ตรัง น้ำตกสายรุ้ง น้ำตกไพรสวรรค์ ดินถล่มน้ำป่าไหลหลาก

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>น้ำป่าไหลหลากถล่มที่ตรัง มีผู้เสียชีวิต-บาดเจ็บจำนวนมาก</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>14 เมษายน 2550 21:04 น.</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>บ่ายวันนี้ (14 เม.ย.) เกิดน้ำป่าไหลหลาก ขณะที่นักท่องเที่ยวหลายร้อยคนพากันไปเที่ยวเล่นน้ำที่น้ำตกสายรุ้ง ต.นาชุมเห็ด อ.ย่านตาขาว จ.ตรัง โดยขณะเกิดเหตุมีนักท่องเที่ยวลงเล่นน้ำตกกว่า 500 คน ทำให้มีคนถูกน้ำป่าพัดจมน้ำเสียชีวิตจำนวนมาก เบื้องต้นพบศพ 7 ราย เป็นชาย 3 คน หญิง 3 คน และเด็กผู้ชายอีก 1 คน ยังไม่ทราบชื่อทั้งหมด และมีผู้บาดเจ็บอีกนับสิบคน โดยศพทั้ง 7 รายดังกล่าว ถูกนำส่งโรงพยาบาลย่านตาขาว รอให้ญาติมาติดต่อขอรับศพ ส่วนสาเหตุที่ทำให้เกิดน้ำป่าไหลหลากในครั้งนี้ เนื่องจากก่อนหน้านี้ 2 วัน มีฝนตกลงมาอย่างหนัก ทำให้เกิดน้ำป่าไหลหลากขณะที่มีนักท่องเที่ยวจำนวนมากไปเที่ยวเล่นที่น้ำตกดังกล่าว เนื่องจากเป็นวันหยุดช่วงเทศกาลสงกรานต์


</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

 

<TABLE cellSpacing=3 cellPadding=3 width=996 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center colSpan=4>Landslide - Asia

</TD></TR><TR><TD class=loc_hdr colSpan=4>Event summary</TD></TR><TR><TD>GLIDE Number</TD><TD>LS-20070414-10844-THA</TD><TD> </TD><TD> </TD></TR><TR class=line_hilite><TD>Event type</TD><TD>Landslide</TD><TD>Date / time [UTC]</TD><TD>14/04/2007 - 13:59:11 <SMALL>(Military Time, UTC)</SMALL></TD></TR><TR><TD>Country</TD><TD>Thailand</TD><TD>Area</TD><TD>Szairung &eacute;s Praiszavan v&iacute;zes&eacute;sek</TD></TR><TR class=line_hilite><TD>County / State</TD><TD>Trang tartom&aacute;ny</TD><TD>City</TD><TD>-</TD></TR><TR><TD>Cause of event</TD><TD>Unknow</TD><TD>Log date</TD><TD>14/04/2007 - 13:59:11 <SMALL>(Military Time, UTC)</SMALL></TD></TR><TR class=line_hilite><TD>Damage level</TD><TD>Not or Not data </TD><TD>Time left</TD><TD>- </TD></TR><TR><TD>Latitude:</TD><TD>N 7&deg; 33.000</TD><TD>Longitude:</TD><TD>E 99&deg; 48.000</TD></TR><TR class=line_hilite><TD>Number of deaths:</TD><TD>21 persons</TD><TD>Number of injured persons:</TD><TD>Not or Not data</TD></TR><TR><TD>Number of missing persons:</TD><TD>36 persons</TD><TD>Number of infected persons</TD><TD>-</TD></TR><TR><TD>Number of evacuated persons:</TD><TD>Not or Not data</TD><TD>Summary:</TD><TD>57 persons *</TD></TR></TBODY></TABLE>

 

ณ เวลา 23.10 เพิ่ม คนเสียชีวิต เป็น 27 แล้วนะครับ

เพิ่มยอดผู้เสียชีวิตล่าสุด สดๆๆร้อนๆๆ 39 แล้วครับ

เบอร์โทรสอบถาม รพ.ย่านตาขาว (075)281448-9

 

<TABLE class=mxtable cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" align=center bgColor=#ffffff border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top height=120>

น้ำป่าและโคลนถล่มจังหวัดตรัง​

ข่าวจากหนังสือพิมพ์คมชัดลึก
<TABLE class=MsoNormalTable cellSpacing=5 cellPadding=0 width=567 border=0 15cm; mso-cellspacing: 3.7pt; mso-padding-alt: 0cm 0cm&quot;><TBODY><TR 0?><TD vAlign=top PADDING-RIGHT: BORDER-TOP: PADDING-LEFT: PADDING-BOTTOM: BORDER-LEFT: PADDING-TOP: 0cm; BORDER-BOTTOM: #ece9d8; BACKGROUND-COLOR: transparent&quot;>น้ำป่า-โคลนถล่มน้ำตกที่จ.ตรัง พบแล้ว23ศพ สูญหายอีกเพียบ<?xml:namespace prefix = o /><o></o>
</TD></TR><TR 1?><TD vAlign=top PADDING-RIGHT: BORDER-TOP: PADDING-LEFT: PADDING-BOTTOM: BORDER-LEFT: PADDING-TOP: 0cm; BORDER-BOTTOM: #ece9d8; BACKGROUND-COLOR: transparent&quot;>14 เมษายน 2550 <?xml:namespace prefix = st1 /><st1:time Minute='"42"' Hour='"20"'>20:42</st1:time> น.<o></o>
</TD></TR><TR 2; mso-yfti-lastrow: yes?><TD vAlign=top PADDING-RIGHT: BORDER-TOP: PADDING-LEFT: PADDING-BOTTOM: BORDER-LEFT: PADDING-TOP: 0cm; BORDER-BOTTOM: #ece9d8; BACKGROUND-COLOR: transparent&quot;>น้ำป่าถล่มน้ำตก จ.ตรัง หลายจุด นักท่องเที่ยวหนีตายจ้าละหวั่น พบศพแล้ว 23 สูญหายอีกเพียบ ระดมเจ้าหน้าที่กว่า 300 ค้นหา พร้อมสั่งห้ามขึ้นน้ำตกทุกจุดในช่วงนี้ เผยนาทีระทึก นักท่องเที่ยวเล่นน้ำตกกลับเจอน้ำป่า-โคลนถล่มไม่รู้ตัว อุตุฯเตือน เที่ยวน้ำตกทุกแห่งช่วงนี้ต้องระวังเป็นพิเศษ <o></o>
น้ำป่าไหลหลากถล่มน้ำตกดังใน จ.ตรัง ครั้งนี้เปิดเผยเมื่อเวลา 15.20 น. วันที่ 14 เมษายน ระหว่างที่นักท่องเที่ยวนับร้อยคน กำลังเดินทางไปท่องเที่ยวกันที่บริเวณน้ำตกสายรุ้ง และน้ำตกไพรสวรรค์ ซึ่งตั้งอยู่ในพื้นที่ ต.นาชุมเห็ด อ.ย่านตาขาว เนื่องจากตรงกับช่วงวันหยุดยาวในเทศกาลสงกรานต์ ประจำปี 2550 ได้เกิดเหตุน้ำป่าไหลหลากลงมาอย่างรุนแรง และรวดเร็ว จากบริเวณเทือกเขาบรรทัด ซึ่งตั้งอยู่เขตรอยต่อระหว่างจังหวัดตรัง กับพัทลุง ขณะที่นักท่องเที่ยวไม่สามารถตั้งตัวได้ทัน จึงถูกกระแสน้ำพัดพาร่างลงสู่เบื้องล่าง กระแทกเข้ากับโขดหินจนจมน้ำสูญหายไปเป็นจำนวนมาก <o></o>
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากเกิดฝนตกอย่างหนักตั้งแต่เมื่อคืนวันที่ 13 เมษายน ที่ผ่านมา บริเวณน้ำตกสายรุ้ง หมู่ 4 ต.นาชุมเห็ด อ.ย่านตาขาว จ.ตรัง ได้เกิดน้ำป่าไหลหลากอย่างรุนแรงจนเกิดความชุลมุนวุ่นวายอย่างมาก โดยเจ้าหน้าที่ระดมกำลังช่วยเหลือและอพยพนักท่องเที่ยวจำนวนมากออกไปอยู่ในจุดปลอดภัยท่ามกลางความโกลาหล โดยเมื่อเวลา 18.30 น. พบผู้เสียชีวิตแล้ว 17 ศพ <o></o>
ขณะเดียวกันที่น้ำตกไพรสวรรค์ หมู่ 4 บ้านโคกทราย อ.ย่านตาขาว อยู่ห่างจากน้ำตกสายรุ้งประมาณ 4 กิโลเมตร ได้เกิดน้ำป่าไหลหลากและโคลนถล่มเช่นกัน ซึ่งจุดนี้เจ้าหน้าที่สามารถค้นหาผู้เสียชีวิตได้แล้วจำนวน 4 ศพ แต่ยังไม่ทราบชื่อ นอกจากนี้ยังพบผู้เสียชีวิตที่น้ำตกลำปลอก ม.10 ต.ปะเหลี่ยน อ.ปะเหลียน อีก 2 ศพ <o></o>
สำหรับรายชื่อผู้เสียชีวิตที่ทราบชื่อแล้ว 6 คน คือ 1.นางจิรนันท์ โต๊ะไดย์ อายุ 38 ปี อยู่บ้านเลขที่ 46/16 หมู่ที่ 9 ต.สะเตงนอก อ.เมือง จ.ยะลา 2.นายพิชัย โต๊ะไดย์ อายุ 39 ปี บ้านอยู่ที่เดียวกับนางจิรนันท์ 3.นายสุริยา กุลสุข อายุ 19 ปี ที่อยู่ บ้านคลองชี ต.วังมะปราง อ.วังวิเศษ จ.ตรัง และ 4.นางพงษ์ยุพา จันทร์ประกอบ อายุ 36 ปี อยู่บ้านเลขที่ 29 ม.8 ต.นาวงศ์ อ.ห้วยยอด จ.ตรัง 5.น.ส.ศศิภาภร นิลพันธุ์ อายุ 17 ปี อยู่บ้านเลขที่ 184 ม.2 ต.วังมะปรางเหนือ อ.วังวิเศษ จ.ตรัง และ6.นางหทัยทิพย์ ชูทอง อายุ 18 ปี อยู่บ้านเลขที่ 116 ม.3 ต.กันตังใต้ อ.กันตัง จ.ตรัง นอกจากนี้ยังพบศพผู้หญิงไม่ทราบชื่ออีก 7 คน และเด็กชายไม่ทราบชื่ออายุประมาณ 10 ขวบ อีก 1 ตน <o></o>
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า น้ำตกที่เกิดเหตุน้ำป่าไหลหลาก และโคลนถล่มครั้งนี้ มี 4 แห่งคือ 1.น้ำตกสายรุ้ง 2.น้ำตกไพรสวรรค์ ซึ่งทั้งสองแห่งนี้อยู่ใน อ.ย่านตาขาว 3.น้ำตกลำปลอก และ 4.น้ำตกโตนเต๊ะ อยู่ในเขต อ.ปะเหลียน โดยในส่วนของน้ำตกโตนเต๊ะ ยังไม่ได้รับรายงานผู้เสียชีวิต <o></o>
หลังเกิดเหตุนายอานนท์ มนัสวานิช ผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง พร้อมด้วยพล.ต.ต.เขจร ศิริวรรณ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดตรัง มีคำสั่งด่วนไปยังเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายไม่ว่าจะเป็นเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง เจ้าหน้าที่ตำรวจ เจ้าหน้าที่สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เจ้าหน้าที่มูลนินิกุศลสถานตรัง เจ้าหน้าที่มูลนิธิห้วยยอด แพทย์ และพยาบาล จากโรงพยาบาลตรัง โรงพยาบาลนาโยง และโรงพยาบาลย่านตาขาว อาสาสมัครป้องกันภัยฝ่ายผลเรือน (อป.พร.) ตลอดจนกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และชาวบ้านพื้นที่ จำนวนนับร้อยๆ คน ระดมกำลังพร้อมเครื่องมืออุปกรณ์ไปยังสถานที่เกิดเหตุ เพื่อช่วยชีวิตเหลือบรรดานักท่องเที่ยวอย่างเร่งด่วน <o></o>
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ได้สั่งห้ามนักท่องเที่ยวและประชาชนทุกคน เดินทางขึ้นไปบนน้ำตกทุกแห่งอย่างเด็ดขาด รวมไปถึงน้ำตกอื่นๆ ที่อยู่ใกล้เคียง เช่น น้ำตกช่อง อ.นาโยง น้ำตกโตนเต๊ะ และน้ำตกลำปลอก อ.ปะเหลียน ซึ่งล้วนเป็นจุดที่มีนักท่องเที่ยวจำนวนมาก เดินทางไปเล่นน้ำตกเพื่อคลายร้อน อย่างไรก็ตาม ทันทีที่บรรดานักท่องเที่ยวทราบข่าวร้าย ได้เกิดความโกลาหลอย่างหนัก เพราะต่างก็พยายามหลบหนี โดยเจ้าหน้าที่ได้อพยพนักท่องเที่ยวลงมาอยู่ที่บริเวณลานจอดรถ และไม่อนุญาตให้เดินทางไปไหน เนื่องจากจำเป็นต้องปิดถนนเส้นทางเข้าออกบริเวณน้ำตกทั้ง 2 แห่ง เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับรถของเจ้าหน้าที่ ทำให้สภาพจราจรติดขัดอย่างหนัก <o></o>
นายประสิทธิ์ สมบัติทอง นายกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) นาชุดเห็ด อ.ย่านตาขาว ซึ่งเป็นพื้นที่ที่ตั้งของ น้ำตกที่เกิดเหตุ กล่าวว่า มีผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุมีฝนตกลงมาแค่เล็กน้อย ท้องฟ้ามีสภาพมืดครึ้มแต่ไม่มากนัก มีชาวบ้านแถวนั้นสังเกตความผิดปกติ เพราะน้ำตกมีสภาพขุ่นข้น จึงเตือนให้นักท่องเที่ยวรีบขึ้นจากน้ำตก แต่นักท่องเที่ยวบางส่วนไม่เชื่อ จึงถูกน้ำป่าพัดพาร่างสูญหายไปในที่สุด ซึ่งเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วมาก จนนักท่องเที่ยวไม่สามารถวิ่งหนีไปได้ทัน <o></o>
ส่วนสาเหตุนั้น นายประสิทธิ์ กล่าวว่า น่าจะเกิดจากฝนที่ตกลงมาอย่างหนัก บนเทือกเขาบรรทัดติดต่อกันหลายวัน ในที่สุดก็มีน้ำสะสมเป็นปริมาณมากจนรับไม่ไหว และทะลักลงมาเป็นน้ำป่าสู่พื้นที่ด้านล่าง <o></o>
นายประสิทธิ์ กล่าวอีกว่า เดิมทีบนน้ำตกสายรุ้งจะมีชาวบ้าน ในนามของชมรมรักษ์สายรุ้ง คอยดูแลนักท่องเที่ยวที่มาเล่นน้ำตก แต่ในช่วงหลังมาชมรมดังกล่าวได้ถูกยุบไป เนื่องจากเจ้าหน้าที่ป่าไม้ไม่ยินยอม ทำให้ไม่มีใครมาดูแลนักท่องเที่ยว ทั้งๆ ที่ปกติแล้วเวลามีฝนตกหนัก หรือมีแนวโน้มว่าจะเกิดน้ำป่าไหลหลาก คนของชมรมรักษ์สายรุ้งจะคอยแจ้งเตือนนักท่องเที่ยวให้อพยพขึ้นมาอยู่ในจุดที่ปลอดภัย <o></o>
ผู้เห็นเหตุการณ์รายหนึ่งเล่าว่า ระหว่างที่นักท่องเที่ยวซึ่งมีทั้งเด็กและผู้ใหญ่ประมาณ 40-50 คน ลงเล่นในน้ำตก ทันใดนั้นก็มีน้ำป่าไหลถล่มพร้อมดินโคลนลงมาอย่างรวดเร็ว โดยที่ไม่สัญญาณใดๆ บอกเหตุ ทำให้คนที่เล่นน้ำตกต่างหนีตายกันจ้าละหวั่น แต่เนื่องจากกระแสน้ำที่ไหลเชี่ยว ประกอบกับโคลนที่พัดมาด้วย ทำให้หลายคนถูกกระแสน้ำพัดกระแทกกับโขดหิน <o></o>
นายสมปอง ขาวดี เจ้าหน้าที่ป้องกันบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดตรัง เปิดเผยว่า ได้ระดมกำลังเจ้าหน้าที่ทุกภาคส่วนในพื้นที่ประมาณ 300 นาย เข้าช่วยเหลือ ซึ่งนอกจากผู้เสียชีวิตแล้ว ยังมีผู้บาดเจ็บอีกจำนวนหนึ่งที่รอการช่วยเหลือเพราะติดอยู่ตามเกาะแก่ง และต้นไม้ โดยเจ้าหน้าที่ได้เร่งมือช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน <o></o>
นายสมปอง กล่าวว่า จากการตรวจสอบเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นพบว่า ขณะเกิดเหตุบริเวณน้ำตกทั้ง 2 แห่งไม่มีฝนตกแต่อย่างใด อากาศทั่วไปปกติ ทำให้มีนักท่องเที่ยวซึ่งเป็นคนนอกพื้นที่ และส่วนใหญ่มาเป็นครอบครัวได้เข้ามาเที่ยวในช่วงเทศกาลสงกรานต์มากกว่าปกติ และเป็นจังหวะเดียวกับที่ได้เกิดฝนตกหนักบริเวณต้นน้ำตั้งแต่เวลา 11.00 น. และในช่วงเวลา 14.00 น.เป็นต้นมาน้ำตกเริ่มเปลี่ยนสีจากใสเป็นขุ่นแดง แต่ไม่มีใครสนใจเพราะบริเวณจุดที่ผู้คนเล่นน้ำตกอยู่อย่างสนุกสนานกลับไม่มีฝนตก จึงไม่มีใครสงสัย กระทั่งน้ำป่าทะลักเข้าท่วมอย่างรวดเร็วทำให้วิ่งหนีไม่ทัน <o></o>
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 19.00 น. นายชวน หลีกภัย อดีตนายกรัฐมนตรี และอดีต ส.ส.จังหวัดตรัง ได้เดินทางมาที่น้ำตกสายรุ้ง เพื่อสอบถามและอำนวยการช่วยเหลือผู้ประสบภัยอย่างเต็มที่ โดย นายชวน ได้แสดงความเสียใจกับครอบครัวญาติผู้เสียชีวิต พร้อมกำชับเจ้าหน้าที่ให้ช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน นอกจากนี้ยังได้ขอความร่วมมือรัฐบาลในการหามาตรการป้องกันภัยธรรมชาติอย่างเข้มแข็ง เพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์ซ้ำรอย <o></o>
อย่างไรก็ตาม ผู้ว่าราชการจ.ตรัง ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ยุติการค้นหาเมื่อเวลาประมาณ 19.30 น. เนื่องจากในพื้นที่ยังมีน้ำไหลเชี่ยวกราก ประกอบกับไม่มีไฟฟ้า ทำให้การค้นหาเป็นไปด้วยความยากลำบาก และเสี่ยงอันตราย โดยจะเริ่มค้นหาผู้สูญหายอีกครั้งในวันที่ 15 เมษายน เวลา 08.00 น. พร้อมกันนี้ได้ตั้งชุดเฉพาะกิจประจำจุดน้ำตกสายรุ้งตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อรับแจ้งคนสูญหายในเหตุการณ์ครั้งนี้ <o></o>
จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นครั้งนี้ ผู้สื่อข่าวได้สอบถามไปยังกรมอุตุนิยมวิทยา โดยนายคทาวุฒิ มาลัยโรจน์ศิริ หัวหน้าเวรพยากรณ์อากาศ กล่าวว่า สาเหตุที่ทำให้เกิดน้ำป่าไหลหลากตามน้ำตกต่างๆ ในพื้นที่ จ.ตรัง ขณะนี้เกิดจากกระแสลมพัดเสาะตามแนวเขาบริเวณเทือกเขาบรรทัด ทำให้เกิดเมฆฝนตามเนวสันเขา ซึ่งจากการตรวจสอบของสถานีตรวจอากาศที่สนามบิน จ.ตรัง พบว่าปริมาณฝนในพื้นที่มีเพียง 33 มิลลิเมตรเท่านั้น ส่วนสาเหตุที่ทำให้เกิดน้ำป่าไหลหลากอาจเป็นไปได้ว่าเกิดจากปริมาณน้ำที่สะสมอยู่ตามสันเขามีมาก ขณะที่ป่าไม้ในพื้นที่ถูกทำลายจึงทำให้ดินไม่สามารถอุ้มน้ำเอาไว้ได้ จึงเกิดพังทลายลงมากับกระแสน้ำ <o></o>
นายคทาวุฒิ กล่าวต่อว่า ระหว่างวันที่ 14-17 เมษายน ขอให้ประชาชนที่เดินทางไปท่องเที่ยวตามน้ำตกต่างๆ ที่อยู่รายรอบเทือกเขาสันกาลาคีรี เทือกเขานครศรีธรรมราช เทือกเขาตะนาวศรี เทือกเขาถนนธงชัย เทือกเขาบรรทัด รวมถึงเขาใหญ่ และน้ำตกต่างๆ ใน จ.กาญจนบุรี ระมัดระวังอันตรายจากน้ำป่าไหลหลาก เนื่องจากระยะนี้อากาศร้อนทำให้เกิดกระแสลมพัดเสาะตามแนวเขา ทำให้เกิดฝนตกตามสันเขา อาจทำให้เกิดน้ำป่าไหลหลากได้ทุกเมื่อ <o></o>
"สภาพดินฟ้าอากาศที่แปรปรวนเพราะภาวะโลกร้อน ประกอบกับป่าไม้ในประเทศไทยถูกทำลายไปมาก ทำให้ทุกครั้งที่เกิดฝนตกหนัก ดินไม่สามารถอุ้มรับน้ำไว้ได้ จึงเกิดพังทลายลงมา กลายเป็นน้ำป่า และโคลนถล่ม ซึ่งมีโอกาสเกิดขึ้นได้ทุกที่ จึงอยากเตือนประชาชนที่ไปเที่ยวตามน้ำตกทุกแห่งระมัดระวังเป็นพิเศษ" นายคทาวุฒิ กล่าว <o></o>
ด้านนายวรวุฒิ ตันติวนิช ผู้เชี่ยวชาญด้านธรณีวิทยา กรมทรัพยากรธรณี กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กล่าวว่า ลำธารที่เป็นต้นน้ำของน้ำตกต่างๆ ในพื้นที่ มีเศษไม้หรือเศษดินเศษหินขวางแนวทางน้ำกลายเป็นเขื่อนธรรมชาติ เมื่อมีฝนตกมาใหม่ๆ กระแสน้ำจะถูกเขื่อนธรรมชาติดังกล่าวกั้นไว้ เมื่อปริมาณน้ำมีจำนวนมากจึงทำให้เกิดแรงดันมหาศาลทำให้เขื่อนธรรมชาติดังกล่าวพังลงมาทำให้เกิดน้ำป่าไหลหลากขึ้น <o></o>
"เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นครั้งนี้คล้ายกับกรณีที่เกิดขึ้นที่น้ำตกวังตะไคร้เมื่อหลายปีก่อน ซึ่งอยากเตือนให้ประชาชนที่เข้าไปเที่ยวบริเวณน้ำตกในระยะนี้ระมัดระวัง เพราะฝนที่ตกตามสันเขาอยู่ในป่าลึก ประชาชนที่อยู่ตามน้ำตกต่างๆ จะไม่ทราบ ซึ่งเมื่อปริมาณน้ำในสันเขามีจำนวนมากอาจไหลหลากมายังน้ำตกได้ทุกเมื่อ" นายวรวุฒิ กล่าว <o></o>
</TD></TR></TBODY></TABLE>
<o>[FONT="Times] [/FONT] </o>
</TD><TD width=18 rowSpan=3> </TD></TR><TR><TD align=right>กรมทรัพยากรธรณี </TD></TR><TR><TD align=right>14 เม.ย. 2550 <!--125.25.140.98--> </TD></TR></TBODY></TABLE>
http://www.dmr.go.th/news_dmr/data/1991.html

 

ฮื่อ...!!!...อ่านไปขนลุกไป...เกี่ยวกับน้ำอีกแล้ว...สงสารผู้เคราะห์ร้ายเหล่านั้นมากเลย...วันหยุดยาวแทนที่จะมีความสุข...สนุกสนานในครอบครัว...กลับกลายมาเป็นวันหยุด..(โศกนาฏกรรม)...ทำความโศกเศร้าให้กับหลาย ๆ ครอบครัวเลยทีเดียว....น่ากลัวมาก ๆ กับภัยที่มองไม่เห็นตัวครั้งนี้...กำลังสนุกอยู่แท้ ๆ เชียว...กลับกลายมาเป็นเรื่องเศร้าได้ภายในพริบตา....(มีสุขก็มีทุกข์คละเคล้ากันไป...แต่ไม่คิดว่ามันจะรวดเร็วปานนี้...)...ตายแบบกลัว...ลนลานแบบนี้...(น่าเป็นห่วงมาก ๆ เลยค่ะ...)...เพราะเคยได้ยินมาว่า...ก่อนตายต้องมีสติมีข้อห้ามก่อนตาย 4 อย่าง...ซึ่งความกลัว...ความตกใจ...ก็รวม ๆ อยู่ในนั้นด้วย....แต่ถึงยังไงก็แล้วแต่...ขอกุศลผลบุญหนุนนำท่านทั้งหลายเหล่านั้นให้ไปสู่สุขคติภูมิด้วยเทอญ...สาธุ

 

อันนี้ข่าวไม่ค่อยอัพเดทเท่าไร

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>ยอดผู้เสียชีวิตเหตุน้ำป่าถล่มที่จ.ตรัง พุ่ง 23 ศพ!</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>14 เมษายน 2550 23:20 น.</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=bottom align=left height=12></TD></TR><TR><TD bgColor=#cccccc><TABLE cellSpacing=1 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle bgColor=#ffffff><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=160><TABLE cellSpacing=4 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=middle>คลิกที่ภาพเพื่อดูขนาดใหญ่ขึ้น</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle width=165 height=1></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD><TD width=4 background=/images/linedot_vert3.gif></TD><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=7 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>เหตุน้ำป่าไหลทะลักจากเทือกเขาพัดพากลุ่มนักท่องเที่ยวที่ฉลองวันหยุดยาวช่วงสงกรานต์ มียอดผู้เสียชีวิตแล้วรวม 23 ราย และสูญหายอีกจำนวนหนึ่ง ล่าสุดเจ้าหน้าที่หยุดการค้นหาร่างผู้เสียชีวิตไว้ก่อน เนื่องจากไม่มีแสงไฟ อากาศมืด หวั่นน้ำป่าทะลักระลอกสอง โดยจะเริ่มค้นหาอีกครั้งเช้าพรุ่งนี้ (15 เม.ย.)

ความคืบหน้าจากกรณี วันนี้ (14 เม.ย.) เมื่อเวลาประมาณ 13.30 น. ขณะที่นักท่องเที่ยวจำนวนนับร้อยๆ คน กำลังเดินทางไปท่องเที่ยวกันที่บริเวณน้ำตกชื่อดังของจังหวัดตรัง ทั้งน้ำตกสายรุ้ง และน้ำตกไพรสวรรค์ ซึ่งตั้งอยู่ในพื้นที่ตำบลนาชุมเห็ด อำเภอย่านตาขาว ในวันหยุดยาวเทศกาลสงกรานต์ จู่ๆ ก็ได้เกิดน้ำป่าไหลหลากลงมาอย่างรุนแรงและรวดเร็วจากบริเวณเทือกเขาบรรทัด ซึ่งตั้งอยู่เขตรอยต่อระหว่างจังหวัดตรัง กับจังหวัดพัทลุง โดยที่นักท่องเที่ยวไม่สามารถตั้งตัวได้ทัน จึงถูกกระแสน้ำพัดพาร่างลงสู่บริเวณเบื้องล่างในทันทีทันใด แล้วกระแทกเข้ากับโขดหินจนจมน้ำสูญหายไปเป็นจำนวนมาก ซึ่งมีทั้งผู้สูญหายและเสียชีวิตนั้น

เมื่อเวลา 21.00 น.วันนี้ (14 เม.ย.50) ศูนย์นเรนทร รายงานยอดผู้เสียชีวิตจากโรงพยาบาลย่านตาขาว จ.ตรัง ล่าสุดมีผู้เสียชีวิตแล้ว 23 ราย ประกอบด้วย 1. นาง นุชรี แก้วพิทักษ์ 2. นางจีระนันท์ โต๊ะไดย์ 3. หญิงไม่ทราบชื่อ 4. เด็กชายไม่ทราบชื่อ 5.นายพิชัย โต๊ะไดย์ 6. น.ส.พัชวรรณ กิตติคุณ 7. ด.ญ.พัชรี แก้วพิทักษ์ 8. ด.ช.วงศธร ธรรมสุวรรณ 9.เด็กหญิงไม่ทราบชื่อ 10. ด.ช.ณัฐพงษ์ ตุลยสุข 11.น.ส.มาวะดี เกียรติเมธา 12. นายสุริยา ตุลยสุข 13. น.ส.โสภิตย์ หนูเรือง 14. ด.ช.รัฐธรรมนูญ แต่งสวน 15. นางกุหลาบ บัวชุม 16. หญิงไม่ทราบชื่อ 17. ด.ญ.สุดารัตน์ ตุลยสุข 18. ด.ช.ธีรพล เฮงหลี 19. น.ส.ศศิมาพร นิวพันธ์ 20. น.ส.อุทัย ชูทอง 21. ด.ช.อนุพงษ์ เฮงหลี 22. ด.ช.อาทิตย์ แก้วอ่อน 23. หญิงไม่ทราบชื่อ โดยผู้เสียชีวิตทั้ง 23 รายนี้ แยกเป็น หญิง 1 คน เด็กหญิง 2 คน ชาย 2 คน เด็กชาย 8 ราย

ล่าสุดเจ้าหน้าที่ได้หยุดการค้นหาร่างผู้เสียชีวิตไว้ก่อน เนื่องจากที่เกิดเหตุไม่มีแสงไฟ อากาศมืด ขณะเดียวกันเกรงว่าจะเกิดน้ำป่าทะลักลงมาอีก โดยจะเริ่มค้นหาใหม่ในเวลา 08.00 น.พรุ่งนี้(15 เม.ย.)

โดยหลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ได้สั่งห้ามนักท่องเที่ยวและประชาชนทุกคน เดินทางขึ้นไปบนน้ำตกทุกแห่งอย่างเด็ดขาด รวมไปถึงน้ำตกอื่นๆ ที่อยู่ใกล้เคียง เช่น น้ำตกช่อง อ.นาโยง น้ำตกโตนเต๊ะ และน้ำตกลำปลอก อ.ปะเหลียน ซึ่งล้วนเป็นจุดที่มีนักท่องเที่ยวจำนวนมาก เดินทางไปเล่นน้ำตกเพื่อคลายร้อน
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

 

น้ำป่า นี่ อันตรายมาก แกร่งอย่างไรก็สู้พลังน้ำไหลหลากไม่ได้

น้ำฝนที่ตกในบริเวณพื้นที่ที่เราอยู่ จะไม่มีวันทำอันตรายเราได้เลย แต่นำฝนที่ตกมาจากทางเหนือที่เราอยู่ และเป็นที่ที่สูงกว่า ถ้าเรารู้ว่ามีฝนตกบริเวณด้านทิศเหนือของเรา เราต้องรีบขึ้นที่สูงทันที เพราะน้ำป่าไหลหลากมาเร็วมาก ไม่มีอะไรที่จะต้านทานได้

ข้อควรระมัดระวังก็คือ ให้สังเกตุท้องฟ้าด้านบริเวณทางเหนือที่เป็นที่สูง ถ้ามีฟ้าครึ้ม ก้อนเมฆสีดำปกคลุม มีริ้ว ๆ เป็นแนวตกมายังพื้นดิน มีเสียงอื้ออึงดังก้องหุบเขา ถึงแม้บริเวณที่เราอยู่จะมีแสงแดดส่องก็ตาม ถ้าเจออย่างนี้ก็เตรียมตัวเก็บเสื้อผ้ายัดใสเป้ แล้วรีบขึ้นที่สูงดีกว่า

ให้สังเกตุร่องรอยเก่าว่าน้ำขึ้นสูงระดับไหน แล้วไปให้สูงกว่านั้น มันมาพักเดียวเท่านั้นแหละ แป้ปเดียวก็เหมือนเดิม แต่ถ้าตกติดต่อกันหลายวัน เป็นบริเวณพื้นที่กว้าง ก็เตรียมตัวกับปัญหาอดอาหารได้เลย เพราะเราจะไม่สามารถข้ามลำน้ำที่เชี่ยวกรากได้เลย เราจะต้องนั่งจับเจ่าอยู่กับความหนาวเย็น และจะต้องมองหาต้นกล้วยเพื่อจะเอาใบตองมาปูรองนอนและห่มแทนผ้าห่ม ถ้ามีมีดกูชีพแบบถูก ๆ ก็ยังพอตัดก้านใบตองได้ ถ้าไม่มีก็ต้องยื้อแย่งกับมันนานหน่อย เรียกว่าพอได้โทสะบ้าง ล่ะ

ต้องมองหา ชง่อนผา หรือถ้ำน้อย ๆ เป็นที่อาศัย หรือใต้กอไผ่ ที่พอหลบฝนได้ ช่วงนั้นอากาศจะหนาวเย็นมาก ชนิดคางเราจะสั่นและกระทบกันเป็นอัตโนมัติทีเดียว ต่อไปเราก็ใช้ไฟแช็คอย่างดีที่คุณ คนานัน จัดหา มาก่อไฟด้วยฟืนที่เปียกชื้น ต้องออกแรงใช้ลมเป่าใกล้จะหน้ามืดนั้นแหละ ถึงจะติด คราวนี่ก็คงจะต้องถอดผ้าออกทีละชิ้นเพื่อที่จะย่างให้พอแห้ง พอมีกลิ่นควันไฟติดเสื้อผ้าบ้าง

ได้กองไฟก็อบอุ่นดี สบายขึ้นหน่อย แต่ทุกข์จากความหิวก็จะเข้ามาเยือน ใครกักตุนไว้เยอะก็ค่อยยังชั่ว แต่ถ้าไม่มีเลยก็ต้องขันติ สายตาก็ตองสอดสายไปตามภูมิประเทศ สีหน้าอาจเจื่อน ๆ ไปบ้าง คงต้องทำตัวให้ นิ่ง ๆ เข้าไว้ ทำจิตให้สงบ ร่างกายจะได้เผาผลาญน้อยหน่อย จะทุกข์อยู่นานหรือไม่ อันนี้ต้องยกให้กฏแห่งกรรม ก็จะสบายใจดี

 

At least 23 people died on Saturday and many more were missing after a flash flood swept over a popular waterfall in southern Thailand, officials said.The tragedy took place at about 2:00 pm (0700 GMT) at the Sairung waterfall in Trang province, some 700 kilometres (434 miles) south of Bangkok.“At least 23 people were confirmed dead and we have learned that more bodies are coming,” a local hospital official said, adding that she did not know how many people were missing.
Most of the victims were women and children, she said.A senior provincial official said 23 people were killed and at least 24 were missing several hours after the accident, while police major general Kachorn Siriwan, in Trang province, said earlier at least 14 people were still missing.“People were enjoying the waterfall and suddenly a flash flood swept over,” the police officer said.The Nation English language daily said on its website that tourists at the waterfall were caught off-guard by the flood and many failed to “get out of the waterways in time.”Several injured tourists were stranded on rocks and trees waiting for rescue workers, the Nation said.Local reports also said the area had been hit by heavy rains since Thursday.Following the incident, hundreds of rescue workers, including military personnel, local police and volunteers, were mobilised to hunt for the missing and to help survivors, the senior provincial official said.“We are continuing our search and rescue operations,” he said.Around 100 holidaymakers were enjoying the waterfall at the time of the tragedy, according to the local hospital official.Thailand is celebrating the five-day Buddhist New Year holiday, which started on Friday.)

 

<TABLE class=loc_table cellSpacing=3 cellPadding=0 width=996 align=left border=0><TBODY><TR class=update_head><TD>Situation Update No. 1 On 14.04.2007 at 20:03 GMT+2</TD><TD width="2%">Open Close </TD></TR><TR><TD colSpan=2><CODE>Raging mountain torrents killed at least 23 people as they were spending their Songkran holiday at crowded Sai Rung and Phrai Sawan waterfalls in this southern province. Run-off caused by heavy rain roared down from the Banthat mountain range to waterfalls where hundreds of tourists were bathing. The flash flood carried the victims downstream, slamming them against rocks and drowning them, rescue officials said. Nineteen people died at Sai Rung waterfall and four at Phrai Sawan, about 10 kilometres north of Sai Rung, according to provincial officials. The casualties comprised 12 women, two men, seven boys, and two girls. One report put the number of people injured at 20, with another 30 thought to be missing. The injured were admitted to Yan Ta Khao hospital. Most victims were Trang residents and tourists from neighbouring provinces. Rescue officials found it hard to retrieve the victims' bodies, especially those stuck between rocks, because of the steep slope and slippery conditions. Their rescue equipment was also limited. The rescue team stopped its work around 9pm after difficult conditions frustrated efforts to take in an electric generator to create light during a night search for the missing. They were also worried that another torrent might come down from the mountain. The team will continue their work this morning. Officials decided to close the two waterfalls, located in Yan Ta Khao district, indefinitely. Other nearby waterfalls, also crowded with tourists, were also closed for safety.

Rain showers in the area took place before the tragedy. A witness said local villagers told tourists to move to safer ground when they noticed the water turning muddy, which alerted them to potentially dangerous conditions. However, some ignored the advice, and were hit by the flash flood. ''Heavy rainfall has taken place in the area for a few days and perhaps Banthat mountain received so much rain that it could not hold it any longer,'' said Meteorological Department chief Suparerk Tansriratanawong. The department is monitoring the weather in Trang and neighbouring provinces and will notify provincial officials and villagers in case of unusual conditions. A group of villagers known as the Rak Sai Rung conservation group used to patrol the area, watching over tourists and telling them if they noticed approaching mountain torrents. However, forestry officials banned them, said Prasit Sombatong, chairman of Na Chud Hed tambon administration organisation. He did not give a reason. Trang forest official Plueang Rattanchawit said no wildlife officials were stationed at the waterfalls even though the areas were crowded with tourists. The Natural Resources and Environment Ministry will send officials to investigate today. </CODE>
</TD></TR><SCRIPT type=text/javascript>linkset(document.getElementById('1138'),document.getElementById('zar1138'));</SCRIPT></TBODY></TABLE>

 

แหม...ขำเชียวคุณเปี๊ยก...มีมุข..ขำ..ขำ...ก็ไม่บอก...อ่านไปนั่งอมยิ้มไปด้วย...ขำ..จิง ๆ เล้ย..คุณเปี๊ยกของเรา...แล้ววิเคราะห์สถานการณ์...แบบขำ ๆ แบบนี้มาบ่อย ๆ นะคะ...อ่านแล้วคลายเครียดได้ดีนักค่ะ...เห็นภาพเลย...(ถ้าหิว ๆ ต้องนั่งนิ่ง ๆ ใช้สายตาสอดส่ายหาอาหารเท่านั้น...อย่าออกอาการขยับเขยื้อนมากนัก...จะสูญเสียพลังงานไปโดยใช่เหตุ...เป็นยุทธวิธีที่ยอดเยี่ยมมั่ก ๆ ค่ะ...คิดได้งัยเนี้ย...)...หุหุ

 

ดูที่เกิดเหตุกันใกล้ๆ แต่ก้ยังไม่เห็นชัดครับ ต้องรอข่าวจากสื่อต่างๆ

 

อุ๊บ...!!..หุหุ...อ่านไปอ่านมา...ก็ว่าแล้วเชียวมุข...ขำ ..ขำ...แบบนี้คุ้น ๆ มีอยู่ที่เดียวแห่งเดียวเท่านั้น...พี่คลิกของเรานั่นเอง...ก็ว่า..อยู่ ๆ ทำไมคุณเปี๊ยกถึงมีมุข..ขำ..ขำ..ขึ้นมาได้...ที่แท้พี่คลิกนั่นเอง..คิคิ...

 

หากประเมินจากที่พวกเราได้ออกทริปและได้เห็น ภูเขาที่ยิ่งกว่าหัวโล้น(ไม่มีต้นไม้แม้แต่ต้นเดียว เหลือแต่ดินแดงๆเท่านั้น )

ผมคาดว่าเมื่อฝนมา (ซึ่งรอบนี้น่าจะมากเนื่องจาก อากาศร้อน ได้ระเหยปริมาณน้ำไปสะสมอยู่มาก) น่าจะเกิดเหตุการณ์แบบนี้อีกไม่ต่ำกว่าสิบแห่ง ทั่วประเทศ ดังนั้นท่านที่อยู่ ใต้ทางน้ำ แนวลาดเขา ก็จงหาทางหนีทีไล่ และสถานที่ปลอดภัยกันไว้ให้ดี ครับ ระบบเตือนภัย หอกระจายข่าวของชุมชน ดูแลแก้ไขไว้ให้ทำงานได้ เผื่อฉุกเฉินจะได้ใช้ครับ

 

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>ผู้เสียชีวิตน้ำตกตรังเพิ่มเป็น 39 ศพ - รัฐเพิ่งตื่นเตรียมติดสัญญาณเตือนภัย </TD><TD vAlign=baseline align=right width=85></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>15 เมษายน 2550 12:38 น.</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=bottom align=left height=12></TD></TR><TR><TD bgColor=#cccccc><TABLE cellSpacing=1 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle bgColor=#ffffff><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=160><TABLE cellSpacing=4 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=middle>คลิกที่ภาพเพื่อดูขนาดใหญ่ขึ้น</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle width=165 height=1></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD><TD width=4 background=/images/linedot_vert3.gif></TD><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=7 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>ตรัง -ไทยมุงนับพันแห่มาดูจนท.ค้นหาศพผู้เสียชีวิตบริเวณน้ำตก จ.ตรัง ทำให้การจราจรติดขัดยาวกว่า 2 กม.จนท.กู้ภัยทำงานด้วยความยากลำบาก วอนปชช.อย่าเดินทางเข้าไป ล่าสุดพบผู้เสียชีวิตเพิ่มอีกรวมเป็น 39 ศพแล้ว ด้านผวจ.ตรังย้ำจะติดตั้งสัญญาณเตือนภัยแนวเทือกเขาบรรทัดที่มีอยู่ 6 -7 แห่ง พร้อมจ่ายศพละ 25,000 บาท หากเป็นหัวหน้าครอบครัวศพละ 40,000 บาท

วันนี้(15 เม.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ประชาชนนับพันคนมุงดูเจ้าหน้าที่และหน่วยกู้ภัยที่ออกค้นหาผู้สูญหายและเสียชีวิต บริเวณน้ำตกสายรุ้ง ต.ย่านนาชุมเห็ด และน้ำตกไพรสวรรค์ ต.โพรงจรเข้ อ.ย่านตาขาว จ.ตรัง ทำให้เส้นทางไปน้ำตกที่เกิดเหตุทั้งสองแห่ง การจราจรติดขัดยาว 2 กิโลเมตร เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยทำงานด้วยความยากลำบาก เพราะไม่สามารถนำศพหรือผู้รอดชีวิตส่งโรงพยาบาลได้ ทางจังหวัดตรังจึงขอความร่วมมือประชาชน หรือผู้ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง อย่าเดินทางไปมุงดูการทำงานของเจ้าหน้าที่ เพื่อให้การค้นหาเป็นไปอย่างรวดเร็วและสัมฤทธิ์ผล

ล่าสุด หน่วยกู้ภัยพบศพเด็กชายอายุประมาณ 5 ขวบ ที่น้ำตกสายรุ้ง เพิ่มอีก 1 ศพ รวมยอดผู้เสียชีวิตที่พบศพแล้ว 39 ราย และยอดสูญหายที่แจ้งไว้อีก 4 คน ที่โรงพยาบาลอำเภอย่านตาขาว และโรงพยาบาลจังหวัดตรัง ซึ่งเป็นจุดที่เก็บศพของผู้เสียชีวิต ขณะนี้มีญาติบางส่วนเดินทางไปรับศพเพื่อนำไปบำเพ็ญกุศลตามประเพณีแล้ว ส่วนศพที่ไม่มีหลักฐานหรือยังพิสูจน์ไม่ได้ ทางโรงพยาบาลจะทำเครื่องหมายหรือทำตำหนิไว้ เพื่อรอให้ญาติมาตรวจสอบอีกครั้งหนึ่ง ขณะที่ผู้บาดเจ็บที่ยังรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล มีทั้งหมด 21 คน

ด้านนายอานนท์ มนัสวานิช ผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง กล่าวว่า ทางจังหวัดจะให้ความช่วยเหลือผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตอย่างเต็มที่ โดยรายใดที่เป็นหัวหน้าครอบครัว จะช่วยเหลือศพละ 40,000 บาท ศพที่ไม่ใช่หัวหน้าครอบครัว ให้รายละ 25,000 ราย ส่วนมาตรการป้องกันไม่ให้เกิดเหตุซ้ำรอย ทางจังหวัดจะติดตั้งสัญญาณเตือนภัยคล้ายกับสัญญาณเตือนภัยสึนามิ บริเวณน้ำตกที่ติดกับแนวเทือกเขาบรรทัด ซึ่งมีอยู่ 6 - 7 แห่ง

ขณะที่ นายบัญญัติ จันทน์เสนะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วยนายอนุชา โมกขะเวส อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ได้เดินทางลงพื้นที่เพื่อบัญชาการค้นหาผู้สูญหายและช่วยเหลือผู้บาดเจ็บด้วยตัวเอง รวมทั้งจะมีการวางมาตรการรักษาความปลอดภัยในอนาคตด้วย
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

 

เจ้าหน้าที่เวียดนาม เปิดเผยว่า ได้เกิดพายุทอร์นาโดพัดกระหน่ำหมู่บ้านในแถบภูเขา 3 แห่ง ในจังหวัดกวางนัม ทางภาคกลางของประเทศ ซึ่งนับเป็นพายุที่มีกำลังลมแรงที่สุดเท่าที่เคยเกิดขึ้น ส่งผลให้บ้านเรือน 13 หลัง พังถล่มลงมา และอีกราว 400 หลัง ได้รับความเสียหาย เสาไฟฟ้าและต้นไม้หลายสิบต้นหักโค่น นอกจากนี้ ยังมีรายงานผู้บาดเจ็บ 21 คน ขณะที่ทหารหลายร้อยนายถูกส่งเข้าไปช่วยเก็บกวาดซากความเสียหาย และซ่อมแซมบ้านเรือนให้แก่ผู้ประสบภัยแล้ว
ทั้งนี้ ปีที่ผ่านมาภัยธรรมชาติได้คร่าชีวิตชาวเวียดนามไปอย่างน้อย 500 คน และสร้างความเสียหายคิดเป็นมูลค่ากว่า 1,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ



http://www.manager.co.th/Home/ViewNews.aspx?NewsID=9500000043217

 

ที่ตรัง ยอดผู้เสียชีวิตจริงประมาณ ห้าสิบกว่าคนครับ (จากที่ฝันเอา)

ขอแสดงความเสียใจกับผู้สูญเสีย ญาติมิตรในภัยพิบัติครั้งนี้ ขอให้ทุกดวงวิญญานจงไปสู่สุคติภูมิด้วย เทอญ...สาธุ

 

ใช่ค่ะน้ำป่าอันตรายมากๆๆๆ เคยเจออยู่ 1 ครั้ง เมื่อตอนซัมเมอร์ปี 3 ได้ไปออกภาคสนามที่ลำปาง ตอนนั้นอาจารย์แบ่งเป็น 3 กลุ่ม แบ่งพื้นที่กันทำแผนที่ พอดีอาจาร์ยพึ่งไปออกภาคสนามกับเพื่อนอีกกลุ่ม ซึ่งพักอยู่ด้วยกัน อาจาร์ยก้อพาไปดูน้ำป่า ซึ่งไหลแรงมาก แล้วก้อเตือนว่าถ้าเห็นทีท่าว่าฝนจะตก ให้รีบออกจากป่าทันที แล้วถ้าไปออกฟิวด์ที่ไหน ให้แจ้งเพื่อนกลุ่มอื่นด้วย เหมือนอาจาร์ยจะมีลางสังหรณ์มั้งค่ะ พอวันรุ่งขึ้น เพื่อนอีกกลุ่มก้อมาบอก ก้อเลยเขียนตำแหน่งที่จะไปออกฟิวด์ติดไว้หน้าห้อง แล้ววันนั้นก้อขึ้นเขาสูง เห็นเมฆดำลอยมา ก้อยังมัวตะเก็บผักหวานไปกิน พอลงเขามา ฝนตกหนักมาก ออกจากป่ามาไม่ทัน บรรยากาศน่ากลัวมาก เพราะดินเป็นดินลูกรัง น้ำที่ไหลมาจากร่องเขา ก้อไหลมาตามทางเดินลูกรังเป็นสายน้ำ ก้อพยายามขี่มอเตอร์ไซต์ออกจากป่ากัน มองข้างๆๆทาง ฟ้าก้อผ่าสองข้างทาง เปรี้ยงๆๆ น่ากลัวมาก ตอนนั้นไม่กล้ามองทาง หลบหลังเพื่อนอย่างเดียว ดีนะที่เป็นผู้ญิงเลยไม่น่าเกลียด ไอ้เพื่อนผู้ชายเห็นเรากลัว ก้อต้องคอยปลอบเรา ทั้งๆๆที่ก้อคงกลัวเหมือนกัน แถมต้องพยุงรถไม่ให้ล้มอีกตะหาก น้ำที่ไหลมาตามทางลูกรังกลายเป็นน้ำโคลน มาเกาะที่ล้อมอเตอร์ไซต์ ทำให้ล้ม ไปต่อไม่ได้ เลยต้องเดินกันไป แต่โชคดีที่เจอกระท่อมกลางนา ก้อเลยทิ้งรถ วิ่งไปหลบฝน จนฝนซ่าลงก้อมาจูงรถออกไปที่ถนนใหญ่ ตอนนั้นไม่รู้จะทำยังไง โคลนแห้งติดล้อรถทำให้รถใช้การไม่ได้ ตอนนั้นหนาวก้อหนาว หิวก้อหิว ท้องฟ้าก้อเริ่มมืด เพราะใกล้ค่ำ ระหว่างที่กำลังคิดว่าจะทำยังไง ก้อมีรถโฟวิวของอาจาร์ยขับเข้ามาเทียบ ตอนนั้นมีความรู้สึกเหมือนเห็นพระเจ้ามาโปรด แทบจะกระโดดกอดอาจาร์ย ตะไม่กล้า กลัวโดนอาจาร์ยเตะ เพราะตัวเปียก และก้อเปื้อนดินด้วย อาจาร์ยเล่าว่าพอเห็นฝนตก ก้อเลยขับรถไปเช็คว่ากลับมากันครบรึยัง (สัญญาณโทรศัพท์เข้าไม่ถึง) มีกลุ่มแคทกลุ่มเดียวที่ยังไม่กลับ ดีนะที่เขียนตำแหน่งบอกไว้ เลยมาตามถูก แถมยังโดนอาจาร์ยเทศน์อีกตะหาก ตะยังดีที่อาจาร์ยไม่เปิดกระเป๋าดูว่าเก็บอะไรมาบ้าง ถ้าเห็นว่าไม่มีหินสักก้อน มีตะผักหวาน สงสัย คงได้เจอค้อนบิน หลังจากนั้นเป็นต้นมา ถ้ารู้ว่าฝนจะตก จะรีบออกจากป่าทันที.........

พอเห็นข่าวก้อนึกออกเลยว่ามันอันตรายแค่ไหน เพราะที่เราเจอมันแค่เด็กๆๆเท่านั้น

ขอลอกพี่คณานันท์นะค่ะ

ขอแสดงความเสียใจกับผู้สูญเสีย ญาติมิตรในภัยพิบัติครั้งนี้ ขอให้ทุกดวงวิญญานจงไปสู่สุคติภูมิด้วย เทอญ...สาธุ

 

ผมสังหรณ์ใจตั้งแต่ก่อนสงกรานต์แล้ว
ว่าอย่าประมาทช่วงสงกรานต์
เพราะภัยพิบัติจะมาช่วงที่เราเผลอ
ไม่คิดว่าจะเกิดที่ตรัง

ขอให้ให้ผู้สูญเสีย จงได้รับบุญกุศลที่ผมได้ทำไว้แล้ว
จงเป็นสุขเถิด มีภพภูมิที่ดีๆ

 

<TABLE cellSpacing=3 cellPadding=3 width=996 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center colSpan=4>Landslide - Asia

</TD></TR><TR><TD class=loc_hdr colSpan=4>Event summary</TD></TR><TR><TD>GLIDE Number</TD><TD>LS-20070414-10844-THA</TD><TD> </TD><TD> </TD></TR><TR class=line_hilite><TD>Event type</TD><TD>Landslide</TD><TD>Date / time [UTC]</TD><TD>14/04/2007 - 13:59:11 <SMALL>(Military Time, UTC)</SMALL></TD></TR><TR><TD>Country</TD><TD>Thailand</TD><TD>Area</TD><TD>Szairung és Praiszavan vízesések</TD></TR><TR class=line_hilite><TD>County / State</TD><TD>Trang tartomány</TD><TD>City</TD><TD>-</TD></TR><TR><TD>Cause of event</TD><TD>Unknow</TD><TD>Log date</TD><TD>14/04/2007 - 13:59:11 <SMALL>(Military Time, UTC)</SMALL></TD></TR><TR class=line_hilite><TD>Damage level</TD><TD>Catastrophic </TD><TD>Time left</TD><TD>- </TD></TR><TR><TD>Latitude:</TD><TD>N 7° 33.000</TD><TD>Longitude:</TD><TD>E 99° 48.000</TD></TR><TR class=line_hilite><TD>Number of deaths:</TD><TD>39 persons</TD><TD>Number of injured persons:</TD><TD>Not or Not data</TD></TR><TR><TD>Number of missing persons:</TD><TD>24 persons</TD><TD>Number of infected persons</TD><TD>-</TD></TR><TR><TD>Number of evacuated persons:</TD><TD>Not or Not data</TD><TD>Summary:</TD><TD>63 persons *</TD></TR></TBODY></TABLE>
<TABLE cellSpacing=3 cellPadding=3 width=996 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=left><TABLE class=loc_table cellSpacing=3 cellPadding=0 width=996 align=left border=0><TBODY><TR class=update_head><TD>Situation Update No. 4 On 15.04.2007 at 10:58 GMT+2</TD><TD width="2%">Open Close </TD></TR><TR><TD colSpan=2><CODE>The death toll in flash floods which swept scores of Thai New Year holidaymakers over three waterfalls in the southern province of Trang rose to 39 on Sunday, officials said. Emergency disaster zones had been declared around the popular Sai Roong (Rainbow) and Prai Sawan (Heavenly Forest) waterfalls, where rescuers continued the search for more missing people, Trang governor Anan Manasvanich told Reuters. The government had pledged 50 million baht ($1.5 million) to compensate families and relatives of the victims, he added. Twenty three people were also injured in the disaster, which happened when heavy rains caused flash floods to sweep over the waterfalls 10 km (six miles) apart in the Bantad Hill Range, the Health Ministry's Relief Centre said.</CODE>
</TD></TR><SCRIPT type=text/javascript>linkset(document.getElementById('1144'),document.getElementById('zar1144'));</SCRIPT></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD> </TD></TR><TR><TD vAlign=top align=left><TABLE class=loc_table cellSpacing=3 cellPadding=0 width=996 align=left border=0><TBODY><TR class=update_head><TD>Situation Update No. 2 On 15.04.2007 at 04:23 GMT+2</TD><TD width="2%">Open Close </TD></TR><TR><TD colSpan=2><CODE>Rescue workers are searching for survivors after a flash flood killed at least 35 holidaymakers bathing in two waterfalls in southern Thailand. Authorities resumed the search at dawn today after a torrent of water poured over the two waterfalls yesterday afternoon in Trang, a seaside province 700 kilometres south of Bangkok growing in popularity with tourists. "Seven more dead bodies were brought to hospital this morning, bringing the dead toll up to 35," said Sinchai Rongdej, hospital director at Yantakhao district where the waterfalls are located. He said that 15 of the victims were children. Of the 35 victims, one was a Laos national, while the rest were Thai, Sinchai said. Police said about 10 holidaymakers remained missing. About 100 people, who were enjoying the five-day holiday weekend celebrating Buddhist New Year, were swimming at the Sairung and Prai Sawan waterfalls, which are about five kilometres apart, when the flood struck. </CODE>
</TD></TR><SCRIPT type=text/javascript>linkset(document.getElementById('1141'),document.getElementById('zar1141'));</SCRIPT></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD> </TD></TR><TR><TD vAlign=top align=left><TABLE class=loc_table cellSpacing=3 cellPadding=0 width=996 align=left border=0><TBODY><TR class=update_head><TD>Situation Update No. 1 On 14.04.2007 at 20:03 GMT+2</TD><TD width="2%">Open Close </TD></TR><TR><TD colSpan=2><CODE>Raging mountain torrents killed at least 23 people as they were spending their Songkran holiday at crowded Sai Rung and Phrai Sawan waterfalls in this southern province. Run-off caused by heavy rain roared down from the Banthat mountain range to waterfalls where hundreds of tourists were bathing. The flash flood carried the victims downstream, slamming them against rocks and drowning them, rescue officials said. Nineteen people died at Sai Rung waterfall and four at Phrai Sawan, about 10 kilometres north of Sai Rung, according to provincial officials. The casualties comprised 12 women, two men, seven boys, and two girls. One report put the number of people injured at 20, with another 30 thought to be missing. The injured were admitted to Yan Ta Khao hospital. Most victims were Trang residents and tourists from neighbouring provinces. Rescue officials found it hard to retrieve the victims' bodies, especially those stuck between rocks, because of the steep slope and slippery conditions. Their rescue equipment was also limited. The rescue team stopped its work around 9pm after difficult conditions frustrated efforts to take in an electric generator to create light during a night search for the missing. They were also worried that another torrent might come down from the mountain. The team will continue their work this morning. Officials decided to close the two waterfalls, located in Yan Ta Khao district, indefinitely. Other nearby waterfalls, also crowded with tourists, were also closed for safety.

Rain showers in the area took place before the tragedy. A witness said local villagers told tourists to move to safer ground when they noticed the water turning muddy, which alerted them to potentially dangerous conditions. However, some ignored the advice, and were hit by the flash flood. ''Heavy rainfall has taken place in the area for a few days and perhaps Banthat mountain received so much rain that it could not hold it any longer,'' said Meteorological Department chief Suparerk Tansriratanawong. The department is monitoring the weather in Trang and neighbouring provinces and will notify provincial officials and villagers in case of unusual conditions. A group of villagers known as the Rak Sai Rung conservation group used to patrol the area, watching over tourists and telling them if they noticed approaching mountain torrents. However, forestry officials banned them, said Prasit Sombatong, chairman of Na Chud Hed tambon administration organisation. He did not give a reason. Trang forest official Plueang Rattanchawit said no wildlife officials were stationed at the waterfalls even though the areas were crowded with tourists. The Natural Resources and Environment Ministry will send officials to investigate today.</CODE>
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

 

หลานๆผมปลอดภัยทุกคนมีคนใกล้บ้านเสียชีวิต
หลานไปเที่ยวบ้านที่ตรังเห็นบอกว่าฝนตกหลายวันแล้ววันนั้นฝนหยุดพอดีกำลังคิด
จะไปน้ำตกแต่มีหลานคนหนึ่งท้วงว่าไม่ปลอดภัยเลยเลือกไปปากเม็งแทน
กำลังเล่นน้ำที่ปากเม็งญาติโทรบอกเรื่องน้ำป่าที่น้ำตกสายรุ้งหลานๆสังเกตุดูน้ำปากเม็งก็ขึ้น
สูงผิดปรกติแบบแปลกทุกคนรีบกลับบ้าน....