ทำบุญน้อยได้บุญมาก

ในห้อง 'บุญ-อานิสงส์การทำบุญ' ตั้งกระทู้โดย HONGTAY, 28 สิงหาคม 2009.

  1. HONGTAY

    HONGTAY ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    36,548
    กระทู้เรื่องเด่น:
    151
    ค่าพลัง:
    +147,895
    ในสมัยพุทธกาล มีเพื่อนของวังคันตพราหมณ์ผู้เป็นบิดาของพระสารีบุตรเถระ
    ชื่อมหาเสนพราหมณ์ อยู่ในกรุงราชคฤห์ เป็นคนยากจน ไม่มีสมบัติอะไรเลย
    เช้าวันหนึ่ง พระสารีบุตรเถระได้ออกไปบิณฑบาตที่บ้านของพราหมณ์นั้น
    เพื่ออนุเคราะห์เขา แต่เขาคิดว่า บุตรของเรามาบิณฑบาตที่บ้านเรา
    ตอนนี้เราเป็นคนยากจน ทรัพย์สมบัติหรือวัตถุสิ่งของอะไรๆ ที่จะใส่บาตรก็ไม่มี
    บุตรของเราอาจจะไม่รู้เรื่องนี้ก็ได้

    เมื่อคิดได้ดังนั้นเขาจึงหลบหน้า ไม่กล้าออกมาพบพระเถระ
    ในวันต่อมาพระเถระก็ได้ไปบิณฑบาตอีก
    พราหมณ์ก็ได้หลบหน้า อีกเช่นเคย แต่ในใจเขาก็คิดอยู่ว่า
    ... ถ้าวันไหนเรามีอะไรที่จะถวายพระเถระเราก็จะถวายแก่ท่าน... แต่วันแล้ววันเล่าเขาก็ไม่ได้วัตถุสิ่งของอะไรที่จะถวายพระเถระเลย

    ต่อมาวันหนึ่งเขาได้ข้าวปายาสเต็มถาด
    และผ้าสาฎกเนื้อหยาบผืนหนึ่งจากที่แห่งหนึ่ง
    เมื่อกลับไปถึงบ้านจึงนึกถึงพระเถระขึ้นมาว่า
    ... เราควรจะถวายสิ่งของเหล่านี้แก่พระเถระ... ในขณะเดียวกันนั่นเอง พระเถระซึ่งกำลังนั่งสมาธิเข้าฌานอยู่ เห็นพราหมณ์ในนิมิต และคิดว่า... ขณะนี้พราหมณ์ได้ไทยธรรมแล้ว และอยากถวายสิ่งของเหล่านั้นกับเรา เราควรจะไปที่นั่น... คิดดังนั้นแล้วจึงลุกขึ้นห่มผ้าจีวรพร้อมพาดสังฆาฏิ
    เดินอุ้มบาตรไปยืนอยู่ที่หน้าบ้าน ของพราหมณ์

    ฝ่ายพราหมณ์เมื่อมองไปเห็นพระเถระยืนอุ้มบาตรอยู่หน้าบ้าน
    ก็ เกิดมีจิตเลื่อมใสเป็น อย่างยิ่ง จึงเข้าไปไหว้และนิมนต์ให้เข้าไปนั่งในบ้าน แล้วนำข้าวปายาสมาถวาย ขณะที่เขานำข้าวปายาสใส่ลงไปในบาตรอยู่นั้น พอใส่ไปได้ครึ่งหนึ่งพระเถระก็เอามือปิดบาตรไว้คิดว่าน่าจะพอแล้ว
    เหลือไว้ให้พราหมณ์ได้กินบ้าง
    เพราะเขาเป็นคนจนไม่มีอะไรเลย แต่พราหมณ์กลับบอกว่า

    ... ข้าวปายาสนี้มีนิดเดียว ขอท่านจงสงเคราะห์ผมในโลกหน้าเถิด
    อย่าสงเคราะห์ในโลก นี้เลย กระผมอยากจะถวายทั้งหมด...
    กล่าวแล้ว พราหมณ์จึงตักข้าวปายาสทั้งหมดใส่ลงไปในบาตร

    เมื่อพราหมณ์ใส่บาตรเรียบร้อยแล้วพระเถระก็นั่งฉันอยู่ที่บ้านของพราหมณ์นั่นเอง หลังจากฉันเสร็จ พราหมณ์ก็นำผ้าสาฎกมาถวายอีก
    แล้วตั้งความปรารถนาไว้ว่า
    ... ขอให้กระผมบรรลุธรรมเหมือนอย่างที่พระคุณเจ้าบรรลุเถิด...
    พระเถระจึงให้พรว่า ... จงสำเร็จอย่างนั้น พราหมณ์...

    จากอานิสงส์ที่ได้ถวายทานด้วยจิตที่เลื่อมใสศรัทธาอย่างยิ่ง
    จึงทำให้เกิดความอิ่มอก อิ่มใจมาก
    และพราหมณ์นี้ก็มีความเคารพรักในพระเถระยิ่งนัก
    ดังนั้น เมื่อตายไปจึงไปบังเกิดในตระกูลของคนที่เป็นผู้อุปัฏฐากพระเถระ ในกรุงสาวัตถี

    ในขณะที่มารดาของเขาตั้งครรภ์ นางได้งดการบริโภคอาหารที่ร้อนจัด
    เย็นจัด และเปรี้ยวจัด เป็นต้น ในเวลาแพ้ท้อง นางคิดว่า อยากจะนิมนต์ภิกษุสัก ๕๐๐ รูป มีพระสารี-บุตรเถระเป็นประธานมาที่บ้านแล้วถวายข้าวปายาส แล้วตนเองก็บริโภคข้าวปายาสที่เหลือจาก ที่พระฉัน นางได้ทำอย่างที่คิดนั้นความแพ้ท้องจึงสงบลง

    เมื่อทารกคลอดออกมา พวกญาติจึงอาบน้ำให้แล้วให้นอนบนผ้ากัมพล
    ที่มีราคาแพงถึง หนึ่งแสน และในวันนั้นก็ได้นิมนต์พระมาฉันภัตตาหารที่บ้าน ทารกที่นอนอยู่บนผ้ากัมพลนั้นก็ได้แลดูพระเถระและคิดว่า
    พระเถระนี้เป็นบุรพจารย์ของเรา เราได้สมบัตินี้เพราะอาศัยพระเถระนี้ เราควรจะทำบุญด้วยการบริจาคทานอย่างใดอย่างหนึ่งแก่ท่าน

    ดังนั้นในขณะที่พวกญาติอุ้มทารกไปรับศีลจากพระ
    ทารกน้อยได้เอานิ้วก้อยเกี่ยวผ้ากัมพลนั้นไว้
    พวกญาตินึกว่าผ้าไปเกี่ยวติดมือเด็กจึงเอาออก ทำให้ทารกร้องไห้
    พวกญาติจึงพูดกันว่า ... พาไปที่อื่นเถอะ อย่าให้เด็กมาร้องไห้แถวนี้เลย... แต่ก่อนจะพาทารกน้อยออกไป นั้นก็ได้พาไปกราบลาพระ
    ขณะนั้นเอง ทารกก็ชักนิ้วมือออกจากผ้ากัมพล
    ทำให้ผ้ากัมพลตกลงใกล้เท้าของพระเถระ พวกญาติจึงพูดขึ้นว่า
    ... ผ้านี้อันบุตรของพวกข้าพเจ้าถวายแล้ว จงเป็นอันบริจาคแล้วเถิด...

    หลังจากนั้นต่อมาเมื่อทารกน้อยเจริญวัย อายุได้ ๗ ขวบ
    จึงได้ขอบวชเป็นสามเณรใน สำนักของพระเถระ
    และกลายเป็นผู้มีลาภมากอย่างน่าอัศจรรย์
    จาก ผลแห่งการทำทานใน อดีตชาติเมื่อครั้งยังเป็นพราหมณ์ผู้ยากจนนั่นเอง ในครั้งหนึ่งชาวเมืองสาวัตถีทราบข่าวว่า สามเณรจะเข้าไปบิณฑบาต ได้พากันจัดเตรียมข้าวปลาอาหารและผ้าสาฎกไว้ถวายสามเณร
    จำนวนมากถึง ๕๐๐ ผืน ในวันต่อมาก็ได้ตามมาถวายถึงวัดที่สามเณรพักอยู่ซึ่งไม่ไกลจากวิหารอีก ๕๐๐ ผืน เป็นหนึ่งพันผืน

    วันหนึ่งในช่วงฤดูหนาว สามเณรได้เที่ยวจาริกไปในวัดต่างๆ
    เห็นพวกภิกษุพากันนั่งผิง ไฟอยู่ จึงเรียนถามว่า
    ... ท่านขอรับ เหตุไรจึงนั่งผิงไฟ ทำไมไม่หาผ้ากัมพลมาห่ม...

    พวกภิกษุกล่าวว่า... สามเณร เธอมีบุญมาก มีผู้ถวายผ้ากัมพล แต่พวกเราไม่มีเลย...

    สามเณรได้ฟังดังนั้นจึงคิดหาผ้ากัมพลมาถวายภิกษุทุกรูป
    โดยสามเณรและพวกภิกษุ ๑,๐๐๐ รูป ได้เดินไปตามหมู่บ้าน
    มีชาวบ้านนำผ้ากัมพลมาถวายถึง ๕๐๐ ผืน
    และเมื่อเดิน เข้าไปในตลาดก็มีพ่อค้าแม่ค้าเอาผ้ากัมพลมาถวายอีก ๕๐๐ ผืน

    ในขณะที่สามเณรพาภิกษุเดินไปตามตลาดอยู่นั้น
    มีชายตระหนี่คนหนึ่ง เมื่อรู้ว่าสามเณร และพวกภิกษุเดินมาทางบ้านของตัวเอง จึงเอาผ้ากัมพลสองผืนซ่อนไว้ เพราะกลัวว่าเณรจะขอ
    แต่พอสามเณรเดินมาถึงหน้าบ้าน เขาได้เห็นสามเณรก็เกิดความรักขึ้นมา
    ราวกับว่าสามเณร น้อยเป็นบุตรของตน เขาจึงคิดว่า เราจะให้สามเณรนี้ทุกอย่าง แล้วจึงไปเอาผ้ากัมพลสองผืนมาวางไว้แทบเท้าถวายแก่สามเณร
    แล้วกล่าวว่า ... ท่านเจ้าข้า ขอผมพึงมีส่วนแห่งธรรมที่ท่านเห็นแล้ว...

    สามเณรได้ทำอนุโมทนาแก่เขาว่า... จงสำเร็จอย่างนั้นเถิด...

    หลังจากได้ผ้าครบแล้ว สามเณรจึงได้นำมาถวายแก่พระภิกษุทุกรูปตามที่ตั้งใจไว้ ต่อมาสามเณรรูปนี้ได้ไปปฏิบัติธรรมอยู่ในป่าแห่งหนึ่ง
    ชาวบ้านบริเวณนั้นก็ให้ความอุปถัมภ์บำรุง เป็นอย่างดีเช่นเคย และในสามเดือนต่อมาสามเณรก็ได้บรรลุธรรมเป็นพระอรหันต์ในที่สุด

    .........
    จะเห็นได้ว่า สามเณรนั้นตอนที่ยังเป็นพราหมณ์ผู้ยากจน ได้ถวายสิ่งของเพียงเล็กน้อย แต่ผลบุญที่ได้นั้นมากมายยิ่งนัก
    นั่นก็เพราะว่า ๑. ได้ทำบุญด้วยจิตที่เลื่อมใส
    ๒. ของที่ถวาย ก็ได้มาด้วยความบริสุทธิ์
    ๓. พระสงฆ์ที่รับก็เป็นผู้ที่มีศีลบริสุทธิ์
    ทั้งสามองค์ประกอบนี้เป็น สิ่งสำคัญในการทำบุญตามหลักของพระพุทธศาสนา หากจะทำบุญให้ได้บุญมากนั้นต้องมีองค์ประกอบทั้งสามนี้ครบ
    เพราะการจะได้บุญมากหรือน้อย ไม่ได้อยู่ที่จำนวนวัตถุสิ่งของ

    นอกจากนั้นการทำบุญในพระพุทธศาสนานั้น ยังมีอีกหลายวิธีที่ทำให้ผู้ทำบุญได้บุญมาก โดยไม่ต้องใช้วัตถุสิ่งของใดๆเลย เพียงแต่ต้องลงมือปฏิบัติด้วยตัวเองเท่านั้น เช่น
    การทำบุญด้วยการรักษาศีล
    ทำบุญด้วยการเจริญภาวนา
    ทำบุญด้วยการประพฤติถ่อมตนต่อผู้ใหญ่
    ทำบุญด้วยการขวนขวายช่วยเหลือผู้อื่น
    ทำบุญด้วยการให้ส่วนบุญแก่ผู้อื่น
    ทำบุญด้วยการอนุโมทนาในบุญที่ผู้อื่นทำ ทำบุญด้วยการฟังธรรม ทำบุญด้วยการบอกธรรมะแก่ผู้อื่น และทำบุญด้วยการทำความเห็นให้ตรง
    วิธี ต่างๆ ทั้งหมดนี้ เรียกว่า บุญกิริยาวัตถุ เป็นหลักการทำบุญในพระพุทธศาสนา ซึ่งผู้ที่ไม่มีเงินทอง วัตถุสิ่งของอะไร ก็สามารถทำบุญได้
    และเป็นบุญที่ให้ผลบุญมากๆ เช่นเดียวกัน


    .:: Welcome To Sil5.net ::.
     
  2. อุปคุต

    อุปคุต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    83
    ค่าพลัง:
    +132
    ขออนุโมทนา สาธุ สาธุ สาธุ<!-- google_ad_section_end --> ครับ<!-- google_ad_section_end --> ........
     
  3. ANUWART

    ANUWART เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2008
    โพสต์:
    2,669
    ค่าพลัง:
    +14,320
    โมทนาสาธุครับ

    เชิญทำบุญซื้อ อิฐ หิน ดิน ทราย เหล็ก ปูน สร้างศาลาแก้วถวายสมเด็จองค์ปฐม

    เชิญร่วมเป็นเจ้าภาพสร้างพระประธานสมเด็จองค์ปฐมและศาลาแก้วพระจุฬามณี ที่ จ.นครศรีธรรมราช (สำนักสงฆ์ธรรมเจริญ)

    [​IMG]

    [​IMG]

    " บุญกุศลใดที่พึงจะได้รับ ก็ขอให้ทุกท่านได้รับเช่นเดียวกันถ้วนหน้าสถาพร ทั้งโลกนี้และโลกหน้า ที่สุดถึงซึ่งพระนิพพานด้วยกันเทอญฯ สาธุ"<!-- google_ad_section_end --> <!-- / message -->
     

แชร์หน้านี้

Loading...