####พระกริ่งส.โสภณ...พระกริ่งที่สร้างโดยศิษย์สมเด็จพระสังฆราชแพเเท้ๆ###เทดินไทยในพิธีทุกองค์

####พระกริ่งส.โสภณ...พระกริ่งที่สร้างโดยศิษย์สมเด็จพระสังฆราชแพเเท้ๆ###เทดินไทยในพิธีทุกอง





ประวัติพระครูโสภณธรรมรัต
พระครูโสภณธรรมรัต นามเดิม ถม เกิดในสกุล สงวนวงษ์ เมื่อวันที่ 7 พฤศจิกายน 2455 ที่บ้านโพธิ์ผีไห้ อำเภอเมืองลพบุรี จังหวัดลพบุรี (ปัจจุบันเปลี่ยนเป็นตำบลโพธิ์เก้าต้น) โยมบิดาเป็นกำนัน ชื่อนาย ลอย สงวนวงษ์ โยมมารดาชื่อ เนยเป็นครอบครัวชาวนา
เริ่มการศึกษาครั้งแรกกับโยมบิดาตั้งแต่อายุได้ 5 ปี ต่อมาใน พ.ศ. 2562 โยมบิดาได้นำตัวมาฝากไว้กับอาชื่อ สามเณรแถม ที่วัดเชิงท่า ตำบลท่าหิน อำเภอเมืองลพบุรี ณ ที่นี้ได้เรียนหนังสือแบบเรียนเร็วหนังสือมูลบทบรรพกิจ รวมทั้งหัดอ่านตัวขอมจากหนังสือพระมาลัย ถึง พ.ศ. 2464 โยมบิดาได้นำตัวไปฝากเรียนที่โรงเรียนประจำจังหวัดลพบุรีในครั้งนั้นอยู่ ณ บ้านวิชาเยนทร์ เรียนจบชั้นประถมศึกษาปีที่ 1
พ.ศ. 2465 ย้ายไปอยู่กับพระครูธรรมรักขิต ผู้เป็นอา ที่วัดสุทัศน์เทพวรารามราชวรมหาวิหาร กรุงเทพมหานคร ได้ศึกษาที่โรงเรียน ของวัดสุทัศน์ฯ จนจบชั้นประถมศึกษาและจบประถมช่างไม้ จากนั้นได้เรียนภาษาบาลีเพิ่มเติม พออายุได้ 15 ปี ตรงกับ พ.ศ. 2470 ได้กลับบ้านมาช่วยครอบครัวทำนา
เริ่มชีวิตบรรพาชิตเมื่ออายุครบ 20 ปี ด้วยการออกบรรพชาตามประเพณีไทยที่วัดโคกหม้อ ตำบลโพธิ์เก้าต้น อำเภอเมืองลพบุรี วันนั้น ตรงกับวันที่ 15 กรกฎาคม 2475 โดยพระครูโวทานสมณคุต ผู้เป็นเจ้าอาวาสวัดกวิศรารามฯ เจ้าอาวาสวัดเชิงท่าและเจ้าคณะจังหวัดลพบุรีเป็นพระอุปัชฌาย์ พระอธิการบุญ เจ้าอาวาสวัดโคกหม้อเป็นกรรมวาจาจารย์ และพระอาจารย์ฉาย วัดเชิงท่าเป็นอนุสาวนาจารย์
พ.ศ. 2479 ย้ายมาอยู่วัดเชิงท่าเพื่อศึกษาพระปริยัติธรรม สอบได้นักธรรมชั้นเอกเมื่อ พ.ศ. 2481
พ.ศ. 2482 คณะสงฆ์ได้แต่งตั้งให้เป็นผู้รักษาการเจ้าอาวาสวัดเชิงท่า
พ.ศ. 2504 ได้รับแต่งตั้งให้เป็นเจ้าอาวาสวัดเชิงท่า
พ.ศ. 2505 ได้รับแต่งตั้งเป็นเจ้าคณะตำบลพรหมาสตร์และตำบลบางขันหมาก จังหวัดลพบุรี
พ.ศ. 2493 เป็นพระครูใบฎีกา ตำแหน่งฐานานุกรมของพระกิตติญาณมุนี (พระพุทธวรญาณ)
พ.ศ. 2513 ได้สมณศักดิ์เป็นพระครูโสภณธรรมรัต
พ.ศ. 2516 ได้รับแต่งตั้งเป็นพระอุปัชฌาย์
พ.ศ. 2519 ได้รับแต่งตั้งเป็นรองเจ้าคณะอำเภอเมืองลพบุรี
พ.ศ. 2543 ได้รับแต่งตั้งให้เป็นที่ปรึกษาเจ้าคณะอำเภอเมืองลพบุรี
ในฐานะเป็นพระสงฆ์ที่ปฏิบัติศาสนกิจมายาวนาน พระครูโสภณธรรมรัตมีบทบาทในการทำนุส่งเสริมพระพุทธศาสนาคือ เป็นครูสอนพระปริยัติธรรม ณ สำนักวัดเชิงท่า ตั้งแต่ พ.ศ. 2482 จนถึง พ.ศ. 2535
พ.ศ. 2508 เป็นพระธรรมทูตของกองอำนวยการก่อสร้างตึกสงฆ์อาพาธโรงพยาบาลลพบุรี ได้นิพนธ์งานส่งเสริมศิลธรรมอันดีตามหลักพระพุทธศาสนาให้กับปวงชนและพิมพ์เผยแพร่อย่างสม่ำเสมอ มีหน้าที่บริหารคณะสงฆ์อำเภอเมืองลพบุรี รวมทั้งได้อบรมภิกษุสามเณรร่วมกับเจ้าคณะอำเภอเมืองลพบุรีเป็นประจำ ผลงานสำคัญล่าสุดคือ จัดสร้างพิพิธภัณฑ์หอโสภณศิลป์เพื่อรวบรวมและจัดแสดงศิลปะโบราณวัตถุอันมีค่าในการศึกษามรดกวัฒนธรรมไทยได้เป็นประโยชน์แก่ผู้สนใจต่อไป
พระพุทธวรญาณ อดีตเจ้าอาวาสวัดกวิศรารามฯ และเจ้าคณะ
จังหวัดลพบุรี ได้กล่าวคำนิยมแด่พระครู โสภณธรรมรัต ในคราวทำบุญอายุ 80 ปี เมื่อ พ.ศ. 2535 ตอนหนึ่งว่า

 

ใบขออนุญาติเเละนิมนต์หลวงปู่ถม เป็นประธานพิธีเททองในวันพ่อที่ผ่านมาซึท่านเองได้อนุญาติเเละเมตตาต้งพระนามพระกริ่งที่สร้างถวายหลวงปู่ถมท่านว่าพระกริ่งส.โสภณ อันเป็นชื่อย่อของนาม พระครูโสภณธรรมรัต


วัตถุประสงค์

เงินทุกบาททกสตางค์ที่ทำบุญพระกริ่งไม่หักค่าใช้จ่ายเเม้เเต่บาทเดียวเข้าโครงการสร้างพิพิธภัณฑ์ของวัดเชิงท่า ซึ่งบรรจุของโบรล้ำค่าทางพระพุทธศาสนาเอาไว้เพื่อสืบทอดพระพุทธศาสนาไว้ให้อนุชนรุ่นหลังได้เรียนรู้เเละศึกษาต่อไป



พระกริ่ง ส โสภณ ด้านหน้า



พระกริ่ง ส โสภณ ด้านหลัง


จำนวนการจัดสร้าง
พระกริ่งส.โสภณ เนื้อพระพุทธรูปอู่ทองเปิดให้ทำบุญเป็นชุดชดละ10000บาท16ชุด ประกอบด้วย

พระกริ่งส.โสภณ เนื้อพระพุทธรูปอู่ทอง 1องค์
พระกริ่งดีหลวงเนื้อชนวนชนวน1องค์
พระกริ่งฤาษี1องค์

ทำบุญชุดละ10000บาท หมดเเล้ว

2พระกริ่งส.โสภณ
เนื้อสัมฤทธิ์ผสมชนวนพระกริ่งและชวนโบราณจำนวนมากนับร้อยๆพิธี จำนวนการสร้าง500องค์
ทำบุญองค์ละ 3000บาท


ฐานพระกริ่งบรรจุมวลสารมหามงคลพิเศษดังจะกล่าวรายละเอียดต่อไปนี้
1ยอดพระเจดีย์สมัยอยุธยาและดินใจกลาง
พระเจดีย์สมัยพระนารายณ์มหาราช ของวัดเชิงท่า
2ชิ้นส่วนสัมฤทธิ์ดินใจกลางพระพุทธรูปสมัยอู่ทองที่
ขุดพบในวัดเชิงท่า ลพบุรี
3ใบเสมาของหลวงพ่อบุญ วัดกลางบางเเก้ว
4ยอดพระปรางค์สามยอด ลพบุรี
5อิฐศาลพระกาฬอายุนับพันๆปี
6ดินกรุแลชิ้นส่วนพระพุทธรูปโบราณ
วัดพระศรีรัตนมหาธาตุ ลพบุรี
7ดินกรุแลชิ้นส่วนพระพุทธรูปโบราณ
กรุพระนาคปรกวัด ปืน ลพบุรี
8ดินกรุแลชิ้นส่วนพระพุทธรูปโบราณ วัดนครโกษา
กรุนครโกษา ลพบุรี
9 ดินฐานชุกชีพระอุโบสถเก่าของวัดใหญ่ชัยมงคล
สมัยอยุธยาเเท้ๆคราวกรมศิลปากรขุดสำรวจ
เเล้วช่างมอบให้
10 ชิ้นส่วนใบเสมาวัดพุทไธสวรรค์รับมอบอนุญาติ
จากหลวงพ่อหวล เมื่อสองปีก่อน
11 ชิ้นส่วนชินโบราณจากกรุต่างๆของลพบุรี
12 ผงหัวเชื้อของสำกวัดเชิงท่าเสกโดยหลวงปู่ถมมานานหลายสิบปอันประกอบด้วยผง สมเด็จเกษไชโย อ่างทอง สมัยสมเด็จโตเเท้ๆ ผงสมเด็จบางขุนพรหม ผงงาช้างจากพยุหคีรี ผงสมุกใบลานอักขรเลขยันต์และตำรายาสมัยอยุธยา
13ผงพระพุทธคุณลบอักขระโดยพระเถราจารย์โบราณสมัยอยุธยาที่ฝังไว้ที่ฐานพระเก่ารวมทั้งผงดินสอพองลบอักขระตามตำราสายวัดประดู่ในทรงธรรม
14ผงตะไบพระกริ่งสมัยสมเดจพระสังฆราชแพและผงตะไบพระชินราชอินโดจีนปี2485ซึ่งเเน่นอนวประกอบด้วยเกจิดังยุคอินโดจีนมากมาย
15ผงหัวเชื้อ1โหลใหญ่ๆจากการเหลือจากการสร้างพระหลวงพ่อทวดทุกรุ่นของข้าพเจ้านับสิบๆรุ่นซึ่งผ่านพิธีเสกโดยครูบาอาจารย์ที่ทรงทั้งวิชชาเเละวิมุตินับร้อยๆรูป
16ไม้ตะเคียนที่เหลือจากการเเกะสลักหลักเมืองนครศรีธรรมราช

และยังมีมวลสารอื่นๆอีก

หมายเหตุ เนื่องด้วยพระกริ่งรุ่นนี้เป็นพระกริ่งฉลองชนมายุหวงปู่ถมโดยเเท้จริงผมเองจึงกราบขออนุญาติหลวงปู่นำธาตุขันฑ์หลวงปู่ถม บรรจุ เพื่อความเป็นมงคลเเก่ศิษย์ นั่นคือเกสาธาตุของท่านซึ่งบางส่วนใสเป็นเเก้วบางส่วนเป็นพระธาตุแล้วอัญเชิญมาบรรจุพร้มด้วยจีวรที่ห่มครองกายมาหายสิบปีเพื่อคุ้มครองป้องกันภัยเเละเป็นกำลังใจเเก่ศิษย์ที่เคารพนับถือในพระเดชพระคุณท่าน

สั่งจองได้ที่คุณป๋อง0816901081

ธนาคารนครหลวงไทย สาขาลพบุรี

ชื่อบัญชี วัดเชิงท่า

เลขที่บัญชี 340-300757-0

 

เททองโดย หลวงปู่ถม วัดเชิงท่า ลพบุรี ศิษย์สมเด็จพระสังฆราชแพ เป็นประธานจุดเทียนชัยเเละเททองด้วยองค์ท่านเอง


<HR style="COLOR: #cccccc" SIZE=1><!-- / icon and title --><!-- message -->
ขณะหลวงพ่อถม วัดเชิงท่า ลพบุรี เมตตามาเป็นประธาน ให้เเบบเต็มๆ และเต็มที่ในงานนี้ ท่านเองเป็นพระที่สมเด็จพุฒโฆษาจารย์ พุฒ วัดสุวรรณาราม กล่าวว่า หลวงพ่อถม เป็นศิษย์สมเด็จพระสังฆราชแพ เพียงองค์เดียวในจังหวัดลพบุรี ท่านเป็นศิษย์สมเด็จด้วยกัน อีกทั้งท่านเย็นกายเย็นใจมาหลายสิบปีเเล้วเนื่องด้วย เกสาธาตุของท่านได้เเปรสภาพกลายเป็นพระธาตุอีกด้วย

และภาพนี้เป็นภาพ ดวงทองคำ ที่ฉลองศรัทธา สมกับท่านที่เป็นพระทองคำ ท่านเป็นพระดีจริงๆ









<!-- / icon and title --><!-- message -->











หลวงปู่ถม ท่านหย่อนทองคำก้อนหนักสิบบาทด้วยตนเองเป็นชนวนหล่อพระกริ่งดีหลวงและ พระกริ่งส.โสภณ พระกริ่งฉลองชนมายุครบ8รอบ พระกริ่งประวัติศาสตร์ของท่านเลยทีเดียว



หลวงตาม้าท่านร่วมหย่อนทองคำด้วย

<!-- / message --><!-- edit note -->

 

พระอาจารย์ติ๋ว วัดมณีชลขัณฑ์ กราบนมัสการหลวงปู่ถม พระรัตตัญญู แห่งเมืองลพบุรี





นั่งปรกอย่างสงบนิ่งไม่ไหวติงใดๆดุจพระโยคาวจรเมื่อสมัยโบราณปรกอย่างชาติเสือไม่ขอเนื้อใครกิน















หลังดับเทียนชัย ท่านอาจารย์ติ๋ว พรมน้ำพระพุทธมนต์ด้วยบทอิติปิโสพิสดาร วิชชาโบราณ


นอกจากความโชคดีชั้นที่หนึ่งได้เเก่หลวงปู่ถม เมตตายิ่งเเล้ว ผมเองยังได้รับความเมตตาจากพระเดชพระคุณพระอาจารย์ติ๋ว วัดมณีชลขัณฑ์ ลพบุรี
พระเกจิที่ได้รับการยกย่องเป็นหนึ่งในเกจิเเนวหน้าเมืองไทย19องค์เเรกๆอีกด้วย
ท่านอาจารย์ติ๋ว เองโดยปกติวิสัยเเห่งองค์ท่านเก็บตัวเเละเป็นที่รู้กันว่าดุ ไม่ใช้ดุเล่นๆ ว่ากันถึงขนาดว่า ดุจริงๆๆ ท่านดำรงตนตรงตามพระธรรมวินัย เป็นพระธรรมยุติ ท่านเองศึกษาวิชชาต่างๆหลายสายทุกอย่างที่ท่านศึกษาไม่ใช่วันสองวันเเล้วบอกว่าเป็น เพราะท่านเสกได้ถึง และ จริง ทั้งสายพรหมอาจารย์เฮง ไพรวัลย์ที่ท่านได้วิชชาจาก อาจารย์ก้าน บำรุงกิจ และหลวงปู่ศรี วัดสะเเก รวมทั้งสมาธิจิตจาก หลวงพ่อดู่ รวมทั้งวิชชาสายหลวงปู่ศุข จาก หลวงพ่อมหาโพธิ์ วัดคลองมอญ อีกทั้งท่านอาจารย์ยังสืบวิชชาสายอาจารย์ฟ้อน ดีสว่าง เเละ สายหลวงพ่อหรุ่น เก้ายอด ปกติท่านอาจารย์เองค่อนข้างเก็บตัว ไม่ค่อยเผยตัวสักเท่าไร กรณีเททองหล่อพระครั้งนี้ ท่านเมตตามางานนี้ด้วยความเต็มใจ ทั้งยังเเจกพระเครื่องกับผู้ร่วมงานด้วยมือท่านทุกองค์ เเละอาจารย์ติ๋วนี้เองเป็นผู้ลงพระยันต์จักรพรรดิ์ตราธิราช ท่ามกลางพระเถราจารย์108รูป โดยสมเด็จพระมหาธีราจารย์เป็นผู้เลือกท่านด้วยองค์เอง สำคัญอย่างเเน่เเท้เมื่อ พระกริ่งดีหลวงเเละพระกริ่งส.โสภณ เทอทองไปเสกไป ไม่ขลังเเละจะไปหาที่ไหนได้อีก ไม่ใช่เเอบเททองที่โรงงานเเล้วนำมาเสก เททองท่านกลางราชวัตรฉัตรธง พระเจริญพระพุทธมนต์ตลอดเวลา เห็นๆ เเบบเต็มๆตา สมใจนึกบางลำพูสำหรับคนเเสวงหาพระในดวงใจ พิธีดีมวลสารชั้นครูเป็นเเน่เเท้

 

โชคดีชั้นที่สามงานนี้หลวงตาม้า วัดพุทธพรหมปัญโญ

ศิษย์หลวงพ่อดู่ วัดสะเเก
เมตตามาร่วมงานเททองในครั้งนี้เป็นกรณีพิเศษซึ่งปกติหลวงตาท่านเองจะไม่ค่อยนิยมไปงานเสกพระเสียเท่าไรเป็นอันรู้กันว่าท่านเสกเหมือนหลวงพ่อดู่ คือเสกพระไม่นานเสกพระเเบบเชิญพระเสก ไม่ใช่เสกเอง ดังนั้นท่านจะเสกไม่ถึงสิบนาทีเเล้วลุกหนีเลย บางงานเจ้าภาพยังไม่ทันถวายปัจจัยท่านก็นั่งรถกลับไปเลยก็บ่อยครั้ง ดังนั้นจึงบอกได้ว่างานเททองพระกริ่งดีหลวงครั้งนี้หลวงตาม้าเมตตานั่งเป็นประธานเททองตลอดเวลาท่านกล่างเเสงเเดดที่ร้อนเเรงหลวงตาไม่ได้บ่นเลยเเม้เเต่น้อย ท่านกลับตั้งใจเเน่วเเน่เเผ่เมตตาอธิษฐานจิตพระกริ่งดีหลวงและพระกริ่งส.โสภณรุ่นนี้อย่างที่เรียกได้ว่า สุดเเรงใจจริงๆ น่าปลื้มใจไม่น้อย และหากจะกล่าวไปหลวงตาม้านี้เเหละเสกพระกันนิวเคลียร์ได้เหมือนหลวงพ่อดู่

 

<TABLE class=tborder id=post1791025 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR vAlign=top><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 0px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 0px solid" width=175></TD><TD class=alt1 id=td_post_1791025 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid"><!-- message -->





รูปหลวงปู่ถม รูปนี้นึกเเล้วรักเเละเคารพหลวงปู่มากที่สุดเลยเพราะหลวงปู่ถม ท่านเป็นพระทองคำ ท่านเย็นกายเย็นใจมากหลายสิบปีเเล้ว เกสาธาตุของหลวงปู่ถมเอง ที่บ้านผมกลายเป็นพระธาตุ

ท่านบอกว่าพระกริ่งรุ่นนี้ไม่ต้องเสกเเล้วก็ได้เพราะว่ารุ่นนี้ทั้งเสกตั้งเเต่ทองที่นำมาหลอมสามวันสามคืนเจริญพระพุทธมนต์ตลอดเเละอีกอย่างฉันเองเสกคลุมไว้หมดครูบาอาจารย์ก็มาครบพระรุ่นนี้ดีทุกทางอธิษฐานได้รอบ ทั้งรักษาโรค เมตตา เเคล้วคลาด
หายากนะพระเเบบนี้ สมเด็จพระสังฆราชเเพก็มานะ
</TD></TR></TBODY></TABLE>

 

ชิ้นส่วนสัมฤทธิ์พระปางอู่ทองแท้ๆที่ชำรุดขุดพบในแผ่นดินสมเด็จพระนารายณ์

 

เกสาธาตุ ทันตธาตุ และ นขา ของพระเดชพระคุณพระครูโสภณธรรมรัต หลวงปู่ถม วัดเชิงท่า ลพบุรี ศิษย์ในพระเดชพระคุณสมเด็จพระสังฆราชแพ ที่ยังทรงสังขารอยู่ บางส่วนแปรเป็นพระธาตุแล้วไว้ถ่ายเพิ่มให้ชม

 

ภาพพิพิธภัณฑ์วัดเชิงท่ากำลังก่อสร้างอยู่ในขณะนี้ซึ่งนับว่าเป็นอีกทางหนึ่งที่จะสืบทอดอายุพระพุทธศาสนาใหคงอยู่ครบ5000ปีตามพุทธทำนาย

 

อนุโมทนาเช่นกันนะครับ

 

ช่อพระกริ่งส.โสภณภายหลังการเืืททองในพิธีเเละทุบดินไทยออกมาเพื่อยลโฉมที่มีพระพุทธลักษณะจีนละม้ายคล้ายองค์ต้นเเเบบก่อนการเเต่งพระกริ่งที่เเต่งจากพระกริ่งจีนใหญ่หรือพระกริ่งราชวงศ์ถังให้มีความเป็นเอกลักษณ์เพื่อเป็นมงคลรำลึกอนุสรณ์ถึงหลวงปู่ถม พระอริยเจ้า ผู้ที่ทรงวิชชาเเละวิมุติ ที่ปิดตัวเองนับสิบๆปี

 

พิธีกรรมทุกขั้นตอนไม่ธรรมดาเลยจริงๆมีการบวงสรวงพระ พรหม เทพเทววา ซึ่งเเม้พระที่ตั้งเป็นพระธานก็เป็นพระรัชกาลสมัยรัตนตอนต้น ซึ่งเป็นสมบัติองค์สำคัญของวัด เป็นความตั้งใจ และ ดำริ หลวงปู่ถม ที่ต้องการให้งานนี้ดีที่สุด



งานพิธีสุมไฟเพื่อหลอมโลหะก่อนการหล่อซึ่งมีการหลอมมวลสารต่างๆจำนวนมากมีนิมนต์พระจากทั้งในเเละนอกวัดมาทำพิธีสวดเสกถึงสามวันสามคืนเยี่ยงโบราณจารย์สมัยก่อนที่ทำด้วยความปราณีตอาจเรียกได้ว่าสวดไปเสกไปดีตั้งเเต่เริ่มต้น

 

เครื่องบวงสรวจเครื่องกระยาบวดทุกสิ่งคัดสรรอย่างดีตามตำราโบราณผลหมากรากไม้ บายศรีที่จัดทำพิเศษเพื่อให้งานนี้เพียบพร้อมด้วยกำลังของพระพุทธคุณ ธรรมคุณ สังฆคุณ พรหมคุณ เทวาธิคุณ กษัตราธิราชเจ้าธิคุณ



บรรดาเศียรครูทั้งหลายอัญเชิญจากวิทยาลัยนาฏศิลป์ลพบุรีเพื่อเป็นประจักษ์พยานเเห่งคุณควาามดีที่จะบังเกิดขึ้นในวันมหามงคลที่สำคัญ

 

ต้นตำรับพระพระกริ่งยุคหลังที่โด่งดังที่สุดเห็นทีจะไม่มีใครเกินพระกริ่งชินบัญชรซึ่งอาจารย์ชินพร สุขสถิตย์ นี้เองเมตตาต่อผมเป็นอันมากเมตตามาร่วมงานเททองพระกริ่งในครั้งนี้พร้อมทั้งมอบมวลสารสุดยอดชนวนพระกริ่งปวเรศ วัดบวร เเละ ชนวนพระกริ่งชินบัญชร เเละท่านที่ทราบกันอยู่เเล้วว่าหลวงพ่อทิม วัดละหารไร่ ท่านบอกอาจารย์ชินพรไว้ว่า ไม่ว่าพระทำอะไร นี่จะไปช่วย แล้วพระกริ่ง ส.โสภณรุ่นนี้เเน่นอนว่าหลวงปู่ทิม ท่านลงมาทำพิธีให้เองเเบบเต็มๆด้วยทิพยสภาวะเเห่งพระอนาคามีขั้นสูงที่อยู่บนพรหมสุทธาวาส



อาจารย์ชินพร สุขสถิตย์ กล่าวคำบวงสรวงเเละประกาศต่อเทพเทวดาฟ้าดินด้วยเสียงดังกัมปนาถสะเทือนฟ้าสะเทือนดินบังเกิดความปีติขนลุกชูชันเเละปรากฏก้อนเมฆเคลื่นที่บดบังดวงอาทิตย์ที่ร้อนเเรงให้เกิดความร่วมเย็นเเก่ผู้ร่วมพิธีอย่างอัศจรรย์

 

ว่าด้วยเรื่องโค๊ตที่จะทำการตอกพระกริ่งดีหลวงและพระกริ่งส.โสภณ

โค๊ตเเรกเป็นพระยันต์นอโม
ซึ่งเป็นพระยันต์เอกลักษณ์ของสำนักตักศิลาเขาอ้อ
ซึ่งเป็นสำนัก่โด่งดังของภาคใต้อันเป็นดินเเดนบ้านเกิดหลวงพ่อทวดเเละเป็นส่วนหนึ่งของอาณาจักรศรีวิชัยเวลาเรียกอักขระจะมีการอ้างเอาคุณของพระเจ้าห้าพระองค์และอักขระทั้งหมดมาบรรจุในพระยันต์นี้



โค๊ตที่สอง พระยันต์ตัวนะ ซึ่งกล่าวว่าเป็นนะพิเศษอันเป็นเอกลักษณ์ที่หลวงปู่ถมมักใช้เป็นประจำซึ่งเด่นทางเมตตาเเละเเคล้วคลาดมหาอุตจ์เรียกได้ว่าครบเครื่องเลยทีเดียว


โค๊ตที่สาม ตัวเฑาะ หรือตัวทม (ภาคใต้เรียก)ซึ่งพบว่ามีการใชเขียนพระยันต์เเละการลงกระหม่อมซึ่งผมเองได้พบบันทึกของเกจิดังในอดีตมักใช้พระยันต์ตัวนี้หลายท่านอาทิ หลวงพ่อคง วัดบางกระพร้อม หลวงพ่อกลั่น วัดพระญาติ
หลวงพ่อดู่ วัดะเเก หลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า สายเขาอ้อก็มักใช้



โค๊ตที่สี่ พระยันต์อักขระขอมที่คิดรูปเเบบขึ้นใหม่ในการจัดเรียงอักขระให้สวยงาม นั่นคือ วลี อโรคยา อัน หมายถึง ความปลอดโรค นั่นเอง ซึ่งนับว่า ตรงที่สุดของการสร้างพระกริ่งเพื่ออารธนาในการรักษารคภัยไข้เจ็บนั่นเอง

 

เมื่อตอนเช้าที่ผ่านมามีผู้จองพระกริ่ง ส.โสภณเพิ่ม จำนวน5องค์ตอนนี้รวมยอดจองพระกริ่งส.โสภณทั้งหมดประมาณ50องค์เเล้วคงมีพระกริ่ง.โสภณอีก450องค์สุดท้ายให้บูชาเท่านั้นเป็นจำนวนการสร้างที่น้อยเอามากๆเเต่เรื่องมวลสารละก้อพระกริ่งส.โสภณเนี้ยเเหละเยอะที่สุดเพราะเนื้อสัมฤทธิ์ใส่มวลสารได้ไม่อั้น
ผมขออนุโมทนาบุญด้วยนะครับเพราะเงินทุกบาทไม่มีหักค่าใช้จ่ายเข้าบัญชีวัดเชิงท่าเพื่อเอาเงินไปสร้างพิพิธภัณฑ์ของวัดให้เเล้วเสร็จ

อย่าให้พลาดเหมือนพระกริ่งดีหลวงนะครับเพราะหลายท่านตัดสินใจอยู่บางท่านตัดสินใจนานถึงตอนนั้นพระกริ่งก็หมดเรียบร้อยเเล้วพระกริ่งส.โสภณยังจะมีมวลสารพิเศษของสูงๆอีกหลายอย่าง

 

หลวงปู่ถม วัดเชิงท่า ท่านได้รับสมญานามว่า หลวงพ่อถม ปากพระร่วง

กล่าวคือหลวงพ่อถมเป็นพระที่เคร่งครัดในพระธรรมวินัยท่านเองเป็นผู้รู้เเบบซุ่มเงียบท่านจะไม่เคยโอ้อวดคุณวิเศษของท่านเองท่านมักจะพูดน้อยเเต่เเฝงด้วยสาระเเห่งธรรมดังนั้นวาจาของท่านเวลาท่านให้พรมักเป็นจริงเสมอเเละคราใดก็ตามที่ท่านทักเเละเตือนศิษย์มักเป็นจริงตามปากของท่าน ดุจ เมื่ออดีตมีพ่อท่านคล้าย วาจาสิทธิ์ ถึงเพียงนั้นจริง

หลวงพ่อถมเองท่านเป็นศิษย์ในพระเดชพระคุณหลวงพ่อรุ่ง วัดเชิงท่า เเต่วิทยาคมของจังหวัดลพบุรีเอง หลวงพ่อถม ท่านมีเต็มภูมิเเละรู้จริง ท่านมักบอกด้วยความถ่อมตนเสมอๆว่า เราหนะมันศิษย์รุ่นหลานเราไม่ได้เป็นลูกศิษย์พระดังๆหรอกส่วนใหญ่จะครูพักลักจำเสียมากกว่า สายหลวงพ่อศุข ก็เรียนจากอาจารย์สำราญ สมภารวัด 249กว่าๆ ส่วน สายหลวงพ่อจัน วัดนางหนู ก็เรียนมา สายหลวงพ่อสาย วัดพยัค ก็เรียนจากศิษย์ท่าน สายอื่นๆก็เรียนอีกมาก

 

อนุโมทนานะครับ

คุณธรรมหลวงปู่ เราเองเป็นปุถุชนไม่อาจรู้ได้เเต่

พระอริยเจ้าสายหลวงปู่มั่นบางรูปเคยกล่าวว่า

หลวงปู่ถม ท่านเป็นพระจิตสูงเเละบารมีมากสมควรเเก่การกราบไหว้บูชา<!-- / message --><!-- edit note -->

เมื่อเกสาธาตุกลายเป็นพระธาตุ

เมื่อประมาณเกือบเจ็ดปีก่อนข้าพเจ้าได้เก็บเกสาหลวงปู่ถมอันเป็นเกสาธาตุที่เพิ่งปรงเสร็จใหม่ๆจึงขอท่านเก็บไว้บูชาเป็นมงคลรำลึกจำเนียรกาลเวลาผ่านไปปรมาณปีเศษ เกสาธาตุที่ได้รับมีการรวมตัวกันเกิดขึ้นเเละหลังจากนั้นเเปรสภาพเป็นเม็ดสีขาวคล้ายพระธาตุที่เคยเห็นจึง นำความนี้กราบเรียนถามหลวงปู่ถม เองโดยตรง ท่านกล่าวว่า ไม่รู้เหมือนกันมันก็เป็นอย่างที่เห็นนั่นเเหละเเละท่านก็หัวเราะอย่างอารมณ์ดีเเละท่านชวนคุยเรื่องอื่นไม่ได้คุยเรื่องเกสาเเปรเป็นพระธาตุอีกเลย

หลวงปู่ถม ท่านเป็นพระไม่โอ้อวดคุณธรรม ท่านเองเคยบอกว่าเธอจำเอาไว้นะอย่าอยากเอาชนะคน โบราณเขาว่า เเพ้เป็นพระ เมตตาต่อกันดีกว่า มหาอุตจ์ก็ดีเเต่สู้เมตตาไม่ได้ ฉันเสกมหาอุตจ์ได้เเต่ฉันหนะชอบเมตตามากกว่า ดีที่สุด
<!-- / message -->
<!-- / message -->

 

เมื่อลูกอมเนื้อผงอธิษฐานจิตขึ้นพระธรรมธาตุ

เมื่อครั้งผมกราบเรียนถามเรื่องเกสาธาตุเป็นพระธาตุให้หลวงปู่ถมฟังเเละพระเลขาท่านนั่งฟังอยู่ได้ยินเรื่องพระธาตุท่านจึงนำลูกอมเเช่น้ำพระพุทธมนต์ที่หลวงปู่เสกจนมีสิ่งมหัสจรรย์เกิดขึ้นคือพระธาตุขึ้นที่ลูกอมไม่ใช้เพียงเเค่เกล็ดเท่านั้นเเต่เป็นเม็ดๆเลยทีเดียวเเน่นอนว่าไม่ใช่เหตุบังเอิญเป็นเเน่เมื่อกล่าวถึงเรื่องนี้ทีไรหลวงปู่ท่านจะยิ้มเเล้วเปลี่ยนเรื่องคุยทันที

 

ทุกองค์จะอุดผงตะไบพระกริ่งวัดสุทัศนเทพวรารามสมัยสมเด็จพระสังฆราชเเพ
เเละผงตะไบชนวนพระชินราชอินโดจีนปี2485


โดยผงตะไบชุดนี้เป็นผงตะไบที่ได้จากก้านชนวนพระชินราชอินโดจีนดั้งเดิมสมบัติของ
หลวงปู่ถม วัดเชิงท่า ลพบุรี ซึ่งท่านได้เคยไปศึกษาสมัยเป็นพระภิกษุหนุ่มที่วัดสุทัศน์ซึ่งทันสมเด็จพระสังฆราชเเพนั่นเอง


รายนามพระที่มาในครั้งเมื่อปี2485
มีสมเด็จพระสังฆราช (แพ) วัดสุทัศน์ นั่งกลางเป็นประธาน นอกจากนั้นก็เป็น หลวงพ่อแช่ม วัดตาก้อง หลวงพ่อจง วัดหน้าต่างนอก หลวงพ่อเปลี่ยน วัดใต้ กาญจนบุรี หลวงพ่ออี๋ วัดสัตหีบ หลวงพ่อเหลือ วัดสาวชะโงก หลวงพ่อพริ้ง วัดบางปะกอก หลวงพ่อดิ่ง วัดบางวัว หลวงพ่อจันทร์ วัดบ้านยาง หลวงพ่อจาด วัดบางกระเบา หลวงพ่อรุ่ง วัดท่ากระบือและหลวงพ่ออ๋อย วัดไทร เป็นต้น
<!-- / message --><!-- edit note -->