รอดตาย!...เพราะรถยนต์หดตัว อ.คฑา ชินบัญชร

<TABLE cellSpacing=5 cellPadding=0 width=567 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top>รอดตาย!...เพราะรถยนต์หดตัว อ.คฑา ชินบัญชร</TD></TR><TR><TD class=Text_Story vAlign=top><!-- "เขมชาติ ปริญญานุสรณ์" เป็นชื่อและนามสกุลเดิมของ "อ.คฑา ชินบัญชร" ผู้ถูกขนานนามว่า "หมอดูไพ่ยิปซี แห่งวงการโหราศาสตร์"

ทั้งนี้เขาได้ให้เหตุผลที่ต้องเปลี่ยนชื่อว่า "การเป็นหมอดู จะทำให้ชาติตระกูลเสียหาย ทั้งๆ ที่เรียนจบศึกษาศาสตร์ คณะคหกรรมศาสตร์ จาก ม.เกษตรศาสตร์ แต่มาทำอาชีพหมอดู"
อ.คฑา บอกว่า ที่มาของชื่อ "คฑา" นั้น คุณยายเป็นคนตั้งให้ ซึ่งแปลกมาก เพราะว่าในไพ่ยิปซีก็มีรูปคฑา ทั้งๆที่คุณยายไม่รู้เรื่องอะไรเกี่ยวกับไพ่ยิปซีเลย ส่วนที่มาของนามสกุล "ชินบัญชร" นั้น มีอยู่วันหนึ่ง ต้องไปนั่งดูหมอในโรงแรมแห่งหนึ่ง ย่านรามคำแหง พอไปนั่งก็เห็นซุ้มติดป้ายชื่อว่า "คฑา ชินบัญชร"
ด้วยความงง จึงถามเพื่อนว่า "ใครตั้งนามสกุลให้ แล้วนามสกุลมาอย่างไร" ในที่สุดก็สืบรู้ว่า เอฟบีแมเนเจอร์ของโรงแรม เขาเดินมาดูซุ้มนี้แล้วบอกว่า "ซุ้มนี้จะมีหมอดูที่ชอบสวดชินบัญชรทุกวัน และแขวนพระสมเด็จมานั่ง" แล้วเอฟบีแมนคนนี้ยังไม่เคยเห็นหน้าเลย เชื่อไปว่า เป็นเรื่องแปลกอย่างมาก เพราะเพิ่งเรียนจบเป็นหมอดูใหม่ๆ
ถึงแม้จะเป็นหมอดูชื่อดัง ซึ่งน่าจะไม่ลืมตรวจดวงชะตาให้ตนเอง แต่แล้วก็มีวันพลาด ถึงกับทำให้ชีวิตต้องเจอกับเหตุการณ์เฉียดตายมาหลายครั้ง
อ.คฑา เล่าว่า วันนั้น ต้องเดินทางกลับเข้ากรุงเทพฯ บังเอิญคนขับรถไม่มา เนื่องจากไปติดผู้หญิง ตรงนี้อยากจะบอกว่า ติดผู้หญิงต้องติดกลางคืน เดี๋ยวไม่มีเงินเลี้ยงเขา แต่กลางวันต้องออกมาทำงานได้แล้ว ตรงนี้ทำให้ต้องขับรถกลับเอง จนมาถึงช่วงศูนย์การค้าซีคอนสแควร์ ถนนศรีนครินทร์ ถนนแคบมาก เพราะเป็นช่วงสะพานที่ชัน ปรากฏว่า หลับใน ขาไปเหยียบคันเร่งจนมิด ด้านขวามือเป็นเสาตอม่อขนาดใหญ่ ส่วนซ้ายมือก็มีรถอีกหลายคัน
จังหวะลืมตาขึ้นมาก็ตกใจว่า รถกำลังวิ่งชนกับตอม่อ นาทีนั้นนึกถึงพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ ให้ช่วยเรา พอนึกถึงแล้ว เชื่อไหมว่า เหมือนเราและรถตัวเล็กลงเฉียดตอม่อไปได้ด้วยเสี้ยววินาที แล้วรถก็เริ่มขยายใหญ่ขึ้น สังเกตเห็นภาพหดตัว แบบรถผอมลง จากนั้นรถก็ขยายตัวเหมือนภาพในการ์ตูน เชื่อไหมว่า รถข้างๆ ที่เราขับรถผ่านมาอ้าปากค้างกันเป็นแถวๆ คิดว่า เราต้องตายแน่นอน ตรงนี้คิดว่า รถข้างๆ อาจนึกว่า เราตีรถคู่มากับเขา เพื่อต้องการแข่ง แล้วแซงให้ได้ แต่เขาหารู้ไม่ว่าเราหลับใน
ครั้งที่สองเกิดขึ้นเมื่อ 3 ปีที่แล้ว ขับรถมาด้วยความเร็ว กลับจาก จ.ลพบุรี คราวนี้เรียกว่า ปาฏิหาริย์มีจริง ช่วงเวลาที่ขับรถยนต์มาถึงทางแยกสุดท้าย ก่อนเข้ามอเตอร์เวย์ (วงแหวนรอบนอก บางนา-ชลบุรี) ทางเข้าเป็นทางแคบแล้วไม่สว่างเท่าที่ควร ตรงนี้ขอต่อว่า กรมทางหลวงด้วย ที่ไม่ยอมปรับปรุงเส้นทาง เพราะไม่รู้ว่าเป็นทางโค้ง รถที่ขับอยู่จึงปีนขึ้นไปบนขอบทาง รถเอียงเหมือนเป็นรถสองล้อวิ่งยาวเป็นร้อยเมตร เรียกว่าทุกคนได้รับบาดเจ็บไปตามๆ กัน แต่เชื่อไหมว่า รถไม่เป็นอะไรเลย เพียงแค่กระเปาะน้ำเครื่องแตกเท่านั้นเอง
ส่วนเหตุการณ์ครั้งล่าสุด ได้นั่งเครื่องบินเพื่อไปรับเสด็จฯ กับแม่ (อัจฉรา) พอลงจากเครื่อง ก็ขับรถเช่าจากสนามบินไปวัดท่าตอน อ.ท่าตอน จ.เชียงใหม่ เป็นเวลาประมาณ ๒ ชั่วโมง เพื่อให้ทันเข้าเฝ้าฯ ระหว่างขึ้นเขา ถนนคดเคี้ยว ช่วงนั้นมีดินถล่มลงมา ทำให้ถนนลื่น ด้วยความเร็วที่ขับอยู่นั้น ทำให้รถลื่น แล้วทันใดนั้นรถก็หมุนปัด บอกให้แม่นั่งเฉยๆ ในใจเวลานั้นคิดทันที ขอให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์คุ้มครองด้วย
"เป็นเรื่องปาฏิหาริย์อย่างมาก จังหวะที่รถปัดหมุนอยู่นั้น พอเข้าโค้ง หัวรถก็ปัดกลับมาอยู่บนถนนได้ทันเวลา ภาพที่รถหมุนนั้น เหมือนอยู่ในสนามรถแข่งเลย ไม่เช่นนั้นรถคันที่ขับอยู่คงต้องตกเหวลึกด้านหน้าอย่างแน่นอน ที่รอดตายมาได้จากรถหมุน 2-3 รอบ บนถนนแคบๆ แบบนี้เชื่อว่า องค์สมเด็จองค์นี้คงช่วยชีวิตเอาไว้ แล้วเชื่อไหมว่า รถไม่มีรอยขีดข่วนเลยแม้แต่นิดเดียว" อ.คฑา กล่าว
จากประสบการณ์เฉียดตายมาหลายครั้ง อ.คฑา ยืนยันว่า ทุกครั้งเกิดจากปาฏิหาริย์ แล้วปาฏิหาริย์มีจริงแน่นอน โดยมาจากสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ที่คอยคุ้มครอง ส่วนหนึ่งอาจมาจากพระเครื่องที่แขวนติดตัว อันได้แก่ พระสมเด็จ วัดระฆัง พิมพ์เล็ก พระสมเด็จ วัดระฆัง พิมพ์ฐานแซม หลวงปู่ทวด วัดช้างให้ หลวงปู่ขาว อนาลโย
"วันนี้ อาจารย์ไม่เคยแข่งขันกับใคร ไม่เคยอยากได้ ไม่เคยใคร่มี แต่อาจารย์ทั้งมีและได้โดยมาเอง แล้วทำให้ชีวิตอาจารย์มีความสุข เพียงขอให้ทุกคนอย่าอยาก เพราะอยากที่ว่านี้คือ กิเลส และสิ่งที่สำคัญที่สุด อาจารย์จะระลึกถึง ๑.เวลาเราทำความดีอะไร ให้เราเผื่อแผ่พระคุณของแผ่นดิน ๒.พระคุณของบูรพกษัตริย์ ๓.พระคุณของพ่อแม่บิดามารดา ๔.พระคุณของครูอาจารย์ และ ๕.พระคุณของผู้มีพระคุณ ดังนั้น ๕ พระคุณนี้ จึงเป็น พุทธคุณ ธรรมคุณ สังฆคุณ ถ้าชีวิตเราเชื่อในสิ่งนี้ เราจะเป็นคนดี และชีวิตก็จะมีความสุข" อ.คฑา กล่าวทิ้งท้าย0 เรื่อง สุทธิคุณ กองทอง / ภาพ ชาญณรงค์ พรดิลกรัตน์ 0

-->
"เขมชาติ ปริญญานุสรณ์" เป็นชื่อและนามสกุลเดิมของ "อ.คฑา ชินบัญชร" ผู้ถูกขนานนามว่า "หมอดูไพ่ยิปซี แห่งวงการโหราศาสตร์"
ทั้งนี้เขาได้ให้เหตุผลที่ต้องเปลี่ยนชื่อว่า "การเป็นหมอดู จะทำให้ชาติตระกูลเสียหาย ทั้งๆ ที่เรียนจบศึกษาศาสตร์ คณะคหกรรมศาสตร์ จาก ม.เกษตรศาสตร์ แต่มาทำอาชีพหมอดู"
อ.คฑา บอกว่า ที่มาของชื่อ "คฑา" นั้น คุณยายเป็นคนตั้งให้ ซึ่งแปลกมาก เพราะว่าในไพ่ยิปซีก็มีรูปคฑา ทั้งๆที่คุณยายไม่รู้เรื่องอะไรเกี่ยวกับไพ่ยิปซีเลย ส่วนที่มาของนามสกุล "ชินบัญชร" นั้น มีอยู่วันหนึ่ง ต้องไปนั่งดูหมอในโรงแรมแห่งหนึ่ง ย่านรามคำแหง พอไปนั่งก็เห็นซุ้มติดป้ายชื่อว่า "คฑา ชินบัญชร"
ด้วยความงง จึงถามเพื่อนว่า "ใครตั้งนามสกุลให้ แล้วนามสกุลมาอย่างไร" ในที่สุดก็สืบรู้ว่า เอฟบีแมเนเจอร์ของโรงแรม เขาเดินมาดูซุ้มนี้แล้วบอกว่า "ซุ้มนี้จะมีหมอดูที่ชอบสวดชินบัญชรทุกวัน และแขวนพระสมเด็จมานั่ง" แล้วเอฟบีแมนคนนี้ยังไม่เคยเห็นหน้าเลย เชื่อไปว่า เป็นเรื่องแปลกอย่างมาก เพราะเพิ่งเรียนจบเป็นหมอดูใหม่ๆ
ถึงแม้จะเป็นหมอดูชื่อดัง ซึ่งน่าจะไม่ลืมตรวจดวงชะตาให้ตนเอง แต่แล้วก็มีวันพลาด ถึงกับทำให้ชีวิตต้องเจอกับเหตุการณ์เฉียดตายมาหลายครั้ง
อ.คฑา เล่าว่า วันนั้น ต้องเดินทางกลับเข้ากรุงเทพฯ บังเอิญคนขับรถไม่มา เนื่องจากไปติดผู้หญิง ตรงนี้อยากจะบอกว่า ติดผู้หญิงต้องติดกลางคืน เดี๋ยวไม่มีเงินเลี้ยงเขา แต่กลางวันต้องออกมาทำงานได้แล้ว ตรงนี้ทำให้ต้องขับรถกลับเอง จนมาถึงช่วงศูนย์การค้าซีคอนสแควร์ ถนนศรีนครินทร์ ถนนแคบมาก เพราะเป็นช่วงสะพานที่ชัน ปรากฏว่า หลับใน ขาไปเหยียบคันเร่งจนมิด ด้านขวามือเป็นเสาตอม่อขนาดใหญ่ ส่วนซ้ายมือก็มีรถอีกหลายคัน
จังหวะลืมตาขึ้นมาก็ตกใจว่า รถกำลังวิ่งชนกับตอม่อ นาทีนั้นนึกถึงพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ ให้ช่วยเรา พอนึกถึงแล้ว เชื่อไหมว่า เหมือนเราและรถตัวเล็กลงเฉียดตอม่อไปได้ด้วยเสี้ยววินาที แล้วรถก็เริ่มขยายใหญ่ขึ้น สังเกตเห็นภาพหดตัว แบบรถผอมลง จากนั้นรถก็ขยายตัวเหมือนภาพในการ์ตูน เชื่อไหมว่า รถข้างๆ ที่เราขับรถผ่านมาอ้าปากค้างกันเป็นแถวๆ คิดว่า เราต้องตายแน่นอน ตรงนี้คิดว่า รถข้างๆ อาจนึกว่า เราตีรถคู่มากับเขา เพื่อต้องการแข่ง แล้วแซงให้ได้ แต่เขาหารู้ไม่ว่าเราหลับใน
ครั้งที่สองเกิดขึ้นเมื่อ 3 ปีที่แล้ว ขับรถมาด้วยความเร็ว กลับจาก จ.ลพบุรี คราวนี้เรียกว่า ปาฏิหาริย์มีจริง ช่วงเวลาที่ขับรถยนต์มาถึงทางแยกสุดท้าย ก่อนเข้ามอเตอร์เวย์ (วงแหวนรอบนอก บางนา-ชลบุรี) ทางเข้าเป็นทางแคบแล้วไม่สว่างเท่าที่ควร ตรงนี้ขอต่อว่า กรมทางหลวงด้วย ที่ไม่ยอมปรับปรุงเส้นทาง เพราะไม่รู้ว่าเป็นทางโค้ง รถที่ขับอยู่จึงปีนขึ้นไปบนขอบทาง รถเอียงเหมือนเป็นรถสองล้อวิ่งยาวเป็นร้อยเมตร เรียกว่าทุกคนได้รับบาดเจ็บไปตามๆ กัน แต่เชื่อไหมว่า รถไม่เป็นอะไรเลย เพียงแค่กระเปาะน้ำเครื่องแตกเท่านั้นเอง
ส่วนเหตุการณ์ครั้งล่าสุด ได้นั่งเครื่องบินเพื่อไปรับเสด็จฯ กับแม่ (อัจฉรา) พอลงจากเครื่อง ก็ขับรถเช่าจากสนามบินไปวัดท่าตอน อ.ท่าตอน จ.เชียงใหม่ เป็นเวลาประมาณ ๒ ชั่วโมง เพื่อให้ทันเข้าเฝ้าฯ ระหว่างขึ้นเขา ถนนคดเคี้ยว ช่วงนั้นมีดินถล่มลงมา ทำให้ถนนลื่น ด้วยความเร็วที่ขับอยู่นั้น ทำให้รถลื่น แล้วทันใดนั้นรถก็หมุนปัด บอกให้แม่นั่งเฉยๆ ในใจเวลานั้นคิดทันที ขอให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์คุ้มครองด้วย
"เป็นเรื่องปาฏิหาริย์อย่างมาก จังหวะที่รถปัดหมุนอยู่นั้น พอเข้าโค้ง หัวรถก็ปัดกลับมาอยู่บนถนนได้ทันเวลา ภาพที่รถหมุนนั้น เหมือนอยู่ในสนามรถแข่งเลย ไม่เช่นนั้นรถคันที่ขับอยู่คงต้องตกเหวลึกด้านหน้าอย่างแน่นอน ที่รอดตายมาได้จากรถหมุน 2-3 รอบ บนถนนแคบๆ แบบนี้เชื่อว่า องค์สมเด็จองค์นี้คงช่วยชีวิตเอาไว้ แล้วเชื่อไหมว่า รถไม่มีรอยขีดข่วนเลยแม้แต่นิดเดียว" อ.คฑา กล่าว
จากประสบการณ์เฉียดตายมาหลายครั้ง อ.คฑา ยืนยันว่า ทุกครั้งเกิดจากปาฏิหาริย์ แล้วปาฏิหาริย์มีจริงแน่นอน โดยมาจากสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ที่คอยคุ้มครอง ส่วนหนึ่งอาจมาจากพระเครื่องที่แขวนติดตัว อันได้แก่ พระสมเด็จ วัดระฆัง พิมพ์เล็ก พระสมเด็จ วัดระฆัง พิมพ์ฐานแซม หลวงปู่ทวด วัดช้างให้ หลวงปู่ขาว อนาลโย "วันนี้ อาจารย์ไม่เคยแข่งขันกับใคร ไม่เคยอยากได้ ไม่เคยใคร่มี แต่อาจารย์ทั้งมีและได้โดยมาเอง แล้วทำให้ชีวิตอาจารย์มีความสุข เพียงขอให้ทุกคนอย่าอยาก เพราะอยากที่ว่านี้คือ กิเลส และสิ่งที่สำคัญที่สุด อาจารย์จะระลึกถึง ๑.เวลาเราทำความดีอะไร ให้เราเผื่อแผ่พระคุณของแผ่นดิน ๒.พระคุณของบูรพกษัตริย์ ๓.พระคุณของพ่อแม่บิดามารดา ๔.พระคุณของครูอาจารย์ และ ๕.พระคุณของผู้มีพระคุณ ดังนั้น ๕ พระคุณนี้ จึงเป็น พุทธคุณ ธรรมคุณ สังฆคุณ ถ้าชีวิตเราเชื่อในสิ่งนี้ เราจะเป็นคนดี และชีวิตก็จะมีความสุข" อ.คฑา กล่าวทิ้งท้าย 0 เรื่อง สุทธิคุณ กองทอง / ภาพ ชาญณรงค์ พรดิลกรัตน์ 0
</TD></TR></TBODY></TABLE>
-----------------
ที่มา: คมชัดลึก
http://www.komchadluek.net/2006/12/09/j001_72765.php?news_id=72765