ความสนพระทัย ความรอบรู้ และประสบการณ์ของพระองค์ท่านในการแก้ไขปัญหาและพัฒนางานด้านอาหาร โภชนาการ และสุขภาพของประชาชน

    ในโอกาสการประชุมนานาชาติครั้งนี้ "ศาสตราจารย์ ดร.ริคาร์โด วาเวย์" นายกสมาพันธ์โภชนาการนานาชาติ ได้ขอพระราชานุญาตนำคณะกรรมการสมาพันธ์ฯเข้าเฝ้าฯเพื่อ ทูลเกล้าฯถวายโล่เทิดพระเกียรติและประกาศนียบัตรเกียรติคุณผลงานดีเด่นของสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ในการช่วยเหลือและส่งเสริมโภชนาการของผู้ด้อยโอกาสอันเป็นพื้นฐานของการพัฒนามนุษย์ ซึ่งถือเป็นรางวัลสูงสุดทางโภชนาการ ที่ทางสมาพันธ์โภชนาการนานาชาติไม่เคยมอบแก่บุคคลใดมาก่อน

    [​IMG]


    ข้อความเทิดพระเกียรติในประกาศนียบัตรเกียรติคุณของรางวัลดีเด่นจากสมาพันธ์โภชนาการนานาชาติสะท้อนผลงานและพระอัจฉริยภาพของพระองค์ท่านในด้านโภชนาการอย่างชัดคม ความว่า

    "สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงเป็นดวงประทีปนำแสงสว่างสู่ชาวโลก ทำให้เห็นกระบวนการที่ช่วยให้ ประชาชนมีความมั่นคงทางโภชนาการอย่างทั่วถึง โดยตลอดระยะเวลา 30 ปีที่ผ่านมา ทรงอุทิศพระองค์เพื่อพัฒนาโภชนาการ และคุณภาพชีวิตของผู้ยากไร้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งพวกเด็กๆ ซึ่งเป็นอนาคตของชาติและของโลก

    สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงแสดงให้เห็นว่า การสร้างความมั่นคงทางโภชนาการต้องข้ามพ้นกำแพงทางสังคม วัฒนธรรม และภูมิศาสตร์ ทรงเป็นผู้นำการบุกเบิกอย่างเป็นระบบในการนำอาหาร โภชนาการ และการศึกษาเข้าถึงประชาชน ซึ่งมิใช่คนส่วนใหญ่ของสังคม แต่เป็นผู้คนที่มักถูกละเลย พระราชกรณียกิจของสมเด็จพระเทพรัตนราช สุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เข้าถึงเด็กและครอบครัว จำนวนนับไม่ถ้วนในพื้นที่ห่าง ไกลทุรกันดาร ที่ประชาชนถูกละเลย เนื่อง จากความแตกต่างทางวัฒนธรรมและศาสนา ทรงเอื้อมพระหัตถ์ข้ามพระราชอาณาจักร เพื่อช่วยเหลือประชาชนผู้ยากไร้ในประเทศเพื่อนบ้าน และประเทศที่อยู่ห่างออกไป ได้แก่ สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ราชอาณาจักรกัมพูชา สาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม สหภาพพม่า และมองโกเลีย

    [​IMG]


    ทักษะความเชี่ยวชาญของสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ขยายขอบข่ายครอบคลุมการศึกษา โภชนาการ การสาธารณสุข สิทธิมนุษยชน และการพัฒนาสังคมเศรษฐกิจอย่างยั่งยืนในโลกปัจจุบัน การบูรณาการความรู้สาขาต่างๆ มาประยุกต์ใช้เพื่อการพัฒนาแบบองค์รวมเป็นเรื่องที่ไม่พบบ่อยนัก แต่สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงแสดงให้เห็นว่าเป็นสิ่งที่เป็นไปได้ อันนำไปสู่การพัฒนาโภชนาการอย่างยั่งยืน

    สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงเป็นนักปฏิบัติที่ทรงมุ่งผลสำเร็จ โดยทรงเชื่อมั่นว่าการเริ่มต้นเล็กๆ เรียนรู้จากความผิดพลาด และการใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่าจะนำไปสู่ความสำเร็จ ทรงเป็นผู้ใฝ่เรียนใฝ่รู้ ทรงแสวงหาความรู้ใหม่ๆ นำมาประยุกต์ใช้อย่างเรียบง่าย ประหยัด และก่อให้เกิดผลในการพัฒนาชีวิตความเป็นอยู่ของเด็กๆ มารดาและครอบครัวได้ ด้วยแรงบันดาลพระราชหฤทัย ที่ทรงได้รับจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทำให้ทรงเชื่อมั่นในการพัฒนาท้องถิ่นอย่างยั่งยืน ด้วยการเพิ่มขีดความสามารถของประชาชนในด้านการเกษตรและการปศุสัตว์ เพื่อให้เขาเหล่านั้นสามารถผลิตอาหารได้ด้วยตนเอง ทำให้มีอาหารที่มีคุณภาพสำหรับหญิงมีครรภ์ หญิงให้นมบุตร และเด็กๆ เกิดความมั่นคงทางอาหารและโภชนาการภายในครอบครัว

    ในการพัฒนาโภชนาการ ทรงคำนึงถึงความแตกต่างทางวัฒนธรรมในพื้นที่ที่ประชาชนมีขนบธรรมเนียมประเพณีทางศาสนาที่ต่างกัน มีความเชื่อทางวัฒนธรรมของตน และมีการแพทย์ดั้งเดิมของท้องถิ่น ทรงใช้การวิจัยและพัฒนาเป็นเครื่องมือในการผสมผสานภูมิปัญญาท้องถิ่นกับวิทยาศาสตร์ เพื่อพัฒนาพฤติกรรมด้านอาหารและโภชนาการ

    สมาพันธ์โภชนาการนานาชาติรู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่ง ในการประกาศพระเกียรติคุณสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรม ราชกุมารี ผู้ทรงเปี่ยมด้วยพระราชปณิธานอันมุ่งมั่นและพระราชกรณียกิจด้านโภชนาการอันกอปรด้วยมนุษยธรรมให้ปรากฏสืบไป"

    เนื่องในวโรกาสที่พระองค์ทรงเจริญพระชนมายุครบ 55 พรรษาในวันที่ 2 เมษายน ศกนี้ ข้าพระพุทธเจ้า ขอพระราชทานพระราชานุญาต ถวายพระพร ขอพระองค์ทรงพระเจริญด้วยจตุรพิธพรชัย มีพระพลานามัยที่แข็งแรง มีพระราชประสงค์จำนงหมายสิ่งใดขอจงสัมฤทธิผลทุกประการ เป็นมิ่งขวัญของปวงชนชาวไทยและนานาชาติสืบไป

    ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อม

    ข้าพระพุทธเจ้า ศาสตราจารย์เกียรติคุณ นายแพทย์ ไกรสิทธิ์ ตันติศิรินทร์

    ที่ปรึกษาสถาบันโภชนาการ มหาวิทยาลัยมหิดล และนายกสมาคมโภชนาการแห่งประเทศไทยฯ



    ที่มา ข่าวไทยรัฐออนไลน์
     

แชร์หน้านี้

Loading...