เรื่องเด่น ประวัติพระครูปลัดเมตตา

ในห้อง 'พระเครื่อง วัตถุมงคล' ตั้งกระทู้โดย หลวงพ่อเมตตา, 15 มกราคม 2017.

  1. หลวงพ่อเมตตา

    หลวงพ่อเมตตา เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 พฤศจิกายน 2012
    โพสต์:
    525
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +738
    กว่าที่จะได้ประวัติท่านพ่อมาบันทึกและเรียบเรียงไม่ใช่เรื่องงาย ด้วยเพราะท่านพ่อไม่ค่อยเล่าเรื่องราวต่างๆให้ใครต่อใครฟังมากนัก ต้องอาศัยความพยายามในการจดบันทึก ในแต่ละตอนแล้วนำมาเรียบเรียงใหม่ หากเกิดความกังขาหรือสงสัยในตอนใดก็จะหาโอกาส ถามความชัดเจนจากท่านพ่อเอง ก่อนอื่นต้องขอบอกกับผู้อ่านทุกท่านว่าเป็นบทความที่ผู้เขียน บันทึกและเรียบเรียงขึ้นเอง ในบางตอนอาจไม่ชัดเจน ด้วยท่านพ่อได้บอกว่า บางอย่างพ่อไม่สามารถพูดอะไรได้มากนัก ด้วยเหตุผลต้นกรรม หรือวิบากกรรม กรรมลิขิตไว้ พ่อเป็นพระบ้านนอกไม่ได้เรียนหนังสือ ถ้าลูกๆได้รู้ ได้เห็นเหมือนที่พ่อได้รู้ ได้เห็น ก็จะเข้าใจพ่อมากขึ้น แต่ผู้เขียนพอที่จะจับต้นชนปลายในประวัติของท่านพ่อได้ดังนี้ ท่านพ่อเล่าว่า.

    โยมมารดาเล่าให้ฟังว่า ก่อนที่จะตั้งครรภ์นั้นท่านได้ฝันว่า หลวงพ่อถวิน สุวรรณโชติ พระเกจิคณาจารย์สายกรรมฐานแห่งวัดศรีแก้วได้นำเอาแหวนมาให้แก่ท่าน ท่านจึงรับเอาด้วยความตื้นตันใจ พอตื่นขึ้นท่านได้นึกถึงนิมิตนี้ว่าเป็นสิ่งที่ดี แล้วมีความรู้สึกว่าตนเองได้ตั้งครรภ์ เป็นแน่แท้ หลังจากนั้นเป็นระยะเวลา ๑๐ เดือนเต็ม โยมมารดาก็ได้ให้กำเนินบุตรชาย และโยมมารดาได้ให้นามว่า ทยุตธร นามสกุล พะวงษ์ ได้ถือกำเนิดเมื่อ วันพฤหัสบดี ที่ ๑๗ เดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ.๒๕๒๖ ตรงกับ ขึ้น ๖ ค่ำ เดือน ๔ ปี จอ บ้านเลขที่ ๐๑๔ หมู่ที่ ๑๒ ตำบลศรีแก้ว อำเภอศรีรัตนะ จังหวัดศรีสะเกษ นามบิดา นายถาวร พะวงษ์ นามมารดา นางสาริกา พะวงษ์

    -ในสมัยครั้งเยาว์วัย รางกายของฉันไม่แข็งแรงเหมือนเด็กคนอื่นนัก ประกอบกับเป็นถิ่นธุระกันดารห่างจากความเจริญ ชาวบ้านยังนับถือ เทวดา ภูตผี ตามถิ่นฐานบ้านเขมร เมื่อเกิดการไม่สบายเจียนไม่รอดแล้ว จึงได้อาศรัยใบบุญ หลวงพ่อนวล กิตติญาโณ เจ้าอาวาสวัดเกียรติแก้วสามัคคี นำเอาฉันไปถวายเป็นลูกท่าน เพื่อให้ท่าน ทำพิธีปัดเป่า ภูตผีที่มารังควาน หลวงพ่อนวล ท่านจึง ทำพิธีปัดเป่าเสกน้ำมนต์ ผูกด้ายคาถา ให้ ฉันจึงมีชีวิต จนถึงปัจจุบัน ได้สืบถอด ตำรา มหาเพชรกลับหนังเหนียว จากปู่ของตน คือนายบุญเทียน พะวงษ์


    เมื่ออายุครบเรียนประถมทางบ้านจึงให้ไปเรียนที่โรงเรียนบ้านศรีแก้ว จนถึงชั้น ป. ๖ แต่ตอนที่เรียนอยู่ ป.๕ ได้หนีออกจากบ้านมาเป็นลูกศิษย์วัดที่ วัดเกียรติแก้วสามัคคี จนเรียนจบชั้นปีที่ ๖ และในตอนที่เป็นลูกศิษย์วัดนั้นเอง ได้ขอครูบาอาจารย์ เรียนตำราโหราศาสตร์ จาก เจ้าอาวาส(ปัจจุบัน พระครูศรีรัตนาภิรักษ์ จอ.ศรีรัตนะ) และพ่อจารย์ วิเชียร กมล (น้องชายของหลวงพ่อนวล กิตติญาโณ) ได้มนต์คาถาวิชาต่างๆ บางส่วน จนชำนาญ สามารถดูดวงให้ผู้อื่นได้ ตอนอายุ ๑๓ ปี

    received_754870861324450.jpeg

    -บรรพชา เมื่อเรียนจบชั้น ป. ๖ แล้ว ทางบ้านมีฐานะยากจน ในสมัยนั้น ไม่มีเงินที่จะส่งลูกเรียนได้ ท่านพ่อเป็นลูกคนโต จึงคิดที่จะออกบวชเป็นสามเณร ให้น้องชายไปเรียนที่โรงเรียนมัธยมแทน จึงไปคุยกับทางมารดา มารดาจึงอนุญาตให้ออกบวช เมื่อวันพฤหัสบดี ที่ ๔ เดือนมีนาคม พ.ศ.๒๕๔๒ ตรงกับ แรม ๑ ค่ำ เดือน ๔ ปี ขาล ณ วัดจันทาราม ตำบลพิงพวย อำเภอศรีรัตนะ จังหวัดศรีสะเกษ นามพระอุปัชฌาย์

    พระครูอรรถกิจสุนทร (เสียง ธมฺมทินฺโน) เจ้าคณะอำเภอศรีรัตนะ

    สมัยนั้น หลวงพ่อพระครูรัตนภูมิพิจารณ์ พระมหาเถระแห่งอำเภอศรีรัตนะ ได้ย้ายวัดกลับจากวัด

    สำโรงระวี มาอยู่ที่บ้านเกิด คือวัดเกียรติแก้วสามัคคี ด้วย อายุ ๘๐ พรรษา ๖๐ ท่านชรามากแล้ว ท่านบอกว่าจะกลับมาตายที่บ้านเกิดของตน ดังนั้น ทางเจ้าอาวาส(ปัจจุบัน พระครูศรีรัตนาภิรักษ์ จอ.ศรีรัตนะ) จึงได้ส่งให้ท่านพ่อไปดูแลหลวงพ่อ พระครูรัตนภูมิพิจารณ์ อยู่กับหลวงพ่อ เพราะด้วยท่านพ่อก็มีฐานะเป็นหลานชายหลวงพ่ออยู่แล้ว จึงได้ไปอุปถากรับใช้ ท่าน และได้ศึกษา ตัวขอมเขมร จนได้สืบทอด วิชาคาถาอาคมต่างๆ พร้อมตำรา ต่างๆ จากหลวงพ่อพระครูรัตนภูมิจารณ์ อยู่กับหลวงพ่อได้ ๒ ปี หลวงพ่อก็มรณภาพ ท่านพ่อเป็นคนที่อยู่ดูแลหลวงพ่อที่โรงพยาบาลสรรพสิทธิ์ประสงค์ จ. อุบลราชธานี ๒-๓ สัปดาห์ ฉันอยู่กับหลวงพ่อจนลมหายใจสุดท้ายของหลวงพ่อ สิริอายุหลวงพ่อพระครูรัตนภูมิพิจารณ์ ๘๒ ปี พรรษา ๖๒ (ระยะ ๒ ปี ที่ได้อุปฐากและเรียนวิชาคาถาอาคม)

    ในช่วงนั้น มีพระมหาเถระอีกรูป รองจาก หลวงพ่อพระครูรัตนภูมิพิจารณ์ คือ พลวงพ่อพระครูสิริธรรมมงคล ทางเจ้าอาวาส(ปัจจุบัน พระครูศรีรัตนาภิรักษ์ จอ.ศรีรัตนะ) จึงได้ส่งให้ฉันไปดูแลหลวงพ่อ พระครูสิริธรรมมงคล อยู่กับหลวงพ่อ ได้ไปอุปถากรับใช้ ท่าน และได้ศึกษา ตัวขอมเขมรอยู่กับหลวงพ่อได้ ๑ ปี หลวงพ่อก็มรณภาพ ท่านพ่อเป็นคนที่อยู่ดูแลหลวงพ่อที่โรงพยาบาลศรีรัตนะ ๒ เดือน ท่านพ่ออยู่กับหลวงพ่อจนลมหายใจสุดท้ายของหลวงพ่อ สิริอายุหลวงพ่อพระครูสิริธรรมมงคล ๘๒ ปี พรรษา ๖๒ (ระยะ ๒ ปี ที่ได้อุปฐากและเรียนวิชาอักขระตัวขอม)


    -จากนั้นเมื่ออายุ ๑๗ ปี หนีไปอยู่ที่วัดกะเบาเดื่อ ไปอยู่รับใช้หลวงพ่อพระครูวัดกระเบาเดื่อได้เรียนอักขระขอมและมนต่างๆจากหลวงพ่อพระครูวัดกระเบาเดื่อ และไปเรียนแคล้วคลาด และลงน้ำมันอักขระ มนต์คาถา (คุณไสย์ มนต์ดำและอวิชชาต่าง) จากพ่อจารย์ คุณพระ บ้านกะเบาเดื่อ ตำบลกะเบาเดื่อ อ.ขุนหาร (ท่านเคยเป็นขุนโจร)จนหมดตำราวิชาที่จะสอน (ปัจจุบันท่านเสียชีวิตแล้ว สิริอายุ ๗๐ กว่าปี)


    -ในตอนนั้นออกจากวัดกะเบาเดื่อไปแสวงหาโชคลาภ ออกหาหวย-ของขลังต่างๆ-ของเก่าต่างๆ-ว่านต่างๆ-และเหล็กไหลตามสถานที่ต่าง และตนเองก็ไม่ใส่ร้องเท้าด้วย ตามเขตชายแดนลาว จังหวัดอุบลราชธานี,จังหวัดอำนาจเจริญ,จังหวัดมุกดาหาร เขตชายเดนเขมร จังหวัดศรีสะเกษ,จังหวัดศรีสุรินทร์,จังหวัดบุรีรัมย์

    -ไปเรียนวิชาเป่าสีผึ้งให้เต็มตลับ โยมยายเขมร ที่ บ้านนาตำบล แถวเขตชายแดนเขมร ใกล้บ้านแซรไปร์(เป็นคนเดียวที่ท่านบอกมนต์ และเรียนปากตอปาก) (ปัจจุบัน ท่านเสียชีวิตแล้ว สิริอายุ ร้อยกว่า ปี)

    -ไปเรียนวิชาสาลิกา และลงอักขระ มนต์คาถาวิชามหาเมตตาต่างๆ จากพ่อจารย์ เปรม บ้านละลม ตำบลละลม อ.ภูสิงห์ จนจบ ๓ คาบ จนหมดตำราวิชาที่จะสอน (ปัจจุบันท่านเสียชีวิตแล้ว สิริอายุ ๘๐ กว่าปี)


    -อุปสมบท อายุครบ ๒๐ ปี ทางเจ้าอาวาส(ปัจจุบัน พระครูศรีรัตนาภิรักษ์ จอ.ศรีรัตนะ) จึงจัดให้มีงานบวชและขอให้เลิก ใช้วิชา หาหวย,ของขลังต่างๆ จึงจะบวชพระให้ วันเสาร์ ที่ ๕ กรกฎาคม พ.ศ.๒๕๔๖ ตรงกับ

    ขึ้น ๕ ค่ำ เดือน ๘ ปีมะแม นามพระอุปัชฌาย์ พระเทพวรมุนี(วิบูลย์ กลฺยาโณ) เจ้าคณะจังหวัดศรีสะเกษ (ปัจจุบันมรณะภาพแล้ว) นามพระกรรมวาจาจารย์(พระมหาพนาวัลย์ จกกธมโม ปธ.๗)พระครูศรีรัตนาภิรักษ์ เจ้าคณะอำเภอศรีรัตนะ นามพระอนุสาวนาจาจารย์(พระมหาพิเชษฐ์ ถาวรธมโม ปธ.๖) พระครูเมธีกิตติสาร เจ้าคณะตำบลศรีแก้ว ณ พัทธสีมาวัดเกียรติแก้วสามัคคี ตำบลศรีแก้ว อำเภอศรีรัตนะ จังหวัดศรีสะเกษ

    ได้นามฉายาว่า ปริญฺญาโณ บวชพระ ได้ ๗ วัน เป็นเลขาเจ้าคณะอำเภอศรีรัตนะ(พ.ศ.๒๕๔๖-๒๕๔๗ แล้วลาออก)

    -ไปเรียนวิชาสาลิกา และมนต์คาถาวิชามหาเมตตาต่างๆ จากพ่อจารย์ ลี ดอนชัย บ้านโคกใหญ่ อ.ภูสิงห์ ก่อนท่านเสียชีวิต ๗ วัน ท่านมาหาที่วัด ขณะที่บวชพระ ได้ ๗ วัน ท่านลงวิชามหาเมตตา ๑ วัน ๑ คืน และเรียนปากต่อปาก จากนั้น ๗ วันท่านกลับไปเสียชีวิต ที่บ้านโคกใหญ่ (ปัจจุบันท่านเสียชีวิตแล้ว สิริอายุ ๙๐ กว่าปี)

    20161206_164550.jpg

    -ในตอนนั้นออกแสวงหาวิชาต่างๆ แต่เน้นกับ ครูบาอาจารย์ที่เป็นพระเถระเท่านั้น เช่น หลวงพ่อสายวัดตะเคียนราม,หลวงพ่อศิลา วัดโพนปลัด,หลวงพ่อเกลี้ยง วัดโนนเกด, และไปกราบครูบาอาจารย์ที่นับถือ เช่น หลวงปู่หงษ์ สุสานทุ่งมน,หลวงพ่อคูณ วัดบ้านไร้,หลวงปู่เหรียญ วัดอรัญญบรรพต แล้วกลับมาจำพรรษาที่บ้านเกิด

    -๒๕๔๗-มีญาติโยมมานิมนต์ไปจำพรรษาที่พักสงฆ์บ้านโคน เป็นที่พึ่งทางใจช่วยรดน้ำมนต์ เสกคาถาด้ายมงคล ช่วยเหลือทุกคนที่มาอาศัย นำชาวบ้านสร้างศาลาการเปรียญ สิ้นเงิน ๒ แสนกว่าบาท และกุฏิสงฆ์อีกหนึ่งหลัง ประมาณ ๕ หมื่นกว่าบาท ทั้งนี้มีคนบางกลุ่มไม่พอใจ จึงพากันโจมตีหลวงพ่อเมตตา และบังคับให้หลวงพ่อเมตตา ออกจากที่พักสงฆ์ จำต้องออกไปอาศัยอยู่กับ สานุศิษย์ ที่สวนมะขาม อ.หมวกเล็ก จ.สระบุรี ๑ เดือนเศษ แล้วรับนิมนต์ไปอยู่ที่ วัดคำใหญ่ อ.แก่งคอย จ. สระบุรี พาญาติโยม พัฒนาวัด บูรณะศาลาการเปรียญ และได้สร้างกุฏิ ๑ หลัง ประมาณ ๒ แสนบาท

    -๒๕๔๙ไปจำพรรษาที่วัดป้อมวิเชียรโชติการาม จ.สมุทรสาคร ตามคำชวนของพระภิกษุที่เจอกันบนรถไฟ

    ได้เรียนบาลีที่วัดป้อมวิเชียรโชติการาม เป็นนักเทศ นักบรรยาย ประจำวัด แต่สุดท้ายเมื่อถึงเวลาสอบบาลี ก็ไม่เข้าสอบ จึงขอย้ายกลับบ้านเกิดตามคำนิมนต์ของชาวบ้านวัดเกียรติแก้วสามัคคี

    พ.ศ.๒๕๕๒-ปัจจุบัน เป็นผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดเกียรติแก้วสามัคคี
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 24 มกราคม 2017
  2. หลวงพ่อเมตตา

    หลวงพ่อเมตตา เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 พฤศจิกายน 2012
    โพสต์:
    525
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +738
    ตอนมนต์คาถาวิชาอาคม

    **************


    เหรียญอดีตเจ้าอาวาสหลวงพ่อนวลวัดเกียรติแก้ว

    53.jpg


    เพื่อแจกงานผ้าป่า ปี ๒๕๕๓ ทางสาย ประเทศไต้หวันมาร่วมเป็น ประธานสายได้เหรียญ ไปบูชาทุกคน ในระหว่างเดินทางกลับ ทางสายประเทศไต้หวัน(ในประเทศ)เกิดอุบัติเหตุขึ้น แต่ทั้งนี้ไม่มีใครเป็นอาไร ปีถัดมาทางสายประเทศไต้หวัน มาขอบูชาเหรียญอดีตเจ้าอาวาสหลวงพ่อนวลวัดเกียรติแก้ว เอาไปเกือบหมด (จากประธานสายไต้หวันมาเล่าเหตุการณ์ให้ท่านพ่อฟัง)

    กุมารเมตตา

    (เป็นประสบการณ์ของพระหนุ่ม เณรน้อยที่อยู่กับท่านพ่อ)ทางศิษยานุศิษย์ที่เคยลางานมาบวชหลายคนต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า เคยโดนกุมารของหลวงพ่อเมตตาแกล้งจนไม่ได้หลับ ทั้งมาหยอก มาดึงขา และกระโดดข้าม บางคนเห็นเป็นตัวกุมารเลย.


    วิชาอาคม

    (จากเพื่อนสนิทหลวงพ่อเมตตาเล่าให้ฟัง) ใน พ.ศ. ๒๕๕๔ มีโยมมานิมนต์ไปพักที่บ้านริมเขื่อน

    สิรินธร จังหวัดอุบลราชธานี และในตอนกลางดึก ได้ฟันเห็นรุกเทวดา ๒ ตน มายืนดูหลวงพ่อเมตตา แล้ว รุกเทวดา ๒ ตน ได้คุยกันว่า พระรูปนี้ (หลวงพ่อเมตตา) ท่านมีวิชาอาคมแก่กล้ามากพวกเราทำอะไรท่านไม่ได้ดอก แล้วเพื่อนของหลวงพ่อเมตตา ก็ได้เล่าให้ฟ้งในรุ้งเช้า.

    พ.ศ.๒๕๕๕-๒๕๕๗ เป็นรักษาการแทนเจ้าอาวาสวัดตายู


    วัตถุมงคลด้านประสบการณ์

    GEDC1068.JPG


    ตะกรุด ศรพระนารายณ์

    (ประสบการณ์จากศิษย์ท่านพ่อ คือคุณประหยัด)ได้ตะกรุดจากท่านพ่อตอนเจิมรถคันใหม่ แล้วแขวนไว้ในรถกระบะมิสซู สีดำ ขากลับจากทำธุระที่ จังหวัดนครราชสีมา กลับมาถึงเขตอำเภอขุนหาร(นายประหยัด) ตนได้บีบแตรรถ ด้วยเหตุว่าแถวๆนั้นมีอุบัติเหตุบ่อยครั้ง และยังมีศาลเจ้า/ผ้าสีต่างๆผูกไว้ตามต้นไม้ เมื่อบีบแตรแล้ว ตนเองเกิดอาการหน้ามืดมองไม่เห็นทาง รถจึงเสียหลักตกทาง ไปพุ่งชนต้นไม้ใหญ่ด้านขวาของรถ(ฝังคนขับ)ด้านหน้าถึงท้ายรถ พังยับเปิดประตูไม่ได้ ตนจึงมาตรวจดูรางกายของตนเอง แต่ก็ไม่พบแม้แต่รอยถลอกสักที่

    หลังจากที่เครียร์ทุกอย่างได้ วันต่อทางญาติๆของตนจึงได้ไปดู บริเวณที่เกิดเหตุ และได้เขาไปหาหมอดู(รางทรงปู่ฤาษี) ทางรางทรงจึงบอกว่า มีภูตผีวิญญาณคิดจะลองของของตน แต่เคราะห์ดีที่บารมีหลวงพ่อเมตตา ช่วยไว้ได้ทันจึงไม่เป็นไร ทางรางทรงยังบอกอีกว่า ตนมีของดีติดตัว ทั้งในรถและในตัว ยังมีครูบาอาจารย์คอบปกป้องรักษาคุ้มภัยให้ ท่านคงเป็นพระภิกษุอย่างแน่นอน แต่ท่านยังไม่แก่ ดังนั้นตนจึงมาคิดทบทวนดูแล้ว จึงคิดถึงหลวงพ่อเมตตา เพราะว่า วันที่ออกรถนั้น ตนได้เอารถไปให้หลวงพ่อเมตตารดน้ำมนต์ และเจิม หลวงพ่อยังให้ตะกรุดดอกดำ ปิดทอง(ทราบในภายลังว่าเป็นตะกรุดศรพระนารายณ์) ไว้ในรถห้ามเอาออกจากรถ ยังให้ตนพกติดตัวตลอดอีกดอก หลวงพ่อช่วยผมไว้แท้ๆ

    15151607_1821809014733153_1962788967_n.jpg

    ตะกรุด ศรพระนารายณ์

    (จากประสบการณ์คนขับรถท่านพ่อตอนอยู่วัดตายู)ได้รับโทรศัพท์ จากท่านพ่อ ว่า รถเก๋ง ท่านพ่อ ที่กำลังออกไปงานกิจนิมนต์ที่จังหวัดอุบลราชธานี พอใกล้ถึงเขตบ้านจาน คนขับรถ(วันนั้นไม่มีคนขับอยู่ หลวงพ่อจึงให้นายสันติขับไป เป็นครั้งแรก) จึงออกตัวจะแซงรถสิบล้อ แต่กะระยะไม่ได้รถเก๋งจึงไปเฉียดหน้ารถสิบล้อ อีกประมาณ ๑ ศอกจะถูกท่านพ่อ(ท่านพ่อจะนั่งเบาะหลังตลอด) รถท่านพ่อเกือบพลิกแต่ยังตั้งลำอยู่ได้และเกือบโดนสิบล้อเหยียบ แล้วจากนั้นเมื่อหลวงพ่อเคลียทุกอย่างเสร็จจึงกลับมาที่วัน ยกเลิกกิจนิมนต์ที่ อุบล พอกลับมาถึงวัด จึงได้ไปรอดูท่านพ่อว่าเป็นอย่างไรบ้าง พอท่านพ่อมาถึงวัด ลงจากรถ แล้วบอกว่า พ่อไม่เป็นไรให้เอารถไปซ้อมที่ อู่ อำเภอขุนหาร ตนไม่เชื่อว่าหลวงพ่อไม่เป็นอะไรจึงไปจับดูที่แขน และขาของท่านพ่อ แต่ก็ไม่เห็นแม้แต่รอยถลอกเลย ทั้งๆที่รถแถบประตูด้านหลวงพ่อพังยับมาถึงไฟท้ายเลย.

    ภาพถ่าย0009.jpg

    ตะกรุด ศรพระนารายณ์

    เมื่อวันที่ ๑๕ มิถุนายน ๒๕๕๖ เวลา ๑๖.๐๐ น. ศิษย์ผู้ติดตามหลวงพ่อหลับมาจากกิจนิมนต์ พอมาถึงทางแยก อำเภอพยุห์ ในเวลานั้นมีรถติไฟแดงอยู่มาก(๑๐ กว่าคัน) ในเวลานั้นคนขับรถประจำหลวงพ่อขับไปเรื่อยๆ ทันใดนั้น รถคันหน้าเหยียบเบรกกระถันหัน คนขับจึงเหยียบเบรกเหมือนกัน(รถอีซูซุ แอดแวนเจอร์)แต่ด้วยรถใหญ่จึงมีกำลังลาก ไปพุ่งชนที่เดียวสี่คัน รถท่านพ่อเป็นคันที่ชนสุดท้าย ด้านหน้าฝากระโปงพับครึ่งหม้อน้ำแตก คนขับจึงหันไปดูท่านพ่อแต่เห็นท่านพ่อกระเด็นไปโดนเบาะหน้าอย่างแรง ตนจึงประครองหลวงพ่อขึ้นมานั่ง หลวงพ่อได้ถามว่า มีใครเป็นอะไรไหม พ่อไม่เป็นไร และท่านพ่อได้สั่งให้คนขับลงไปดู ว่าที่โดนชนมีใครเป็นอะไรบ้าง (ผู้เขียน)ได้ถามท่านพ่อว่า พ่อเป็นไรบ้าง “พ่อไม่เป็นไร” คือคำตอบของท่านพ่อ ท่านพ่อว่า ชนที่เดียวสามคันเลย คันที่ ๑ ท้ายยุบ คันที่ ๒ ท้ายยุบกันชนหัก คันที่ ๓ ด้านหน้าเป็นหนักคงผังมาก ด้านหน้ากับด้านหลังผังพอๆกัน คันสุดท้ายของเราฝาประโปงพับครึ่งหม้อน้ำ พัดลม แตกและพัง เกือบถึงตัวเครื่อง
    15554730_962243220587212_1289706721_n.jpg
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 19 มกราคม 2017
  3. หลวงพ่อเมตตา

    หลวงพ่อเมตตา เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 พฤศจิกายน 2012
    โพสต์:
    525
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +738
    จากใจสู่ปลายปากกาศิษย์ท่านพ่อเมตตา

    ********* 20161130_121213.jpg

    ความสามัคคีพร้อมเพรียงกันทำให้เกิดพลัง สร้างสิ่งใดก็จะสำเร็จสมดังความตั้งใจ หากคนในประเทศชาติบ้านเมืองสมานฉันท์สามัคคีกัน เชื่อมั่นว่าสามารถรักษาบ้านเมืองเอาไว้อย่างปลอดภัย สามัคคีทำให้คนไทยได้ปรองดองกันเป็นหนึ่งเดียว มิให้แตกแยกกัน หากเราใคร่ครวญตามเนื้อเพลง เราจะภาคภูมิใจในความเป็นไทย เพราะบรรพชนได้กลั่นกรองถ้อยคำมาให้ อนุชนรุ่นหลังได้สำเหนียกในเนื้อความ เพื่อป้องกันชาติไทยไม่ให้ตกเป็นของใครอื่น

    12987197_808751539269715_9149938159408415875_n.jpg
    เมื่อต้นเดือนสิงหาที่ผ่านมา ท่านพ่อ(หลวงพ่อเมตตา)ได้บอกทางคณะศิษยานุศิษย์ว่า จะมีคณะศิษย์กลุ่มหนึ่งที่ศึกษาอยู่ที่มหาวิทยาลัยราชภัฏศรีสะเกษ จะรวมกลุ่มกันออกมาในนาม ค่ายสายลมแห่งอาสา สานสัมพันธ์ สมานฉันท์ สู่ชุมชนตามแนวพระราชดำหริ ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในระหว่างวันที่ ๑๖-๑๘ สิงหาคม ๒๕๕๖ ประมาณ ๒๐๐ กว่าคน ที่สำนักหลวงพ่อเมตตา ทางคณะศิษย์เอกหลวงพ่อเมตตาได้มาปรึกษาหารือกัน จึงได้จัดที่ให้ไปพักที่โรงเรียนบ้านตายู ด้วยเหตุว่า ที่สำนักมีห้องน้ำ-ห้องสุขาไม่เพียงพอ และท่านพ่อ ได้กำชับมาว่า ให้ดูแลอย่าได้ขาดตกบกพร้องแม้แต่อย่างเดียว เพราะว่าเป็นลูกๆของหลวงพ่อทั้งหมด ที่มีพลังกำลังจะเป็นเยาวชนที่ดีของสังคม และประเทศชาติของเราในภายหน้า พวกเขาเหล่านี้จะเป็นคนที่มาพัฒนา หมู่บ้านชุมชน ในที่ต่างๆ

    12108289_722262181251985_3783700362494508045_n.jpg

    ในนามคณะศิษย์หลวงพ่อเมตตา ขอขอบคุณ คณะผู้บริหารมหาวิทยาลัยราชภัฏศรีสะเกษ ทีได้ให้ทางนิสิตนักศึกษา นำทีมโดย นายจัตุพล เกษร นายทนงศักดิ์ มะลิวงค์ และองค์กรนิสิตนักศึกษาทุกท่าน ที่มาพัฒนาชุมชนหมู่บ้าน-ร่วมแรงร่วมใจกันขุดลอกคลองทางส่งน้ำ ได้รวมกำลังเป็นพลัง มาทาสีศาลาการเปรียญให้ทางวัดหลวงพ่อจนเสร็จสมบูรณ์เรียบร้อยเป็นที่สวยงาม และระดมความคิดสติปัญญาทำแปลงปลูกผักให้เด็กนักเรียนของโรงเรียน ทำให้เด็กนักเรียนมีแรงบัลดาลใจที่จะพัฒนาหมู่บ้านชุมชนของตัวเอง และยังพากันสร้างเขตกั้นรั้วสระใหญ่ หนองสาธารณะ เพื่ออนุรักษ์ไว้ซึ่งธรรมชาติไว้คู่ชุมชน ยังมีผลงานอีกมากมายที่ยังสาธยายไม่หมด ซึ่งงานนี้ดูเหมือนท่านพ่อ จะดีใจเอามากๆ เพราะได้เห็นลูกๆ มาหาพร้อมกัน เป็น ร้อยๆ สังเกตจาก ท่านพ่อ ไม่รับงานนิมนต์ ข้างนอกเลย ในระยะเวลาที่ ค่ายอาสายังอยู่ ท่านพ่อจะไปดูแลด้วยตัวท่านเอง กลางคืนก็จะออกไปตรวจดูความเรียบร้อย เมื่อพักผ่อนกันหมดแล้ว ท่านพ่อก็จะกลับมาจำวัดที่สำนัก และสั่งกำชับให้ คณะศิษย์ออกไป รักษาความปลอดภัยให้กับลูกๆทุกคืน โดยเฉพาะคืนสุดท้ายท่านพ่อไม่ได้นอนเลย ท่านพ่อออกเวรเองเลย อยากจะให้น้องๆ นักศึกษา รับรู้ว่า ท่านพ่อของพวกเรา ทุ่มเทกับสานุศิษย์ ลูกๆทุกคน โดยที่ไม่เคยหวังสิ่งอื่นใด มาตอบแทน นอกจาก ให้ลูกๆ ออกไปเรียนรู้ด้วยตัวเอง รู้จักเจ็บ รู้จักแพ้ รู้จักแก้ไข และเก็บเกี่ยวประสบการณ์ มาสานฝัน ปณิธานของลูกเอง แล้งลงมือสานฝันนั้นให้เป็นจริง ท่านพ่อบอก ว่า ให้ลูกทุกคนให้ทำหน้าที่ของตัวเราให้ดี ก็พอ คือ เป็นลูกที่ดีของคุณพ่อคุณแม่ เป็นศิษย์ที่ดีของครูอาจารย์ และเป็นประชาชนที่ดีของประเทศชาติและบ้านเมือง “ความสำเร็จของชีวิตนั้น เป็นของคนที่เข้าใจ และพอใจ ในวิถีทางแห่งตน”(ท่านพ่อเมตตา)

    14322759_898771033601098_4014397353318609468_n.jpg


    ขอให้ทุกคนมีจิตมุ่งมั่นที่จะกลมเกลียวเหนียวแน่นในกลุ่มนักศึกษา มหาวิทยาลัยราชภัฏศรีสะเกษ ของเราโดยเริ่มที่ตัวเรา ครอบครัว หมู่บ้านชุมชน และประเทศชาติบ้านเมืองของเรา ให้เกิดความเจริญรุ้งเรืองยืนยง

    คงมั่นตลอดไป ให้เหนียวแน่นเหมือนก้อนข้าวเหนียว แต่อย่าทำตัวให้เหมือนก้อนข้าวเหนียวที่ถูกน้ำ ผลที่จะตามมาคือ ความพินาศ ของชาติเราเอง

    เป้ 2.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 16 มกราคม 2017
  4. หลวงพ่อเมตตา

    หลวงพ่อเมตตา เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 พฤศจิกายน 2012
    โพสต์:
    525
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +738
    ตอนหัวอกสมภาร

    *********
    IMG_2863.JPG

    เรื่องราวต่างๆเกิดขึ้นเมือมีคนหวังร้ายบางกลุ่มไม่พอใจที่ท่านพ่อเป็นผู้นำพาชาวบ้าน และคณะเยาวชนพัฒนาวัดวาชุมชน จนเป็นที่ยอมรับกันและดูเหมือนทุกอย่างต้องให้ท่านพ่อเป็นผู้ออกหน้าเสมอมา แต่ก็ไม่เป็นผลดีสำหรับผู้มีอิทธิผลบางคนที่กลุ่มของตนขาดความนิยมไป จึงได้หาเรื่องราวต่างๆมาใส่ความท่านพ่อ แต่ก็ไม่เป็นผลด้วยท่านพ่อไม่ยุ่งเกี่ยวกับเงินทองของกองกลางทางวัดอยู่แต่เริ่มแรกอยู่แล้ว และดูเหมือนว่า ท่านพ่อจะล้วงรู้ว่าจะมีเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้นในภายภาคหน้า ท่านพ่อจึงเตรียมการณ์ และระมัดระวังเป็นพิเศษ ซึ่งในการพัฒนาวัดหมู่บ้านชมชน และงานต่างๆ ท่านพ่อจะเอาเงินส่วนตัวของท่านที่ได้จากโยมทางกรุงเทพ และทางคณะศิษย์ถวายท่านพ่อไว้ใช้ส่วนตัว ท่านพ่อจะเอาในส่วนนี้มาพัฒนาส่วนต่างๆเสมอมา จนในบางครั้งท่านพ่อแทบไม่มีเงินติดตัวเลย ต้องไปหยิบยืมจาก สานุศิษย์ หรือ โยมที่ท่านพ่อรู้จักแบบสนิทสนมกันเพื่อมาพัฒนาทั้งคน เยาวชน และชุมชน ด้วยเหตุนี้ท่านพ่อต้องประสบกับปัญหาต่างๆเป็นอย่างมาก ในส่วนของเงินกองกลางผู้มีหน้าทีแทบไม่เคยให้ท่านพ่อเห็นตัวเงินด้วยเลย

    IMG_0157.JPG

    เมื่อปลายปี ๒๕๕๖ ทางคณะศิษย์จากกรุงเทพได้ทราบข่าวว่า สถานะท่านพ่อกำลังลำบากเป็นอย่างมาก จึงเดินทางออกมาหาท่านพ่อ ประมาณเกือบเที่ยงคืนตัวแทนคณะศิษย์ทางกรุงเทพมหานครเดินทางมาถึง(ผู้เขียนได้อยู่ในเหตุการณ์ด้วย) และได้ถามท่านพ่อว่า กราบนมัสการหลวงพ่อ ทุกวันนี้ หลวงพ่ออยู่สุขสบายดีหรือครับ ท่านพ่อนั่งนิ่งอยู่ระยะหนึ่ง จึงได้ตอบออกมาว่า ทุกวันนี้ พ่อไม่รู้ว่าสุข หรือทุกข์ ตัวแทนคณะศิษย์ทางกรุงเทพมหานคร จึงเป็นตัวแทนของพวกเรา นิมนต์หลวงพ่อย้ายออกจากที่แห่งนี้

    รุ้งเช้าวันต่อมา ท่านพ่อจึงได้เรียกศิษย์ผู้ใกล้ชิดทั้งหมดในเขตจังหวัดศรีสะเกษ มาปรึกษาหารือ จึงได้ข้อสรุปว่านิมนต์ท่านพ่อย้ายออกจากสถานที่ตรงนี้ ท่านพ่อจึงได้ปรึกษากับโยมที่อุถัมภ์ทางกรุงเทพ และก็ตกลงว่าย้ายออกไปอยู่ที่อื่น เมื่อเหตุการณ์เป็นเช่นนี้ พวกเราลูกๆสานุศิษย์จึงได้แบ่งหน้าที่กัน ดูแลท่านพ่อจนกว่าท่านพ่อจะมีที่พำนักแน่นอน ท่านพ่อในช่วงนี้ได้เร่ร่อน ไปในที่ต่างๆตามคำนิมนต์ ของทางคณะศิษยานุศิษย์ เช่น จังหวัดพิจิตร จังหวัดนครปฐม จังหวัดราชบุรี จังหวัดกาญจนบุรี จังหวัดปทุมธานี จังหวัดนครราชสีมา แต่ท่านพ่อไม่ยอมพักอยู่นาน ท่านพ่อบอกว่า ที่ตรงนี้มิใช้ที่ของพ่อ ตลอดระยะเวลา สี่เดือนที่ท่านพ่อออกหาวัดเพื่อตั้งสำนักใหม่ ทำให้สุขภาพของท่านพ่อแย่ลง และสุดท้ายท่านพ่อตัดสินใจกลับจังหวัดศรีสะเกษ

    IMG_1312.JPG

    ท่านพ่อพาไปเยี่ยมโยมแม่ที่บ้านเกิด
    โยมแม่ท่านถามว่า มีชาวบ้านโจทย์ กันว่า เรากินเงิน ของกลุ่มแม่บ้านตายู (เงินขายเห็ด) (ผู้เขียนได้บันทึกไว้ตอนที่ท่านพ่อคุยกับโยมแม่)ความจริงแล้ว โครงการเพาะเห็ดขอนนี้ เป็นโครงการที่เราเขียนเสนอเพื่อของมให้กลุ่มแม่บ้านตายูเอง มีเงินงบตกลงมา ๖๐,๐๐๐ บาท ซึ่งมีกลุ่มแม่บ้านถือเอาไว้ ที่แรกก็โตเถียงกันว่าให้เอาเงินมาแบ่งกันให้จบๆไป แต่เราบอกว่าเงินนี้เป็นของหลวงให้มาเพื่อเป็นทุนในการทำโครงการต่างๆ ของหมู่บ้านนี้ ก็เลยตั้งให้มีผู้ดูแล มากลุ่มหนึ่ง ที่จะทำตามโครงการที่นำเสนอไป และแล้วก็ได้ทำโรงเรือนเพาะเห็นขึ้นมา ตามแบบแปลนที่ เราได้เขียนเอาไว้ในการจ่ายนั้นๆ มีประธานแม่บ้านเป็นคนจ่าย ตามที่เรา ไปหา อุปกรณ์มา เช่นใผหญ้าคา-ไม้ไผ-ไม้ยูคา-ผ้ายาง-ผ้าเสลน-และค่าแรง มีขนาด 5x15 เมตร ร่วมเงินทั้งหมด ๖๐,๐๐๐ กว่าบาท (ตามรายการจ่ายที่บันทึกไว้ที่ประธานแม่บ้าน)
    ดังนั้น เงินไม่พอที่จะซื้อถุงเห็ด เราจึงขอกับโยมอุปฐากที่กรุงเทพ ให้เงินมา สองสามหมืน เพื่อซื้อเชื้อเห็ด ประมาณ สามร้อยกว่าถุง (ของเรา ๑๐๐ ถุง) ในการเก็บก็มีบัญชี การเก็บว่าในแต่ละวันได้ผลผลิตเท่าไร ใครเป็นคนเก็บและมอบให้ แม่บ้านท่านหนึ่งเก็บเงินที่ขายเห็ดได้ แต่แม่บ้านท่านนั้น บอกวาเราเป็นคนเอาเงิน ๗๐,๐๐๐ บาท และบอกกับเจ้าคณะอำเภอศรีรัตนะ ต่อหน้าสาธารณะชน จึงเป็นเหตุให้เกิดเรื่องดั้งกล่าวขึ้นทั้งหมู่บ้านและคณะสงฆ์ต่างก็พูดถึงเรื่องนี้ ทางเจ้าคณะอำเภอไปฟังการประชุมที่วัดตายูที่มีการฟองร้องเรื่องนี้ สรุปว่า "ไม่เป็นไรเรื่องเล็กเงินเจ็ดหมืนท่าน(หลวงพ่อเมตตา)หามาได้(คืน)"
    และเราเองก็ได้ไปชี้แจงให้เจ้าคณะอำเภอทราบที่มาที่ไปของเรื่องดังกล่าวแล้ว มลทินเรื่องราวต่างๆ จึงกลับกลายเป็นของท่านพ่อ ที่ต้องรับภาระในการชำระหนี้สินธุที่ได้นำมาพัฒนาวัดและชุมชน

    IMG_1084.JPG
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 16 มกราคม 2017
  5. หลวงพ่อเมตตา

    หลวงพ่อเมตตา เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 พฤศจิกายน 2012
    โพสต์:
    525
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +738
    IMG_0007.JPG

    ตอนวัดร้างกลางป่าอายุราว ๓๐๐ กว่าปี


    *********

    ท่านพ่อเมตตา เลาให้ฟังว่า...วันแรกที่มาเห็นสถานที่แห่งนี้ แทบไม่เชื่อว่ามันมีอยู่จริง เหมือนเคยเห็นในนิมิตแห่งความฝัน มันเป็นสภาพวัดร้างมาหลายร้อยปี มีพระสถูปเจดีย์ที่เก่าแก่ ยังคงสภาพเป็นฐานพระสถูปเจดีย์อยู่สูงราวประมาณ ๔-๕ เมตร เห็นจะได้ ฐานเป็นอิฐมอนแดง มีฐาน มีเอว เป็นรูปสี่เหลี่ยมจตุรัต ชาวบ้านแทบนี้เรียกกันว่า “สิมเก่า” (สีมา) โดยสภาพรวมเมื่อมองดูรอบๆก็จะเป็นป่าไม้ทั้งหมด มีต้นไม้ใหญ่ๆ เท้าล้อเกวียน อยู่หลายสิบต้น ในส่วนเขตแดนของวัดจะมีคูน้ำเก่าล้อมรอบมาจรดกันเป็นรูปสี่เหลี่ยมจตุรัต เมื่อสอบถามรายละเอียดจากชาวบ้านในละแวกนั้น จึงได้ทราบว่า สถานที่แห่งนี้ แต่สมัยก่อนเคยเป็นวัดเก่าแก่มีมานานหลายร้อยกว่าปี เคยมีหมู่บ้านอยู่ในละแวกนี้ ซึ่งมีชื่อว่า บ้านลิ้นฟ้า โดยมีวัดแห่งนี้เป็นจุดศูนย์รวมทางจิตใจแต่เนื่องด้วยเกิดโรคระบาทอย่างรุนแรง จึงเป็นเหตุให้ชาวบ้านต้องอพยพโยกย้าย ออกไปตั้งถิ่นฐานอยู่ทางทิศตะวันตกของวัดเก่าแห่งนี้ ห่างประมาณ ๓ กิโลเมตรกว่าๆ จึงเป็นเหตุให้วัดแห่งนี้ต้องร้างตามกาลเวลา

    IMG_0018.JPG

    ท่านพ่อได้เห็นเอกสารทางราชการ คือ –ใบโฉนดที่ดินวัด –ใบยกเป็นวัดร้าง ซึ่งในเอกสารมีใจความสำคัญว่า “วันที่ ๑๐ พฤศจิกายน พ.ศ.๒๔๙๘ ที่อยู่วัดบ้านเทิน ฮ้าง ยกเป็นวัดฮ้าง (วัดร้าง) อายุประมาณ ๒๕๐ ปี ผู้ครอบครอง พระสงฆ์ เมื่อ พ.ศ.๒๒๔๘ มีเนื้อที่ ๑๐ ไร่” ท่านพ่อพาเดินดูที่วัดเก่าตามคูน้ำสำรวจดู พื้นที่จริงๆ น่าจะประมาณ ๒๐ ไร่เศษ และยังคงมีของเก่าโบราณอยู่ หลายอย่างที่พอเป็นร้องรอยไว้เป็นหลักฐานได้คือ

    IMG_0012.JPG

    -พระสถูป ที่ทำด้วยอิฐมอนแดง วางเรียงกันเป็นรูปร่างพระสถูป หรือเจดีย์ ที่ยังคงสภาพเดิม อยู่ใจกลางพื้นที่ของวัดร้างเมืองเก่า แห่งนี้ พอแสดงเป็นหลักฐานได้ว่า ก่อนหน้านี้หลายร้อยปี ในสถานที่แห่งนี้ เคยเป็น วัดเก่าหรือเมืองเก่า อย่างแท้แน่นอน

    -บ่อน้ำโบราณ ที่ขุดด้วยแรงงานคน มีอิฐมอนแดงก่อขึ้นมา จากข้างล่างบ่อถึงปากบ่อ เป็นรูปวงกลม มีฐาน และที่สำคัญ ณ ปัจจุบันนี้ ก็ยังมีน้ำใสอยู่ตลอดฤดูกาล

    20140314_123215.jpg

    ก่อนหน้านี้มีพระภิกษุมาบุกเบิกอยู่หลายท่านด้วยกัน แต่ก็ไม่มีท่านใดอยู่ได้นาน มีเพียงแต่ ท่านอาจารย์ศักดิ์ที่ท่านเดินเรื่องของยกเป็นวัดที่มีพระภิกษุจำพรรษา ท่านอาจารย์ศักดิ์เมื่อท่านได้ทราบข่าวว่า ท่านพ่อเมตตา มีเหตุต้องย้ายออกจากวัดบ้านตายู ด้วยมีผู้คนกลุ่มหนึ่งใส่ร้ายป้ายสี ทำให้ท่านพ่อเมตตามีมลทิน ท่านอาจารย์ศักดิ์ จึงออกตามหาจนไปพบท่านพ่อที่วัดมหาพุทธาราม จึงเป็นเหตุให้ท่านพ่อเมตตาตัดสินใจออกมาสำรวจดูที่วัดแห่งนี้ ท่านพ่อเมตตาบอกว่าวัดร้างแห่งนี้ยังไม่มีเสนาสนะ หรือกุฏิ ศาลา คงมีแต่โรงศาลาเล็กๆที่ชาวบ้านออกแรงศรัทธาสร้างขึ้นเพื่อใช้ในกิจของสงฆ์ วัดร้างแห่งนี้ยังรอท่านผู้มีบุญที่จะมาสืบสานสร้างต่อ อาทิเช่น กุฏิ-ศาลา ห้องน้ำ-โรงครัว ฯลฯ ซึ่งวัดร้างแห่งนี้ เต็มไปด้วยแมกไม้ นา นา พันธ์ หลายอย่างหลายชนิด แต่ละต้น มีอายุหลายร้อยปี ยังคงสภาพป่าอย่างเห็นได้ชัดเจน เหมาะแก่การ ปฏิบัติธรรมกรรมฐาน เป็นอย่างมาก วัดแห่งนี้จึงมีชื่อในทางเอกสารทางราชการว่า วัดป่าบ้านเทินเก่า ตั้งอยู่ที่ บ้านลิ้นฟ้า ตำบลลิ้นฟ้า อำเภอยางชุมน้อย จังหวัดศรีสะเกษ

    15978942_977390992405768_1406898703_n.jpg
     
  6. หลวงพ่อเมตตา

    หลวงพ่อเมตตา เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 พฤศจิกายน 2012
    โพสต์:
    525
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +738
    20140314_122927.jpg

    วัดร้างกลางป่า ตอน ๒


    *********

    เสียงจักจั่นเรไร ร้องสนั่นดังก้องไปทั่วป่า เมื้อยามสนธยาล้วงลับดับขอบฟ้า พอพ้นเสียงสัตว์ป่าร้องยามเมื้อมืดสนิทในเวลายามราตรีกาล ทั่วทุกสารทิศถูกปกคลุมไปด้วยความมืดมิด แห่งราตรี แม้กระทั้งดวงดาวบนท้องฟ้านภากาศ ก็ไม่สามารถมองเห็นได้ชัดเจน ด้วยแมกไม้ นา นา พันธุ์ ที่แผ่กิ่งก้านสาขาปกคลุมเต็มไปหมด มีเพียงแสงเทียนกลิ่นธูปของท่านพ่อที่ยังคงอยู่ในยามราตรีกาลในคืนนี้.

    ระยะแรกตกกลางดึกในยามหลังจากที่ท่านพ่อ เจริญภาวนาสาธยายมนต์ และแผ่เมตตาให้ลูกหลานสานุศิษย์แล้ว ถึงเวลาต้องพักผ่อนนอนจำวัตร แต่ก็มิได้พักผ่อนตามเคย ด้วยสิ่งใดสิ่งหนึ่งที่ต้องการมารบกวน ด้วยเจตนาหรือไม่ ก็ไม่เป็นที่ทราบได้ พอแสงเทียนแห่งการเจริญภาวนาดับลง ตกดึกสงัดยามใกล้รุ้ง ก็มีสิ่งที่มองไม่เห็นมารังควาญ ทุบตีข้าวของเครื่องบริขาร ด้วยเมตตาบารมี ครูอุปัชฌาย์อาจารย์มาช่วยเหลือ เหมือนได้ยินเสียงมีคนมาทุบตี บริเวณด้านหัวนอน แต่ไม่โดน กลับกลายไปโดน เศียรพระนารายณ์ ทำให้ปลายชฎาหัก ตกลงมาพร้อมกับรูปพระอุปัชฌาย์พระเทพวรมุนี (วิบูลย์ กลยาโณ) และไม่ตะพดล้มฟาดกับบานหน้าต่าง ท่านพ่อจึงได้ตื่นลุกขึ้นมาดู แต่เมื้อพิจารณาดูแล้ว ไม่พบเห็นสิ่งใดปรากฏ มีเพียงแต่ ไม้ตะพดลม รูปพระอุปัชฌาย์ตกลงมา แต่ที่หน้าตื่นตกใจ คือที่เห็น เศียรพระนารายณ์ตกลงมาทำให้ยอดชฎาหัก

    IMG_0003.JPG

    ในคืนต่อมาก็มีเหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นอีกเป็นรอบที่สอง จำต้องเรียกให้ทางคณะศิษย์ทางในตัวเมืองศรีสะเกษ ออกมาซ่อมแซม กรอบรูปที่แตก และยอดเศียรพระนารายณ์ที่หัก หลายคืนต่อมา ก็มีเหตุการณ์แปลกๆเกิดขึ้นอีก แต่ครั้งนี้ไม่ได้ปรากฏในห้องของท่านพ่อ แต่เป็นบนหลังคาของกุฏิที่ท่านพ่อพักอาศัย เหมือนว่ามีสิ่งที่ใหญ่และหนักตกลงมาบนหลังคา เสียงดังประหนึ่งว่าเสียงประทัดก็มิปาน มันตกลงมาเหมือนห่าฝนแทบไม่ขาดสาย แต่ท่านพ่อมิได้ออกไปดู ยังคงนั่งเจริญสมาธิภาวนา ตามกิจวัตรของท่านพ่อต่อไป รุ้งเช้าจึงได้ออกตรวจตรา แต่ก็หาพบกับสิ่งใดไม่ มีเพียงแต่สังกะสีที่ยุบตัวลง เป็นร้องรอยหลายที่หลายจุด ทั้งๆที่เมื้อคืนก็ไม่มีที่ท่าว่าจะมีลมแรง หรือฝนตกแต่อย่างใด.

    ท่านพ่อบอกว่า... คงเป็นเพราะเจ้ากรรมนายเวรหรือสิ่งใดสิ่งหนึ่งในเขตวัดร้างกลางป่าแห่งนี้ ตามมารังควาญรบกวนลองใจเป็นแน่แท้.

    IMG_0036.JPG

    แต่เนื่องจากทางวัดเกียรติแก้วสามัคคี ได้ขอนิมนต์ท่านกลับมาจำพรรษาที่วัด ในปี พ.ศ.๒๕๕๗ ท่านพ่อจึงรับนิมนต์ กลับมาจำพรรษาที่วัดเกียรติแก้วสามัคคี จนถึงปัจจุบันนี้

    30042012695.jpg
    15731225_388416681500284_939223474_n.jpg
    13241272_831940773617458_1726563530810402959_n.jpg
    13428020_842324809245721_5549724643513761883_n.jpg
    15978942_977390992405768_1406898703_n.jpg
    15192676_946653502146184_2052656783625526288_n.jpg
    20151016_005327-1.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 18 มกราคม 2017
  7. หลวงพ่อเมตตา

    หลวงพ่อเมตตา เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 พฤศจิกายน 2012
    โพสต์:
    525
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +738
  8. หลวงพ่อเมตตา

    หลวงพ่อเมตตา เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 พฤศจิกายน 2012
    โพสต์:
    525
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +738
    IMG_0894.JPG

    IMG_0896.JPG

    IMG_0904.JPG

    IMG_0860.JPG

    20151016_005327-1.jpg
     
  9. หลวงพ่อเมตตา

    หลวงพ่อเมตตา เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 พฤศจิกายน 2012
    โพสต์:
    525
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +738
    15782340_990295381115391_983630880_n.jpg

    อ่านบทกลอน ก่อนนอน ย้อนให้คิด
    ใช้ชีวิต อย่างไร ให้คุ้มค่า
    ไม่เสียชาติ กำเนิด ที่เกิดมา
    รอชะตา หรือว่า กำหนดเอง

    บางคนเชื่อ โชคชะตา ฟ้ากำหนด
    ยอมตามกฎ ปล่อยไป ไม่รีบเร่ง
    บางคนฝืน ลิขิตฟ้า ข้าทำเอง
    หนึ่งสมอง สองมือเก่ง เร่งทำเอา

    ชีวิตหนึ่ง ที่เกิดมา มีค่าเหลือ
    จงอย่าเชื่อ สิ่งลี้ ที่โง่เขลา
    สร้างกรรมดี เว้นกรรมชั่ว ไม่มัวเมา
    คงบรรเทา กรรมเก่า ที่เข้ามา

    ความมั่งมี ดีชั่ว ล้วนตัวสร้าง
    จงอย่าอ้าง ชีวิน เพราะดินฟ้า
    จงใช้สิทธิ์ ชีวิตนี้ ที่ได้มา
    พิสูจน์ค่า ว่ากูแน่ ไม่แพ้ใคร

    972140_269623419846403_507167374_n.jpg
     
  10. หลวงพ่อเมตตา

    หลวงพ่อเมตตา เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 พฤศจิกายน 2012
    โพสต์:
    525
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +738
    เป้.jpg
    จึงขอเจริญพร เรียนเชิญ เช่าเหรียญ รุ่นเมตตาสมปรารถนา 59
    เพื่อสมทบทุน บุรณะกุฏิสงฆ์ ดังกล่าวในข้างต้น ตามรายการดังนี้

    16176978_982741838537350_1387475431_n.jpg
    เนื้อเงิน สมทบทุนบูรณะ 1500 บาท

    15380538_954479801363554_7948250630073119411_n.jpg
    เนื้ออัลปก้า สมทบทุนบูรณะ 300 บาท

    15390803_954479938030207_1550119920137608669_n.jpg
    เนื้อทองแดง สมทบทุนบูรณะ 200 บาท

    15554730_962243220587212_1289706721_n.jpg
    เนื้อทองแดง รุ่นมหาเวทย์เมตตา 55
    สมทบทุนบูรณะ 300 บาท

    15086319_938766642934870_33326225_n.jpg
    หรือร่วมทำบุญตามความประสงค์ ได้ตามบัญชีนี้
     
  11. หลวงพ่อเมตตา

    หลวงพ่อเมตตา เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 พฤศจิกายน 2012
    โพสต์:
    525
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +738
    พิธีปังออกเปรียะแค

    วัน.jpg


    พิธีปังออกเปรียะแค หรือ พิธีเสี่ยงทายฟ้าฝน ไหว้พระจันทร์เพ็ญเดือน 12 แรกเริ่มเดิมทีมีมาแต่คราใดไม่เป็นที่ทราบ เนื่องจากปู่ยาตายาย คนเฒ่าคนแก่ได้พากันทำสืบๆกันมา ในเขตพื้นที่ อีสานตอนใต้ มี สุรินทร์ ศรีสะเกษ ในเขตถิ่นฐานชุมชนเขมร ด้วยเหตุ ในเดือน 12 เป็นฤดูเก็บเกี่ยวผลผลิต จำต้องหาข้อมูลในการทำการเกษตร เพื่อที่จะได้เตรียมการในปีทัดไป จึงได้กำหนด ในวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 12 เป็นวันเสี่ยงทาย

    12299370_741195492691987_1975436738626588225_n.jpg

    ในชุมชนบ้านเขมร จะนับเดือน เมษา เป็น เดือน ๑ ถึง เดือน 12 (มี 8 เดือน) อีก 4 เดือน จะนับรวมกัน (เมียะตูจ คือ ธค. กับ มค. นับรวมกัน สองเดือน) (เมียะโทม คือ กพ.กับ มีค.) สันนิฐานว่า 4 เดือนนี้ เป็นเวลาที่ ว่างเว้นการการเกษตร จึงไม่มีการเสี่ยงทาย คือ ไม่นับเขาใน 12 เดือน

    ถึง วันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 12 ภาค เช้ามีการทำบุญตักบาตร ตามปกติในวันพระ ตกภาคบ่าย คนเฒ่าคนแก่ จะมาเตรียม สถานที่ สำหรับพระเจริญพระพุทธมนต์ ที่ บวงสรวง และ หัวใจหลัก คือ การฝั่นเทียนขี้ผึ้ง ขนาดยาว 1 ศอก จำนวน 8 เล่ม (ตามโบราณ ชาวบ้าน จำทำมาเอง คนล่ะ 1 เล่ม แล้วจะเอามา แบ่งเป็น 8 ส่วน ฝั่นรวมๆกัน)

    4.jpg

    กำหนดการยึดตามโบราณ คือ ดูจาก พระจันทร์ขึ้นเต็มดวง (23.30 น.- 00.30 น) บางชุมชนจะบวงสรวงตั้งแต่ ภาคค่ำ เหมือนพิธีบวงสรวงทั่วไป จานั้น รอพระจันทร์ขั้นเต็มดวง เริ่มประกอบพิธีพระสงฆ์ เจริญพระพุทธมนต์ และมีการทำบุญตักบาตรอีกรอบ แต่ รอบนี้ เป็นการใส่ ข้าวสาร หรือ ข้าวเม้าดิบ (ปังออกเปรียะแค แปลตามตัวภาษา คือ กรอกพระจันทร์ /น่าจะเป็นจุดเริ่มเรียกเป็นชื่อพิธีตามการปฏิบัติ)

    หลังจาก พิธีการต่างๆเสร็จก็ พระจันทร์ขึ้นตรงตัวพอดี ผู้เฒ่าในพิธีจะเริ่ม เชิญเทพยดามาสถิต ในหลัก เพื่อเริ่ม พิธีเสี่ยงทาย เริ่มนับ เทียน เป็นการบอก จุดเริ่ม (เดือน 5 ถึง เดือน 12) จึงจุดเทียน ให้ครบทั้ง 8 เล่ม จากนั้น จะหมุน เทียนขึ้น แล้ว นับเดือนอีก เริ่มหมุนขึ้นและ นับเดือน ทำแบบนี้ 3 ครั้ง เมื้อครบ สุดท้าย จะหมุนเทียนลง

    15055746_937993476345520_1455842383880321943_n.jpg

    การเสี่ยงทายจะดูจากหยดน้ำตาเทียน ที่หยดลง พร้อมไฟที่ติดตกลงมา ในเวลากลางคืน แลจะมีเสียงคล้ายๆ กบเขียดร้อง ยินเสียง เอียดๆๆ ในเวลากลางคืนจะมองเห็นชัดเจน เดือนใด ตกมาก เอนใดตกน้อย ก็เป็นที่ สรุปกัน อีกประการหนึ่ง บนพื้นจะมีใบตองรองรับ น้ำตาเทียนที่หยดลง ฟังดี จะได้ยินเสียง เปาะแปะๆ เหมือนหนึ่ง ยินเสียงฝนตกก็มิปาน

    3.jpg

    พระครูปลัดทยุตธร/ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดเกียรติแก้วสามัคคี/เรียบเรียง
     
  12. หลวงพ่อเมตตา

    หลวงพ่อเมตตา เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 พฤศจิกายน 2012
    โพสต์:
    525
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +738
    กุศลบุญงานอุปสมบท วาระ ที่ 2 / 2560
    8-9 กุมภาพันธ์ 2560
    16298921_1209962442433097_959744932933601789_n.jpg


    16298552_1209962569099751_3476599647459643473_n.jpg


    ด้วยคณะ สานุศิษย์มีจิตที่เป็นกุศล จึงยอมบวชเข้ามาในบวรพุทธศาสนา จึงได้รับร่วมเป็นผู้ดำเนินการ จึงขอเชิญ/เจริญพร ร่วมบุญในครั้งนี้ ตามความปรารถนานั้น เทอญ.
    พระครูปลัดทยุตธร
     
  13. หลวงพ่อเมตตา

    หลวงพ่อเมตตา เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 พฤศจิกายน 2012
    โพสต์:
    525
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +738
    กุศลบุญงานอุปสมบท วาระ ที่ 2 / 2560
    8-9 กุมภาพันธ์ 2560
    เปิดดูไฟล์ 3788414


    เปิดดูไฟล์ 3788415


    ด้วยคณะ สานุศิษย์มีจิตที่เป็นกุศล จึงยอมบวชเข้ามาในบวรพุทธศาสนา จึงได้รับร่วมเป็นผู้ดำเนินการ จึงขอเชิญ/เจริญพร ร่วมบุญในครั้งนี้ ตามความปรารถนานั้น เทอญ.
    พระครูปลัดทยุตธร
     
  14. หลวงพ่อเมตตา

    หลวงพ่อเมตตา เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 พฤศจิกายน 2012
    โพสต์:
    525
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +738
    กุศลบุญงานอุปสมบท วาระ ที่ 2 / 2560
    8-9 กุมภาพันธ์ 2560
    เปิดดูไฟล์ 3788414


    เปิดดูไฟล์ 3788415


    ด้วยคณะ สานุศิษย์มีจิตที่เป็นกุศล จึงยอมบวชเข้ามาในบวรพุทธศาสนา จึงได้รับร่วมเป็นผู้ดำเนินการ จึงขอเชิญ/เจริญพร ร่วมบุญในครั้งนี้ ตามความปรารถนานั้น เทอญ.
    พระครูปลัดทยุตธร
     
  15. หลวงพ่อเมตตา

    หลวงพ่อเมตตา เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 พฤศจิกายน 2012
    โพสต์:
    525
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +738
    กลับมาเริ่มต้นจากติดลบ

    *********
    15094305_939475279530673_5055925005746364647_n.jpg

    กาลเวลาผ่านมานานหลายเดือนกลายเป็นปี จนตัดสินใจกลับมาวัดบ้านเกิด มีเพียงบาตรแลจีวรเท่านั้นที่ติดกายมา พร้อมภาระอันหนักมีเรื่องราวมากมายหลายอย่าง ที่ยังค้างคาอยู่ แต่ยังไม่พร้อมที่จะปลดแอกนั้นออกไปได้ พยามยามเก็บตัวเงียบในคณะกุฏิตะวันตก เป็นระยะเวลานับเป็นปีๆ บัดนี้เรื่องราวต่างๆจำพอควรแก่การรับรู้ได้แล้วพอสังเขป ด้วยความที่ศึกษาเล่าเรียนด้านคาถาอาคมมาพอควร จบจนครูอาจารย์ หมดลมหายใจ ตายหนีจากไปเกือบหมดแล้ว แลยังเคยสร้างวัตถุมงคลของครูอาจารย์ไว้แล้ว 2-3 รุ่น แต่การสร้างวัตถุมงคลนั้นย่อมต้องมีการลงทุน เมื่อทำแล้วต้องใช้เงิน เมื่อไม่มีเงินจำต้องหา เมื่อหาไม่ได้จำต้องยืม เคยคิดว่าทำออกมาแล้วต้องได้ทุนมาบ้าง แต่นั้นเป็นการคาดการณ์ที่ผิด ในโลกของความเป็นจริง ความโลภ ความโกรธ ความหลง มีอยู่ในทั่วทุกที่ เรื่องที่ผ่านๆมา แม้นจะโดน หลอกให้จัดงาน มีคนจะมาทำวัตถุมงคลมาถวาย ไปมาหาสู่กันจนมั่นใจในความจริงใจที่โยมมีให้ ถึงวันงานกลับกลายเป็นสิ่งว้างเปล่า จำต้องตัดสินใจทำ รุ่นมหาเวทย์เมตตาขึ้นมาเอง จัดงานพุทธาภิเษก ใช้งบประมาณหลายแสน ไม่นับที่โรงงานหล่อพระโกงไป เพราะวางมัดจำกันไว้แล้ว แต่ทางโรงงานไม่ทำของส่ง จนถึงปัจจุบัน มีการติดต่อมา ครั้งที่สองเพื่อขอเงินที่เหลือทั้งหมด แต่เราไม่ยอมให้ ด้วยเหตุผลว่าได้วางเงินมัดจำไปแล้ว แต่งานที่สั่งทำยังไม่ทำเป็นรูปร้างขึ้นมา มีแต่เพียงต้นแบบเท่านั้นที่ส่งมาให้ดู เคยพูดกับโยมที่อุปถัมภ์ แล้วโยมบอกเราว่า มันเป็นวิบากกรรมเก่าที่เราติดค้างเขาแต่ชาติก่อน เมื่อเป็นเช่นนั้นจึงได้สติคิดดูแล้วก็ปล่อยไปให้หมดกรรมต่อๆกันไป

    996182_281234008688140_1454098612_n.jpg

    เมื่อเงินจัดงาน และเงินสร้างวัตถุมงคล เป็นเงินที่หยิบยืมมาจากที่อื่นๆ ถึงเวลาที่ต้องหาใช้คืน แต่จะทำเช่นใดได้ในเมื้อทุกสิ่งอย่างมันไปอยู่ในมือของคนมีจิตโลภเข้ามาครอบครอง จิตที่คิดอย่าได้เป็นของตนเอง เงินทองของใช้ มันได้หายไปหมด ไม่มีใครรับว่าอยู่กับใคร แม้กระทั้งยวดยานพาหนะ ยังกลับกลายไปอยู่กับคนที่ถวายมา นี้หมายถึงสัญญาณว่า เราไม่มีอะไรเหลือมีแต่เพียงตัวเปล่าๆ ย้อนนึกคิดถึงโลกธรรม 8 ประการที่มันเกิดขึ้นมาในชีวิต ใครเล้าจะนึกคิดว่าตื่นขึ้นมาในรุ่งอรุณฟ้าใหม่จะต้องใช้หนี้เกือบล้าน แต่นั้นคือเรื่องจริงที่เกิดขึ้น นึกถึงเมื้อคราไปพัฒนาสร้างวัด เอาเงินของตนเองสร้างวัดให้เขาจนหมดหลายแสน พอตนเองตกทุกข์แทบจะไม่มีใครหน้าไหนให้การช่วยเหลือ

    13626558_856299281181607_5019680484438235552_n.jpg

    เมื่อกลับมาอยู่ที่วัดเกียรติแก้วสามัคคี โยมหลายท่านจึงตามมาถามเอาเงินคืน บางท่านออกอาการไม่พอใจที่ไม่มีเงินให้ บางท่านพอเข้าใจในเหตุการณ์ผ่านที่เกิดขึ้น บางท่านบอกว่าจะดำเนินคดีตามตัวบทกฎหมาย ในตอนนั้น จึงแจงให้โยมทั้งหลายว่า จะขอรับผิดชอบทั้งหมด ทั้งเงินที่เอามาพัฒนาวัด และเงินที่ยืมมาจัดงาน ถึงแม้นจะไม่ได้อยู่วัดนั้นก็ตาม แต่อาตมภาพจะรับเป็นธุระนั้นๆทั้งหมด แต่....จำนวนเงินนั้นมากโข ไม่สามารถจะนำมาจ่ายได้ทั้งหมด จะขอผ่อนจ่ายให้ในแต่ล่ะเดือนๆ อาตมภาพไม่หนีไปไหน เหตุการณ์นั้นจึงผ่อนคลายลง โยมทุกท่านจึงพากันกลับ
     
  16. หลวงพ่อเมตตา

    หลวงพ่อเมตตา เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 พฤศจิกายน 2012
    โพสต์:
    525
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +738
    ครั้นปีต่อมา ที่อยู่อาศัยในกุฏิเกิดเสื่อมโทรม ตามการเวลา เมื่อยามฝนตก หลังคานั้นรั่ว เปียกผืนไม้ จำต้องเอากะละมังใช้รองน้ำ บานหน้าต่าง หลุดหล่น ตกลงพื้นในยามที่มีพายุฝน เมื่อเหตุการณ์เช่นนี้ได้บังเกิดขึ้น จึงได้คิดหาวิธีที่จะหาทุนทรัพย์ในการบูรณะ จึงได้สั่งให้ นายวีรพล ทองอ่อน ศิษย์ผู้ดูแลเรื่องวัตถุมงคล ให้นำเหรียญรุ่นมหาเวทย์เมตตา ออกมาเพื่อเปิดให้เช่าบูชา เป็นการหาทุนทรัพย์ในการดำเนินการดังกล่าว บางท่านมาขอบูชาไปในราคาทุน แต่กลับกลายหายเงียบไปไม่ยอมนำปัจจัยที่คุยกันไว้มาให้ คนแล้วคนเล้า ที่มาขอไปเพื่อหาประโยชน์เพื่อตัวเอง จนท่านนั้นตายจากไปด้วยโรคมะเร็ง แต่จะทำเช่นใดในเมื่อเขาได้ตายไปจากเรา เราจะไปขอเอาจากใคร การการมาขอบูชามีเพียงคำพูดจาว่า ต้นปีใหม่จะนำมาจ่าย ไม่ต้องทำสัญญาใดๆ

    20150917_114725-1.jpg

    บัดนี้ เราจักทำเช่นใด ในเมื้อทุกอย่าง มันศูนย์ไปแล้ว แต่โยมยังมาเอาเงินที่ติดค้าง ในยามสิ้นเดือนทุกๆเดือน มีเพียงสานุศิษย์ส่วนน้อย บางส่วนที่ยังมีความเคารพแลนับถือ มากราบไหว้ขอพรในวาระต่างๆ จึงได้เงินส่วนนั้น เก็บไว้ใช้จ่ายในแต่ละเดือน มากบ้าง น้อยบ้างตามที่สานุศิษย์ได้ถวายมา บางคราไม่มีมาเลยแม้แต่คนเดียว แต่...มันไม่ใช้ประเดนที่ต้องหนักใจ เพราะพวกเขาทั้งหลายช่วยเหลือเราเต็มที่แล้ว ต่างคนต่างมีภาระแลหน้าที่ ที่ต้องทำ ที่ต้องรับผิดชอบ เราภูมิใจ ภูมิใจ ในเงินสิบบาท ร้อยบาท ของพวกเขาที่พวกเขานำมาทำบุญแก่เรา เพื่อให้เราได้มีความหวังว่าสักวันหนึ่ง สิ่งที่เราติดค้างทั้งหมดจะหมดไป


    ...มีคำ คำหนึ่ง พูดไว้ว่า คนเราอยู่ได้เพราะมีความหวัง จึงได้ติดต่อไปยังศูนย์พระเครื่องหลายที่เพื่อขอฝากพระ เพื่อจะได้มีผู้คนเช่าบูชา แต่...อนิจจา วาสนาเราไม่ถึงศูนย์พระเครื่องแม้แต่ร้านเดียว ไม่มีท่านใดให้การณ์ช่วยเหลือ แม้แต่จะรับฝากสักองค์เดียวก็หาไม่ มีเพียงแต่ศูนย์พระเครื่องที่ประเทศไตหวันเท่านั้น ที่ให้การช่วยเหลือ รับเป็นธุระในการประชาสัมพันธ์ แลยังมอบถวายเงินมาจำนวนหนึ่ง เพื่อใช้ในการเป็นทุนดำเนินการดังกล่าว แต่ก็หาได้ทำได้สำเร็จหมดทุกสิ่งอย่างไม่ ด้วยทุนเพียงเล็กน้อย จำต้องทำตามทุนทรัพย์ที่มี เรื่องดังกล่าวทราบข่าวไปถึงโยมอุปถัมภ์ที่กรุงเทพมหานคร ท่านจึงถวายปัจจัยมาส่วนหนึ่งเพื่อดำเนินการตามความเหมาะสม จึงได้บูรณะกุฏิด้านล่างสำเร็จ พอได้มีที่อาศัยหลบแดดบังฝน ครั้งแล้วครั้งเล้าที่เรา ต้องนอนตากแดดตากฝนเมื้อยาม ฤดูกาลฝน แต่ทั้งหมดทั้งมวลไม่สำเร็จทั้งหมด จำต้องสู้ดิ้นรนต่อไป ทุกคนอยู่ได้เพราะความหวัง ที่คือคำพูดที่เป็นกำลังใจตลอดมา

    572717.jpg
    (โยมที่ประเทศไตหวัน)

    คราหนึ่งมีโยมท่านหนึ่งติดต่อมาจะขอทำเหรียญถวายเพื่อเป็นทุนในการบูรณะกุฏิให้แล้วเสร็จ แต่ด้วยการณ์ที่ผ่านๆมานั้น เป็นบทเรียนจึง เอ่ยออกไปว่า สุดแล้วแต่โยมจะเมตตา แต่อาตมภาพไม่มีเงินที่จะตอบแทนดอกหนา โยมท่านนั้นได้ยินแล้วจึงเขาใจว่า เราเคยถูกหลอกเรื่องแบบนี้มามาก แต่โยมรับปากจะช่วยทำออกมาอย่างเต็มกำลัง แลโยมยิ้ม สลักพระได้ทำเหรียญมาถวายจริงๆ ซึ่งนับเป็นครั้งแรกในชีวิต ที่เรื่องแบบนี้เป็นจริงดังที่โยมได้รับปากเอาไว้

    572489.jpg
     
  17. หลวงพ่อเมตตา

    หลวงพ่อเมตตา เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 พฤศจิกายน 2012
    โพสต์:
    525
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +738
    ดังที่กล่าวมาแล้วในข้างต้น อาตมภาพจึงพิจารณา ควรนำมาให้สานุศิษย์ได้เช่าบูชา เพื่อมีวัตถุประสงค์ดังนี้ คือ เพื่อหาทุนทรัพย์ มาดำเนินการบูรณะกุฏิที่อยู่อาศัย โดยครั้งนี้ ทำการบูรณะต่อจากครั้งที่แล้ว ด้วยยังไม่แล้วเสร็จ ยังคงเหลือด้านหน้า และด้านหลังกุฏิ เมื่อถึงฤดูกาลฝน จะพบกับปัญหาฝนสาดเสมอมาทุกๆปี


    อนึ่ง ตามจำนวนที่โยมถวายมานั้นยังไม่พอ ในความต้องการของสานุศิษย์ ทางผู้ดำเนินการเปิดเช่าบูชา ได้ขออนุญาตสร้างเพิ่ม เป็นเนื้อเงิน และเนื้ออัลปก้า ตามจำนวนที่มีการสั่งจอง ดังที่เคยได้หารือกันนั้น อาตมภาพจึงอนุมัติตามคำขอ และให้นามรุ่นนี้ว่า รุ่น เมตตาสมปรารถนา 59

    20161212_145351.jpg

    บัดนี้ การณ์ต่างๆ ได้นำเนินมา อาจมีปัญหาและอุปสรรค มากบ้างน้อยบ้าง สืบเนื่องจาก ต่างคนต่างมีภาระแลหน้าที่ของตน แต่ผู้ที่ ได้รับภาระในส่วนนี้ ได้เสียสละมารับผิดชอบดูแล แทนอาตมภาพ ถือว่าเป็นการรักษาถาวรวัตถุในพระพุทธศาสนา ให้ดำรงคงอยู่สืบต่อๆไปจนถึงลูกหลาน

    ในนามผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดเกียรติแก้วสามัคคี ขออนุโมทนาในกุศลจิตที่บริสุทธิ์นี้ ขออำนาจคุณพระไตรรัตน์ อำนวยสุขผล ขอจงเจริญในมงคลชีวิต ตลอดกาลเป็นนิจ.

    20161212_145725.jpg

    นี้คือคำปรารภที่มอบให้ ช่างยิ้ม ที่เป็นผู้ได้ทำให้เกิดความหวังสว่างจ้างขึ้นมาอีกครา ในรอบหลายปีที่ผ่านๆมา แต่จะทำเช่นใดเล้า จะให้คนได้เช่าบูชา มีอยู่ทางเดียวคือ การติดต่อกับศูนย์อีกครั้ง แต่...เมื่อทำเรื่องเก่าๆ เรื่องเดิมๆจึงตามมา

    ..........คนเราอยู่ได้เพราะมีความหวัง จึงได้ติดต่อไปยังศูนย์พระเครื่องหลายที่เพื่อขอฝากพระ เพื่อจะได้มีผู้คนเช่าบูชา แต่...อนิจจา วาสนาเราไม่ถึงศูนย์พระเครื่องแม้แต่ร้านเดียว ไม่มีท่านใดให้การณ์ช่วยเหลือ แม้แต่จะรับฝากสักองค์เดียวก็หาไม่ มีเพียงแต่ศูนย์พระเครื่องที่ประเทศไตหวันเท่านั้น ที่ให้การช่วยเหลือ รับเป็นธุระในการประชาสัมพันธ์ แลยังมอบถวายเงินมาจำนวนหนึ่ง เพื่อใช้ในการเป็นทุนดำเนินการดังกล่าว แต่ก็หาได้ทำได้สำเร็จหมดทุกสิ่งอย่างไม่ จำต้องสู้ดิ้นรนต่อไป ทุกคนอยู่ได้เพราะความหวัง ที่คือคำพูดที่เป็นกำลังใจตลอดมา……….

    523125.jpg
     
  18. หลวงพ่อเมตตา

    หลวงพ่อเมตตา เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 พฤศจิกายน 2012
    โพสต์:
    525
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +738
    มันอาจเป็นสิ่งสุดท้ายที่เราทำใว้
    ให้เป็นที่ระลึกถึง..... จากนี้คงต้องหยุด

    53.jpg


    54.jpg


    55.jpg


    กรอบ.jpg

    สถานะปัจจุบัน

    เป็นผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดเกียรติแก้วสามัคคี
    เป็นเลขานุการรองเจ้าคณะอำเภอศรีรัตนะ
    เป็นพระฐานานุกรม พระเทพประสิทธิคุณ
    วัดระฆังโฆสิตาราม วรมหาวิหาร ที่ พระครูปลัด

    บันทึกและเรียบเรียง
    นนท์วีระพล
    คณะศิษย์ท่านพ่อเมตตา
     
  19. หลวงพ่อเมตตา

    หลวงพ่อเมตตา เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 พฤศจิกายน 2012
    โพสต์:
    525
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +738
    ชื่อ พระครูปลัดทยุตธร ฉายา ปริญฺญาโณ วิทยฐานะ น.ธ.เอก พธ.บ.
    วัดเกียรติแก้วสามัคคี ตำบลศรีแก้ว อำเภอศรีรัตนะ จังหวัดศรีสะเกษ

    สถานะเดิม
    ชื่อ ทยุตธร นามสกุล พะวงษ์ เกิด วันที่ ๑๗ เดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ.๒๕๒๖ ณ บ้านเลขที่ ๐๑๔ หมู่ที่ ๑๒ ตำบลศรีแก้ว อำเภอศรีรัตนะ
    จังหวัดศรีสะเกษ บิดา นายถาวร พะวงษ์ มารดา นางสาริกา พะวงษ์

    บรรพชา
    วันที่ ๔ เดือนมีนาคม พ.ศ.๒๕๔๒ ณ วัดจันทาราม
    ตำบลพิงพวย อำเภอศรีรัตนะ จังหวัดศรีสะเกษ
    พระอุปัชฌาย์ พระครูอรรถกิจสุนทร (เสียง ธมฺมทินฺโน) วัดจันทาราม
    ตำบลพิงพวย อำเภอศรีรัตนะ จังหวัดศรีสะเกษ

    อุปสมบท
    วันที่ ๕ เดือนกรกฎาคม พ.ศ.๒๕๔๖ ณ วัดเกียรติแก้วสามัคคี
    ตำบลศรีแก้ว อำเภอศรีรัตนะ จังหวัดศรีสะเกษ
    พระอุปัชฌาย์ พระเทพวรมุนี (วิบูลย์ กลฺยาโณ)
    วัดเจียงอีศรีมงคลวราราม ตำบลเมืองใต้
    อำเภอเมืองศรีสะเกษ จังหวัดศรีสะเกษ

    วิทยฐานะ
    พ.ศ.๒๕๓๙ จบชั้น ป.๖ โรงเรียนบ้านศรีแก้ว ตำบลศรีแก้ว
    อำเภอศรีรัตนะ จังหวัดศรีสะเกษ
    พ.ศ.๒๕๔๕ จบชั้น ม.๓ ศูนย์บริการการศึกษานอกโรงเรียนอำเภอศรีรัตนะ
    อำเภอศรีรัตนะ จังหวัดศรีสะเกษ
    พ.ศ.๒๕๔๕ สอบได้ น.ธ.เอก สำนักศาสนศึกษาวัดเกียรติแก้วสามัคคี
    ตำบลศรีแก้ว อำเภอศรีรัตนะ จังหวัดศรีสะเกษ
    พ.ศ.๒๕๕๑ จบหลักสูตรการอบรมครูสอนพระปริยัติธรรม แผนกธรรม
    พ.ศ.๒๕๕๒ จบหลักสูตรประกาศนียบัตรการบริหารกิจการคณะสงฆ์
    พ.ศ.๒๕๕๗ จบปริญญาตรี พุทธศาสนบัณฑิต (พธ.บ.) มจร.

    การทำงาน พ.ศ.๒๕๔๖-๒๕๔๗ เป็นเลขาเจ้าคณะอำเภอศรีรัตนะ
    พ.ศ.๒๕๕๑-ปัจจุบัน เป็นครูสอนปริยัติธรรม แผนกธรรม
    พ.ศ.๒๕๕๒-ปัจจุบัน เป็นผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดเกียรติแก้วสามัคคี
    พ.ศ.๒๕๕๕-๒๕๕๖ เป็นผู้รักษาการแทนเจ้าอาวาสวัดตายู
    พ.ศ.๒๕๕๗-ปัจจุบัน เป็นกรรมการตรวจธรรมสนามหลวง
    พ.ศ.๒๕๕๘-ปัจจุบัน เป็นเลขานุการรองเจ้าคณะอำเภอศรีรัตนะ

    สมณศักดิ์
    พ.ศ.๒๕๔๘ เป็นพระฐานานุกรมเจ้าคณะอำเภอศรีรัตนะ ที่ พระสมุห์
    พ.ศ.๒๕๕๗ เป็นพระฐานานุกรม พระเทพประสิทธิคุณ ที่ พระครูปลัด

    ข้อมูลติดต่อ พระครูปลัดทยุตธร ปริญฺญาโณ
    ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดเกียรติแก้วสามัคคี
    ตำบลศรีแก้ว อำเภอศรีรัตนะ จังหวีดศรีสะเกษ 33240
    โทร.082-1000472


    14694631_916696618475206_567239446_n.jpg
     
  20. หลวงพ่อเมตตา

    หลวงพ่อเมตตา เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 พฤศจิกายน 2012
    โพสต์:
    525
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +738

    ข้าพเจ้า มิอาจหาญกล้า ไปสอนสั่งใครๆ เพราะข้าพเจ้าก็ยังเอาตัวเองไม่รอด
    คนเรามีต้นทุนบุญเก่ามากน้อยต่างกัน แต่คนเราสามารถเลือกที่จะเดินทางนั้นๆ ผลบุญที่เราทำจะส่งผล ช้าหรือเร็ว มันขึ้นอยู่กับวิบากกรรม แล..กาลเวลา...
     

แชร์หน้านี้

Loading...