นักวิทยาศาสตร์ชี้สาหร่ายทะเล อาจเป็นอาวุธที่ต่อสู้โลกร้อนได้

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย tanawat, 12 ธันวาคม 2007.

  1. tanawat

    tanawat เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 เมษายน 2006
    โพสต์:
    350
    ค่าพลัง:
    +1,765
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD style="PADDING-RIGHT: 0px; PADDING-LEFT: 0px; PADDING-BOTTOM: 5px; PADDING-TOP: 5px" align=left>นักวิทยาศาสตร์ชี้สาหร่ายทะเล อาจเป็นอาวุธที่ต่อสู้โลกร้อนได้</TD></TR><TR><TD style="PADDING-RIGHT: 0px; PADDING-LEFT: 0px; PADDING-BOTTOM: 5px; PADDING-TOP: 5px" align=left>
    นักวิทยาศาสตร์เกาหลีใต้ระบุ สาหร่ายทะเลอาจเป็นอาวุธที่สามารถช่วยต่อสู้กับโลกร้อนได้

    (8ธค.) นายชอง อิก เกียว นักวิทยาศาสตร์ด้านสิ่งแวดล้อมของเกาหลีใต้ซึ่งเป็นหนึ่งในทีมริเริ่มโครงการวิจัยเรื่องนี้ กล่าวระหว่างประ ชุมโลกร้อนที่เกาะบาหลีของอินโดนีเซียว่า สาหร่ายทะเลอาจใช้เป็นอาวุธที่ต่อสู้กับโลกร้อนได้อย่างมีประสิทธิภาพ จากการที่มันสามารถดูดซับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ซึ่งเป็นก๊าซเรือนกระจกที่เป็นสา เหตุของภาวะโลกร้อน ออกจากชั้นบรรยากาศได้มากกว่าป่าดิบที่เคยคิดว่าสามารถดูดซับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้มากที่สุดแล้ว

    นายชองบอกว่า พืชพรรณ สาหร่ายทะเล และหญ้าทะเล สามารถดูดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ผ่านกระบวนการสังเคราะห์แสงและเป็นกระบวนการเดียวกับที่เกิดขึ้นในน้ำ จึงเป็นเหตุผลที่ทำให้ทีมวิจัยคิดถึงมหาสมุทร ที่กว้างใหญ่ไพศาล และเนื่องจากโลกมีพื้นดินสำหรับปลูกต้นไม้จำกัด ดังนั้นจึงต้องหันมาใช้สาหร่ายและหญ้าทะเลที่มีอยู่ในมหาสมุทรเป็นตัวช่วยบรรเทาปัญหาโลกร้อน
    ทีมนักวิจัยระบุด้วยว่า กุญแจสำคัญของการใช้สาหร่ายทะเลในการดูดซับก๊าซคาร์บอน ไดออกไซด์

    คือมันมีอัตราการสังเคราะห์แสงได้อย่างรวดเร็ว โดยสาหร่ายบางชนิด สามารถเติบโตได้ยาว 3-4 เมตรในช่วงเวลาเพียง 3 เดือน ขณะที่กระทรวงประมงของเกาหลีใต้ ซึ่งเป็นหนึ่งในประเทศผู้ผลิตสาหร่ายรายใหญ่ของโลกบอกว่า สาหร่ายบางชนิด สามารถดูดซับคาร์บอนไดออกไซด์ได้มากกว่าต้นไม้บนพื้นดินถึง 5 เท่า ทีมนักวิจัยสาหร่ายทะเล ที่ได้รับการสนับสนุนจากนักวิทยาศาสตร์ใน 12 ประเทศ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของความพยายามที่จะคำนวนว่า พืชกำลังดูดซับก๊าซคาร์บอน ไดออกไซด์ออกจากชั้นบรรยากาศปริมาณเท่าใด และหาหนทางของการปลูกพืชเพื่อเพิ่มปริมาณการดูดซับ สาหร่ายทะเลเป็นอาหารยอดนิยมภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ที่นำมาทำซุป ซูชิ และสลัด โดยมีการนำสาหร่ายทะเลมาใช้คิดเป็น 80 % ของโลก ซึ่งจีนเป็นประเทศที่ผลิตสาหร่ายทะเลมากที่สุดในโลก ตามมาด้วยเกาหลีใต้และญี่ปุ่น



    ที่มา หนังสือพิมพ์คมชัดลึก
    </TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  2. golf208

    golf208 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กุมภาพันธ์ 2006
    โพสต์:
    466
    ค่าพลัง:
    +5,454
    งั้นคงต้องอดกินซูชิหน้าสาหร่ายทะเลซะแล้วสิเรา อิอิ แล้วหันกลับมาปลูกเอ๊ะ...มันปลูกไงหว่าสาหร่ายทะเลเนี้ย ยังไงถ้าจริงก็คงต้องช่วยกันสร้างมันขึ้นมาแล้วห้ามทำลายแล้วล่ะ
     
  3. คุณ 4

    คุณ 4 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 มิถุนายน 2005
    โพสต์:
    733
    ค่าพลัง:
    +5,159
    สาหร่ายรึ ปลูกไว้เต็มแข้งเลย -_-'
     
  4. ภูติอาคเนย์

    ภูติอาคเนย์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 ธันวาคม 2007
    โพสต์:
    724
    ค่าพลัง:
    +1,327
    เป็นงานวิจัยที่ดีและน่าสนใจมากเลยครับ
    ถ้ามีวิธีปลูกให้ได้ทีละมากๆก็ดีสิ
     
  5. kananun

    kananun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2006
    โพสต์:
    10,282
    ค่าพลัง:
    +114,775
    เคยถามพระมาก่อจะเข้าเวบพลังจิตครับ

    ตอนประมาณ ห้าหกปีก่อนทันครับ

    สาหร่ายที่เป็นคำตอบก็คือสาหร่ายเกลียวทองที่ปรากฏในหลายอารยะธรรมโบราณ

    เหตุผลก็คือสาหร่ายเหล่านี้แบ่งตัวแบบทวีคูณจากหนึ่งเป็นสองเป็นสี่ไปเรื่อยๆ ซึ่งอัตราการเพิ่มเร็วกว่าการปลูกต้นไม้ หลายพันเท่าครับ

    ตอนนี้กลไกนี้ไม่ทันแล้ว

    กลายเป็นกลไลการชำระล้างแทน ที่มีเทคโนโลยี่สำคัญอยู่สามอย่างครับ

    1.อีเอ็ม
    2.สาหร่ายเกลียวทอง
    3.โอโซน
     
  6. golf208

    golf208 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กุมภาพันธ์ 2006
    โพสต์:
    466
    ค่าพลัง:
    +5,454
    ที่จริงปัญหาโลกร้อนเกิดมานานแล้ว แต่ยังไม่สำนึก ยังไม่รู้สึกกลัว จำได้ว่าตอนเรียนระดับมัธยมต้นช่วงม.1ก็ได้เห็นมีข่าวออกมาเตือนเรื่องสภาวะเรือนกระจก มีการจัดบอร์ดมาติดในโรงเรียน เตือนไปเตือนมาหายเงียบมีเตือนกันอีกประปลาย แล้วพึ่งจะมาปลุกกระแสตอนนี้มันทันแล้วหรอ เหมือนตอนเด็กเคยได้ยินในหลวงทรงบอกให้รู้จักคำว่าพอเพียง คำเนี้ยในหลวงท่านทรงแนะนำมาตั้งแต่ข้าพเจ้ายังเป็นเด็กเรียนชั้นประถมอยู่เลยเท่าที่จำความได้รู้สึกว่านานมาแล้ว ดูสิปัจจุบันพึ่งจะมาโฆษณาเตือนให้พอเพียง ทั้งๆที่ท่านพ่อหลวงท่านทรงบอกมานานแล้วแต่ลูกๆยังนิ่งกันอยู่ พอมาถึงเหตุการณ์เศรษฐกิจแย่ของแพงแล้วพึ่งรู้ว่าควรพอเพียง เฮ้อ...

    แล้วปัจจุบันทำไมมนุษย์เราถึงความรู้สึกช้าอย่างนี้นะ ไม่เกิดความเดือดร้อนก็ไม่สนใจ พอถึงเวลาที่แก้แทบไม่ทันพึ่งจะมาสำนึก

    จะแก้ตัวก็สายเกินไปแล้วสินะ เรื่องอย่างนี้กอล์ฟได้ยินเขาเตือนกันตั้งแต่กอล์ฟเด็ก แต่ตอนนั้นยังไม่รุนแรงพอถึงปัจจุบันมันรุนแรงเกินจะแก้ไขกลับพึ่งตื่นตัว แถมอีกอย่างนะในช่วงอันตรายกลับไม่สามัคคีกันอีก แตกแยกเห็นแก่ตัวกันเข้าไป แล้วหนทางแก้ไขมันจะสำเร็จหรือ ช้าเกินแก้+แตกแยกเห็นแก่ตัว
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 13 ธันวาคม 2007
  7. gugob22

    gugob22 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 ธันวาคม 2007
    โพสต์:
    45
    ค่าพลัง:
    +179
    มีสิทธิเหมือนกัน เพราะโลกยุคก่อนประวัติศาสตร์ในทะเลก็เต็มไปด้วย สาหร่าย คอยสร้างออกสร้าง อ๊อกซิเจน
     
  8. kananun

    kananun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2006
    โพสต์:
    10,282
    ค่าพลัง:
    +114,775
    ใช่ครับก่อนสมัยที่มีชั้นบรรยากาศก้อาศัยสาหร่ายเซลเดียวและหลายเซลแบบนี้ครับที่สร้างออกซิเจนและฟอกสารพิษในบรรยากาศให้ กระบวนการนี้เป็นการเลียนแบบธรรมชาติ ซึ่งหากปลูกต้นไม้ก็มีคนตามตัดให้แถมโตช้า

    ส่วนสาหร่าย ขยายเร็ว ทำงานด้วยตัวมันเอง พื้นที่ทะเลก็ตั้งสามในสี่ของโลก จุดที่มนุษย์ไปช่วยก็ไปปล่อยเชื้อสาหร่ายที่จุดกระแสน้ำเมนสตรีมในมหาสมุทร บริเวณเขตร้อน ให้กระจายตัวไป แล้วปล่อยให้ธรรมชาติเยียวยาตัวมันเอง เราไปช่วยกระตุ้นเป็นระยะ แล้วเฝ้ามองดูจากดาวเทียมเพื่อหาปริมาณการขยายตัวของมัน

    ผลพลอยได้ก้คือการสร้างความอุดมสมบูรณ์ให้ท้องมหาสมุทร เพราะสาหร่ายเป็นอาหารของปลาเล็ก ปลาน้อยและสัตว์ทะเลหลายชนิดด้วย

    รวมทั้งช่วยฟอกทะเลโดยการดูดซึมและสลายโลหะหนักและสารปนเปื้อนทางเคมีต่างๆให้เป็นกลาง

    ที่จริงทำได้ง่าย ใช้งบประมาณน้อยมาก แต่ไม่คิดจะทำกันเท่านั้นเอง
     

แชร์หน้านี้

Loading...