ทำบุญด้วยมือเปล่า

ในห้อง 'บุญ-อานิสงส์การทำบุญ' ตั้งกระทู้โดย paang, 16 มีนาคม 2007.

  1. paang

    paang เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 เมษายน 2005
    โพสต์:
    9,492
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +34,328
    [​IMG]



    คนไทยชอบทำบุญ ส่วนใหญ่คุ้นเคยกับการบริจาคเงินหรือทำสังฆทาน นอกจากนี้ยังมีการทำบุญอีกแบบหนึ่งในแนวทางของพุทธศาสนา เป็นการทำบุญแบบไม่ใช้เงิน คือ การสละแรงกาย

    มูลนิธิสุขภาพไทย เป็นองค์กรพัฒนาเอกชน ทำงานเกี่ยวกับสุขภาพในทุกมิติ ทั้งกาย ใจ สังคม และสิ่งแวดล้อม นำแนวคิดการทำบุญแบบไม่ใช้เงินมาผสานกับแนวคิดเรื่องสุขภาพองค์รวม และการทำงานเพื่อสังคมหรือจิตอาสา ในโครงการ 'สัมผัสกายสัมผัสรัก' รวมผู้คนที่มีจิตอาสาไปช่วยกันนวดเด็กที่ถูกทอดทิ้งที่สถานสงเคราะห์เด็กอ่อนปากเกร็ด นนทบุรี

    วีรพงษ์ เกรียงสินยศ ผู้จัดการมูลนิธิสุขภาพไทย ทำงานเพื่อสังคมด้านสุขภาพมานานกว่า 20 ปี ระยะแรกอยู่ในโครงการสมุนไพรพึ่งตัวเอง เป็นองค์กรเล็กๆ ในร่มใหญ่ของมูลนิธิโกมลคีมทอง ก่อนจะตั้งเป็นมูลนิธิสุขภาพไทยในปี 2538 ทำงานเกี่ยวกับเรื่องสมุนไพร ให้ความสำคัญที่ว่ายาเป็นหนึ่งในปัจจัยสี่ แต่กลับเป็นปัจจัยที่ผู้คนไม่สามารถพึ่งตัวเองได้ ภูมิปัญญาเรื่องสมุนไพรเป็นคำตอบหนึ่งที่จะนำไปสู่การพึ่งตัวเองได้

    นอกจากนี้มูลนิธิสุขภาพไทยยังทำงานร่วมกับเครือข่ายพุทธิกา โดยมีพระไพศาล วิสาโล เป็นประธาน เนื่องจากสนใจเรื่องพุทธศาสนาด้วย และทำงานตามแนวคิดว่าธรรมะเป็นหัวใจของการพัฒนาในทุกระดับ ทั้งระดับบุคคล สังคม และประเทศ

    "เราเห็นว่าพุทธศาสนาไม่เข้ากับคนรุ่นใหม่ หรือถ้าจะเข้าก็นึกแต่ปัจเจก คือ พอปฏิบัติธรรมก็เอาตัวเองรอดอยู่คนเดียว อาจจะสุขสบายกาย แต่เพื่อนฝูงจะเป็นอย่างไรไม่ได้นึกถึง เครือข่ายพุทธิกาคิดว่าธรรมะต้องร่วมสมัย และไม่ใช่เพื่อประโยชน์แก่ตัวเองเท่านั้น ต้องเผื่อแผ่คนอื่นด้วย" วีรพงษ์เล่าถึงแนวความคิดเริ่มต้น

    การเผยแพร่เรื่องการทำบุญแบบไม่ใช้เงิน นอกจากมีคู่มือ 30 วิธีทำบุญเพื่อสุขภาพใจและสังคมแล้ว ยังช่วยอำนวยความสะดวกให้ผู้คนที่มีจิตอาสา มีช่องทางได้ทำงานเพื่อผู้อื่น เพื่อสังคม

    วีรพงษ์เล่าว่า เหตุภัยพิบัติสึนามิทำให้เห็นถึงพลังของอาสามัคร ครั้งนั้นแสดงตัวออกมาจำนวนมหาศาล ซึ่งก็ไม่ใช่เพราะเหตุภัยครั้งนั้นเขย่าขวัญผู้คนเท่านั้น แต่ยังทำให้เห็นผู้คนที่มีจิตอาสา พร้อมจะเสียสละและทำงานเพื่อสังคม แต่ไม่มีช่องทางในการทำงานเท่านั้น

    ปี 2545 มูลนิธิสุขภาพไทยจึงหันมาส่งเสริมเรื่องการนวดทารก เพื่อประโยชน์ทั้งพัฒนาการทางร่างกายและอารมณ์ของเด็กตามหลักอายุรเวท ระยะแรกมุ่งให้ความรู้แก่ชนชั้นกลาง จึงเปิดอบรมให้กับพ่อแม่ที่กำลังจะคลอดลูก หรือกำลังจะมีลูกเล็กๆ หลังจากนั้น 3 ปี จึงนำมาผนวกกับเรื่องทำบุญ เริ่มในช่วงเข้าพรรษา ทำบุญโดยไม่ใช้เงิน แต่มาช่วยเป็นอาสาสมัครนวดเด็ก

    อาสาสมัครนวดเด็กเริ่มต้นจากการฝึกอบรมเทคนิคการนวดเด็กไปพร้อมกับการปฐมนิเทศ มีกติกาหลายอย่างที่จะตกลงทำร่วมกัน อย่างหนึ่งคือเรื่องระยะเวลาการปฏิบัติงานกำหนดไว้ 4 เดือน โดยสามารถเลือกวันปฏิบัติงานได้สัปดาห์ละหนึ่งวันๆ ละ 3 ชั่วโมง ใช้เวลา 20 นาที สำหรับการนวด เวลาที่เหลือชั่วโมงกว่าจะเป็นการดูแลด้านอื่นๆ อย่างการป้อนอาหารหรือพาเด็กออกไปเดินเล่น และขอสัญญาใจกันว่าให้อยู่ปฏิบัติต่อเนื่องตลอด 4 เดือน แต่ถ้าบางคนติดธุระจริงๆ ก็ขอเวลาอย่างน้อย 2 เดือน

    "เด็กในสถานสงเคราะห์เป็นเด็กที่ถูกทอดทิ้ง เขาเหงา เมื่อเราเริ่มไปสัมพันธ์กับเขา แรกๆ เขาก็จะรู้สึกแปลกๆ ที่มีคนมาสักอาทิตย์สองอาทิตย์ เขาจึงเริ่มเปิดรับ เพื่อทำความรู้จักกัน ถ้าทิ้งเขาไปอีก เขาก็จะรู้สึกแย่ ดังนั้นจึงต้องขอเรียกว่าสัญญาใจ ถ้าจะมาทำก็ขออย่างน้อยสองเดือน แต่เราตั้งไว้สี่เดือน โดยส่วนใหญ่ประมาณ 60% ก็จะอยู่ครบ"

    วีรพงษ์บอกว่า โครงการนวดเด็กในสถานสงเคราะห์ที่จะจัดเร็วๆ นี้ เป็นครั้งที่ 6 แล้ว คนที่มาเป็นอาสาสมัคร ส่วนใหญ่อยู่ในวัยทำงานอายุประมาณ 30-40 ปี แต่ก็มีจำนวนไม่น้อยเป็นนักเรียนนักศึกษา แต่ละคนก็เลือกปฏิบัติงานในวันที่ตัวเองสะดวก

    "เจ้าหน้าที่ในสถานสงเคราะห์เก็บข้อมูลเบื้องต้นด้วยการทำบันทึก แล้วพบว่าภาวะทางอารมณ์ของเด็กๆ ดีขึ้น เมื่อก่อนพวกเขาร้องไห้โยเยบ่อย แต่พอมีคนไปนวดให้เขานอนหลับได้ดีขึ้น พัฒนาการของเด็กจะดีก็ต้องนอนเยอะๆ ไม่ร้องไห้โยเย เด็กมีความสุขมากขึ้น"

    อาสาสมัครหลายคนตั้งใจไปเป็นผู้ให้กันเต็มที่ แต่เมื่อได้สัมผัสกับเด็กๆ ปรากฏว่าสถานการณ์กลับตาลปัตรก็มี

    "ผลดีที่เกิดขึ้นไม่เฉพาะเด็กๆ ที่ได้รับ ที่มีความสุขขึ้น ผู้ใหญ่ที่ทำหน้าที่อาสาสมัครก็มีความสุขขึ้น บางคนก็ลืมความเครียด ลืมอาการไมเกรน หลายคนต้องนับวันรอ เพราะมีนัดไปนวดให้เด็กๆ แค่อาทิตย์ละครั้งเอง"

    นอกจากความสุขแล้ว ยังได้เรียนรู้ร่วมกัน เขาเล่าถึงนักศึกษาจากมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์กลุ่มหนึ่งเข้ามาเป็นอาสาสมัคร ระยะแรกพวกเขามาเพื่อทำรายงานส่งอาจารย์ แต่เมื่อได้สัมผัสกับเด็ก พวกเขาก็ได้เรียนรู้ ได้เป็นทั้งผู้ให้และได้รับด้วยในเวลาเดียวกัน

    "ถ้าไม่นับว่ารายงานของเด็กคนนั้นจะได้เกรดเอ เพราะเขาเขียนมันมาจากใจ จากการได้สัมผัสกับเด็กๆ แล้ว การได้เข้ามาทำงานอาสาสมัครก็มีผลกับจิตใจของเขา และมุมมองปัญหาสังคมของพวกเขา ก็ถูกขยายกรอบให้กว้างขึ้นและเป็นความจริงมากกว่าที่เห็นในตำราอีกด้วย" วีรพงษ์เล่าอย่างอดภูมิใจแทนสถาบันการศึกษาของพวกเขาไม่ได้

    นอกจากนี้เขาเล่าถึงความประทับใจที่ได้จากอาสาสมัครว่า มีนิสิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยคนหนึ่ง ปกติทำงานพิเศษเป็นแบบโฆษณา เธอต้องนอนคิดทั้งคืนก่อนตัดสินใจมานวดเด็ก เพราะเอเยนซีเรียกตัวเธอไปแคสติ้งงานพอดี ถ้าไปเธออาจได้งานได้เงินกินขนม แต่ที่สุดเธอก็เลือกมานวดให้เด็กๆ หรือมีอีกคนเป็นข้าราชการ เธอใช้สิทธิการลา โดยขอหยุดงานทุกวันพุธครึ่งวันตลอดเข้าพรรษาเพื่อมานวดเด็ก

    "คนเหล่านี้ทำให้เห็นว่าสายธารที่ไหลไม่ขาดสายเป็นอย่างไร" วีรพงษ์พูดถึงความรู้สึก
    ...............................
    หมายเหตุ : โครงการ 'สัมผัสกายสัมผัสรัก' อาสาสมัครนวดเด็กในสถานสงเคราะห์เด็กอ่อนปากเกร็ด นนทบุรี ปีนี้มูลนิธิสุขภาพไทยเปิด 2 รุ่น ระยะเวลาปฏิบัติงานเดือนเมษายน-มิถุนายน จะจัดปฐมนิเทศและฝึกเทคนิคนวดเด็กในวันที่ 11 มีนาคม 2550 สามารถเลือกปฏิบัติงานสัปดาห์ละ 1 วัน ระหว่างวันพุธ-วันอาทิตย์ สอบถามโทร.0-2589-4243, 0-2591-8092 08-6322-2241


    ที่มา http://www.bangkokbiznews.com/
     
  2. ธรรมวิวัฒน์

    ธรรมวิวัฒน์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    26,431
    กระทู้เรื่องเด่น:
    82
    ค่าพลัง:
    +115,473
    ผมว่าการทำบุญมันแล้วแต่ความคิดและเจตนาดีของแต่ละคนนะครับ เช่น บางคนก็หาอาหารไปเลี้ยงหมา-แมวข้างถนนก็มี หรือ บางคนก็ไปเป็นครูสอนเด็กข้างถนน เป็นต้น ผมว่าความเสียสละเป็นสิ่งที่ทำให้สังคมไทยน่าอยู่นะครับ บางครั้งทำให้เห็นอดที่จะปลื้มใจให้กับบุคคลเหล่านี้ในสังคมไม่ได้ครับ
     
  3. ถนอม021

    ถนอม021 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กันยายน 2008
    โพสต์:
    2,098
    ค่าพลัง:
    +3,163
    อนุโมทนาสาธุด้วยเทอญ สาธุ สาธุ สาธุ

    และขออุทิศบุญกุศลทั้งปวงแด่เจ้ากรรมนายเวรทุกภพทุกชาติ
    ให้ทุกท่านมีความสุขกายสุขใจตลอดไป ขอให้อโหสิรรมและ
    ขออโหสิกรรมกับทุกรูปทุกนามด้วยเถิด ให้ทุกท่านได้พระนิพพาน
    ในชาตินี้ด้วยเถิด

    ถนอม สุพัตรา ถกนธ์ พร้อมครอบครัวและญาติมิตร

    หลังจากสวดบูชาพระรัตนตรัยเสร็จเรียบร้อยแล้วสำหรับท่านที่ไม่ค่อยมีเวลามาก แนะนำบทสวดพุทธมนต์แบบย่อ ๆ แต่มีพลานุภาพมาก มีอานิสงส์มาก สวดไม่เกิน 5 นาทีจบ ดังนี้

    นะโม 3 จบ

    หัวใจ อิติปิโส ว่า
    อิสะวาสุ
    หัวใจพาหุง
    พา มา นา อุ กะ สะ นะ ทุ
    หัวใจพระเจ้าสิบชาติ
    เต ชะ สุ เน มะ ภู จะ นา วิ เว
    หัวใจบารมี 30 ทัส
    ทา สี เน ปะ วิ ขะ สะ อะ เม อุ
    หัวใจพระอาการวัตตาสูตร
    มุนินทะ วะทะนัมโพชะ คัพพะสัมภาวะ สุนทะรีปาณีนัง สะระณัง วาณี มัยหัง ปิณะ ยะตัง มะนัง
    หัวใจพระธารณะปริตร
    ทิฏฐิลา ทัณฑิลา มันติลา โรคิลา ขะระรา ทุพพิลา เอเตนะ สัจจะ วัชเชนะ โสตถิ เม โหตุ สัพพะทา
    หัวใจพระไตรปิฎก
    จิเจรุนิ
    หัวใจพระคาถาชินบัญชร
    ชะ จะ ต ะ สะ สี สัง หะ โก ทะ กะ เก นิ กุ โส ปุ เถ เส เอ ชะ ระ ธะ ขะ อา ชิ วา อะ ชิ สะ อิ ตัง
    คาถาบูชาพระพุทธเจ้า 16 พระองค์
    นะมะนะอะ นอกอนะกะ กอออนออะ นะอะกะอัง อุมิอะมิ มะหิสุตัง สุนะพุทธัง สุอะนะอะ

    [​IMG]สวดจบควรแผ่เมตตาทุกครั้ง[​IMG]
     

แชร์หน้านี้

Loading...