พระวิษณุกรรมเล่าเรื่องรัชกาลที่6ทำพิธีตัดไม้ข่มนามที่ดอนเจดีย์

ในห้อง 'หลวงพ่อฤๅษีลิงดำ' ตั้งกระทู้โดย joni_buddhist, 11 สิงหาคม 2007.

  1. joni_buddhist

    joni_buddhist Legal returns ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กันยายน 2005
    โพสต์:
    13,555
    กระทู้เรื่องเด่น:
    203
    ค่าพลัง:
    +63,444
    [​IMG]
    ท่านบอกว่า ท่านเป็นคนที่นี่ ท่านเกิดในป่า บ้านท่านอยู่ไกลจากที่นี่ไปทางด้านของอำเภอผักไห่ไม่มากนัก ก็เดินที่นี่อยู่เสมอ การไปศรีประจันต์ ท่านไปเกือบทุกวัน รู้ทางลัดไปประเดี๋ยวเดียวก็ถึง เลยถามท่านบอกว่า ถ้าอย่างนั้นจะย้ายจากที่นี่ไปศรีประจันต์เลยหรือว่าจะอยู่ป่าแถวนี้ก่อน ท่านบอกว่า ป่าแถวนี้มันก็อย่างนี้แหละ แต่ว่าไปถึงอำเภอศรีประจันต์ข้ามฟากไปด้านตะวันตก ที่นั่นจะมีที่สำคัญ เป็นที่ควรระลึกแห่งนึ่ง นั่นคือ ดอนเจดีย์ เป็นที่พระนเรศวรสร้างฝังเครื่องแต่งตัว อาวุธ ของพระมหาอุปราช เป็นการตัดไม้ข่มนาม ก็เลยชักสงสัย ถามว่า คุณลุงรู้เรื่องราวนี้หรือ ท่านบอกว่า รู้ เพราะอายุท่าน ๖๐ ปีกว่าแล้ว รัชกาลที่ ๖ ก็เพิ่งสวรรคตไป ถอยหลังจากนี้ไปแค่ ๑๐ ปีเศษ ๆ ตัวท่านเองเกิดทันสมัยรัชกาลที่ ๔ เราก็ไม่เถียง เถียงไม่ได้ เพราะอะไร เพราะว่ามันไม่รู้จริงคิดว่าท่านคงจะรู้เรื่อง เลยถามความเป็นมาว่า สมัยที่รัชกาลที่ ๖ ท่านมาทำพิธีกรรมที่ดอนเจดีย์ และก็ตัดไม้ข่มนาม ท่านทำแบบไหน ท่านก็บอกว่า เวลานั้นท่านก็ยังหนุ่มแน่นกว่านี้ ประมาณสัก ๒๐ ปีละมั้ง ท่านว่าอย่างนั้น ถอยหลังไปประมาณอายุ ๔๐ ปี เศษ ๆ ท่านก็มาร่วมงานด้วย ในการร่วมงานเวลานั้น รัชกาลที่ ๖ ก็ใช้พราหมณ์บวงสรวงเชิญเทพเจ้า ก็ถามท่านว่า พราหมณ์บวงสรวงเชิญเทพเจ้า เทพเจ้ามาไหม ท่านก็บอกว่า ผมก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเทพเจ้าของพราหมณ์มาหรือไม่มา ผมไม่รู้ แต่ว่าตอนนั้นก็มีพระอยู่หลายองค์ด้วยกัน พระที่มีความสำคัญมาก มีพระองค์หนึ่งเป็นพระอรหันต์ เป็นพระที่อยู่ใกล้ ๆ วัดป่าเลไลย์ถามว่า อยู่ใกล้ หรือเป็นพระของวัดป่าเลไลย์จริง ๆ ท่านบอกไม่ใช่พระวัดป่าเลไลย์ แต่พระที่อยู่ใกล้ ๆ วัดป่าเลไลย์ เวลานั้นตั้งสำนักอยู่ที่ วัดประชุมสงฆ์ มีกุฏิเพียง ๓ หลัง และก็ไม่มีการเจริญรุ่งเรือง ท่านแก่มากแล้ว ต้องตะบันหมากกิน แต่เขาลือกันว่า พระองค์นี้เป็นพระอรหันต์ ชาวบ้านเขาลือกัน ก็ถามว่า ลุงเชื่อไหมครับ บอก ผมก็เชื่อสิ ผมเป็นคนนับถือพระนี่ เวลานั้นท่านก็นิมนต์พระองค์นี้มาด้วย และก็มีพระมาอีกหลายองค์ มากองค์ด้วยกัน ในจำนวนพระที่มาทั้งหมด ปรากฏว่า เป็นพระอรหันต์เสีย ๖ องค์ นอกจากนั้นก็เป็นพระผู้ทรงฌาน แต่ว่าพระทั้งหมดเท่าที่สังเกตมา จะฟังพระองค์แก่องค์เดียว ถ้าพระแก่พูดอย่างไร พระทั้งหมดจะฟังและปฏิบัติตามทั้งหมด ก็แสดงว่า พระองค์แก่ที่สุด คือ พระตะบันหมากกิน ข้างวัดป่าเลไลย์ วัดประชุมสงฆ์ ก็ต้องเป็นพระอรหันต์ก็ถามว่า คุณลุงเชื่อว่าเป็นอรหันต์ เพราะการที่พระอินเชื่อใช่ไหม ท่านบอก ไม่ใช่หรอก ผมสังเกตดู เพราะว่าเวลาทำพิธีจริง ๆท่านบอก การตัดไม้ข่มนามคราวนี้มีผล คำว่า มีผล ก็หมายความว่า พม่าจะทรุดตัวลง แต่พม่าจะไม่เลิกรบกวนประเทศไทย พระแก่ท่านว่าอย่างนั้นนะ ท่านนั่งต้นแถว แล้วท่านก็พยากรณ์ และต่อไปประเทศไทยก็ต้องถูกพม่ารุกรานอีก เมื่อพระนเรศวรและพระเอกาทศรถสวรรคตแล้ว หลังจากนั้นต่อมา อยุธยาต้องเสียเมือง จะต้องยกเมืองหลวงไปอยู่บางกอก ในเมื่อเมืองหลวงอยู่ที่บางกอกนี่แหละจะเป็นเมืองหลวงที่มีความเจริญรุ่งเรืองมาก และก็จะมีพระมหากษัตริย์ที่มีความเก่งกล้าโดยเฉพาะอย่างยิ่ง เป็นทหารสมัยอยุธยา เปลี่ยนวงศ์ใหม่ขึ้นเป็นกษัตริย์ มีความซื่อสัตย์สุจริตต่อแผ่นดิน และต่อไปก็จะเปลี่ยนวงศ์กษัตริย์ จากฝั่งธนบุรี ไปฝั่งกรุงเทพฯ คือ ฝั่งบางกอกไปที่เกาะบางกอก ต่อนั้นไป วงศ์นี้จะมีการเจริญรุ่งเรืองมาก และหลังจากนั้นไป ประเทศไทยจะมีความเจริญรุ่งเรืองเป็นกรณีพิเศษ พระองค์นั้นท่านพยากรณ์ และตอนนั้นก็มีท่านผู้ใหญ่ถามว่า ถ้าเราจะทำให้พม่ายับยั้งได้ไหม พระองค์นั้นท่านก็ตอบว่า ชะตากรรมของคนไทยยังมีอยู่ แต่การทำคราวนี้มีผล พม่าจะรุกรานหนักไม่ได้ ถึงแม้ว่าอยุธยาจะต้องแตกก็ถาม ต่อไปเราสามารถจะปราบปรามพม่าได้ พม่าจะมีการยับยั้งตัวก็เลยถามท่านว่า ดอนเจดีย์อยู่ไกลไหม ก็อยากจะไปดอนเจดีย์ ท่านก็บอกว่า ถ้าไปทางตรงจากตรงนี้นะ ทิศทางที่ท่านคิดจะไปนี่ จะต้องใช้เวลาเดิน ๓ วัน คำว่า ตรง ก็หมายความว่า ตรงชาวบ้านเขาเดินกัน แต่ถ้ารู้จักทางลัด จะใช้เวลาไม่นานนักก็ถึง ก็ถามว่า คุณโยมจะไปไหนล่ะจ๊ะ คุณโยมก็ตอบว่า ผมเอง ผมก็จะไปศรีประจันต์เหมือนกัน แต่ว่าท่านจะไปไหน ผมจะพาไปทุกแห่ง เพราะป่าทั้งหมดนี่ จะเป็นป่าสุพรรณบุรี ศรีประจันต์ แล้วก็อะไรล่ะ สามชุก ท่าช้าง เดิมบางนางบวช ที่ไหนก็ตาม ผมรู้จักหมดทุกแห่ง คนแถวนั้น ใครชื่ออะไร อยู่ที่ไหน ผมรู้จักหมด ผีที่ตายไปแล้วอยู่ที่ไหน ใครชื่ออะไร ผมก็รู้จักหมด อีตอนนี้ชักสงสัยว่า ลุงรู้จักชื่อคนมันไม่ยาก มันก็ยากมากถ้าถามกันพอรู้ แต่รู้จักชื่อผีนี่สิ ผีที่ประจำถิ่นท่านบอกว่า ผีประจำถิ่นมันก็ไปจากคน ก็เลยไม่เถียงกัน ๓ คน ต่างคนต่างมองหน้ากันว่า ชักจะแปลก ๆ ก็เริ่มสงสัยว่า ลีลาที่ท่านพูดเดิมตั้งแต่เข้ามาทีแรก ก็รู้ว่าจะย้ายสถานที่ ตอนนี้มาชักเริ่มจะรู้ทุกอย่าง รู้จักทั้งคน รู้จักทั้งผีนี่มันแปลกเสียแล้ว ต่างคนเหมือนกับนัดกัน ต่างคนต่างมองหน้ากัน และก็พยายามคุย ก็พยายามชำเลืองดูตาคุณลุง ตาคุณลุงผ่องใสเหมือนกับตาหนุ่ม ตาหนุ่มตาสาวยังสู้ไม่ได้เลย ผ่องใสมาก แต่ว่าตาคุณลุงไม่กระพริบอาตมาก็นึกในใจว่า เอ๊ะ…วานนี้โยมท่านมาสั่งว่า ให้เทวดาที่นี่อารักขาทั้งหมด ถ้าจะไปไหนให้ไปส่ง แล้วก็ให้มอบหมายกับเทวดาที่นั่น สงสัยท่าจะเป็นเทวดา พอนึกเท่านั้น คุณลุงแก่ท่านก็บอกว่า ท่านนึกอย่างนั้นมันก็ถูก แต่ว่ายังไม่ตรงตามความเป็นจริง ผมไม่ใช่รุกขเทวดา ไม่ใช่ภุมเทวดาที่นี่ จะเรียกผมว่า เทวดาก็ได้ แต่มันจะไม่ถูกนัก ก็ถามว่า เรียกอะไรถึงจะถูกล่ะลุง ก็เรียกลุงอย่างคุณว่านั่นแหละถูก ก็ต้องถือว่า เป็นลุงธรรมดา ๆ ไม่ใช่ลุงพี่ของพ่อ ไม่ใช่พี่ชายของพ่อก็แล้วกัน แล้วถามว่า คุณลุงเกิดมาน่ะ มีอาชีพอะไร ท่านบอก ผมก็ไม่มีอาชีพอะไร ก็เดินไปเดินมา เดินมาเดินไปแบบนี้ มีอะไร เจอะอะไร ก็กินตามเรื่องตามราวไป บ้านผมก็อยู่ในป่า ผักหญ้าก็มีเยอะ ตำลึงก็มี หน่อไม้ก็มี หัวเผือกหัวมันก็เยอะแยะ ไม่ต้องทำบาป ไม่ต้องทำกรรม ลุงก็ว่าเรื่อยไปก็สรุปแล้วก็เป็นอันตัดใจความว่า เอ้า…ถ้าอย่างนั้น ลุง อาตมาทั้ง ๓ คน ไปตามลุงไปลุงจะพาไปศรีประจันต์ใช่ไหม ท่านบอกว่า ใช่ ท่านถามว่า จะไปแค่อำเภอศรีประจันต์หรือจะไปดอนเจดีย์ ถามท่านว่า ที่ดอนเจดีย์มีภูเขาไหม ท่านบอกว่า ทิศเหนือของดอนเจดีย์มีภูเขา ทางด้านทิศตะวันออกก็มีภูเขา แต่ว่าภูเขาไม่สูงภูเขาต่ำ ๆ ผมรู้จักภูเขาพิเศษอยู่ลูกหนึ่ง เหมาะสำหรับพระธุดงค์ ภูเขาลูกนี้เป็น ภูเขาชั่วคราว เอ๊ะ…พูดไม่เหมือนชาวบ้าน ภูเขาชั่วคราว มันก็ต้องทำขึ้นมา ท่านบอกว่า เป็นภูเขาชั่วคราว ท่านบอกว่า มีถ้ำสวยงามมาก หันหน้าไปทางด้านทิศตะวันตก และด้านทิศใต้มีเขาย้อยไปบังแสงแดดยามบ่าย ด้านหน้ามีสนามหญ้า มีบริเวณสวนดอกไม้มีทางเดินเล่น มีธารน้ำไหล น่าอยู่มาก ท่านจะไปไหมล่ะพอได้ฟังก็น้ำลายไหล ก็นึกในใจว่า มันจะไกลเกินไปไหม ถ้าเวลาจะกลับ จะกลับอย่างไร พอนึกในใจท่านบอก เวลากลับไม่เป็นไร นึกถึงผมสิครับ ผมเป็นคนแก่ ผมเป็นลูกศิษย์ของพระอรหันต์องค์นั้น นั่นแน่ ชักขยับเข้ามาแล้ว ที่นี้หากว่าใครก็ตามถ้ามีความสัมพันธ์กับผม ถ้ารู้สึกนักอย่างไรละก็ ผมจะรู้หมดทุกอย่าง ถ้าต้องการสิ่งไหน
    ที่มาหนังสืออ่านเล่นเล่ม16
     

แชร์หน้านี้

Loading...