ทะเลเป็นพิษ ทะเลแดง !!!!!!!

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย Falkman, 28 มีนาคม 2007.

  1. Falkman

    Falkman พลังจิตนานาชาติ ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    19,726
    ค่าพลัง:
    +77,792
    กระทู้นี้จะไว้รวบรวม
    ทะเลที่เกิดพวกสาหร่ายสีแดงกระจายไป ตอนนี้สาหร่ายนี้เริ่มกระจายตัวไปทั่วโลกแล้ว ทะเลจะกลายเป็นสีแดง สัตว์ทะเลจะตาย

    ช่วยรวบรวมกันไว้ด้วย รวมถึงช่วยหาข้อมูลเพิ่มเติมภัยของสาหร่ายนี้ พร้อมวิธีป้องกัน (ถ้ามี)
     
  2. piakgear24

    piakgear24 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 ธันวาคม 2006
    โพสต์:
    2,696
    ค่าพลัง:
    +44,505
    เหมือนจะมีเยอะมากเลยนะน่าจะรวบรวมตั้งนานแล้ว
    Falkman น่าจะกลับไปค้นเอาข่าวเก่าๆที่ลงกันไว้
    ที่ฟอกแมนเอามาลงนั่นแหล่ะผมว่าเยอะอยู่นะ
    เหมือนว่าตอนนี้เหตุการณืนี้จะล้อมหน้าล้อมหลังประเทศไทยไปแล้ว
     
  3. Falkman

    Falkman พลังจิตนานาชาติ ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    19,726
    ค่าพลัง:
    +77,792
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=670><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD><TD>[​IMG]</TD><TD>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=670><TBODY><TR><TD width="100%">[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=10 width=670 border=0><TBODY><TR><TD width=670>2007-03-28 06:39:42 - Harmful Algal Blooms - Malaysia


    <CODE>GLIDE CODE: HA-20070328-10562-MYS
    Date & Time: 2007-03-28 06:39:42 [UTC]
    Area: Malaysia, , Lumut / Pangkor Island, ( MAP)


    <FIELDSET class=EC_watch>WATCH REGISTERED!</FIELDSET>

    Description:

    <CODE>Fishermen are claiming to have seen the sea around Lumut and parts of Pangkor Island turning red since last week. Kampung Sungai Pinang Besar Committee chairman Roslan Ahmad, 43, said fishermen had reportedly seen the waters near the shores
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 28 มีนาคม 2007
  4. Falkman

    Falkman พลังจิตนานาชาติ ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    19,726
    ค่าพลัง:
    +77,792
    จริงๆ มีอยู่มากเลย แต่มัวไปเล่นเกม เลยขี้เกียจลง (f)
     
  5. piakgear24

    piakgear24 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 ธันวาคม 2006
    โพสต์:
    2,696
    ค่าพลัง:
    +44,505
    ว่าไปแล้วเกมนี้ก็ทำให้มึนอยู่เหมือนกัน โดยเฉพาะตัวป่วนอย่าง ...ที่ยังงงอยู่ว่าใครหว่า...เหมือนกับว่าสัญญาณที่เราพูดถึง ว่า ทะเลเป็นสีแดงก็เหมือนจะเป็นเหตุหนึ่งที่เคยพูดกันว่า เป็นการบอกว่าจะเกิดเหตุใหญ่ต่อไป.......
    น่ากลัวจริงๆ คงใกล้เข้ามาเรื่อยๆแล้วสินะเวลาของพวกเราที่ต้องพบกับภัยใหญ่หลวง
     
  6. Falkman

    Falkman พลังจิตนานาชาติ ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    19,726
    ค่าพลัง:
    +77,792
    <META content="Microsoft SafeHTML" name=Generator><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=670 background=http://hisz.rsoe.hu/alertmap/mail/alertmail_E_01_01.jpg><TBODY><TR><TD align=right width=670 height=19>hisz.rsoe.hu</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=670><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD><TD>[​IMG]</TD><TD>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=670><TBODY><TR><TD width="100%">[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=10 width=670 border=0><TBODY><TR><TD width=670>2007-03-28 11:29:25 - Harmful Algal Blooms - Australia


    <CODE>GLIDE CODE: HA-20070328-10565-AUS
    Date & Time: 2007-03-28 11:29:25 [UTC]
    Area: Australia, State of Victoria, Lake Colac, ( MAP)

    Description:

    <CODE>The Environment Protection Authority (EPA) estimates about 1,000 fish have died in the past week. A former spokesman for the Lake Modewarre foreshore committee, Brian Gane, says a similar fish kill also happened early last year. Mr Gane says photographs of the lake before the fish kills last year and this year show the lake going very clear and foaming. He believes the water change and corresponding fish deaths are caused by a toxic algae. "On both occasions you'll see [in] the 2006 photograph the lake looks pristine, almost crystal clear ... and more startling on the 2007 photograph when the lake is significantly lower and should be even more turbid, where the event is taking place you can clearly see patches of the bottom. This is extraordinarily uncharacteristic," he said. But the EPA's John Williamson says the water in the Lake Colac and several others waterways in western Victoria have all been closely monitored and tested for the algae. Mr Williamson says there is not evidence of the algae and this week's deaths have been caused by fish spawning in water levels that are too low. He says he cannot explain what the foam is. "It's hard to tell what that foam is. There may in fact be a link between the foaming of the lakes and fish deaths, but this particular one we don't believe that's the case," he said. "But we certainly haven't tested foam previously, but what we have tested for [is] the presence [of] algae - particularly golden algae - and once again we haven't been able to detect the presence of toxic algae."tt</CODE>

    Damage level: Moderate
    </CODE></TD></TR></TBODY></TABLE>
    อันนี้เกิดที่ออสเตเรีย อาทิตย์ที่แล้วปลาตายไป 1,000 ตัวได้
     
  7. Falkman

    Falkman พลังจิตนานาชาติ ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    19,726
    ค่าพลัง:
    +77,792
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=670><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD><TD>[​IMG]</TD><TD>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=670><TBODY><TR><TD width="100%">[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=10 width=670 border=0><TBODY><TR><TD width=670>2007-03-28 11:13:33 - Harmful Algal Blooms - Finland


    <CODE>GLIDE CODE: HA-20070328-10563-FIN
    Date & Time: 2007-03-28 11:13:33 [UTC]
    Area: Finland, , Gulf of Finland, ( MAP)

    Description:

    <CODE>Warm water and sufficient light have already triggered non-toxic algae growth off Helsinki in the Gulf of Finland, the Finnish Institute of Marine Research said in a statement Wednesday. Algae blooms have also been detected in the Gulf of Mecklenburg in Germany. However, there are still no signs of algae in the central areas of the Baltic Sea and the Gulf of Finland. Once the spring's non-toxic algae bloom starts, the seawater near the Helsinki region often turns a brown colour. Toxic blue-green algae blooms are not expected before mid-July.</CODE></CODE>
    <CODE><CODE></CODE></CODE>
    <CODE><CODE>ฟินแลนด์</CODE></CODE>
    </TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  8. piakgear24

    piakgear24 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 ธันวาคม 2006
    โพสต์:
    2,696
    ค่าพลัง:
    +44,505
    Falkman ถ้ามีเวลาว่างๆ (ถ้าเจ้านายเผลอ ไม่เดินมาข้างหลัง) ลองเอาข่าวเก่าๆ+ข่าวใหม่เกี่ยวกับเรื่องนี้แล้วมาเขียนลงแผนที่
    แล้ว plot ดูผมว่าคงน่าตกใจมากเพราะว่าน่ากระจายไปทั่ว เหมือนเป็นเรื่องธรรมดาไปแล้วล่ะ ทะเลสีแดง และเรื่องสาหร่ายพิษ อะไรนี่
     
  9. kananun

    kananun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2006
    โพสต์:
    10,282
    ค่าพลัง:
    +114,775
    ที่น่ากลัวหลายๆอย่างของปรากฏการณ์ทะเลสีเลือดนี้คือ

    -สัตว์ทะเลบริเวณนั้นจะตายทั้งหมด รวมทั้งมีความเป็นพิษ

    -ปะการังจะตาย เกิดสภาวะปะการังฟอกขาว

    -แพลงตอนพืชและสาหร่ายสีเขียว (สาหร่ายชนิดดี) ที่เป็นผู้ทำหน้าที่ ผลิตออกซิเจนจำนวนมากที่สุดในโลกตัวจริง(มากกว่าป่าไม้ท้งหมด เนื่องจากมีพื้นที่และปริมาณมากกว่า บนบกนับสิบเท่า) ตายหมด

    ดังนั้นผลที่ได้ก็คือตัวเร่งในการเกิดสภาวะเรือนกระจกแบบทวีคูณเนื่องจากโอโซนโลกจะยิ่งลดลงอีก อย่างรวดเร็ว เมื่อโลกร้อน น้ำแข็งยิ่งละลายเร็วขึ้น น้ำท่วมจะรุนแรงขึ้น อากาศกลายเป็นอากาศเสียมากขึ้น

    น่ากลัวครับ ปัญหานี้

    สมแล้วที่หลายๆท่านอ้างอิงเป็นปัจจัยบ่งบอกถึง ภัยพิบัติใหญ่ที่กำลังมาถึง
     
  10. kananun

    kananun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2006
    โพสต์:
    10,282
    ค่าพลัง:
    +114,775
    ส่วนอีกเรื่องหนึ่งก็คือ "ปรากฏการณ์ ทะเลสีเลือด" ที่มีปัญหาจากสาหร่ายพิษสีแดงที่กระจายตัวลุกลามไปทั่วโลกแล้วในขณะนี้

    ตอนนี้ที่ปรากฏคือ ไทยที่รอบๆเกาะภูเก็ต ฟินท์แลนด์ ออสเตรเลีย มาเลเซีย


    ที่น่ากลัวหลายๆอย่างของปรากฏการณ์ทะเลสีเลือดนี้คือ

    -สัตว์ทะเลบริเวณนั้นจะตายทั้งหมด รวมทั้งมีความเป็นพิษ

    -ปะการังจะตาย เกิดสภาวะปะการังฟอกขาว

    -แพลงตอนพืชและสาหร่ายสีเขียว (สาหร่ายชนิดดี) ที่เป็นผู้ทำหน้าที่ ผลิตออกซิเจนจำนวนมากที่สุดในโลกตัวจริง(มากกว่าป่าไม้ท้งหมด เนื่องจากมีพื้นที่และปริมาณมากกว่า บนบกนับสิบเท่า) ตายหมด

    ดังนั้นผลที่ได้ก็คือตัวเร่งในการเกิดสภาวะเรือนกระจกแบบทวีคูณเนื่องจากโอโซนโลกจะยิ่งลดลงอีก อย่างรวดเร็ว เมื่อโลกร้อน น้ำแข็งยิ่งละลายเร็วขึ้น น้ำท่วมจะรุนแรงขึ้น อากาศกลายเป็นอากาศเสียมากขึ้น

    น่ากลัวครับ ปัญหานี้

    สมแล้วที่ศาสดาพยากรณ์หลายๆท่าน เช่น นอสตราดามุส อ้างอิงเป็นสัญญานบ่งบอกถึง ภัยพิบัติใหญ่ที่กำลังมาถึง

    เมื่อเช้านี้เองมีข้อมูลเพิ่มเติมเข้ามาว่า

    ทราบหรือไม่ทำไม ดาวอังคารจึงมีสีแดง

    เมื่อก่อน ดาวอังคารเคยมีน้ำและสภาพแวดล้อมคล้ายกับโลกเรานี่เอง แต่เพราะการทำสงคราม และสภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลงและการเกิดรอยรั่วของโอโซนขนาดใหญ่ในชั้นบรรยากาศ ทำให้ ดวงดาวร้อนขึ้น สาหร่ายสีแดงกระจายตัวไปทั่วทุกอณู ของมหาสมุทร จากนั้นก็ไม่มีระบบการผลิตออกซิเจนจากสาหร่ายสีเขียวในมหาสมุทรอีกต่อไป ไม่มีการฟอกคาร์บอนไดออกไซด์ เป็นออกซิเจนอีก ชั้นโอโซนยิ่งหายไปจนหมด ในอัตราเร่งแบบทวีคูณ หลังจากนั้นรังสีความร้อนก็แผดเผาน้ำทุกมหาสมุทรให้กลายเป็นไอกระจายตัวออกสู่อวกาศ จนแห้งแล้งเหลือแต่ผงฝุ่นสีแดงที่เป็นสปอร์ ของสาหร่ายสีเลือดนี้ปกคลุมพื้นผิวของดาวอังคารจนเรามองเห็นดาวดวงนี้เป็นดาวสีแดงนั่นเอง

    วันดีคืนดี มนุษย์โลกก็ไปเที่ยวดาวอังคารนำตัวอย่างฝุ่นเหล่านี้มา แล้วก็....................................................................

    อย่างที่ปรากฏอยู่ตอนนี้ครับ

    ขอจงอย่าได้คิดว่ากระบวนการเหล่านี้ จะใช้เวลา เป็นร้อยหรือพันปีนะครับ

    ถ้าหยุดกระบวนการเหล่านี้ไม่ได้ ได้เห็นเหตุการณ์ที่เล่าไว้ในยุคเรานี้ล่ะครับ โปรดอย่าได้ลืมว่า สาหร่ายแบ่งตัวจากหนึ่งเป็นสอง สองเป็นสี่แบบการยกกำลังนะครับ หากระบบฟอกอากาศและสร้างชั้นบรรยากาศพังอีกระบบก็ไม่ต้องห่วงครับ

    เวรกรรม....
    <!-- / message --><!-- sig --><!-- / message --><!-- sig -->

    ____________________________________________________________
     
  11. Nirvana

    Nirvana เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กุมภาพันธ์ 2005
    โพสต์:
    8,188
    ค่าพลัง:
    +20,865
    สิ่งนี้เรียกว่าปรากฏการ Red Tide ครับ พวกมนุษย์น้ำรู้จักกันดี

    เกิดจากซูแพลงตอนที่ขยายพันธุ์ได้อย่างรวดเร็วเพราะน้ำทะเลมีอุณหภูมิสูงขึ้นชั่วขณะหนึ่ง ซึ่งบ้านเราปรากฏขึ้น 3-4 ปี ครั้งหนึ่ง เคยเจอที่เกาะสิมิลัน
    สัตว์น้ำที่ต้องการออกซิเจนในบริเวณนั้นจะตายหรือหนีไปที่อื่น

    เป็นปรากฏการณ์ธรรมชาติครับ ไม่มีอะไรแปลก

    แต่ถ้าจะแปลกก็คือ หากเกิดเหตุการณ์นี้พร้อมกันทุกทะเลทั่วโลก กินอาณาบริเวณเป็นทวีป นั่นแหละครับ "แปลกจริง"

    วิธีแก้ไข....ไม่มีครับ เพราะเราไม่รู้ว่าจะเกิดเมื่อไร ที่ไหน แต่มันเกิดแล้วก็จะสลายไปเองโดยไม่ต้องทำอะไร เพราะเป็นวัฎฎจักรหนึ่งของชีวิตในทะเล
     
  12. Falkman

    Falkman พลังจิตนานาชาติ ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    19,726
    ค่าพลัง:
    +77,792
    จริงๆ ตอนนี้เกิดขึ้นหลายที่ในโลกแล้วนะแต่ไม่ได้เอาลงมาทั้งหมดเอง
     
  13. kananun

    kananun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2006
    โพสต์:
    10,282
    ค่าพลัง:
    +114,775
    ช่วยนำลงแบบ ย่อก็ได้ครับ จะได้เห็นภาพรวมของการกระจายตัวของสาหร่าย เท่าที่พอทราบมา มีปัจจัยด้านอุณหภูมิที่เปลี่ยนแปลงและการเคลื่อนที่ที่เปลี่ยนไปของกระแสน้ำอุ่นประกอบด้วย

    หากครอบคลุมมหาสมุทรทั้งหมดเมื่อไร โลกจะยิ่งร้อนยิ่งขึ้นแบบทวีคูณเลยครับ

    วิธีแก้ไข คือการกระจายสาหร่ายชนิดดี ลงไปแทนที่ สาหร่ายพิษ งานนี้ต้องเป็นความร่วมมือในระดับนานาชาติครับ ก่อนที่จะสายไป
     
  14. Falkman

    Falkman พลังจิตนานาชาติ ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    19,726
    ค่าพลัง:
    +77,792
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=670><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD><TD>[​IMG]</TD><TD>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=670><TBODY><TR><TD width="100%">[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=10 width=670 border=0><TBODY><TR><TD width=670>2007-04-03 19:30:09 - Harmful Algal Blooms - USA


    <CODE>GLIDE CODE: HA-20070403-10661-USA
    Date & Time: 2007-04-03 19:30:09 [UTC]
    Area: USA, State of Florida, , Fort Myers (
    MAP)

    Description:

    <CODE>State officials suspect red tide may have killed some of the 26 manatees found dead in the Fort Myers area over the past two weeks. Red tide is caused by a bloom of the alga Karenia brevis, which contains a powerful toxin that can kill fish and other marine life. When manatees come up for air, they inhale the toxin at the water's surface. They also eat seagrasses that can absorb the toxin. Forty manatees have died in the Lee County area since the beginning of 2006. Last year, 417 manatee deaths were recorded statewide, the worst year on record. Scientists are awaiting results from toxin analyses to know for certain if red tide killed the manatees, said Wendy Quigley, a spokeswoman for the Florida Fish and Wildlife Conservation Commission. Other major causes of death for the endangered animals include boat injuries, cold stress and natural causes.</CODE>

    </CODE></TD></TR></TBODY></TABLE>
    ที่อเมริกา สาหร่ายสีแดง ทำให้พวกตัวพะยูนในทะเล ตายไป 26 ตัว ภายในสองอาทิตย์
     
  15. Falkman

    Falkman พลังจิตนานาชาติ ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    19,726
    ค่าพลัง:
    +77,792
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=670 background=http://hisz.rsoe.hu/alertmap/mail/alertmail_E_01_01.jpg><TBODY><TR><TD align=right width=670 height=19>hisz.rsoe.hu</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=670><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD><TD>[​IMG]</TD><TD>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=670><TBODY><TR><TD width="100%">[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=10 width=670 border=0><TBODY><TR><TD width=670>2007-04-03 19:52:19 - Harmful Algal Blooms - Australia


    <CODE>GLIDE CODE: HA-20070403-10663-AUS
    Date & Time: 2007-04-03 19:52:19 [UTC]
    Area: Australia, State of Tasmania, Trevallyn Dam, (
    MAP)

    Description:

    <CODE>Water with an earthy taste and odour posed no health risk to West Tamar residents, the city's water supply company said yesterday. Esk Water chief executive Barry Cash said an algal bloom in Trevallyn Dam had not improved and granulated carbon being used in the Reatta Rd treatment plant was struggling to offset bad smells and tastes. Mr Cash said the plant was detecting negligible traces of the potentially toxic substance because it was drawing water from 10m below the surface of Trevallyn Dam. While samples were being sent to the Health Department in Hobart and a Melbourne laboratory to test for toxins, Mr Cash said there was no cause for concern. "There is an alarm level of 15,000 cells (of algae) per millilitre, which is where we start to worry about the potential toxic effect, but we've detected virtually no algae going in," he said. A round table discussion involving the West Tamar Council, Health Department, Hydro and Esk Water will be held on April 19 to discuss ways of preventing the situation in the future. "This is the first time we have ever had an algae bloom so we have to be careful not to go out and spend millions on a problem that may never occur again," Mr Cash said. "We have to understand what's happening and why and if it's likely to happen again and that's the point of the round table." In the interim, Mr Cash said talks had been held with Hydro to discuss options such as releasing more water from Great Lake. More carbon granules could not be added because the Reatta Rd system was not really designed to cope with them, Mr Cash said.</CODE>
    </CODE></TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  16. piakgear24

    piakgear24 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 ธันวาคม 2006
    โพสต์:
    2,696
    ค่าพลัง:
    +44,505
    มีข่าวไม่ค่อยดี ตอนนี้ดูเหมือนว่าทะเลระยอง และจันทบุรีได้เริ่มเกิดทะเลแดงแล้วแต่ยังไม่เห็นสีแดง
    แต่ว่า...
    เมื่อวานญาติผมไปเล่นน้ำทะเลที่จันทบุรี เขาบอกไม่กล้าเล่น เพราะมีปลาตัวใหญ่(หมายถึงขนาดที่คนชอบกินตามร้านอาหาร) ตายกันเกลื่อน เดินไปตามชายหาดจะเห็นกันประปลาย คือไม่ได้กองเป็นร้อยๆ แต่ก็มีให้เห็นเยอะกว่าปกติ

    วันนี้ เขาไปเล่นน้ำที่หาดแม่รำพึง(ระยอง)
    วันนี้ลองลงเล่นดู มีปลาตายเหมือนเมื่อวาน แต่ว่ายิ่งกว่าปลาตายก็คือ
    น้ำทะเลปกติตอนบ่ายๆเราลงไปเล่นมันจะเย็นสบายเหมือนที่เคย
    แต่ว่าอุณภูมิน้ำกลับร้อน เขาไม่มีเทอร์โมมิเตอร์วัด แต่ว่าประมาณว่าอาบน้ำแร่
    ให้เดาคร่าวน่าจะ 50 C ขึ้นไป (เดานะ ก็คนรู้สึกร้อนนั่นแหล่ะ)
    เหมือนกับว่าทะเลบ้านเราจะแย่แล้วสิ.....
    หมั่นทำความดีไว้พวกเรา
     
  17. Falkman

    Falkman พลังจิตนานาชาติ ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    19,726
    ค่าพลัง:
    +77,792
    <TABLE class=tborder id=post544662 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR vAlign=top><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 0px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 0px solid" width=175>เกษม<SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_544662", true); </SCRIPT>
    สมาชิก GOLD

    [​IMG]

    เข้ามาครั้งสุดท้ายเมื่อ: วันนี้ 05:39 PM
    วันที่สมัคร: Nov 2004
    ข้อความ: 694 <!-- Start Post Thank You Hack -->
    ได้ให้อนุโมทนา 1,536 ครั้ง
    ได้รับอนุโมทนา 7,686 ครั้ง ใน 864 โพส <!-- End Post Thank You Hack -->
    พลังการให้คะแนน: 958 [​IMG]
    [​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG]


    </TD><TD class=alt1 id=td_post_544662 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid"><!-- message -->
    Red Tide
    วายร้ายแห่งท้องทะเล
    [​IMG]
    พลันเมื่อท้องทะเลรอบเกาะฮ่องกงเป็นสีแดง ปลาที่เลี้ยงไว้ก็พร้อมใจกันตายอย่างมากมาย ประชาชนชาวฮ่องกงเริ่มหวาดระแวง ในขณะที่ทางการก็ออกประกาศเตือน ให้หลีกเลี่ยงการบริโภคปลาทะเล
    รัฐบาลฮ่องกงประกาศปิดชายหาดสำคัญ 5 แห่ง และหลังจากนั้นไม่นาน ทะเลสีแดงก็ไปถึง ชายฝั่งตอนใต้ของจีนแผ่นดินใหญ่ เหตุการณ์นี้ส่งผลให้ ปลา กุ้ง ปู หอย เสียชีวิต เมื่อน้ำทะเลเปลี่ยนจากสีครามเป็นสีแดง ทั้งหมดนี้เป็นปรากฏการณ์ที่เรียกว่า Red Tide




    <TABLE align=center><TBODY><TR><TD width=300 bgColor=#804040><CENTER>[FONT=FreesiaUPC,AngsanaUPC,Thonburi,System]Red Tide คืออะไร ? [/FONT]</CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE>

    red tide เป็นปรากฏการณ์ธรรมชาติที่เกิดจาก การเพิ่มจำนวนประชากร อย่างมหาศาล ของสาหร่ายเซลล์เดียวในทะเล หรือที่รู้จักกันดีว่าคือ algae bloom จำนวนประชากรของสาหร่ายเซลล์เดียวที่มากมาย ทำให้เห็นน้ำทะเลเป็นสีแดง

    สาหร่ายเซลล์เดียวที่ก่อให้เกิดปรากฏการณ์ red tide โดยมากเป็นสาหร่ายเซลล์เดียวกลุ่ม dinoflagellate สาหร่ายเซลล์เดียวกลุ่มนี้มีหางช่วยในการเคลื่อนที่ในน้ำ มักจะมีคลอโรฟิลด์สำหรับสังเคราะห์แสง และพวกมันก็จะผลิตสารพิษออกมาด้วย โดยทั่วไป สาหร่ายเซลล์เดียวพวกนี้จะสืบพันธุ์โดยการแบ่งตัว แต่ในยามที่อาหารขาดแคลน บางชนิดสามารถเปลี่ยนไปสืบพันธุ์แบบอาศัยเพศ ซึ่งจะทำให้การเพิ่มของจำนวนประชากร เป็นไปได้ช้าลง หลาย ๆ ชนิดมีช่วงชีวิตหลายขั้นตอน มันอาจซ่อนตัวอยู่ในโคลนที่ก้นทะเล รอจนกระทั่งสภาวะเหมาะสม แล้วค่อยโผล่ออกมาก็ได้


    [​IMG] [​IMG] [​IMG]

    สาหร่ายเซลล์เดียวบางชนิดที่ก่อให้เกิด red tide (จากซ้ายไปขวา)

    Certatium Gymnodinium Protoperidinium

    ผู้เชี่ยวชาญหลายคนบอกว่า red tide แผ่ขยายออกไปมากขึ้น dinoflagellate ที่มีพิษได้เพิ่มจาก 22 ชนิด เป็น 55 ชนิดทั่วโลก ในทศวรรษที่ผ่านมา ปรากฏการณ์ได้ขยายจากยุโรป และสหรัฐอเมริกา ไปยังเอเชีย และทวีปอเมริกาใต้
    สำหรับเหตุผลในการขยายขอบเขตของปรากฏการณ์นี้ ไปยังส่วนต่าง ๆ ของโลก มีคำอธิบายอยู่ 3 ประการคือ
    1. สาหร่ายเซลล์เดียว ติดไปกับเรือที่ใช้น้ำเป็นอับเฉา
    2. กระแสน้ำช่วยให้เกิดการสะสมของ ประชากรสาหร่ายเซลล์เดียว
    3. มลพิษจากมนุษย์ ช่วยเติมสารอาหารของสาหร่ายเซลล์เดียวลงในทะเล
    สิ่งที่ควรรู้อีกอย่างก็คือ คำว่า algae bloom หรือ red tide จะทำให้นึกว่า เป็นการเพิ่มของประชากรสาหร่ายเซลล์เดียวอย่างมาก จนเรามองเห็นเป็นสีแดงได้ แต่ที่จริงแล้ว สาหร่ายเซลล์เดียวก็มีเม็ดสีอื่น ๆ จนบางครั้ง เราจะเห็นเป็นสีอื่น ๆ รวมทั้งไม่มีสีเลยก็มี นอกจากนั้น ประชากรสาหร่ายเซลล์เดียวเพียงไม่กี่เซลล์ต่อลิตร ก็ก่อให้เกิดสารพิษได้เช่นกัน

    <TABLE align=center><TBODY><TR><TD width=300 bgColor=#804040><CENTER>[FONT=FreesiaUPC,AngsanaUPC,Thonburi,System]กลไกของ Red Tide [/FONT]</CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE>

    ปรากฏการณ์ red tide เกิดจากความหนาแน่นกว่าปกติ ของบรรดาสาหร่ายเซลล์เดียว โดยมากจะเป็น Gymnodinium breve หรือ จิมโนดิเนียม เบรเว เป็นปรากฏการณ์ธรรมชาติที่คนควบคุมไม่ได้ และก็ไม่ได้เกิดจากฝีมือมนุษย์ จะเกิดขึ้นเมื่อ อุณหภูมิ ความเค็ม และสารอาหารในทะเล อยู่ในระดับที่เหมาะสม Gymnodinium breve ก็จะเพิ่มจำนวนขึ้นมาอย่างมากมาย

    จนถึงเวลานี้ ยังไม่มีใครรู้แน่ชัดถึง การผสมผสานของปัจจัยเหล่านี้ในการก่อให้เกิด red tide แต่ผู้เชี่ยวชาญบางท่านเชื่อว่า เมื่ออุณหภูมิของน้ำทะเลสูง ลมสงบ ไม่มีฝน ก็จะเป็นจุดเริ่มต้นต่อการเกิด red tide นอกจากนั้นก็มีความคิดกันว่า คนเองก็อาจมีส่วนกระตุ้นให้เกิดปรากฏการณ์นี้ โดยการทิ้งปฏิกูลต่าง ๆ ลงในทะเล อีกเรื่องหนึ่งที่เราไม่รู้ก็คือ ทำไมสาหร่ายเซลล์เดียวพวกนี้ถึงผลิตสาพิษออกมา และผลิตขึ้นมาได้อย่างไร เมื่อสัตว์น้ำประเภทมีเปลือกที่กินอาหารด้วยการกรอง รวมทั้งปลาที่ใช้เหงือกกรองน้ำ ก็จะได้รับสารพิษพวกนี้เข้าไป และสารพิษก็จะมีความเข้มข้นขึ้น เมื่อคนมาบริโภคสัตว์น้ำเหล่านี้ ก็มีโอกาสเสีย ชีวิตได้



    <TABLE align=center><TBODY><TR><TD width=300 bgColor=#804040><CENTER>[FONT=FreesiaUPC,AngsanaUPC,Thonburi,System]ผลกระทบของ Red Tide [/FONT]</CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE>

    [​IMG]


    จากการที่เมื่อเกิดปรากฏการณ์ red tide ก็จะทำให้สัตว์น้ำได้รับสารพิษ ซึ่งมีผลต่อระบบประสาทส่วนกลาง ทำให้สัตว์น้ำเสียชีวิตเป็นจำนวนมาก รวมทั้งปลาวาฬหลังตระโหงก โลมาหัวขวด และพยูน ในปี พ.ศ.2539 พยูนในฟลอริดาตายเพราะ red tide เป็นจำนวน 10 เปอร์เซ็นต์ของจำนวนพยูนทั้งหมดที่นั่น และโลมาอีก 162 ตัวตายในเม็กซิโก

    [​IMG]
    ส่วนในปีนี้ก็ทำให้ปลาที่เลี้ยงในฮ่องกงตายไป 1,500 ตัน คิดเป็นครึ่งหนึ่งของที่ฮ่องกงผลิตได้เมื่อปีที่แล้ว ก่อให้เกิดการสูญเสียเป็นมูลค่าประมาณ 10.3 ล้านเหรียญสหรัฐฯ และยังทำให้เกิดข้อกังขาอีกด้วยว่า จะสามารถบริโภคปลาทะเลได้หรือไม่ ที่จีนแผ่นดินใหญ่เองก็สูญเสียปลาไปแล้ว 350 ตัน คิดเป็นค่าเสียหายได้มากกว่า 4 ล้านเหรียญสหรัฐฯ

    อีกปรากฏการณ์ที่คล้ายกับ red tide มีชื่อว่า brown tide เกิดในแบบเดียวกัน แต่จะไม่มีสารพิษเกิดขึ้น ผลกระทบคือ จะทำให้แสงแดดทะลุผ่านน้ำทะเลลงไปได้น้อยลง หญ้าทะเล และพืชน้ำที่พื้นทะเลจะลดจำนวนลง ระดับออกซิเจนก็จะต่ำลง ถิ่นที่อยู่อาศัยเริ่มไม่เหมาะสมกับสัตว์ทะเลบางชนิด ระบบ นิเวศล่มสลาย เป็นการสูญเสียที่รุนแรง

    ไม่เพียงการสูญเสียทรัพยากรสัตว์น้ำเท่านั้น red tide ยังทำให้การท่องเที่ยวบริเวณชายฝั่งลดลง การล่องเรือ การตกปลา ก็ได้รับผลกระทบ ร้านอาหารทะเลเองก็กระทบกระเทือนไม่แพ้กัน เนื่องจากประชาชนไม่มั่นใจในการบริโภคอาหารทะเล ไม่มั่นใจที่จะมาเที่ยวทะเล ถึงแม้จะเป็นบริเวณที่ปลอดภัยก็ตาม
    สำหรับคนทั่วไปที่บริโภค หอยกาบ หอยนางรม ปู ที่ได้รับสารพิษก็จะป่วยอย่างรุนแรงจนถึงขั้นเสียชีวิตได้ อย่างไรก็ตาม ถ้าเราบริโภคสัตว์น้ำที่จับขึ้นมาสด ๆ ไม่ได้ตายในน้ำ

    สารพิษจะยังไม่ถูกดูดซับเข้าไปในเนื้อเยื่อของสัตว์น้ำ เราก็ยังคงปลอดภัย อาการทั่วไปสำหรับผู้ที่ได้รับสารพิษนี้ก็คือ มีอาการชาบริเวณรอบ ๆ ปาก และขยายไปยังใบหน้า และคอภายในหนึ่งชั่วโมงครึ่งหลังจากได้รับพิษ ตามมาด้วยการปวดหัว วิงเวียน คลื่นเหียน และรู้สึกอ่อนเพลีย อาการจะเกิดขึ้นบริเวณปลายนิ้ว และลิ้นด้วย ต่อมาจะเคลื่อนไหวลำบาก หายใจติดขัด เกิดอาการหัวใจล้มเหลว เป็นอัมพาตบริเวณช่องอก และจะเสียชีวิตภายใน 12 ชั่วโมง ถ้าคิดว่าได้รับสารพิษจาก red tide ก็ทำให้สำรอกออกมา อย่าดื่มแอลกอฮอล์ และรีบไปพบแพทย์ทันที



    <TABLE align=center><TBODY><TR><TD width=300 bgColor=#804040><CENTER>[FONT=FreesiaUPC,AngsanaUPC,Thonburi,System]เราควรทำอย่างไร ? [/FONT]</CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE>

    [​IMG]
    ปรากฏการณ์ red tide ไม่ได้เกิดในทุกชายฝั่งทะเล เราจึงไม่มีความจำเป็นที่จะต้องงดการไปเที่ยวทะเลแต่อย่างใด ชาวประมงไทยก็รู้จักปรากฏการณ์นี้กันมานานแล้วในชื่อของ ขี้ปลาวาฬ เมืองไทยไม่ได้รับผลกระทบจากปรากฏการณ์นี้นัก ผิดกับในฮ่องกง เนื่องจากบริเวณเลี้ยงปลามีจำกัด เมื่อเกิดปรากฏการณ์ขึ้น ปลาส่วนใหญ่จึงเสียชีวิต เพราะมีออกซิเจนละลายลงไปในน้ำน้อย น้ำใหม่ ๆ ไม่ค่อยไหลเข้าไป ผลกระทบจึงรุนแรง ชาวประมงใน ฮ่องกง และจีนก็พยายามเติมอากาศช่วยอยู่

    ทางฮ่องกง และจีนยังบอกด้วยว่า red tide ที่เกิดขึ้นในครั้งนี้รุนแรงที่สุด และเกิดเร็วกว่าทุกครั้ง ซึ่งน่าจะมีสาเหตุมาจาก ปรากฏการณ์เอล นิญโญ่ด้วย รวมทั้งการทิ้งมลพิษลงสู่ท้องทะเลโดยฝีมือมนุษย์เอง

    ถึงกระนั้น ปรากฏการณ์ red tide ก็ยังคงเป็นปรากฏการณ์ธรรมชาติที่มนุษย์ยังรู้จักไม่มากนัก ไม่รู้กลไกที่แท้จริง ไม่รู้วิธีการควบคุม นักวิทยาศาสตร์ และผู้เชี่ยวชาญทั่วโลกกำลังศึกษาเรื่องนี้อยู่มากมาย ในไม่ช้าเราคงได้คำตอบที่แท้จริง ส่วนประชาชนอย่างเรา ก็ควรทำใจให้สบายเข้าไว้ ไม่ตื่นตกใจเกินเหตุ และไม่ใช่ว่า เมื่อเราเห็นน้ำเป็นสีแดง แล้วจะทึกทักว่าเป็น red tide ทันที บางครั้ง สีแดงที่เราเห็นนั้นก็มาจากสาเหตุอื่น (รวมทั้งการทิ้งของเสียจากโรงงานด้วย)

    ที่มา http://members.tripod.com/~inScience/redtide1.htm
    <!-- / message --><!-- edit note --><HR style="COLOR: #ffffff" SIZE=1>
    </TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  18. ตลับนาค

    ตลับนาค เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    114
    ค่าพลัง:
    +1,497
  19. Nirvana

    Nirvana เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กุมภาพันธ์ 2005
    โพสต์:
    8,188
    ค่าพลัง:
    +20,865
    <TABLE align=center><TBODY><TR><TD width=300 bgColor=#804040><CENTER>[FONT=FreesiaUPC,AngsanaUPC,Thonburi,System]เราควรทำอย่างไร ? [/FONT]</CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE>


    [​IMG]
    ปรากฏการณ์ red tide ไม่ได้เกิดในทุกชายฝั่งทะเล เราจึงไม่มีความจำเป็นที่จะต้องงดการไปเที่ยวทะเลแต่อย่างใด ชาวประมงไทยก็รู้จักปรากฏการณ์นี้กันมานานแล้วในชื่อของ ขี้ปลาวาฬ เมืองไทยไม่ได้รับผลกระทบจากปรากฏการณ์นี้นัก ผิดกับในฮ่องกง เนื่องจากบริเวณเลี้ยงปลามีจำกัด เมื่อเกิดปรากฏการณ์ขึ้น ปลาส่วนใหญ่จึงเสียชีวิต เพราะมีออกซิเจนละลายลงไปในน้ำน้อย น้ำใหม่ ๆ ไม่ค่อยไหลเข้าไป ผลกระทบจึงรุนแรง ชาวประมงใน ฮ่องกง และจีนก็พยายามเติมอากาศช่วยอยู่

    ทางฮ่องกง และจีนยังบอกด้วยว่า red tide ที่เกิดขึ้นในครั้งนี้รุนแรงที่สุด และเกิดเร็วกว่าทุกครั้ง ซึ่งน่าจะมีสาเหตุมาจาก ปรากฏการณ์เอล นิญโญ่ด้วย รวมทั้งการทิ้งมลพิษลงสู่ท้องทะเลโดยฝีมือมนุษย์เอง

    ถึงกระนั้น ปรากฏการณ์ red tide ก็ยังคงเป็นปรากฏการณ์ธรรมชาติที่มนุษย์ยังรู้จักไม่มากนัก ไม่รู้กลไกที่แท้จริง ไม่รู้วิธีการควบคุม นักวิทยาศาสตร์ และผู้เชี่ยวชาญทั่วโลกกำลังศึกษาเรื่องนี้อยู่มากมาย ในไม่ช้าเราคงได้คำตอบที่แท้จริง ส่วนประชาชนอย่างเรา ก็ควรทำใจให้สบายเข้าไว้ ไม่ตื่นตกใจเกินเหตุ และไม่ใช่ว่า เมื่อเราเห็นน้ำเป็นสีแดง แล้วจะทึกทักว่าเป็น red tide ทันที บางครั้ง สีแดงที่เราเห็นนั้นก็มาจากสาเหตุอื่น (รวมทั้งการทิ้งของเสียจากโรงงานด้วย)

    ที่มา http://members.tripod.com/~inScience/redtide1.htm

    <!-- / message -->
    ฮิๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

    ข้อยเว้า....แม่นบ่.....อิๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ:cool: <!-- edit note -->
     
  20. ธรรมวิวัฒน์

    ธรรมวิวัฒน์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    26,441
    กระทู้เรื่องเด่น:
    82
    ค่าพลัง:
    +115,506
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=2 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top>ปลาทะเลอันดามันตาย เหตุเกิดจากภาวะโลกร้อน
    </TD></TR><TR><TD vAlign=top>2 เมษายน พ.ศ. 2550 15:01:00
    </TD></TR><TR><TD vAlign=top><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=2 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top>
    ปลาทะเล เขตอุทยานแห่งชาติตะรุเต่า จ.สตูล และอุทยานแห่งชาติหาดเจ้าไหม จ.ตรัง และจ.กระบี่ พบปลายตายลอยขึ้นมาคลื่นซัดเข้าหาชายฝั่ง เนื่องจากปรากฎการณ์การเปลี่ยนแปลงอุณหภูมิน้ำ เกิดจาก"เอลนีโญ่"
    กรุงเทพธุรกิจออนไลน์ : จากกรณีที่เกิดปัญหาปลาทะเลน้ำลึก ในเขตอุทยานแห่งชาติตะรุเตา จ.สตูล และในหลายพื้นที่ของ จ.กระบี่ และตรัง ได้ลอยขึ้นมาเหนือน้ำในลักษณะทุรนทุราย และตายลงในที่สุด ก่อนที่จะถูกคลื่นซัดเข้าหาฝั่ง
    ขณะเดียวกันน้ำทะเลในพื้นที่เกิดเหตุนั้น มีการเปลี่ยนสีเป็นสีแดง เบื้องต้นสาเหตุปลาตาย คาดว่าน่าจะมาจากผลกระทบของปรากฎการณ์เอลนีโญ่ ที่มีการเปลี่ยนแปลงของอุณภูมิน้ำ
    นายจรัญ ขุนณรงค์ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติหาดเจ้าไหม จ.ตรัง กล่าวว่า ในส่วนของจังหวัดตรัง ยังพบปรากฎการณ์ดังกล่าวน้อยกว่าในพื้นที่ จ.สตูล และ จ.กระบี่ ซึ่งจะพบในแนวเขตเกาะลันตา แถบหินม่วง-หินแดง
    จากการตรวจสอบตัวอย่างปลาที่ตาย ปรากฎว่า ไม่พบสารพิษแต่อย่างใด จึงเชื่อว่าการตายของปลา ไม่ได้เกิดจากการวางยา โดยฝีมือของมนุษย์ แต่น่าจะเกิดจากสาเหตุธรรมชาติมากกว่า
    หัวหน้าอุทยานแห่งชาติหาดเจ้าไหม กล่าวอีกว่า สิ่งที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ มาจากผลกระทบจากปรากฎการณ์เอลนีโญ่ โดยการเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิน้ำ เนื่องจากภาวะโลกร้อน จนทำให้น้ำแข็งขั้วโลกละลาย และเกิดกระแสน้ำเย็นไหลผ่าน
    ทั้งนี้เมื่อปลาน้ำลึกต้องเจอสภาพน้ำเย็นจัด จึงไม่สามารถที่จะปรับเปลี่ยนอุณหภูมิได้ ทำให้ต้องหนีกระแสน้ำเย็น มาหากระแสน้ำที่มีอุณหภูมิอุ่นกว่าเพื่อเอาชีวิตรอด แต่ส่วนใหญ่ก็มักจะต้องตาย เช่นเดียวกับการน็อกปลาในน้ำแข็งทั่วไป ซึ่งขณะนี้ทางอุทยานฯ ได้จัดหน่วยออกลาดตระเวน เพื่อทำการตรวจสอบว่า ยังคงมีเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นอีกหรือไม่
    พ.ต.อ.เลิศชาย ถิ่นรัตน์ ผู้กำกับการ 9 กองบังคับการตำรวจน้ำ จังหวัดตรัง กล่าวถึงปรากฎการณ์ที่เกิดขึ้นว่า ปรากฏการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อประมาณ 2-3 สัปดาห์ ที่ผ่านมา โดยในส่วนของ จ.สตูล จะเกิดขึ้นมากที่สุด รองลงมาที่ จ.กระบี่ และตามด้วย จ.ตรัง ที่บริเวณเกาะไหง และเกาะกลาง ส่งผลให้ฝูงปลากระเบนจำนวนมาก ต้องว่ายน้ำหนีจากทางทิศใต้ขึ้นมายังทิศเหนือ ซึ่งปรากฎการณ์เช่นนี้ ไม่เคยมีใครเคยพบเห็นมาก่อน เช่นเดียวกับการที่น้ำทะเลเปลี่ยนเป็นสีแดง อย่างไรก็ตาม พ.ต.อ.เลิศชาย กล่าวว่า เหตุการณ์ทั้ง 2 อย่างน่าจะเกิดจากธรรมชาติ โดยการตายของปลานั้น เชื่อว่ามาจากการปรับเปลี่ยนอุณหภูมิน้ำใต้ทะเล จนทำให้เกิดแก๊สใต้น้ำ ส่งผลให้ปลาไม่สามารถปรับเปลี่ยนอุณหภูมิได้ทัน ส่วนการที่น้ำทะเลเปลี่ยนเป็นสีแดงนั้น เป็นการเพิ่มจำนวนของแพลงตอน หรือที่เรียนกันว่า "ขี้ปลาวาฬ" นั่นเอง ทั้งนี้จากเหตุการณ์ดังกล่าว ก็ได้สร้างความตื่นตระหนกให้กับนักท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก เนื่องจากส่วนใหญ่คิดว่า เป็นผลมาจากการปล่อยถ่ายน้ำมันลงสู่ทะเล ซึ่งขณะนี้ทางกองบังคับการตำรวจน้ำ ได้ทำความเข้าใจกับท่องเที่ยวไปแล้วว่า เป็นปรากฎการณ์ธรรมชาติที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ในแถบชายทะเลฝั่งอันดามัน และไม่อันตรายแต่อย่างใด โดยเป็นปรากฎการณ์เอลนีโญ่ หรือภาวะโลกร้อน
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
    ที่มา : http://www.bangkokbiznews.com/2007/04/02/WW10_WW10_news.php?newsid=62358
     

แชร์หน้านี้

Loading...