ทำอะไร? จึงจะเป็นประโยชน์ที่สุด

ในห้อง 'สมเด็จโต พรหมรังสี' ตั้งกระทู้โดย HONGTAY, 5 กันยายน 2009.

  1. HONGTAY

    HONGTAY ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    36,548
    กระทู้เรื่องเด่น:
    151
    ค่าพลัง:
    +147,895
    <TABLE id=post126166 class=tborder border=0 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center><TBODY><TR vAlign=top><TD id=td_post_126166 class=alt1>ดร.อาจอง ชุมสายฯ-สมเด็จโต พรหมรังษี


    **ทำอะไร? จึงจะเป็นประโยชน์ที่สุด**

    ( 18 ธันวาคม 2512)

    ดร.อาจอง ชุมสาย ณ อยุธยา : ผมอยากจะถามหลวงพ่อว่า การกระทำอะไร? จึงจะเป็นการกระทำที่เป็นประโยชน์ที่สุดแก่โลกของเรา

    สมเด็จฯ : จะให้อธิบายในแง่วัตถุ หรือไนแง่ของจิตใจ ต้องตั้งประเด็นขึ้นมาก่อน

    ดร.อาจอง : อะไรที่จะเป็นประโยชน์ที่สุด ในแง่ไหนก็ได้ครับ

    สมเด็จ : คือ ถ้าในการแห่งการเป็นอยู่ ของการเป็นมนุษย์แล้วไซร้ เขาเรียกว่า ประโยชน์ทั้งหลาย ถ้าท่าน ยังติดคำว่า"มีประโยชน์" ท่านก็ยังไม่เข้าซึ้งถึงคำว่า "ไม่มีประโยชน์" เพราะสิ่งเหล่านี้ เป็นสิ่งสมมติแห่งการชิงดีชิงเด่นของเหล่ามนุษย์ทั้งหลาย ที่ตั้งกันขึ้นมา

    แต่สิ่งที่ดีที่สุด คือ ให้ทุกๆคน"รู้จักตัวเอง" ให้ทุกๆคน ไม่มีตัว"โลภ" ให้ทุกๆคน ไม่มีตัว"โกรธ" ให้ทุกๆคน ไม่มีตัว"หลง" ทุกๆคน มี "สติสัมปชัญญะ" พร้อมเสมอ ในการปฏิบัติตนว่า ตนเกิดมาเป็นมนุษย์นี้ เพราะว่ามีกรรมในอดีตส่งผล นำตนมาเกิดในปัจจุบัน เพื่อในการใช้กรรม

    เมื่อทุกคนเข้าซึ้งถึงสัจจะอันนี้แล้ว โลกมนุษย์นี้ จะเป็นโลกที่ผ่องใส โลกมนุษย์นี้ จะเป็นโลกที่แสนจะให้ประโยชน์แก่คนในดวงดาวอื่น ที่เขาอาจจะมาเยี่ยมเยือนโลกมนุษย์เราด้วย

    แต่ทุกวันนี้ ที่โลกมนุษย์ ไม่มีความดี ที่จะเป็นประโยชน์ต่อเหล่าดวงดาวทั้งหลาย เพราะมนุษย์ลืมตน มนุษย์ไม่รู้จักตัวเอง มนุษย์พยายามคิดในสิ่งที่ไม่ควรคิด มนุษย์พยายามสร้างในความเจริญทางวัตถุ เพื่อเอามาเข่นฆ่ากัน ซึ่งอาตมาก้ได้เทศน์ไว้มากแล้ว

    การที่โลกวิญญาณ สั่งตั้งสำนักปู่สวรรค์นี้ ก็เพื่อมาให้มนุษย์ทั้งหลาย รู้จักตัวเอง เมื่อมนุษย์รู้จักตัวเอง ก็ย่อมที่จะทิ้งทิฐิมานะ แห่งความโลภ ความโกรธ ความหลงลงได้ เมื่อนั้น สันติสุขของโลกมนุษย์ ก็จะเกิดขึ้น วิญญาณก็จะได้ไปสู่สุคติในเทวโลก พรหมโลก บอกตรงๆ เวลานี้ นรกโลกไม่มีที่จะเก็บวิญญาณแล้ว วิญญาณเก่าที่เสวยกรรม ยังไม่ทันปล่อยมาเกิด วิญญาณใหม่ก็ไปเป็นฝูงๆ


    ดร.อาจอง : ผมอยากจะถามว่า ทำอย่างไร จึงจะทำให้รู้จักตัวเองดีขึ้นครับ ? ผมเอง ก็ได้ฝึกสมาธิมา 10 กว่าปีแล้ว แต่ยังไม่รู้จักตัวเองดีเลยครับ

    สมเด็จ : คือ ในการ ที่จะฝึกตน ให้รู้จักตัวเองดีขึ้นนี้ ท่านต้องวางจิตให้นิ่ง ให้ว่างจากสรรพสิ่งทั้งหลาย แล้วมาพิจารณาว่า กายนี้- ประกอบด้วยอะไร? เมื่อท่านรู้ว่า กายนี้- ประกอบด้วยดิน-น้ำ-ลม-ไฟ เป็นการรวมของอสุภะแล้วไซร้ เมื่อนั้นท่าน จะเกิดความคิดว่า อ๋อ.....นี่หรือ คือ ตัวตนแห่งกายเนื้อ กายเนื้อนี้-จะต้องมีสิ่งลี้ลับซ่อนเร้นอยู่ นั่นคือ ท่านต้องวาง"จิต"ให้เฉย พิจารณาในอารมณ์ เพ่งไปในกายในกาย

    ในการเพ่งเข้าสู่กายในกายนี้ ให้วางจิตไว้ที่นี่ (กึ่งกลางหว่างหัวคิ้ว) ตั้งให้อยู่ตรงกลาง ตาในอย่าหลับ ตาในต้องลืม ลืม ลืมตาใน ให้คล่อง กายทิพย์ของท่านอยู่ตรงนี้ (บริเวณท้ายทอย) กายทิพย์และจิตวิญญาณ จะมารวมตรงนี้ (กึ่งกลางหน้าผาก) แล้วระหว่างนั่งนี่ เคยเกิดแสงวูบๆขึ้นมาหรือยัง?

    ดร.อาจอง : เคยมีครับ แต่เสร็จแล้ว พยายามดับไม่ให้มันเกิด

    สมเด็จ : สภาพการณ์อันนี้ เขาเรียกว่า ยังไม่เข้าซึ้งถึงจุดแห่งความจริงของวิปัสสนา คือ ในพลังแห่งการรวมแสงนี้ ให้รวมเป็นวงกลมขึ้นมาก่อน โดยไม่ใช่รวมด้วยอุปาทาน การเกิดแสงนี้-เพราะจิตนิ่ง ธาตุทั้ง 4 เสมอ ภาวะธาตุทั้ง 4เสมอ พลังแห่งกายทิพย์จะรวม เข้าใจหรือยัง ?


    ดร.อาจอง: ถ้าเผื่อเกิดแสง ให้พยายามรวมไว้เป็นวงกลมหรือครับ?

    สมเด็จ : รวมเป็นวงกลม แต่ไม่ใช่รวมด้วยอุปาทานนะ ขั้นแรก-ถ้าจิตเรายังหมอง วงกลมนี้ จะไม่ใสเหมือนลูกแก้ว การฝึกฌานญาณ มันอยู่ตรงจุดนี้ แต่ทุกวันนี้ เกจิอาจารย์ทั้งหลาย ที่สอนในหลักวิปัสสนา ได้หลงทางไปอย่างใหญ่หลวง ที่เราจะดึงกลับนั้นยาก

    สมมติท่านจะปลูกบ้าน ท่านจำเป็นอย่างยิ่ง ที่จะต้องวางรากฐานให้มันแข็งแกร่ง เช่นเดียวกับ การฝึกวิปัสสนา ถ้าท่านไม่วางจุดแห่งกรรมฐานให้แข็งแกร่ง ให้สู่จุดแห่ง"เอกัคคตาจิต"แล้วไซร้ ท่านจะเข้าสู่จุดแห่งญาณ แห่งการรู้ในหลักของ ทุกขัง-อนิจจัง-อนัตตา ได้หรือ?

    ฉะนั้น ในการฝึกที่จะให้รู้จักตัวเองมากขึ้นนั้น ให้ฝึกใหม่ คือ ให้วางหมดทุกตำรา แล้ว"ทำจิตให้นิ่งๆ" วินิจฉัยแห่งการแยกกายเนื้อนี้ก่อน สภาวการณ์แห่งการรู้"อสุภะ"ของกายเนื้อแล้วไซร้ ค่อยมาพิจารณาเข้าสู่"กายในกาย"

    ศ.ดร.คลุ้ม วัชโรบล : อาจารย์ ดร.อาจอง และสานุศิษย์ ในที่ประชุม ต่างชื่นชมต่อคำอธิบายของหลวงพ่อเป็นอย่างยิ่งครับ

    สมเด็จ : ก็รู้ว่า นักวิทยาศาสตร์ทั้งสองนี่ สนใจ ไม่งั้นจะมาเทศน์หรือวะ?

    (จากหนังสือ โต พรหมรังษี จอมปราชญ์แห่งกรุงสยาม -เกหลง พานิช รวบรวม)


    ผู้ตั้งกระทู้ พุทธรังษี ( buddharangsi@gmail.com ) ::วันที่ 09-11-2005 11:54:15

    http://www.pantown.com/board.php?id=9706&name=board2&topic=232&action=view


    <!-- / message --></TD></TR><TR><TD class=alt2> </TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  2. gatsuja

    gatsuja เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    837
    ค่าพลัง:
    +876
    ทำสิ่งที่เป็นประโยชน์ต่อสังคมดีที่สุดครับ
     
  3. ^บัวหลวง^

    ^บัวหลวง^ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    543
    ค่าพลัง:
    +661
    สาธุ อนุโมทนาค่ะ ขอขอบพระคุณเป็นอย่างสูงค่ะ
    วันนี้ตั้งแต่อ่านกระทู้มา..กระทู้นี้มีประโยชน์กับบัวมากที่สุดค่ะ
    ตอนนี้รู้แล้วค่ะว่าจะต้องทำอะไรต่อไป ขอขอบพระคุณอีกครั้งนึงค่ะ ^^
     
  4. KritZ_2530

    KritZ_2530 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 พฤศจิกายน 2009
    โพสต์:
    263
    ค่าพลัง:
    +293
    (คิดในแง่บวก) จึงจะเป็นประโยชน์ที่สุด
     
  5. ฟางว่าน

    ฟางว่าน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    1,080
    ค่าพลัง:
    +968
    ทำจิตใจให้ปราศจากการเบียดเบียนต่อใครๆ
     
  6. newearth

    newearth สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤศจิกายน 2009
    โพสต์:
    8
    ค่าพลัง:
    +17
    อนุโมทนา ครับ สาธุ สาธุ สาธุ

    เข้ามาอ่าน เจอกับที่กำลังปฎิบัติพอดีเลย สาธุครับ
     

แชร์หน้านี้

Loading...