ยามดึก ใน ซอยเปลี่ยว กับ มอเตอร์ไซค์ไร้หัว

ในห้อง 'เรื่องผี' ตั้งกระทู้โดย vacharaphol, 3 มกราคม 2006.

  1. vacharaphol

    vacharaphol เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    8,849
    ค่าพลัง:
    +27,174
    ยามดึก ใน ซอยเปลี่ยว กับ มอเตอร์ไซค์ไร้หัว ใครเรียน ภาคค่ำ ก็ระวังกันหน่อย
    "หลานวิทย์" เล่าประสบการณ์ขนหัวลุกในซอยเปลี่ยวยามดึก

    ผมเป็นนักศึกษาภาคค่ำ ไปเรียนตอนหกโมงเย็น เลิกสามทุ่ม แต่บางคืนกว่าจะกลับถึงบ้านก็ร่วมสองยาม เพราะไปกินข้าวต้มต่อกับเพื่อนๆ ครับ

    บ้านผมอยู่สะพานใหม่ เลยวัดพระศรีมหาธาตุไปทางดอนเมือง จากถนนใหญ่ต้องเข้าซอยเล็กๆ ไปราว 200 เมตร ฟังดูไกลนะครับ แต่สำหรับผมเองซึ่งต้องเดินเข้าเดินออกอยู่ทุกวี่ทุกวัน ความเคยชินทำให้รู้สึกว่าไม่ไกลเท่าไหร่ เดินเรื่อยเปื่อย ทักร้านค้าของชำ ร้านก๋วยเตี๋ยว ไก่ย่างส้มตำไปเดี๋ยวเดียวก็ถึงบ้านแล้ว

    แหม! ตอนกลางคืนนี่ซีครับ ไอ้ที่ว่าใกล้น่ะ ทำไมทางเดินมันยืดยาวออกไปได้ยังไงก็ไม่รู้แฮะ!

    ซอยบ้านตัวเองที่เคยคุ้น กลับกลายเป็นแดนสนธยาที่แสนเปลี่ยว ต้องเดินเหลียวหน้าเหลียวหลัง กลัวทั้งผีทั้งคนร้าย ฉะนั้น ถ้าไม่จำเป็นผมจะไม่ค่อยกลับดึกๆ ดื่นๆ หรอกครับ แต่บางทีผมก็ขึ้นมอเตอร์ไซค์เข้าบ้านได้เหมือนกัน

    นานๆ ครั้งนะครับ เพราะส่วนมากผู้โดยสารคนอื่นเรียกไปก่อนจนหมด

    เมื่อคืนวันอังคารที่ 1 มิถุนายนปีนี้เองครับ ผมได้เจอะเจอประสบการณ์น่าฉงน ชวนขนหัวลุก อยากเล่าให้คุณๆ ฟังเพื่อลองพิจารณาดูว่าเจ้า "สิ่งนั้น" มันคืออะไรกันแน่...ผีรึเปล่า?

    คืนนั้น...อันที่จริงมันเป็นเวลาตีหนึ่งกว่าๆ ที่ถูกจะต้องเป็นวันพุธที่ 2 มิถุนายนแล้วใช่ไหมครับ ถ้าเรานับตามเวลาสากล...เลยสองยามแล้วก็เป็นวันใหม่

    วันพุธที่ 2 นี้ก็คือวันวิสาขบูชาไงล่ะครับ!!

    ผมกลับบ้านค่อนข้างดึกเอาการ ไม่ใช่ไปกินเหล้ากินเบียร์หรอกนะครับ ไม่ได้ผิดศีลเลย ผมไปคาราโอเกะต่างหาก ร้องเพลงเพลินไปหน่อย ขากลับเพื่อนขับรถมาส่ง แต่ผมดันดัดจริตเกรงใจเพื่อนฝูง ทั้งๆ ที่มันบอกว่าจะเลี้ยวเข้าซอยส่งถึงประตูบ้านอยู่แล้วเชียวนา

    นึกยังไงไม่รู้ บอกเพื่อนว่าซอยมันแคบ หาที่กลับรถลำบาก ผมลงตรงถนนใหญ่แล้วเดินเข้าไปเองดีกว่า

    เพื่อนยังห่วง แต่ผมกลับหัวเราะ...แป๊บเดียวก็ถึงว่ะ

    พอลงจากรถเพื่อนก็ขับหวือไป ถนนใหญ่ยังมีรถวิ่งอยู่ไม่น้อย แต่แหม...มองเข้าไปในซอยแล้วดูมันวังเวงใจสิ้นดี เอาเถอะวะ...เดินก็เดิน

    ผมจ้ำอ้าว ก้มหน้าก้มตา พยายามไม่คิดเรื่องที่ไม่เป็นมงคลแก่ตนเอง มีอยู่ครั้งหนึ่งผมเหลียวไปข้างหลังตอนนั้นเดินมาได้เกือบครึ่งทางแล้วล่ะครับ ผมเห็นปากซอยอยู่ไกลลิบ มองดูเหมือนปากอุโมงค์ ใจหายเหมือนกัน ชาวบ้านชาวช่องหลับหมดจริงๆ

    หันมาก้มหน้าก้มตาเดินต่อ พยายามเร่งฝีเท้า คิดถึงบ้านจับใจเชียว มือก็ล้วงกระเป๋ากางเกงเอากุญแจประตูรั้วมากำไว้...ทันใดก็มีรถมอเตอร์ไซค์แล่นเข้ามา

    แสงไฟส่องให้เห็นคนขับใส่เสื้อสีน้ำเงิน ท่าทางคล้ายเมสเซนเจอร์ทั่วไป สวมหมวกกันน็อกสีเขียวเข้ม เขาแล่นรถเทียบพลางหันมาหา พูดเสียงเบาๆ ว่า "ไปไหม?" ผมสั่นหน้า ใจคอไม่ดีกลัวโดนจี้เลยยิ้มสู้ เผื่อเขาเป็นผู้ร้ายเห็นรอยยิ้มสวยๆ จะได้มีเมตตา

    ชายที่ขี่มอเตอร์ไซค์ไม่ได้พูดอะไร แต่ขับต่อไปช้าๆผมก็โล่งใจ

    และแล้ว...เมื่อเขาห่างออกไปเกือบสองเสาไฟฟ้า หมวกกันน็อกก็กลิ้งหลุดผมชะงักเท้า...มันเหมือนเขาขี่อยู่ดีๆ หัวก็หลุดจากบ่า ร่วงไปกลิ้งอยู่ที่พงหญ้า ผมนิ่งอยู่เห็นเขาลงจากรถไปเก็บหมวกกันน็อกมาสวมกับบ่า...

    เอ๊ะ! เขาคงเดินก้มหน้ามั้ง ผมถึงไม่เห็นศีรษะของเขาน่ะ? พอสวมหมวกเสร็จเขาก็ขับรถหายไปในความมืด ส่วนผมก็เดินถึงบ้านอย่างปลอดภัย

    น่าโมโหตัวเองครับ ที่ตลอดเวลาใจผมอยู่กับคนขี่มอเตอร์ไซค์คนนั้น

    ทันใดนั้นเอง ผมเย็นวาบไปทั้งตัว ขนหัวลุกเกรียวเมื่อนึกถึงสิ่งผิดปกติ อย่างหนึ่งขึ้นมาได้...นั่นคือ ผมไม่ได้ยินเสียงเครื่องยนต์จากมอเตอร์ไซค์คันนั้นเลย! มันเงียบเหมือนเขาขี่จักรยานมางั้นแหละ

    ผีแหงเลย! ผมสวดมนต์และนอนเปิดไฟทั้งคืน!

    รุ่งขึ้น ผมคุยเรื่องนี้กับพ่อแม่และพี่ชาย ทุกคนไม่ได้ตัดสินใจว่าเป็นผีหรือเปล่าหรอกครับ แต่พี่ผมบอกว่าเมื่อก่อนปีใหม่ มีรถสิบล้อชนมอเตอร์ไซค์ที่ถนนใหญ่หน้าซอยเรา เหตุเกิดตอนตีหนึ่งกว่าๆ คนขี่มอเตอร์ไซค์คอขาด หัวยังอยู่ในหมวกกันน็อก พี่ผมนั่งแท็กซี่กลับบ้านพอดีเลยได้เห็นคาตา

    มอเตอร์ไซค์สีแดง คนขับใส่สีน้ำเงินแบบเมสเซนเจอร์!

    พี่ผมเห็นชัดเพราะคนขับแท็กซี่หยุดรถดูเหตุการณ์ ไม่แยแสว่าผู้โดยสารจะอกสั่นขวัญแขวน ท้องไส้ขย้อน หัวใจสั่นหวิวๆ แทบจะเป็นลมเป็นแล้งเพราะภาพน่าสยดสยองขนาดไหน

    เป็นไปได้ว่าผมได้เจอวิญญาณชายเคราะห์ร้ายในวันพระนั้นเข้าพอดี!

    ถึงอย่างไรผมก็ทำบุญ อุทิศส่วนกุศลให้เขาเรียบร้อยแล้วล่ะครับ และผมก็เป็นเด็กดีไม่กลับบ้านดึกๆ อีกต่อไป

    อ้อ! ถึงจะมีความจำเป็นเพราะขัดเพื่อนชวนไปเที่ยวคาราโอเกะไม่ได้ ก็เถอะครับ ตอนเพื่อนมาส่งก็จะไม่เกรงอกเกรงใจกันอีกแล้ว แต่จะบังคับขู่เข็ญให้มันมาส่งถงหัวกระไดบ้านผมให้จงได้ซีน่า...ขากลับก็เชิญวัดดวงเอาเองละกัน เพื่อนเอ๋ย!
     
  2. นายจตุพล

    นายจตุพล เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    96
    ค่าพลัง:
    +177
    เหตุ การณ์ ผ่านมาแล้ว อย่าทุกข์ จไปเลย.....เค้า แค่อยากให้ บริการลูกค้าของเค้ารับ ส่งคนอย่างที่ เค้าเคยทำ เท่านั้น
     

แชร์หน้านี้

Loading...