บุญ..ทำให้เกิดปาฏิหาริย์ณัฐพัชร์ อินทุภูติ นายกพุทธสมาคม

'บุญ..ทำให้เกิดปาฏิหาริย์'ณัฐพัชร์ อินทุภูติ นายกพุทธสมาคม

<TABLE cellSpacing=5 cellPadding=0 width=567 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top>"บุญ"...ทำให้เกิดปาฏิหาริย์ ณัฐพัชร์ อินทุภูติ นายกพุทธสมาคม</TD></TR><TR><TD vAlign=top>13 เมษายน 2550 20:01 น.</TD></TR><TR><TD class=Text_Story vAlign=top><!-- ภารกิจและวัตถุประสงค์หลักของพุทธสมาคมแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ มีอยู่ ๔ อย่าง คือ ๑.เพื่อสนับสนุนกิจการเกี่ยวกับพระพุทธศาสนาทั้งในและนอกประเทศ ๒.เพื่อศึกษา เผยแพร่ และส่งเสริมเชิดชูหลักธรรมแห่งพระพุทธศาสนา ๓.เพื่อส่งเสริมสามัคคีธรรม และ ๔.เพื่อปฏิบัติการสาธารณกุศล และสังคมสงเคราะห์

ปัจจุบันนี้มี "นายณัฐพัชร์ (อำนวย) อินทุภูติ" เป็นนายกพุทธสมาคมแห่งประเทศไทยฯ ด้วยเหตุที่เป็นบุคคลที่มีความสามารถ นายณัฐพัชร์ ได้รับความไว้วางใจให้เป็นประธานสภาสังคมสงเคราะห์แห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์อีกตำแหน่งหนึ่งด้วย
แม้ว่านายกพุทธสมาคมแห่งประเทศไทยฯ จะยึดธรรมเป็นหลักในการตำเนินชีวิต และมีพระธรรมอยู่ในใจตลอดเวลา แต่ท่านก็ยังคงเหมือนชาวพุทธทั่วๆ ไป คือ มีพระเครื่องไว้เป็นเครื่องยึดเหนี่ยวจิตใจ โดยแขวนพระทั้งหมด ๘ องค์ ประกอบด้วย ๑.พระสมเด็จพุทธญาณเรศ วัดญาณสังวร จ.ชลบุรี ๒.พระสมเด็จ พิมพ์เส้นด้าย กรุเก่า บางขุนพรหม ๓.พระไพรีพินาศ วัดบวรนิเวศวิหาร ๔.พระนิรันตราย วัดบวรนิเวศวิหาร ๕.พระนางพญา จ.พิษณุโลก ที่ได้รับมาจากคุณแม่แล้วคุณแม่ก็ได้มาจากคุณยาย ๖. พระรอด ลำพูน คุณลุงให้มา ๗.องค์พระปฐมเจดีย์ ปี ๒๕๓๖ และ ๘.พระกริ่งพุทธสิงหิงค์ รุ่นแรก จ.ชลบุรี
ทั้งนี้นายณัฐพัชร์ ได้เล่าถึงที่มาของพระกริ่งพุทธสิหิงค์ รุ่นแรก จ.ชลบุรี ว่าเป็นรุ่นจัดงานฉลองพระพุทธสิหิงค์ โดยมีจอมพลประภาส จารุเสถียร เป็นประธานในขณะนั้น ระหว่างที่เปิดงานนั้นท่านจะออกเยี่ยมตามร้านค้าต่างๆ ทางร้านค้าก็จะมอบสิ่งของเป็นของขวัญให้ท่าน จนมีเจ้าของร้านๆ หนึ่งเตรียมพระองค์นี้มอบให้ท่านจอมพลประภาส แต่ท่านติดธุระด่วนไม่สามารถเดินมาถึงร้านนี้ได้ พระองค์นี้จึงยังอยู่กับเจ้าของร้านแห่งนี้ เมื่อคราวนั้นได้เป็นผู้พิพากษาศาลจังหวัดชลบุรี แล้วจะย้ายไปเป็นผู้พิพากษาหัวหน้าศาลจังหวัดมหาสารคาม เจ้าของร้านแห่งนี้จึงได้ให้พระองค์นี้ไว้เป็นที่ระลึกกับตนเอง
ส่วนเหตุการณ์เฉียดตายนั้น นายณัฐพัชร์ เล่าว่า เกิดขึ้นเมื่อครั้งเป็นหัวหน้าผู้พิพากษาศาลมหาสารคามประมาณปี ๒๕๑๐ ได้นั่งรถจะไป จ.ขอนแก่น ระหว่างที่นั่งไปนั้นได้เกิดอุบัติเหตุไปชนกับลูกม้าอย่างแรง จนทำให้รถถลาตกลงไปข้างทางทันที หน้ารถกระจกแตกกระจายทั้งหมด ทำให้คนขับได้รับบาดเจ็บจากกระจกบาดเต็มไปหมด แต่ตนเองไม่เป็นอะไรเลย
"ความรู้สึกในเวลานั้นจำได้ว่าวันนั้นเหมือนมีอะไรมาปัดให้รถตกลงไปข้างทาง จากนั้นชีวิตก็แคล้วคลาดมาตลอด ยิ่งเป็นหัวหน้าผู้พิพากษามหาสารคาม ที่บ้านพักมีงูเห่าอาศัยอยู่เต็มไปหมด คนอื่นถูกกัดกัน แต่ผมกลับไม่เคยโดนงูเห่ากันเลย ความเป็นปาฏิหาริย์เกิดขึ้นตรงนี้ ผมคิดว่าเกิดจากคุณงามความดี แล้วบุญกุศลที่เราได้ทำเอาไว้มากกว่า ปาฏิหาริย์จึงเกิดจากบุญกุศลที่เราทำไม่ว่าจะเป็นการทำบุญตักบาตร หรือช่วยเหลือคนที่ตกทุกข์ได้ยาก บุญตรงนี้จึงได้มาช่วยเราในยามที่เราตกอยู่ในความทุกข์นั่นเอง" นี่เป็นความเชื่อของนายณัฐพัชร์
นอกจากนี้แล้วนายณัฐพัชร์ ยังมีความเชื่อในเรื่องกรรมหรือบุญกุศลแห่งความดีที่ได้ประสบมากับตนเอง โดยครั้งนั้นได้เข้าสอบการเป็นผู้พิพากษาบังเอิญว่าได้มีเปลี่ยนแปลงการสอบใหม่ จากกระดาษ ๑ แผ่น เป็น ๓ แผ่น และมีข้อสอบเป็นภาษาอังกฤษด้วย แผ่นแรกมีข้อสอบทั้งหมด ๑๐ ข้อ เชื่อไหมว่าอ่านจนจบหมดแล้วไม่รู้เรื่องเลย ขนาดดูหนังสือมาทั้งหมด ๔ ปี ตอนแรกคิดว่ามาจากความตื่นเต้น จึงมองไปที่วัดพระแก้วพร้อมกับอธิษฐาน ถ้าบุญกุศลที่ลูกได้กระทำมาจากการช่วยชาวพุทธ แล้วส่งเสริมพระพุทธศาสนาขอให้ลูกมีความสว่างในข้อสอบนี้ เชื่อไหมว่าหันมาทำข้อสอบชุดเดิมทำได้หมดผ่านเลย "ผมคิดว่าสิ่งที่คนเราควรมีอย่างมากในการทำงานต้องมีอิทธิบาท ๔ คือ ฉันทะ ความพอใจรักใคร่ในสิ่งนั้น ในฐานะเป็นสิ่งที่ตนถือว่าดีที่สุดที่มนุษย์เราควรจะได้ ข้อนี้เป็นกำลังใจอันแรกที่ทำให้เกิดคุณธรรมในข้อต่อไปทุกข้อ วิริยะ ความพากเพียรในสิ่งนั้น หมายถึง การกระทำที่ติดต่อไม่ขาดตอนเป็นระยะยาวจนประสบความสำเร็จ จิตตะ ความเอาใจใส่ฝักใฝ่ในสิ่งนั้น ความไม่ทอดทิ้งสิ่งนั้นไปจากความรู้สึกของตัว ทำสิ่งซึ่งเป็นวัตถุประสงค์นั้นให้เด่นชัดอยู่ในใจเสมอ วิมังสา ความหมั่นสอดส่องในเหตุผลของสิ่งนั้น หรือการให้ความใส่ใจในเหตุและผลแห่งความสำเร็จเกี่ยวกับเรื่องนั้นๆ ให้ลึกซึ้งยิ่งๆ ขึ้นไปตลอดเวลา และถ้าหลักธรรมในการดำเนินชีวิตต้องใช้ ฆราวาสธรรม คือ สัจจะ ทมะ ขันติ และจาคะ" นายณัฐพัชร์ กล่าวทิ้งท้าย 0 เรื่อง สุทธิคุณ กองทอง / ภาพ นัทพล ทิพย์วาทีอมร

-->
ภารกิจและวัตถุประสงค์หลักของพุทธสมาคมแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ มีอยู่ ๔ อย่าง คือ ๑.เพื่อสนับสนุนกิจการเกี่ยวกับพระพุทธศาสนาทั้งในและนอกประเทศ ๒.เพื่อศึกษา เผยแพร่ และส่งเสริมเชิดชูหลักธรรมแห่งพระพุทธศาสนา ๓.เพื่อส่งเสริมสามัคคีธรรม และ ๔.เพื่อปฏิบัติการสาธารณกุศล และสังคมสงเคราะห์
ปัจจุบันนี้มี "นายณัฐพัชร์ (อำนวย) อินทุภูติ" เป็นนายกพุทธสมาคมแห่งประเทศไทยฯ ด้วยเหตุที่เป็นบุคคลที่มีความสามารถ นายณัฐพัชร์ ได้รับความไว้วางใจให้เป็นประธานสภาสังคมสงเคราะห์แห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์อีกตำแหน่งหนึ่งด้วย
แม้ว่านายกพุทธสมาคมแห่งประเทศไทยฯ จะยึดธรรมเป็นหลักในการตำเนินชีวิต และมีพระธรรมอยู่ในใจตลอดเวลา แต่ท่านก็ยังคงเหมือนชาวพุทธทั่วๆ ไป คือ มีพระเครื่องไว้เป็นเครื่องยึดเหนี่ยวจิตใจ โดยแขวนพระทั้งหมด ๘ องค์ ประกอบด้วย ๑.พระสมเด็จพุทธญาณเรศ วัดญาณสังวร จ.ชลบุรี ๒.พระสมเด็จ พิมพ์เส้นด้าย กรุเก่า บางขุนพรหม ๓.พระไพรีพินาศ วัดบวรนิเวศวิหาร ๔.พระนิรันตราย วัดบวรนิเวศวิหาร ๕.พระนางพญา จ.พิษณุโลก ที่ได้รับมาจากคุณแม่แล้วคุณแม่ก็ได้มาจากคุณยาย ๖.พระรอด ลำพูน คุณลุงให้มา ๗.องค์พระปฐมเจดีย์ ปี ๒๕๓๖ และ ๘.พระกริ่งพุทธสิงหิงค์ รุ่นแรก จ.ชลบุรี
ทั้งนี้นายณัฐพัชร์ ได้เล่าถึงที่มาของพระกริ่งพุทธสิหิงค์ รุ่นแรก จ.ชลบุรี ว่าเป็นรุ่นจัดงานฉลองพระพุทธสิหิงค์ โดยมีจอมพลประภาส จารุเสถียร เป็นประธานในขณะนั้น ระหว่างที่เปิดงานนั้นท่านจะออกเยี่ยมตามร้านค้าต่างๆ ทางร้านค้าก็จะมอบสิ่งของเป็นของขวัญให้ท่าน จนมีเจ้าของร้านๆ หนึ่งเตรียมพระองค์นี้มอบให้ท่านจอมพลประภาส แต่ท่านติดธุระด่วนไม่สามารถเดินมาถึงร้านนี้ได้ พระองค์นี้จึงยังอยู่กับเจ้าของร้านแห่งนี้ เมื่อคราวนั้นได้เป็นผู้พิพากษาศาลจังหวัดชลบุรี แล้วจะย้ายไปเป็นผู้พิพากษาหัวหน้าศาลจังหวัดมหาสารคาม เจ้าของร้านแห่งนี้จึงได้ให้พระองค์นี้ไว้เป็นที่ระลึกกับตนเอง
ส่วนเหตุการณ์เฉียดตายนั้น นายณัฐพัชร์ เล่าว่า เกิดขึ้นเมื่อครั้งเป็นหัวหน้าผู้พิพากษาศาลมหาสารคามประมาณปี ๒๕๑๐ ได้นั่งรถจะไป จ.ขอนแก่น ระหว่างที่นั่งไปนั้นได้เกิดอุบัติเหตุไปชนกับลูกม้าอย่างแรง จนทำให้รถถลาตกลงไปข้างทางทันที หน้ารถกระจกแตกกระจายทั้งหมด ทำให้คนขับได้รับบาดเจ็บจากกระจกบาดเต็มไปหมด แต่ตนเองไม่เป็นอะไรเลย

"ความรู้สึกในเวลานั้นจำได้ว่าวันนั้นเหมือนมีอะไรมาปัดให้รถตกลงไปข้างทาง จากนั้นชีวิตก็แคล้วคลาดมาตลอด ยิ่งเป็นหัวหน้าผู้พิพากษามหาสารคาม ที่บ้านพักมีงูเห่าอาศัยอยู่เต็มไปหมด คนอื่นถูกกัดกัน แต่ผมกลับไม่เคยโดนงูเห่ากันเลย ความเป็นปาฏิหาริย์เกิดขึ้นตรงนี้ ผมคิดว่าเกิดจากคุณงามความดี แล้วบุญกุศลที่เราได้ทำเอาไว้มากกว่า ปาฏิหาริย์จึงเกิดจากบุญกุศลที่เราทำไม่ว่าจะเป็นการทำบุญตักบาตร หรือช่วยเหลือคนที่ตกทุกข์ได้ยาก บุญตรงนี้จึงได้มาช่วยเราในยามที่เราตกอยู่ในความทุกข์นั่นเอง" นี่เป็นความเชื่อของนายณัฐพัชร์

นอกจากนี้แล้วนายณัฐพัชร์ ยังมีความเชื่อในเรื่องกรรมหรือบุญกุศลแห่งความดีที่ได้ประสบมากับตนเอง โดยครั้งนั้นได้เข้าสอบการเป็นผู้พิพากษาบังเอิญว่าได้มีเปลี่ยนแปลงการสอบใหม่ จากกระดาษ ๑ แผ่น เป็น ๓ แผ่น และมีข้อสอบเป็นภาษาอังกฤษด้วย แผ่นแรกมีข้อสอบทั้งหมด ๑๐ ข้อ เชื่อไหมว่าอ่านจนจบหมดแล้วไม่รู้เรื่องเลย ขนาดดูหนังสือมาทั้งหมด ๔ ปี ตอนแรกคิดว่ามาจากความตื่นเต้น จึงมองไปที่วัดพระแก้วพร้อมกับอธิษฐาน ถ้าบุญกุศลที่ลูกได้กระทำมาจากการช่วยชาวพุทธ แล้วส่งเสริมพระพุทธศาสนาขอให้ลูกมีความสว่างในข้อสอบนี้ เชื่อไหมว่าหันมาทำข้อสอบชุดเดิมทำได้หมดผ่านเลย

"ผมคิดว่าสิ่งที่คนเราควรมีอย่างมากในการทำงานต้องมีอิทธิบาท ๔ คือ ฉันทะ ความพอใจรักใคร่ในสิ่งนั้น ในฐานะเป็นสิ่งที่ตนถือว่าดีที่สุดที่มนุษย์เราควรจะได้ ข้อนี้เป็นกำลังใจอันแรกที่ทำให้เกิดคุณธรรมในข้อต่อไปทุกข้อ วิริยะ ความพากเพียรในสิ่งนั้น หมายถึง การกระทำที่ติดต่อไม่ขาดตอนเป็นระยะยาวจนประสบความสำเร็จ จิตตะ ความเอาใจใส่ฝักใฝ่ในสิ่งนั้น ความไม่ทอดทิ้งสิ่งนั้นไปจากความรู้สึกของตัว ทำสิ่งซึ่งเป็นวัตถุประสงค์นั้นให้เด่นชัดอยู่ในใจเสมอ วิมังสา ความหมั่นสอดส่องในเหตุผลของสิ่งนั้น หรือการให้ความใส่ใจในเหตุและผลแห่งความสำเร็จเกี่ยวกับเรื่องนั้นๆ ให้ลึกซึ้งยิ่งๆ ขึ้นไปตลอดเวลา และถ้าหลักธรรมในการดำเนินชีวิตต้องใช้ ฆราวาสธรรม คือ สัจจะ ทมะ ขันติ และจาคะ" นายณัฐพัชร์ กล่าวทิ้งท้าย

0 เรื่อง สุทธิคุณ กองทอง / ภาพ นัทพล ทิพย์วาทีอมร


---------------------
ที่มา:คมชัดลึก
http://www.komchadluek.net/2007/04/14/j001_107424.php?news_id=107424
</TD></TR></TBODY></TABLE>