ปัญหาเรื่องรับพระราชทานปริญญาบัตร ขอคำปรึกษาค่ะ

ในห้อง 'ทุกข์และปัญหาชีวิต' ตั้งกระทู้โดย ppc801, 6 มิถุนายน 2012.

  1. ppc801

    ppc801 สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    3
    ค่าพลัง:
    +10
    ตอนนี้เรียนจบแล้ว เหลือแต่รับพระราชทาน

    แต่หนูตั้งใจจะไม่รับพระราชทานค่ะ ถือว่าบาปไหมค่ะ T_T

    เพราะมีปัญหาเรื่องเงิน ตอนที่เรียนอยู่ พ่อกับแม่พยายามหาเงินให้หนูเรียนจนจบ เหตุการณ์แบบนี้มันเกิดขึ้นซ้ำไปซ้ำมา บางครั้งต้องไปยืมเค้าเป็นหนี้ก็มี
    ซึ่งพ่อหนูเค้าติดหนี้มากทั้งกู้นอกและกู้ใน โดนหักลบไปจนตอนนี้เหลือแค่เดือนละ 5000 ไม่พอกิน ไม่พอใช้จ่าย จนต้องยืมเงินคนอื่นแล้วใช้วิธีหมุนเงินเอา แต่ก็ยังไม่พอ ส่วนแม่หาได้วันละ 200-500 บางวันก็ไม่ได้

    ตอนหนูอยู่ปี 4 ได้ขอพ่อกับแม่ไปอยู่หอนอก เพราะต้องทำโปรเจคจบ(ต้องใช้เน็ต) ซึงช่วงที่อยู่ ใช้เงินเยอะมากๆค่ะ ค่าหอมันแพง หนูเลยรู้สึกแย่ไปด้วย เค้าพยายามหาเงินมาจ่ายค่าหอ ยืมเงินคนอื่น บางครั้งพ่ออดข้าวก็มี T^T... หนูพยายามช่วยหาเงินไปด้วย เป็นเด็กเสริฟร้านไอติม แต่ก็ยังไม่พอจ่าย

    พอจนเรียนจบแล้ว หนูเลยมาคิดว่าไม่อยากรับพระราชทานเลย เพราะต้องเป็นแบบเดิมอีก เค้าต้องมานั่งหาเงิน ยืมคนอื่นอีก จนตอนนี้หนูได้งานทำแล้ว แต่ก็ยังไม่อยากรับพระราชทาน อยากหาเงินช่วยใช้หนี้พ่อแม่มากกว่า

    ซึ่ง ที่หนูรู้มา คือ ต้องรอคนรับเดินให้หมด ร้อนก็ร้อน เหนื่อย ดีอย่างเดียวคือได้ถ่ายรูปกับเพื่อนๆพี่ๆน้องๆ = = หนูเคยเห็นคนไม่รับพระราชทานอยู่ แต่ที่กลัวคือมันจะบาปติดตัวไหม...

    หนูลองคุยกับพ่อแล้ว เค้าบอกว่าได้ ไม่ว่าอะไร ตามใจเลย แต่ทางแม่ไม่ยอม เค้าจะให้รับ T^T... ซึ่งหนูไม่อยากรับเลย แต่ก็ไปขัดใจแม่เรื่องนี้อยู่หลายครั้ง หนูเลยไม่รู้จะทำยังไงดีค่ะ ใจไม่อยากรับอะ เราก็เรียนจบแล้ว หางานได้แล้ว ที่เหลือคือเอาเงินมาช่วย ดูแลพ่อแม่ ก็สุขใจแล้ว

    คำขอปรึกษาทีค่ะ จะทำยังไงดีค่ะ T^T
     
  2. ddman

    ddman เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    2,046
    ค่าพลัง:
    +11,941
    ก่อนอนอื่นขอชื่นชมท่านจขกท ที่มีปัญญามาก สมกับที่ได้จบการศึกษาระดับปริญญาจริงๆ ..ผู้ที่มีความคิดแยบคายหรือฉลาดคิดด้วยเหตุผลตามความเป็นจริงเช่นนี้"หาได้ยากเต็มที"ในปัจจุบัน..

    การเข้ารับปริญญาเพื่อถ่ายรูปนั้น ว่ากันที่จริงแล้วก็มิได้มีความจำเป็นในส่วนของการใช้เพื่อประกอบอาชีพอันใด ส่วนมากผู้เข้ารับก็เพื่อเก็บไว้ปลื้มในความสำเร็จของตน หรือไว้เป็นที่ระลึกถึงความสำเร็จของตนหรือลูกหลาน หรือ ไว้อวดโชว์ด้วยกิเลสมานะ แก่ผู้อื่น(เพราะมีการถ่ายภาพไว้เป็นหลักฐาน)....แน่นอนทีเดียวที่ผู้เข้าพิธีต้องมีค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูงเพื่อโอกาสที่พิเศษยิ่งเช่นนี้ ..

    ต่อคำถามที่ว่า
    ..หนูตั้งใจจะไม่รับพระราชทานค่ะ ถือว่าบาปไหมค่ะ T_T..นั้น ตอบได้ว่า ไม่เป็นบาปอกุศลอะไรๆใดๆโดยประการทั้งปวง.นะครับ..

    เพราะท่านจขกท ไม่ได้เบียดเบียนใครๆทั้งทางกาย วาจาหรือทางความคิด..

    เมื่อท่านจขกท พิจารณาแล้ว ไม่เห็นสาระของพิธีนี้ก็ไม่จำเป็นต้องเข้าร่วม เมื่อปรารภที่จะไม่ทำให้พ่อแม่เดือดร้อนด้วยการขวนขวายหาหนี้เพิ่มเพียงเพื่อการเข้าพิธีนี้ นี่กลับเป็น"มหากุศล"ที่เกิดพร้อมกับ"การมีปัญญาประกอบ" นี้เป็น"บุญ"ระดับfirst class ที่เกิดได้ไม่ง่ายนักในบุคคลทั่วไป หากบุญนี้นำเกิด ท่านจะเกิดในสุคติภูมิ เป็นผู้มีปัญญาฉลาดเฉลียว ไม่ถูกใครๆหลอกได้โดยง่าย...

    ส่วนการที่แม่ต้องการให้ท่านจขกทเข้าพิธีนั้น ก็คงต้องอธิบายให้
    แม่เข้าใจถึงเหตุผลของท่าน ..อย่างไรก็ตาม ท่านพึงเข้าใจดังนี้ว่า การที่แม่อยากให้ท่านเข้าพิธีนี้ก็เป็นเรื่องปกติ เพราะแม่เองก็ยังมีความต้องการเกี่ยวกับเรื่องหน้าตาหรือยังต้องการให้ใครๆชื่นชมอยู่ จะโดยตรงหรือผ่านท่านจขกท ผู้สำเร็จอุดมศึกษามาก็ตาม นี้เป็นเรื่องที่ชนส่วนมากให้ค่ามาก ท่านจขกท ก็พึงพิจารณาแล้วตัดสินใจไปตามที่เห็นควรด้วยปัญญาที่ท่านมีอยู่เถิด..

    หากท่านขัดใจ ไม่ทำตามที่แม่ประสงค์ ก็พึงทราบว่า นี้ก็ไม่ได้เป็นบาปกรรมอันใด เพราะท่านเพียง ไม่ทำตามอำนาจตัณหาบงการของแม่ ข้อที่ท่านเบียดเบียนทำให้แม่เดือดร้อนนั้น"ไม่มี" มีแต่เบียดเบียน"กิเลส"คือความอยากของแม่ เท่านั้น พึงทราบความโดยนัยตามหลักการของพระอภิธรรมดังนี้แล..

    ขอแสดงความยินดีแก่"บัณฑิต"ใหม่ผู้มากด้วยสติปัญญาัอันยิ่งยวดด้วยในโอกาสนี้ ขอให้ท่านประสบความสุขความสำเร็จในกุศลกิจทั้งปวงตลอดไปเทอญ..
     
  3. ppc801

    ppc801 สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    3
    ค่าพลัง:
    +10
    งืม ขอบคุณค่ะ แต่ปัญหาหลักๆของหนูคือ เรื่องเงินค่ะ ไม่อยากให้เค้าต้องมาดิ้นรนหาอีกแล้ว สุขได้แปปเดียวช่วงรับ+ถ่ายรูป แต่พอตอนหลังก็ต้องมานั่งทุกข์ เพราะไม่มีเงินกิน = =


    ขอบคุณพี่ ddman มากเลยค่ะ ^__^
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 6 มิถุนายน 2012
  4. ddman

    ddman เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    2,046
    ค่าพลัง:
    +11,941
    การ"เบียดเบียน"พ่อแม่ นี้ย่อมเป็นบาป... แต่การ"ขัดใจ"พ่อแม่ที่ไม่มีธรรมะ เอาแต่ใจตัว ต้องการเพียงให้ลูกทำทุกอย่างเพื่อสนองตัณหา กิเลสของตน ไม่คำนึงถึงความเดือดร้อนของลูกนั้น ไม่ได้เป็นบาปกรรมอันใด ..กลับจะเป็นการช่วยป้องกันพ่อแม่ให้พ้นจากการทำบาปเวรภัยแก่ตนต่อไปในเบื้องหน้า(ในอัตภาพต่อๆไป จะไปเป็นลูกที่ได้รับการบังคับกดดันจากพ่อแม่ของตนเช่นเดียวกันหรือทำนองเดียวกับที่ตนทำไว้กับลูกในปัจจุบัน).. เพราะพ่อแม่ก็ยังทำบาปหรือบุญทุกครั้งที่เกี่ยวข้องกับลูกอยู่ .


    หากการขัดใจพ่อแม่เป็นบาปทั้งหมดแล้ว เมื่อพ่อแม่สั่งเราให้ฆ่าสัตว์ ลักขโมย โกหก หรือค้ายาบ้าืฯลฯ เราก็คงต้องทำเรื่องที่ผิดศีลธรรมเพื่อไม่ให้เป็นบาปเวรกับพ่อแ่ม่กระมัง? !! บุญลักษณะนี้ ไม่มีในคำสอนของพระพุทธเจ้าแน่..ตรงข้าม ถ้าตามใจพ่อแม่ด้วยการทำตามที่พ่อแม่ต้องการ ก็เท่ากับทำบาปเวรภัยแก่ตน ๑ ส่งเสริมหรือ สนับสนุนทางไปนรกให้พ่อแม่๑ นับว่ากลายเป็นลูกอกตัญญูไปเสียอีก..

    บุญหรือบาป ไม่ได้เกิดเพราะขัดใจหรือตามใจใครๆ พระพุทธเจ้าตรัสสอนเรื่องกุศล(บุญ)และอกุศล(บาป)ไว้แล้ว อ่านรายละเอียดได้ที่นี่ครับ..
    http://palungjit.org/threads/กุศลกรรมบถ-๑๐-ตามพระไตรปิฎก.328526/

    </pre>ผู้ที่สดับพระธรรมที่ถูกต้องเท่านั้นจึงทราบหรือสามรถแยกแยะได้ว่า อันใดเป็นบุญหรือบาป ..ธารณชนพึงใช้วิจารณญานในการอ่านครับ..

    สำหรับท่านจขกท พึงยังปิติโสมนัสใจเจตนารมณ์ที่ " อยากหาเงินช่วยใช้หนี้พ่อแม่มากกว่า" อยู่เนืองๆ บุญเช่นนี้ จะชักนำให้ได้ลูกที่มีความคิดเกื้อกูลท่านเช่นกัน ในภายหน้า เมื่อท่านมีเจตนาเกื้อกูลพ่อแม่ ย่อมเป็นได้แต่บุญกุศลเท่านั้น เพราะท่านเป็นผู้มีความกตัญญูกตเวทีอย่างยิ่ง ขออนุโมทนาครับ..


     
  5. ddman

    ddman เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    2,046
    ค่าพลัง:
    +11,941
    เจตนาแสดงข้อธรรม"ที่ถูกต้อง"เพื่อประโยชน์แก่ธารณชน ย่อมมีผลคือการได้พบธรรมะที่ถูกต้อง ..

    หากผมทำให้ท่านไม่พอใจหรือโกรธ ก็กราบขออภัยด้วยครับ ..
     
  6. bluebaby2

    bluebaby2 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 กันยายน 2010
    โพสต์:
    2,471
    ค่าพลัง:
    +4,288
    มันอาจจะไม่มีความสำคัญกับคุณ แต่มันมีความสำคัญกับแม่คุณแค่ไหนเรื่องนี้
    เป็นปัญหาสำหรับคุณไหม ท่านจะลืมเรื่องที่คุณไม่ได้รับปริญญาเมื่อเวลาผ่าน
    ไปแล้วไม่คืดถึงมันอีกเลย หรือจะนึกเสียดายไปตลอด เรื่องนี้ก็ต้องดูให้ดีนะ
    เพราะถ้ามันไม่มีความสำคัญกับใครเลย ทุกคนจะลืมและไม่สนใจมันแม้แต่น้อย
    เมื่อเวลาผ่านไป ไม่มีใครพูดถึงเรื่องที่คุณรับปริญญาเลย ถ้าอย่างนี้การตัดสิน
    ใจของคุณที่ว่าจะไม่ไปมันก็ไม่กระทบใครเลยทั้งตัวคุณเองและคนอื่นในบ้าน
    แต่ถ้ามันสำคัญกับแม่คุณมากๆ คุณก็อาจจะต้องทบทวนว่าการเสียเงินและเวลา
    อาจจะมากซักหน่อยคุ้มกันไหม ก็ลองพิจารณาดูครับ
     
  7. wainkam

    wainkam เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 กันยายน 2011
    โพสต์:
    757
    ค่าพลัง:
    +881
    ทำเพื่อแม่สักครั้งแล้วก็ผ่านไปมีความสุข ดีกว่าต้องมานั่งทุกข์กับความเสียใจของแม่ :>
    เงินทองของนอกกายหาใหม่ใด้เพื่อความสุขแม่ พ่อแม่คือพระอรหันของลูกนะครับ ทำตามใจท่านไปเถิดแล้วดีเอง :>

    PS เงิน 2-3 พัน ดีกว่ามานั่งฟังท่านบ่นเป็นปีๆนะครับ ;)
     
  8. โมทนาman

    โมทนาman เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    5,665
    ค่าพลัง:
    +6,165
    รับพระราชทานปริญญามันต้องเสียเงินด้วยหรือ
     
  9. Natthakorn

    Natthakorn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 เมษายน 2008
    โพสต์:
    2,003
    ค่าพลัง:
    +7,078
    เรื่องบาปนั้นคงไม่บาปหรอกครับ ^^

    ส่วนเรื่องรับนั้นต้องถามว่าที่บ้านอยากให้เข้าพิธีพระราชทานไหม

    ถ้าคุณพ่อคุณแม่ไม่ว่าอะไร

    ผมก็ว่าไม่จำเป็นต้องรับหรอกครับ เพราะว่ามันเปลืองมาก และเปลืองโดยใช่เหตุ ค่าชุด

    ค่าแต่งหน้าทำผม ค่าถ่ายรูปกรอบ เลี้ยงน้องเลี้ยงอะไรอีกมาก จิปาถะ สาระพัด หมดเป็น

    หมื่น ขั้นต่ำก็หลายพัน สังคมเราสร้างกรอบความคิดค่านิยมกันฟุ่มเฟือยหลายอย่างขึ้นมาเอง ลำพังแค่การับพระราชทานคงไม่มีอะไรมากแต่สิ่งต่างๆที่พ่วงเข้ามาต้องเสียค่าใช้จ่ายมาก ที่อยู่ที่กิน การเดินทางอีก

    รับแล้วก้ไม่ได้การันตีว่าเราจะมีงานดีๆทำใช่ไหมครับ รับแล้วก็ไม่ได้การันตีว่าเราเปนคนดี

    สุดท้ายก็จบเหมือนกัน สู้เราตั้งใจทำความดี หางานดีๆช่วยเหลือที่บ้านจะดีกว่าครับ อันนี้พ่อแม่น่าจะดีใจมากกว่ารูปถ่ายติดข้างฝาแน่ๆ


    ปล.ถ้าที่บ้านอยากให้เข้าพิธีรับ ก็เอาใจท่านนะครับ อย่าไปขัด (ลองคุยกับแม่ดูดีๆนะครับ)

    เป็นกำลังใจให้ครับ:cool:
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 7 มิถุนายน 2012
  10. KBLS

    KBLS เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    300
    ค่าพลัง:
    +280
    ถ้าไม่ใช่เหตุสุดวิสัย ก็ถือว่ายอมเสียสละและอดทนเพิ่มอีกนิดหน่อย

    ในอนาคตเผื่อคุณมีเงินมีเวลา แล้วคิดจะเปลี่ยนใจก็ทำไม่ได้แล้ว เพราะมันผ่านไปแล้ว

    อยู่ที่ใครจะให้ค่ามากน้อยแค่ไหน และคิดอย่างไร เท่านั้น
     
  11. ppc801

    ppc801 สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    3
    ค่าพลัง:
    +10
    เสียค่ะ
    ค่าน้ำมันรถไปกลับ 1,000 บ. ช่วงวันซ้อมย่อย 6 ครั้ง
    ค่า น้ำมันรถไป วันซ้อมใหญ่
    ค่าแต่งหน้า แต่งตัว ชุดครุย
    จ้้างคนถ่ายรูป (ไม่มีกล้องเองค่ะ)

    พอรวมๆ มันก็หลายบาทอะคะ



    ขอบคุณทุกๆคนมากเลยนะค่ะ จะเอาไปคิดให้รอบคอบเลยค่ะ ^__^

    ปล. เอ่อ...อย่าทะเลาะกันเลยนะคะ T_T
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 7 มิถุนายน 2012
  12. ชูนุ่น

    ชูนุ่น เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    520
    ค่าพลัง:
    +699
    [​IMG]

    คุณ<!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->rinchang<!-- google_ad_section_end --><SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_6230124", true); </SCRIPT> ดุเหมือนรูปเลยนะ555

    ควรไปรับค่ะ..คนเป็นแม่ อยากเห็นลูกรับปริญญาด้วยความภาคภูมิใจ หากว่าท่านต้องการควรรีบแทนคุณเสียตั้งแต่ตอนนี้ หากไม่ได้ไปรับ เราเกรงว่าจะติดใจท่านไปตลอดเชียวนะ..
    การรับปริญญา สามารถวางแผนการใช้จ่ายได้ ไม่ต้องใช้งบมากหรอก..แต่งหน้า แต่งเองได้ ออกแต่ค่ารถค่าชุดค่ากิน วางแผนก่อนจะเซฟเงินได้เยอะเลย..
     
  13. spharm

    spharm เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    133
    ค่าพลัง:
    +389
    ไม่รับปริญญามันบาปตรงไหนกันคุณ

    จริงๆรับปริญญาก็ค่าเช่าชุึด ค่ารถ (ถ้ามาจากต่างจังหวัดก็หมดเยอะหน่อย) แต่งหน้าทำผมเองก็ไม่เสียเงิน ส่วนรูปถ้ามีเพื่อนก็วานให้เขาช่วยถ่าย เดินตามเขาไป เขาคงไม่ใจร้ายขนาดไม่ยอมถ่ายให้หรอก คงไม่ต้องถึงขนาดจ้างช่างถ่ายรูปหรอกนะครับ น่าจะหมดเยอะ แล้วก็ไม่ได้เอาไปทำอะไร

    ถ้ามีเงินจะจ่ายก็รับไปเถอะ ถ้าไม่มีแล้วไปกู้เงินเขามาก็อย่าไปรับ ก็แค่นั้นเอง
     
  14. wainkam

    wainkam เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 กันยายน 2011
    โพสต์:
    757
    ค่าพลัง:
    +881
  15. โมทนาman

    โมทนาman เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    5,665
    ค่าพลัง:
    +6,165
    รูปตอนรับปริญญา ทางมหาวิทยาลัยน่าจะมีถ่ายให้นะ
    ช่างกล้องไม่ต้องไม่จ้างมันหรอก เอารูปตอนรับรูปเดียว
    การเดินทางถ้าใช้ระบบสาธารณะก็น่าจะประหยัดได้อีกเยอะ
    แต่งหน้า ไม่ต้องไปแต่งมันนักหรอก ล้างหน้าก็พอ
    ชุดครุยค่าเช่าก็ไม่น่าจะแพงมาก

    ถ้าไม่มีเงินจริง ๆ ไม่รับก็ไม่เป็นไร
    แต่ต่อไปจะเสียดาย
     
  16. สอ

    สอ สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 พฤษภาคม 2012
    โพสต์:
    6
    ค่าพลัง:
    +5
    ไม่บาปครับ... ค่าใช้จ่าย 4-5พันสำหรับคนที่ไม่มีจริงๆ มันเยอะมากน่ะครับ..
    และเหตุผลที่สำคัญที่สุดอีกอย่างคือ..ถ้าเราไม่ไปรับเราเองจะสามารถช่วยพระองค์ท่านให้เหนื่อยน้อยลงครับ..คนหลายพันหลายหมื่น เราจะภูมิใจแม้จะเป็นส่วนเล็กๆก็ตาม ค่อยๆอธิบายให้คุณแม่ฟัง ก็แล้วกันน่ะครับ ^^
     

แชร์หน้านี้

Loading...