ทำไมทำทานถึงได้กุศลน้อยกว่าเจริญภาวนา

ในห้อง 'บุญ-อานิสงส์การทำบุญ' ตั้งกระทู้โดย HONGTAY, 13 สิงหาคม 2009.

  1. HONGTAY

    HONGTAY ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    36,548
    กระทู้เรื่องเด่น:
    151
    ค่าพลัง:
    +147,895
    เหตุใดการทำทานจึงได้กุศลน้อยกว่าการสวดมนต์ เจริญสติปัฏฐาน ทั้งๆที่การทำทานเช่นการปล่อยนก ปล่อยปลา การสร้างวิหาร โรงทานนั้นเกิดประโยชน์แก่สัตว์อื่นๆและเพื่อนมนุษย์ แต่การสวดมนต์ เจริญสติปัฏฐานนั้นได้แค่ตัวผู้กระทำเท่านั้นเกิดความสงบ มีความสุข

    เพราะการเจริญสติปัฏฐาน ทำให้มีปัญญารู้ตามจริงมากขึ้น มองเห็นสิ่งต่างๆตรงตามจริงมากขึ้น จึงกระทำการงานต่างๆได้ดีขึ้น ยกตัวอย่างเช่น
    การให้ทาน

    ใน ทานสูตร ได้กล่าวถึงเหตุปัจจัยที่ทำให้ทานที่ให้แล้วมีผลมาก และมีอานิสงส์มาก ไว้โดยสรุปดังนี้

    ๑. คนบางคนให้ทานเพราะรู้ว่าจะได้รับผลของทาน เมื่อตายไป ได้เกิดในเทวโลกชั้นจาตุมหาราชิกา เมื่อหมดบุญแล้ว ก็กลับมาเกิดในโลกนี้อีก ทานอย่างนี้มีผลมาก แต่ไม่มีอานิสงส์มาก

    ๒. คนบางคนให้ทานเพราะรู้ว่าทานเป็นสิ่งที่ดี เมื่อตายไป ได้เกิดในเทวโลกชั้นดาวดึงส์ เมื่อหมดบุญแล้ว ก็กลับมาเกิดในโลกนี้อีก ทานอย่างนี้มีผลมากแต่ไม่มีอานิสงส์มาก

    ๓. คนบางคนให้ทานเพราะละอายใจที่ พ่อ แม่ ปู่ ย่า ตา ยาย บรรพบุรุษเคยทำมา ถ้าไม่ทำก็ไม่สมควร ครั้นตายลงได้เกิดในเทวโลกชั้นยามา เมื่อหมดบุญแล้ว ก็กลับมาเกิดในโลกนี้อีก ทานอย่างนี้มีผลมาก แต่ไม่มีอานิสงส์มาก

    ๔. คนบางคนให้ทานเพราะเห็นสมณพราหมณ์เหล่านั้นหุงหากินไม่ได้ เราหุงหา
    กินได้ ครั้นตายลงได้เกิดในเทวโลกชั้นดุสิต เมื่อหมดบุญล้วก็กลับมาเกิดในโลกนี้อีก ทานอย่างนี้มีผลมาก
    แต่ไม่มีอานิสงส์มาก

    ๕. คนบางคน ให้ทานเพราะต้องการแจกทานเหมือนฤาษีทั้งหลายในปางก่อนได้กระทำมหาทานมาแล้ว เขาตายไปได้เกิดในเทวโลกชั้นนิมมานรดี เมื่อหมดบุญแล้วก็กลับมาเกิดในโลกนี้อีก ทานอย่างนี้มีผลมาก แต่ไม่มีอานิสงส์มาก

    ๖. คนบางคน ให้ทานเพราะคิดว่า เมื่อให้แล้ว จิตจะเลื่อมใสโสมนัสจึงให้ ครั้นตายไปย่อมเกิดในเทวโลกชั้นปรนิมมิตวสวัตดี เมื่อหมดบุญแล้วก็กลับมาเกิดในโลกนี้อีก ทานอย่างนี้มีผลมาก แต่ไม่มีอานิสงส์มาก

    ๗. บุคคลบางคนในโลกนี้ ให้ทานเป็นเครื่องปรุงแต่งจิต คือให้ทานนั้นเป็นเครื่องขัดเกลาจิตใจหมดจดจากกิเลสด้วยอำนาจของสมถะและวิปัสสนา จนได้ฌานและบรรลุ จนได้ฌานและบรรลุเป็นพระอนาคามีบุคคล ตายแล้วได้ไปเกิดในพรหมโลก เมื่อหมดบุญแล้ว เป็นผู้ไม่ต้องกลับมาเกิดในโลกนี้อีก คือปรินิพพานในพรหมโลกนั้นเอง ทานชนิดนี้เป็นทานที่มีผลมาก และมีอานิสงส์มาก

    เมื่อเป็นเช่นนี้แล้ว ทำอย่างไรเราจึงจะทำทานให้มีอานิสงส์มากยิ่งขึ้นได้
    เราจะกระทำได้ด้วยการฝึกสติปัฏฐาน4ให้มองเห็นสิ่งต่างๆตรงตามสภาพมากขึ้น ซึ่งทำให้เราเข้าใจและให้ทานด้วยเหตุผลที่ยิ่งเองแล้วได้


    http://room-of-truth.exteen.com/20090506/entry
     
  2. สิงหนาท

    สิงหนาท เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 สิงหาคม 2009
    โพสต์:
    673
    ค่าพลัง:
    +4,805
    ชอบมากเยครับ ขออนุญาติ Copy ส่งให้เพื่อนทางเมล์ได้ไหมครับ


    ขอขอบคุณมากนะครับ



    สาธุ ๆ อนุโมทามิ ^^
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 13 สิงหาคม 2009
  3. SOMDEJ

    SOMDEJ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    611
    ค่าพลัง:
    +353
    อนุโมทนา สาระธรรมดีดีอีกหนึ่ง
    ขออนุญาตเก็บไว้เผื่อญาติธรรมอื่นในโอกาสต่อไปนะจ๊ะ
     

แชร์หน้านี้

Loading...