พระองค์โสม รับสั่งสัมมนาภาษาไทย ยังประโยชน์ เยาวชนใช้ภาษาได้ถูกต้อง

ในห้อง 'ข่าวในพระราชสำนัก' ตั้งกระทู้โดย NoOTa, 8 กรกฎาคม 2008.

  1. NoOTa

    NoOTa Super Moderator ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มิถุนายน 2005
    โพสต์:
    20,125
    กระทู้เรื่องเด่น:
    349
    ค่าพลัง:
    +64,494
    พระองค์โสม รับสั่งสัมมนาภาษาไทย ยังประโยชน์ เยาวชนใช้ภาษาได้ถูกต้อง

    [​IMG]
    เนื่องในวาระครบรอบ 200 ปีวันคล้ายวันประสูติพระเจ้า บรมวงศ์เธอ กรมหลวงวงษาธิราชสนิท ในปีนี้ หน่วยงาน ภาครัฐ มีกระทรวงวัฒนธรรมเป็นหน่วยงานหลัก และราชสกุลสนิทวงศ์ ได้ร่วมกันจัดงานฉลอง ในการนี้ พระเจ้า วรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี พระวรราชาทินัดดามาตุ องค์ประธานที่ปรึกษากิตติมศักดิ์ ได้เสด็จมาร่วมการแถลง ข่าวที่ท้องพระโรง พระตำหนักวังสวนกุหลาบ เมื่อเร็วๆนี้
    พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลีฯ มี พระดำรัสว่า เนื่องในโอกาสที่องค์การศึกษาวิทยาศาสตร์ และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ (UNESCO) ได้ประกาศ ยกย่องพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวงวงษาธิราชสนิท เป็น บุคคลสำคัญของโลก สาขาปราชญ์และกวี (Scholar and poet) และในการประชุม สมัยสามัญครั้งที่ 34 เมื่อเดือนตุลาคม ปีที่แล้ว ได้มีมติรับรองการร่วมเฉลิมฉลอง ในวาระครบรอบ 200 ปี วันคล้ายวันประสูติของพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวงวงษาธิราชสนิท ในปี 2551 ภายใต้ โครงการเฉลิมฉลองบุคคล สำคัญและเหตุการณ์สำคัญทางประวัติศาสตร์ของยูเนสโก ประจำปี 2551-2552
    [​IMG]

    และพร้อมกันนี้ นางฉวีรัตน์ เกษตรสุนทร รองปลัด กระทรวงวัฒนธรรม ได้กล่าวว่า งานฉลองนี้กำหนดจัดขึ้น ในระยะเวลา 1 ปี โดยจะเริ่มตั้งแต่วันคล้ายวันประสูติ วันที่ 9 ก.ค. 2551-9 ก.ค. 2552 ซึ่งจะมีทั้งนิทรรศการเฉลิมพระเกียรติ การรวบรวมและจัดพิมพ์ผลงานพระนิพนธ์ อาทิ ตำรายา หนังสือจินดามณี นิราศพระประธม กลบทสิงโตเล่นหาง เพลงยาวสามชาย โคลงฤาษีดัดตน นอกจากนี้ ยังมีการจัดทำเหรียญทองแดงที่ระลึกขัดเงา และการจัดทำ ตราไปรษณียากรที่ระลึก ในชุดบุคคลสำคัญทางประวัติศาสตร์ของไทย รวมทั้งการจัดสัมมนาทางวิชาการด้านภาษาและวรรณกรรม เรื่อง “ปัญหาการเรียน การสอน และ การใช้ภาษาไทยในปัจจุบัน” นิทรรศการด้านสมุนไพรและการสาธารณสุข การสัมมนาทางวิชาการด้านสนธิสัญญาและการต่างประเทศ ซึ่งจัดขึ้นที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ การจัดงานย้อนยุครัตนโกสินทร์ตอนต้น ระหว่างวันที่ 19-21 ธ.ค. ที่วัดอรุณราชวรารามราชวรมหาวิหาร และ การสัมมนาทางวิชาการตามรอยพระนิพนธ์ “จดหมายเหตุ ทัพเชียงตุง”
    นอกจากนี้ พ.อ.ท่านผู้หญิงนิออน สนิทวงศ์ ณ อยุธยา กล่าวว่า การจัดสัมมนาทางวิชาการเรื่อง “ปัญหาการเรียน การสอน และการใช้ภาษาไทยในปัจจุบัน” เป็นการสัมมนาใหญ่ ซึ่งสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยาม บรมราชกุมารี จะเสด็จฯทรงเปิดการสัมมนาและทรงร่วมฟังแล้วยังให้ผู้เกี่ยวข้องทุกระดับมีโอกาสเสนอปัญหาต่อที่ประชุม เพื่อนำไปสู่การแก้ปัญหาอย่างบูรณาการ เช่น การจัดหลักสูตร ตำราการสอนภาษาไทย การขาดแคลนครูภาษาไทย ซึ่งปัจจุบันคนไทยทุกระดับที่รักวัฒนธรรม มีความกังวลเรื่องการเรียนการสอน การใช้ภาษาไทย เพราะ ในปัจจุบัน การสอนภาษาไทยสอนเป็นคำๆแบบภาษาอังกฤษ จึงอยากให้ครูผู้สอนย้อนกลับไปดูตำราดั้งเดิม อย่างหนังสือ จินดามณี ฉบับของพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวงวงษาธิราชสนิท ที่มีทั้งหลักไวยากรณ์นำมาปรับปรุงวิธีใช้ภาษา ไทยได้ รวมทั้งยังมีโคลงสุภาษิตการตั้งกฎเกณฑ์ของข้าราชการที่จงรักภักดีจะต้องปฏิบัติอย่างไร เป็นธรรมาธิบาลของข้าราชการที่เนื้อหาเข้าสมัยจริงๆ
    สุดท้ายนี้ พระเจ้า วรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสม สวลีฯ ทรงมีพระดำรัสเสริมว่า การสัมมนานี้จะมีประโยชน์ ต่อเยาวชนรุ่นใหม่ ซึ่งเริ่มพูดผิดเพี้ยน จนไม่ทราบว่า ภาษาไทยแท้ๆ เป็นอย่างไร ผู้มีคุณวุฒิที่มาร่วมประชุมก็จะทำให้เด็กใช้ภาษาไทยให้ถูก และพูดภาษาไทยให้ ชัดถ้อยชัดคำ
    [​IMG]
    สำหรับพระประวัติ พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวง วงษาธิราชสนิท มีพระนามเดิมว่า พระองค์เจ้านวม ประสูติเมื่อวันที่ 9 กรกฎาคม พ.ศ.2351 ในปลายแผ่นดินพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก รัชกาลที่ 1 ทรงเป็นพระราชโอรสองค์ที่ 49 ในพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย รัชกาลที่ 2 ในปี พ.ศ. 2411 ครั้นเมื่อพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 เสด็จฯขึ้นครองราชย์ ทรงได้รับการสถาปนาขึ้นเป็น พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวงวงษาธิราชสนิท
    พระองค์ทรงมีความรู้แตกฉานในหลายสาขา ทรงเป็นผู้ที่ริเริ่มนำวิชาการแพทย์แบบตะวันตกเข้ามาผสม ผสานการแพทย์โบราณ นอกจากนี้ยังสนพระทัยด้านอักษรศาสตร์ พระนิพนธ์เรื่อง จินดามณี เล่ม 2 ได้ทรงดัดแปลงมาจากตำราดั้งเดิมตั้งแต่สมัยอยุธยา โดยแก้ไขและอธิบายหลักเกณฑ์ภาษาไทยให้เข้าใจง่ายขึ้น พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวงวงษาธิราชสนิท สิ้นพระชนม์เมื่อวันที่ 31 สิงหาคม พ.ศ.2414 รวมพระชนมายุ 63 ชันษา ทรงเป็นต้นราชสกุล “สนิทวงศ์”.

    .......................
    ที่มา:ไทยรัฐ
    http://www.thairath.co.th/news.php?section=society&content=96222
     

แชร์หน้านี้

Loading...