มลพิษทางอากาศและน้ำ!!!!!

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย Catt Bewer, 13 มีนาคม 2007.

  1. Catt Bewer

    Catt Bewer เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    3,768
    ค่าพลัง:
    +16,673
    <TABLE borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 align=center border=5><TBODY><TR><TD bgColor=#ffffff>เชียงใหม่วิกฤติ! มลพิษ เต็มเมือง พื้นที่ เสี่ยงภัย เร่งแก้ไขด่วน!</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 align=center border=5><TBODY><TR><TD bgColor=#b4c1d6><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=3 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR bgColor=#dee6ef><TD vAlign=center> </TD></TR><TR bgColor=#dee6ef><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top>เชียงใหม่ เป็นเมืองเศรษฐกิจสำคัญของภาคเหนือตอนบน

    มีพื้นที่ประมาณ 20,107.057 ตารางกิโลเมตร จำนวนประชากรตามทะเบียนราษฎรถึง 1,666,035 คน เป็นชาย 819,287 คน หญิง 846,748 คน ยังไม่นับรวม
     
  2. Catt Bewer

    Catt Bewer เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    3,768
    ค่าพลัง:
    +16,673
    <TABLE borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 align=center border=5><TBODY><TR><TD bgColor=#ffffff>เจ้าพระยาเน่า..! ทำพิษ "ปลาทับทิม" ตายเป็นเบือ</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 align=center border=5><TBODY><TR><TD bgColor=#b4c1d6><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=3 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR bgColor=#dee6ef><TD vAlign=center> </TD></TR><TR bgColor=#dee6ef><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top>เจ้าพระยาเน่าอ่างทองยันอยุธยาออกซิเจนต่ำ
     
  3. Falkman

    Falkman พลังจิตนานาชาติ ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    19,726
    ค่าพลัง:
    +77,792
    ตอนนี้อะไรก็เป็นพิษไปหมด จะหนีไปไหนดี เฮ่อ
     
  4. mead

    mead เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 เมษายน 2005
    โพสต์:
    8,134
    ค่าพลัง:
    +62,441
    ช่วงนี้ทั้งอากาศทั้งน้ำเป็นพิษไปทั่วเลย
    ยังมีคลื่นความร้อนที่แฝงมาอีก มีหลายคนล้มป่วยโดยไม่รู้สาเหตุกันเยอะ
    ผลจากสิ่งเหล่านี้ด้วยครับ...
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 13 มีนาคม 2007
  5. kananun

    kananun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2006
    โพสต์:
    10,282
    ค่าพลัง:
    +114,775
    มีกรณีการเกิดเรดไทด์ น้ำทะเลสีแดงรอบเกาะภูเก็ตด้วยครับ สาหร่ายเหล่านี้เป็นสาหร่ายพิษ ไม่นานสัตว์ทะเลและปะการังบริเวณนั้นจะตายเพิ่มขึ้น

    ควรจับตามอง และไม่ควรกินปลาและสัตว์ที่ตายเหล่านี้
     
  6. Catt Bewer

    Catt Bewer เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    3,768
    ค่าพลัง:
    +16,673
    โบ้ยหมูกะทะ-เพิ่มหมอกควันเชียงใหม่

    ทั้งเผาป่าหาเห็ด!อุตุคาดฝนตกช่วย



    <TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=left border=0><TBODY><TR bgColor=#400040><TD>[​IMG]
    กันควันพิษ- ประชาชนชาวเชียงใหม่ สวมหน้ากากป้องกันควันพิษ จากสภาพอากาศทางภาคเหนือ ที่มีแต่หมอกควันปกคลุมมานานหลายสัปดาห์แล้ว และยังไม่มีวี่แววว่าจะทุเลาเบาบางลง เมื่อวันที่ 13 มี.ค.

    </TD></TR></TBODY></TABLE>รองนายกฯ"ไพบูลย์ วัฒนศิริธรรม" บุกเชียงใหม่บินดูหมอกควันคลุมเมือง พร้อมแจกหน้ากากให้ประชาชนกว่าแสนอัน สั่งให้เร่งแก้ไขโดยด่วน โดยเฉพาะทำฝนเทียมอย่างต่อเนื่อง ด้านบิ๊กทส.ระบุเหตุหมกควันภาคเหนือตอนบนหนาทึบเกินค่ามาตรฐาน เพราะชาวบ้านฉวยโอกาสเผาป่าหาผักหวาน เห็ดเผาะ และเผาวัชพืช พร้อมเร่งแก้ไฟป่าในป่าอนุรักษ์ ชี้หากยังไม่ดีขึ้นอาจเสนอนายกฯใช้มาตรา 9 พ.ร.บ.สิ่งแวดล้อม ประกาศมาตรการฉุกเฉิน เช่น อพยพผู้คน ฯลฯ ขณะที่ทส.เชียงใหม่โบ้ยหมอกควันส่วนหนึ่งมาจากร้านหมูเกาหลี หมูกระทะ ไก่ย่าง แนะให้หยุดขาย เพื่อลดกิจกรรมที่เพิ่มหมอกควัน

    เมื่อวันที่ 13 มี.ค. พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี แถลงภายหลังการประชุมครม.ว่า ที่ประชุมมีการหารือถึงปัญหาหมอกควันปริมาณมากปกคลุมพื้นที่ภาคเหนือ ส่งผลกระทบต่อสภาวะแวดล้อมและสุขภาพของประชาชน ซึ่งครม.ได้พิจารณาอย่างละเอียดรอบคอบ เพื่อหาทางช่วยเหลือต่อไป

    นายเกษม สนิทวงศ์ ณ อยุธยา รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กล่าวว่า หมอกควันที่เกิดขึ้นในพื้นที่ภาคเหนือ สาเหตุหลักเนื่องจากในปีนี้มีปรากฏการณ์เอลนิญโญเกิดขึ้น สภาพอากาศแห้งแล้งผิดปกติ ถือเป็นโชคไม่ดีสำหรับไทย เพราะปีที่แล้วเกิดปรากฏการณ์ลานิญาคือปริมาณน้ำมาก ฝนตกมากทำให้น้ำท่วม อย่างไรก็ตามได้ประสานงานกับกระทรวงมหาดไทย กระทรวงเกษตรฯ ในการทำแผนเข้าไปแก้ไขปัญหาไฟป่าแล้ว ลักษณะของไฟที่เกิดขึ้นขณะนี้มี 2 ประเภทคือ เกิดจากไฟไหม้ป่าในอุทยานแห่งชาติ เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า ส่วนใหญ่เกิดขึ้นจากฝีมือมนุษย์ทั้งสิ้น เพราะเป็นประเพณีของชาวบ้านเมื่อถึงฤดูร้อนก็จะเข้าไปเผาป่าเก็บผักหวาน และเห็ดเผาะ เหตุผลดังกล่าวก่อให้เกิดความรุนแรงของไฟป่า แต่เรามีหน่วยงานที่ดูแลโดยเฉพาะสามารถทำได้ดีพอสมควร และประสานงานกับหน่วยงานอื่นเข้ามาช่วย สาเหตุสำคัญที่เกิดปัญหาคือไฟจากพื้นราบ หรือไฟบนภูเขาที่มีการทำการเกษตร ซึ่งยังมีการเผาฟาง ไร่ เพื่อไล่แมลง ได้พยายามรณรงค์ให้ชาวบ้านเห็นถึงความสำคัญว่า ถ้ายังเผาป่ากันต่อไปจะทำให้เกิดปัญหาตามมามากมาย ไม่ได้มีเฉพาะประเทศไทยเท่านั้น ควันจากไฟที่ไหม้อยู่จากที่ตรวจสอบจากดาวเทียม ซึ่งสามารถวัดความร้อนได้ มีทั้งประเทศไทย พม่า ลาว ซึ่งจะเร่งหารือกับกลุ่มประเทศอินโดจีน เพื่อต่อสู้กับปัญหาไฟป่าที่เกิดขึ้น

    รมว.ทรัพยากรธรรมชาติฯกล่าวว่า สำหรับปริมาณฝุ่นละอองที่มีอันตรายต่อร่างกาย มาตรฐานอยู่ที่ 120 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ขณะนี้ที่จ.เชียงใหม่ แม่ฮ่องสอน ลำพูน ขึ้นมาอยู่ที่ 240-290 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร จะต้องรีบเข้าไปดับไฟ โดยร่วมมือกับอบต. จังหวัด กองทัพภาคที่ 3 และจะตรวจสอบไปอีกระยะหนึ่งแล้วมาประเมินร่วมกัน หากไม่สามารถดับได้อาจจะนำมาตรา 9 ของพ.ร.บ.ส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อม พ.ศ.2535 มาใช้ คือการให้อำนาจนายกรัฐมนตรีใช้อำนาจประกาศมาตรการฉุกเฉิน หากเกิดปัญหาสิ่งแวดล้อมอย่างใดอย่างหนึ่ง ซึ่งหลังการประกาศก็จะกำหนดว่าพื้นที่ดังกล่าวอะไรทำได้และไม่ได้ เช่น การโยกย้ายประชาชนออกนอกพื้นที่ เป็นต้น

    ผู้สื่อข่าวถามว่าการแก้ปัญหาช้าไปหรือไม่ นายเกษมกล่าวว่ามีการทำแผนล่วงหน้าแล้ว 17 จังหวัดภาคเหนือ ก็รับทราบแนวทางและวิธีการดำเนินการอยู่แล้ว แต่บังเอิญไฟในปีนี้เกิดขึ้นเร็วและพื้นที่กว้างกว่าที่คิดไว้ ทำให้การแก้ไขไม่สามารถทำได้ในวงกว้างเท่าที่ควร แม้แต่การนำฝนหลวงมาใช้ก็ลำบากเพราะอากาศแห้งผิดปกติ การทำฝนหลวงจึงยาก อย่างไรก็ตามเหตุการณ์ในภาคเหนือขณะนี้ถือว่าน้อยกว่าเหตุการณ์ไฟไหม้ป่าในประเทศอินโดนีเซีย ที่ส่งผลกระทบเกิดปัญหาหมอกควันในภาคใต้ สิ่งที่เกิดขึ้นในภาคเหนือนั้นเป็นเพราะลักษณะของความกดอากาศ ไม่มีลมที่จะระบายอากาศ โดยเฉพาะพื้นที่ของเชียงใหม่เป็นแอ่งกระทะ เมื่อมีความเย็นเข้ามาจากทางเหนือก็จะกดอากาศไม่สามารถระบายออกได้ ซ้ำเติมทำให้เกิดหมอกควันมาก

    น.พ.มงคล ณ สงขลา รมว.สาธารณสุข กล่าวว่า กระทรวงสาธารณสุขเข้าไปช่วยเหลือประชาชนตั้งแต่วันที่ 2-3 มี.ค.ที่ผ่านมา ด้วยการนำหน้ากากป้องกันหมอกควันไปแจกที่จ.เชียงใหม่ เชียงราย แม่ฮ่องสอน และลำปาง โดยเฉพาะผู้สูงอายุ 1.3 แสนชิ้น และอีก 1.7 แสนชิ้น อยู่ระหว่างแจกจ่าย ส่วนการรักษาพยาบาลได้รับรักษาพยาบาลโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย นอกจากนั้นยังมีหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ออกไปยังพื้นที่ต่างๆ เช่นบนดอยและที่ราบสูง แนะนำให้ผู้สูงอายุและเด็กหากไม่มีความจำเป็นขอให้อยู่ในบ้าน อย่าออกไปพื้นที่โล่งแจ้งเนื่องจากมีหมอกควันค่อนข้างสูง หากระคายเคืองตาให้ล้างตาด้วยน้ำสะอาดอย่าไปขยี้ เพราะฝุ่นละอองเล็กกว่า 10 ไมครอนทำให้เกิดการระคายเคืองได้

    วันเดียวกัน นายไพบูลย์ วัฒนศิริธรรม รองนายกรัฐมนตรี และรมว.การพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เดินทางมาที่จ.เชียงใหม่ เพื่อตรวจสภาพหมอกควันที่ปกคลุมในเขตจังหวัดภาคเหนือตอนบน โดยขึ้นเฮลิคอปเตอร์ตรวจสภาพหมอกควัน จากนั้นเข้าเยี่ยมผู้ป่วยที่ได้รับผลกระทบจากปัญหาหมอกควันที่ร.พ.มหาราชนครเชียงใหม่ 2 ราย และเดินทางไปศาลากลางจังหวัดเพื่อมอบหน้ากากอนามัย 1 แสนชิ้นให้นายวิชัย ศรีขวัญ ผวจ.เชียงใหม่

    นายไพบูลย์เปิดเผยว่า จากการบินสำรวจพบว่าเชียงใหม่มีหมอกควันปกคลุมมากที่สุดในขณะนี้ ได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องรีบแก้ไขสถานการณ์ และประชาสัมพันธ์ให้กับประชาชนได้รับทราบถึงเรื่องพิษของการเผาป่า เผาขยะ ที่จะส่งผลกระทบต่อมลภาวะในอากาศ โดยเฉพาะเรื่องการทำฝนเทียมให้ทำอย่างต่อเนื่อง และเข้าช่วยเหลือชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบรวมทั้งภาคเศรษฐกิจเป็นการด่วน โดยให้ถือเรื่องนี้เป็นเรื่องเร่งด่วนที่ต้องรีบดำเนินการแก้ไขและช่วยเหลือประชาชน

    นางสันทนีย์ ไชยเชียงพิณ เวรพยากรณ์อากาศ ศูนย์อุตุนิยมวิทยาภาคเหนือ เปิดเผยว่า มวลอากาศร้อนที่แผ่เข้ามาปกคลุมพื้นที่ภาคเหนือส่งผลให้ในจ.เชียงใหม่ และภาคเหนือตอนบนมีหมอกควันปกคลุมตลอดทั้งวัน ส่งผลให้ท่าอากาศยานในจังหวัดเชียงใหม่, เชียงราย, แม่ฮ่องสอน, ลำปาง และแพร่มีทัศนวิสัยในการมองเห็นต่ำกว่า 1 ก.ม. คาดว่าจะมีกลุ่มควันปกคลุมอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับกระแสลมในพื้นที่มีกำลังอ่อนความเร็ว 6-12 กิโลเมตรต่อชั่วโมง จึงไม่สามารถพัดเอากลุ่มควันออกมาจากพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ที่มีลักษณะเป็นแอ่งกระทะได้

    อย่างไรก็ตามจากการตรวจพบของเรดาร์ตรวจอากาศพบว่า ในวันที่ 16-18 มี.ค. จะมีกลุ่มฝนเคลื่อนตัวเข้ามาในพื้นที่ จะส่งผลให้มีฝนตกลงมาในพื้นที่จ.เชียงใหม่ ซึ่งจะช่วยชะล้างกลุ่มควันภาคเหนือตอนบนบางส่วนได้

    นายภุชงค์ อินสมพันธ์ ผอ.สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จ.เชียงใหม่ กล่าวว่า จากการวัดปริมาณฝุ่นละอองขนาดเล็กกว่า 10 ไมครอน พบว่าอยู่ที่ 284 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ถือว่าเป็นค่าสูงสุดตั้งแต่มีการตรวจวัด นอกจากสาเหตุที่มาจากควันของไฟป่า และสภาพความกดอากาศสูงปกคลุม ไม่มีลมพัด ทำให้อากาศนิ่งแล้ว สิ่งที่จะต้องควบคุมเพื่อไม่ให้สภาพอากาศเลวร้ายมากไปกว่านี้คือ จะต้องไม่ให้เกิดกิจกรรมที่จะทำให้เกิดควันขึ้นอีก โดยเฉพาะในช่วงที่ผ่านมาจ.เชียงใหม่ต้องรับภาระควันพิษ จากกิจกรรมต่างๆ ของมนุษย์จำนวนมาก ไม่ว่าจะเป็น ควันรถยนต์โดยเฉพาะช่วงงานพืชสวนโลก มีรถยนต์จำนวนมาก ปล่อยควันพิษเพิ่มขึ้น นอกจากนี้กิจกรรมที่ใครๆ อาจจะคิดว่าไม่น่าจะเป็นสาเหตุ เช่น การปิ้งย่างอาหารของร้านอาหารประเภทหมูกระทะ หมูย่างเกาหลี ร้านไก่ย่าง ก็เป็นส่วนหนึ่งในการเพิ่มควันในอากาศขึ้นด้วย จะต้องขอความร่วมมือกับผู้ประกอบการให้งดการทำกิจกรรมเหล่านี้ไปก่อน

    "เรื่องนี้ฟังแล้วอาจจะดูไม่น่าเชื่อ แต่ความจริงแล้วก็เป็นส่วนหนึ่งของการทำให้เกิดควันขึ้นสู่อากาศ ในขณะที่ในบรรยากาศไม่สามารถเจือจางได้ เพราะตอนนี้อากาศนิ่งมาก ช่วงนี้จะขอความร่วมมือไปก่อน แต่ถ้าหากเข้าสู่ภาวะวิกฤตจริงๆ แล้วอาจจะต้องประกาศสั่งห้ามการย่างอาหาร" นายภุชงค์กล่าว

    ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะนี้ประชาชนที่ใช้รถใช้ถนนในตัวเมืองเชียงใหม่ โดยเฉพาะรถจักรยานยนต์ต่างใช้ผ้าปิดปากและจมูก บางรายก็ใช้หน้ากากอนามัยครอบปากและจมูกในช่วงที่ขับขี่รถ เพื่อป้องกันหมอกควันเข้าสู่ร่างกายซึ่งอาจทำให้เจ็บป่วยได้

    ส่วนที่จ.พะเยาสภาพอากาศยังคงมีหมอกควันหนาแน่น ทัศนวิสัยในการมองเห็นประมาณ 100 เมตร ผู้คนที่สัญจรไปมาบนท้องถนนต้องขับขี่รถด้วยความระมัดระวัง นายธีระชัย นิติมณฑล นายอำเภอเมืองพะเยา กล่าวว่า ได้รับแจ้งจากผู้ใหญ่บ้านในพื้นที่ต.บ้านต๋อม ว่ามีประชาชนในหลายหมู่บ้านประสบปัญหาแสบตาและหายใจไม่สะดวก จึงประสานไปยังสำนักงานสาธารณสุขอำเภอให้ไปช่วยเหลือ นอกจากนี้ได้แจ้งไปยังผู้นำหมู่บ้าน ตำบล ให้แจ้งเตือนประชาชนอยู่ในบ้าน ไม่จำเป็นไม่ต้องออกไปไหน อาจจะทำให้ล้มป่วยได้ง่าย

    ด้านจ.เชียงราย หมอกควันยังคงปกคลุมหนาแน่น นายศิลาฤทธิ์ กวางทอง นายกอบต.เวียงพางคำ อ.แม่สาย ติดกับชายแดนประเทศพม่า กล่าวว่าในเขตป่าที่ติดกับประเทศพม่า พบว่าเกิดไฟป่าขึ้นบ่อยครั้ง ได้จัดเจ้าหน้าที่อปพร. 285 คน ให้ช่วยเจ้าหน้าที่จากหน่วยไฟป่าดอยตุงเข้าไปร่วมดับไฟอยู่ทุกระยะ โดยวางกำลังไว้ตลอด 24 ชั่วโมง และทำแนวกันไฟตามจุดต่างๆ เพื่อไม่ให้ลุกลามหนัก นอกจากนี้ยังมีระวางโทษหากเป็นเหตุให้เกิดไฟป่าเอาไว้สูงสุด อย่างไรก็ตามพบว่าเหตุไฟป่าไม่ได้เกิดขึ้นเฉพาะฝั่งไทยเท่านั้น แต่ยังเกิดขึ้นในฝั่งประเทศพม่าด้วย ไม่แน่ใจว่าจะมีการแก้ไขปัญหาเหมือนในฝั่งไทยหรือไม่

    จ.แม่ฮ่องสอน น.พ.สุวัฒน์ กิตติดิลกกุล สาธารณสุขจังหวัดแม่ฮ่องสอน เปิดเผยว่า จากหมอกควันของไฟป่าที่ปกคลุมเมือง ส่งผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชน โดยเฉพาะเด็กๆ และผู้สูงอายุ จากรายงานของร.พ.และสถานีอนามัยต่างๆ พบว่ามีผู้ป่วยเข้ารับการรักษาตัวด้วยโรคระบบทางเดินหายใจกว่า 15,000 คน คาดว่าในสิ้นเดือนมี.ค.จะมีผู้ป่วยเพิ่มมากขึ้นกว่าเดิมอีกมาก เนื่องจากสถานการณ์ยังคงรุนแรงต่อเนื่อง

    สำหรับในตัวเมืองแม่ฮ่องสอน ซึ่งขณะนี้มีหมอกควันปกคลุมหนาทึบ ประชาชนพากันไปซื้อผ้าปิดจมูก น้ำยาล้างตา และยากินแก้เจ็บคอ มาป้องกันตัวเอง ร้านขายยาทั่วไปขายดีไปตามๆ กัน

    ทางด้านนายสุพัฒน์ หวังวงศ์วัฒนา อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ กล่าวถึงเรื่องเดียวกันว่า ในวันนี้จากปริมาณฝุ่นขนาดเล็ก พบว่ายังอยู่ในเกณฑ์ที่น่าเป็นห่วง อย่างไรก็ตามในวันสองวันนี้ ถ้าหากสภาพอากาศเป็นไปตามคำพยากรณ์ของกรมอุตุนิยมวิทยา คือจะมีมวลความกดอากาศต่ำแพร่กระจายขึ้นไปบริเวณภาคเหนือมากขึ้น ซึ่งจะทำให้มีความชื้นและมีโอกาสที่จะทำให้มีฝน จะทำให้มีส่วนช่วยทำให้ปริมาณฝุ่นลดลง และสถานการณ์น่าจะคลี่คลายไปในทางที่ดี

    เมื่อถามว่าการประกอบกิจกรรมประเภทร้านอาหารปิ้งย่างจะต้องสั่งห้ามด้วยหรือไม่ นายสุพัฒน์กล่าวว่า สำหรับสาเหตุหลักของปัญหานี้อยู่ที่การเผาผลผลิตทางเกษตรมากกว่า แต่การทำกิจกรรมที่ทำให้เกิดควันพวกร้านปิ้งย่าง หรือการทำอะไรก็ตามให้เกิดควันก็เป็นปัจจัยหนึ่งที่ทำให้สภาพอากาศย่ำแย่ไปด้วย ซึ่งถ้าหากสามารถลดปริมาณการทำกิจกรรมลงได้ก็จะเป็นการดี เพราะจะไม่ไปส่งเสริมให้เกิดความหนาของหมอกควันมากขึ้น แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นขณะนี้ก็ไม่ได้มีการสั่งห้ามแต่อย่างใด เพียงแต่ขอความร่วมมือจากประชาชนเท่านั้น ถ้าไม่จำเป็นก็ไม่ควรประกอบกิจกรรมอะไรที่จะทำให้เกิดควันมากขึ้น

    http://www.matichon.co.th/khaosod/k...g=03p0107140350&day=2007/03/14&sectionid=0301
     
  7. Catt Bewer

    Catt Bewer เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    3,768
    ค่าพลัง:
    +16,673
    ป้องกันตัวจากภัย กลุ่มควันปกคลุมภาคเหนือ

    คอลัมน์ หมุนก่อนโลก

    โดย วิทยา ผาสุก http://futurethai.blogspot.com



    [​IMG] ขณะนี้พี่น้องในหลายจังหวัดทางภาคเหนือ โดยเฉพาะในเชียงใหม่ เชียงราย แม่ฮ่องสอน ลำปาง กำลังประสบภัยจากกลุ่มควันพิษที่สะสมอยู่ในอากาศมากน้อยแตกต่างกันไป

    สาเหตุหลักมาจากควันที่เกิดจากการเผาวัชพืช กับ ไฟป่า

    ประกอบกับช่วงนี้อากาศแห้ง ลมสงบ ทำให้กลุ่มหมอกควันกับมลพิษที่มีอยู่แล้วในอากาศจับตัวกันอยู่อย่างนั้น ไม่สลายไปไหน

    ล่าสุด เมื่อวันจันทร์ กรมควบคุมมลพิษปรับระดับอันตรายของคุณภาพอากาศในเชียงใหม่ขึ้นเป็น "สีเหลือง"

    หมายความว่า ในอากาศที่หายใจเข้าไปมีระดับฝุ่นขนาดเล็ก ซึ่งส่งผลกระทบ-เป็นอันตรายต่อสุขภาพเกินค่ามาตรฐานแล้ว!

    ขณะที่ "ศูนย์ปฏิบัติการฝนหลวง" ได้ช่วยบรรเทาสถานการณ์ด้วยการทำฝนหลวงในเขตแม่ฮ่องสอนกับเชียงใหม่ เพื่อช่วยชะล้างละอองฝุ่นมลพิษต่างๆ

    ด้วยความเป็นห่วงจึงขอนำข้อมูลการป้องกันตัวเองจากหมอกควันพิษ มาเขียนทบทวนให้พี่น้องทางเหนือรับทราบกันอีกครั้ง

    สำหรับคนที่ป่วยเป็นโรคระบบทางเดินหายใจ โรคปอด โรคหัวใจ โรคหลอดเลือดหัวใจ รวมทั้งเด็กและผู้สูงอายุต้องระวังตัวเป็นพิเศษ

    เนื่องจากอนุภาคฝุ่นขนาดจิ๋วที่ปนเปื้อนในอากาศ สามารถแทรกซึมเข้าสู่ร่างกายและทำอันตรายต่อเนื้อเยื่อส่วนต่างๆ ได้

    ส่งผลให้ป่วยง่ายกว่าคนทั่วไปที่มีสุขภาพแข็งแรง!

    ช่วงนี้ ท่านที่รู้ตัวอาจล้มป่วยเพราะผลจากหมอกควันได้ง่าย ก็ควรสวมหน้ากากกรองอากาศ

    ถ้ากิจวัตรประจำวันเป็นคนชอบออกกำลังกาย ขอให้งดไปก่อนในช่วงนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการออกกำลังกายในที่แจ้ง

    เพราะจะยิ่งทำให้ร่างกายรับฝุ่นละอองเข้าไปมากกว่าปกติ

    ถ้ารู้สึกว่ามีอาการแปลกๆ เช่น หายใจไม่ค่อยออก ไอเรื้อรัง เจ็บหน้าอก ไปจนถึงเกิดอาการหอบหืดกำเริบให้ไปพบแพทย์ทันที อย่าดื้อดึงปล่อยไว้ และไม่ควรหาซื้อยามากินเอง

    หวังอย่างยิ่งว่า ความทุกข์ของชาวเหนือครั้งนี้เมื่อผ่านพ้นไปแล้ว

    จะเป็นบทเรียนให้ทางการนำไปใช้วางแผนป้องกันภัยแบบเดียวกันไม่ให้เกิดซ้ำซากในวันข้างหน้าครับ!


    http://www.matichon.co.th/khaosod/k...g=03tec06140350&day=2007/03/14&sectionid=0326
     
  8. Catt Bewer

    Catt Bewer เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    3,768
    ค่าพลัง:
    +16,673
    หมั่นดูแลรถยนต์รักษาสิ่งแวดล้อม



    [​IMG]
    รัฐบาลอังกฤษกระตุ้นบรรดาผู้ขับขี่ยวดยานให้เติมลมยางรถยนต์ให้เหมาะสม รวมทั้งหลีกเลี่ยงการเร่งเครื่องยนต์ และลดปริมาณสัมภาระที่ไม่จำเป็น เพื่อช่วยในการลดปริมาณการปล่อยก๊าซที่ก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศ

    นายกิลเลียน เมอร์รอน รัฐมนตรีขนส่งอังกฤษ กล่าวว่า การปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์จากท่อไอเสียรถยนต์ จะลดลงถึงร้อยละ 8 หากคนขับขี่รถยนต์ในอังกฤษปฏิบัติตามแนวทางดังกล่าว โดยปริมาณก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ จะลดลงกว่า 5.5 ล้านตันต่อปี และยังจะช่วยประหยัดค่าน้ำมันให้แก่ผู้ขับขี่ได้ถึง 2,000 ล้านปอนด์

    แผนรณรงค์ลดปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจกด้วยการดูแลรถยนต์ครั้งนี้ มีขึ้นก่อนหน้าที่อังกฤษจะเปิดเผยร่างพระราชบัญญัติว่าด้วยสภาพอากาศเปลี่ยนแปลงในสัปดาห์หน้า ซึ่งจะมีการกำหนดเป้าหมายในการลดปริมาณการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ลงร้อยละ 60 ภายในปี 2593


    http://www.matichon.co.th/khaosod/k...g=03tec03140350&day=2007/03/14&sectionid=0326
     
  9. Catt Bewer

    Catt Bewer เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    3,768
    ค่าพลัง:
    +16,673
    ตรวจ4รง.-หาต้นตอปลาตายทั้งเจ้าพระยา

    สรุป-ขาดออกซิเจนเผาปลา!ประชดรัฐ



    <TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=left border=0><TBODY><TR bgColor=#400040><TD>[​IMG]
    หมดตัว- เกษตรกรผู้เลี้ยงปลาของจ.อ่างทอง ขนปลาที่ตายเกลี้ยงกระชังมากองหน้าโรงงานแห่งหนึ่ง แล้วจุดไฟเผาประท้วง เพราะสงสัยว่าเป็นต้นเหตุปล่อยน้ำเสียลงแม่น้ำเจ้าพระยาจนปลาตายเป็นเบือ ขณะที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกำลังเร่งพิสูจน์หาตัวการมาลงโทษ

    </TD></TR></TBODY></TABLE>

    กรมควบคุมมลพิษบุกตรวจ 4 โรงงานอุตสาหกรรม เก็บตัวอย่างน้ำเสียหาสาเหตุปลาตาย คาดสัปดาห์หน้ารู้ผล อธิบดีกรมประมงยันปลาตายในแม่น้ำเจ้าพระยาไม่มีสารพิษ สาเหตุเกิดจากขาดออกซิเจน เตรียมสำรวจความเสียหาย ชงครม.ขอเงินช่วยเหลือ ขู่ฟ้องอาญาและแพ่งกับคนที่เป็นต้นเหตุทำให้ปลาตาย ขณะที่ชาวบ้านขนปลา 1 ตันที่เน่าตายกองประท้วงหน้าโรงงาน ก่อนจุดไฟเผา จี้หน่วยงานเร่งหาสาเหตุปลาเน่าตาย ขณะที่"ปิยะบุตร ชลวิจารณ์"รมช.อุตสาหกรรมผวา หลบหน้า ไม่กล้าพบกลุ่มชาวบ้าน

    เมื่อวันที่ 13 มี.ค. นายอนุพันธ์ อิฐรัตน์ ผอ.สำนักจัดการคุณภาพน้ำ กรมควบคุมมลพิษ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กล่าวถึงความคืบหน้าการตรวจสอบคุณภาพน้ำที่อ.ป่าโมก จ.อ่างทอง ว่า ล่าสุดส่งทีมตรวจสอบคุณภาพน้ำจำนวน 2 ทีม ลงพื้นที่เพื่อเก็บตัวอย่างน้ำในบริเวณเกิดเหตุมาวิเคราะห์หาสาเหตุ โดยทีมแรกจะเป็นทีมที่มุ่งประเด็นไปยังน้ำเสียของโรงงานอุตสาหกรรมที่มีอยู่ 4 แห่ง คือ โรงงานน้ำตาล โรงงานไทยเรยอน โรงงานอายิโนทาการะ และโรงงานไทยคาร์บอนแบล็ก ซึ่งจะต้องเข้าไปสำรวจว่าน้ำเสียที่ถูกปล่อยออกมาจะเป็นสาเหตุที่ทำให้ปริมาณออกซิเจนในน้ำลดลงหรือไม่ ส่วนทีมที่ 2 จะลงพื้นที่เพื่อเก็บตัวอย่างน้ำเพิ่มเติม ตั้งแต่จ.ปทุมธานีขึ้นไปถึงบริเวณอ.ป่าโมก เพื่อนำมาตรวจวิเคราะห์อีกครั้งหนึ่ง คาดว่าจะได้ข้อมูลเบื้องต้น อาทิ ค่าบีโอดี ซีโอดี และปริมาณสารอินทรีย์อื่นๆ แต่ยังไม่สามารถสรุปได้อย่างชัดเจนในเวลานี้ จะต้องรอผลอย่างน้อยสัปดาห์หน้า

    นายอนุพันธ์ กล่าวต่อว่า เบื้องต้นตนจะรายงานข้อมูลเพิ่มเติมต่อนายสุพัฒน์ หวังวงศ์วัฒนา อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ เกี่ยวกับสาเหตุที่ทำให้น้ำเสีย โดยจะขอให้อย่าทิ้งประเด็นของเรือน้ำตาลขนาด 300 ตันล่มด้วย เนื่องจากขณะนี้ส่วนใหญ่มุ่งประเด็นไปที่เรื่องของโรงงานอุตสาหกรรมมากกว่า

    ด้านนายสุพัฒน์ หวังวงศ์วัฒนา กล่าวว่า คาดว่าวันนี้จะมีข้อสรุปเบื้องต้นถึงสาเหตุที่ทำให้ปลาตายจำนวนมาก แต่การวิเคราะห์คุณภาพน้ำโดยละเอียดจะใช้เวลา 4-5 วัน ขณะนี้ร่วมกับหลายหน่วยงานและทางจังหวัดลงพื้นที่สืบสวนหาสาเหตุ อย่างไรก็ตาม สิ่งที่เกิดขึ้นเป็นเหตุการณ์ทางมลพิษครั้งรุนแรงที่สุด

    วันเดียวกัน นายจรัลธาดา กรรณสูต อธิบดีกรมประมง เปิดเผยถึงความคืบหน้าสถานการณ์ปลาในแม่น้ำเจ้าพระยาลอยตายจำนวนมากบริเวณจ.อ่างทอง และพระนครศรีอยุธยา ตั้งแต่กลางดึกคืนวานนี้ว่า น้ำมีคุณภาพดีขึ้น ไม่พบปลาตายเพิ่มในบริเวณเดิมที่ปลาตายจำนวนมาก กรมประมงนำปลาที่ตายมาตรวจสอบแล้ว ไม่พบสารพิษ ดังนั้น จึงนำมารับประทานได้ แต่ต้องเป็นปลาที่ลอยหัวอยู่ในน้ำหรือเพิ่งตายใหม่ๆ ยังสดอยู่ ยังไม่เน่า ส่วนสาเหตุการตายของปลาเป็นเพราะขาดออกซิเจน ซึ่งน่าจะเป็นเพราะของเสียที่มาจากโรงงานปล่อยลงในน้ำ หรืออาจจะเป็นอุบัติเหตุที่บ่อบำบัดน้ำเสียของโรงงานแตกร้าวจนของเสียทะลักออกมาลงสู่แม่น้ำ ขณะนี้ทางจังหวัดกำลังตรวจสอบหาสาเหตุอยู่ หากมีหลักฐานชัดเจน จะฟ้องเอาผิดกับทางโรงงานที่เป็นต้นเหตุได้

    เมื่อเวลา 15.00 น. ที่บริเวณหน้าบริษัท เคที เอ็มเอสจี จำกัด ริมถนนสายอ่างทอง-อยุธยา ต.บางเสด็จ อ.ป่าโมก จ.อ่างทอง เกษตรกรผู้ประกอบอาชีพเลี้ยงปลาในกระชังประมาณ 100 คน รวมตัวกันที่บริเวณหน้าโรงงาน พร้อมขนปลาทับทิมที่ตายและส่งกลิ่นเน่าเหม็นน้ำหนักเกือบ 1 ตัน ใส่รถบรรทุกหกล้อมาเทกองปิดทางเข้าออกบริษัท เนื่องจากสงสัยว่าบริษัทเป็นต้นเหตุทำให้น้ำเน่าเสีย พร้อมใช้ยางรถยนต์จุดไฟเผาปลาด้วยความโกรธแค้น ตะโกนเรียกร้องหาผู้รับผิดชอบและให้จังหวัดหาคำตอบให้ชัดเจน อย่าคลุมเครือหรือเบี่ยงเบนสาเหตุการตายของปลาที่มูลค่าความเสียหายมหาศาล นอกจากนี้ ยังต้องการให้จังหวัดชี้แจงเหตุผลและเผชิญหน้ากับเกษตรกรผู้เสียหาย

    ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การชุมนุมดังกล่าวเป็นช่วงจังหวะเดียวกับนายปิยะบุตร ชลวิจารณ์ รมช.อุตสาหกรรม พร้อมคณะเดินทางไปตรวจสอบคลังน้ำตาลไทยมิตรผล ตั้งอยู่ ต.โพสะ อ.เมืองอ่างทอง และเรือเดินทะเลยูอี 35 บรรทุกน้ำตาลทรายแดงจำนวน 650 ตัน ของบริษัทไทยร่วมทุนอ่างทอง จากจ.อ่างทอง ไปจ.สมุทรปราการ เพื่อส่งออกไปต่างประเทศ แต่เกิดล่มในแม่น้ำเจ้าพระยา ต.โพสะ อ.เมืองอ่างทอง เมื่อวันที่ 3 มี.ค. เมื่อนายปิยะบุตรทราบว่า เกษตรกรรวมตัวที่หน้าบริษัทดังกล่าว จึงงดเดินทางไปตรวจสอบยังจุดปลาตายที่อ.ป่าโมก โดยเปลี่ยนกำหนดการเดินทางไปประชุมที่ศาลากลางจังหวัดอ่างทองแทน

    ด้าน น.พ.ปราชญ์ บุณยวงศ์วิโรจน์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า สาเหตุที่ทำให้ปลาตายพร้อมกันจำนวนมาก อาจเกิดจาก 2 สาเหตุใหญ่ คือยาฆ่าแมลง และปริมาณออกซิเจนในน้ำที่ลดต่ำลง ซึ่งผลการตรวจวิเคราะห์ยาฆ่าแมลงจากซากปลาที่เก็บจากจ.อ่างทอง คือ ปลาทับทิมที่เกษตรกรเลี้ยงในกระชัง และปลาธรรมชาติ ได้แก่ ปลาตะเพียน ปลากด ปลาสร้อย และตัวอย่างน้ำจากแม่น้ำเจ้าพระยาด้วยชุดทดสอบยาฆ่าแมลงของกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ไม่พบยาฆ่าแมลงแต่อย่างใด กรณีนี้จึงน่าจะเกิดจากปริมาณออกซิเจนในน้ำที่ลดต่ำลง แต่ต้องหาสาเหตุที่แท้จริงต่อไป ขณะนี้สั่งการให้กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ตรวจวิเคราะห์ยาฆ่าแมลงซ้ำ ทางห้องปฏิบัติการเพื่อยืนยันอีกครั้ง พร้อมทั้งวิเคราะห์หาโลหะหนัก เช่น สารตะกั่ว ปรอท แคดเมียม และสารหนูโดยเร็วที่สุด คาดจะทราบผลภายในสัปดาห์นี้

    http://www.matichon.co.th/khaosod/k...g=03p0104140350&day=2007/03/14&sectionid=0301
     
  10. mead

    mead เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 เมษายน 2005
    โพสต์:
    8,134
    ค่าพลัง:
    +62,441
    มลพิษของสิ่งแวดล้อมปีนี้หนักมากๆ..ปลาตายเป็นเบือ..
    ตอนนี้น้ำเสียกำลังไหลเข้าจากอ่างทองเขตปทุมธานีแล้ว
    ปริมาณออกซิเจนในน้ำ ข่าวว่าเหลือแค่ 0.01มิลลิกรัม (จาก 3 มิลลิกรัม)

    ส่วนหมอกควันจากไฟป่าทางภาคเหนือ
    ปีนี้ก็หนักกว่าเดิมถึง 3 เท่า (300 ไมโครกรัม/ลบ.ม.)
    เพื่อนๆที่อยู่ทางเหนือที่เชียงใหม่ ลำพูน คงต้องระวังเป็นพิเศษ
    ใส่หน้ากากป้องกันหน่อยก็ดีครับ
     
  11. Catt Bewer

    Catt Bewer เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    3,768
    ค่าพลัง:
    +16,673
    <TABLE cellSpacing=5 cellPadding=0 width=567 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top>ฝุ่นควันเหนือเกิด"สารก่อกลายพันธุ์"ในมนุษย์</TD></TR><TR><TD class=Text_Story vAlign=top><!-- [​IMG] นักวิชาการชี้วิกฤติฝุ่นเหนือทำให้เกิด "สารก่อกลายพันธุ์" ในมนุษย์ ส่งผลให้อวัยวะเปลี่ยนแปลง-ร่างกายพิการในอนาคต จี้รัฐเร่งแก้ไขปัญหาอย่างจริงจัง ขณะที่ จ.เชียงราย ประกาศเขตภัยพิบัติฉุกเฉินแล้ว ส่วนแม่ฮ่องสอนยอดผู้ป่วยเกือบ 1.6 หมื่นราย ด้านกระทรวงทรัพยากรฯสั่ งร่างแผนฉุกเฉินหมอกควัน ยันประกาศภาวะฉุกเฉินหากสถานการณ์ไม่ดีขึ้นภายใน 2 วัน ส่วน "นายกฯ" ขึ้นเหนือดูสถานการณ์
    ปัญหาหมอกควันและมลพิษที่เกิดขึ้นในพื้นที่ภาคเหนือนานกว่า 3 สัปดาห์ เริ่มส่งผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชน เนื่องจากสูดควันเข้าไปในร่างกาย ทำให้เกิดโรคทางเดินหายใจ ล่าสุดนักวิชการจากมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ได้ออกมาระบุว่า ปัญหาวิกฤติฝุ่นละอองในภาคเหนือส่งผลกระทบต่อประชาชนทั้งในปัจจุบันและในอนาคต โดยเฉพาะการเผาที่ทำให้เกิดสารตกค้าง ขณะการเผาไหม้อาจทำให้เกิด "สารก่อกลายพันธุ์" ที่ก่อให้เกิดปัญหาการเปลี่ยนแปลงยีนมนุษย์ในระยะยาว โดยจะส่งผลในรุ่นลูก หลาน มีอวัยวะเปลี่ยนแปลง หรือพิการได้
    นักวิชาการชี้ฝุ่นละอองส่งผลอย่างหนัก
    เมื่อวันที่ 14 มีนาคม ผศ.ดร.สุรพล นธการกิจกุล ผอ.สถานจัดการระบบสุขภาพภาคเหนือ กล่าวว่า จากปัญหาวิกฤติฝุ่นละอองในภาคเหนือขณะนี้ ทางนักวิชาการได้ระดมสมองนักวิจัยของมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ (มช.) ทุกแขนงที่เกี่ยวข้องในการเร่งทำการศึกษาวิจัยแบบบูรณาการหลังพบว่า แนวโน้มการเกิดฝุ่นละอองขนาดเล็กเข้าปกคลุมพื้นที่ จ.เชียงใหม่และภาคเหนือเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง
    ทั้งนี้จากการศึกษาวิจัยของนักวิชาการ มช.หลายคณะพบว่า จ.เชียงใหม่ มีฝุ่น 2 ประเภทที่ส่งผลต่อสุขภาพของประชาชน อันแรกคือฝุ่นละอองที่มีขนาด 10 ไมครอนที่เกิดจากการเผาหญ้าเผาขยะ โดยฝุ่นประเภทนี้จะส่งผลให้เกิดการระคายเคืองที่หลอดลม ทำให้ไอและแสบตา และมีอาการคล้ายภูมิแพ้ แต่ที่น่ากลัวคือฝุ่นละอองที่ขนาดเล็ก 2.5 ไมครอนซึ่งชนิดนี้สามารถเข้าไปถึงขั้วปอดหรือถุงลมปอดของประชาชน และหากมีการผสมรวมกับสารเคมี ก๊าซคาร์บอนมอนอกไซด์ กรดซัลเฟอร์ไดออกไซด์ สารไนเตรท หรือก๊าซที่เกิดจากเครื่องยนต์ดีเซลจนมีสภาพที่กลายเป็นกรดขึ้นมา เมื่อเข้าสู่ร่างกายจะเกิดภาวะที่เรียกว่าสารก่อมะเร็ง
    เผาสารตกค้างก่อ "สารก่อกลายพันธุ์"
    ผศ.ดร.สุรพล กล่าวว่า นอกจากฝุ่นจะส่งผลกระทบต่อระบบทางเดินหายใจ ขั้ว ปอดและทำให้เกิดภาวะสารก่อมะเร็งกับประชาชนในภาคเหนือแล้ว จากข้อมูลการวิจัยล่าสุด ยังพบว่า การเผาขยะที่ทำให้เกิดสารตกค้างขณะเผาไหม้นั้นอาจจะทำให้เกิด "สารก่อกลายพันธุ์" ขึ้นอีกด้วย โดยสารก่อกลายพันธุ์ที่เกิดจากฝุ่นขนาดเล็กผสมกับสารพิษที่ตกค้างในอากาศบางตัวนี้จะก่อให้เกิดปัญหาต่อการเปลี่ยนแปลงในยีนมนุษย์ ในระยะยาวจะส่งผลในรุ่นลูกรุ่นหลาน คือ อวัยวะจะเปลี่ยนแปลง หรือพิการได้
    "ผมอยากเสนอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินมาตรการในการแก้ปัญหาในระยะสั้นก่อน โดยศึกษาการแก้ปัญหาจากต่างประเทศที่เคยประกาศภาวะฉุกเฉินด้านนี้มาก่อน แต่อย่างแรก จ.เชียงใหม่ ควรทำรถโมบายตรวจสภาพอากาศ ซึ่งปัจจุบันเป็นการสุ่มตรวจเฉพาะบางจุดเป็นเพียงผลการสำรวจในวงกว้างที่ไม่เฉพาะเจาะจงในแต่ละพื้นที่ ทำให้ไม่สามารถแจ้งเตือนอันตรายให้แก่ประชาชนในจุดอันตราย ดังนั้นเราควรเพิ่มพื้นที่สีเขียวในพื้นที่ให้มากขึ้น และจำกัดควบคุมปัญหาการก่อสร้างทั้งอาคารสถานที่และถนนวงแหวนต่างๆ ที่เป็นปัญหาสำคัญทำให้เกิดฝุ่น ไม่ใช่รณรงค์เฉพาะแค่การเผาป่า เผาขยะเพียงอย่างเดียว

    ปริมาณฝุ่นเชียงใหม่วิกฤติ
    ส่วนสถานการณ์หมอกควันในพื้นที่ จ.เชียงใหม่ พบว่า ปัญหาหมอกควันเริ่มรุนแรงขึ้นทุกขณะ โดยนายบุญเลิศ บูรณุปกรณ์ นายกเทศมนตรีนครเชียงใหม่ กล่าวว่า จากตัวเลขชี้วัดล่าสุดเมื่อวันที่14 มีนาคม พบว่า มีปริมาณฝุ่นละอองที่มีขนาดเล็กกว่า พีเอ็ม 10 สูงถึง 383 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตรที่จุดตรวจโรงเรียนยุพราชวิทยาลัย และ 304 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตรที่จุดตรวจวัดบริเวณศูนย์ราชการ ซึ่งถือว่าสูงขึ้นจากปกติค่อนข้างมาก ทั้งนี้หากระดับฝุ่นละอองมีปริมาณสูงขึ้นไปอีก อาจจะต้องมีการประกาศภาวะฉุกเฉินเรื่องมลภาวะทางอากาศ และแจกผ้าปิดจมูกให้แก่ประชาชนในเขตเทศบาลนครเชียงใหม่
    ด้านมาตรการแก้ไขปัญหาหมอกควันที่เกิดขึ้นใน จ.เชียงใหม่ นั้น วันเดียวกัน นายวิลาศ รุจิวัฒนพงศ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่า จังหวัดได้ออกมาตรการระยะสั้นและระยะยาวในการแก้ไขปัญหาหมอกควันที่เกิดจากการเผาจนก่อให้เกิดมลพิษ นอกจากนี้ทางจังหวัดยังมีแผนการสร้างความชื้นในพื้นที่ โดยใช้สเปรย์ หรือรถดับเพลิงฉีดพ่นน้ำขึ้นไปบนท้องฟ้าในระดับต่ำๆ เพื่อให้ละอองน้ำช่วยลดปริมาณฝุ่นควันที่ฟุ้งกระจายอยู่ รวมทั้งกระตุ้นให้เกิดความชื้นขึ้นในพื้นที่ให้มากที่สุด ซึ่งขณะนี้ศูนย์อุตุนิยมวิทยาภาคเหนือแจ้งว่าในช่วงวันที่ 15-16 มีนาคมนี้ อาจมีพายุฤดูร้อนและฝนตกลงมาในพื้นที่ จึงต้องเร่งสร้างความชื้นให้เกิดขึ้นเพื่อกระตุ้นให้ฝนตกลงมา

    "หมูกระทะ"ฮึ่มประท้วงแล้ว
    ภายหลังสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จ.เชียงใหม่ ออกมาระบุสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เกิดมลพิษใน จ.เชียงใหม่ มาจากควันที่เกิดจากร้านหมูกระทะ หมูย่างเกาหลี หรือร้านที่ประกอบอาหารด้วยการปิ้งย่าง ซึ่งหน่วยงานราชการได้ขอความร่วมมือจากผู้ประกอบการให้หยุดการให้บริการเป็นการชั่วคราว หากสภาวะหมอกควันถึงขั้นวิกฤติ
    เกี่ยวกับเรื่องนี้ นายอนุรักษ์ จันประภาส เจ้าของร้านเดือนเพ็ญหมูกระทะ กล่าวว่า ยอมรับว่าควันที่เกิดจากการปิ้งย่างเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เกิดหมอกควันพิษใน จ.เชียงใหม่ แต่เป็นเพียงส่วนน้อย โดยสาเหตุใหญ่มาจากไฟไหม้ป่า รวมถึงมลพิษที่เกิดจากยวดยานพาหนะ และโรงงานต่างๆ ที่ปล่อยควันพิษ อย่างไรก็ตาม หากภาครัฐมีคำสั่งให้ผู้ประกอบการร้านหมูกระทะ หรือหมูย่างเกาหลีหยุดบริการนั้น คงจะต้องรวมตัวเรียกร้องให้หน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้องออกมาแก้ไขปัญหา

    เชียงรายประกาศเขตภัยพิบัติฉุกเฉิน
    ส่วนสถานการณ์หมอกควันใน จ.เชียงราย พบว่า ปริมาณหมอกควันยังคงปกคลุมพื้นที่อย่างต่อเนื่อง ร.ท.กิตติรัตน์ สอนซื่อ หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดเชียงราย กล่าวว่า ขณะนี้นายอมรพันธุ์ นิมานันท์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย ได้ประกาศให้ จ.เชียงราย เป็นพื้นที่ประสบภัยพิบัติฉุกเฉินที่จำเป็นต้องให้การช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน โดยอาศัยอำนาจตามข้อ 16 (2) ของข้อกำหนดเงินทดรองราชการในการช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติฉุกเฉินสำหรับภัยพิบัติที่ประชาชนชาวเชียงรายกำลังประสบอยู่
    ด้าน นายพินิจ ศรลัมพ์ ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดเชียงราย กล่าวว่า ขณะนี้กำลังทำเรื่องขอฝนหลวง ให้มีฝนตกในพื้นที่ เพื่อจะได้ช่วยลดสภาพอากาศที่เป็นมลพิษให้เบาบางลง นอกจากนี้ยังได้ขอสนับสนุนเครื่องมือดับไฟเพิ่ม เนื่องจากสถานการณ์ไฟป่าในปีนี้มีความรุนแรงมากขึ้นกว่าปีก่อน ทำให้อุปกรณ์ในการดับไฟมีไม่เพียงพอ ส่วนมาตรการป้องกันเบื้องต้นได้ประกาศห้ามให้มีการเผาเศษขยะ ใบไม้ ตอ ซังข้าว ฯลฯ โดยเด็ดขาด
    แม่ฮ่องสอนผู้ป่วย 16,504 ราย
    เช่นเดียวกับที่ จ.แม่ฮ่องสอน นายพงษ์ศักดิ์ เย็นแสงจันทร์ ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 16 อ.แม่สะเรียง จ.แม่ฮ่องสอน กล่าวว่า พื้นที่ จ.แม่ฮ่องสอน มีควันไฟปกคลุมหนาแน่นทั้งจังหวัด โดยเฉพาะพื้นที่ในเขต อ.เมือง จแม่ฮ่องสอน และ อ.แม่สะเรียง ที่เป็นแอ่งกระทะล้อมลอบด้วยเขาสูงถูกปกคลุมไปด้วยควันไฟที่เกิดจากการเผาป่าอย่างหนาแน่น ทำให้ส่งผลกระทบต่อการคมนาคมทั้งทางบกและทางอากาศ ล่าสุดได้เกิดไฟป่าขึ้นแล้ว จำนวน 308 ครั้ง พื้นที่เสียหาย 2,930 ไร่
    สถานการณ์หมอกควันยังเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยประชาชนได้รับความเดือดร้อนอย่างหนัก เนื่องจากเริ่มป่วยเป็นโรคเกี่ยวกับทางเดินหายใจ หลังจากสูดควันเข้าไป ทั้งนี้ น.พ.สุวัฒน์ กิตติดิลกกุล นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดแม่ฮ่องสอน กล่าวว่า หลังจาก จ.แม่ฮ่องสอน ประสบควันไฟป่าที่โหมลุกไหม้พื้นที่ป่าไม้ จ.แม่ฮ่องสอน เป็นเวลาติดต่อกัน ส่งผลให้มีผู้ป่วยระบบทางเดินหายใจใน 7 อำเภอ โดยเดือนกุมภาพันธ์ 2550 จำนวน 14,652 ราย และตั้งแต่วันที่ 1-13 มีนาคม 2550 จำนวน 1,852 ราย รวมผู้ป่วย 16,504 ราย
    ส่วนที่ จ.ลำปาง มีรายงานสถานการณ์หมอกควันยังคงปกคลุมพื้นที่ตลอดทั้งวันเหมือนกับจังหวัดอื่นๆ ทางภาคเหนือ โดยนายทิวา พันธ์ไม้ศรี หัวหน้าสถานีอุตุนิยมวิทยาจังหวัดลำปาง กล่าวว่า สภาพอากาศโดยทั่วไปของ จ.ลำปาง ขณะนี้ยังมีหมอกควันปกคลุมตลอดทั้งวัน ซึ่งประชาชนสามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจนในระยะ 1-3 กิโลเมตร โดยถือว่ายังไม่อยู่ในขั้นวิกฤติ
    รัฐบาลรอดูสถานการณ์อีก 2 วัน
    ด้านการแก้ไขปัญหาหมอกควันที่เกิดขึ้นในพื้นที่ภาคหนือในส่วนของภาครัฐบาลนั้น วันเดียวกัน นายเกษม สนิทวงศ์ ณ อยุธยา รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) กล่าวว่า ล่าสุดได้รับรายงานข้อมูลจากส่วนควบคุมไฟป่า กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืชว่า ภาพถ่ายดาวเทียม ตรวจพบจุดไฟตั้งแต่วันที่ 3-13 มีนาคม ที่ผ่านมารวมทั้งสิ้น 6,800 จุด โดยอยู่ในพื้นที่อนุรักษ์ 2,612 จุด และนอกพื้นที่ป่าอนุรักษ์ 4,188 จุด โดยในเขตพื้นที่ภาคเหนือมีพื้นที่ถูกไฟไหม้เสียหาย 31,445 ไร่ รวมทุกภาคกว่า 80,327 ไร่ ซึ่งค่อนข้างรุนแรงกว่าช่วงเดียวกันของปี 2549
     
  12. mead

    mead เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 เมษายน 2005
    โพสต์:
    8,134
    ค่าพลัง:
    +62,441
    คุณคนานันท์ฝากส่งข่าวกลุ่มเพื่อนๆชาวเหนือมาครับ เรื่องฝุ่นละอองควันไฟที่เกิดขึ้นในตอนนี้..

    แนะนำให้ลองไปหาหน้ากากกันฝุ่น ของ 3 M รุ่น N29 มาใช้กันครับ กรองได้ถึง 99 % เพื่อความปลอดภัยต่อระบบทางเดินหายใจครับ..
    หรือหาพัดลมไอน้ำมาใช้ เพื่อลดฝุ่นละอองในอากาศที่ฟุ้งกระจายได้ผลดีมากๆครับ
    ถ้าไม่มีพัดลมไอน้ำก็ทำแบบง่ายๆได้ครับ วางกะลามังใบใหญ่ใส่น้ำให้เต็ม แล้วเอาพัดลมเป่าความชื้นจากน้ำในกะลามังแทนได้เช่นกันครับ เพื่อจับฝุ่นให้ตกลงมาที่พื้นครับ

    ด้วยความเป็นห่วงสุขภาพร่างกายของทุกๆท่านครับ*-*
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 15 มีนาคม 2007
  13. Nirvana

    Nirvana เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กุมภาพันธ์ 2005
    โพสต์:
    8,188
    ค่าพลัง:
    +20,865
    ไม่รู้จะโพส์ว่างัยดี เอาเป็นว่า

    "เวรกรรม ประเทศไทย" ก็แล้วกัน
     
  14. Catt Bewer

    Catt Bewer เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    3,768
    ค่าพลัง:
    +16,673
    ทส.สรุปเรือน้ำตาลต้นเหตุปลาตาย กทม.หนักเท่าเหนือเจอ"โดมร้อน"!


    <TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=left border=0><TBODY><TR bgColor=#f8b8cb><TD>[​IMG]
    ท่ออะไร - นายสุเมธ แสงนิ่มนวล รองผู้ว่าฯอ่างทอง และคณะ ยืนดูท่อน้ำเสียในโรงงานผลิตผงชูรส ริมแม่น้ำเจ้าพระยา โดยตัวแทนชาวบ้านสงสัยเป็นท่อลักลอบระบายน้ำเสียลงสู่แม่น้ำเจ้าพระยา แต่นายวิชัย สุทธิ์เลิศวรกุล ผู้จัดการโรงงานอ้างว่าเป็นน้ำค้างท่อเก่า กรมควบคุมมลพิษจึงเก็บตัวอย่างน้ำไปพิสูจน์ต่อไป เมื่อวันที่ 15 มีนาคม

    </TD></TR></TBODY></TABLE>
    ทส.สรุปเบื้องต้น เรือน้ำตาลล่มต้นเหตุปลาตายที่ จ.อ่างทอง รอผลสอบชัดเจนก่อนฟ้องเรียกค่าเสียหายเจ้าของเรือ แต่ไม่ทิ้งปมโรงงานปล่อยน้ำเสีย สธ.ตรวจไม่พบสารพิษในปลา กปน.ยันน้ำสะอาดมาตรฐานWHO กทม.หนักกว่าเจอ "โดมร้อน" ตั้งศูนย์คุมหมอกพิษเหนือ ตั้งเป้าดับไฟที่ราบใน 3 วัน เล็งแจกกรองอากาศจิ๋ว1แสนชิ้น

    @ ทส.สรุปเรือน้ำตาลล่มเหตุปลาตาย

    นายเกษม สนิทวงศ์ ณ อยุธยา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) เปิดเผยเมื่อวันที่ 15 มีนาคม ถึงความคืบหน้าผลการตรวจพิสูจน์สาเหตุน้ำเน่าเสียที่ จ.อ่างทอง ว่า สาเหตุเบื้องต้นจากการรายงานผลการวิเคราะห์น้ำของเจ้าหน้าที่กรมควบคุมมลพิษ (คพ.) ชี้ว่าสาเหตุแน่ๆ ที่ทำให้ปลาตายจำนวนมากนั้น เป็นผลมาจากเรือน้ำตาลที่ล่ม เนื่องจากการกู้ไม่ได้ดูดน้ำตาลมาทิ้งบนบก แต่กลับปล่อยลงในแม่น้ำ ทำให้แบคทีเรียดึงออกซิเจนที่อยู่ในน้ำไปใช้ในการย่อยสลายน้ำตาล เป็นเหตุให้ปริมาณออกซิเจนไม่เพียงพอ ผลวิเคราะห์ทางวิทยาศาสตร์พบว่า เมื่อมีการละลายน้ำตาลในบริเวณหนึ่ง น้ำจะไม่เสียที่ตรงนั้นเลย แต่ผลเสียจะเกิดในระยะทางที่ห่างออกมา ตามหลักการจำลองทางวิทยาศาสตร์ แต่จะมาจากสาเหตุนี้อย่างเดียวหรือไม่ จะต้องพิสูจน์กันต่อไป โดยเฉพาะประเด็นเรื่องของโรงงานในพื้นที่

    นายเกษมกล่าวต่อไปว่า ได้รับรายงานจากเจ้าหน้าที่เกี่ยวกับผลการตรวจสอบโรงงานอายิโนะ ทาการะ ริมแม่น้ำเจ้าพระยา จ.อ่างทอง เมื่อวันที่ 14 มีนาคมที่ผ่านมา พบว่าโรงงานดังกล่าวจัดระบบน้ำเสียเป็นแบบปิด จะไม่ปล่อยน้ำเสียออกมาภายนอก อย่างไรก็ตาม ไม่ได้ทิ้งประเด็นนี้ ขณะนี้เจ้าหน้าที่ได้ลงตรวจสอบทุกโรงงานในบริเวณนั้น เพื่อนำมาวิเคราะห์สรุป คาดว่าจะแถลงในวันที่ 16 มีนาคมนี้ หากทราบผลชัดเจน จะดำเนินคดีกับผู้ก่อปัญหามลภาวะตามพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ส่งเสริมและรักษาสิ่งแวดล้อม พ.ศ.2535 ผู้กระทำผิดต้องชดใช้ค่าเสียหายทั้งหมด ขณะนี้ผู้ที่ต้องรับผิดชอบแน่นอนคือ เจ้าของเรือน้ำตาล ส่วนจะมีผู้ประกอบการอื่นๆ ด้วยหรือไม่นั้น ต้องดูจากผลพิสูจน์ต่อไป

    @ พิสูจน์ปลาไม่พบสารพิษ-บริโภคได้
    @ ปล่อยน้ำเขื่อนชะล้างน้ำเสีย
    @ กปน.ยันน้ำสะอาดชั้นอนามัยโลก
    @ พบท่อน้ำเสียในรง.-รอพิสูจน์
    @ อยุธยาระดมปรับสภาพน้ำ

    @ ศค.ทุ่มคนดับไฟที่ราบไม่เกิน3วัน

    สำหรับความเคลื่อนไหวของรัฐบาลในการแก้ไขปัญหาหมอกควันไฟที่ปกคลุมใน 8 จังหวัดภาคเหนือ เนื่องจากเกิดไฟป่าขึ้นในประเทศพม่า ไทย และลาว เวลา 11.00 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายไพบูลย์ วัฒนศิริธรรม รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เป็นประธานการประชุมศูนย์อำนวยการแก้ปัญหาหมอกควัน (ศค.) ในพื้นที่ภาคเหนือ

    หลังการประชุมนายไพบูลย์กล่าวว่า ที่ประชุมกำหนดมาตรการเร่งด่วนคือ การเร่งดับไฟในทุกพื้นที่ โดยภายใน 7 วันจะให้มีจุดที่เกิดไฟไหม้ไม่เกิน 250 จุด จากเดิมมีจุดเกิดไฟไหม้ 834 จุด กระทรวงมหาดไทยยืนยันว่า ภายใน 3 วัน จะควบคุมไม่ให้เกิดไฟหรือหมอกควันในพื้นที่ราบ โดยอาศัยอำนาจผู้ว่าราชการ จังหวัดสั่งระดมกำลังและอุปกรณ์จากทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมถึงเฮลิคอปเตอร์ที่จะขนน้ำมาดับไฟ ที่ประชุมยังเห็นชอบให้จัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการรายจังหวัดในการแก้ปัญหา ประสานงานกับประเทศลาว พม่า เวียดนาม กัมพูชา เพื่อขอความร่วมมือในการควบคุมหมอกควันแล้ว ส่วนการทำฝนหลวงนั้นรับแจ้งว่าอาจจะตกในวันที่ 16-17 มีนาคม


    @ รับมือไหวไม่ประกาศภาวะฉุกเฉิน
    @ ฝุ่นเล็กลดลงแต่ยังเกินมาตรฐาน
    @ ฝนมาเม.ย.-กทม.หนักกว่า"โดมร้อน"
    ดร.อานนท์ สนิทวงศ์ ณ อยุธยา ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยการเปลี่ยนแปลงของโลกในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวว่า การจะคลี่คลายปัญหาอาจต้องรอให้ลมมรสุมภาคใต้หรือพายุฤดูร้อนเข้ามาแทนที่อย่างสมบูรณ์ คาดว่าเร็วที่สุดพายุฤดูร้อนน่าจะพัดผ่านภาคเหนือในอีก 2 สัปดาห์ หรืออย่างช้าปลายเดือนเมษายนนี้ สิ่งที่น่าวิตกที่สุดคือ พื้นที่ กทม.กำลังประสบปัญหาเช่นเดียวกัน คือฟ้าหลัวจากมลพิษต่างๆ ซึ่งอันตรายกว่าภาคเหนือตอนบนมาก เพราะมลพิษที่เกิดจากไอเสียน้ำมันและฝุ่นละอองต่างๆ ที่เป็นพิษ ขณะที่ลมมรสุมจากทะเลไม่สามารถพัดเข้ามาใน กทม.ชั้นใน ทำให้เกิดการสะสมของไอเสียและฝุ่นละออง

    ดร.อานนท์กล่าวว่า วันนี้พื้นที่ กทม.กลายเป็น "โดมความร้อน" ชั้นดี ส่งผลร้ายต่อสุขภาพของคนจำนวนมาก โดยเฉพาะโรคภัยไข้เจ็บต่างๆ อาทิ โรคภูมิแพ้ โรคผิวหนัง ฯลฯ และยังทำให้เกิดภาวะร้อนมากขึ้น คาดว่าช่วงเดือนเมษายนนี้ จะมีอุณหภูมิสูงสุดประมาณ 38-40 องศาเซลเซียส

    @ กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ได้สั่งตั้งศูนย์ปฏิบัติการ (วอร์รูม) ช่วยเหลือประชาชน-เข้าร.พ.วันละนับพัน/จว.
    @ วท.ผลิตกรองอากาศจิ๋ว1แสนชิ้นแจก
    @ ผงฝุ่นมากเกิดฝนได้ยาก

    http://www.matichon.co.th/matichon/...g=01p0109160350&day=2007/03/16&sectionid=0101
     
  15. kananun

    kananun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2006
    โพสต์:
    10,282
    ค่าพลัง:
    +114,775
    เริ่มไปซื้อหา หน้ากากกรองของสามเอ็ม รุ่นเอ็น95 มาใช้มาเก็บไว้ล่วงหน้าได้แล้วนะครับ ถึงเวลาราคาจะแพงขึ้นและที่สำคัญจะหาซื้อไม่ได้เอานะครับผม
     
  16. Falkman

    Falkman พลังจิตนานาชาติ ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    19,726
    ค่าพลัง:
    +77,792
    <META content="Microsoft SafeHTML" name=Generator><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=670 background=http://hisz.rsoe.hu/alertmap/mail/alertmail_E_01_01.jpg><TBODY><TR><TD align=right width=670 height=19>hisz.rsoe.hu</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=670><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD><TD>[​IMG]</TD><TD>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=670><TBODY><TR><TD width="100%">[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=10 width=670 border=0><TBODY><TR><TD width=670>2007-03-19 19:15:12 - Harmful Algal Blooms - South Africa


    <CODE>GLIDE CODE: HA-20070319-10419-ZAF
    Date & Time: 2007-03-19 19:15:12 [UTC]
    Area: South Africa, Western Cape, False Bay, Lamberts Bay, ( MAP)

    <FIELDSET class=EC_warning>!!! WARNING WARNING WARNING !!!</FIELDSET>

    Description:

    <CODE>[​IMG]1. A red tide warning has been issued for the Cape West coast and False Bay. Grant Pitcher, the marine and coastal management principal specialist scientist, says a long stretch of the coasts has been affected. The alarm was raised following reports that at least three people fell ill with paralytic shellfish poisoning after eating seafood from the coast at Lamberts Bay. Marine and coastal management has warned the public not to eat any shellfish collected from the coast. Marine scientists are investigating and samples tested have found that a toxic red tide is widespread all along the coast to as far north as Lamberts Bay. Pitcher says: "There is another problem that is on the West Coast - up in the St Helena Bay region near Lamberts Bay where there are blooms that are visually less impressive but they have some toxic organism in them and these are causing shellfish to become toxic and now we have some reports - three separate incidences of people becoming ill having consumed shellfish in that area. Meanwhile, non- toxic red tide blooms persist along the False Bay Coast. Scientists have warned that if the blooms start to decay, it could cause a rapid decline in oxygen in the water. And that could lead to high scale mortalities of flora and fauna.

    2. The Department of Environmental Affairs and Tourism has warned the public not to eat any shellfish or lobster liver found on the West Coast, following reports of three people becoming ill after eating shellfish collected in Western Cape. The problem may be a result of a toxic red tide, said the department in a statement on Friday. It is investigating and samples are being tested, it said. "Animals, such as lobsters, that feed on toxic shellfish can accumulate the toxins in their digestive gland with no apparent effect, but will accumulate toxins in their liver. Members of the public are therefore advised not to eat lobster liver too." The reported incidents appeared to display symptoms of paralytic shellfish poisoning. Typical symptoms include tingling and numbness of the mouth, lips and fingers, which usually occur within the first 30 minutes after the ingestion of toxic shellfish. Advanced symptoms include dizziness, incoherent speech, uncoordinated limbs with slight difficulty in breathing, and a rapid pulse. In severe cases it may cause paralysis. Meanwhile, a non-toxic red tide persisted along False Bay, the department said.</CODE>

    Number of Injured persons: 3 persons

    </CODE></TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  17. Catt Bewer

    Catt Bewer เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    3,768
    ค่าพลัง:
    +16,673
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>น้ำเสียไหลลง กทม.แล้ว
     
  18. nantiya.j

    nantiya.j เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    860
    ค่าพลัง:
    +8,550
    ที่ลำพูนหมอกควันจางบางตาแล้วค่ะแต่รอบนอกยังมัวอยู่
    อาการแสบจมูกไม่มีแล้ว..
    แต่เมื่อคืนลมแรงมากวันนี้ตอนนี้เริ่มมีฟ้าแลปแปลบแล้วค่ะ

    ที่เชียงใหม่สถาพอากาศยังคงมัวมากๆ
    pm 10 ยังเกิน 120 ที่สถานีตรวจวัด โรงเรียนยุพราช ชม.
    AQI ก็ยังอยู่ในระดับที่ต้องสวมหน้ากากป้องกัน
    ถ้าฝนตกคืนนี้พรุ่งนี้คงได้เห็นอากาศสดใสขึ้น
     
  19. mead

    mead เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 เมษายน 2005
    โพสต์:
    8,134
    ค่าพลัง:
    +62,441
    ดีแล้วครับ ทางเหนือกำลังจะผ่านไปอีกหนึ่งภัยนะครับ..
    คิวต่อไปเจออะไรอีกไม่รู้..สาธุ แค่เบาๆก็พอครับ
     
  20. Catt Bewer

    Catt Bewer เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    3,768
    ค่าพลัง:
    +16,673
    <TABLE borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 align=center border=5><TBODY><TR><TD bgColor=#ffffff>แฉเกาะพีพีเน่า ขุดพบใต้พื้นทรายกลิ่นหึ่ง</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 align=center border=5><TBODY><TR><TD bgColor=#b4c1d6><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=3 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR bgColor=#dee6ef><TD vAlign=center> </TD></TR><TR bgColor=#dee6ef><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top><TABLE cellSpacing=2 cellPadding=2 align=left bgColor=#f5f5f5 border=0><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>เดลินิวส์
    นายชาย พานิชพรพันธ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ ได้กล่าวว่า จากที่ได้ลงไปตรวจราชการที่เกาะพีพี ต.อ่าวนาง จ.กระบี่ ซึ่งเป็นแหล่งเที่ยวที่ขึ้นชื้อของจังหวัดและของโลก ก็ได้รับการร้องเรียนจากนักท่องเที่ยวชาวต่างประเทศ ว่าบริเวณอ่าวโละดาลัม บริเวณใต้พื้นทรายลงไปด้านล่าง พบเม็ดทรายได้เปลี่ยนสภาพกลายเป็นสีดำ และมีน้ำสีดำผุดขึ้นมาด้วย โดยมีสภาพกลิ่นเหม็นมาก คล้ายกับน้ำเน่าเสีย ซึ่งก็ได้ทำการตรวจสอบพบว่า สาเหตุที่เกิดเม็ดทรายสีดำ และน้ำที่ผุดขึ้นมามีกลิ่นเหม็น เกิดจากน้ำเสียจากสถานประกอบการที่แอบปล่อยออกมา แต่ก็ไม่ได้บอกนักท่องเที่ยว</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR bgColor=#dee6ef><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top><TABLE cellSpacing=2 cellPadding=2 align=left bgColor=#f5f5f5 border=0><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>นายชาย ได้กล่าวต่อไปว่า
    สำหรับอ่าวดังกล่าวโดยสภาพทั่วไปเป็นเวิ้งอ่าวกว้าง ประกอบกับการขึ้นลงของน้ำทะเลมีการเคลื่อนไหวน้อย เมื่อมีการปล่อยน้ำเสียลงไปในอ่าว น้ำก็ไม่ได้ไหลออกไปนอกทะเลยังคงวนเวียนอยู่ภายในอ่าว เมื่อกระแสน้ำขึ้นก็ถูกพัดขึ้นมาสะสมที่บริเวณชายหาด เมื่อนานเข้าก็กลายเป็นน้ำเสีย ตนเชื่อว่าหากไม่มีการจัดการที่ดี และแก้ไขอย่างทันท่วงที นักท่องเที่ยวคงจะหายไปจากเกาะพีพีอย่างแน่นอน เพราะนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ที่เดินทางเข้ามาท่องเที่ยวที่ จังหวัดกระบี่และเกาะพีพี ต้องการเข้ามาพักผ่อน และชมความงามของธรรมชาติ</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR bgColor=#dee6ef><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top>
     

แชร์หน้านี้

Loading...